เว็บพลังจิต ประมวลภาพเยือนภูทอก ทอดผ้าป่าวัดป่าเมืองอีสาน 10-12 ธ.ค.54 P.20

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย ญ.ผู้หญิง, 28 กรกฎาคม 2011.

  1. HeartofDragon

    HeartofDragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +285
    ๒. คุณ HeartofDragon (๑)
    ๓. คุณ HeartofDragon (๒)


    โอนเงิน จำนวน 5,600 บาท จำนวน 2 ที่นั่ง วันที่ 08/08/2011
    เวลา 05:10:33 น.
    รายละเอียด แจ้งทาง PM


    -----------------------------------------------------------------------
     
  2. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
     
  3. HeartofDragon

    HeartofDragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +285
    โอนผิด เกินไป 1,000 บาท ขอคืนวันเดินทางน่ะค่ะ ท่าทางงวดนี้ เลข 56 มาแรง


    ------------------------------------------------------------------
     
  4. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    รับทราบและขอบคุณค่ะ :p

    สาธุค่ะ
     
  5. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]

    วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก)
    อ. ศรีวิไล จ. บึงกาฬ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ประตูสู่ทางขึ้นภูทอก

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชั้นที่ ๑-๒ เป็นบันไดสู่ชั้นที่ ๓ ซึ่งเริ่มเป็นสะพานเวียนรอบเขา สภาพเป็นป่าเขามืดครึ้ม มีโขดหิน ลานหิน สุดทางชั้นที่ ๓ มีทางแยกสองทางทางซ้ายมือ เป็นทางลัดไปสู่ชั้นที่ ๕ ได้เลย ซึ่งเป็นทางชันมาก ผ่านหลืบหินที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ ทางขวามือเป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ ๔

    ชั้นที่ ๔ เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขา มองไปเบื้องล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆ สลับกัน เรียกว่า “ ดงชมพู ” ทิศตะวันออกจดกับภูลังกาเขตอำเภอเซกา ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดงดิบ บนชั้นที่ ๔ นี้ จะเป็นที่พักของแม่ชี รอบชั้นมีระยะทางประมาณ ๔๐๐ เมตร มีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะ ๆ


    [​IMG]
    บนภูทอกจะมุมปฎิบัติธรรมสร้า้งหลบอยู่ตามซอกหินครับ

    ภายในมีพระพุทธรูป และรูปพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว หลวงตาบัว หลวงปู่แหวน หลวงปู่คำพอง ติดอยู่ผนังถ้ำ

    [​IMG]

    มองจากด้านบนลงไป จะเห็นเจดีย์พิพิธภัณฑ์ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ที่บรรจุอัฐบริขาร ในสมัยบำเพ็ญสมณธรรม และเก็บอัฐิธาตุท่านและรูปปั้นขนาดเท่าองค์จริงของท่าน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    ที่เห็นเป็นก้อนหินใหญ่ๆด้านบน คือ ศาลาปฏิบัติธรรมของพระอาจารย์จวน

    ชั้นที่ ๕ มีศาลาและกุฏิที่อาศัยของพระ ตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายถ้ำ ตลอดเส้นทางสู่ชั้นที่ ๖ มีที่พักเป็นลานกว้างหลายแห่ง มีหน้าผาชื่อต่าง ๆ กัน เช่น ผาเทพนิมิตร ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต เป็นต้น ถ้ามาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พระวิหารอันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้วย มองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่างชัดเจน ผู้คนส่วนใหญ่มักหยุดการเดินทางเพียงแค่นี้ เพราะจากชั้นที่ ๖ สู่ชั้นที่ ๗ เป็นสะพานไม้เวียนรอบเขายาว ๔๐๐ เมตร เกาะติดอยู่ริมหน้าผาสูงชันดูน่าหวาดเสียวอันตราย มีความยาว ๔๐๐ เมตร สุดทางที่ชั้น ๗ เป็นป่าไม้ร่มครึ้ม

    [​IMG]
    ทางเข้าศาลาปฎิบัติธรรม


    ขอบคุณที่มา : วัดเจติยาคีรีวิหาร
     
  6. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]

    หลวงปู่เนย สมจิตฺโต
    วัดป่าโนนแสนคำ
    อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร



    “พระครูวิมลสีลาภรณ์” หรือ “หลวงปู่เนย สมจิตฺโต” มีนามเดิมว่า เนย มูลสธูป เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๘๐ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู ณ บ้านกุดแห่ ตำบลกุดเชียงหมี อำเภอเลิงนกทา จังหวัดอุบลราชธานี (จังหวัดยโสธร ในปัจจุบัน) โยมบิดาชื่อ นายเอี่ยม มูลสธูป โยมมารดาชื่อ นางสุรีย์ มูลสธูป มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๙ คน ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา

    ช่วงชีวิตในวัยเด็ก เมื่ออายุ ๗ ปี ได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนบ้านกุดแห่ อายุ ๘ ปี ป่วยเป็นโรคท้องเรื้อรัง ทำให้ขาดการเรียนอยู่ ๓ เดือน พออายุได้ ๑๑ ปี เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แล้วออกมาช่วยโยมบิดา-มารดาทำไร่ทำนาตามประเพณี ด้วยในสมัยนั้นการเรียนภาคบังคับอยู่ที่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เท่านั้น สำหรับการที่จะเรียนต่อให้สูงขึ้นนั้นต้องเดินทางไปเรียนต่อยังโรงเรียนต่างถิ่นต่างอำเภอ พออายุได้ ๑๖ ปี ก็กลับมาช่วยโยมบิดา-มารดาทำไร่ทำนาตามเดิม ด้วยความขยันหมั่นเพียรเต็มกำลังความสามารถ


    ๏ การบรรพชาและอุปสมบท
    พออายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์ โยมบิดา-มารดา พร้อมทั้งเจ้าภาพผู้ที่จะถวายผ้าป่า นำท่านไปมอบถวายให้เป็นศิษย์
    ท่านพระอาจารย์ดี ฉนฺโน ซึ่งเป็นศิษย์พระกรรมฐานรุ่นใหญ่ของ ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล และท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระองค์สำคัญ

    ท่านได้ฝึกขานนาคอยู่เป็นเวลา ๓ เดือนเต็ม จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ เขตวิสุงคามสีมาวัดป่าสุนทราราม (วัดบ้านกุดแห่) ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ โดยมี
    พระครูภัทรคุณาธาร (บุญ โกสโล ป.ธ. ๔) วัดพรหมวิหาร ตำบลสวาท อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสุนทรศลีขันธ์ (พระอาจารย์สิงห์ทอง ปภากโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสมุห์อุ้ย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้เข้ารับฟังธรรมจากท่านพระอาจารย์ดี ฉนฺโน เจ้าอาวาสวัดป่าสุนทราราม (วัดบ้านกุดแห่) ในขณะนั้น อยู่เป็นสม่ำเสมอและบ่อย ๆ อ่านเพิ่มเติม คลิก

    ขอบคุณที่มา : เว็บลานธรรมจักร
     
  7. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]

    หลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธมฺโม
    วัดป่าแก้วชุมพล
    อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร


    “หลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธัมโม”
    เกิดเมื่อวันพุธที่ ๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๘๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีเถาะ ณ บ้านศรีฐาน ต.กระจาย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี (บ้านศรีฐานนั้นปัจจุบันเป็น ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร) โยมบิดาชื่อ นายบุญหนา โยมมารดาชื่อ นางบุปผา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๗ คน เป็นผู้ชาย ๓ คน เป็นผู้หญิง ๔ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๖

    ๏ การศึกษาเบื้องต้น
    เมื่ออายุได้ ๗ ปีได้เข้าโรงเรียนประถม ชื่อโรงเรียนศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร เข้าโรงเรียนอยู่ ๕ ปีเพราะสมัยนั้นมีชั้นมูลด้วย เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อออกจากโรงเรียนแล้วได้ช่วยพ่อแม่ทำนาอยู่หนึ่งปี


    ๏ การบรรพชาและอุปสมบท
    เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๙๕ เมื่ออายุ ๑๓ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดศรีฐานใน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ได้เรียนนักธรรมอยู่ ๒ ปี สอบได้นักธรรมชั้นโท แล้วได้ติดตามครูบาอาจารย์ไปทางจังหวัดสกลนคร


    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ สอบนักธรรมเอกได้ ที่สำนักเรียนวัดเจริญสมณกิจ (วัดหลังศาล) บ้านบางงั่ว ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต (บวชเป็นสามเณรอยู่ ๗ ปี)


    ต่อมาได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดศรีมงคลเหนือ ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร โดยมี
    ท่านเจ้าคุณมุกดาหารโมลี เป็นพระอุปัชฌาย์, ท่านพระอาจารย์คำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ญัตติเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๒

    ๏ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าแก้วชุมพล
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ท่านได้มาพำนักอยู่ที่วัดป่าแก้วชุมพล ต.บ้านชุม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร กับ
    ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ครั้นต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ได้มรณภาพลง เจ้าคณะจังหวัดสกลนครจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้หลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธัมโม ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง โดยได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๓

    หลวงปู่อุ่นหล้า ฐิตธัมโม ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กรอปด้วยศีลและธรรม มีศีลาจาริยวัตรอันงดงาม เป็นผู้ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ดำเนินตามหลักปฏิปทาที่ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ผู้เป็นอาจารย์พาดำเนินมา


    ขอบคุณที่มา : เว็บลานธรรมจักร
     
  8. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]

    หลวงปู่เสน
    ปญฺญาธโร

    วัดป่าหนองแซง
    อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี



    สามเณรเสน ผู้เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่ หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ เคยได้รับการปรนนิบัติจากสามเณรน้อยรูปหนึ่งชื่อ สามเณรเสน สามเณรน้อยรูปนี้อยู่กับท่านมานาน แล้วได้จากหายไป จนสึกออกไปมีภรรยาและบุตร แม้เณรจะจากท่านไปเป็นเวลานานท่านก็ยังจำได้เป็นอย่างดี อยู่มาวันหนึ่ง หลวงปู่บัว ได้พูดคุยกับหลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม พระลูกชายของท่านว่า

    “เอ...เณรน้อยคนนั้น มันไปไหนหนอ มันเป็นไข้มาลาเรีย...เราพยายามรักษามันจนจะหายแล้วไม่พาหนีจากเราไป ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน”

    หลังจากหลวงปู่ปรารภถึงสามเณรน้อยของท่านได้เพียง ๒ วันเท่านั้น สามเณรของท่านก็กลับมา แต่มาในฐานะพระภิกษุเสน ปญฺญาธโร บวชได้ ๒ พรรษาแล้ว การปรารภของหลวงปู่ในครั้งนั้นเหมือนท่านได้รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า

    ต่อมาภายหลัง พระอาจารย์เสน ได้รับมอบภาระให้เป็นเจ้าอาวาส ปกครองวัดป่าบ้านหนองแซง สืบต่อจากหลวงปู่ ได้ทำการพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ จนกระทั่งปัจจุบัน


    [​IMG]

    หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ
    พระอริยสงฆ์แห่งบ้านหนองแซง อุดรธานี


    หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของหลวงปู่เพ็ง พุทฺธธมฺโม หลวงปู่เพ็งเคยบอกว่า ถ้าจะทำหนังสือที่ระลึกในงานศพของท่าน ขอให้นำเรื่องราวของ “หลวงปู่อาตมา” มาเขียนไว้ข้างหน้า พร้อมกับสำทับว่า “อย่าลืมเด้อ” เมื่อหลวงปู่เพ็งจะพูดถึงหลวงปู่บัว ท่านจะแทนด้วยคำว่า “หลวงปู่ของอาตมา” หรือ “หลวงปู่อาตมา” ผู้ที่ไม่คุ้นเคยจึงออกจะสับสนไปบ้าง หลวงปู่ทั้งสององค์นี้ นอกจากมีสายใยเชื่อมโยงทางโลกในฐานะพ่อ-ลูกกันแล้ว ยังมีส่วนอุปถัมภ์ค้ำชูในทางธรรมซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก กล่าวคือ ท่านหลวงปู่บัว ผู้พ่อ ได้ขอให้หลวงปู่เพ็ง ผู้ลูกบวชเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนาและออกบำเพ็ญเพียรเป็นพระธุดงค์กรรมฐาน

    เมื่อหลวงปู่เพ็งออกบวชได้บำเพ็ญภาวนาจนได้สัมผัสความสุขสงบในรสพระธรรมแล้ว ก็ได้พยายามโน้มน้าวใจบิดาของท่านให้ละเลิกจากทางไสยศาสตร์ การเป็นหมอปราบผีสาง มาดำเนินตามรอยบาทพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นทางสุขสงบอย่างแท้จริง นับเป็นความปรารถนาสูงสุดที่หลวงปู่เพ็งต้องการตอบแทนคุณบิดา-มารดาของท่าน

    หลวงปู่เพ็ง ได้ใช้ความพยายามอย่างมาก จนบิดาของท่านยอมละวางชีวิตฆราวาส หันมาห่มผ้ากาสาวพัสตร์ เมื่ออายุเข้าวัย ๕๐ แล้ว และได้ปฏิบัติอย่างเอาจริงเอาจังชนิดมอบกายถวายชีวิตจนได้พบคุณธรรมสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา เป็นพระอริยสงฆ์อย่างแท้จริง

    ประจักษ์พยานในทาง วัตถุจะเห็นได้จากอัฐิของหลวงปู่ได้กลายเป็นพระธาตุที่สุกใสงดงาม ไว้ให้สานุศิษย์ได้กราบไหว้บูชา ประดิษฐานอยู่ในเจดีย์ของท่าน ที่วัดราษฎร์สงเคราะห์ (วัดป่าบ้านหนองแซง) อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ในปัจจุบัน ท่านหลวงปู่บัว ได้ปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต สุดยอดพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานในยุคปัจจุบัน อ่านเพิ่มเติม คลิก



    ขอบคุณที่มา : เว็บวัดราษฎร์สงเคราะห์ (วัดป่าหนองแซง)
     
  9. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]


    หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต
    วัดถ้ำกลองเพล (วัดหลวงปู่ขาว อนาลโย)
    อ. เมือง จ.หนองบัวลำภู


    หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต นามเดิม บุญเพ็ง จันใด จำนวนพี่น้อง ๖ คน โดยองค์ท่านเป็นบุตรคนที่ ๓ ครอบครัวมีอาชีพทำนา เป็นบุตรของนายคูณ และนางมา จันใด ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ ณ หมู่ที่ ๓ บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ๓๕๑๕๐

    ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนศรีฐาน ซึ่งเป็นโรงเรียนวัด จึงทำให้ท่านมีความผูกพันกับศาสนา ครั้นอายุ ๑๒ ปี บวชเป็นผ้าขาวเพื่อศึกษาและปฏิบัติข้อวัตรของผู้ทรงศีล และบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีธรรมาราม อ.เมืองยโสธร ในเวลาต่อมา
    บรรพชา เป็นสามเณรที่วัดศรีธรรมาราม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

    อุปสมบทเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์มหาทองสุก สุจิตโต (ศิษย์หลวงปู่มั่น) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มหาไพบูลย์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    อาจาริยธรรม
    หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ในขณะที่ท่านเป็นสามเณรอายุ ๑๖ ปีท่านได้เดินทางด้วยเท้าพร้อมด้วยท่านพระอาจารย์สอ และสามเณรลี จากวัดศรีธรรมาราม จังหวัดยโสธร ไปบ้านหนองผือนาใน ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ใช้เวลาในการเดินทางเป็นระยะเวลา ๑๕ วัน และท่านพร้อมคณะได้พักอยู่ห่างจากวัดป่าบ้านหนองผือประมาณ ๑๒ กิโลเมตร โดยผลัดกันครั้งละรูป เดินทางเข้ามากราบท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ เพราะถ้าไปพร้อม ๆ กันก็เกรงว่าจะไม่งาม อาจจะมีความวุ่นวายและขาดความสงบได้ โยหลวงปู่บุญเพ็ง เป็นรูปแรกที่ท่านเข้าไปก่อน ท่านได้เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งแรกที่ได้มีโอกาสเข้าไปนมัสการท่านพระ อาจารย์ใหญ่หลวงปู่มั่นว่า

    “แรก ๆ นะตัวเย็นเฉียบเลยนะ หยิกไม่รู้เรื่อง มันตื่นเต้นมาก เพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของท่านพระอาจารย์มั่น ว่ามีระเบียบ เรียบร้อยมาก เป็นพระผู้มีความเคร่งครัดต่อพระวินัยมาก”

    ครั้งนั้นอาตตมายังจำได้ดีว่ามันตื่นเต้นมาก เมื่อเข้ากราบนมัสการ ก็เห็นความเป็นพระผู้มีปฏิปทาสูงมาก ยากที่จะมีใครทำได้เช่นท่าน “งามจริง ๆ แม้ท่านจะนั่งอยู่ในที่อันควรแล้ว ผิวพรรณของท่านเปล่งปลั่ง มองไม่เบื่อ เพราะเราไม่เคยเห็นอย่างนี้ สมกับคำล่ำลือจริง ๆ ” ท่านพระอาจารย์มั่นท่านนั่งเฉยอยู่ มองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งท่านจึงเอ่ยขึ้นว่า “พอบอกได้สอนได้” หลังจากนั้นก็มีพระนำไปที่พัก ชึ่งก็เป็นป่าดงไม้ไผ่และรอบ ๆ บริเวณนั้นแหละ จิตใจของอาตมานั้นปีติดีใจมาก คิดว่า “นี้เป็นโอกาสของเราแล้ว เราจะปฏิบัติศึกษาให้เกภูมิปัญญามากเท่าที่จะมากได้ทีเดียว”

    เมื่อหลวงปู่บุญเพ็ง ได้เข้ามาอยู่วัดป่าบ้านหนองผือสมความตั้งใจแล้ว ได้รับหน้าที่อันเป็นกิจวัตรประจำวัน คือคอยดูแลและทำความสะอาดกุฏิ จัดสิ่งต่าง ๆ ภายในกุฏิของท่านพระอาจารย์มั่น และต่อมาได้อยู่ใกล้ชิด โดยได้รับหน้าที่ปรนนิบัติช่วยครูบาอาจารย์ในยามชรา ชึ่งในเวลานั้นท่านพระอาจารย์มั่นท่านชราภาพแล้ว หลวงปู่บุญเพ็งท่านเล่าว่า นับเป็นลาภของอาตมาที่ได้มีโอกาสอันสำคัญนี้ และเป็นช่วงที่ได้อยู่ปรนนิบัติท่านด้วย อย่างไรก็ตามการได้อยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ ชึ่งในครั้งนั้นได้มีครูบาอาจารย์มาอยู่จำพรรษามากองค์ด้วยกันและแต่ละองค์ก็ล้วนแล้วแต่มีคุณวิเศษ มีข้อวัตรปฏิบัติธรรมอย่างละเอียดอ่อน เป็นกำลังในกองทัพธรรมเจริญรุ่งเรืองในกาลต่อมา ครูบาอาจารย์พระเถระแต่ละองค์นั้น การปฏิบัติของท่านเป็นอย่างชนิดทุ่มเท หมั่นเพียร ยอมมอบกายถวายชีวิตพ่อพระรัตนตรัย และมีอารมณ์สงบ เยือกเย็นพูดน้อย เวลาจะถามความสงสัยในธรรม ก็ตอบได้อย่างแจ่มแจ้ง เข้าใจง่าย อันนี้อาตมาคิดว่า “เหมาะสม” คือสถานที่ดี ครูบาอาจารย์พรั่งพร้อมที่จะสอนธรรม จึงเหมาะแก่การภาวนาธรรมในครั้งกระโน้นจริง ๆ

    ลูกศิษย์ทั้งหลายย่อมรู้จักปฏิปทาของท่านพระอาจารย์มั่นได้ดี ไม่ใช่จะยกเทิดทูนจนเกินเลย เป็นความจริง ที่ไม่เชื่อเพราะมิได้ศึกษา นี้เป็นอย่างนี้น่ะ เมือพอได้อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ก็เป็นผลในการประพฤติปฏิบัติมาก ก็น่าอัศจรรย์ อาตมาเคยได้พบประสบมาแล้วอย่างนี้ วันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งคิดอยู่ว่า “อะไรหนอ การปฏิบัติของเรา


    [​IMG]

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    วัดป่าบ้านหนองผือนาใน


    มันติดขัดอับจนปัญญา พิจารณาไม่ออกจิตใจฟุ้งซ่าน ทำอะไร ๆ ก็ไม่สงบ” ก็คิดในใจว่า “ เย็นนี้จะต้องขอกราบเรียนถามท่านพระอาจารย์ใหญ่เพื่อเปิดจิตใจให้สว่างเสียที” ครั้งพอตกเวลาเย็น อาตมาก็ได้ไปปรนนิบัติต้มน้ำร้อนน้ำดื่มถวายท่าน บีบนวดบ้างในบางคราว พอทำกิจของตนเสร็จก็เข้าไปนั่งรวมกับหมู่คณะ ท่านพระอาจารย์ใหญ่ก็เทศน์คำสอนให้อุบายธรรมะที่กำลังติดขัดอยู่นั้นแหละ ท่านบอกแก้ไขให้โดยไม่ได้เอ่ยขอกราบเรียนเลย อย่างนี้ละคิดอย่างไร วาระจิตของท่านสงบมากแค่ไหน ทำไมท่านถึงรู้ได้อย่างแจ่มแจ้งเช่นนั้น คนเราสมัยนี้พอพูดถึงปาฏิหาริย์บ้าง เรื่องฤทธิ์บ้าง มันชอบใจ ติดหลงไปไม่รอด กำลังไม่พอแต่อยากเหาะได้นะ เอาเป็นว่าท่านพระอาจารย์มั่น ท่านดักใจได้ถูก แล้วท่านยังได้สอนธรรมะให้คลายสงสัยได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย

    สำหรับหลักธรรมอันเป็นอุบายในการปฏิบัติ ท่านพระอาจาย์มั่นท่านสอนมากในเรื่องภาวนาพิจารณาสกลร่างกายเรานี้ เพราะกัมมัฏฐานก็คือธาตุ ดังนั้นจึงควรพิจารณาร่างกายนี้แยกออกให้เป็นส่วน ๆ เมื่อมีความชำนาญคล่องแคล่วก็จะเห็นได้ชัดว่า ร่างกายเรานี้มันเป็นแต่เพียงธาตุ ไม่ใช่ของเราหรือของของเขาเลย เพื่อพิจารณาเห็นจริงเช่นนี้ก็ให้ตั้งสติ ให้รู้สภาพความเป็นจริง ความเป็นจริงก็คือธรรมะ

    ครั้งแรก ๆ ท่านพระอาจารย์มั่นว่า “สติเป็นสิ่งสำคัญ ต้องน้อมพิจารณาส่วนใดก็ได้ของร่างกาย เมื่อมันหมดความลุ่มหลงร่างกายของตนแล้ว ต่อให้ร่างคนอื่น ๆ จะแต่งแต้มแค่ไหน มันก็จะไม่มีอาการลุ่มหลงเคลิบเคลิ้มต่อไป เพราะความรู้เท่าทันของจิตใจ พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านก็พิจารณากายนี้เอง ไม่ได้นั่งหลับตาพิจารณาอย่างอื่น

    อาตมาเคยได้อยู่รับใช้ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่นเป็นเวลารวม ๔ ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๙ ถึง พ.ศ. ๒๔๙๒ สิ่งที่ภาคภูมิใจก็คือ ได้อยู่ปรนนิบัติท่าน ได้อยู่ใกล้ชิดท่าน เมื่อติดขัดในปัญหาอันใดก็จะสามารถถามแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ยิ่งในวัยชราของท่าน อาตมาและหมู่คณะได้ปรนนิบัติท่านพยายามเยียวยารักษาท่าน เพราะท่านเป็นพ่อแม่ที่ให้สิ่งที่มีคุณค่าทั้งสิ้น ไม่เคยสอนให้เสียคน ท่านคอยกล่าวตักเตือน ท่านว่า “เวลาไม่รอใคร ความตายอยู่เบื้องหน้า จงอย่าประมาทเลย”

    ปีสุดท้ายคือ พ.ศ. ๒๔๙๑ ท่านพระอาจารย์มั่นท่านอาพาธ อาการเจ็บป่วยนั้นแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ คณธศิษย์ทุกคนก็พยายามกันมาก ช่วยกันดูแลจัดเวรยาม คอยดูแลอาการเจ็บป่วยท่านพระอาจารย์ใหญ่ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง
    ภายหลังจากท่านพระอาจารย์มั่นมรณภาพและถวายเพลิงศพท่านไปแล้ว คณะศิษย์ทั้งหลายต่างแยกย้ายกันออกไป ในระยะ ๔ ปี อาตมาคิดว่าได้เหตุผลในทางธรรม ได้รับจากหลวงปู่ครูบาอาจารย์มากมายพอควรทีเดียว

    ปี ๒๕๐๐ องค์ท่านเข้ามอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย ณ วัดป่าแก้วชุมพล บ้านชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร และขอโอกาสจากองค์หลวงปู่ออกธุดงค์หาประสบการณ์บริเวณเทือกเขาป่าภูพาน

    ปี ๒๕๐๓ เดินทางไปกราบหลวงปู่ขาว ขณะองค์หลวงปู่กำลังสร้างวัดถ้ำกลองเพล อ.เมืองหนองบัวลำภู โดยรับภาระดูแลการก่อสร้าง และอยู่รับใช้หลวงปู่ขาวในเวลาเดียวกัน จนท่านละสังขาร

    ขอบคุณที่มา : จากหนังสือ
    - โลกทิพย์ โดย ดำรงค์ ภู่ระย้า
    - หนังสือที่ระลึกในงานปิดทองฝังลูกนิมิต ผูกพัทธสีมา ฉลองอุโบสถ วัดป่าศรีฐานใน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร
    - หนังสือบูรพาจารย์ "มูลนิธิหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต"
    โดยคณะศิษย์ยานุศิษย์
     
  10. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    วิธีการเดินทางไปวัดภูทอก ด้วยตัวเอง

    ... มีสอบถามเข้ามาหลายท่าน ถึงวิธีการเดินทางไปวัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) ด้วยตัวเอง ว่าไปด้วยวิธีใด เลยขออนุญาตนำข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปภูทอกโดยรถโดยสารประจำทางมาให้อ่าน ดังนี้

    ๑. กรุงเทพฯ-อุดรธานี ค่าโดยสาร ๖๔๑ บาท ถึงอุดรธานีให้
    ลงรถที่ บขส.เก่า ห้าแยกน้ำพุขึ้นรถสาย ๖ สีขาว ไปลงตลาดรังษิณา นั่งรถสาย ๒๒๔ (ผ่านหนองคาย) ลงที่บ้านชัยพร จากบ้านชัยพรว่าจ้างเหมารถสามล้อเครื่อง (สกายแล็ป) ไปวัดภูทอกอีกประมาณ ๔๐ กม.

    ๒. กรุงเทพฯ-บึงกาฬ ค่าโดยสาร ๖๔๓ บาท ให้ลงรถที่ อ.ศรีวิไล แล้วต่อรถสองแถว หรือว่าจ้างเหมารถสามล้อเครื่อง (สกายแล็ป) ไปวัดภูทอกอีกประมาณ ๓๐ กม.

    สามารถตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่ http://www.rottourthai.com

     
  11. kacher

    kacher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    504
    ค่าพลัง:
    +235
    พี่กาแฟจองเพิ่ม 1 ที่จร้า^^

    ปล.มังสะวิรัติด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2011
  12. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ

    (ว่าง ๕ ที่)



     
  13. ศิษย์หลวงปู่

    ศิษย์หลวงปู่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +82
    นู๋กิ๊กไปแน่นอนครับ ตอบยืนยันreply mail ทางเว็ปตั้งแต่เมื่อวานแต่ไม่แน่ใจว่า
    ว่าเมลขึ้นหรือไม่ แล้วโอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ
     
  14. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514


    นั่งปฏิบัติธรรมบนภูทอก ตอนมืดๆดึกๆเงียบๆคนเดียว
    ตรงหน้าตู้กระจก บริเวณที่ผมทาสีแดงไว้ครับ
    ได้บรรยากาศดี

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 39925218.jpg
      39925218.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45 KB
      เปิดดู:
      552
  15. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    รับทราบและขอบคุณค่ะ

    สรุปจำนวนผู้แจ้งยืนยันการเดินทาง ณ วันที่ ๙ ส.ค.๕๔ จำนวน ๔๕ คน เปิดรับอีกเพียง ๕ ที่นั่งสุดท้ายค่ะ



    ฮิ ฮิ เห็นด้วยค่ะ โดยเฉพาะนั่งไปมองสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในตู้ไป บรรยากาศยิ่งดีนักแล :p
     
  16. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ได้รับแจ้งจากคุณ Virach55 ขอร่วมเดินทางทริปภูทอก-ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มจำนวน ๔ ที่

    (ว่าง ๑ ที่)





    ;aa59
    สมาชิกทุกท่านที่ลงชื่อแจ้งความประสงค์ร่วมเดินทางไปในครั้งนี้ ทุกท่านจะต้องจัดส่งข้อมูลส่วนตัวมายังผู้จัดภายในวันที่ ๒๐ ส.ค.๕๔ ตามรายละเอียด ดังนี้
    ๑. นามแฝงที่ใช้ในเว็บ
    ๒. ชื่อ-สกุล-หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน-อายุ
    ๓. ที่อยู่
    ๔. เบอร์โทรศัพท์
    ๕. ชื่อ-สกุล-เบอร์โทรศัพท์ของบุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

    จัดส่งข้อมูลเข้ามาได้ ๓ ช่องทาง
    ๑. หน้ากระทู้
    ๒. PM
    ๓. E-Mail : papa3107@gmail.com

    หมายเหตุ
    - ข้อมูลของทุกท่านจะถูกจัดเก็บไว้เป็นความลับ ไม่มีการเผยแพร่ ยกเว้น บริษัทประกันฯ หรือผู้ที่ต้องรับรู้ข้อมูล
     
  17. Tawichar Tansathit

    Tawichar Tansathit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +14

    ทวิชา-อรณา ขอจองที่นั่งไปภูทอกด้วยนะคะ 2 ที่นั่ง ในตอนเย็นวันนี้จะโอนเงินไปที่บัญชีข้างบนนะคะ โอนเสร็จแล้วจะแจ้งอีกครั้งหนึ่งนะคะ
     
  18. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ณ วันนี้ (๑๐ ส.ค.) สมาชิกแจ้งยืนยันการเดินทางล่าสุดอยู่ที่ ๔๙ คน (ตามรายชื่ออ้างอิงด้านล่าง) คุณจองไว้ในนามของคุณนู๋กิ๊ก หรือเป็นสมาิชิกที่เพิ่งจองเข้ามาใหม่ ถ้าเป็นกรณีหลังสามารถรองรับได้เพียง ๑ ที่เท่าั้นั้น ที่เหลือจะลงเป็นที่นั่งสำรองให้ค่ะ

     
  19. Tawichar Tansathit

    Tawichar Tansathit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +14
    ทวิชา-อรณา ขอจองที่นั่งไปภูทอกด้วยนะคะ 2 ที่นั่ง ในตอนเย็นวันนี้จะโอนเงินไปที่บัญชีข้างบนนะคะ โอนเสร็จแล้วจะแจ้งอีกครั้งหนึ่งนะคะ<!-- google_ad_section_end -->
    ไม่ทราบที่นั่งเต็มหรือยัง รบกวนแจ้งด้วยนะคะ แจ้งรายละเอียดส่วนตัวไปที่ E-Mail : papa3107@gmail.com เรียบร้อยแล้วค่ะ

    ทวิชา
     
  20. Tawichar Tansathit

    Tawichar Tansathit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +14
    ถ้าเหลือที่นั่งหมายเลข 50 เพียง 1 ที่นั่ง ขอเป็นทวิชานะคะ
    ส่วนคุณอรณาขอเป็นที่นั่งสำรองก็ได้ค่ะ (ขอหวังให้เธอได้มีโอกาสไปกราบไหว้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ในครั้งนี้ด้วย)
    เย็นนี้จะโอนเงินไป 1 ที่นั่งก่อนนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...