ปฏิบัติธรรมแบบกว้างๆ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 7 มิถุนายน 2010.

  1. ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    ปฏิบัติธรรม แบบกว้างๆ

    คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา



    ภาพประกอบกระทู้จากอินเตอร์เน็ต




    การปฏิบัติธรรมแบบกว้างๆ (General Dhamma practice) มีคำจำกัดความและความมุ่งหมาย ดังนี้

    การปฏิบัติธรรมแบบกว้างๆ หมายถึงการนำเอาหลักธรรมในระดับศีลธรรมหรือหลักจริยธรรมขั้นพื้นฐานที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้มาเป็นหลักหรือแนวทางในการดำเนินชีวิตประจำวัน

    โดยสามารถยึดเป็นหลักธรรมประจำใจ เช่น การที่คนเรามีสติ สัมปชัญญะในการทำกิจต่างๆ การมีหิริโอตตัปปะไม่กล้าทำบาปทุจริตทั้งในที่ลับและที่แจ้ง เพราะกลัวผลของบาปทุจริตที่จะได้รับในภายหลัง

    การมีขันติและโสรัจจะ คือ ความอดทนอดกลั้น สงบเสงี่ยมต่อสภาวะต่างๆ ที่เผชิญอยู่การมีความกตัญญูกตเวที คือ รู้คุณของผู้อื่นที่ทำแก่ตนแล้วตอบแทนคุณให้ปรากฏ หรือการรักษาศีล 5 ศีล 8 เป็นต้น

    การมีหลักธรรมประจำใจในการดำรงชีวิตประจำวันดังกล่าวมานี้ ชื่อว่าการปฏิบัติธรรมแบบกว้าง

    กล่าวอีกนัยหนึ่ง บุคคลใดก็ตามที่น้อมนำหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นหลักธรรมที่มีอุปการะมาก คือ สติสัมปชัญญะ หลักธรรมที่คุ้มครองโลก คือ หิริโอตตัปปะ หลักพรหมวิหารธรรม 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา หรือหลักศีลธรรมอื่นๆ ก็ตาม

    บุคคลผู้นั้นได้ชื่อว่าปฏิบัติธรรม

    ดังนั้น การปฏิบัติธรรมตามลักษณะนี้จึงกินความกว้างมาก สุดแล้วแต่ว่าใครจะสามารถนำเอาหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิตหรือในการทำกิจหน้าที่นั้นๆ ให้ได้ผลแค่ไหนเพียงไร

    เพราะการปฏิบัติธรรมตามรูปแบบนี้เราชาวพุทธทั้งหลายได้ใช้ตลอดเวลา เมื่อปฏิบัติกิจหรือกระทำต่อสิ่งใดๆ อย่างถูกต้อง ก็เรียกว่า เป็นการปฏิบัติธรรม

    ไม่ว่าจะอยู่ในสถานภาพใด มีหน้าที่การงานอย่างไร เมื่อปฏิบัติตนหรือปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องเหมาะสมแก่สถานภาพหรือหน้าที่การงานนั้นๆ ถือว่าได้ปฏิบัติธรรม

    ในการทำงาน นำหลักธรรมที่ส่งผลให้ประสบผลสำเร็จ คือ อิทธิบาท 4 อันได้แก่ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา มาใช้ในการทำงาน ก็เป็นการปฏิบัติธรรม

    แม้แต่การออกไปบนท้องถนน ไปขับรถ ถ้าขับโดยรักษากฎจราจร เมาไม่ขับหรือง่วงเหงาหาวนอนก็ไม่ขับ ขับรถไปด้วยความเรียบร้อยไม่ประมาท มีความสุภาพ

    หรือลงลึกเข้าไปแม้กระทั่งว่า ทำจิตใจให้สงบ สบาย ไม่เครียด มีความผ่องใสสบายใจในเวลาที่ขับรถนั้นได้ ก็เป็นการปฏิบัติธรรม

    บุคคลผู้เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติราชการ ถ้าปฏิบัติอย่างถูกต้อง มีความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จผลก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชน

    ก็ถือได้ว่าปฏิบัติธรรมเช่นกัน





    ปราณสุวีร์ อาวอร่ามรัศมิ์

    กองพุทธสารนิเทศ

    สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ


    --------------------------------------------

    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1DMHdOaTB3Tmc9PQ
     
  2. พธบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +2,348
    ธรรม แปลว่า ธรรมชาติก้อได้ครับ หมายถึง เป็นอยู่อย่างนั้น ตามธรรมชาติไงครับ

    **ไม่รัก โลภ โกรธ หลง
     
  3. blue dolphin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +14
    สาธุค่ะ
    เราสามารถศึกษาธรรมะ และปฏิบัติธรรมได้อย่างกว้าง ๆ...
    โดยสื่อต่าง ๆ และสถานที่ต่าง ๆ ...
    ทุกอย่างเริ่มจากใจก่อน และก็ประพฤติปฏิบัติค่ะ
    ตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา...
     

แชร์หน้านี้