ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "วัคซีนเชื้อเป็น"
    สำหรับไข้หวัดใหญ่ 2009 ความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง


    ในขณะที่หลายคนกังวลว่า ไทยจะผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ได้ไม่ทันความต้องการ แต่ยังมีสิ่งที่ต้องจับตานอกเหนือจากนั้น นั่นคือความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้วัคซีน "เชื้อเป็น" ที่ยังไม่ชัดเจนว่าก่อความรุนแรงต่อผู้รับวัคซีนหรือทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงพันธุกรรมในไวรัสไข้หวัดใหญ่หรือไม่ และมีเพียง สหรัฐฯ และรัสเซียที่ทำก่อน ส่วนไทยเพิ่งจะเริ่มศึกษาไปพร้อมๆ กับอินเดีย​

    รศ.นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าว ระหว่างการเสวนา "แผนการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ระดับโรงงานขนาดใหญ่" ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สวทช. ณ อาคาร สวทช. (ถนนโยธี) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 20 ส.ค.52 ซึ่งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์เข้าร่วมฟังด้วยว่า วัคซีน ไข้หวัดใหญ่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นผลิตมา "เชื้อตาย" (Inactivated vaccine) ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ แต่ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมกำลังผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จาก "เชื้อเป็น" (Live attenuated vaccine) ของไวรัส​

    การผลิตวัคซีนจากไวรัสเชื้อเป็นนั้น รศ.นพ.ประสิทธิ์ อธิบายคร่าวๆ ว่าเป็นการทำให้เชื้อไวรัสอ่อนแรง แล้วให้เข้าไปเจริญเติบโตในร่างกายได้ แต่อ่อนแอเกินกว่าจะเกิดโรคและทำอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งข้อ แตกต่างระหว่างการใช้เชื้อเป็นและเชื้อตาย คือถ้าใช้วัคซีนเชื้อตายจะต้องฉีดให้แก่ผู้รับในปริมาณมาก ขณะวัคซีนเชื้อเป็นจะฉีดให้ผู้รับในปริมาณที่น้อยกว่า​

    ดังนั้น เมื่อเกิดการระบาดจึงเลือกใช้ "เชื้อเป็น" เพื่อผลิตวัคซีน แต่ปัญหาคือวัคซีนจากเชื้อเป็น จะใช้ได้กับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันดีและสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีมีผู้ที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี เช่นผู้ที่ผ่านการทำเคมีบำบัด ป่วยเรื้อรัง ที่อาจเกิดอาการไม่ดีเมื่อวัคซีนได้​

    สำหรับเชื้อเป็น ของไวรัสไข้หวัดใหญ่นั้น ถูกทำให้อ่อนแรงโดยนำไปแช่ที่อุณหภูมิต่ำ ทำให้เจริญเติบโตได้ไม่ดี แต่ยังไม่ตาย ซึ่ง ภก.สิทธิ์ ถิระภาคภูมิอนันต์ ผู้อำนวยการกองผลิตวัคซีนจากไวรัส องค์การเภสัชกรรม (อภ.) อธิบายว่า เชื้อไวรัสตั้งต้นสำหรับผลิตวัคซีน จะเติบโตที่อุณหภูมิ 32-33 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเจริญเติบโตได้ที่ทางเดินหายใจตอนต้น แต่จะอยู่ไม่ได้ที่อุณหภูมิตั้งแต่ 37 องศาเซลเซียสขึ้นไป​

    ทั้งนี้ ข้อควรระวังในการใช้วัคซีนจากเชื้อเป็นคือ ไม่ใช้กับผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง คนท้อง ผู้ป่วยหอบหืด ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่างๆ และใช้ในเด็กได้ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป​

    ทั้งนี้มีประเทศที่ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่จากเชื้อเป็นอยู่แล้วคือสหรัฐฯ และรัสเซีย ส่วนประเทศที่กำลังศึกษาคือไทยและอินเดีย โดยไทยนำเข้าเชื้อไวรัสอ่อนแรงจากรัสเซีย ซึ่งมีการทดสอบว่าใช้ได้ในเด็ก และการทดสอบวัคซีนต้องแน่ใจได้ว่า เชื้อจะไม่เติบโตได้ที่อุณภูมิสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส พันธุกรรมของเชื้อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และมีการทดสอบตามข้อกำหนดก่อนนำออกไปใช้​

    อย่างไรก็ดี ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ด้านค้นคว้าและอบรมโรคติดเชื้อไวรัสสู่คน ซึ่งเข้าร่วมเสวนาด้วยนั้น ได้กล่าวกับทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ถึงประเด็นที่ควรต้องจับตามองต่อวัคซีนไข้หวัดใหญ่สาย พันธุ์ 2009 จากเชื้อเป็นว่า ยัง ไม่เคยมีประเทศใดใช้วัคซีนไข้หวัดใหญ่จากเชื้อเป็น ทั้งนี้ต้องตั้งคำถามว่ามีประเทศไหนบ้าง ที่ใช้วัคซีนจากเชื้อเป็น เพื่อความอุ่นใจ ซึ่งหากมีประเทศที่ทำได้แล้ว เราจะได้สอบถามได้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่​

    อีกทั้งเชื้ออ่อนกำลังที่นำมาจากรัสเซียนั้น ต้องมีข้อมูลที่ชัดเจนในสัตว์ทดลองว่าสร้างภูมิคุ้มกันได้ทั้งในระดับเซลล์ และในภูมิคุ้มกันของร่างกายหรือไม่ แล้วใช้สัตว์ในการทดลองไปกี่ตัว เมื่อทดลองฉีดเชื้อในสัตว์แล้วยังมีไวรัสปล่อยออกมาจากสัตว์ได้กี่วัน ซึ่งประเด็นหลังนี้ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ได้ยกตัวอย่างกรณีให้วัคซีนโปลิโอทางปากแก่เด็กแล้ว ได้ไวรัสที่มีพันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปออกมาทางอุจจาระของเด็ก และพ่อซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับเด็กแล้วได้รับเชื้อดังกล่าวไปกลายเป็นอัมพาต​

    อีกตัวอย่างคือกรณีไข้หวัดใหญ่หมูที่ระบาดเมื่อปี ค.ศ. 1976 นั้น สหรัฐฯ ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชากร และภายหลังจากนั้น 6 สัปดาห์เกิดพบผู้มีอาการแขนขาอ่อนแรงและเส้นประสาทอักเสบ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีเชื้อปนเปื้อนจากขั้นตอนการผลิตวัคซีนในไข่ที่มีเชื้อ ปนเปื้อนอยู่ โดยวัคซีนทำให้เกิดภูมิคุ้มกันวิกฤตที่ทำลายเส้นประสาทตัวเอง ซึ่งการใช้วัคซีนกับประชากร 6-7 พันคนไม่พบอาการดังกล่าว แต่พบเมื่อใช้วัคซีนกับประชากร 40-45 ล้านคน​

    " สิ่งที่คาดเดาไม่ได้คือในไวรัสของวัคซีนนั้นทำให้เกิดภูมิคุ้มกันวิกฤตขึ้น หรือไม่ แต่เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับในกรณีของการระบาดขึ้นมา" ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าวถึงความเสี่ยงจากการใช้วัคซีนเชื้อเป็นที่เราต้องยอมรับ ซึ่งต่างจากวัคซีนเชื้อตายที่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง แต่กำลังการผลิตจะไม่ทันต่อการระบาด​

    นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดของวัคซีนเชื้อเป็นตรงที่ใช้ได้กับผู้ที่มี อายุระหว่าง 2-49 ปีเท่านั้น ขณะที่เด็กและคนชราเป็นกลุ่มที่ควรได้รับวัคซีน แต่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะใช้วัคซีนเชื้อเป็น.​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ยุ่งอีก! "ฮอลแลนด์" เจอ อี. โคไล คนละสายพันธุ์กับที่ระบาดในเยอรมนี-ยุโรป </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>เอพี รายงานว่า ทางการเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่า

    ได้มีคำสั่งให้ระงับการขายหัวบีทที่ปลูกโดยเกษตรกร หลังจากตรวจพบการปนเปื้อนของแบคทีเรีย "อี. โคไล" แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับแบคทีเรียมรณะที่ระบาดในเยอรมนีและยุโรปขณะนี้



    สำนักงานความปลอดภัยอาหารของเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า

    สหภาพยุโรป (อียู) แจ้งว่าผักของเนเธอร์แลนด์ที่เป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยถูกพบในเยอรมนี โดยตัวอย่างหัวบีทในเนเธอร์แลนด์ที่ถูกตรวจสอบได้รับการยืนยันว่ามีการปนเปื้อนเชื้อ อี.โคไล แต่เป็นคนละสายพันธุ์กับที่คร่าชีวิตผู้คนไป 27 ราย และล้มป่วยอีก 2,900 คน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเยอรมนี


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> พบกัดดาฟีสั่งทหารข่มขืนหญิงกบฏอื้อ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=left><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top> คมชัดลึก :นิวยอร์ก-อัยการศาลโลกชี้พบหลักฐานว่าผู้นำลิเบียสั่งให้ทหารข่มขืนหญิงฝ่ายกบฏหลายร้อยคนเพื่อข่มขู่ให้กลุ่มกบฏสลายตัว เตรียมดำเนินคดีกัดดาฟีอีกข้อหา




    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) ว่า นายลูอิส โอเรโน โอคัมโป หัวหน้าอัยการประจำศาลอาญาระหว่างประเทศ

    ที่มีสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า มีหลักฐานบ่งชี้ถึงการกระทำผิดของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียในการปราบปรามกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาล ด้วยการสั่งการให้ทหารฝ่ายที่สนับสนุนตนเองข่มขืนกระทำชำเราหญิงฝ่ายกบฏ ซึ่งถือเป็นการกดขี่ประชาชนในอีกรูปแบบ โดยอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศได้ยื่นเรื่องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศเพื่อพิจารณารับดำเนินคดีดังกล่าวต่อผู้นำลิเบีย ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในไม่กี่วัน



    นายโอคัมโประบุด้วยว่าพบหลักฐานว่าพันเอกกัดดาฟีได้ออกคำสั่งดังกล่าวด้วยตนเอง และพบว่ามีหญิงสาวหลายร้อยคนในหลายพื้นที่ของลิเบียตกเป็นเหยื่อหื่นของทหารที่เข้าสลายกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลที่ปฏิบัติการต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา


    นอกจากนั้นยังพบด้วยว่ารัฐบาลลิเบียได้จัดซื้อยากระตุ้นอวัยวะเพศที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับ "ไวอากร้า" จำนวนมาก และแจกจ่ายให้แก่ทหารเพื่อดำเนินการตามนโยบายการปราบกลุ่มกบฏด้วยการข่มขืนผู้หญิง ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีจุดเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อใด

    รัฐบาลลิเบียยังไม่มีการแถลงใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว


    ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม มีรายงานเกี่ยวกับการที่ทหารลิเบียข่มขืนผู้หญิงที่กลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลก หลังจากที่อีมาน อัล-โอเบย์ดี หญิงสาวชาวลิเบียหนีเข้าไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงตริโปลี และเปิดเผยว่าตนถูกทหารลิเบียข่มขืน ก่อนที่จะถูกนำส่งไปบำบัดฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ศุนย์ผู้อพยพในโรมาเนีย


    นอกจากนั้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายโอคัมโปได้เรียกร้องให้ผู้พิพากษาศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับพันเอกกัดดาฟี นายซาอีฟ อัล อิสลาม

    ลูกชายคนที่ 2 ของพันเอกกัดดาฟี และนายอับดุลเลาะห์ อัล-ซานัสซี หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง โดยกล่าวหาว่า พวกเขาได้ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ 2 รูปแบบ ทั้งฆาตกรรมและการกดขี่ และระบุว่าผู้นำลิเบียและพวกต้องรับผิดชอบครั้งใหญ่ต่อการโจมตีพลเรือน ระหว่างการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้ประชาชนราว 500-700 คนเสียชีวิต แต่รัฐบาลลิเบียไม่ยอมรับอำนาจของศาลอาญาระหว่างประเทศ


    ด้านกองกำลังภายใต้การนำของกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันว่าจะยังคงโจมตีกดดันกองกำลังของพันเอกกัดดาฟีต่อไปจนกว่าพันเอกกัดดาฟีจะยอมลงจากตำแหน่ง นอกจากนั้นอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ที่เข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรจัดประชุมหารือกับจอร์แดน คูเวต และกาตาร์ พันธมิตรอาหรับที่ร่วมส่งทหารเข้าโจมตีกองกำลังรัฐบาลลิเบียในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการลิเบียหลังจากที่พันเอกกัดดาฟีก้าวลงจากตำแหน่ง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ทั่วทุกภาคมีฝนกระจายตกหนักบางแห่ง คลื่นลมทะเลแรง ระวังอันตรายจากการเดินเรือ 10-14 มิ.ย.นี้ </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ อ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคยังมีฝนกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้นขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 10-14 มิ.ย. 2554

    อนึ่ง พายุโซนร้อน “สาลิกา” (SARIKA) บริเวณทะเลจีนใต้ได้พัฒนาตัวขึ้นมาจากพายุดีเปรสชันเมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้(10 มิ.ย.54) มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    มีทิศทางการเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนทางตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในระยะต่อไป

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี ขอนแก่น
    สกลนคร และนครพนม
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา
    อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
    อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    Project End Game
    ปี ค.ศ.2011 กับการสังหารคนด้วยไวรัส


    From : XterRitzon

    เนื่องจากหลายวันก่อนพวกผมและกลุ่มแครกเกอร์จากใต้ดิน กลุ่มหนึ่งจากนานาชาติ ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ได้แฮ็กเข้าระบบฐานข้อมูลลับสุดยอกของรัฐบาลอเมริกา, CIA, และรวมทั้งหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ FBI ด้วย จากข้อมูลที่ได้มานั้นมีเรื่องนึงที่น่าสนใจมาก ๆ เกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่2009 (เค้าว่างั้น) ​

    ใจความคร่าวๆเลยก็คือ ในไฟล์ดาต้าเบสระบุว่า ไอ้เชื้อนรกนี้มันไม่ได้กลายพันธุ์จากหมูอย่างที่เป็นข่าว แต่มันกลายพันธุ์มาจากหมานั่นเอง เป็นเชื้อไวรัส Rabies ซึ่งอยู่ในสาย Family Rhabdoviridae, genus Lyssavirus หรือเรียกภาษาเราๆว่า เชื้อพิษสุนัขบ้า ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายได้ การกลับมาครั้งนี้มันได้เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมและโครโมโซมใหม่ และได้รวมเข้า กับ เชื้อ Influenza virus หรือที่เรียกง่ายๆว่าไข้หวัดใหญ่คนนั่นแหละครับ​

    แต่ครั้งนี้มันได้ถูกดัดแปลงพันธุ์กรรมใหม่ ทำให้รับมือได้ยากมาก จะสังเกตุได้ว่าเชื้อ 2 ชนิดนี้จะติดต่อกันทางน้ำลายเป็นหลัก และทางอากาศด้วย โดยเชื้อตัวนี้มีคุณสมบัติของทั้ง 2 โรครวมกันเลย แต่ของไวรัส Rabies ยังถูกข่มอยู่ ก็เลยยังไม่แสดงผลที่แน่ชัด แต่คาดว่าอีกไม่นานการกลับมาระบาดครั้งที่สองของเชื้อนรกนี้มันจะแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่แน่นอน จากการสังเกตุพบว่าขณะนี้เชื้อไวรัสนี้ได้ทำให้คนที่ติดเชื้อแค่ปวดหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย บางรายจะมีอาการชักกระตุก และมีอัตราผู้ที่เสียชีวิตต่ำมาก ๆ ​

    ซึ่งแน่นอน ก็นั่นมันเชื้อไวรัสชนิดไม่รุนแรง ที่เป็นแผนการณ์ปล่อยระบาดระลอกแรกขององค์กรลับองค์กรหนึ่ง และในอนาคตจะมีการปล่อยระบาดครั้งที่สองและจะเป็นการระบาดครั้งร้ายแรงมากๆ ซึ่งเป็นการปล่อยเชื้อไวรัสชนิดที่กลายพันธุ์สมบูรณ์ให้มาระบาดในระลอกที่สองนั่นเอง นั่นก็หมายถึงหายนะครั้งใหญ่ของมนุษยชาติเลยทีเดียว ซึ่งทางนั้นบอกว่า อาการในครั้งนี้จะติดต่อกันได้ไวมาก ส่วนใหญ่จะทางน้ำลาย และของเหลวในตัวผู้ติดเชื้อเป็นหลัก และอาจจะทางอากาศด้วยนิดหน่อย นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวเชื้อไวรัสเอง ​

    อาการของผู้ที่ติดเชื้อก็คือ จะมีอาการทางประสาทอย่างชัดเจน จำใครไม่ได้เลยแม้แต่ผู้ที่ไกล้ชิด อาจจะไล่ทำร้ายคนรอบข้างอย่างบ้าคลั่ง รูม่านตาเปิด แพ้แสง และสมองจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง คือพูดง่ายๆ คนๆนั้นจะไม่มีทางหายเป็นปกติได้เลย!!! บ้าไปตลอดชีวิตนั่นเอง เนื่องจากสมองถูกทำลายไปบางส่วน จึงทำให้ผู้ติดเชื้อจะไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ซึ่งมันก็เหมือนคนที่ตายไปแล้วนั่นเอง (ที่จริงหากนึกถึงหนังเรื่อง 28 days later ก็คงจะทำให้เข้าใจง่ายกว่า) และแผนรับมือนั้น ทางอมเริกาก็ยังไม่ระบุแน่ชัด แต่ได้อ้างว่ามีแผนสำรองเตรียมไว้แล้วนั่นคือ กักกัน และทำลาย !! (อันนี้ผมยังไม่ทราบความหมายที่แน่ชัด แต่เท่าที่รู้มาว่าขณะนี้ทางรัฐบาลอเมริกาได้ทำการสร้างค่ายกักกันไว้ทั่วประเทศแล้ว ชื่อว่า FEMA camp คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่วันข้างหน้า) ​

    เมื่อไม่กี่วันมานี้ พวกเราสืบค้นจนทราบว่า พวกที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ทั้งหมดก็คือองค์กรลับองค์กรหนึ่งนามว่า Illuminati ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีพวก Reptilian (พวกต่างดาวสายพันธุ์หนึ่ง) มีเอี่ยวด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย และรู้สึกว่าจะเป็นหัวโจกซะด้วย! ในข้อมูลไฟล์ยังระบุว่า จากการตรวจสอบดูลักษณะพันธุกรรม และ โครโมโซม ของไวรัสนี้แล้วพบว่าความลับบางอย่างแฝงอยู่ และการจะคิดค้นวัคซีนขึ้นมาป้องกันไวรัสชนิดนี้นั้นด้วยเทคโนโลยี่ของเราตอน นี้ไม่สามารถกระทำได้ มันต้องพึ่งพากระบวนการผลิตอันจะต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อย่างการแปรสภาพแบคทีเรียโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นต้น ​

    ซึ่งขณะนี้พวกกลุ่ม Illuminati ได้มีวัคซีนไว้ในครอบครองจำนวนหลายล้านโดส โดยอาสัยเทคโนโลยีของพวก Reptilian ในการผลิตวัคซีน และพวกมันมีแผนแพร่กระจายไวรัสให้ระบาดไปทั่วโลกระลอกที่สองในเร็วๆนี้ ตามแผนการกำจัดประชากรมนุษย์ขยะทิ้งกว่าค่อนโลก (New World Order) !!ของพวกมัน ไวรัสตัวนี้ถูกทดลองครั้งแรกที่เมือง Bonanza City ซึ่งอยู่ในรัฐนิวเม็กซิโก จนเกิดการระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสนี้จำนวน 3 ระลอก ระลอกแรกที่ทำการปล่อยไวรัสตัวนี้ครั้งแรกในปี 1889 ระลอกที่สองในปี 1897 และระลอกสุดท้ายในปี 1911 (โดยสองระลอกแรกเป็นชนิดที่ยังไม่ได้กลายพันธุ์อย่างสมบูรณ์ ​

    จึงยังไม่มีความรุนแรงมากนัก และระลอกที่สามซึ่งเป็นระลอกสุดท้าย จะเป็นชนิดที่รุนแรงกว่า และมีการณ์กลายพันธุ์ของไวรัสอย่างสมบูรณ์แล้ว) ส่งผลให้ประชาชนพลเมืองที่นี่ล้มตายไปกว่าค่อนเมือง และในปี 1911 นั้นเอง ทางรัฐบาลได้สั่งปิดเมือง และทำลายทั้งเชื้อไวรัสทั้งพลเมืองไปจนหมดสิ้น พร้อมกับปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับระดับสุดยอด โดยให้ข่าวว่าเมืองนี้ถูกไฟเผาผลาญวอดทั้งเมืองจากเหตุระเบิดของเหมืองถ่าน หินที่อยู่ใต้เมือง ส่งผลให้เมือง Bonanza City นี้กลายเป็นเมืองร้างมาจวบจนทุกวันนี้!​

    การทดลองแพร่เชื้อครั้งที่ 2 นี้เกิดขึ้นที่เมือง Centralia รัฐเพนซิลเวเนีย ในปี 1981 ส่งผลให้ชาวเมือง Centralia เสียชีวิตลงกว่าค่อนเมือง จนทางรัฐบาลต้องประกาศทำลายเมือง Centralia ไปพร้อมกับพลเมืองโดยไม่สนว่าใครจะติดเชื้อหรือไม่!? และได้ทำลายเชื้อโรคไปจนหมดเช่นกัน แต่ก็ไม่วายสั่งให้ปิดเมืองนี้ซะ พร้อมด้วยปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับระดับสุดยอดเช่นเคย โดยอ้างว่าพื้นที่เมือง Centralia เป็นเมืองที่ประสบภัยเหมืองถ่านหินระเบิด ทั้งเมืองถูกเปลวเพลิงเผาวอดทั้งเมือง และควันพิษจากใต้เหมืองได้คร่าชีวิตพลเมืองไปจนหมดสิ้น จนกระทั่งปัจจุบัน เมืองนี้ก็ยังคงถูกปิดตายอยู่พร้อมกับความลับระดับสุดยอด!! และ ตอนนี้ เป้าหมายของพวกมันก็คือพลเมืองโลกครับ! หากแต่ไม่ใช่การทดลองตามเมืองชนบทต่างๆอีกต่อไป.....​

    -------------------------------------------------------------------------------​

    From : ไอย

    (เกมไพ่ชื่อ อิลลูมินเนติ-illuminati มีรายละเอียดครบทั้งเรื่องโรคซาร์ส แต่เกิดก่อนการก่อการร้้ายถล่มตึกเวิลด์เทรด และเพนตากอนถึง 6 ปี) จากบล็อกกึ่งเวปของ แอทคลาวด์ ผู้เขียนคือ fernezzo เป็นคนหนุ่มซึ่งมี ความคิดไกล มีข้อมูลมาก กล้าเปิดเผยต่อสารธารณชน เหมือนกับคุณเทอรัน ข้อเขียนของคนแรกก็มีรายละเอียดยิบเลยครับ ทั้งวันเวลา ตัวบุคคล ทั้งภาพ ซึ่งตอนนี้เราไม่ได้เอาไว่อ่านเพื่อความมันสะใจ แต่เราจะคลำหาเจตนา ดูพิรุธ ของรัฐบาลเงาของโลกที่ค่อยๆ เผยออกมาเรื่อยๆ และมันชัดเจนมาก เช่นเรื่องการบังคับหรืออาจจะบังคับฉีดยาไข้หวัด 2009 ในอนาคต..​

    ความจริงโรคนี้ระบาดมาสองครั้งแล้ว มีคนราว 4,000 คนเริ่มมีอาการอัมพาตหลังจากรับวัคซีน ในจำนวนนี้ 60 เปอร์เซนต์มีอาการหนัก และเสียชีวิตเป็นส่วนใหญ่ มีหญิงคนหนึ่งฟ้องรัฐบาล ได้เงินชดเชยมา 12 ล้านเหรียญ มารอบนี้องค์การอนามัยโลกออกมาเอง และเปลี่ยนชื่ออำพรางจากแพนเดมิคเป็นไข้หวัดหมู Swin flu 2009 แค่ชื่อก็ยำใหญ่ใส่ไข่แล้วครับ ตัวอย่างง่ายๆ ในประเทศไทย เราตั้งด่านสกัดทุกจุด แต่โรคนี้โผล่ มากลางกรุงเทพ และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมกับพูดเป็นนัยว่า มันจะกลายมารวมกับไข้หวัดนก (พูดเหมือนรู้ล่วงหน้าเลย)​

    (ตอนนี้ทางตะวันตกตื่นตัวมากเมื่อรู้ว่า อิลลูมิเนติ ได้โปรยเชื้อโรคจากเครื่องบิน เพื่อการจัดระเบียบโลกใหม่)​

    ---------------------------------------------------------------------------------​

    From : Jimmy

    1. หน่วยงานที่ดูแลเรื่องไข้หวัด หรือ CDC (หน่วยงานที่ควบคุมการระบาดของโรคติดต่อของประเทศสหรัฐอเมริกา) จะประกาศเรื่อง Outbreak หรือการระบาดของไข้หวัด Swine Flu หรือไข้หวัด 2009​

    2. รัฐบาลจะประกาศภาวะฉุกเฉิน หรือ Martial Law หรือกฏอัยการศึกเพื่อให้ coresponse หรือตอบสนอง กับข้อ 1​

    3. จะมีการบังคับฉีดวัคซีน Swine Flu โดยจะเริ่มที่เด็ก และหญิงมีครรภ์ คนสูงอายุ และคนปกติตามลำดับ (เค้าผ่านกฏหมายฉบับนี้แล้วใน Lower State 40 กว่ารัฐ)​

    4.ถ้าใครที่่ "ไม่รู้ทัน" พอที่จะไปรับวัคซีนแล้ว เค้าจะให้สวม Bracelet หรือสายรัดข้อมือที่เป็นเหล็กและมีไมโครชิพฝังอยู่ซึ่งจะเก็บข้อมูลส่วนตัว ของคนๆ นั้นทั้งหมด​

    5. Martial Law จะทำการ bypass หรือระงับใช้รัฐธรรมนูญทั้งหมด คือลืมไปเลยเรื่องสิทธิ เสรีภาพของประชาชน เค้าจะตั้งจุดตรวจของเค้าเรียกว่า Check Point ตามแยกต่างๆ ที่สำคัญทั่วทุกเมืองของอเมริกา โดยหน่วยงานของ CDC และตำรวจท้องถิ่น ถ้าไม่มีข้อมือนี้จะเดินทางไม่ได้ในอเมริกาทั้งหมดครับ​

    6. เมื่อมาถึงจุดตรวจเค้าจะขอดูที่ข้อมือก่อน ถ้าใครไม่มีคือไม่ได้รับวัคซีน เค้าจะมีให้เลือก 2 ทาง คือรับวัคซีนเดี๋ยวนั้นเลย แล้วได้สายรัดข้อมือไป (แล้วค่อยๆ ล้มป่วยและตายในที่สุด) อีกทางเลือกนึงคือต้องขึ้นรถบัสไปเข้าค่ายกักกันเชื้อโรค หรือ FEMA CAMP ( YT: FEMA Camp, FEMA Coffin ) ที่กระจายอยู่ทั่วทุกเมืองในอเมริกาตอนนี้ ในค่ายนั้นมีอะไรหรือเป็นยังไง ก็ให้ไปดูที่พวกนาซีเยอรมันเคยทำ "ไม่ต่างกัน" ใครที่เคยเห็นวีดีโอแล้ว นั่นแหละที่เค้าเตรียมทั้งหมดก็เพื่อการนี้ (สังเกตุไม๊ครับว่าทำไมช่วงนี้ วงการหนังฮอลลีวูดทำหนังเกี่ยวกับนาซีเยอรมันออกมาเต็มไปหมด ตั้งแต่ Valkyrie ที่แสดงโดยทอม ครูซ "เค้ากำลังบอกอะไรเราครับ" ของจริงครับ)​

    7. จากข้อ 6 ใครที่เข้าเมืองหรืออยู่อย่างผิดกฏหมาย เค้าคงเอาเข้า FEMA CAMP หรือค่ายกักกันเลย ไม่ต้องคุย ไม่ต้องหาทนาย หรือต่อรองอะไร เพราะคุณไม่มีสิทธิ์อยู่แล้ว หรือแม้แต่จะยืนอยู่ตรงนั้น ณ เวลานั้น​

    8. ส่วนใครที่คิดว่าจะหลบได้ตลอดก็ต้องอยู่ในบ้านอย่างเดียว ห้ามเดินทาง แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเค้าจะออกตรวจหรือไม่ และอย่าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเค้าประกาศ Martial Law อำนาจอยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เค้าจะเป็นคนต้ดสินสถานภาพของคุณ คุณไม่มีสิทธ์เลือก เพราะคุณ "ฝ่าฝืนกฏหมายโดยการไม่รับวัคซีนและซ่อนตัว" ​

    ---------------------------------------------------------------------

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    รอยเท้าประหลาด ปทุมธานี

    รอยปริศนาโผล่ระยะทางยาว 150 เมตร มีรอยเล็บยาวจากอุ้งเท้าด้วย เชื่อเป็นสิ่งมีชีวิตน้ำหนักตัวมาก
    9 มิ.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านในซอยสุขสมบูรณ์ หมู่ 7 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบรอยเท้าปริศนาไม่ทราบว่าเป็นของสิ่งมีชีวิตชนิดใด เดินเต็มถนนภายในซอย ระยะทางยาวประมาณ 150 เมตร เป็นที่แตกตื่น สร้างความสงสัยให้กับชาวบ้านอย่างมาก
    ทั้งนี้ รอยเท้าดังกล่าวปรากฏบนถนนคอนกรีต เริ่มปรากฏที่หน้าบ้านเลขที่ 1/2 ไปสิ้นสุดที่บริเวณปากซอยที่เป็นทางโค้ง รอยดังกล่าวก็หายไป ซึ่งรอยเท้าดังกล่าวยาว 16 ซ.ม. กว้าง 8 ซ.ม. มีความยาวของเล็บที่ออกมาจากอุ้งเท้า 5 ซ.ม. พบจำนวนทั้งหมดประมาณ 100 รอยเท้า
    ด้าน ชาวบ้านที่พบเห็นรอยเท้า เล่าว่า เมื่อตนเดินออกมาจากบ้านก็พบว่ามีรอยเท้าประหลาดอยู่หน้าบ้าน โดยรอยเท้าดังกล่าวไม่ใช่รอยเท้าของสุนัข อย่างแน่นอน จึงตามเพื่อนบ้านออกมาช่วยดู และมีการนำน้ำมาราดที่พื้นถนน พร้อมใช้มือขัด แต่รอยเท้าดังกล่าวก็ไม่หายไป ซึ่งเมื่อคืนนี้ตอนตีหนึ่ง สุนัขที่เลี้ยงไว้ในบ้านเห่าหอนอยุ่นาน แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจ
    ส่วน นายเสน่ห์ ชะวัยเกตุ อายุ 65 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า จากการตรวจสอบคาดว่ารอยเท้าดังกล่าว ต้องเป็นรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตที่มีน้ำหนักตัวมาก เนื่องจากหากปรากฏรอยเท้าบริเวณใด พื้นถนนที่ทำด้วยคอนกรีตจะกัดกร่อนคล้ายถูกโซดาไฟราด จนบริเวณที่มีรอยเท้านั้นขาวสะอาดมองเห็นเด่นชัดขึ้นมา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าเป็นรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตชนิดใดกันแน่
    ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์
    Mthai News
     
  5. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ศูนย์ควบคุมโรคอเมริกา ออกคู่มือเตือนภัยคุกคามซอมบี้ Zombie


    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ "ซีดีซี" ออกประกาศเตือนสาธารณชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจาก "ซอมบี้"หรือพวกซากศพที่ถูกปลุกให้มีชีวิต ยืนยันภัยคุกคามจากซอมบี้ไม่ใช่เรื่องตลก...

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค.54 ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ "ซีดีซี" ออกประกาศเตือนสาธารณชนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจาก "ซอมบี้" หรือพวกซากศพที่ถูกทำให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

    รายงานข่าว ระบุว่า ซีดีซี สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ หลังมีการออกคู่มือฉบับที่ 101 Zombie Apocalypse เตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามจากซอมบี้ โดยทางซีดีซียืนยันว่า การจัดทำคู่มือฉบับดังกล่าวมิใช่เรื่องตลกแต่อย่างใด เนื่องจากข้อมูลและคำแนะนำต่างๆ ภายในล้วนมีประโยชน์สำหรับประชาชนหากเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น

    อา ลี ข่าน หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของซีดีซีที่อยู่เบื้องหลังการจัดทำคู่มือฉบับนี้ระบุว่า ประชาชนชาวอเมริกันควรจัดหาน้ำดื่ม อาหาร ยารักษาโรค เสื้อผ้า วิทยุที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ ชุดปฐมพยาบาล มาเตรียมไว้ให้เพียงพอ รวมถึงควรรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน

    ข่าวระบุว่า คำแนะนำต่างๆ ถูกจัดทำขึ้นสำหรับช่วยให้ชาวอเมริกันนำไปใช้ในการเอาชีวิตรอดให้ได้ในยามที่พวกซอมบี้ออกอาละวาด จนกว่าแต่ละครอบครัวจะสามารถเดินทางออกไปยังค่ายผู้อพยพของรัฐบาลที่เป็น "เขตปลอดซอมบี้" ได้

    ด้านเดฟ เดเกิล โฆษกของซีดีซีระบุว่า คู่มือดังกล่าวที่มีการนำไปโพสต์ไว้ในบล็อกของซีดีซี ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก และทางซีดีซีเชื่อว่า การออกคู่มือเกี่ยวกับการเตรียมตัวรับมือซอมบี้ สามารถเรียกความสนใจจากประชาชนได้มากกว่าการออกคำแนะนำธรรมดาๆ กรณีเกิดภัยพิบัติ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว คำแนะนำต่างๆ ในคู่มือฉบับนี้ก็มิได้แตกต่างจากคำแนะนำในการรับมือภัยธรรมชาติทั่วไปแต่อย่างใด.


    หมายเหตุ

    Project End Game ปี ค.ศ.2011 กับการสังหารคนด้วยไวรัส เริ่มปรากฏให้เห็นเป็นจริงแล้วครับ ท่านทั้งหลายลองคิดดูให้ดี ขนาดกองควบคุมโรคของสหรัฐยังบอกว่าไม่ใช่เรื่องตลก ก็แสดงว่ามีเค้าลางแห่งความเป็นจริงมากทีเดียว เพียงแต่พวกเขาไม่กล้าบอกประชาชนตามจริง จึงต้องเลี่ยงมาเป็นเรื่องซอมบี้แทนครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. sug552 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +250
    หนังที่อเมริกาทำขึ้นมาเป็นประเภทซอมบี้บุกเมืองเยอะมาก แล้วอย่างแบคทีเรียอีโคไลน์ ผมว่าต้องมีคนเอามาปล่อยเพื่อทดลองเชื้อแน่ ๆ
     
  7. ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    ใครมีข่าวชาวประมงจังหวัดชุมพรจับสัตว์ประหลาดได้ ช่วยส่งต่อด้วยนะครับ
     
  8. tuinipon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +84
  9. doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 14:20 น. ข่าวสดออนไลน์


    รอยเตอร์เผยภาพเปรียบเทียบครบ 3 เดือนดินไหว-สึนามิญี่ปุ่น

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    เมื่อ 10 มิ.ย. ในวาระครบ 3 เดือนเหตุการณ์มหันตภัยทางธรรมชาติ แผ่นดินไหวและสึนามิกระหน่ำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 23,000 ราย สำนักข่าวรอยเตอร์เผยแพร่ภาพเปรียบเทียบจากช่วงเกิดเหตุการณ์และสภาพเมืองในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เคลียร์ซากปรักหักพังของอาคารออกไปแล้ว
    ด้านเอพีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงนโยบายประจำปี ว่าจะมีมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตายของคนในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุหายนะดังกล่าว ต้องมีระบบสาธารณสุขด้านจิตใจดูแลในระยะยาว เพื่อป้องกันสภาพปัจจัยต่างๆ บั่นทอนจิตใจ อาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งญี่ปุ่นมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงระดับโลก เกือบ 25 คนจากประชากร 1 แสนคน






    ซัดกัดดาฟีใช้ไวอากร้าตั้งทัพข่มขืน



    เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 9 มิ.ย. คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) เปิดเจรจากรณีโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ใช้การข่มขืนเป็นอาวุธปราบปรามฝ่ายต่อต้าน ภายหลังอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศเปิดสอบสวนว่า นอกจากผู้นำลิเบียจะสั่งฆาตกรรม ทรมานและโจมตีพลเรือนไม่เลือกหน้าแล้ว ยังแจก 'ไวอากร้า' ยาปลุกเซ็กซ์ให้กับทหารพร้อมสั่งการให้ก่อเหตุข่มขืนหมู่ เพื่อทำลายฝ่ายต่อต้านรัฐบาล มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อหลายร้อยราย

    กัดดาฟีส่งผู้แทนรัฐบาลลิเบียจากกรุงตริโปลีไปปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ในที่ประชุมของยูเอ็นเอชอารŒซีที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยมีผู้แทนจากฝ่ายต่อต้านร่วมโต๊ะด้วย ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายลูอิส โมเรโน โอคัมโป หัวหน้าอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ เผยว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนข้อกล่าวหาที่เป็นไปได้ว่ากัดดาฟีสั่งให้ทหารข่มขืนหมู่หญิงสาวและสั่งซื้อยาปลุกเซ็กซ์จำนวนมากมาแจกจ่ายให้ทหาร ทั้งนี้ เมื่อเดือนมี.ค. หญิงชาวลิเบียถูกทหารข่มขืนและกักตัวไว้ในกรุงตริโปลี แต่สุดท้ายหนีรอดมาได้และถูกข่มขู่ห้ามเปิดเผยเรื่องราวต่อสื่อมวลชน

    จีนตายพุ่งน้ำท่วม-ฟ้าผ่าปักกิ่งทั้งคืน



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ซินหัวรายงานว่า เมื่อ 9 มิ.ย. ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งใหญ่เพราะฝนตกหนักในจีนพุ่งขึ้นเป็น 54 ราย โดยสองรายล่าสุดเป็นคู่สามีภรรยาสูงอายุในมณฑลเจียงซี ภาคตะวันออก ถูกบ้านพังลงมาทับ ขณะที่อีกบ้านพ่อแม่ลูกตายยกครัว 3 ศพ

    พายุฝนฟ้าคะนองที่ตกตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย. บรรเทาความแห้งแล้งให้กับตอนกลางและตอนล่างของลุ่มแม่น้ำแยงซีแต่ทำให้มณฑลตอนกลางและตอนใต้เสียหายหนัก 12 มณฑล ประชาชนเดือดร้อน 4.81 ล้านคน โดยมณฑลที่ประสบภัยหนักที่สุดคือกุยโจว มีผู้เสียชีวิต 21 ราย ชาวบ้านไร้ที่อยู่เกือบ 100,000 คน

    ขณะที่กรุงปักกิ่งเกิดฟ้าผ่ามากกว่า 1,000 ครั้งตั้งแต่กลางดึกคืนวันอังคารจนถึงรุ่งเช้าวันพุธ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนที่มณฑลเหอเป่ย ทางเหนือ พายุฝนพังกำแพงถล่ม ชาวบ้านเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 6 คน


    สลดชะตาด.ญ.โดนจับแต่งงาน




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
    ชีวิตถูกบังคับ - เด็กหญิงตะฮานี วัย 6 ขวบ (ซ้าย) แต่งงานกับสามีอายุ 25 ปี ส่วนเพื่อนนักเรียนที่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกัน (ขวา) ก็แต่งงานในวัยเยาว์เช่นกัน ที่เมืองฮัจจาห์ ประเทศเยเมน เรื่องราวดังกล่าวเป็นข่าวไปทั่วโลก เมื่อ 9 มิ.ย. (ภาพ-เนชั่นแนลจีโอกราฟิก)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เมื่อ 9 มิ.ย. เดลี่เมล์รายงานว่า ชีวิตของเด็กหญิงในอินเดีย เยเมน อัฟกานิสถาน เอธิโอเปีย และอีกหลายประเทศทั่วโลกตกอยู่ในวงจรอุบาทว์จากการถูกสังคมบังคับให้แต่งงานตั้งแต่ยังเด็ก บางคนวัยเพียง 5 ขวบ ถูกบังคับให้เข้าพิธีแต่งงานกับชายอายุคราวพ่อ หลายรายลงเอยด้วยการถูกข่มขืนซ้ำซาก ตั้งท้องครั้งแล้วครั้งเล่า ซ้ำถูกทำร้ายและขู่เอาชีวิตถ้าคิดหลบหนี

    ซินเธีย กอร์นีย์ กับสเตฟานี่ ซินแคลร์ นักเขียนและช่างภาพจากเนชั่นแนลจีโอกราฟิก เดินทางไปทำเรื่องราวด้านมืดของสังคมมาตีแผ่ โดยประเมินว่า มีเด็กหญิง 10-12 ล้านคนในประเทศกำลังพัฒนา ถูกจับแต่งงานทุกปี โดยในอินเดียมีกฎหมายระบุว่า หญิงแต่งงานได้ต้องอายุ 18 ปี แต่กลับมีกรณีเด็ก 5 ขวบชื่อ ราชานี ในรัฐราชสถาน ถูกลุงอุ้มจากเตียงตอนเที่ยงคืนไปแตˆงงานกับเด็กชายอายุ 10 ขวบ

    ส่วนที่เยเมน ด.ญ.ตะฮานี วัย 6 ขวบ แต่งงานกับเจ้าบ่าว วัย 25 ปี ส่วนอาเยชา วัย 10 ขวบ แต่งงานกับเจ้าบ่าววัย 50 ปี พี่สาวเล่าว่า อาเยชากรีดร้องเมื่อเห็นว่าที่สามี จากนั้นมีคนแจ้งความและตำรวจมา แต่พ่อบังคับให้น้องสาวใส่ส้นสูงและสวมผ้าคลุมหน้าอำพราง โดยขู่ว่าถ้าถูกจับเข้าคุกออกมาจะฆ่าลูกสาว ตำรวจจึงจากไปโดยไม่ทำอะไรใคร ปัจจุบันอาเยชาโทรศัพท์มาร้องไห้กับพี่สาวทุกวัน
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
    ขืนใจ - สุริตา สาวเนปาลวัย 16 ปี ร้องไห้คร่ำครวญ ขณะถูกพาตัวออกจากบ้านมาเข้าพิธีแต่งงาน ขึ้นเกวียนไปยังหมู่บ้านของสามี การจับเด็กสาวอายุน้อยแต่งงานถือเป็นบรรทัดฐานของสังคมในหมู่บ้านเล็กๆ ของเนปาลแห่งนี้ (เนชั่นแนลจีโอกราฟิก)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    กรณีของอินเดีย เด็กหญิงถูกจับแต่งกับเด็กด้วยกัน อายุห่างกัน 5-6 ปี แต่กรณีเยเมน อัฟกานิสถาน เอธิโอเปีย เด็กหญิงถูกจับแต่งงานกับฝ่ายชายมีทั้งหนุ่ม แก่ พ่อม่าย ไปจนถึงคนร้ายที่ข่มขืนก่อนแล้วอ้างสิทธิ์เป็นสามีภายหลัง หลายกรณีจับลูกสาวแต่งงานเพื่อปลดหนี้ โดยเมื่อ 3 ปีก่อน เกิดกรณีด.ญ.นูจูด อาลี ชาวเยเมน วัย 10 ขวบ หนีออกจากบ้าน มีคนช่วยพาไปฟ้องหย่าชายอายุ 30 ปี ที่พ่อบังคับให้แต่งงานด้วย ภาพของเด็กหญิงกลายเป็นโปสเตอร์รณรงค์ช่วยเหลือเด็กทั่วโลก มีคนนำไปเขียนหนังสือ แปลแล้วถึง 30 ภาษา ปัจจุบันนูจูดได้กลับไปอยู่กับครอบครัวและเรียนหนังสืออีกครั้ง







     
  10. k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    10 มิ.ย.54 ปิดฐานฯ

    ช่วงนี้มีท่านสมาชิกสนใจที่จะเข้ามาเป็นแนวร่วมสองรายกำลังพูดคุยกันอยู่ อีกรายอยากจะให้ผมช่วยส่งบทความไปให้เป็นการส่วนตัว

    เรื่องบทความผมอยากให้ท่านติดตามอ่านในเว็บพลังจิตจะดีกว่าเพราะในเว็บฯมีบทความหลากหลาย มีผู้รู้เรื่องภัยพิบัติอยู่หลายท่านที่ช่วยกันส่งมาแจ้งเตือนให้อ่านกัน บทความผมท่านผู้อ่านและแนวร่วมของผมได้รับรู้เท่ากัน ท่านผู้อ่านในเว็บฯอาจจะได้รับรู้ช้าไปบ้างอันเนื่องมาจากหลาน Lazaza ติดธุระไม่สามารถรีบส่งให้อ่านบ้างเป็นแค่ช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น ผมเคยสังเกตุการส่งบทความ คืนนี้ส่งพรุ่งนี้ก็ลงให้อ่านแล้ว

    สำหรับเรื่องการปิดรับของฐานผาแบ่น ไหนๆก็จะปิดอยู่แล้วอันเนื่องมาจากพื้นที่ไม่พอรองรับ ผมขอขยายการปิดไปถึงสิ้นเดือนมิถุนายนแล้วจะปิดรับทันที จึงแจ้งมาให้ทราบ

    เค อิสรา
     
  11. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    นิมิตเหตุการณ์ในช่วง 1,000 ปี ของพระเจ้าจักรพรรดิ์


    ตรา, แตร,ขันธ์ ในหนังสือวิวรณ์ เหตุการณ์ในโลกนี้จะสิ้นสุดลงอย่างไร?
    เขียนโดย purifysoul วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม 2009 เวลา 22:58

    ในหนังสือวิวรณ์นั้นได้บอกว่า หนังสือม้วนตราผนึกทั้งเจ็ดได้เปิดออก ระหว่าง เจ็ดปี และตราผนึกได้เปิดในช่วงระหว่างเจ็ดปี ( 82 เดือน) และเสียงแตรทั้งเจ็ดจะถูกเป่าหลังจาก 42 เดือน ของเจ็ดปีที่เปิดตรา และขันธ์ทั้งเจ็ดจะเทลงมาหลังจาก ยี่สิบเอ็ดเดือนของระยะเวลาเจ็ดปี แต่อย่างไรก็ตาม จะมีช่วงระยะเวลาที่เป็นช่องว่างของเวลาที่จะล่วงไประหว่างการเปิดตราที่เจ็ด และการเป่าแตรที่เจ็ด และการเทขันธ์ที่เจ็ด

    พระคำภีร์ได้หมายถึงช่วงเวลาที่เป็นช่องว่าง GAP ที่ซึ่งเวลานี้จะเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงของบนสวรรค์ แต่บนสวรรค์นั้นไม่มีเวลานับ ช่วงเวลานี้จะเป็นเวลาหนึ่งพันปีครองราชย์ของพระเยซูคริสต์ ถ้าท่านได้อ่านพระคำภีร์อย่างระมัดระวัง จะพบเหตุการณ์นี้หลังจากการเปิดตราที่เจ็ดและเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับ การเทขันธ์ทั้งเจ็ด แม้แต่ตราทั้งเจ็ดจะถูกเปิด และแตรทั้งเจ็ดจะถูกเป่า แต่ขันธ์พระพิโรธที่เจ็ดจะไม่เทจนกว่า หนึ่งพันปีได้ผ่านไปแล้ว

    แตรที่เจ็ดจะเป่าสองครั้ง ครั้งหนึ่งเมื่อเริ่มต้นของมิลลิเนียม หนึ่งพันปีครองราชย์ของพระเยซูคริสต์ และมีการเป่าอีกครั้งเมื่อสิ้นสุดหนึ่งพันปี นั้นหมายถึงจะมีการเป่าแตรสองครั้ง ที่พระพิโรธของพระเจ้าจะเทลงมาบนแผ่นดินโลกและชีวิตทั้งหมดจะสิ้นสุดลงบนโลก นั้นคือเป็นเวลาสิ้นสุดของระยะเวลาโลกหนึ่งรอบ(เจ็ดพันปี)

    โลกนี้จะมีความเป็นไปอย่างไรในช่วงหนึ่งพันปี ซึ่งจะมีเจนไทล์ (GENTILE) อยู่บนโลก จะไม่มีคานาไนท์( CANAANITES )เหลืออยู่หลังจาก 45วันหลังจากมิลลิเนียม และผู้ที่ดวงวิญญาณได้รับการอวยพร (BLESSED SEED) จะอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มใหม่ ที่ซึ่งแขวนอยู่ กลางอากาศ ซึ่งอยู่เหนือดินแดนของกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งอธิบายใน เศคาริยาห์

    แม่น้ำสายใหม่ไหลจากเยรูซาเล็มไปถึงทะเลเกลือและทะเลเมดิเตอเรเนียน (อสค 47:1-12)

    เศคาริยาห์ 14:8 ในวันนั้นน้ำแห่งชีวิตจะไหลออกจากเยรูซาเล็ม ครึ่งหนึ่งจะไหลไปสู่ทะเลด้านตะวันออก และครึ่งหนึ่งจะไหลไปสู่ทะเลด้านตะวันตก ในฤดูร้อนก็จะไหลเรื่อยไปดังในฤดูหนาว

    พระคำภีร์ได้เปิดเผยถึง ขนาดของกรุงเยรูซาเล็มใหม่ ซึ่งเป็นขนาด 1377 miles square ตารางไมล์ ระยะทางจากทะเลแดง(ในปัจจุบัน)ไปยัง ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ซึ่งอยู่ด้านหลัง) พระคำภีร์ยังเปิดเผยว่ากรุงเยรูซเล็มใหม่จะไม่มีฤดูกาล เพราะอากาศจะเป็นอากาศ ระหว่าง 74-78 องศาฟาเรนไฮต์ ทุกๆวันในกรุงเยรูซาเล็มจะเหมือน ฤดูใบไม้ผลิในแคลิฟฟอเนียของอเมริกา

    จะไม่มีความมืดหรือกลางคืนในกรุงเยรูซาเล็ม เพราะมีแสงสว่างสองดวงสว่าง ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์ ซึ่งให้แสงจะเป็นที่อยู่อาศัย จะมีดวงดาวตอนเช้าขึ้นทางตะวันออกและดวงดาวทางทิศตะวันตกในตอนเวลาเย็น ดวงดาวตอนเช้าขึ้นทางทิศตะวันออกและจะตกทางทิศตะวันตก และดวงดาวตอนเย็นขึ้นทางทิศตะวันตกไปตกทางทิศตะวันออก ทั้งสองดวงดาวจะมองเห็นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกที่ลับขอบฟ้า เมื่อเวลาที่ดวงดาวฝั่งหนึ่งขึ้นหรือลง

    พระเยซูคริสต์จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์เหนือพิภพทั้งสิ้น

    เศคาริยาห์ 14:9 และพระเยโฮวาห์จะทรงเป็นกษัตริย์เหนือพิภพทั้งสิ้น ในวันนั้นพระเยโฮวาห์จะทรงเป็นเอก และพระนามของพระองค์ก็เป็นเอก
    พระคำนี้หมายถึง พระเยซูคริสต์จะเป็นกษัริตย์ โดยพระวิญญาณบริสุทธ์จะสวมมงกุฏให้พระองค์เป็นกษัตริย์ บนแผ่นดินโลก
    ดาเนียล7:13 ข้าพเจ้าเห็นในนิมิตกลางคืน และดูเถิด มีท่านผู้หนึ่งเหมือนบุตรมนุษย์มาพร้อมกับบรรดาเมฆในท้องฟ้า และท่านมาหาผู้เจริญด้วยวัยวุฒินั้น เขานำท่านมาเฝ้าต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์
    ดาเนียล 7:14 ราชอำนาจ สง่าราศี กับราชอาณาจักร ก็ได้มอบให้แก่ท่าน เพื่อบรรดาชนชาติ ประชาชาติทั้งปวงและภาษาทั้งหลายจะปรนนิบัติท่าน ราชอาณาจักรของท่านเป็นราชอาณาจักรนิรันดร์ซึ่งจะไม่สิ้นสุดไป และอาณาจักรของท่านเป็นอาณาจักรซึ่งจะไม่ถูกทำลายเลย

    ระยะขอบเขตเส้นที่กำหนดไว้ของกรุงเยรูวาเล็มใหม่ (และสิ่งที่อยู่ใต้กรุงเยรูซาเล็ม)

    เศคาริยาห์ 14:10 แผ่นดินทั้งสิ้นจะกลายเป็นที่ราบจากเกบาถึงริมโมนใต้เยรูซาเล็ม แต่เยรูซาเล็มจะดำรงสูงเด่น(ถูกยกขึ้นสูง)อยู่ในที่ตั้งของเมืองนั้น จากประตูเบนยามินถึงสถานที่ที่เป็นประตูเก่า ถึงประตูมุมและจากหอคอยฮานันเอล ถึงบ่อย่ำองุ่นของกษัตริย์

    พระคำภีร์หมายถึง ดินแดนที่ต่ำกว่ากรุงเยรูซาเล็มจะว่างเปล่าและปราศจากคนอาศัย เพราะดินแดนที่ต่ำกว่าที่ซึ่งกรุงเยรูซาเล็มใหม่ลอยอยู่กลางอากาศเหนือพื้นดิน จะไม่ได้รับแสงอาทิตย์ (เพราะว่าแสงสว่างจะถูกกีดกั้น) จะเป็นเหมือนที่ราบในทะเลทราย กรุงเยรูซาเล็มเก่าได้ทนทุกข์จากภาวะกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ระเบิดดังสั่นสะเทือน ในอมาเกดอน ทำให้ที่ดินเหล่านั้นส่งกลิ่นเหม็นค้างคงเหลือของกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ และมลภาวะเป็นพิษ นี้คือสิ่งที่พระคำภีร์ได้เขียนไว้ที่ซึ่งกรุงเยรูวาเล็มได้กลายเป็นที่ทิ้งร้างและเหลือเพียงสัตว์ที่ออกาหกินในเวลากลางคืนจะอาศัยอยู่ได้

    ความมืดและภาวะกัมมันตภาพรังสีวัน แห่งพระเยโฮวาห์และพระพิโรธของพระองค์

    อิสยาห์ 34:8 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงมีวันเพื่อการแก้แค้น มีปีแห่งการตอบแทนเพื่อการโต้เถียงกันของศิโยน
    อิสยาห์ 34:9 และลำธารแห่งเอโดมจะกลายเป็นยางมะตอย และดินของเมืองนี้จะกลายเป็นกำมะถัน แผ่นดินนี้จะกลายเป็นยางมะตอยที่ลุกอยู่
    อิสยาห์ 34:10 ทั้งกลางคืนและกลางวันจะไม่ดับ ควันของมันจะขึ้นอยู่เสมอเป็นนิตย์ มันจะถูกทิ้งร้างอยู่ทุกชั่วอายุ ไม่มีใครจะผ่านไปเนืองนิตย์
    อิสยาห์ 34:11 แต่นกกระทุงและอีกาบ้านจะยึดมันเป็นกรรมสิทธิ์ นกทึดทือและกาจะอาศัยอยู่ที่นั่น พระองค์จะทรงขึงสายแห่งความยุ่งเหยิงเหนือมัน และปล่อยลูกดิ่งแห่งความว่างเปล่า
    อิสยาห์ 34:12 เขาจะเรียกพวกขุนนางมายังราชอาณาจักร แต่ไม่มีเลย และบรรดาเจ้านายของมันจะไม่มีค่าเลย
    อิสยาห์ 34:13 หนามใหญ่จะงอกขึ้นในพระราชวังของมัน ตำแยและต้นหนามจะงอกขึ้นในป้อมปราการของมัน และจะเป็นที่อาศัยของมังกร และเป็นลานของนกเค้าแมว
    อิสยาห์ 34:14 และสัตว์ป่าจะพบกับหมาจิ้งจอก เมษปีศาจจะร้องหาเพื่อนของมัน เออ ผีจะลงมาที่นั่นและหาที่ตัวพัก
    อิสยาห์ 34:15 นกฮูกจะทำรังและตกฟองที่นั่น และกกไข่และรวบรวมลูกอ่อนไว้ในเงาของมัน เออ เหยี่ยวปีกดำจะรวมกันที่นั่น ต่างคู่ก็อยู่กับของมัน

    ระหว่างหนึ่งพีนปี คนเชื่อสายเจนไทล์จะขยายการสืบเชื้อสายจาก 104,000,000 ถึง 7,000,000,000 คน ทั่วทั้งมิลลิเนียม เจนไทล์จะมาที่ท่าของกรุงเยรูซาเล็มใหม่ ปีละหนึ่งครั้ง เพื่อที่จะนมัสการพระเจ้าในระหว่าง พิธีฉลองของการระลึกถึงเทศกาล จะไม่มีการจัดตั้งองค์การศาสนาใดๆในระหว่างมิลลิเนียม แต่อย่างไรก็ตามเจนไทล์จะถูกสอนให้นมัสการพระเจ้า และพวกเขาได้กระทำเพราะความกลัวไม่ใช่มาจากความรักในการที่จะนมัสการพระเจ้า เพราะความกลัวนั้นเกิดจากกลัวที่จะอดตาย หรือกลัวไฟจากสวรรค์ของพระเจ้าจะลงมาเผาเนื้อหนังร่างกายของพวกเขา เหมือนในพระคำภีร์เขียนไว้ไฟจากสวรรค์จะลงมาเผาเหมือนเป็นการตายฉับพลันคาที่ (the PLAGUE)

    เศคาริยาห์ 14:12 ต่อไปนี้เป็นภัยพิบัติซึ่งพระเยโฮวาห์จะทรงใช้โจมตีบรรดาชนชาติทั้งหลายที่ทำสงครามกับเยรูซาเล็ม คือเนื้อของเขาจะเน่าไปเมื่อเขายังยืนอยู่ได้ ตาของเขาจะเน่าคาเบ้าตา และลิ้นของเขาจะเน่าคาปาก
    เศคาริยาห์ 14:18 และถ้าครอบครัวแห่งอียิปต์ ซึ่งขาดฝนแล้ว ไม่ขึ้นไปปรากฏตัวที่นั่น ก็จะบังเกิดภัยพิบัติด้วย ซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงใช้โจมตีประชาชาติอื่นๆซึ่งไม่ขึ้นไปถือเทศกาลอยู่เพิง
    เศคาริยาห์ 14:19 ที่กล่าวนี้จะเป็นการลงทัณฑ์อียิปต์และเป็นการลงทัณฑ์ประชาชาติทั้งสิ้น ซึ่งไม่ขึ้นไปถือเทศกาลอยู่เพิง

    โลกนี้กำลังมุ่งไปสู่การพังพินาศเป็นขยะหลังจากการต่อสู่ระหว่างความดีและความชั่ว หลังจากที่เปิดตราดวงที่เจ็ดและเป็นการเริ่มต้นของยุคหนึ่งพันปีครองราชย์ของพระเยซูคริสต์ โลกและคนที่อยู่บนโลกทั้งหมดได้เป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส แต่พระพิโรธสุดท้ายของพระเจ้าและสิ่งที่พังพินาศ พวกเขาได้ทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสตั้งแต่การเปิดผนึกตราที่หก เสียงแตรเป่าครั้งที่หก และการเทขันธ์ครั้งที่หก ซึ่งเป็นการพยากรณ์ของตัวเลขนั้นอย่างสมบูรณ์ ของ หก หก หก และผู้ที่เหลือมีชีวิตอยู่บนโลก(นอกกรุงเยรูซาเล็ม) ต้องใช้เวลาเจ็ดเดือนในการฝังผู้ตาย และเจ็ดปีสำหรับทำความสะอาดซากสลักหักพัง,กำจัดซากอาวุธที่หลงเหลือจากอมาเกดอน

    เอเสเคียล 39:8 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า ดูเถิด มาแล้ว และจะเป็นอย่างนั้น คือวันนั้นซึ่งเราได้ลั่นวาจาไว้
    เอเสเคียล 39:9 แล้วบรรดาคนเหล่านั้นที่อาศัยอยู่ในบรรดาหัวเมืองอิสราเอลจะออกไป และจะเอาไฟสุมเครื่องอาวุธเผาเสียคือโล่และดั้ง คันธนูและลูกธนู หอกยาวและหอกซัด และเขาจะเอาไฟสุมเป็นเวลาเจ็ดปี
    เอเสเคียล 39:10 เพราะฉะนั้น เขาไม่จำเป็นจะต้องเอาฟืนมาจากทุ่งนาหรือตัดฟืนมาจากป่า เพราะเขาจะก่อไฟด้วยเครื่องอาวุธ และเขาทั้งหลายจะแย่งชิงผู้ที่แย่งชิงเขา และจะปล้นผู้ที่ปล้นเขา องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
    เอเสเคียล 39:11 ต่อมาในวันนั้น เราจะให้โกกมีสุสานอยู่ในอิสราเอล คือหุบเขาของคนเดินผ่านไปมา ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเล มันจะปิดจมูกของคนเดินผ่านไปมา เพราะว่าโกกและหมู่นิกรทั้งสิ้นของท่านจะถูกฝังไว้ที่นั่น เขาจะเรียกกันว่า หุบเขาฮาโมนโกก
    เอเสเคียล 39:12 วงศ์วานอิสราเอลจะฝังเขาทั้งหลายอยู่ถึงเจ็ดเดือน เพื่อจะทำให้แผ่นดินนั้นสะอาด
    เอเสเคียล 39:13 องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสว่า ประชาชนทุกคนแห่งแผ่นดินจะฝังเขาทั้งหลาย ในวันนั้นเมื่อเราสำแดงสง่าราศีของเรา ประชาชนนั้นจะได้รับเกียรติเพราะการฝังศพนั้น

    จะเหลือคนที่มีชีวิตอยู่ปะปรายบนโลกจากสี่ทิศทั่วโลก และเริ่มต้นชีวิตใหม่ ประเทศจอร์แดน และเลบานอน จะมีรอดชีวิตน้อยเหลือเกิน มีรัฐบาลที่ซึ่งจะเขียนกฏหมายใหม่ขึ้นมาในอเมริกา จะเอาศาสนาออกไปและไม่มีกฏหมายใดๆจะเริ่มก่อตั้งเกิดขึ้น และการจัดตั้งใหม่นั้นจะเรียกว่าคำสั่งองค์กรบริหารโลกใหม่ Constitution of the New World Order รัฐบาลจะเอากฏหมายของแอนตี้ไคร์มาปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และไม่เอา(ลบทิ้งกฏหมาย)การฝังชิพของสัตว์ร้ายและสิ่งใดที่เป็นเอกสารการต่อต้านพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ จากครั้งก่อนโดยแอนตี้ไคร์ออกไป

    ข้อสำคัญขององค์การบริหารโลกใหม่นี้ จะไม่มีประชากรเพียงพอที่จะทำความสะอาดและสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆที่ซึ่งได้ถูกทำลายไปในอมาเกดอน ในระหว่างสามร้อยปี ประชากรจะเพิ่มขึ้นเป็นสาเหตุทำให้ คนกลับมาอาศัยที่อียิปต์ และบางส่วนในยุโรปตะวันตก และสิ่งที่อยู่ในเอเชีย รัสเซีย และทางตะวันออกของอเมริกา และตะวันตกของอเมริกา จะไม่มีคนอาศัยเนื่องจากภาวะกัมมันตภาพรังสี และเคมีที่เป็นมลพิษ

    มีผู้รอดชีวิตไม่มาก และจะอพยพมาอยู่ที่ตะวันออกกลางเป็นที่แรก เพื่อที่จะทำความสะอาดและสร้างระหว่างหนึ่งพันปี แผนที่ของประเทศยุโรปตะวันตกแตกต่างจากปัจจุบัน จากอุกาบาตพุ่งชนโลกในช่วง สามปีครึ่งหลังของวันทุกข์ยากลำบาก ประเทศอิรัก อิหร่าน ชีเรีย ซาอุดิอาราเบียและดูไบ และอาหรับอิมิเร็ตจะไม่มีคนอยู่อาศัย เพราะทุกอย่างจะถูกลุกเป็นไฟ และควันไฟไปหลายร้อยปี และมลพิษจากควันไฟจากน้ำมันที่เผาไหม้นั้น ทำให้ชีวิตสั้นลงสำหรับคนที่อาสัญบริเวณนั้น ซึ่งคาดว่าไม่เกิด ห้าสิบห้าปี

    การเพาะปลูกการเกษตรและเก็บเกี่ยวที่นิยมมากที่สุดในตะวันออกกลางคือขึ้นอยู่กับฝนตกเพราะว่าไม่มีเครื่องมือใดๆที่จะทำเขื่อน หรือการชลลประทานและไม่สามารถหาเครื่องมือใดๆได้เลย จะมีเครื่องมือก็แต่พวกคนรวยมากๆที่จะปลูกผักเอง และมีชีวิตอยู่ได้โดยการสต็อกของและสิ่งที่เป็นธรรมดาสามัญที่สุดในตะวันออกกลางคือ สต็อกหมู ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนที่เป็นเงื่อนไขที่ยากที่สุด ที่ซึ่งบรรพบุรุษของเขาได้ปฏิเสธที่จะกินหมูแต่ผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่บนโลกตอนนั้นจะมีชีวิตอยู่ด้วยการกินเนื้อหมูเท่านั้น

    การเพิ่มประชากรโลก

    ในช่วงที่ไม่มีกำลังมนุษย์ เพราะคนที่รอดชีวิตมีน้อยเหลือเกิน คนทีเหลืออยู่จะทำการเพิ่มประชากร กฎหมายการเพิ่มประชากรจะนำออกมาใช้เป็นอันดับแรก ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยศูนย์การเพิ่มประชากรมนุษย์ การโคลนนิ่งมนุษย์จะนำออกมาใช้ และคนที่โคลนนิ่งจะตายด้วยหลายๆสาเหตุ เพราะเซลล์ไม่สามารถทำงานได้และภูมิต้านทานไม่เพียงพอกับการที่จะดำเนินชีวิต อวัยวะภายในของผู้ที่โคลนนิ่งนั้นพบว่าไม่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนแปลง

    การเพิ่มปริมาณการปฏิสนธิโดยใช้ยาในการตกไข่และเพิ่มประสิทธิภาพของผู้ชาย ผลิตภัณฑ์ได้เพิ่มประสิทธิภาพแจกจ่ายไปทั่วโลกโดยรัฐบาล และมีกฏหมายสำหรับผู้ชายบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่าห้าสิบ ต้องมาที่ศูนย์เพิ่มประชากรมนุษย์ ครั้งหนึ่งเมื่อประชากรได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลจะนำคนไปทำงานในแต่ละแผนกและผู้หญิงที่ตั้งครรภ์จะได้รับค่าจ้างจากรัฐบาลในการเลี้ยงดู และเป็นการให้รางวัลที่สำคัญสำหรับจะได้ทำงานในรัฐบาล เพราะรัฐบาลจะเป็นเจ้าของเด็กๆหลังจากอายุสิบสองจะเริ่มใช้พวกเขาในโรงงานอุตสาหกรรมหรืออาชีพอื่นๆเพราะรัฐบาลยังคงควบคุมทุกอาชีพและทุกการค้า

    ในช่วงระหว่างหนึ่งพันปี กฏหมายการแต่งงานจะไม่มีเกิดขึ้น และศูนย์การเพิ่มประชากรมนุษย์จะให้ผู้ชายเลือกผู้หญิงมานอน และผู้ชายนอนกับผู้ชาย ผู้หญิงนอนกับผู้หญิง เลือกคู่นอนแบบมั่วๆ โฮโมเซกซ์ชัวร์เพิ่มขึ้นเป็นบ้าคลั่ง และอย่างไรก็ตามประชากรจะเพิ่มขึ้น ถึงเจ็ดพับล้านคนในช่วงสิ้นสุดของหนึ่งพันปี ช่วงเวลาสิ้นสุดของหนึ่งพันปี เทคโนโลยีจะพัตนาในระหว่างมิลลิเนียม หลังจากได้ค้นพบแร่ธาตุสี่ชนิดในระหว่างช่วงเวลานั้น ประชากรโลกจะสามารถที่จะเดินทางในกาลเวลาได้ ช่วงแรก ช่วงเวลาจะจำกัดและมีเพียงหนึ่งหรือสองคนจะสามารถคลื่นไปในกาลเวลาและในอากาศในเวลานั้น แต่หลังจากปีสุดท้ายของมิลลิเนียม นักวิทยาศาสตร์ จะสามารถพัตนา ขนย้ายคนเป็นจำนวนมากให้เคลื่อนทีไปในกาลเวลาของช่องของกาลเวลา

    ห้าเดือนก่อนจะสิ้นสุดมิลลิเนียม ซาตานได้ออกจากนนรกและมาเข้าสิงร่างกายของคนที่เป็นรองผู้ออกคำสั่งของผู้นำของโลกใหม่ ผู้ชายคนนี้ชื่อ Earl Anthony Jacobs และเขาจะทำการรัฐประหารประท้วงผู้นำที่ใหญ่กว่าในโลกใหม่ และปลดผู้นำสูงสุดออกจากตำแหน่ง จากนั้นซาตานที่สิ่งใน Earl Anthony Jacobs ก็จะชักชวนประชากรโลกทำสงคราม เพราะสามารถที่จะท่องเทียวไปในช่วงกาลเวลาด้วยความเร็วแสง และจะประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับกรุงเยรูซาเล็มในวันที่ต้องไปนมัสการพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ และจะจับกลุ่มอยู่จำนวนมากเพื่อที่จะทำการกดดัน ซาตานที่สิงใน Earl Anthony Jacobs

    ได้หลอกลวงว่า พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์จะไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปสู้รบ ซาตานได้ออกคำสั่งวางแผนที่จะให้คนนั้นไปทั้งสิบสองประตู ในแต่ละประตูของกรุงเยรูซาเล็ม และในช่วงเวลานั้น แตรที่เจ็ดเป่าขึ้นเป็นการเริ่มต้นงานฉลอง ซาตานได้วางแผนว่าพวกกรุงเยรูซาเล็มจะไม่รู้ว่าพวกเขาได้มาบุกรุกเนื่องจากเป็นวันเลี้ยงฉลอง ซาตานได้วางแผนให้ทุกคนเดินทางไปในช่วงแห่งกาลเวลาสิบสองประตู เมื่อเสียงแตรดังขึ้นให้บุกเข้าไปและพังกรุงเยรูซาเล็ม ให้เราดูข้อความนี้ จากพระคำภีร์โดยความพยายามของพวกเขานั้นเป็นอย่างไรที่จะยึดกรุงเยรูซาเล็มโดยใช้สภาพกำลังคนกดดัน พระเจ้าตรัสดังนี้

    The Last Rebellion on Earth Put Down, Satan in Hell

    การกบฏในยุคพันปี ซาตานถูกทิ้งลงในนรก

    วิวรณ์ 20:7 ครั้นพันปีล่วงไปแล้ว ก็จะปล่อยซาตานออกจากคุกที่ขังมันไว้
    วิวรณ์ 20:8 และมันจะออกไปล่อลวงบรรดาประชาชาติทั้งสี่ทิศของแผ่นดินโลก คือโกกและมาโกก ให้คนมาชุมนุมกันทำศึกสงคราม จำนวนคนเหล่านั้นมากมายดุจเม็ดทรายที่ทะเล
    วิวรณ์ 20:9 และคนเหล่านั้นยกขบวนออกไปทั่วแผ่นดินโลก และล้อมกองทัพของพวกวิสุทธิชน และเมืองอันเป็นที่รักนั้นไว้ แต่ไฟได้ตกลงมาจากพระเจ้าออกจากสวรรค์ เผาผลาญคนเหล่านั้น
    วิวรณ์ 20:10 ส่วนพญามารที่ล่อลวงเขาเหล่านั้นก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน ที่สัตว์ร้ายและผู้พยากรณ์เท็จอยู่นั้น และมันต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดไปเป็นนิตย์

    ที่มา ตรา, แตร, ขันธ์ ในหนังสือวิวรณ์ เหตุการณ์ในโลกนี้จะสิ้นสุดลง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      59.1 KB
      เปิดดู:
      2,121
  12. sug552 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +250

    เดี๋ยวจะลองหาดูให้ครับ แล้วพอจะมีข้อมูลบ้างไหม ว่า ที่อำเภออะไร แล้วก็เมื่อไหร่ (โดยประมาณ)
     
  13. chan2 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +23
  14. ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    ถูกถามต่อมาจากพี่คนหนึ่งครับ เหตุการณ์น่าจะพึ่งเกิดขึ้นภายในอาทิตย์นี้มั่งครับ
     
  15. วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> ช็อกหมาสางแค้นโดนรังแกขย้ำเจ้าของดับสยอง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ช็อกสุนัขพันธุ์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ชำระบัญชีแค้นด้วยชีวิต หลังถูกเตะตั้งแต่ตัวเล็ก สบโอกาสกระโจนกัดเจ้าของวัย51ปีเจ็บสาหัส ก่อนไปสิ้นใจที่ รพ.
    เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. นายพิชิต เกียกกุทัณ หัวหน้าหน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งมีคนถูกสุนัขกัดได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดในบ้านเลขที่ 64/36 ซอยบ่อนไก่ หมู่ 5 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบลอยเลือดกระจายเต็มลานพื้นหน้าบ้าน พบผู้ได้รับบาดเจ็บนายมานะ เทศฤทธิ์ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านสภาพโชกเลือด ร่างกายมีบาดแผลเหวอะหวะ เพราะถูกเจ้า ปีเตอร์ สุนัขพันธุ์ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ วัย 3 ปี เพศผู้ ที่เลี้ยงไว้ในบ้านกัด เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันจับ และล่ามโซ่ไว้หน้าบ้านเพื่อความปลอดภัย เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ และนำตัวส่งรักษายังห้องฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตเวลาต่อมา
    สอบถาม นางสมปอง รอดคร้าม อายุ 43 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ตนและสามีเลี้ยงเจ้าปีเตอร์ได้ 3 ปี นิสัยส่วนตัวเป็นสุนัขดุร้าย ก่อนเกิดเหตุ สามีอยู่บ้านกับเจ้าปีเตอร์ กระทั่งเพื่อนบ้านโทรศัพท์บอกว่าสามีถูกกัด จึงรีบกลับมาบ้านพร้อมให้เพื่อนบ้านช่วยกันจับเจ้าปีเตอร์ล่ามโซ่ไว้ ที่ผ่านมาสามีชอบรังแกเจ้าปีเตอร์โดยใช้เท้าเตะเป็นประจำ มาตั้งแต่อายุ 7 – 8 เดือน สามีคงไปเตะมัน จึงเกิดความแค้นกระโดดกัดจนเสียชีวิต ทั้งนี้หลังนำสามีส่งรพ.ฯแพทย์ได้ทำบาดแผลเรียบร้อยและให้กลับบ้านได้ กระทั่งสามีไปเข้าห้องน้ำเกิดช็อคและหมดสติ ต้องนำตัวส่งต่อรพ.สัตหีบ กม.10 ที่ห่างไป 2 กม. แต่อาการไม่สู้ดีจึงนำตัวส่งต่อยังรพ.ประจำจังหวัดชลบุรี แต่สามีทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตต่อมา ทางรพ.ชลบุรีแจ้งสาเหตุว่า “ติดเชื้อในกระแสเลือด” เป็นเหตุให้เสียชีวิต ตนและญาติๆยังกังขาอยู่



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> พบอีโคไลใน “กะหล่ำปลีปม” ยุโรป </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมวิทย์ฯยันพบอีโคไลใน “กะหล่ำปลีปม” นำเข้าจากยุโรป แต่ต้องตรวจต่อว่าเป็นสายพันธุ์ก่อโรคหรือไม่


    วันนี้ (12 มิ.ย.) นพ.สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการกะหล่ำปลีปม ที่นำเข้าจากยุโรป ในการเฝ้าระวังเชื้ออีโคไลที่ก่อให้เกิดโรคอุจจาระร่วงในกลุ่มเอ็นเทอโรเฮโมราจิคอีโคไล หรือ อีเฮค สายพันธ์ โอ 104 ที่แพร่ระบาดในประเทศเยอรมนีและพบผู้ป่วยหลายประเทศในยุโรป ว่า จากการตรวจยืนยันทางชีวเคมี ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบอีโคไลในกะหล่ำปลีปมแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นเชื้ออีโคไลที่ก่อโรคหรือไม่ก่อโรค คงต้องใช้เวลา 3-5 วันตรวจวิเคราะห์ต่อจึงจะทราบผล อย่างไรก็ตามขอเรียนประชาชนว่าไม่ต้องตกใจ ก่อนรับประทานอาหารขอให้ล้างมือให้สะอาด กินอาหารที่ปรุงสุก ก็จะสามารถป้องกันเชื้อโรคได้


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    ทราบแล้วครับ ว่าเป็นทากทะเล
     
  17. k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    11 มิ.ย. 54<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    16 ก.ย. 51 เรื่องเล่าจากภาพ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขอเขียนซ้ำ ย้ำเตือน เรื่องเก่าๆ<o:p></o:p>
    ที่เคยเล่า กล่าวไว้ เมื่อวันวาน<o:p></o:p>
    ในนิมิต น.ส.พ.ลง ผมได้อ่าน<o:p></o:p>
    ได้กล่าวขาน แผ่นดินไหว ภัยใกล้ตัว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การทะเลาะ วิวาท ผ่านพ้นไป<o:p></o:p>
    ประเทศไทย ได้ผู้นำ เก่งการเงิน<o:p></o:p>
    แผ่นดินไหว จะอุบัติ ด้วยบังเอิญ<o:p></o:p>
    ผมขอเชิญ ท่านผู้ชม ให้ระวัง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อัตตาหิ อัตโน นาโถ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อีกเรื่องคือ คำถาม ถามกันบ่อย<o:p></o:p>
    ตัวข้าน้อย จะรอด ปลอดภัยไหม?<o:p></o:p>
    หากไม่เตรียม ความพร้อม รอดอย่างไร?<o:p></o:p>
    มัวแต่ให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คิดช่วยตัว<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านช่วยแล้ว แต่ตัวเอง ไม่ช่วยเอง<o:p></o:p>
    มัวแต่เล็ง ให้ท่านช่วย อยู่ฝ่ายเดียว<o:p></o:p>
    อยู่เฉยๆ ไปวันๆ ก็ต้องเสียว<o:p></o:p>
    ชั่วเดี๋ยวเดียว ก็ต้องไป พร้อมภัยมา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    27 ก.พ. 50 ตามหลังปลายักษ์<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แล้วเมื่อไร? เมื่อภัยมา จะต้องหนี<o:p></o:p>
    ให้ดูที่ ซึนามิ รอบที่สอง<o:p></o:p>
    ถ้ามันมา เก็บกวาด ญาติพี่น้อง<o:p></o:p>
    ท่านจะต้อง ขึ้นที่สูง ที่ปลอดภัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ทำอย่างไร? ถึงจะรอด ให้ปลอดภัย<o:p></o:p>
    จะบอกให้ ทำความดี ให้เสมอ<o:p></o:p>
    ทำสมาธิ ไหว้พระเจ้า นั่นนะเออ<o:p></o:p>
    จะช่วยเธอ ให้ได้รอด และปลอดภัย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    อีกต้องคิด ช่วยผู้อื่น เพื่อนร่วมทุกข์<o:p></o:p>
    ให้มีสุข อย่างพอเพียง ไม่ลำเอียง<o:p></o:p>
    ทั้งกำลัง ทรัพย์สิน บุญจะเลี้ยง<o:p></o:p>
    จะช่วยเบี่ยง ความเลวร้าย มลายไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    จำเป็น...แต่ไม่สำคัญ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นำเงินมา ลงช่วย จำนวนล้าน<o:p></o:p>
    แต่ขาดความ จริงใจ ไปไม่รอด<o:p></o:p>
    ก็เสียใจ แทนแนวร่วม ต้องขอบอก<o:p></o:p>
    เป็นคำตอบ แนวร่วมใหม่ ที่จะมา<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    พกแต่เงิน ไม่พกใจ มาร่วมงาน<o:p></o:p>
    ฟ้าไม่ตาม ใจที่คิด จะบอกให้<o:p></o:p>
    พกทั้งเงิน อีกทั้งใจ ก็ได้ไป<o:p></o:p>
    ไม่มากมาย แต่มากใจ ฟ้าเอ็นดู<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    องค์อินทร์ ๙๗<o:p></o:p>
    ทำการแทน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    (ลงเว็บฯแล้ว)<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>


     
  18. sug552 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +250

    เห็นที่ประจวบก็มีขึ้นชายฝั่งเหมือนกัน ผมว่าตอนนี้สภาพในน้ำทะเลมันคงแย่มาก ๆ สัตว์เล็ก สัตว์น้อย หนีขึ้นฝั่ง ปลาใหญ่เล็ก ก็พากันมาตายไปทั่ว อย่างน้อยมันต้องเป็นสัณญาณ ที่ไม่ปกติแน่ ๆ แต่ด้วยประสบการณ์ ที่คนเราในปัจจุบันยังไม่เคยเจอ เลยไม่สามารถบอกได้ว่า ในอนาคตมันจะเกิดอะไร


    ในวีดีโอชุดนี้จะบอกถึงสภาพของน้ำทะเลในอนาคตด้วยครับ ลองโหลดดูนะ

    V
    V
    V
    สัญญาณ 7 สิ่งของภัยพิบัติ และการเกิดของพายุไซโคลน
     
  19. tuinipon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +84
    วันนี้ขอพักจิตหน่อยครับ
     
  20. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ขอความกรุณา...แนะนำสักนิด

    <TABLE id=post class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>09-06-2011, 04:49 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175>แฝดแก้มก้อย<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Jul 2008
    ข้อความ: 17
    พลังการให้คะแนน: 0


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_ class=alt1><CENTER>ขอความกรุณา แนะนำซักนิด....

    </CENTER>
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>สวัสดีคะ ...คุณเกษม
    ไม่รู้ว่าคุณจามีเวลาตอบข้อความไหม ค่อนข้างเป็นทุกข์ เพราะข่าวเรื่องภัยพิบัติ ไม่ใช่เพราะกลัวตาย (พยายามฝึกมโนมยิทธิ กราบพระบ่อยๆ พร้อมเสมอที่จะตาย) แต่เพราะห่วง ถ้ามัน...เกิดขึ้นจริงๆ...

    ตอนนี้ ดูแลพ่อที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม นอนเตียงอยู่ที่บ้าน (แถวร่มเกล้า ลาดกระบัง) และขายเสื้อผ้าเสาร์อาทิตย์ ดูแลคนป่วยลำบากคะ ข้าว ยา น้ำ เช็ดตัว แพมเิพิส (ถ้าไม่ตาย แล้วเ้ค้าต้องอด ไม่มีน้ำ ไม่มียา ไม่มีข้าว จะเป็นอย่างไร)

    กะลังคิดอยู่ว่า...จะเตรียมการรับมือยังไง เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องของคุณได้ซักอาทิตย์นึง จะเป็นความเมตตาจิตอย่างสูง ถ้าหากคุณเกษม จะแนะนำ แนวทางในการเตรียมตัว เพราะน่าจะมีข้อมูลมาก ขอบพระคุณอย่างสูงคะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้