ประสบการณ์โลกทิพย์ "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล" ยอดแห่งพระกรรมฐาน ,ภพภูมิ ,กายทิพย์ ,วิญาญาณ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 6 มิถุนายน 2007.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    ขอต่อนะครับประวัติหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    --------------------------------




    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๑๕. เหตุการณ์พลิกแผ่นดินบ้านม่วงไข่


    เหตุการณ์ที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล มาพำนักจำพรรษาที่วัดม่วงไข่ บ้านกุดก้อม อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร นั้น ถือว่าเป็นข่าวที่มีเสียงร่ำลือไปอย่างกว้างขวางที่ว่า มีพระดีซึ่งเป็นพระธุดงค์มาโปรด ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงต่างเดินทางมากราบนมัสการ ฟังเทศน์ฟังธรรม และฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐานกับหลวงปู่เป็นอันมาก

    ที่สำคัญยิ่งคือ บรรดาพระภิกษุและสามเณรทุกรูป นับตั้งแต่เจ้าอาวาส คือครูบาญาคูดี เป็นต้นมา ต่างปวารณาขอเป็นศิษย์ติดตามปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่หมดทั้งวัด

    ปรากฏการณ์ครั้งนั้น ถือเป็น การพลิกแผ่นดิน ของวัดม่วงไข่ เลยทีเดียวและเหตุการณ์หลังออกพรรษาปีนั้น ถือเป็นเหตุมหัศจรรย์เลื่อนลั่นอันเป็นประวัติศาสตร์ของบ้านกุดก้อมในยุคสมัยนั้น

    กล่าวคือ เมื่อออกพรรษาแล้ว หลวงปู่ดูลย์ก็ออกธุดงค์ จาริกหาสถานที่สงบวิเวก เพื่อบำเพ็ญภาวนาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่ยึดติดสถานที่หนึ่งที่ใดโดยเฉพาะถือวัตรปฏิบัติเยี่ยง พระป่า ทั้งหลาย

    เหตุการณ์ที่ไม่มีชาวบ้านคนใดจะคาดคิดได้ ก็คือ บรรดาพระภิกษุและสามเณรวัดม่วงไข่ทุกรูป นับตั้งแต่ท่านเจ้าอาวาสเป็นต้นมา ได้พากันสละละทิ้งวัด ออกจาริกธุดงค์ติดตามหลวงปู่ไป โดยมิได้ใส่ใจนำพาต่อคำอ้อนวอนทัดทานของชาวบ้านเลย

    ทุกรูปยอมสละทิ้งวัดม่วงไข่ให้เป็นวัดร้าง ไม่มีใครยอมอยู่ดูแล ต่างมีใจมุ่งมั่นเข้าสู่ความเป็น อนาคาริกะ คือเป็นผู้ไม่มีเหย้าเรือน ที่ต้องห่วงหาอาลัยกันอีกต่อไป

    มีใจมุ่งมั่น มุ่งบำเพ็ญภาวนา เพื่อค้นหาพระธรรม คือความดับทุกข์แห่งตน หนีให้พ้นภัยในวัฏสงสาร คือ ความเวียนว่ายตายเกิด โดยมิได้อาลัยอาวรณ์ต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย แม้แต่ชีวิตของตนก็มุ่งอุทิศถวายต่อพระธรรม ดำเนินรอยตามพระยุคลบาทของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เรื่องราวเหตุการณ์พลิกแผ่นดินที่วัดม่วงไข่นี้ ล้วนอยู่ในสายตาและอยู่ในความสนใจของ พระภิกษุฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นพระภิกษุหนุ่ม พำนักอยู่ที่วัดใกล้เคียงกับวัดม่วงไข่แห่งนี้ ได้เข้ามอบตัวเป็นศิษย์ ฟังพระธรรมเทศนาและฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงปู่ตลอดพรรษา

    ด้วยความเลื่องชื่อระบือของ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ประกอบกับวัตรปฏิบัติอันงดงามของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ผู้เป็นศิษย์ ได้จำหลักหนักแน่นอยู่ในดวงใจของ พระภิกษุฝั้น ในสมัยนั้น

    สิ่งดีงามที่พระภิกษุฝั้น ได้รับในครั้งนั้น ได้กลายเป็นแม่เหล็กอันทรงพลังดึงดูดให้ท่านกลายเป็นศิษย์สำคัญในสายของ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต อีกรูปหนึ่ง

    ในเวลาต่อมา คุณงามความดีและเกียรติภูมิของพระภิกษุฝั้น ได้แผ่ออกไปอย่างกว้างขวาง จนเป็นที่รู้จักกันดีในนามของ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่ง สำนักวัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ในเวลาต่อมา

    เมื่อคราวหลวงปู่ดูลย์ ออกธุดงค์จากวัดม่วงไข่ ไปพร้อมกับพระภิกษุและสามเณรวัดม่วงไข่ทั้งวัดนั้น พระภิกษุฝั้น อาจาโร ก็ได้ติดตามออกจาริกธุดงค์ไปกับคณะด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  2. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๑๖. พระฝั้น อาจาโร


    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เคยเล่าถึง หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เมื่อสมัยยังเป็นพระภิกษุหนุ่ม ออกปฏิบัติธรรมติดตามท่านในสมัยนั้นว่า

    "ท่านอาจารย์ฝั้นนั้น ทำกัมมัฏฐานได้ผลดีมาก เป็นนักปฏิบัติที่เอาจริงเอาจัง มีน้ำใจเป็นนักสู้ที่สู้เสมอตาย ไม่มีการลดละท้อถอย เข้าถึงผลการปฏิบัติได้โดยเร็ว นอกจากนั้น ยังมีรูปสมบัติและคุณสมบัติพร้อม"

    หลวงปู่เคยทำนายหลวงปู่ฝั้นไว้ในใจว่า :-

    "พระภิกษุรูปนี้ จะต้องมีความสำคัญใหญ่หลวง และเป็นกำลังอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาในอนาคตอย่างแน่นอน"

    ในช่วงที่ออกธุดงค์ จากวัดม่วงไข่ในครั้งนั้น หลวงปู่ดูลย์ตั้งใจว่า "จะต้องพาท่านอาจารย์ฝั้น ไปพบและมอบถวายต่อท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ผู้เป็นพระปรมาจารย์ในโอกาสต่อไปให้จงได้"

    เรื่องราวประการหนึ่งเกี่ยวกับหลวงปู่ฝั้น ที่เคยได้ยินได้ฟังมามีอยู่ว่า

    "เมื่อหลวงปู่ดูลย์มาพำนักประจำอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์แล้ว ท่านอาจารย์ฝั้นยังได้หาโอกาสเดินธุดงค์ติดตามรับคำแนะนำแนวทางปฏิบัติ กับหลวงปู่ดูลย์เป็นครั้งคราว โดยเดินธุดงค์มาทางเทือกเขาดงเร็ก และเข้ามาพำนักอยู่ที่ป่าเล็กๆ แถวชานเมืองสุรินทร์ด้านทิศใต้ เมื่อได้โอกาสอันควร ก็เข้าไปหาหลวงปู่ ณ วัดบูรพาราม"

    บริเวณป่าที่หลวงปู่ฝั้นเคยมาพักปฏิบัติธรรมนั้น ต่อมาได้กลายเป็นสำนักสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสี มีชื่อว่า วัดป่าโยธาประสิทธิ์ และปัจจุบันตั้งอยู่ภายในบริเวณของวิทยาลัยเกษตรสุรินทร์นั่นเอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  3. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]


    ๑๗. อริยสัจแห่งจิต


    ในการออกจาริกธุดงค์ จากวัดม่วงไข่ บ้านกุดก้อม อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๖ ในครั้งนั้น หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พร้อมทั้งพระภิกษุสามเณรวัดม่วงไข่ และ พระภิกษุฝั้น อาจาโร ได้เดินทางรอนแรมไปตามป่าเขาลำเนาไพรไปเรื่อยๆ เพื่อติดตามค้นหา พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต

    การเดินทางของหลวงปู่ และสานุศิษย์ไม่มีกำหนดการที่แน่นอน เดินทางด้วยเท้าไปตลอด บางแห่งก็หยุดพัก ๕ วัน บางแห่งก็ ๗ วัน ตามแต่สัปปายะ และความเหมาะสมในการปรารภความเพียรของสถานที่แต่ละแห่ง

    การจาริกธุดงค์ครั้งนั้น ถือว่าเป็นครั้งสำคัญของหลวงปู่ เนื่องจากท่านได้ดำรงตนมาสู่การเป็นผู้นำทางการปฏิบัติในกลุ่มพระเณรที่ติดตาม โดยหลวงปู่ทำหน้าที่เป็นพระอาจารย์ เหมือนกับที่ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ได้ปฏิบัติให้เป็นแบบอย่าง

    คณะของหลวงปู่ได้จาริกไปถึง ถ้ำพระเวสฯ (ถ้ำพระเวสสันดร) ซึ่งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ในท้องที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม แล้วได้พำนักบำเพ็ญภาวนาอยู่ ณ สถานที่นั้นเป็นเวลาค่อนข้างนาน จนตลอดฤดูแล้งนั้น

    คณะพระภิกษุสามเณร ลูกศิษย์ลูกหาที่ติดตามหลวงปู่ทุกองค์ ต่างบำเพ็ญเพียรกันอย่างเอาจริงเอาจัง และด้วยใจมุ่งมั่น จนกล่าวได้ว่าทุกองค์ได้รับผลแห่งการปฏิบัติโดยทั่วกัน

    ในการบำเพ็ญภาวนาของหลวงปู่เอง ณ ถ้ำพระเวสฯ แห่งนี้ หลวงปู่ได้เล่าให้สานุศิษย์ใกล้ชิดฟัง ดังนี้

    "เราได้ตริตรองพิจารณาตามหัวข้อหลักของกัมมัฏฐานที่ได้รับจาก พระอาจารย์ใหญ่ ที่ว่า สพฺเพสงฺขารา สพฺพสญฺญา อนตฺตา ก็บังเกิดความสว่างไสวรู้แจ้งตลอดว่า

    เมื่อสังขารขันธ์ดับไปแล้ว ความเป็นตัวตนจักไม่มี เพราะไม่ได้เข้าไปเพื่อปรุงแต่ง ครั้นเมื่อความปรุงแต่งขาดไป และสภาพแห่งความเป็นตัวตนไม่มี ความทุกข์จะเกิดขึ้นแก่ใครได้อย่างไร"

    ดังได้เคยเล่าถึงในตอนต้นแล้วว่า ความรู้ในธรรมะดังกล่าวก็คือ ความรู้แจ้งในหลัก ปฏิจฺจสมุปฺบาท คือ เหตุและผลของการเวียนว่ายตายเกิดนั่นเอง

    นอกจากนี้ หลวงปู่ยังได้ค้นพบธรรมะที่เป็นหัวใจ คำสอนในพระพุทธศาสนา และได้รู้ซึ้งถึงแก่นในเหล่าธรรมทั้งหลาย แล้วสรุปลงเป็น อริยสัจแห่งจิต ด้วยถ้อยคำของหลวงปู่เอง ว่า

    จิตส่งออกนอกเพื่อรับสนองอารมณ์ทั้งสิ้น เป็นสมุทัย
    ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอกแล้วหวั่นไหว เป็นทุกข์
    จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
    ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นนิโรธ

    หลวงปู่เล่าว่า "เมื่อพิจารณาตามหลัก อริยสัจ ๔ โดยเห็นแจ้งดังนี้แล้ว ย่อมหมายถึงการผ่านเลยแห่งความรู้ใน ปฏิจฺจสมุปฺบาท ไปแล้ว เนื่องเพราะความรู้ในเหตุแห่งทุกข์ การดำรงอยู่แห่งทุกข์ และวิธีดับทุกข์นั้น คือ แก่นกลางแท้จริงของปฏิจจสมุปบาท"

    ที่สำคัญยิ่งก็คือ ธรรมะใน อริยสัจ ๔ นี้ เป็นธรรมะหมวดแรก ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้ ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมื่อ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว ซึ่งหลวงปู่ดูลย์ อตุโล เป็นศิษย์ตถาคต ผู้หนึ่งที่สามารถให้ อรรถาธิบายได้อย่างแจ่มแจ้ง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  4. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๑๘. จิตคือพุทธะ


    ในหมู่ผู้ปฏิบัติธรรมสายพระกรรมฐาน ทั้งพระภิกษุและฆราวาสให้การยอมรับว่า "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล นับเป็นองค์เดียวที่มีความรู้ลึกซึ้งในเรื่องของจิต จนกระทั่งได้รับสมญาว่า เป็นบิดาแห่งการภาวนาจิต"

    ประจักษ์พยานแห่งสมญานามดังกล่าว จะเห็นได้จาก คำเทศน์ คำสอนและความสนใจของหลวงปู่ อยู่ในเรื่อง "จิต" เพียงอย่างเดียว เรื่องอื่นนอกจากนั้นหาได้อยู่ในความสนใจของหลวงปู่ไม่

    ด้วยความลึกซึ้งในเรื่องจิตจึงทำให้หลวงปู่ประกาศหลักธรรมโดยใช้คำว่า "จิต คือ พุทธะ" โดยเน้นสาระเหล่านี้ เช่น

    "พระพุทธเจ้าทั้งปวง และสัตว์โลกทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากเป็นเพียงจิตหนึ่ง นอกจากจิตหนึ่งนี้แล้ว ไม่มีอะไรตั้งอยู่เลย"

    "จิตหนึ่ง ซึ่งปราศจากการตั้งต้นนี้ เป็นสิ่งที่มิได้เกิดขึ้นและไม่อาจถูกทำลายได้เลย"

    "จิตหนึ่งเท่านั้นที่เป็นพระพุทธะ ดังคำตรัสที่ว่า :-

    ผู้ใดเห็นจิต ผู้นั้นเห็นเรา

    ผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม

    ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต"

    พระธรรมเทศนาของหลวงปู่ในหัวข้อเรื่อง "จิต คือ พุทธะ" โดยละเอียดได้นำเสนอในภาคคำสอน ในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้แล้ว พร้อมทั้งคำแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย

    ในการสอนของหลวงปู่ ท่านจะเตือนสติสานุศิษย์เสมอๆ ว่า

    "อย่าส่งจิตออกนอก"

    หลวงปู่ยังสอนแนวทางปฏิบัติ อีกว่า

    "จงทำญาณให้เห็นจิต เมื่อเห็นจิตได้ ก็จะสามารถแยกรูป ถอดด้วยวิชชามรรคจิต เพื่อที่จะแยกรูปกับกายให้อยู่คนละส่วน แล้วจะเข้าใจพฤติของจิตได้ในลำดับต่อไป"

    คำสอนเกี่ยวกับเรื่องจิตของหลวงปู่ ที่มีการบันทึกไว้ในที่อื่นๆ อีก ก็มีเช่น :-

    "หลักธรรมที่แท้จริง คือ จิต จิตของเราทุกคนนั่นแหละ คือ หลักธรรมสูงสุดในจิตใจเรา นอกจากนั้นแล้วไม่มีหลักธรรมใดๆ เลย

    จิตนี้แหละ คือ หลักธรรม ซึ่งนอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่ใช่จิต แต่จิตนั้นโดยตัวมันเองก็ไม่ใช่จิต

    ขอให้เลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น เมื่อนั้นเราอาจกล่าวได้ว่า คลองแห่งคำพูดได้ถูกตัดทอนไปแล้ว พิษของจิตก็ได้ถูกถอนขึ้นจนหมดสิ้น

    จิตในจิตก็จะเหลือแต่ความบริสุทธิ์ ซึ่งมีอยู่ประจำแล้วทุกคน"

    ด้วยเหตุนี้ การสอนของหลวงปู่ จึงไม่เน้นที่การพูด การคิดหรือการเทศนาสั่งสอน แต่ท่านจะเน้นที่ การภาวนา และให้ดูลงที่จิตใจ ของตนเอง อย่าไปดูสิ่งอื่น เช่น
    อย่าไปสนใจดูสวรรค์ ดูนรก หรือสิ่งอื่นใด แต่ให้ดูที่จิตของตนเอง ให้ดูไปภายในตนเอง

    "อย่าส่งจิตออกนอก" จึงเป็นคำที่หลวงปู่เตือนลูกศิษย์อยู่เสมอ

    ความรู้ ความเข้าใจเรื่องจิต อย่างลึกซึ้งนี้ เป็นผลจากการปฏิบัติที่ ถ้ำพระเวสฯ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม เมื่อครั้งนั้นนั่นเอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  5. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๑๙. คำรับรองจากพระอาจารย์ใหญ่


    ผลจากการบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำพระเวสฯ ทำให้หลวงปู่มีความอิ่มเอิบใจเป็นล้นพ้น เฝ้ารอวันที่จะได้กราบนมัสการท่าน พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต อยู่ตลอดเวลา

    เมื่อหลวงปู่และคณะได้ปรารภความเพียร ณ ถ้ำพระเวสฯ นานพอสมควรแล้ว ก็ได้จาริกออกตามหาพระอาจารย์ใหญ่ เป็นคำรบสองต่อไป

    ปีนั้นเป็นปี พ.ศ. ๒๔๖๗ คณะของหลวงปู่ ได้ไปพบพระอาจารย์ใหญ่ ที่ วัดป่าโนนสูง (ปัจจุบันอยู่ในเขตจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งแยกจากจังหวัดนครพนมมาเป็นจังหวัดใหม่)

    หลวงปู่ได้กราบเรียนพระอาจารย์ใหญ่ ให้ทราบถึงเรื่องราวของการปฏิบัติที่ผ่านมา โดยเฉพาะหัวข้อธรรม เกี่ยวกับ ปฏิจจสมุปบาท และ อริยสัจ ๔ ที่ได้รับขณะบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำพระเวสฯ

    พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ได้กล่าวคำรับรอง และยกย่องหลวงปู่ดูลย์ ต่อหน้าที่ชุมนุมศิษยานุศิษย์ว่า

    "ถูกต้องแล้ว เอาตัวรอดได้แล้ว นับว่าไม่ถอยหลังอีกแล้ว อยากให้ดำเนินตามปฏิปทานี้ต่อไป"

    หลวงปู่ดูลย์ ได้นำคณะพระภิกษุสามเณรจากวัดม่วงไข่ พร้อมทั้งพระภิกษุฝั้น อาจาโร ที่ติดตามมา เข้าถวายตัวเป็นศิษย์ต่อพระอาจารย์ใหญ่

    ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ได้กล่าวยกย่องสรรเสริญ การกระทำให้ปรากฏต่อศิษย์ทั้งหลายว่า

    "ท่านดูลย์นี้ เป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นอย่างยิ่ง สามารถมีสานุศิษย์และผู้ติดตามมาประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยเป็นจำนวนมาก"

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  6. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๐. รางวัลเกียรติยศ


    ในครั้งนั้น หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้พำนักอยู่ปรนนิบัติ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต เป็นเวลานานพอสมควร ก่อนที่จะกราบลาออกท่องเที่ยวธุดงค์เพื่อปฏิบัติภาวนา และเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนให้แก่ประชาชนผู้สนใจในถิ่นอื่นต่อไป

    ในระหว่างพำนักที่ วัดป่าโนนสูง นี้เอง พระอาจารย์ใหญ่ ผู้ทรงคุณธรรมยิ่งใหญ่ได้ให้ความเมตตาต่อหลวงปู่เป็นอย่างยิ่ง

    กล่าวคือ ก่อนที่หลวงปู่ดูลย์จะกราบลาเพื่อเดินทางไปจำพรรษาที่อื่น
    พระอาจารย์ใหญ่ได้เมตตาตัดผ้าไตรจีวรด้วยมือของท่านเอง พระลูกศิษย์ลูกหาช่วยกันเย็บย้อม แล้วมอบให้หลวงปู่ดูลย์ ๑ ไตร

    หลวงปู่ดูลย์ ถือว่าความเมตตาจากพระอาจารย์ใหญ่ในครั้งนั้นเป็นผลหรือรางวัลเกียรติยศแห่งการปฏิบัติดี ที่ครูบาอาจารย์มอบให้เป็นกรณีพิเศษ และด้วยเมตตาธรรม

    เมื่อกราบลาพระอาจารย์ใหญ่แล้ว หลวงปู่ก็จาริกธุดงค์เสาะหาสถานที่สงบสงัดเพื่อบำเพ็ญเพียรให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

    หลวงปู่ได้ไปพักจำพรรษาที่ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ในครั้งนั้นได้มี สามเณรอ่อน (ต่อมาคือ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ) ได้ติดตามไปปรนนิบัติหลวงปู่ด้วย

    ในพรรษานั้น มีอุบาสกอุบาสิกา และภิกษุสามเณร ในบริเวณใกล้เคียงพากันแตกตื่นมาฟังพระธรรมเทศนา และฝึกปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่เป็นจำนวนมาก

    หลวงปู่บอกว่า "มากมาย จนแทบไม่มีที่นั่ง และแทบทุกคนได้ประจักษ์ผลแห่งการปฏิบัติ"

    สานุศิษย์ที่ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ที่อำเภอท่าบ่อ ในครั้งนั้น บางท่านยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

    หลังออกพรรษาแล้วหลวงปู่ตั้งใจว่า จะเดินทางไปโปรดญาติโยมที่จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดเมืองนอนของท่านต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  7. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๑. เหตุการณ์ที่ถ้ำผาบิ้ง


    เมื่อออกพรรษาแล้ว หลวงปู่ดูลย์ก็เดินธุดงค์ต่อไปถึง จังหวัดเลย มีสามเณรติดตามไปด้วย ๑ รูป หลวงปู่มีความประสงค์จะไปพักภาวนาที่ ถ้ำผาบิ้ง บ้านนาแก อำเภอวังสะพุง ซึ่งเป็นสถานที่ร่ำลือกันในด้านความอาถรรพ์ มากไปด้วยตำนานมหัศจรรย์

    ชาวบ้านตามรายทางที่ผ่านไป มีความเป็นห่วงหลวงปู่และสามเณรจะได้รับอันตราย จึงได้ทัดทานไว้

    "ที่ถ้ำนั้นพักไม่ได้ เพราะมีสิ่งเร้นลับมหัศจรรย์ มีอาถรรพ์แรงร้าย"

    ความอาถรรพ์ของ ถ้ำผาบิ้ง ที่ร่ำลือกันมาเป็นเวลานาน ก็คือเมื่อถึงยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำ จะมีเสียงพิณพาทย์ ทั้งเสียงระนาด ฆ้อง กลอง กระหึ่มบรรเลง

    พร้อมกันนั้นก็มีตัวประหลาด มองเห็นคล้ายควันดำ เหาะลอยฉวัดเฉวียนขึ้นสู่อากาศ แล้วก็หายลับไป ไม่ทราบว่าเป็นตัวอะไร เป็นที่น่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

    โดยปกติวิสัยของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล นั้น ท่านไม่เคยเชื่อถือในอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และไม่เคยยกย่องสิ่งใด นอกเหนือไปจากยึดมั่นในพระรัตนตรัย ว่าเป็นสรณะที่พึ่ง

    ในประวัติชีวิตของท่าน ไม่เคยปรากฏว่าท่านให้ความยอมรับในสิ่งมหัศจรรย์ หรืออภินิหารใดๆ ทั้งสิ้น

    แม้ได้ฟังเรื่องเล่า และคำทัดทานจากชาวบ้านแถบนั้น ท่านก็ไม่ได้หวั่นไหว โดยวิสัยแห่งศิษย์พระตถาคตซึ่งไม่กลัวแม้กระทั่งความตาย หลวงปู่จึงต้องการไปพิสูจน์หาความจริงของความมหัศจรรย์ที่ ถ้ำผาบิ้ง แห่งนั้น

    หลวงปู่พาสามเณรไปพักปฏิบัติภาวนาที่ถ้ำผาบิ้งทันทีในวันนั้น โดยไม่ต้องเสียเวลารั้งรอ

    หลวงปู่ได้สังเกตพิจารณาดูว่า สิ่งที่ชาวบ้านร่ำลือนั้นเป็นอะไรกันแน่ ในที่สุดท่านก็พบความจริง และเปิดเผยต่อชาวบ้าน

    ความจริงก็คือ เมื่อถึงเวลาโพล้เพล้จวนใกล้ค่ำ ค้างคาวที่อาศัยอยู่ในถ้ำนั้นจำนวนนับหมื่นนับแสนตัว ก็พากันบินพรั่งพรูเกาะกลุ่มชิงกันออกจากปากถ้ำ เพื่อออกไปหากิน ปรากฏเป็นกลุ่มควันดำฉวัดเฉวียนพวยพุ่งขึ้นสู่อากาศ บังเกิดเป็นกระแสลมกรรโชกหวีดหวิว เมื่อพัดพุ่งผ่านโกรกกรวยและร่องรูต่างๆ ตามผนังถ้ำ ทำให้เกิดเป็นเสียงสูงต่ำมีลีลา

    เสียงปีกค้างคาวกระทบกันคึกคักแหวกอากาศ ผสมผสานสอดคล้องกับเสียงที่สะท้อนจากผนังถ้ำ ดังกระหึ่มเป็นจังหวะจะโคนกึกก้องไปมา ราวกับเป็นเสียงดนตรีสวรรค์ ที่เหล่าเทพยดาพากันบรรเลงด้วยพิณพาทย์ระนาดกลองฉะนั้น

    กลุ่มค้างคาวเป็นหมื่นเป็นแสน ที่บินฉวัดเฉวียนพวยพุ่งออกจากถ้ำเป็นเส้นสายยักย้ายไปมา ก็ดูประหนึ่งมังกรเทพยดา หรือสัตว์วิเศษในเทพนิยายปรัมปราที่เล่าสืบๆ กันมา พุ่งเลื้อยหายไปในอากาศ ประจักษ์แก่สายตาชาวบ้านป่าที่ตะลึงมองอย่างขนลุกขนชัน ด้วยความหวาดหวั่นระย่อยำเกรง

    หลวงปู่ได้นำความจริงมาเปิดเผยให้ชาวบ้านฟัง จนเป็นที่หัวเราะขบขันของชาวบ้านแถบนั้น ความหวาดหวั่นเกรงกลัวในอาถรรพ์ของถ้ำผาบิ้ง ที่เชื่อถือกันมานาน ก็หมดไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  8. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๒. สนทนาธรรมกับพระอาจารย์ใหญ่


    ในช่วงเวลาระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๖๓ จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๔ แม้ไม่มีรายละเอียดชี้ชัดว่า ในแต่ละพรรษาหลวงปู่ดูลย์จาริกไปปรารภธรรม ณ ที่ใด และค้นพบข้อธรรมล้ำลึกประการใด แต่ก็น่าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ยังคงจาริกธุดงค์วนเวียนอยู่แถบเทือกเขาภูพาน อันเป็นที่สงบสงัด เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาสำหรับพระธุดงค์

    นอกจากนั้น หลวงปู่ก็เดินทางไปโปรดญาติโยมที่จังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดของท่านเป็นบางครั้งบางคราว

    หลวงปู่พักปฏิบัติธรรมที่ถ้ำผาบิ้งอยู่ประมาณ ๑ เดือน แล้วก็ออกจาริกธุดงค์ต่อไปทาง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี แล้วเลยไปยัง อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ได้พบและกราบมนัสการ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ที่นั่นอีกครั้งหนึ่ง

    การพบกับพระอาจารย์ใหญ่ในครั้งนี้ ไม่ปรากฏว่ามีการกราบเรียนถึงผลการปฏิบัติ หรือมีข้อแนะนำจากพระอาจารย์ใหญ่เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติต่อไปอีกอันใด หากแต่เน้นหนักในเรื่องสนทนาธรรมในเรื่องลึกๆ และเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตล้วนๆ อันยังผลให้เกิดความอาจหาญร่าเริงในธรรมปฏิบัติแต่อย่างเดียว

    การสนทนาธรรมระหว่างพระอาจารย์ใหญ่ กับหลวงปู่ดูลย์ในช่วงนี้แต่ละครั้งจะใช้เวลานานๆ บรรดาลูกศิษย์ลูกหาต่างเชื่อกันว่า ช่วงนั้นหลวงปู่ดูลย์คงจะมีคุณธรรมสมควรแก่การสนทนาธรรมแล้วอย่างแน่นอน

    หลวงปู่พักอยู่กับพระอาจารย์ใหญ่ระยะหนึ่ง แล้วก็กราบลาออกเดินทางต่อไป โดยมีเป้าหมายอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ในระหว่างทางมีการแวะพักเพื่อบำเพ็ญภาวนา และเผยแผ่ธรรมะแก่ผู้สนใจตามโอกาสอันควร

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  9. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๓. โน้มน้าวใจพระมหาปิ่น


    หลังจากหลวงปู่ดูลย์ อตุโล กราบลาพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต แล้ว ก็ออกเดินทางจากบ้านผือ อุดรธานี มุ่งไปจังหวัดสุรินทร์

    ในระหว่างทางหลวงปู่ได้แวะเยี่ยม หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม พระสหธรรมิกผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงแก่ท่าน ขณะนั้นหลวงปู่สิงห์พำนักอยู่ในแถบจังหวัดกาฬสินธุ์

    มีเหตุการณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่ควรกล่าวถึง แต่ไม่สามารถกำหนดกาลเวลาแน่ชัดว่าเหตุการณ์นี้เกิดในปี พ.ศ.ใดแน่ นั่นคือเรื่องราวที่หลวงปู่สิงห์กับหลวงปู่ดูลย์ ได้ร่วมมือกันไปโน้มน้าวใจท่าน พระมหาปิ่น ปญฺญาพโล พระน้องชายของหลวงปู่สิงห์ ให้เปลี่ยนหนทางจากการมุ่งแต่ปริยัติ มาอยู่ฝ่ายปฏิบัติได้ในที่สุด

    เรื่องมีอยู่ว่า พระมหาปิ่น ปญฺญาพโล เป็นเปรียญธรรมจากสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร มีความรู้ด้านพระปริยัติธรรมอย่างแตกฉาน เดินทางจากกรุงเทพฯ มาเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมที่ วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานี

    ท่านพระมหาปิ่นสนใจแต่ทางปริยัติอย่างเดียว ไม่นำพาต่อการบำเพ็ญภาวนาฝึกฝนจิตและธุดงค์กัมมัฏฐานเลย

    หลวงปู่สิงห์ จึงชักชวนหลวงปู่ดูลย์ ให้เดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ช่วยชักนำพระมหาปิ่นให้สนใจในทางปฏิบัติพระกัมมัฏฐานบ้าง ไม่เช่นนั้นจะไปไม่รอด

    หลวงปู่ทั้ง ๒ องค์ ได้พักจำพรรษาที่ วัดสุทัศนาราม วัดที่ท่านเคยอยู่มาก่อน คราวนี้ท่านได้ปลูกกุฏิหลังเล็กๆ อยู่ต่างหาก ปฏิบัติพระกัมมัฏฐานอย่างเคร่งครัด แล้วก็ค่อยๆ โน้มน้าวจิตใจให้พระมหาปิ่นเกิดความศรัทธาเลื่อมใสทางด้านการปฏิบัติด้วย

    ทั้งหลวงปู่สิงห์ และหลวงปู่ดูลย์ ได้ชี้แจงแสดงเหตุผลว่า ในการครองเพศสมณะนั้น แม้ว่าได้บวชมาในพระบวรพุทธศาสนาก็นับว่าดีประเสริฐแล้ว ถ้าหากมีการปฏิบัติให้รู้แจ้งในธรรม ก็จะยิ่งประเสริฐขึ้นอีก คือจะเป็นหนทางออกเสียซึ่งความทุกข์ ตามแนวคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ท่านพระอาจารย์ปิ่น ปญฺญาพโล เป็นพระสงฆ์ที่มีสติปัญญา พิจารณาปฏิปทาข้อวัตรปฏิบัติธรรม พร้อมทั้งคำเทศน์ของพระอาจารย์ทั้ง ๒ องค์ ที่ได้กระทำเป็นแบบอย่าง ก็เกิดความเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง

    โดยปกติแล้วหลวงปู่สิงห์ และหลวงปู่ดูลย์ เป็นนักปฏิบัติธรรมขั้นสูง แม้จะมีความอาวุโส แต่ก็มีลักษณะประจำตัวในการรู้จักนอบน้อมถ่อมตนระมัดระวังกาย วาจา ใจ ไม่คุยโม้โอ้อวดว่าตนเองได้ธรรมขั้นสูง และเห็นว่าธรรมะเป็นสมบัติอันล้ำค่าของนักปราชญ์มาประจำแผ่นดิน ซึ่งควรระมัดระวัง ให้สมกับผู้มีภูมิธรรมในใจ

    ท่านพระอาจารย์มหาปิ่น ได้พิจารณารอบคอบด้วยเหตุด้วยผลแล้ว พอถึงกาลออกพรรษา จึงรีบเตรียมบริขาร แล้วออกธุดงค์ติดตามหลวงปู่สิงห์ พระพี่ชาย ไปทุกหนทุกแห่ง ทนต่อสู้กับอุปสรรคยากไร้ ท่ามกลางป่าเขา มุ่งหาความเจริญในทางธรรม จนสามารถรอบรู้ธรรมด้วยสติปัญญาของท่านในกาลต่อมา

    ผู้ปฏิบัติธรรมเมื่อรู้ธรรมอันสมควรแล้ว มักจะมองย้อนมาดูตัวเองที่เคยนำชีวิตผ่านมา ทำให้เกิดความสงสารสลดใจในสิ่งที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นว่า แท้จริงแล้วความทุกข์ร้อนวุ่นวายใจ มักเกิดจากสิ่งภายในใจเราทั้งสิ้น คือ กิเลส ตัณหา อุปาทาน มันก่อขึ้นภายในใจ จนต้องดิ้นรนอย่างน่าเวทนายิ่ง

    กิเลส หรือ ความทุกข์ทั้งหลาย เมื่อเกิดขึ้นภายในจิตใจเราแล้ว ไม่มีอะไรจะรักษามันได้ นอกเสียจากต้องรักษาด้วยธรรมะ ที่เกิดจากความเพียรด้วยตัวของเรา ตามแบบอย่างของศากยบุตรพุทธสาวกทั้งหลายที่ท่านเคยทำมาแล้วแต่ครั้งพุทธกาล

    การที่พระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล ออกธุดงค์กัมมัฏฐานในครั้งนั้นประชาชนในภาคอิสาน ได้แตกตื่นชื่นชมกันมากว่า
    "พระมหาเปรียญธรรมหนุ่มจากเมืองบางกอก ได้ออกฝึกจิต ดำเนินชีวิตสมณเพศ ตัดบ่วง ไม่ห่วงอาลัยในยศถาบรรดาศักดิ์ ออกป่าดง เดินธุดงค์กัมมัฏฐานฝึกสมาธิภาวนาเป็นองค์แรกในสมัยนั้น"

    ชื่อเสียงของพระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล ในครั้งนั้นจึงหอมฟุ้งร่ำลือไปไกล ท่านได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชาย คือ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม นำกองทัพธรรม ออกเผยแพร่พระธรรมคำสอนในสายพระธรรมกัมมัฏฐาน จนมีผู้เลื่อมใสศรัทธาอย่างกว้างขวางมาจนปัจจุบัน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  10. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๔. กลับสุรินทร์ถิ่นกำเนิด


    นับแต่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล จาริกจากวัดจุมพลสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ไปพำนักยังวัดสุทัศนาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๙

    หลวงปู่เริ่มศึกษาด้านพระปริยัติ สอบได้เป็นนักธรรมชั้นตรี นวกภูมินับเป็นรุ่นแรกของจังหวัดอุบลราชธานี ขณะเดียวกัน ก็ได้เรียนบาลีไวยากรณ์ที่เรียกว่า "มูลกัจจายน์" จนสามารถแปลพระธรรมบทได้

    จากนั้น เมื่อได้รู้จักกับหลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม ได้กราบนมัสการฝากตัวเป็นศิษย์กัมมัฏฐานของ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ชีวิตแห่งสมณะของหลวงปู่ก็แปรเปลี่ยนจากการที่เคยมุ่งหวังการศึกษาด้านพระปริยัติ หันเข้าหาทางด้านการปฏิบัติ

    หลวงปู่ออกจาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร แสวงหาสัจธรรมตามรอยพระบาทองค์สมเด็จพระบรมศาสดา

    จนปี พ.ศ. ๒๔๖๖ รวมเป็นเวลา ๗ ปี หลวงปู่จึงได้คืนกลับไปยังจังหวัดสุรินทร์ บ้านเกิดของท่าน เพื่อเป็นการสงเคราะห์ญาติ

    การมาสุรินทร์ของหลวงปู่ในครั้งนี้ เป็นการมาแบบพระธุดงค์ครบเครื่อง ด้วยภูมิปัญญาที่แก่กล้า ด้วยจริยาวัตรที่ไม่เบียดเบียน

    หลวงปู่มาพำนักอยู่ที่ วัดนาสาม ตำบลนาบัว อำเภอเมือง ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ไปทางทิศใต้ประมาณ ๑๕ กิโลเมตร

    การมาสุรินทร์ของหลวงปู่ในครั้งนั้น ถือได้ว่ากรุแห่งพระธรรมได้เปิดขึ้นแก่ชาวสุรินทร์แล้ว ได้สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

    โดยเฉพาะชาวบ้านแถบตำบลนาบัว และตำบลเฉนียง ได้พากันแตกตื่นพระธุดงค์เป็นการใหญ่ พากันไปฟังพระธรรมเทศนา และบำเพ็ญสมาธิภาวนากับหลวงปู่ดูลย์อย่างล้นหลาม จนกระทั่งวัดนาสามไม่มีที่จะนั่ง

    เมื่อจวนจะถึงวันเข้าพรรษา หลวงปู่เห็นว่าวัดนาสามตั้งอยู่ในละแวกชุมชนมากเกินไป ไม่เหมาะที่จะวิเวกและปรารภธรรมตามแบบอย่างของพระธุดงค์

    หลวงปู่จึงได้ไปพำนักที่ป่าบ้านหนองเสม็ด ตำบลเฉนียง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดนาสามไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร สมมติสถานที่นั้นขึ้นเป็นสำนักป่า อธิษฐานจำพรรษา ณ ที่นั้น

    บรรดาญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ เริ่มประสบผลในทางปฏิบัติ ก็ได้พากันเดินทางติดตามไปปฏิบัติที่สำนักป่าบ้านหนองเสม็ด แม้จะต้องเดินด้วยเท้าร่วม ๑๐ กิโลเมตร ก็ไม่ลดละ หวังจะได้เจริญสมาธิภาวนาให้มีความก้าวหน้า และฟังพระธรรมเทศนาที่มีรสชาติซาบซึ้งถึงใจอย่างชนิดไม่เคยได้ฟังจากที่ใดมาก่อน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  11. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๕. สรรเสริญและนินทาเป็นธรรมดาของโลก


    เป็นธรรมดาของโลก ย่อมหนีไม่พ้นกฎแห่ง โลกธรรม คือ เมื่อมี สรรเสริญ ก็ย่อมมี นินทา เป็นของคู่กัน

    การมาตั้งสำนักปฏิบัติธรรมที่บ้านหนองเสม็ด ของหลวงปู่ ก็มีทั้งฝ่ายที่ศรัทธาชื่นชอบ และฝ่ายต่อต้านทำลาย เช่นเดียวกัน เมื่อมีคนรัก ก็ย่อมมีคนไม่ชอบ ตามติดเหมือนเป็นเงา ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา

    ทางด้านดี บัณฑิตทั้งหลายย่อมยกย่องสรรเสริญ ว่าหลวงปู่เป็นผู้ประกาศธรรม ด้วยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง บรรดาผู้ที่รู้ ผู้ที่ชอบ ผู้ที่สนใจ ผู้ที่ศรัทธา ก็ร่วมกันทำนุบำรุง ส่งเสริมและกราบฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ฝึกปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่

    อีกด้านหนึ่ง ถือเป็นพวกมืดบอดต่อสัจธรรม ก็มีปฏิกิริยาในทางต่อต้านคัดค้าน ด้วยการด่าว่าให้เสียหาย วางอุบายทำลายจนถึงขั้นลงมือทำร้ายหลวงปู่ก็มี แต่ก็มีอันแคล้วคลาดปลอดภัยด้วยอำนาจพุทธคุณ และด้วยคุณธรรมความดีของหลวงปู่

    คำพูดที่กระทบเสียดสีเปรียบเปรยหลวงปู่ เช่น "มีวัดให้อยู่ ก็ไม่อยู่ กลับไปอยู่ป่าเหมือนชะมด มีข้าวให้กินทุกมื้อก็กินมื้อเดียว เหมือนคนอนาถา มีถ้วยชามให้ใช้กลับไม่ใช้ เอาแกงเอากับคลุกข้าวในบาตรกินเหมือนแมว ..."

    เมื่อเสียงตำหนิเหล่านั้นแว่วเข้าหู หลวงปู่ก็ได้แต่ยิ้มๆ ไม่ได้โต้ตอบอะไร

    หลวงปู่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาสั่งสอนอบรมบรรดาลูกศิษย์ลูกหาด้วยความหนักแน่น และเต็มเปี่ยมด้วยเมตตา ทำให้จำนวนผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใสขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  12. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๖. ได้ศิษย์สำคัญ


    ในบรรดาญาติโยมที่ติดตามไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ ที่สำนักปฏิบัติธรรมบ้านเสม็ดอยู่เป็นประจำนั้น มีอุบาสิกาที่สนใจธรรมของหลวงปู่อย่างยิ่งคนหนึ่งชื่อ นางเหรียญ เมืองไทย

    นางเหรียญ เป็นชาวบ้านกะทม ตำบลนาบัว อำเภอเมืองสุรินทร์ มีศรัทธาต่อหลวงปู่อย่างแรงกล้า มักจะพาบุตรชาย อายุ ๑๒ ปี ชื่อ ด.ช.โชติ เมืองไทย มาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เป็นประจำ

    เด็กชายโชติ มีอุปนิสัยชอบความสงบ ได้มาสัมผัสกับบรรยากาศเงียบสงัดของวัด และได้ปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่ก็ติดใจ ไม่อยากกลับบ้าน

    นางเหรียญ ผู้มารดา จึงมอบถวายบุตรชายให้อยู่คอยรับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่เสียเลย

    เด็กชายโชติ เป็นเด็กฉลาด มีสติปัญญาดี ได้ฝึกปฏิบัติภาวนาและเรียนรู้ธรรมวินัยเป็นอย่างดี อีกทั้งมีใจศรัทธาต่อพระศาสนา หลวงปู่จึงได้จัดการบรรพชาให้เป็นสามเณร

    ผู้สนใจศึกษาประวัติครูบาอาจารย์สายพระกัมมัฏฐาน คงจะทราบเรื่องราวของสามเณรโชติองค์นี้ดี ด้วยท่านสามารถจำกำเนิด หรือระลึกชาติได้ คือในชาติก่อนท่านเป็นพี่ชายของนางเหรียญ มารดาในชาติปัจจุบัน ด้วยความรักและห่วงใยในน้องสาว เมื่อท่านป่วยและถึงแก่กรรมก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกของนางเหรียญ น้องสาวของตน

    เรื่องราวระลึกชาติของสามเณรโชติ หรือหลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน จะของดกล่าวในที่นี้ ผู้สนใจคงค้นหาอ่านจากแหล่งอื่นได้ไม่ยากนัก

    สามเณรโชติเป็นคนขยันขันแข็ง มีอุปนิสัยอ่อนโยน ว่านอนสอนง่ายจึงปรากฏในภายหลังว่าเป็นผู้เจริญในสมณวิสัย ประกาศสุปฏิบัติ เป็นกำลังใหญ่ในกิจพระศาสนา เป็นที่นับถือบูชา และรู้จักกันดีในหมู่สาธุชนผู้ใฝ่ธรรมทั่วประเทศ

    สามเณรโชติ เมืองไทย นี่เองที่ต่อมาได้ติดตามหลวงปู่ดูลย์ บุกเขาลำเนาไพรอย่างใกล้ชิด รับรู้ความเป็นธรรมชาติแห่งความเป็นธรรมดาของพระอาจารย์ของตน และได้ยึดถือวัตรปฏิบัติแห่งพระอาจารย์เป็นแนวทางกระทั่งเป็นที่ยอมรับนับถือในหมู่พุทธศาสนิกชนอย่างกว้างขวาง

    สามเณรโชติ เมืองไทย ในระยะเวลาต่อมาก็คือ หลวงปู่โชติ คุณสมฺปนฺโน แห่งวัดวชิราลงกรณ์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นั่นเอง

    สมณศักดิ์ครั้งสุดท้ายของหลวงปู่โชติ ก็คือ พระเทพสุทธาจารย์ เรื่องราวเกี่ยวกับคุณธรรมของท่านมีมากมาย ท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้เมตตานำพาสังขารวัย ๘๘ ของท่านเดินทางไปเผาศิษย์รักของท่านเมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๑๘ ที่วัดวชิราลงกรณ์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในครั้งนั้นด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  13. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๗. ผจญภัยควายป่า


    ในช่วงที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล พำนักอยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านหนองเสม็ดนั้น เมื่อถึงฤดูกาลออกพรรษาหลวงปู่มักจะพาพระภิกษุ สามเณร และฆราวาสผู้สนใจรวมเป็นคณะเล็กๆ ออกธุดงค์ลงทางทิศใต้จังหวัดสุรินทร์เสมอๆ โดยเฉพาะตามเทือกเขาพนมดงเร็ก ไปทางเขาพระวิหาร และเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา

    เทือกเขาพนมดงเร็ก หรือดงรัก นั้นเรียกตามภาษาเขมร ซึ่งเรียกตามรูปลักษณ์แห่งภูเขาที่มองเห็นแต่ไกล มีลักษณะคล้าย ไม้คาน ที่ใช้หาบของ ซึ่งภาษาเขมรเรียกว่า "ดองแร็ก"

    บริเวณตอนใต้ของจังหวัดสุรินทร์ แถบเทือกเขาดงเร็กในสมัยนั้น เป็นป่ารกชัฏ ในลักษณะป่าดงดิบ ต้นไม้ใหญ่ๆ ขนาด ๓ คนโอบขึ้นหนาทึบ สัตว์ป่ามีมากมาย สัตว์ร้าย เช่น ช้างป่า เสือ หมี ก็มีชุกชุม แต่ภาพเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว

    แต่กล่าวสำหรับคนสุรินทร์ คนศรีสะเกษ และคนบุรีรัมย์ ที่มีอายุ ๖๐ ปีล่วงแล้วยังฝังใจกับสภาพป่าดงเหล่านั้นเป็นอย่างดี

    การออกธุดงค์ของหลวงปู่ดูลย์ หลังออกพรรษาในปีนั้น ท่านได้พา สามเณรโชติ กับ สามเณรทอน ออกธุดงค์ไปตามเทือกเขาพนมดงเร็ก ไปทางเขาพระวิหาร เข้าเขตจอมกระสาน ในประเทศกัมพูชา

    การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องฝ่าป่ารกชัฏ และมีสัตว์ร้ายชุกชุม

    เวลากลางคืน แต่ละองค์ปักกลดให้ห่างกันพอสมควร ตามแบบฉบับของพระธุดงค์ ซึ่งหลวงปู่ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

    สามเณรโชติ เมืองไทย ได้เล่าเหตุการณ์ผจญภัยของหลวงปู่คราวออกธุดงค์ครั้งนั้นในภายหลัง เมื่อท่านมีสมณศักดิ์ที่ พระเทพสุทธาจารย์ ดังนี้

    ในคราวเดินทางตอนหนึ่ง หลวงปู่เดินนำหน้า ทิ้งสามเณรทั้งสองห่างออกไป สามเณรตามไม่ทัน

    พลันควายป่าตัวหนึ่ง ตื่นเตลิดมาจากไหนไม่ทราบ วิ่งมาข้างหลัง สามเณรทั้งสองหลบเข้าข้างทาง ปีนหนีขึ้นต้นไม้อย่างว่องไว

    ควายป่าตรงรี่ พุ่งเข้าขวิดหลวงปู่เต็มแรง จนหลวงปู่กระเด็นล้มลง แล้วมันก็ตรงเข้าขวิดฟัดฟาดซ้ำหลายตลบ ร่างหลวงปู่กลิ้งไปกลิ้งมาตามแรงของมันจนสาแก่ใจแล้ว ควายมันจึงเตลิดวิ่งหายไปในป่าทึบ

    สามเณรทั้งสองตกใจมาก รีบลงจากต้นไม้มาประคองหลวงปู่ แต่ต้องตะลึงด้วยความมหัศจรรย์ เห็นจีวรท่านขาดกะรุ่งกะริ่งจนไม่มีชิ้นดี แต่ร่างกายท่านไม่เป็นอะไรเลย เพราะเขาควายขวิดถูกแต่ตามซอกแขนซอกขาของท่านเท่านั้น

    ในภายหลัง เมื่อญาติโยมเข้ากราบนมัสการเพื่อขอให้หลวงปู่ประพรมน้ำมนต์ และขอของขลังของวิเศษ หลวงปู่มักจะพูดแต่เพียงว่า "อาตมามิได้มีปาฏิหาริย์" และหลวงปู่ไม่เคยพูดถึงเรื่องปาฏิหาริย์ หรือใส่ใจในเรื่องเหล่านั้นเลย ท่านเน้นแต่เรื่องการบริกรรมภาวนาเพื่อสร้างพลังจิต และสร้างความบริสุทธิ์ให้แก่ตนเอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  14. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]

    ๒๘. เดินทางเข้ากรุงเทพฯ


    หลังกลับจากธุดงค์ หลวงปู่ก็มาพำนักที่เสนาสนะป่าบ้านหนองเสม็ดตามเดิม มีบางครั้งก็ไปอยู่ที่ วัดปราสาท สถานที่เกิดของท่าน เพื่อโปรดญาติโยม ณ ที่นั้นบ้างตามสมควร

    พอจวนจะเข้าพรรษาอีกครั้ง หลวงปู่ได้ดำริที่จะเรียนพระปริยัติธรรมเพิ่มเติมขึ้นอีกบ้าง จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในครั้งนั้นได้พาสามเณรโชติไปด้วย

    หลวงปู่ได้นำสามเณรโชติ ไปฝากให้อยู่ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดสุทธจินดา จังหวัดนครราชสีมา แล้วท่านเองก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พักจำพรรษาอยู่ที่ วัดสัมพันธวงศาวาส (วัดเกาะ)

    แต่แรกเข้ากรุงเทพฯ หลวงปู่ตั้งใจจะเรียนพระปริยัติธรรม แต่ปรากฏว่าจิตใจของท่านโน้มเอียงไปทางธุดงค์กัมมัฏฐานมากกว่า จิตใจจึงไม่ถูกกับเรื่องการเรียนหนังสือเลย ดำริที่จะศึกษาด้านปริยัติธรรม จึงเป็นอันต้องยกเลิกไป

    หลวงปู่อยู่ปฏิบัติภาวนา และโปรดญาติโยมที่วัดสัมพันธวงศาวาส ตลอดพรรษานั้น

    เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านก็ออกเดินธุดงค์ไปทางจังหวัดลพบุรี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  15. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๒๙. ไปภาวนาที่ถ้ำอรหันต์ ลพบุรี


    เมื่อหลวงปู่ไปถึงจังหวัดลพบุรี ได้ไปพำนักกับ พระอาจารย์อ่ำ ซึ่งต่อมาภายหลังมีสมณศักดิ์ที่ พระเทพวรคุณ เจ้าอาวาสวัดมณีชลขันธ์

    หลวงปู่พำนักที่จังหวัดลพบุรีเป็นเวลา ๓ เดือน พระอาจารย์อ่ำทราบอัธยาศัยของหลวงปู่ว่าท่านมุ่งแสวงหาความวิเวก เพื่อบำเพ็ญธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จึงได้พาหลวงปู่ไปพำนักที่ ถ้ำน้ำจันทร์ ซึ่งต่อมาเรียกว่า ถ้ำอรหันต์

    ที่ชาวบ้านเรียกถ้ำแห่งนี้ว่า "ถ้ำน้ำจันทร์" หรือ "ถ้ำน้ำ" ก็เพราะภายในถ้ำแห่งนี้มีแอ่งน้ำขนาดเล็ก น้ำใสสะอาดและมีกลิ่นหอม

    หลวงปู่ตั้งใจว่าจะบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีกำหนด แต่แล้วท่านก็ไม่อาจอยู่ที่นั่นให้เนิ่นนานไปอีกได้

    วันหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่กำลังสรงน้ำ ก็ได้เห็น พระมหาพลอย อุปสโม (จุฑาจันทร์) มาจากวัดสัมพันธวงศาวาส กรุงเทพฯ เดินทางตามหาหลวงปู่จนพบ

    พระมหาพลอย กราบเรียนท่านถึงจุดมุ่งหมายของการเดินทางมาครั้งนี้ว่า

    "โยมของกระผม ตลอดจนอุบาสก อุบาสิกาทางเมืองสุรินทร์ ผู้สนใจประพฤติธรรม และพอจะเห็นผลของการปฏิบัติ มีความปรารถนาอยากจะพบท่านอาจารย์ ขอให้ท่านอาจารย์ได้โปรดเห็นแก่โยมของกระผม และเห็นแก่ญาติโยมทางสุรินทร์ด้วยเถิด"

    เมื่อได้รับการอาราธนานิมนต์จากพระมหาพลอย หลวงปู่จึงต้องเดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ เพื่อโปรดญาติโยมต่อไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  16. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๓๐. หลวงปู่สาม : ศิษย์สำคัญอีกองค์


    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ ตามคำอาราธนาของ พระมหาพลอย อุปสโม แล้วมาพำนักที่สำนักป่าบ้านเสม็ด ยังความปลาบปลื้มใจแก่สานุศิษย์ชาวสุรินทร์อย่างล้นพ้น

    ในปีนั้น พ.ศ.๒๔๖๘ ได้มีภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ผิวพรรณหมดจด ผ่องใสกิริยาท่าทางสำรวม สอบถามได้ความว่ามีความมุ่งมั่นในการศึกษาทางพระศาสนา และเคยเดินทางไปแสวงหาที่เรียนด้านปริยัติที่กรุงเทพฯ แต่หาที่พำนักไม่ได้ จึงต้องกลับมาจำพรรษาที่สุรินทร์คืน

    พระภิกษุหนุ่มรูปนั้น ชื่อ พระสาม อกิญฺจโน ได้มากราบถวายตัวเป็นศิษย์เรียนพระกรรมฐานกับหลวงปู่ดูลย์ ที่บ้านหนองเสม็ด

    พระสาม อกิญฺจโน ชอบใจต่อแนวทางปฏิบัติภาวนาและกิจธุดงค์เพราะถูกกับจริตของท่าน ต่อมาได้ติดตามหลวงปู่ดูลย์ออกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ ละแวกใกล้เคียงจังหวัดสุรินทร์

    ปี พ.ศ. ๒๔๖๙ หลวงปู่ดูลย์ เห็นว่าพระสาม อกิญฺจโน ได้รับผลจากการปฏิบัติพอสมควร และมีศรัทธามั่นคงดีแล้ว จึงแนะนำให้เดินทางไปกราบและศึกษาธรรมกับ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต ซึ่งขณะนั้นพำนักอยู่ที่
    เสนาสนะป่าบ้านสบบง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

    พระสาม กับพระบุญธรรม รวม ๒ องค์ ใช้เวลาเดินเท้า ๑๕ วัน จึงไปถึงจังหวัดนครพนม ได้อยู่พำนักปฏิบัติธรรมกับ พระอาจารย์ใหญ่ ๓ เดือน แล้วส่งไปให้พำนักกับ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม สหายสนิทของหลวงปู่ดูลย์ ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ กิ่ง อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

    ต่อมา พระบุญธรรม ได้มรณภาพลง เหลือแต่ พระสาม ได้ติดตาม หลวงปู่สิงห์ ไปหลายแห่ง และเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่ธรรมะใน กองทัพธรรม

    พระสาม อกิญฺจโน ได้ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปทั่วทุกภาคของประเทศ ถือเป็นพระที่เจริญด้วยธุดงควัตร เที่ยวธุดงค์เป็นเวลานาน พำนักจำพรรษามากแห่ง เพิ่งมาพำนักประจำที่ วัดป่าไตรวิเวก อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ. ๒๕๑๑ เมื่อท่านอายุ ๖๘ ปี

    พระสาม อกิญฺจโน ก็คือ หลวงปู่สาม อกิญฺจโน ของพวกเรานั่นเอง เพื่อนสหธรรมิกที่สนิทสนมกับท่านมากที่สุด ก็คือ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร แห่งสำนักวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ กับหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ แห่งวัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร

    เมื่อพูดถึง "พระดี" ของจังหวัดสุรินทร์ เรามักจะนึกถึง หลวงปู่ดูลย์ อตุโล กับ หลวงปู่สาม อกิญฺจโน คู่กันเสมอ เพราะทั้ง ๒ องค์ มีปฏิปทาคล้ายคลึงกัน มีเรื่องราวต่างๆ ผูกพันและเกี่ยวข้องกันโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากเรื่องราวในตอนต่อๆ ไป

    หลวงปู่สาม อกิญฺจโน มรณภาพเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ สิริรวมอายุได้ ๙๑ ปีเศษ ท่านมรณภาพหลังหลวงปู่ดูลย์ ๘ ปี (หลวงปู่ดูลย์มรณภาพเมื่อ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๒๖)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  17. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๓๑. หวนกลับอุบลราชธานี


    จากประวัติชีวิตของหลวงปู่ในช่วงนี้ พอจะกล่าวได้ว่าเป็นช่วงแห่งการต่อสู้ทางความคิดก็น่าจะได้

    ความคิดหนึ่ง เป็นการศึกษาเพิ่มเติมทางด้านปริยัติ อันเป็นการศึกษาทางภาคทฤษฎี ศึกษาทางตัวหนังสือ ดังจะเห็นได้จากการเดินทางออกจากสำนักป่าหนองเสม็ด ไปยังวัดสุทธจินดา นครราชสีมา เพื่อฝากสามเณรโชติ ให้อยู่ศึกษาเล่าเรียน แล้วท่านเดินทางไปยังวัดสัมพันธวงศาวาส กรุงเทพฯ ด้วยความคิดที่จะศึกษาเพิ่มเติมทางพระปริยัติ

    อีกความคิดหนึ่ง เป็นการศึกษาด้วยการปฏิบัติ คือ การออกธุดงค์ มุ่งหาประสบการณ์ตรง ค้นหาสัจธรรมด้วยตนเอง ดังจะเห็นจากที่ท่านเปลี่ยนใจไม่ศึกษาด้านพระปริยัติ ที่วัดสัมพันธวงศาวาส แล้วเดินทางไปจังหวัดลพบุรี เพื่อบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำอรหันต์ให้นานที่สุด แต่ก็ได้รับการอาราธนานิมนต์ให้มาโปรดญาติโยมที่จังหวัดสุรินทร์อีก

    หลวงปู่กลับมาพำนักที่สำนักป่าหนองเสม็ดตามเดิม หลังจากได้พระสาม อกิญฺจโน เป็นศิษย์ และส่งให้ไปศึกษาภาคปฏิบัติกับ พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต แล้ว หลวงปู่ก็พำนักโปรดญาติโยม ณ สำนักป่าหนองเสม็ดอีกระยะหนึ่ง

    ด้วยอัธยาศัยและจิตใจของหลวงปู่โน้มเอียงมาทางด้านการปฏิบัติ มากกว่าที่จะศึกษาทางพระปริยัติ ท่านจึงดำริที่ออกกัมมัฏฐานธุดงค์อีกเพื่อปฏิบัติภาวนาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

    ในที่สุด หลวงปู่ดูลย์ อตุโล จึงลาญาติโยมออกเดินทางจากสำนักป่าหนองเสม็ด มุ่งไปยังจังหวัดอุบลราชธานีอีกครั้งหนึ่ง ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะย้อนกลับไปกราบครูบาอาจารย์ และจะจาริกธุดงค์ต่อไป

    แต่เมื่อหลวงปู่ไปถึง วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานีแล้ว ความตั้งใจเดิมก็ต้องสะดุดหยุดลง

    เนื่องจากพระอุปัชฌายะของท่าน ได้ขอร้องให้ท่านพำนักที่วัดสุทัศนาราม เพื่อช่วยก่อสร้างโบสถ์ให้เสร็จเสียก่อน

    เมื่อพระอุปัชฌายะผู้มีพระคุณขอร้องเช่นนี้ ท่านจึงมิกล้าขัด และถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่มีส่วนทดแทนพระคุณ จำเป็นต้องอยู่ช่วยสร้างโบสถ์ แต่ท่านก็ตั้งปณิธานไว้ว่า โบสถ์เสร็จเมื่อไรก็จะออกธุดงค์กัมมัฏฐานต่อไป

    การเริ่มต้นก่อสร้างโบสถ์ วัดสุทัศนารามในครั้งนี้ ทางวัดมีทุนเริ่มต้นเพียง ๓๐๐ บาท ใช้เวลาก่อสร้างนานทั้งสิ้น ๖ ปี จึงแล้วเสร็จ นับเป็นพระอุโบสถที่สวยงาม และใหญ่โตที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัด และใช้ประกอบกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาอย่างคุ้มค่า

    ในระหว่างก่อสร้างโบสถ์นั้น หลวงปู่ดูลย์ ได้ช่วยเหลือพระอุปัชฌาย์ด้วยหน้าที่หลายอย่าง นอกจากช่วยด้านงานสร้างโบสถ์แล้ว ก็มีงานปกครองพระภิกษุสามเณร และเป็นพระกรรมวาจาจารย์บวชนาค

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  18. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976

    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme--><!--msnavigation--><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๓๒. ได้ศิษย์สำคัญที่อุบล


    ในชีวิตของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้มีส่วนพัวพันกับ "พระมหาปิ่น" ๒ องค์ด้วยกัน

    มหาปิ่น องค์แรก ก็คือ พระมหาปิ่น ปญฺญาพโล น้องชายแท้ๆ ของ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม โดยที่หลวงปู่ดูลย์มีส่วนร่วมเข้าไปผลักดัน และโน้มน้าวร่วมกับหลวงปู่สิงห์ เพื่อให้พระอาจารย์มหาปิ่น ที่แต่เดิมใฝ่ใจเฉพาะในด้านปริยัติ ให้ได้มาสนใจในการปฏิบัติธุดงค์กัมมัฏฐาน เพื่อเสริมเติมเต็มการศึกษาธรรมะให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งด้านทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และต่อมา พระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล ได้เป็นกำลังสำคัญออกเผยแผ่ธรรมปฏิบัติธุดงค์กัมมัฏฐาน เคียงคู่กับ หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม จนกลายเป็น สองแม่ทัพใหญ่ แห่งกองทัพธรรม

    มหาปิ่น อีกองค์นั้น มาเกี่ยวข้องกับหลวงปู่ในขณะที่ท่านพำนักอยู่ ณ วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือพระอุปัชฌายะของท่านในช่วงที่กำลังสร้างโบสถ์

    ได้มีสามเณรน้อยรูปหนึ่งหน้าตาหมดจด ท่าทีเฉลียวฉลาด ขยันขันแข็งในการศึกษา ได้เข้ามาเป็นศิษย์ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิด และฝึกปฏิบัติอยู่กับหลวงปู่

    หลวงปู่ได้พิจารณาเห็นแววของสามเณรน้อยรูปนี้ จึงต้องการสนับสนุนให้มีความก้าวหน้าต่อไป จึงได้ฝากสามเณรให้ไปอยู่ในความดูแลของ พระมหาเฉยยโส (ภายหลังมีสมณศักดิ์ที่ พระเทพปัญญากวี) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาวาส กรุงเทพมหานคร

    สามเณรน้อยมีความเจริญก้าวหน้าในการศึกษาด้านปริยัติมาเป็นลำดับจนสามารถสอบได้ถึง เปรียญธรรม ๗ ประโยค แล้วลาสิกขาไปรับราชการ เป็นอนุศาสนาจารย์ในกองทัพบกได้เลื่อนยศ เป็นถึง "นายพันเอก"

    ต่อมาได้ย้ายโอนจากกองทัพบกไปรับราชการที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นถึง อธิบดีกรมการศาสนา

    สามเณรน้อยศิษย์ที่เคยรับใช้ใกล้ชิดของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล นั้น คนทั่วประเทศไทยรู้จักท่านดีในนาม พันเอกปิ่น มุทุกันต์ อดีต อธิบดีกรมการศาสนา

    พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ เป็นนักปาฐกฝีปากคม เป็นนักเผยแพร่ธรรมะที่มีชื่อเสียง และมีผลงานด้านหนังสือธรรมะมากมาย ท่านมีความรักและเคารพต่อหลวงปู่ประดุจบิดาบังเกิดเกล้า และเคารพท่านเป็นครูบาอาจารย์ ตราบจนตลอดชีวิต

    ในคำนำหนังสือธรรมะชุด "ก้าวหน้า" พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ได้เขียนถึงหลวงปู่ว่า

    "ท่านหลวงปู่ดูลย์ เป็นอาจารย์กัมมัฏฐานองค์หนึ่ง เป็นพระพูดน้อยแต่ทำมาก เท่าที่ข้าพเจ้าเคยเห็นมา"

    การพูดน้อยแต่ทำมาก จึงดูเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของหลวงปู่

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  19. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๓๓. รับบัญชาคณะสงฆ์


    หลวงปู่ดูลย์ อยู่ที่วัดสุทัศนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อช่วยกิจการอุปัชฌายะ ในขณะที่กำลังก่อสร้างโบสถ์ ด้วยภารกิจด้านการปกครองและให้การอบรมภิกษุสามเณร และการเป็นพระกรรมวาจาจารย์บวชนาค รวมเป็นเวลา ๖ ปี จนกระทั่งการก่อสร้างพระอุโบสถเสร็จเรียบร้อย

    เมื่อหลวงปู่เห็นว่าภาระที่รับปากพระอุปัชฌายะเสร็จลงแล้ว จึงเตรียมการที่จะออกธุดงค์ แสวงหาความวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพร ตามที่ตั้งใจไว้แต่เดิมต่อไป

    แต่แล้ว เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามความประสงค์ จึงต้องเลิกล้มความตั้งใจเดิมอย่างฉับพลัน

    ด้วยท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสฺโส อ้วน) ในสมัยที่ยังดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมปาโมกข์ เจ้าคณะมณฑลนครราชสีมา ร่วมกับคณะสงฆ์ ได้สถาปนาวัดบูรพาราม ขึ้นเป็นวัดธรรมยุตแห่งแรกของจังหวัดสุรินทร์ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖

    มีบัญชาให้ พระมหาพลอย อุปสโม ป.ธ.๖ จากวัดสัมพันธวงศาวาส กรุงเทพฯ เดินทางมาจัดการฟื้นฟูการศึกษา

    ขณะเดียวกัน ก็มีบัญชาให้ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล มาช่วยท่านอีกแรงหนึ่งด้านวิปัสสนาธุระ

    ในขณะนั้น วัดบูรพาราม กำลังอยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมมาก เนื่องด้วยก่อสร้างมานานร่วม ๒๐๐ ปี ต้องการการบูรณะซ่อมแซมเพื่อให้กลับฟื้นคืนสู่สภาพที่ดี และให้เป็นศูนย์การศึกษาทางพระพุทธศาสนาทั้งฝ่ายปริยัติและฝ่ายวิปัสสนา ตามความดำริของคณะสงฆ์

    ด้วยเหตุที่หลวงปู่ดูลย์ อตุโล นั้นเป็นพระภิกษุผู้เจริญด้วยคุณธรรม มีความเป็นผู้ว่านอนสอนง่าย จึงไม่อาจขัดบัญชาของพระเถระผู้บริหารการคณะสงฆ์ได้ จึงต้องเดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ เพื่อปฏิบัติศาสนกิจตามที่ได้รับมอบหมาย

    เป็นอันว่า ความประสงค์ที่จะออกธุดงค์ เพื่อบำเพ็ญคุณธรรมส่วนตัวให้ยิ่งขึ้นไป ซึ่งได้รั้งรอไว้ถึง ๖ ปี จำเป็นต้องยกเลิกไปโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ต้องเดินทางกลับมาตุภูมิ เพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่ปวงชน โดยมีเป้าหมายแห่งศาสนกิจสำคัญ รออยู่ข้างหน้า ที่
    วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้บันทึกไว้ด้วยมือของท่านเองเอาไว้ว่า

    "มาอยู่วัดบูรพาราม เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๗ เป็นเจ้าคณะอำเภอรัตนบุรี เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙"

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  20. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><!--mstheme-->
    [​IMG]
    <SCRIPT language=JavaScript><!--MSFPhover = (((navigator.appName == "Netscape") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 3 )) || ((navigator.appName == "Microsoft Internet Explorer") && (parseInt(navigator.appVersion) >= 4 ))); function MSFPpreload(img) { var a=new Image(); a.src=img; return a; }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav1n=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav1h=MSFPpreload("../_derived/home_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav2n=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav2h=MSFPpreload("../_derived/history1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> <SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav3n=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav3h=MSFPpreload("../_derived/dharma1.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]<SCRIPT language=JavaScript><!--if(MSFPhover) { MSFPnav4n=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn.gif"); MSFPnav4h=MSFPpreload("../_derived/picture.htm_cmp_nature110_hbtn_a.gif"); }// --></SCRIPT> [​IMG]
    <!--mstheme-->
    </TD></TR><!--msnavigation--></TBODY></TABLE><!--msnavigation--><TABLE dir=ltr cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><!--msnavigation--><TD vAlign=top><!--mstheme-->โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
    ๓๔. วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์


    วัดบูรพาราม ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองสุรินทร์ หากถือเอาคูเมืองและกำแพงเมืองโบราณเป็นบรรทัดฐาน ก็จะมองเห็นที่ตั้งของวัดสำคัญๆ ในเมืองสุรินทร์ได้ดังนี้

    ขณะที่วัดจุมพลสุทธาวาส วัดพรหมสุรินทร์ วัดหนองบัว วัดจำปา และวัดศาลาลอย ถือได้ว่าเป็นวัดนอกตัวเมือง ตั้งอยู่ติดกับคูเมืองด้านนอก เรียงรายรอบตัวเมือง

    สำหรับวัดบูรพาราม กับวัดกลาง ๒ วัดนี้ ถือได้ว่าเป็นวัดที่อยู่ภายในกำแพงชั้นใน คือ อยู่ในใจกลางเมืองสุรินทร์

    วัดบูรพาราม เป็นวัดเก่าแก่เกิดขึ้นมาพร้อมกับตัวเมืองสุรินทร์ ตั้งแต่ครั้งยังเรียกว่า เมืองประทายสมันต์ หรือ เมืองไผทสมันต์ นั่นเทียว

    สันนิษฐานว่าวัดบูรพาราม สร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี หรือสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ปี เท่าๆ กับอายุของเมืองสุรินทร์

    ตามตำนานของเมืองสุรินทร์เล่าขานกันมาว่า เมื่อ พระยาสุรินทร์ภักดี ศรีณรงค์จางวาง (เชียงปุม) ได้ตำแหน่ง จางวางเมืองประทายสมันต์ ก็เริ่มทำนุบำรุงบ้านเมือง ด้วยการ "ฝึกฟื้นใจเมือง" ตามธรรมเนียมการพัฒนาบ้านเมืองของไทยที่นิยมสืบทอดกันมาแต่โบราณ

    คือ ส่งเสริมการพระศาสนาให้เจริญ ควบคู่กับการบำรุง "กายเมือง" หรือพัฒนาด้านวัตถุให้เจริญควบคู่ไปด้วยกัน

    วัดบูรพาราม ได้รับการปลูกสร้างขึ้นที่ใจกลางเมืองพอดี จึงเป็นวัดที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองชั้นใน

    เนื่องจากวัดแห่งนี้สร้างขึ้นมานาน สภาพจึงชำรุดทรุดโทรม ทางคณะสงฆ์มณฑลนครราชสีมา มีความประสงค์ที่จะบูรณะขึ้นใหม่ และสถาปนาเป็น วัดธรรมยุตแห่งแรกในจังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๖

    เมื่อหลวงปู่ดูลย์ ได้รับบัญชาจากท่านเจ้าคณะมณฑล ให้มาดูแลบูรณะวัดบูรพาราม ท่านจึงรับภาระนี้ด้วยความเต็มใจ

    หลวงปู่ดูลย์จึงงดกิจด้านออกธุดงค์ และพำนักประจำที่วัดบูรพารามนี้ ติดต่อกันตลอดมาตราบเท่าถึงวันมรณภาพของท่าน ซึ่งท่านอยู่ประจำที่วัดแห่งนี้ รวมเวลาทั้งสิ้น ๕๐ ปี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

แชร์หน้านี้

Loading...