ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    นำไฟล์ภาพในหลวงและพระสุปฏิปันโนมาให้ชมกันจ๊ะ

    ลงรูปแบบคุณเกษมไม่เป็นแหะๆ ถ้ามีกระทู้สอนก็ดีนะจ๊ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192

    จัดให้ครับ!! มีกระทู้สาธิตการใช้งาน อ่านดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะครับ

    สาธิตการใช้งาน - PaLungJit.com
     
  3. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยอดผู้ติดเชื้อหวัดสายพันธุ์ใหม่ในจีนรวม 100 คนแล้ว



    ปักกิ่ง 9 มิ.ย. - สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า จีนมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 100 คนแล้ว ขณะที่ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ไข้หวัดใหญ่เอช1 เอ็น1 ระบาดใน 73 ประเทศ

    ก่อนหน้านี้ทางการจีนพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม หลังจากที่ไวรัสเอช1 เอ็น1 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 139 คนใน 6 ประเทศ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในจีน ข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ตัวเลขอย่างเป็นทางการของผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ใน 73 ประเทศ มีจำนวนรวม 25,288 ราย. -สำนักข่าวไทย

    2009-06-09 19:26:15

    ยอดติดเชื้อหวัดสายพันธุ์ใหม่ในฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 54 ราย



    มะนิลา 9 มิ.ย. - นายฟรานซิสโก ดูเก้ รัฐมนตรีสาธารณสุขฟิลิปปินส์ กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 เพิ่มเป็น 54 คนแล้ว

    รัฐมนตรีสาธารณสุขฟิลิปปินส์ แถลงยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงนักศึกษา 6 คน ของมหาวิทยาลัยมะนิลาส์ เดอ ลา ซัลล์ และมีชาวญี่ปุ่นอีก 2 คนติดเชื้อด้วย อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อรายใหม่และรายก่อนหน้านี้มีอาการป่วยไข้หวัดใหญ่เพียงเล็กน้อย นายดูเก้ กล่าวว่า เขาได้หารือกับผู้แทนองค์การอนามัยโลกในฟิลิปปินส์เกี่ยวกับการตรวจสอบผู้ติดเชื้อในเบื้องต้นและแนวทางการรักษาแล้ว. –สำนักข่าวไทย

    2009-06-09 18:36:34

    พบผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 เพิ่มในเม็กซิโก โคลอมเบียและเกาหลีใต้



    เม็กซิโกซิตี 10 มิ.ย. - ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ยังคงคร่าชีวิตผู้คนอย่างต่อเนื่องล่าสุดเม็กซิโกยืนยันพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มอีก 2 คน ขณะที่โคลอมเบียพบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ ส่วนเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 5

    กระทรวงสาธารณสุขเม็กซิโก ระบุว่า ส่วนยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศอยู่ที่ 6,241 คน รวมทั้งมีผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุด ทำให้เม็กซิโกมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั้งสิ้น 108 คน อย่างไรก็ดีทางการระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคส่วนใหญ่เริ่มบรรเทาลงแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบตัวอย่างจากผู้ป่วยที่ยังคั่งค้างอยู่

    ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโคลอมเบีย เผยว่า สตรีวัย 24 ปี คนหนึ่งกลายเป็นผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรกของประเทศ หลังติดเชื้อภายในประเทศ และเสียชีวิตลงเมื่อสัปดาห์ก่อนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงโบโกตา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เธอสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่า สามี และบุตรชายของเธอก็ติดเชื้อด้วยเช่นกัน แต่ทั้งสองมีอาการปลอดภัยแล้ว และอยู่ภายใต้การเฝ้าประเมินอาการ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดของโคลอมเบียอยู่ที่ 28 คน

    ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ เผยว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 5 คน โดยทั้งหมดเพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐ ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศมีทั้งสิ้น 53 คน แต่มีเพียง 7 คน ที่ยังอยู่ภายใต้การเฝ้าสังเกตอาการ ส่วนที่เหลือหายป่วย และออกจากโรงพยาบาลแล้ว

    องค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก 26,563 คน ใน 73 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 140 คน. - สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 10:57:34

    มีผู้เสียชีวิต 23 คน จากพายุลูกเห็บกระหน่ำจีน



    เซี่ยงไฮ้ 9 มิ.ย. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า พายุลูกเห็บรุนแรงพัดกระหน่ำทั่วพื้นที่ภาคตะวันออกของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 คน และบาดเจ็บกว่า 200 คน

    พายุพัดกระหน่ำเมือง 15 แห่ง และเขต 63 แห่ง ทั่วมณฑลอานฮุยเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยความเร็วลม 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 535 ล้านหยวน (2,730 ล้านบาท) รวมทั้งไฟฟ้าขัดข้องในบางพื้นที่ แต่สถานการณ์เริ่มกลับสู่ปกติแล้ว นับเป็นพายุลูกเห็บรุนแรงระลอกสองที่กระหน่ำจีนในรอบเดือนนี้ .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-09 16:20:45

    ระเบิดโรงแรมหรูในปากีสถาน ตาย 11 เจ็บ 52



    ปากีสถาน 10 มิ.ย.-เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในเมืองเปชาวาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน และบาดเจ็บ 52 คน

    สถานีโทรทัศน์ของปากีสถานแพร่ภาพความโกลาหลอลหม่าน และความเสียหายที่เกิดขึ้นในโรงแรมเพิร์ล คอนติเนนตัล ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาวในเมืองเปชาวาร์ หลังเกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อช่วงกลางดึกคืนวานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

    ตำรวจกล่าวว่า แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 52 คน ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติซึ่งเป็นแขกของโรงแรมรวมอยู่ด้วย เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลงมือ และตำรวจยังไม่แน่ชัดว่าระเบิดที่เกิดขึ้นเกิดจากระเบิดที่ถูกซุกซ่อนไว้ในโรงแรม หรือเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 04:11:50

    โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ในสหรัฐเกิดระเบิด-อาคารถล่มซ้ำ



    นอร์ทแคโรไลนา 10 มิ.ย.-มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20 คน และสูญหาย 3 คน หลังโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ในรัฐนอร์ทแคโรไลนาของสหรัฐ เกิดระเบิด

    โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองราเลห์รัฐนอร์ทแคโรไลนา ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนเล่าว่า ได้ยืนเสียงระเบิดอย่างรุนแรง ก่อนที่หลังคาโรงงานจะพังลงมา ส่งผลให้อาคารทรุดตัวและพังถล่ม รถยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย

    หน่วยกู้ภัยเร่งไปยังที่เกิดเหตุ และนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 20 คนส่งโรงพยาบาล หลายคนอาการสาหัสเนื่องจากสูดควันพิษและไฟคลอก ขณะที่มีรายงานผู้สูญหายอย่างน้อย 3 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุของการระเบิด.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 05:07:37

    ซู-22 เวียดนามตก นักบินเสียชีวิต



    ฮานอย 10 มิ.ย. - เครื่องบินขับไล่ ซู-22 ของเวียดนาม ประสบอุบัติเหตุตกในระหว่างการฝึก ทำให้นักบินเสียชีวิต

    เครื่องบินรุ่นนี้สร้างโดยอดีตสหภาพโซเวียต ตกในไร่ข้าวโพดที่จังหวัดทันห์ ฮัว ทางภาคเหนือของเวียดนาม เมื่อเช้าวานนี้ (9 มิ.ย.) หลังจากบินขึ้นจากสนามบินทหารที่อยู่ใกล้เคียง

    ชาวบ้าน กล่าวว่า ได้ยินเสียงระเบิดอย่างรุนแรงก่อนเครื่องบินจะโหม่งโลกและไฟลุกท่วม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ในช่วงหลายปีมานี้เกิดเหตุเครื่องบินทหารของเวียดนามตกหลายลำ จำนวนหนึ่งเป็นเครื่องบินไอพ่นที่สร้างขึ้นในสมัยอดีตสหภาพโซเวียต ซึ่งเก่าแก่และล้าสมัยแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 11:05:05

    รัสเซียเผยมีข้อมูลแผนการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ



    มอสโก 10 มิ.ย.-สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย รายงานว่า รัสเซียมีข้อมูลแผนการของเกาหลีเหนือ ในการยิงขีปนาวุธ แต่ไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

    รายงานได้อ้างเจ้าหน้าที่ทางทหารระดับอาวุโสของรัสเซีย กล่าวว่า มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับชนิดและลักษณะของขีปนาวุธ แต่ขาดข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับวันเวลาที่เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธดังกล่าว

    เกาหลีเหนือสร้างความโกรธเคืองให้กับประชาคมระหว่างประเทศจากการยิงขีปนาวุธ อีกทั้งขู่ว่าจะโจมตีเกาหลีใต้ และได้ทดลองนิวเคลียร์ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา พฤติกรรมของเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ทหารสหรัฐและ

    เกาหลีใต้ยกระดับการเตือนภัยทางทหารในคาบสมุทรเกาหลี ขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามเกาหลี เมื่อเกือบ 60 ปีก่อน ขณะที่เมื่อวานนี้ในสหประชาชาติมีรายงานว่า ชาติมหาอำนาจมุ่งแสวงหาข้อตกลงเพื่อออกเป็นมติขยายการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เนื่องจากการทดลองนิวเคลียร์และอาวุธ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 14:50:16

    เกาหลีเหนือยืนยันจะใช้นิวเคลียร์เป็นอาวุธตอบโต้คู่อริ



    โซล 9 มิ.ย.- สื่อเกาหลีเหนือรายงาน เกาหลีเหนือจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการป้องกันตนเองรวมถึงใช้ตอบโต้ประเทศคู่อริที่คิดโจมตีเกาหลีเหนือหลังทดสอบนิวเคลียร์ไปเมื่อกว่า 10 วันก่อน จนสร้างความไม่พอใจให้กับประชาคมโลกอย่างมาก

    หนังสือพิมพ์ มินจู โจซอน รายงานว่า ถ้าประเทศใดคิดลงมือโจมตีเกาหลีเหนือก่อน เกาหลีเหนือก็จะรีบป้องกันตัวด้วยการชิงลงมือโจมตีประเทศนั้นก่อนทันที เกาหลีเหนือยังเห็นว่า การพัฒนานิวเคลียร์เพื่อไว้ถ่วงดุลป้องปราม ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในภูมิภาค เพราะถ้าถูกประเทศคู่อริเข้าแทรกแซงอำนาจอธิปไตย ก็จะได้ใช้อาวุธนิวเคลียร์เล่นงานได้ทันที

    ส่วนหนังสือพิมพ์ โรดอง ซินมุน ของพรรคคอมมิวนิสต์ในเกาหลีเหนือ ก็ตีพิมพ์รายงานในลักษณะเดียวกัน โดยบอกว่า กองทัพและประชาชนเกาหลีเหนือจะลุกขึ้นปกป้องตนเอง ขับไล่พวกที่มารุกรานด้วยมาตรการที่แข็งกร้าว และถ้าคู่อริคิดลงมือโจมตีเกาหลีเหนือก่อน เกาหลีเหนือก็จะรีบป้องกันด้วยการชิงลงมือโจมตีก่อนทันที ทั้งยังเตือนสหรัฐให้เลิกเสี่ยงกับสงครามครั้งนี้ เพราะรังแต่จะทำให้ตัวเองได้รับความย่อยยับ -สำนักข่าวไทย

    2009-06-09 14:58:40

    เตือนสหรัฐเร่งช่วยผู้สื่อข่าวสาว 2 คนในเกาหลีเหนือก่อนสายเกินไป



    โซล 9 มิ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญชาวเกาหลีใต้เตือนสหรัฐให้เร่งช่วยผู้สื่อข่าวสาว 2 คน ที่ถูกเกาหลีเหนือตัดสินใช้แรงงานหนัก 12 ปีก่อนจะสายเกินไป

    นายชอย อึนซุก ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกาหลีเหนือจากสถาบันตะวันออกไกลศึกษา มหาวิทยาลัยคยุงนัม ชี้ว่า ตามประมวลกฎหมายอาญาของเกาหลีเหนือนั้น ลอรา หลิง และอึนนา ลี ผู้สื่อข่าวสาวชาวอเมริกัน 2 คน จะถูกส่งไปยังค่ายใช้แรงงานหนักภายใน 10 วัน หลังถูกพิพากษา สหรัฐต้องเร่งใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์ หาทางให้พวกเธอได้รับอิสรภาพก่อนถูกส่งตัวไป เนื่องจากคำพิพากษาของศาลฎีกาเกาหลีเหนือถือว่าเป็นที่สุดแล้ว ไม่สามารถอุทธรณ์ได้

    ด้านนายปัก ซางฮัก ประธานกลุ่มเกาหลีเหนือแปรพักตร์ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ไม่คิดว่า เกาหลีเหนือจะส่งตัวผู้สื่อข่าวอเมริกันทั้งสองคนไปยังค่ายใช้แรงงานหนักตามคำพิพากษา เพราะเกาหลีหนือไม่ต้องการให้คนนอกได้เห็นสภาพความเป็นอยู่อันเลวร้าย นักโทษถูกใช้งานวันละ 16 ชั่วโมง แต่ได้รับประทานอาหารเพียง 1 ใน 5 ของชาวเกาหลีใต้ทั่วไป

    ส่วนเดอะเดลี่เอ็นเค หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของกลุ่มแปรพักตร์คาดว่า ผู้สื่อข่าวทั้งสองคงถูกส่งไปค่ายล้างสมองเหมือนผู้ต้องหาคนสำคัญอื่น ๆ ว่ากันว่ามีค่ายแบบนี้ที่เมืองเปียงซุง ห่างจากกรุงเปียงยางไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 20 กิโลเมตร และที่เมืองวอนซาน ในจังหวัดกางวอน ทางตะวันออกของประเทศ เป็นค่ายที่เกาหลีเหนือใช้อวดชาวโลกเมื่อถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนขอดูสภาพภายในเรือนจำ.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-09 14:55:03

    บราซิลและฝรั่งเศสเตรียมระบุรายละเอียดศพกลุ่มแรกจากเหยื่อแอร์ฟรานซ์



    เฟอร์นันโด เดอ โนรอนญา 9 มิ.ย. - เจ้าหน้าที่บราซิลและฝรั่งเศสเตรียมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของ 16 ศพแรกที่เก็บกู้ขึ้นมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนคร่าชีวิตผู้คนบนเครื่องทั้งหมด 228 คน

    เรือของกองทัพเรือบราซิลเตรียมนำศพผู้เสียชีวิตเหล่านี้เคลื่อนย้ายมายังหมู่เกาะเฟอร์นันโด เดอ โนรอนญา ก่อนที่จะส่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ในเช้าวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นจึงจะนำศพขึ้นเครื่องบินเดินทางมายังเมืองเรซิเฟ เมืองใหญ่ที่อยู่ตามแนวชายฝั่งของบราซิล ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่นำศพมาตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลต่อไป โดยใช้ตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติหรือใช้ข้อมูลทางทันตกรรม

    ล่าสุดเจ้าหน้าที่บราซิลและฝรั่งเศสได้เก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตได้แล้ว 29 ศพ จากเหตุเครื่องบินแอร์บัส เอ 330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ตกกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ระหว่างเดินทางจากนครริโอ เด จาเนโร ของบราซิล ไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศส ขณะที่เรือของกองทัพเรือบราซิลสามารถเก็บกู้ส่วนหางเครื่องบินมาได้แล้ว ก่อให้เกิดความหวังว่าจะมีการค้นพบซากเครื่องบินส่วนอื่นในจุดเดียวกันนี้ด้วย โดยเรือดำน้ำฝรั่งเศสที่คาดว่าจะเดินทางมาถึงจุดดังกล่าวในวันพุธนี้. -สำนักข่าวไทย

    2009-06-09 11:34:29

    ราคาน้ำมันดิบทะลุ 70 ดอลลาร์สหรัฐ



    นิวยอร์ก 10 มิ.ย.-ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีตของนิวยอร์ก ปิดตลาดทะลุ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นครั้งแรกนับจากเดือนพฤศจิกายน จากปัจจัยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่ารวมถึงความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว

    โดยหลังปิดตลาดเมื่อวาน ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีต ตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 1.92 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 70.01 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นราคาที่สูงที่สุดนับจากวันที่ 4 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
    ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ ตลาดลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 1.74 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ 69.62 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

    นักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เพราะเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ท่ามกลางความวิตกว่า ตัวเลขหนี้สินในสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐต้องออกพันธบัตรระดมเงินกู้มากขึ้นด้วย และมีแนวโน้มว่า พันธบัตรจะให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยดันให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นในขณะนี้

    ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นในตอนนี้จึงไม่ได้มาจากความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นเพราะเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง รวมถึงภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากการฉีดงบเข้าสู่ระบบมากเกินไป ทั้งยังมาจากปัจจัยที่สหรัฐขาดดุลการค้าและขาดดุลงบประมาณมากเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตัวเลขซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังถดถอยอาจผ่านพ้นจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว ก็ก่อให้เกิดความหวังว่า ตัวเลขการใช้น้ำมันอาจมีเพิ่มขึ้นในเร็ววัน ราคาน้ำมันซื้อขายล่วงหน้าจึงพุ่งสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 07:24:01

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    “อีก 3 ปีโลกนี้จะมีภัย”



    เตรียมตัวทำแผนที่โลกใหม่กันได้แล้ว โดย อ.ปริญญา ตันสกุล <?XML:NAMESPACE PREFIX = ST1 /><ST1:pLACE w:st="on"><ST1:CITY w:st="on">MBA.</ST1:CITY>,<ST1:STATE w:st="on">MS </ST1:STATE></ST1:pLACE>นักวิชาการสัมผัสพิเศษ และนักวิทยาศาสตร์พฤติกรรมทางจิต

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->mata_tuk<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2172107", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ในวันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา ชมรมจิตจักรวาล และชมรมผู้ประพฤติธรรมแห่งประเทศไทย ได้เชิญ ท่านอาจารย์ปริญญา ตันสกุลอบรมธรรมะภาคปฏิบัติ ให้กับผู้ที่ร่วมสนใจรับฟัง ในหัวข้อเรื่อง “ อีก 3 ปีโลกนี้จะมีภัย”

    เนื้อหาที่ท่านอาจารย์ได้สื่อสอนมานั้น เป็นความรู้ใหม่จริงๆ ที่หลายๆคนยังไม่เคยรู้เลยว่าตนเองจะต้องรู้ ทั้งๆที่ตนเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่เหยียบยืนอยู่บนโลกใบนี้เหมือนกันเราที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง และความรู้ที่ท่านอาจารย์ได้สอนในวันนั้น เราคนหนึ่งที่ต้องการจะบอกกล่าวไปยังเพื่อนๆ อีกหลายๆคนว่า ไม่เสียดายเลยจริงๆ ที่เราได้ไปร่วมรับฟังธรรมะในวันนั้น เป็นการรวบรวมเอาธรรมะของพระศาสดาทุกๆพระองค์ มาสอนให้เข้าใจในแนววิทยาศาสตร์ พร้อมกับแจ้งข่าวสารเตือนภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับความจริงที่เราเผชิญกันอยู่ทุกวันนี้จริงๆ สำหรับความรู้ที่เราได้เรียนรู้มาก็พอจะสรุปคร่าวๆ ดังนี้ <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เรื่องราวต่างๆ ของดาวเคราะห์โลกดวงนี้มีหลายอย่าง ที่มนุษย์อย่างเราๆยังไม่รู้มีมากมาย อย่างเช่น

    วันมหาสุญตา เป็นวันเริ่มต้นการหมุนของดาวทุกดวง ในระบบสุริยจักรวาล และบอกตำแหน่งต่างๆของดาวเคราะห์ ซึ่งมันอาจจะแตกต่างจากความรู้เดิมที่เราเรียนกันมา แต่ว่าพอได้ฟังท่านอาจารย์สอนแล้ว ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าเหตุใดมันถึงได้แตกต่างจากความรู้เดิม (เราขอแนะนำว่า คุณควรจะอ่านศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือสหพันธ์ทางจิต กับพฤติกรรมมนุษย์ ของสำนักพิมพ์จิตจักรวาล )

    โลกทางกายภาพ มีแกนกลางเป็นธาตุออกซิเจนเหลวบริสุทธิ์ 100 % และมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นประจุลบ ซึ่งสามารถทำปฏิกริยากับประจุบวก (มนุษย์ พืช และสัตว์เป็นผู้ผลิตให้กับโลก) และเป็นปฏิกริยาที่รุนแรงระดับนิวเคลียร์ ที่เรียกว่า NUCLEAR FISSION ทำให้ใจกลางโลกร้อนและช่วยทำให้โลกหมุนอย่างคงที่ตลอดมา เพราะแรงระเบิดในใจกลางโลก นอกจากนี้ยังมีผลผลิตเป็นก๊าซออกซิเจนที่เราใช้หายใจอยู่กันในทุกวันนี้อีกต่างหาก นอกเหนือที่ได้จากพืชที่ให้เราได้เฉพาะเวลากลางวันเท่านั้น

    สำหรับเรื่อง วิกฤตโลก ที่มนุษย์จะต้องเผชิญนั้น เป็น ความจริงที่ไม่มีใครรู้ว่า ตนจะต้องรู้ ว่าเหตุใดโลกถึงได้วิกฤตถึงเพียงนี้ อาจารย์ให้เหตุดังนี้ คือ

    1. เป็นยุคที่จิตมนุษย์ตกต่ำอย่างรุนแรง เพราะมนุษย์รักไม่ได้ ให้ไม่เป็น โลกถึงได้วิกฤติ
    2. เป็นช่วงเวลาปฏิบัติการชำระโลกก่อนสิ้นยุค
    3. (เราจดไม่ทันจริงๆ ขอโทษด้วยค่ะ)

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นเพราะว่ามนุษย์วิกฤติด้านจิตสำนึก ด้วยการใช้ วิธีคิดแบบจิตมนุษย์โดยใช้ ทฤษฎี ด.โมเดล คือ 1.ดู 2.เดา 3.ดึง 4.โดน และ 5.ดำ เป็นวิธีคิดโดยใช้มิติทางกายภาพอย่างเดียว ใช้สมองซีกซ้ายอย่างเดียว
    <O:p></O:p>
    วิกฤติโลกที่เคยเกิดมาแล้วบนดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้นั้น ท่านอาจารย์ได้บอกว่า เกิดมาแล้ว 6 ครั้งในอดีต และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ซึ่งมันจะรุนแรงมากกว่าครั้งที่ผ่านมา เป็น 2 เท่า เป็นการสร้างใหม่ที่เสื่อมโทรม กับการเก็บกวาดและการชำระล้างขั้นสุดยอดก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่า และ

    การชำระโลกครั้งนี้ มีขั้นตอนในการชำระดังนี้

    ขั้นที่ 1 : วิกฤตโลกร้าย เกิดจากมนุษย์มีศีลธรรมเสื่อมโทรม เกิดอาชญากรรมทุกวัน ฆ่ากันเองอย่างไร้มนุษยธรรม
    <O:p></O:p>
    ขั้นที่ 2 : วิกฤตโลกร้อน เป็นเพราะดาวเคราะห์โลกเสียสมดุล น้ำท่วม เชื้อโรคร้ายระบาดอย่างรุนแรง
    <O:p></O:p>
    ขั้นที่ 3 : วิกฤตโลกร้าว เปลือกโลกทรุดต่ำลง

    ขั้นที่ 4 : วิกฤตโลกรั่ว เปลือกโลกทะลุ ทำให้เกิดพายุไซโคลน ภูเขาไฟระเบิด

    ขั้นที่ 5 : วิกฤตโลกรอด เป็นวันเวลา 56 วัน 7 ราตรี


    ทุกเรื่องที่วิกฤตนั้น มีผลมาจากจิตสำนึกมนุษย์ที่ตกต่ำทั้งสิ้น ดังนั้นมีหนทางเดียวที่ช่วยให้โลกเราบอบช้ำน้อยที่สุด และเป็นการยืดเวลาให้กับโลกเราได้นั้น มันขึ้นอยู่กับการกระทำที่จิตสำนึกของพวกเราทั้งนั้น และในวันนั้น ท่านอาจารย์ได้ชี้แนะให้มนุษย์ทุกคน ช่วยกันใช้หลักธรรมะเข้าช่วยโลก คือ เมตตาธรรมค้ำจุนโลก พืชให้ความรักจากธรรมชาติ ช่วยค้ำจุนโลกอยู่แล้วนั้น ถ้าเราไม่ไปตัดไม้ ทำลายป่า ก็เป็นการช่วยโลกให้รอดได้ระดับหนึ่ง

    ต่อมาก็คือสัตว์ ที่ใช้ความรักจากสัญชาตญาณในการค้ำจุนโลกเช่นกัน แต่มนุษย์เรากลับฆ่าสัตว์ กินเป็นอาหารมากมาย และสุดท้าย มนุษย์ที่ใช้ความรักจากจิตวิญญาณช่วยค้ำจุนโลก ซึ่งในทุกวันนี้เราได้รับความรักจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแสนยากเย็น เพราะว่า โลกต้องการบวกจาก พืช สัตว์ และมนุษย์เรา แต่ว่าเราทำกันไม่ได้

    แต่ด้วยความเมตตาที่ท่านอาจารย์ สื่อสอนในวันนั้นท่านสอนว่า ถ้าเราต้องการจะช่วยโลกให้รอดได้นั้น เราต้องทำตัวเราให้เป็นมนุษย์อันประเสริฐให้ได้ ด้วยการ เป็นคนที่สมดุล โดยใช้กาย จิต และจิตวิญญาณ เป็นการหมุนธรรมจักรในตนเองให้ได้ ด้วยวิธีธรรมชาติสมาธิ และกฏแห่งการเป็นหนึ่งเดียว กันกับผู้อื่นให้ได้ ด้วยวิธี 4 ย. คือ ยอมรัก ยอมรับ ยอมปรับ ยอมร่วม และบันได 6 ขั้น คือ รักให้ได้ ให้ให้เป็น ไม่ก้าวล่วงใคร ใช้จิตสำนึกในการดำเนินชีวิต ไม่หลงยึดติดอัตตา มีมหาสติในยามตื่น ถ้าเราทำกันได้ ก็เป็นการหมุนธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร

    สุดท้ายก่อนการจบการสอนธรรมะ ท่านอาจารย์ได้ชี้แนะวิธี ทำสมาธิหมู่กู้วิกฤตโลก ให้ช่วยกันทำ ทำได้ทุกวัน ที่ไหนก็ได้ ถ้าจะให้ดีก็ตามเวลานี้ 6.00 น. , 9.00 น. , 12 .00 น. , 3.00 น. ครั้งละ 15 นาที <O:p></O:p>

    ขอขอบคุณท่านอาจารย์ปริญญา ตันสกุลที่ช่วยบอกกล่าว ชี้แนะเรื่องราวเหล่านี้ให้เราได้รับรู้ (ท่านเป็นบรมครูที่ยิ่งใหญ่จริงๆ) ขอบคุณทีมงานของท่านทุกๆคน ที่จัดให้มีการอบรมแบบนี้ แล้วจัดอีกนะค่ะ และขอบคุณ เว็บพลังจิตด้วย ที่ช่วยบอกข่าวให้เราได้รู้
    <O:p></O:p>
    ปล.ความรู้ที่เราได้รับ เราบอกได้เลยว่า เรารู้อะไรมากมาย และเราไม่สามารถที่จะเก็บเงียบๆไว้คนเดียวได้ เราจึงต้องขอบอกต่อๆไป ให้กับเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกของเราได้รับรู้ความรู้และเรื่องราวเหล่านี้ไว้ด้วย

    มาตา 10/06/2552 05:05 AM
    <O:p></O:p>
    <O:p>ที่มา http://palungjit.org/threads/นักวิชาการสัมผัสพิเศษชี้-“อีก-3-ปีโลกนี้จะมีภัย”.190287/page-4</O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • img001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • rainyorkbig.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114 KB
      เปิดดู:
      10,440
    • tsunami.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50 KB
      เปิดดู:
      62
    • untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      44.3 KB
      เปิดดู:
      53
  5. kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    รัสเซียเผยมีข้อมูลแผนการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ



    มอสโก 10 มิ.ย.-สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย รายงานว่า รัสเซียมีข้อมูลแผนการของเกาหลีเหนือ ในการยิงขีปนาวุธ แต่ไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

    รายงานได้อ้างเจ้าหน้าที่ทางทหารระดับอาวุโสของรัสเซีย กล่าวว่า มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับชนิดและลักษณะของขีปนาวุธ แต่ขาดข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับวันเวลาที่เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธดัง กล่าว

    เกาหลีเหนือสร้างความโกรธเคืองให้กับประชาคมระหว่างประเทศจากการยิงขีปนาวุธ อีกทั้งขู่ว่าจะโจมตีเกาหลีใต้ และได้ทดลองนิวเคลียร์ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา พฤติกรรมของเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ทหารสหรัฐและ

    เกาหลีใต้ยกระดับการเตือนภัยทางทหารในคาบสมุทรเกาหลี ขึ้นสู่ระดับสูงที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามเกาหลี เมื่อเกือบ 60 ปีก่อน ขณะที่เมื่อวานนี้ในสหประชาชาติมีรายงานว่า ชาติมหาอำนาจมุ่งแสวงหาข้อตกลงเพื่อออกเป็นมติขยายการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เนื่องจากการทดลองนิวเคลียร์และอาวุธ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 14:50:16

    เกาหลีเหนือยืนยันจะใช้นิวเคลียร์เป็นอาวุธตอบโต้คู่อริ



    โซ ล 9 มิ.ย.- สื่อเกาหลีเหนือรายงาน เกาหลีเหนือจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการป้องกันตนเองรวมถึงใช้ตอบโต้ประเทศคู่ อริที่คิดโจมตีเกาหลีเหนือหลังทดสอบนิวเคลียร์ไปเมื่อกว่า 10 วันก่อน จนสร้างความไม่พอใจให้กับประชาคมโลกอย่างมาก

    หนังสือพิมพ์ มินจู โจซอน รายงานว่า ถ้าประเทศใดคิดลงมือโจมตีเกาหลีเหนือก่อน เกาหลีเหนือก็จะรีบป้องกันตัวด้วยการชิงลงมือโจมตีประเทศนั้นก่อนทันที เกาหลีเหนือยังเห็นว่า การพัฒนานิวเคลียร์เพื่อไว้ถ่วงดุลป้องปราม ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในภูมิภาค เพราะถ้าถูกประเทศคู่อริเข้าแทรกแซงอำนาจอธิปไตย ก็จะได้ใช้อาวุธนิวเคลียร์เล่นงานได้ทันที

    ส่วนหนังสือพิมพ์ โรดอง ซินมุน ของพรรคคอมมิวนิสต์ในเกาหลีเหนือ ก็ตีพิมพ์รายงานในลักษณะเดียวกัน โดยบอกว่า กองทัพและประชาชนเกาหลีเหนือจะลุกขึ้นปกป้องตนเอง ขับไล่พวกที่มารุกรานด้วยมาตรการที่แข็งกร้าว และถ้าคู่อริคิดลงมือโจมตีเกาหลีเหนือก่อน เกาหลีเหนือก็จะรีบป้องกันด้วยการชิงลงมือโจมตีก่อนทันที ทั้งยังเตือนสหรัฐให้เลิกเสี่ยงกับสงครามครั้งนี้ เพราะรังแต่จะทำให้ตัวเองได้รับความย่อยยับ -สำนักข่าวไทย

    2009-06-09 14:58:40

    ---------------------------------------------------------

    ข่าวดังกล่าวชี้ชัดและแสดงถึงคู่สงครามที่พร้อมจะเปิดสงครามนิวเคลียร์ในเวลาอีกไม่นานเกิืนรอ

    ดังนั้นติดตามข่าวกันด้วยความไม่ประมาทครับ
     
  6. k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    <O:p</O:p
    10 มิ.ย. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คอย..... 2
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สัญญาณอื่นๆจะเป็นเรื่องของโรคระบาดในขณะนั้น ซึ่งได้แก่ โรค H5N1 ที่เริ่มระบาดตั้งแต่กลางปี 2546 เป็นต้นมา การระบาดครั้งแรกผมมิได้ลงวันที่ๆผมได้รับสัญญาณ เพราะผมมิได้สนใจว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ผมได้ลงวันที่ครั้งที่สอง คือ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    6 ม.ค.47 หนังเรื่อง ไข่แพง ภาค 2 เป็นภาพยนตร์ต่อจาก<O:p</O:p
    ภาค 1<O:p</O:p
    กำหนดฉาย ทั่วโลก ไม่มีกำหนดลาโรง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ที่ผมใช้ชื่อนี้เพราะเมื่อโรคระบาด ก็จะฆ่าไก่เป็นจำนวนมาก ไข่ในท้องตลาดราคาก็จะแพงขึ้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สัญญาณภัยพิบัติในช่วงนั้น มีหลายสัญญาณ ขอยกบางตัวอย่างให้ดู เช่น
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    21 ก.ค. 47 หนังเรื่องน้ำ<O:p</O:p
    กำหนดฉาย ที่ประเทศไทย อินเดีย บังคลาเทศและโคลัมเบีย (ไม่ได้จดวันที่เกิดเหตุ)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    30 ก.ค. 47 หนังเรื่องไฟ<O:p</O:p
    กำหนดฉาย ที่ประเทศปารากวัย 1 ส.ค. 47และประเทศไทย 7 ส.ค. 47
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    แต่ที่ืฮือฮาคือหนังเรื่อง ซีดีโป๊ ที่ผมไม่คิดว่าจะมีสัญญาณนี้เข้ามาได้ด้วย คือ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    25 มิ.ย. 47 หนังเรื่อง น้องแน็ท<O:p</O:p
    กำหนดฉาย ที่ กรุงเทพฯ 6 ก.ค. 47<O:p</O:p
    ข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์หลายฉบับลงกันในช่วงเวลานั้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  7. mashima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +162
    เมื่อเช้าก็เห็นแสงสีรุ้งทางทิศตะวันออกแต่ไม่ใช่รุ้งกินน้ำ ตอนขับรถไปส่งลูกสาวไปโรงเรียนค่ะยังชี้ให้ลูกสาวดู ตอนนี้พยายามบอกลูกสาวถึงวิธีปฏิบัติตัวเวลาเจอแผ่นดินไหวค่ะ
     
  8. Nibiru สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +12
    โลกเราจะโดน 2 เท่าเลยเหรอครับ ตายแน่ๆ ขนาดแค่ 1 เท่า ยังทำให้ไดโนเสาร์สุญพันธุ์
    เลย แล้ว 2 เท่านี่ มนุษย์คงแทบไม่เหลือนะครับ ปลงๆๆๆ ครับ
     
  9. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สธ.ตั้งวอร์รูมสกัดไข้ปวดข้อยุงลายภูมิภาคที่ จ.ตรัง-ตั้งเป้า 3 เดือนโรคสงบ



    ตรัง 6 มิ.ย. - สาธารณสุขตั้งวอร์รูมสกัดไข้ปวดข้อยุงลายที่กรมควบคุมโรค ขณะเดียวกันให้สาธารณสุข จ.ตรัง วอร์รูมเชื่อมโยง 14 จังหวัดภาคใต้ สกัดโรคไม่ให้ระบาดขึ้นมาส่วนบนของประเทศ ตั้งเป้าให้โรคสงบภายใน 3 เดือน พร้อมทั้งเร่งผลิตโลชั่นตะไคร้หอม ผสมขมิ้นชัน ไพล น้ำมันมะพร้าว กันยุงกัดและบรรเทาปวดข้อ แจกชาวบ้านฟรี

    นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหาร เปิดศูนย์ปฏิบัติการโรคไข้ปวดข้อยุงลาย 14 จังหวัดภาคใต้ ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง พร้อมประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ประธานชมรม อสม. ใน 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อมอบนโยบายการดำเนินงานควบคุมป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลาย และมอบสารเคมีกำจัดลูกน้ำยุงลาย ยาทากันยุง น้ำยาชุบมุ้ง เสื้อผ้าป้องกันยุง ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม.นำไปใช้ในการควบคุมป้องกันโรค

    นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ได้แพร่ระบาดในจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทย และพบผู้ป่วยประปรายในหลายจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศ สถานการณ์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2552 พบว่า จำนวนผู้ป่วยสะสม 24,029 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต สธ.ได้กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการในการควบคุมโรค โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ หรือวอร์รูม ที่กรมควบคุมโรค เพื่อประเมินสถานการณ์ทั่วประเทศเชื่อมโยงกับสำนักงานควบคุมป้องกันโรค 12 แห่งทั่วประเทศทุกวัน ส่วนภูมิภาคตั้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตรัง เชื่อมโยงการทำงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในภาคใต้ทั้ง 14 แห่ง เพื่อเร่งรัดการเฝ้าระวังโรค สกัดกั้นการแพร่ระบาด การป้องกันและควบคุมโรค การดูแลผู้ป่วยใน 14 จังหวัดภาคใต้ เป็นแนวป้องกันไม่ให้โรคระบาดขึ้นมาส่วนบนของประเทศ

    ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนผู้ป่วยเริ่มลดลงแล้ว แต่ในภาคใต้ตอนบนกลับพบผู้ป่วยมากขึ้น จึงจำเป็นต้องดำเนินการกำจัดยุงลาย พาหะนำโรค โดยกำจัดยุงลายตัวอ่อน ตัวแก่ ทั้งยุงลายสวน ยุงลายบ้าน แบบปูพรมพร้อมกันทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อไม่ให้ยุงหลบหนีขึ้นมาพื้นที่ใกล้เคียงได้ ซึ่งยุงทั้ง 2 ชนิดนี้ ออกหากินเวลากลางวัน ตั้งเป้าให้โรคสงบภายใน 3 เดือน ขอความร่วมมือประชาชน ขอให้ป้องกันตัวเองไม่ให้ยุงกัด ก็จะปลอดภัยจากโรค โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่ร่างกายไม่แข็งแรงได้แก่ ทารก เด็กเล็ก ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว และผู้สูงอายุ หากติดเชื้อโรค อาการอาจรุนแรงกว่าผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ที่สำคัญในเด็กเล็ก เสี่ยงต่อการชักจากไข้สูงได้ เพราะโรคนี้ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงมาก บางรายสูงมากกว่า 40 องศาเซลเซียส ซึ่งการที่เด็กชักบ่อยๆ จะมีผลกระทบต่อสมองของเด็กในระยะยาวได้

    ด้าน นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ในระยะเร่งด่วนนี้ จะให้โรงพยาบาลสงขลา ผลิตโลชั่นสมุนไพร กันยุง คือตะไคร้หอม ผสมไพลแก้ปวดข้อและผสมขมิ้นชัน เป็นสูตรรวมแบบทรีอินวัน ใช้ได้ทั้งการป้องกันยุง บรรเทาปวดข้อ และสมานผิว ลดการระคายเคือง และจะให้พัฒนาน้ำมันมะพร้าวผสมกับไพล และขมิ้นชันเพื่อบรรเทาปวด แจกจ่ายให้ อสม.นำไปแจกตามบ้านเรือนฟรี และให้ อสม.เผยแพร่ความรู้แนะนำให้ผู้ที่ป่วย ใช้ยาพาราเซตามอล ลดอาการไข้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์ โรคนี้ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงถึงชีวิตจะหายได้เอง และจะมีภูมิคุ้มกันโรคนี้ไปตลอดชีวิต

    โรคไข้ปวดข้อยุงลาย เกิดจากเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา สามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งมักกัดคนเวลากลางวัน หลังจากกัดผู้ป่วยแล้วจะมีเชื้ออยู่ในตัวยุง ยุงตัวเมีย 1 ตัว มีอายุประมาณ 1-3 เดือน เมื่อยุงมากัดคนปกติก็จะถ่ายทอดเชื้อให้ หลังรับเชื้อ 1-12 วัน จะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ และมีผื่นแดงตามร่างกาย แขน ขา ปวดข้อมากจนบางครั้งขยับไม่ได้ ส่วนใหญ่อาการจะหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่บางรายมีอาการปวดข้อนานเป็นเดือน การป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่สู่คนอื่น ขอให้ผู้ที่ป่วยนอนในมุ้ง เพื่อไม่ให้ยุงกัด ซึ่งปริมาณเชื้อจะมีในเลือดมากในช่วงหลังป่วยมีไข้ 6 วันแรก ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเฉพาะ และไม่มีวัคซีนป้องกัน มีเพียงรักษาตามอาการเช่นให้ยาลดไข้ และยาแก้ปวดข้อ

    หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th หรือโทรสอบถามได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-3333 และศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-1994 ตลอด 24 ชั่วโมง.- สำนักข่าวไทย

    2009-06-06 14:03:50

    เผยสรรพคุณผักคาวตอง ต้านไวรัสแก้กามโรค สร้างภูมิต้านทาน



    กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. - น.พ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงว่า วิธีสร้างภูมิต้านทานแบบวิธีธรรมชาติที่ไม่ต้องลงทุนสูง คือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามหลักแพทย์แผนไทย ใช้รสชาติของพืชผักสมุนไพรปรับสมดุลร่างกาย ป้องกันภาวะเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคที่มาจากเชื้อไวรัส เช่น โรคหวัด ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่นเดียวกับแพทย์แผนไทยก็แนะนำให้รับประทานผักพื้นบ้านที่มีรสเปรี้ยว หรือรสขม

    สำหรับพืชสมุนไพรที่พบว่ากระตุ้นภูมิต้านทานได้ดี คือ พลูคาว หรือ คาวตอง ตามตำราโบราณระบุว่า เป็นพืชรสเผ็ดมีกลิ่นคาว ช่วยแก้กามโรค โรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย ทำให้แผลแห้ง ฆ่าเชื้อโรคทางเดินปัสสาวะ ขับปัสสาวะ ทาภายนอกทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนัง ปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำลังศึกษาผักคาวตองกับการต้านไวรัส น้ำมันระเหยง่ายที่สกัดจากคาวตองยับยั้งการเติบโตของไวรัส Influenza ในเซลล์เพาะเลี้ยงได้ ขณะที่ประเทศจีนก็ใช้คาวตองเป็นส่วนผสมในตำรับยารักษาโรคที่เกิดจากไวรัสหลายรายการ โดยขณะนี้งานวิจัยยังคงไม่สิ้นสุด

    นอกจากนี้ แนะนำให้รับประทานสมุนไพรรสเปรี้ยว ขม เผ็ดร้อน ในรูปแบบผักกับน้ำพริก รวมทั้ง กระเทียม ขิง พริก มะนาว มะขามป้อม ฟักข้าว ฝรั่ง กระเจี๊ยบ มะยม หรือกรณีเจ็บคอจากหวัด ให้รับประทานฟ้าทะลายโจร.- สำนักข่าวไทย

    2009-06-05 17:45:39

    สธ.ศึกษาเอดส์สายพันธุ์ไทย-แอฟริกา ก่อนปรับใหม่รณรงค์ป้องกัน



    กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. – นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้กองเอดส์และวัณโรค กรมควบคุมโรค ขอข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เรื่องเอดส์สายพันธุ์ลูกผสมไทย-แอฟริกา เพื่อนำข้อมูลมาดูให้แน่ชัด ก่อนปรับการรณรงค์โรคเอดส์ใหม่ เนื่องจากตอนนี้เชื่อว่ามีประชาชนปล่อยปละละเลยในเรื่องป้องกันตนเองจากโรคเอดส์ อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทั้งนี้ หากเป็นเชื้อเอดส์สายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบในโลก ก็คงต้องแจ้งให้องค์การอนามัยโลกรับทราบ.- สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 13:10:39

    สธ.พบผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 เพิ่มอีก 3 ราย



    กทม. 10 มิ.ย. - พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 3 คน รวมทั้งสิ้น 16 คน รายล่าสุดเป็นเด็กชายวัย 11 ขวบ ไม่มีประวัติเดินทางออกนอกประเทศ

    นายวิทยา แก้วภราดัย เปิดเผยว่า 3 คน ที่พบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ คนแรกเป็นหญิงอายุ 20 ปี เดินทางกลับจากสหรัฐ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนอีกรายเป็นชายวัย 20 ปี ที่เดินทางไปทำงาน และท่องเที่ยวในสหรัฐ ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ใกล้ชิดอีก 2 คน อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง รายสุดท้ายที่พบเป็นเด็กชายวัย 11 ปี ไม่มีประวัติเดินทางออกนอกประเทศ สาเหตุเบื้องต้นเด็กป่วยตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน

    จากการนำสารคัดหลั่งไปตรวจสอบ พบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เด็กชายคนดังกล่าวเรียนที่โรงเรียนเอกชนใน กทม. ล่าสุดทางกระทรวงได้ประสานโรงเรียนให้คัดกรองและแยกผู้ใกล้ชิดเด็กแล้ว และกำลังพิจารณาว่าจำเป็นต้องมีการปิดโรงเรียนดังกล่าวหรือไม่. -สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 14:10:20

    สั่งหยุดเรียน 3 ห้อง 3 วัน หลังพบเด็กติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่



    กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. - นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีเด็กชายอายุ 11 ปี ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายที่ 16 ขณะนี้ทราบว่าเป็นนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขตดุสิต

    เบื้องต้นได้ประสานไปยังผู้บริหารโรงเรียน ให้หยุดการเรียนการสอนชั้น ป.6 จำนวน 3 ห้อง เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) ถึงวันที่ 13 มิ.ย. และเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของนักเรียนจำนวน 13 คน หลังพบมีอาการไม่สบาย โดยสั่งให้ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงสอบสวนโรคอย่างละเอียด ติดตามอาการของนักเรียนอย่างใกล้ชิด และให้ครูประจำชั้นร่วมติดตามอาการ โดยให้สอบถามทางโทรศัพท์ตลอด 3 วันที่หยุดเรียน. - สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 17:37:32

    รร.เอกชน-สธ.-กทม.ตั้งวอร์รูมป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ในนักเรียน



    กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. - โรงเรียนเอกชนที่พบนักเรียนชายวัย 11 ปี ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตั้งวอร์รูมร่วมกับ สธ. และ กทม. ติดตามเฝ้าระวังนักเรียนในโรงเรียน กำชับครูอาจารย์สังเกตนักเรียนในความดูแล หากขาดเรียนแจ้งวอร์รูมทันที

    พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมครูกว่า 300 คน ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขตดุสิต ภายหลังมีข่าวว่า มีเด็กชายอายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ของโรงเรียนดังกล่าว ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายที่ 16 ว่า หลังจากที่มีข่าวออกไป ทางผู้บริหารโรงเรียนได้มีคำสั่งให้หยุดการเรียนการสอนนักเรียนชั้น ป.6 จำนวน 3 ห้อง เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) ถึงวันที่ 13 มิ.ย. พร้อมกับได้สั่งการให้มีการทำความสะอาดสิ่งของที่นักเรียนต้องใช้ร่วมกัน อาทิ โทรศัพท์ ก๊อกน้ำดื่ม บ่อยมากขึ้น

    นอกจากนี้ ทางโรงเรียนได้มีการจัดตั้งวอร์รูมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ กทม. เพื่อติดตามเฝ้าดูแลอาการนักเรียนในโรงเรียน โดยมีการกำชับให้ครูอาจารย์ทุกคนสังเกตเด็กในความดูแล หากมีใครขาดเรียนก็ให้รีบแจ้งมายังวอร์รูม เพื่อจะได้รายงานไปให้อีก 2 หน่วยงานรับทราบ และในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) ทาง กทม.จะนำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ เบื้องต้นอย่างละ 500 ชิ้น ไปแจกจ่ายแก่ครูและนักเรียน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

    ด้านนายบัณฑิต ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวถึงกรณีนักเรียนชายชั้น ป.6 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในเขตดุสิต กรุงเทพฯ ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) สช.ร่วมกับ สธ. และกรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงเข้าดูแลสถานการณ์ในโรงเรียน ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) และดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยโรงเรียนที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะต้องปิดการเรียนการสอน 7 วัน สำหรับโรงเรียนมัธยม และ 14 วัน สำหรับโรงเรียนประถม เพื่อให้เชื้อหยุดแพร่ระบาด และดำเนินการทำความสะอาดโรงเรียน ซึ่งการสั่งปิดเรียนเป็นอำนาจของทางโรงเรียนสั่งการได้ทันที ตามแนวทางที่ซักซ้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว

    ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการที่ สธ.วางไว้มีความเข้มข้นเพียงพอ จะไม่นำไปสู่การระบาดมากขึ้นเหมือนโรงเรียนในบางประเทศ และทาง สช.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประสานงานดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว และเชื่อว่าโรงเรียนอื่น ๆ ยังดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นเช่นกัน ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กนักเรียนที่ติดเชื้อคนนี้มีอาการป่วยและหยุดเรียนไป 2 วันแล้ว และไม่มีประวัติเดินทางกลับจากต่างประเทศแต่อย่างใด. - สำนักข่าวไทย

    2009-06-10 19:11:59

    ที่มา http://news.mcot.net/social/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    <table id="post2171456" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">paang<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2171456", true); </script>
    ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด(แป้ง)



    วันที่สมัคร: Apr 2005
    ข้อความ: 11,455
    Groans: 3
    Groaned at 4 Times in 3 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 26,516
    ได้รับอนุโมทนา 39,061 ครั้ง ใน 6,161 โพส
    พลังการให้คะแนน: 4718


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2171456" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->แรงบันดาลใจจากองค์หริภา เก๋-จตุรดา จับงานป้องกันภัยพิบัติ<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> <script type="text/javascript"><!--//<![CDATA[ var m3_u = (location.protocol=='https:'?'https://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php':'http://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php'); var m3_r = Math.floor(Math.random()*99999999999); if (!document.MAX_used) document.MAX_used = ','; document.write ("<scr"+"ipt type='text/javascript' src='"+m3_u); document.write ("?zoneid=86"); document.write ('&cb=' + m3_r); if (document.MAX_used != ',') document.write ("&exclude=" + document.MAX_used); document.write ("&loc=" + escape(window.location)); if (document.referrer) document.write ("&referer=" + escape(document.referrer)); if (document.context) document.write ("&context=" + escape(document.context)); if (document.mmm_fo) document.write ("&mmm_fo=1"); document.write ("'><\/scr"+"ipt>"); //]]>--></script><script type="text/javascript" src="http://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php?zoneid=86&cb=60873869924&loc=http%3A//palungjit.org/threads/%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B2-%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%258B-%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B2-%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4-191681.html%23post2171456&referer=http%3A//palungjit.org/.178/%25E0%25B8%25A0%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3/"></script>
    <noscript> </noscript>
    ผ่านการจัดพิมพพ์หนังสือเรื่อง “Life Saver Book” เพื่อเป็นเสียงหนึ่งเสียงที่จะบอกให้คนอื่นสนใจป้องกันตัวเอง...



    ใน โลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีอะไรโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน จึงขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือกับอุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน เพราะบางครั้งสถานการณ์ก็สามารถสร้างวีรบุรุษและวีรสตรีมาแล้ว!! ลองมารู้จักกับหญิงสาวที่รู้จักนำปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาเป็นบทเรียนใน ชีวิตอย่าง เก๋–จตุรดา ธนะโสภณ ทายาทคนเดียวของนักธุรกิจหญิงเก่งด้านสื่อสาร ดร.กันทิมา กุญชร ณ อยุธยา ที่กำลังจะกลายเป็นหญิงเก่งและแกร่งอีกคนหนึ่งในอนาคต

    ความที่มีคุณแม่เป็นทั้งผู้บริหารในองค์กรด้านสื่อสาร และยังเป็นเจ้าของโรงเรียนนาฏศิลป์ขาบมงคล จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ เก๋ จะหางานอะไรทำสักชิ้นหลังเรียนจบด้านมัณฑนศิลป์ จาก ม.ศิลปากร ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ประสบการณ์ที่ดีจากการเข้ามามีส่วนร่วมในการทำโครงการ บางกอกแฟชั่นวีค ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อหลายปีก่อน จนตัดสินใจทำธุรกิจแรกในชีวิตของตัวเอง ด้วยการร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านช็อกโกแลตสุดเก๋ นับเป็นธุรกิจที่ไปได้สวยทีเดียว แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคอย่างไม่คาดคิด เมื่อเพื่อนที่ร่วมหุ้นด้วยทำอะไรไม่โปร่งใส เธอจึงตัดใจทิ้งธุรกิจนั้นและไม่ขอพูดถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นอีกเลย ได้แต่เก็บปัญหาเหล่านั้นมาเป็นบทเรียน ในการทำงานต่อไป

    เพราะท้อแท้ไม่ได้กับชีวิตที่ยังต้องเดินไปข้างหน้าอีกยาวไกล และโชคดีที่ เก๋ ยังมีก๊วนเพื่อนที่รักและเข้าใจกันมากๆ เธอจึงรวมกลุ่มกับเพื่อนทำในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง โดยเปิดบริษัทดีไซน์ "เก๋" เป็นคนชอบออกแบบ คุณแม่ก็ช่วยให้ไอเดียว่า ยังมีไลน์ของพรีเมียมอยู่นะ ในเมื่อ เก๋ ชอบออกแบบโปรดักส์ ก็น่าจะลองทำด้านนี้ดู เลยเปิดบริษัท "อู่" รับออกแบบผลิตภัณฑ์พรีเมียม เช่น ชุดยูนิฟอร์ม หมวก กระเป๋า เรียกว่าทำทุกอย่าง

    ในการที่หันมาร่วมหุ้นกับก๊วนเพื่อนรักครั้งนี้ เก๋ บอกว่า ทำให้เธอได้เรียนรู้อีกแล้วว่า การเป็นเจ้าของบริษัทกับเพื่อนที่ไว้ใจได้นั้น ต้องวางตัวเองในตำแหน่งหน้าที่อย่างไร และหนนี้เธอได้เพื่อนร่วมงานที่น่ารักและไว้ใจได้ เมื่อทุกอย่างเข้าที่และลงตัว เก๋ จึงตัดสินใจไปเรียนต่อปริญญาโทด้านโฆษณาที่ Academy of Art San Francisco "เพราะ เก๋ มองว่า ผู้หญิงสมัยนี้โตได้อีกนาน เก่งได้อีกเยอะ เก๋ จึงไม่หยุดที่จะเรียนรู้ทั้งเรื่องงานและวิชาการ"

    และก่อนจะโบยบินไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก เก๋ ก็ได้ฝากผลงานหนังสือป้องกันภัยพิบัติด้วยตนเอง หรือ Life Saver Book ให้คนไทยได้หาซื้ออ่านกันด้วย เธอบอกว่า หนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้านที่ทุกคนควรมี เพราะบอกเล่าเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดจากดิน น้ำ ลม ไฟ ให้ทุกคนเข้าใจอย่างง่ายๆว่า มีวิธีการสังเกตอย่างไร จะป้องกันตัวเองได้อย่างไร และจะติดต่อใครได้บ้างเมื่อประสบกับภัยพิบัตินั้นๆ

    "เก๋ เป็นคนที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติมาตั้งแต่เด็ก พอวันหนึ่งมีโอกาสได้ตามเสด็จ พระ เจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิริภาจุฑาภรณ์ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขนาดท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ยังทรงลุยเข้าไปในพื้นที่ซึ่งเป็นดินโคลนถล่มและน้ำท่วม ขณะที่เราเองไม่เคยคิดแม้แต่จะเข้าไปช่วย แต่ท่านกลับไปถึงจุดนั้น และยอมอยู่ตรงนั้น เพื่อให้ทุกคนออกมาด้วยกันหมด เลยเป็นแรงบันดาลใจว่า เราน่าจะทำอะไรได้บ้าง จึงร่วมกับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ถนัดเรื่องงานพิมพ์ ทำหนังสือ Life Saver Book เพื่อเป็นเสียงหนึ่งเสียงที่จะบอกให้คนอื่นสนใจป้องกันตัวเอง ที่สำคัญคือ ต้องการนำเงินรายได้ถวายพระเจ้าหลานเธอ พระองค์ เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เพื่อทรงใช้ทำนุบำรุงศาสนา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป"

    แล้วคนที่มีโอกาสและศักยภาพมากกว่าสาวน้อยผู้นี้ ไม่คิดที่จะทำอะไรเพื่อสังคมเช่นเธอบ้างหรือ?


    ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

    <!-- google_ad_section_end -->
    <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend>
    </fieldset>
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    ;aa24​


    </td></tr></tbody></table>
     
  11. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระอรหันต์
    (ในความเชื่อของหมอนิด)


    นายกิจจา ทวีกุลกิจ (หมอนิด)

    ในแถบภาคอีสานนั้นในปัจจุบันนี้ เท่าที่ผมทราบ(ที่ไม่ทราบยังมีอีกเยอะมาก)มีพระอรหันต์เจ้าอยู่หลายองค์ และที่ไม่เปิดเผยอีกมากอยู่ในป่าก็หลายองค์ วันนี้ผมขอเขียนถึงเฉพาะองค์ที่ผมทราบเท่านั้น คงจะไม่ละเอียดพอและแต่ละองค์ท่านไม่แสดงตัวโอ้อวดหรือลงโฆษณาขายพระหรือของขลัง ผู้ที่ชอบในทางปฏิบัติธรรมเท่านั้น จึงจะเดินเข้ากราบพระอรหันต์เจ้า

    พระอรหันต์บางองค์จะทำตัวแปลกๆ บางคนไม่รู้นึกว่าพระบ๊องๆบ้าๆบอๆ ท่านมีเหตุผลของท่าน ผมก็เคยเจอมาแล้ว จึงอยากฝากเตือนให้ทุกท่านได้ระมัดระวังคำพูด และความคิดของท่านผู้อ่าน อย่าคิดหรือตำหนิพระคุณเจ้าโดยไม่สืบดูประวัติของพระคุณเจ้าองค์นั้นก่อน สมัยที่ หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) ยังอยู่ท่านจะแสดงบางอย่างแปลกๆ บางวันนุ่งขาวบางวันห่มจีวรเป็นพระ ใครถวายอะไรหลวงปู่สรวงจะโยนเข้ากองไฟหมด หน้าหนาวท่านจะอาบน้ำถอดอังสะจีวรออก หน้าร้อนท่านจะก่อไฟผิงตลอดเวลา

    มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นมะเร็งที่เต้านม อยู่ๆหลวงปู่สรวงก็กระโดดบีบนมของผู้หญิงคนนั้น ทุกคนตกตะลึงไปหมดและไม่มีใครรู้มาก่อนว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นมะเร็งที่เต้านม(ปัจจุบันผู้หญิงคนนี้ยังมีชีวิตอยู่) ปรากฏว่าหลังจากวันนั้นมะเร็งเต้านมได้หายเป็นปกติ หมอที่เป็นเจ้าของไข้งุนงงมาก หลวงปู่สรวงเป็นใครมาจากไหนอายุเท่าไหร่ไม่มีใครตอบได้ เพราะแม้แต่คนเฒ่าคนแก่ก็บอกว่า เกิดมาก็เห็นหลวงปู่สรวงแล้ว หลวงปู่สรวงพูดภาษาเขมร อักขระยันต์ต่างๆของหลวงปู่ไม่มีใครอ่านออก

    ผู้คนทั่วไปเรียกหลวงปู่สรวงว่า “เทวดาเล่นดิน” และเหรียญรุ่นนี้ของท่านคนนิยมเล่นหากันมาก หลวงปู่สรวงไม่เคยสร้างเครื่องรางของขลัง แต่ทุกอย่างที่หลวงปู่หยิบขึ้นมาล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์แม้แต่เศษดิน เหรียญรุ่นนี้ลูกศิษย์ของท่านเป็นคนจัดทำ เพื่อจะนำมาแจกจ่ายและได้นำมาให้ท่านช่วยปลุกเสก(ใส่เป็นถุงๆ) หลวงปู่สรวงหยิบถุงที่บรรจุเหรียญโยนใส่ลงในโคลนดินเป็นอันเสร็จพิธี...ผมได้เนื้ออัลปาก้ามาหนึ่งเหรียญ...ดีใจมากๆเลยครับ หลวงปู่สรวงมรณะภาพไป 3-7 วันแล้วฟื้น 2 ครั้งแล้ว แต่ในปัจจุบันท่านได้มรณะภาพไปหลายปีแล้ว ผู้คนก็ยังไปกราบไหว้ร่างของหลวงปู่อยู่เสมอ นี่เป็นประสบการณ์หนึ่งในอดีตที่ขอนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อน

    อีกองค์ที่ผมติดตามหามาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีบุญได้พบท่านเลยเพราะท่านจะอยู่ไม่เป็นที่ พอทราบว่าท่านอยู่ที่นี่ พอรีบไปท่านก็ย้ายไปอีกที่ บางวันท่านอยู่จังหวัดชัยภูมิตอนเช้า พออีกชั่วโมงต่อมาท่านไปอยู่ที่ลำนารายณ์ หรืออีกจังหวัดหนึ่งที่ไกลออกไป ผมเฝ้าติดตามหาท่านมา 8-9 ปีแล้วยังไม่ได้พบกับท่านเลย แถวลุ่มน้ำชีจะเรียกท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำชีหลวงปู่สมภาร คือชื่อที่ลูกศิษย์ท่านเรียกขานกัน จากที่เพื่อนๆไปพบท่านแล้วมาเล่าให้ผมฟังท่านมีอายุประมาณ 50 ปีเศษ

    ท่านจะสร้างสะพานแถวลุ่มน้ำชีหลายแห่งจากแรงงานชาวบ้าน ท่านมีอะไรที่แปลกๆไม่เหมือนพระทั่วๆไป ถ้าจะเขียนเป็นตัวหนังสือคงจะเขียนเป็นเล่มๆหลายเล่มทีเดียว ผมยังไม่ลดทิฐิที่จะตามหา “หลวงปู่สมภาร” ผมหวังว่าถ้าผมมีบุญ สักวันหนึ่งผมจะต้องได้พบท่านอย่างแน่นอน หรือหากใครที่เคยพบท่านหรือรู้จักกรุณาเมล์มาบอกผมด้วยนะครับ

    พระอรหันต์ที่จังหวัดร้อยเอ็ด มี หลวงปู่ศรี...พระอรหันต์ที่จังหวัดอุดรฯ คือ หลวงตามหาบัว...พระอรหันต์ที่จังหวัดอุบลฯ คือ หลวงปู่ดำสิงห์...พระอรหันต์ที่จังหวัดสกลนคร คือ หลวงปู่จาม และ หลวงปู่อว้าน...หลวงปู่แบน เทพเจ้าแห่งภูพาน สกลนครเช่นกัน

    ที่จังหวัดสิงห์บุรีมี หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวันซึ่งคิดว่าทุกท่านคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ท่านเคร่งครัดในการปฏิบัติมาก ที่เชียงใหม่มี หลวงพ่อเปลี่ยน...ที่เชียงรายมี ครูบาบุญชุ่ม แต่ในช่วงเข้าพรรษาครูบาบุญชุ่มจะอยู่ตามถ้ำในป่า...บางครั้งท่านจะข้ามไปฝั่งพม่า..บางทีท่านจะไปภูฐาน ตามหาท่านยากเหมือนกัน ที่จังหวัดชัยภูมิมีหลวงพ่อที่ผมเคารพและไปกราบท่านอยู่บ่อยๆ แต่ท่านยังไม่อนุญาตให้ผมเอ่ยนามของท่านลงหน้าแรกนี้ จึงต้องขออภัยด้วย แต่ถ้าตอบเมล์ผมก็ไม่ผิดสัจจะกับหลวงพ่อ

    ที่จังหวัดชัยภูมิมีพระดีอยู่หลายองค์ทีเดียว หากท่านได้ไปจังหวัดชัยภูมิ ท่านจะได้พบและใกล้ชิดพระอรหันต์โดยที่บางท่านไม่รู้ นึกว่าหลวงพ่อหรือพระแก่ธรรมดาๆทั่วไป มีวันหนึ่งผมได้นั่งสนทนากับหลวงพ่ออยู่และมีอีกหลายคนก็ไปกราบหลวงพ่อด้วยเช่นกัน มีผู้หญิงคนหนึ่งถามหลวงพ่อว่า...หลวงพ่อเป็นพระอรหันต์หรือเปล่าค่ะ...หลวงพ่อหัวเราะแล้วหันมามองผม หลวงพ่อพูดไปยิ้มไปว่า...หันซิจะให้หันซ้ายหันขวาหลวงพ่อหันได้ทั้งนั้น...แล้วท่านก็หัวเราะ

    ยังมีเรื่องสนุกๆอีกเยอะเวลาได้พูดคุยสนทนากับหลวงพ่อ บางวันท่านก็จะเล่าเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาในอดีตเมื่อ 800 กว่าปีก่อนให้ฟัง หลวงพ่อจะแทรกด้วยธรรมะอยู่เสมอ คำพูดของหลวงพ่อมีความหมายทั้งนั้น ที่ผมพูดถึงพระอรหันต์มาหลายองค์นั้นท่านอายุมากแล้ว หากท่านใดจะไปกราบท่าน กรุณาอย่ารบกวนท่านมากนักให้ท่านได้พักผ่อนบ้าง เชื่อเหอะเพียงท่านตั้งจิตอธิษฐานเท่านั้น พระคุณเจ้าก็รับรู้หมด ผมไปมาและทำอย่างนี้เสมอ เมื่อไปแล้วไม่ได้พบก็จะกราบท่านตรงหน้ากุฏิของท่าน ขอให้ไปด้วยจิตอันบริสุทธิ์และศรัทธาในสาวกของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

    ที่วัดใหม่เสนา ซ.โชคชัย4 ก็มี หลวงปู่หลอด ท่านก็เป็นพระอรหันต์เหมือนกัน ผมได้พบพระผู้มีอภิญญาสูงมาแล้วหลายองค์ เอาไว้ว่างเมื่อไหร่ผมจะเขียนมาเล่าให้ฟังมีเรื่องสนุกเยอะมาก ผมคิดว่าหากวันที่ 15-18 นี้ถ้ามีเวลาขากลับจากปัตตานี ผมจะแวะไปกราบ หลวงพ่อปรีชา วัดอิติสุคโต หัวหิน พระผู้มีอภิญญาบารมีสูง เพราะวันที่ 19 มิ.ย. ผมต้องไปเตรียมตัวบวชที่วัดของหลวงพ่อ แล้วหากผมไม่ได้กราบหลวงพ่อปรีชาในครั้งนี้ ผมคงต้องรอจนออกพรรษาก่อน ผมติดงานเขียนจนไม่มีเวลา จึงต้องเลื่อนวันเดินทางไปกราบ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี และวันที่ 15 ตอนเช้าจะมีหนังสือฉบับหนึ่งมาสัมภาษณ์ผม ขอให้ติดตามอ่านเมื่อหนังสือวางตลาด ผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าชื่อหนังสืออะไร

    ที่ผมเขียนบทความ “พระอรหันต์” ในวันนี้ยังไม่ละเอียดและยังไม่หมดเพราะยังมีพระอริยสงฆ์อีกมากมาย แต่ด้วยเวลาที่มีอยู่ไม่มาก จึงขอเขียนเพียงคร่าวๆเท่านี้ก่อนนะครับ หากท่านใดได้ใส่บาตรหรือได้กราบพระอริยสงฆ์-พระอรหันต์ ท่านจะได้บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ในชีวิต ยิ่งหากท่านได้ปฏิบัติสมาธิ ท่านไม่จำเป็นต้องไปหลงเชื่อหมอดูคนไหน ที่หลอกให้ท่านทำพิธีสะเดาะเคราะห์ใดๆเลย...

    สติมีปัญญาเกิด...จงพิจารณาทุกอย่างที่ผมเขียนมาก่อนที่จะปักใจเชื่อผม ผมเองยังขาดซึ่ง อุเบกขา ผมเองยังใจร้อนอยู่ ผมเป็นคนที่พูดขวานผ่าซากหวานไม่เป็น ซึ่งสังคมคนทั่วไปส่วนมากจะไม่ชอบ...แต่ผมไม่เคยอาฆาตหรือพยาบาทใคร...สิ่งที่ผมต้องปรับปรุงตัวเองเรื่องใจร้อนไม่ยอมคน แต่ผมก็ไม่กล้ารับปากว่าผมทำได้ ผมรับรองได้เพียงเรื่องผมไม่เคยอาฆาตหรือพยาบาทใครและผมมีความจริงใจให้กับคนดีเท่านั้น

    ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับการใฝ่หาพระดีพระแท้พระอริยสงฆ์ ผมเคยเลวผมเคยชั่วมามาก ผมจะไม่ทำชั่วอีกแล้ว สิ่งที่จะติดตามเราไปเมื่อเราตายไม่ใช่ทรัพย์สมบัติใดๆทั้งสิ้น มีเพียง “กรรมดีหรือกรรมชั่ว” ที่เราได้ทำในชาตินี้เท่านั้นที่จะติดตามจิตของเราไป...จิตไม่มีวันตาย...ร่างกายเป็นเพียงที่อยู่อาศัยของจิตเท่านั้น ร่างกายก็เปรียบเสมือนบ้านที่เราอยู่อาศัย นานไปก็ต้องเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ขอให้ทุกท่านเจริญสติ...ภาวนา “พุท..โธ..” ผู้รู้..ผู้ตื่น...ผู้เบิกบาน..ทุกลมหายใจทำได้ทุกกิริยาบท ไม่ว่าจะนั่ง,เดิน,นอน จับลมหายใจพุทโธไว้ตลอดเวลา

    ผมคงจะต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ก่อน หากมีสิ่งใดที่ผมพลาดผิดไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี...รู้ไม่หมดรู้ไม่จริง...ผมก็ขออภัยด้วยเพราะผมบางครั้งก็อวดรู้ ทั้งๆที่มีผู้รู้จริงและรู้มากกว่าผมมากมาย แต่ผมรู้เพียงเท่านี้เองและจะพยายามเรียนรู้ให้มากขึ้นครับ / สวัสดี

    ด้วยความเคารพ
    หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
    11 มิ.ย. 2552

    ที่มา http://www.mornid.com/home.php
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 102996.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.1 KB
      เปิดดู:
      1,185
  12. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตามที่ผมได้เคยอ่านหนังสือของ อ.ปริญญา ตันสกุล ท่านเคยบอกเอาไว้ว่า วิกฤติโลกที่เคยเกิดมาแล้วบนดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้นั้น ครั้งท้ายสุดที่เคยเกิดก็คือตอนที่ทวีปแอตแลนติสล่มจมทะเลไปนั่นเอง เพราะคนในยุคนั้นก็มัวเมาในกิเลสตัณหา เช่นเดียวกันกับคนในยุคสมัยนี้ เลยถูกชำระล้างเอาออกไปจากโลกนี้ครับ

    ในการชำระโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ อ.ปริญญา บอกว่าเป็นการชำระล้างคนชั่วให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้ครับ เหลือไว้แต่คนดีมีศีลธรรมเท่านั้นที่จะได้อยู่คู่กับโลกนี้ต่อไป เรียกว่าคนชั่วช้าไร้ศีลธรรมกำลังจะถูกชำระล้างให้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ เช่นเดียวกับตอนที่ไดโนเสาร์ต้องสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ในสมัยอดีตครับ

    แต่เสียดายที่คนดีมีศีลธรรม เป็นคนจำนวนน้อยนิดในโลกนี้ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีศีลธรรม ซึ่งมีเป็นส่วนมากของประชากรในโลกนี้ ซึ่งก็ตรงกับพุทธทำนายในศิลาจารึก ที่ได้กล่าวเอาไว้ดังนี้ครับ

    พระพุทธพจน์ทำนาย

    คณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๔ ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลาจารึก เขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน แปลได้ดังนี้

    สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลก ซึ่งเกิดมาล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์ใกล้ถึงพระชนมายุย่างเข้าพระปรินิพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์ผู้ศิษย์อันสนิทพากเพียรพยาบาลว่า:-

    " ดูกรอานนท์ สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบาก ทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติที่หมุนเวียนของโลก โลกหมุนไป ใกล้ความแตกทำลายจนถึงสมัยที่อาตมานิพพานไปแล้วได้ ๕,๐๐๐ ปี

    เมื่อโลกไปไกล้กึ่งจำนวนที่อาตมาทำนายไว้ (๒,๕๐๐ ปี) มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง ในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หิน ถูกสาปให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก เมื่อใกล้ กึ่งศาสนาของอาตมา ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะมารบราฆ่าฟันกัน ถึงเลือดนอง แผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้า ทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่ง จึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของ ยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งกำเนิดมจากสัตว์ป่าอำมหิต

    ส่วนศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญตามเดิมวัจนะของอาตมา ก็จะสามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดที่เคารพสักการะพระศรีมหาโพธิ์และกาสาวพัสตร์จะได้รับวิบัติเบาบางลง แต่จะหนีธรรมชาติไม่พ้น

    เริ่มแต่ศาสนาอาตมาล่วงมาได้ ๒,๔๘๕ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า สัตว์ป่าจะเข้ากรุง เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำสงครามจะทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ

    ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยมเชื่อถือถ้วยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ผู้ดีมีศีลธรรมประพฤติชอบ ไม่มีเสียง (อธรรมพูดจ้อ แต่ธรรมเป็นใบ้) จะเกิดการจลาจลวุ่นวาย ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดจากลูก โคกจะเป็นน้ำ ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้เหล็กโกฏิหนึ่ง ผีเสื้อแสนหนึ่งมาปล่อยแสนหนึ่งมาปล่อยไข้เป็นไฟผลาญ

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ ให้เจริญภาวนาดังนี้

    " หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน "

    ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้น ที่มีอายุขัยอยู่ได้ไกล้ยุคกึ่งยุคลลาย

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๑๒ (ปีจอ) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะอยู่บ้านเมืองต่อไป

    การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุข มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของอาตมาในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัย ของอาตมาล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี

    เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ พระมหากษัตริย์ธรรมิกราช จะมาเกิด ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้สมณชีพราหมณ์จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป

    ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไปนับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลาผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษาศีลห้าประการหนึ่งยำเกรงบิดา มารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณหนึ่ง ให้เจริญภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้

    " พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม "

    รู้แล้วอย่าประมาท ให้ท่องบ่นภาวนารักษาศีล

    ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-2.html

    หมายเหตุ

    ถ้าหากว่าการนับปีพุทธศักราช คลาดเคลื่อนเร็วกว่าความเป็นจริงไป 40-50 ปี นั่นก็แสดงว่าปี พ.ศ.2507(ปีมะโรง) ในพุทธทำนายความจริงอาจจะหมายถึงปี พ.ศ.2555 ซึ่งก็จะตรงกับปีมะโรงพอดีคำว่า"คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน" อาจจะหมายถึงเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงไปทั่วโลก จนทำให้การจราจรทั้งหมดในโลกกลายเป็นอัมพาต ผู้คนไม่สามารถเดินทางติดต่อไปมาหาสู่กันได้ตามปกติเหมือนในปัจจุบันนี้ หรืออาจจะหมายถึงต้องล้มลุกคลุกคลานเพราะกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงก็เป็นได้ (นักวิทยาศาสตร์อเมริกาทำนายว่าปี พ.ศ.2555 แกนขั้วแม่เหล็กโลกจะพลิกกลับขั้ว)

    2508 (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ก็น่าจะหมายถึงปี 2556 ซึ่งตรงกับปีมะเส็ง เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ จนทำให้ประเทศมหาอำนาจหลายประเทศในปัจจุบันนี้ พื้นแผ่นดินแถบชายฝั่งทะเลต้องยุบตัวจมหายลงไปในทะเลเนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

    2512 (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด 7 วัน 7 คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะก็น่าจะหมายถึงปี พ.ศ.2560 ซึ่งตรงกับปีระกาจะเกิดเหตุการณ์"เจ็ดเจ็ดสี่สิบเก้าวัน"แห่งความมืดมิด ตามที่ได้มีการทำนายกันเอาไว้ครับ

    ***************************************************
     
  13. วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    กราบเท้าฆ่าแม่! เชือดคอดับคามือหนีความจน<SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&dt=1244678621330&lmt=1244678621&output=html&slotname=7657140061&correlator=1244678621330&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fgeneral-news%2F37012.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&frm=0&ga_vid=180069832400602850.1242101222&ga_sid=1244678600&ga_hid=672870938&ga_fc=true&ga_wpids=UA-1682552-2&flash=10.0.22.87&w=468&h=15&u_h=819&u_w=1024&u_ah=783&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_java=true&dtd=93&xpc=pPplTKpeFB&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


    บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-06-10T16:56:46+0700>10/06/2009 at 16:56</ABBR>, ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน และ กราบเท้า, ฆ่าแม่. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.

    เกิดเหตุสลดใจ เมื่อหนุ่มใหญ่ขาพิการ วัย 44 ปี ก่อเหตุมาตุฆาต เชือดคอแม่บังเกิดเกล้าที่ตาบอดทั้ง 2 ข้าง หลังสุดทนกับชีวิตที่ยากไร้ และถูกแม่ดุด่าในระยะหลัง
    เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (10 มิ.ย.) พ.ต.ท.ไพศาล มะยงค์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย ภายในกระต๊อบติดกับบ้านเลขที่ 21 หมู่ 1 ต.คลองบ้านโพธิ์ จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพหญิงชรานอนเสียชีวิต ภายในกระต๊อบ ทราบชื่ิอคือ นางลิบเฮียง แซ่อิ๊ว อายุ 80 ปี พิการตาบอดทั้งสองข้าง สภาพศพถูกมีดเชือดที่ลำคอ จนเป็นแผลเหวอะหวะหลายแผล ข้างศพพบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม และในที่เกิดเหตุ พบนายพิชัย หรือ เส่ย สามารถ อายุ 44 ปี บุตรชายของผู้ตาย ซึ่งมีขาซ้ายพิการ ต้องนั่งรถเข็น และเป็นผู้ฆ่าแม่ของตัวเอง นั่งรอมอบตัวต่อตำรวจ
    จากการสอบสวน นายพิชัยรับสารภาพว่า ปกติพักอาศัยกับแม่ ที่กระต๊อบหลังนี้ ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินข้างบ้าน ของ น.ส. ปาศิณี แซ่อิ๊ว อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นน้าสาว โดยก่อนหน้านี้ ตนมีอาชีพเป็นช่างกลึง แต่ประสบอุบัติเหตุขณะทำงาน ทำให้ขาซ้ายพิการมากว่า 10 ปีแล้ว แต่ตนเป็นผู้เลี้ยงดูและหาข้าวปลาอาหารให้แม่ทุกวัน อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังที่ผ่านมา แม่ชอบดุด่าว่ากล่าวตนจนรู้สึกรำคาญ ประกอบกับมีฐานะยากจน และต้องอาศัยใช้เงินของน้าสาวเพราะไม่มีอาชีพ ตนจึงเกิดความเครียดและต้องการหนีปัญหา จึงตัดสินก่อเหตุดังกล่าว
    นายพิชัย กล่าวต่อว่า ก่อนลงมือเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของคืนที่ผ่านมา (10 มิ.ย.) ซึ่งเป็นช่วงที่แม่กำลังนอนหลับ ตนได้ก้มกราบเท้าแม่ 3 ครั้ง และกล่าวขอขมา จากนั้นใช้มีดปลายแหลมเฉือนลำคอของแม่หลายครั้งจนแม่เสียชีวิต ก่อนใช้มีดเล่มดังกล่าวเชือดคอตัวเองเพื่อต้องการตายตามแม่ แต่คมมีดไม่เข้าเนื้อจึงตัดสินใจนั่งรถเข็นไปยังท่าน้ำหน้าวัดคลองบ้านโพธิ์ ซึ่งไม่ไกลจากที่เกิดเหตุแล้วตัดสินใจกระโดดลงไป แต่ตนว่ายน้ำเป็น จึงไม่จมและลอยคอในคลองนานกว่า 2 ชั่วโมง กระทั่งมีชาวบ้านมาพบ และช่วยกันนำขึ้นมา ก่อนที่จะทราบเรื่องที่ตนฆ่าแม่ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
    ด้าน น.ส.ปาศิณี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายพิชัยเคยตัดพ้อกับตนเรื่องที่ถูกแม่ดุด่าและพูดจาไม่รู้เรื่อง อีกทั้งยังกล่าวอีกว่าหากทนไม่ไหวในวันใดจะฆ่าแม่ให้ตาย และจะฆ่าตัวตายตาม เพื่อให้หมดเวรกรรม แต่ตนไม่คิดว่านายพิชัยจะทำเช่นนั้นจริง
    ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ไทยรัฐ

    ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด หมวด >> men >> health&firm

    นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์ กล่าวว่า ปัญหาต่อตนเองที่เกิดจากความเครียดเป็นไปได้ทั้งการเจ็บป่วยทางกายและทางใจ ความเครียดสามารถส่งผลต่อการเจ็บป่วยทางกายได้ทุกระบบ และมีผลแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เพราะจุดอ่อนในร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมีอาการปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น หายใจไม่อิ่ม อ่อนเพลีย ปวดหลัง ปวดข้อ ปวดท้อง โรคกระเพาะ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง รวมไปถึงระบบภูมิต้านทานโรคลดลง คนเราถ้าเครียดมากๆ ภูมิต้านทานของร่างกายทำงานได้ไม่ดี ร่างกายก็มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย และมีการศึกษาจำนวนมากพบว่า คนที่มีความเครียดสะสมเรื้อรังเป็นระยะเวลายาวนาน มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งสูง
    นอกจากผลกระทบทางด้านร่างกาย แล้ว จิตแพทย์ระบุว่ายังมีผลกระทบต่อจิตใจอีกด้วย เพราะคนที่มีความเครียดนานๆ ไม่สามารถแก้ปัญหาในชีวิตได้ ก็จะเกิดความรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ถ้าเป็นระยะเวลานานก็อาจป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่สามารถทำงาน รับผิดชอบครอบครัวและชีวิตประจำวันได้บางรายอาจจะรุนแรงถึงขั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งเราพบเห็นเป็นข่าวจากสื่อเป็นประจำ
    ผลกระทบของความเครียด นอกจากจะมีต่อตัวเองแล้ว ยังส่งผลต่อคนรอบข้างไม่น้อย คนที่มีความเครียดสะสม มักจะมีอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียวได้ง่าย ทำให้บรรยากาศในครอบครัว หรือที่ทำงานไม่ดี คนรอบข้างพลอยเครียดและไม่มีความสุขตามไปด้วย และในหลายๆ ราย ความอดทนต่อความขัดแย้งต่างๆ จะลดลงและมักใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงหรือทำร้ายผู้อื่น ทำให้เกิดเหตุเศร้าสลดใจติดตามมา
    ทักษะในการจัดการกับความเครียดจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับทุกคน ซึ่งแต่ละคนมีความสามารถในการรับความเครียดได้ไม่เท่ากัน ซึ่งนพ.ไกรสิทธิ์ บอก ว่า คนที่สุขภาพจิตแข็งแรงก็จะสามารถรับความเครียดได้มาก ถึงจุดเดือดยาก ล้มยาก ขณะที่คนที่สุขภาพจิตแข็งแรงน้อยก็จะรับความเครียดได้น้อย ถึงจุดเดือดง่าย ผลกระทบจากความเครียดก็จะมีความรุนแรง เราทุกคนจึงมีความจำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะในการจัดการกับความเครียด โดยมีหลักการคร่าวๆ คือ พยายามลดแรงกดดันที่ไม่จำเป็นออก ให้เหลือน้อยที่สุด และเพิ่มความสามารถของตนเองในการรับมือกับแรงกดดัน
    นพ.ไกรสิทธิ์ กล่าว ว่า สำหรับแนวทางในการลดแรงกดดันนั้นสามารถทำให้หลายทาง เช่น การปรับลดเป้าหมายหรือความคาดหวังต่างๆ ในชีวิตและการทำงานให้ลดลง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพราะการตั้งเป้าหมายสูงเกินไปไม่เหมาะกับสถานการณ์ จะเป็นตัวสร้างแรงกดดันเกินจำเป็น นอกจากนี้การใช้ชีวิตแนวเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช้จ่ายหรือก่อหนี้เกินกำลัง ก็จะช่วยลดแรงกดดันด้านภาระการเงิน ส่วนปัญหาแรงกดดันด้านเศรษฐกิจหรือความขัดแย้งทางการเมืองอาจกระทำได้โดยลด การรับรู้ข่าวสารลง เพราะบางคนรับข้อมูลเข้ามากเกินไปโดยไม่รู้ตัว และไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่รับเข้าไปได้ก็ก่อให้เกิดความเครียด
    สำหรับ การเพิ่มความสามารถในการรับมือกับแรงกดดัน จิตแพทย์ให้แนวทางว่า สามารถทำได้โดยการจัดการกับความเครียด ไม่ให้สะสมอยู่ในตัวเรา เพราะถ้าความเครียดสะสมมากๆ เมื่อเจอกับความขัดแย้ง โอกาสที่จะถึงจุดเดือดระเบิดอารมณ์ก็เป็นไปได้ง่าย
    “ถ้าจะเปรียบ เทียบสุขภาพใจกับสุขภาพกาย ด้านร่างกายเราต้องอาบน้ำชำระร่างกายทุกวัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรก เหงื่อไคล สะสมก่อให้เกิดโรคผิวหนังหรือโรคติดเชื้อตามมา ด้านจิตใจก็เช่นกัน แต่ละวันเราจะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบจิตใจ ทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆ ขึ้นมากมาย ทั้งบวกและลบ อารมณ์ลบที่สะสมและไม่ได้ถูกกำจัดออกก็จะก่อให้เกิดความเครียดและส่งผลให้ เกิดความเจ็บป่วยได้ ดังนั้นเราจึงควรหาเวลาส่วนตัวในแต่ละวันเพื่อชำระล้างอารมณ์ลบออกจากใจ เช่น ฟังเพลงที่ชอบ ทำงานอดิเรก เล่นกีฬา ปั่นจักรยาน ชมนกชมไม้เพื่อพักสมอง รวมถึงการฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ”
    สำหรับการเพิ่มความสามารถในการรับมือกับความเครียดนั้น นพ.ไกรสิทธิ์ แนะนำว่า ควรฝึกทำอะไรให้ช้าลง เพราะปัจจุบันชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยความรีบเร่ง ทำให้เรื่องของสมาธิและสติในชีวิตประจำวันของเราลดน้อยลง คนที่มีสมาธิและสติที่ดีจะมีโอกาสรู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ทำให้การควบคุมอารมณ์ทำได้ดีขึ้น ปัญหาในชีวิตที่เกิดจากการขาดสติ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็จะลดน้อยลง การใช้วิธีนับ 1 ถึง 10 หรือการออกจากสถานที่ที่ทำให้เกิดอารมณ์ขุ่นมัวก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วย ลดโอกาสเกิดการระเบิดอารมณ์ได้
    อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มความ สามารถในการรับมือกับความเครียดได้ก็คือ การหาความรู้เพิ่มเติมด้านจิตวิทยาและศาสนา เพื่อเพิ่มมุมมองชีวิต มุมมองปัญหาได้กว้างขึ้น เมื่อชีวิตจะต้องประสบกับปัญหาก็สามารถมองเห็นทางเลือกสำหรับทางออกได้มา ขึ้นกว่าเดิม โอกาสจะรู้สึกว่าเกิดทางตัน ท้อแท้ หรือโกรธแค้นก็น้อยลง ความสามารถคิดหรือมองโลกแง่บวก และการให้อภัยก็ทำได้ดีมากขึ้น เพื่อเป็นการตัดวงจรเครียดก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงน่าสลดใจตามมา
    ข้อมูลจากโรงพยาบาลมนารมย์
    ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก


    โดย: iMADD
    ตั้งเมื่อ: <ACRONYM title="ตั้งเมื่อ 2009-06-10 22:01:49">2009-06-10 22:01:49</ACRONYM>
     
  14. LiFeHouSe Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +80
    รัฐ Victoria มีผู้เป็นไข้หวัดหมูต่อประชากรมากที่สุดในโลก

    รัฐ Victoria ได้กลายมาเป็นพื้นที่ๆมีจำนวนประชากรติดเชื้อไข้หวัดหมูมากที่สุดในโลกแล้ว และได้กลายมาเป็นสาเหตุที่ประชาชนจากรัฐอื่นๆนั้นต้องติดเชื้อไข้หวัดอีกด้วย
    นสพ Australian ได้รายงานมาว่ารัฐ Victoria ได้แพร่เชื้อไข้หวัดมากกว่า 12 รายไปยังรัฐอื่นๆในประเทศออสเตรเลียและประเทศอื่นๆอีกด้วย

    เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาประชาชนบางคนจากรัฐ Western Australia, NSW, Tasmania และ South Australia ที่เดินทางกลับมาจากการเข้าชมการแข่งขันกีฬารักบี้ State of Origin ในรัฐ Victoria ติดเชื้อไข้หวัดหมูไปตามๆกัน และในเหตุการณ์เดียวกันนี้ทำให้มีประชาชนอย่างละคนจากประเทศสิงค์โปรและมาเล เชีย ได้ติดเชื้อไข้หวัดเช่นเดียวกัน

    แม้แต่นักกีฬารักบี้ในการแข่งขัน State of Origin เองนั้นอย่าง Ben Hannant ได้ติดเชื้อไข้หวัดมาเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจำนวนผู้ที่ติดเชื้อในรัฐ Victoria ไม่ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นแต่หลายๆฝ่ายต่างเกรงว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น อีกเป็นจำนวนมากในอนาคตอันใกล้นี้

    รัฐอื่นๆในประเทศออสเตรเลียซึ่งเคยมีจำนวนผู้ป่วยน้อยกว่า 20% ในตอนนี้ได้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาจาก 45 คนไปเป็น 177 จนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมดมีจำนวน 1051 คนแล้ว

    Western Australia ได้รับผลกระทบมากที่สุดหลังจากพบว่ามีประชาชนติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นมาอีก 14 เมื่อวานนี้ โดยเด็กชายอายุ 11 ปีและสตรีอายุ 23 ปีได้เดินทางกลับมาจาก Melbourne ในการเข้าชมการแข่งขันกีฬา State of Origin

    ในรัฐ NSW เองมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก 4 ไปเป็น 8 คนและทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในรัฐทั้งหมดมีจำนวน 82 คน ส่วนที่ South Australia และ Tasmania ได้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างละคน และทั้งสองคนนี้ได้เดินทางกลับมาจากรัฐ Victoria เช่นเดียวกัน

    รัฐ Victoria เป็นพื้นที่จำนวนต่อประชากรที่มีคนติดเชื้อมากที่สุดในโลกแต่เป็น อันดับ 4 ของอัตราการติดเชื้อลองลงมาจาก สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา


    ที่มา natui.com.au
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. สายน้ำผึ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +379
    ฝนตกเป็นลูกอ๊อด ในเมืองแถบชายฝรั่ง ทางภาคกลางของญี่ปุ่น (ไอเอ็นเอ็น)

    พบเหตุการณ์ประหลาดที่มาพร้อมกับฝนในญี่ปุ่น โดยพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองนานาโอะ จังหวัดอิชิกาวะ แถบชายฝั่งทางภาคกลางของญี่ปุ่น อ้างว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ยินเสียงดังผิดปกติ ขณะที่ฝนตกในลานจอดรถ เมื่อไปดูก็พบว่า มีลูกอ๊อดนับร้อยตัวตกอยู่ที่กระจกหน้ารถและตามพื้น ซึ่งจากนั้นก็มีชาวบ้านอีกหลายคนที่แจ้งว่า พบเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน

    นักอุตุนิยมวิทยาในเมืองนานาโอะ กล่าวว่า แม้ผู้ที่พบเห็นจะคาดกันว่า อาจจะมาจากการที่เมฆได้หอบเอาลูกอ๊อดในแหล่งน้ำขึ้นไปบนอากาศ ในช่วงที่ก่อนจะเกิดฝนตก แต่ในมุมมองทางอุตุนิยมวิทยาแล้ว ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากปรากฏการณ์ประหลาดดังกล่าว สำหรับปรากฏการณ์ที่มีวัตถุหรือสัตว์ตกลงมาพร้อมฝนนี้มีมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า ฟา-ฟรอตสกายส์ ซึ่งเป็นรูปย่อของคำว่า ฟอล ฟรอม เดอะ สกายส์ ที่หมายถึงตกลงมาจากฟ้า โดยนอกจาก ลูกอ๊อดแล้ว ยังเคยมีรายงานว่า มีปลา ,แมงกระพรุน ,เหรียญหรือแม้กระทั่ง เนื้อสัตว์ ตกลงมาจากฟ้าจากปรากฏการณ์นี้ด้วย
     
  16. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระโอวาทท่านปู่พระยายมราช ผู้เป็นใหญ่ในนรกโลก
    โดย อาจารย์เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ


    ทุกคนให้ตัดความสงสัยในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เสีย ผู้ใดลังเลในพระรัตนตรัยไม่ถึงธรรมนะลูกทุกคน

    ทุกคนให้ตัดความสงสัยในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เสีย ผู้ใดลังเลในพระรัตนตรัยไม่ถึงธรรมนะลูกทุกคน เร่งสร้างกุศลทำให้ดีให้จริงจัง นิวรณ์ทั้ง 5 จงตัดทิ้งออกไปจากจิต

    (นิวรณ์ 5 คือ)
    1. ความรักในรูป รส กลิ่น เสียง
    2. ความหงุดหงิดไม่พอใจ
    3. ความง่วงเหงาหาวนอนขี้เกียจในการปฏิบัติธรรม
    4. ความฟุ้งซ่านคิดไร้สาระคิดแต่ในทางโลกไม่คิดทางออกจากขันธ์ 5
    5. ความลังเล สงสัยในผลของการปฏิบัติธรรมตามที่พระพุทธองค์ทรงสอน คิดว่าไม่มีผลจริง

    ข้างล่างคือ นรกโลก มีผีนรกมากมาย พวกผีนรกนี้ก็มาจากคนที่ทำผิดศีล 5 ฆ่าสัตว์ฆ่าคน ลักขโมย มีชู้ พูดปด คดโกง พูดให้คนเป็นทุกข์ ดื่มสุรายาฝิ่น เล่นการพนัน เป็นต้น ไม่กตัญญูต่อคุณพ่อ คุณแม่ผู้มีพระคุณ ปรามาสพระอริยเจ้า ก็ลงนรกได้ ทำไมคนไม่เลือกเดินทางไปสวรรค์กันเล่า ทำไมคนจึงเลือกเดินทางไปนรกกัน ตอบได้ไหม ? เพราะความไม่รู้คิดว่านรก สวรรค์ไม่มีจริง คิดว่าตายแล้วสูญ ชาตินี้มีชีวิตอยู่ชาติเดียวจบกัน ถ้าเข้าใจผิดมีอวิชชาแบบนี้ ปัญญาย่อมไม่เกิด แล้วจะเดินขึ้นสวรรค์ได้อย่างไรเล่า คอยถามพวกผีหรือวิญญาณของคนที่ตายแล้วทุกวันถึงบุญกุศลความดีที่เคยทำไว้ในสมัยเป็นคน ถ้านึกได้ข้าก็ให้ไปเสวยสุขที่สวรรค์ก่อน มันก็ระลึกถึงบุญกุศลกันไม่ออกสักคนสักตัว

    พวกผีนรกพวกนี้คือ คนที่ตลอดชีวิต ไม่เคยสร้างบุญกุศลเขาก็ระลึกนึกถึงความดีไม่ได้ ถ้าเขาใส่ใจบุญกุศลสักนิดเช่น ตักบาตร ไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญให้ทาน ตอบแทนพระคุณพ่อแม่เขาก็จะนึกออก สร้างพระพุทธรูป ทอดผ้าป่า ทอดกฐิน วิหารทานดีทั้งนั้นไปสวรรค์ได้ง่าย เพราะเขาไม่ทราบว่ากฎของกรรมดี กรรมชั่ว มีจริง เขาจึงต้องเวียนกลับไปสู่แดน อบายภูมิ มีนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉานเป็นต้น

    อย่านึกว่าปู่ดีใจนะที่ได้เห็นพวกเจ้าลงนรกกัน นึกหรือว่าทรมานวิญญาณผีนรกแล้วมันสุขใจ ท่านปู่พระยายมราชเป็นทุกข์ใจมาก สวรรค์มีทางกว้างขวางไปก็ง่ายมาก ทำไมไม่ไปทางสวรรค์ นรกไม่มีประตูปิดกั้นหมดแล้ว คนก็ยังจะดันแส่หาเรื่องผิดศีลเข้าไปจนได้


    หากเจ้าจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว ในบรรดาคนในโลกที่ตายไปนั้นมีเพียง 1 % เท่านั้นที่เดินขึ้นสวรรค์ หายากนะลูก 99 % ไปนรก

    เพราะความไม่เข้าใจในชีวิตจิตเศร้าหมองติดอยู่ในคนรัก ในทรัพย์สินเงินทองก่อนตาย ไม่ได้นึกถึงพระในศาสนาของตน นึกถึงพระศาสดาองค์ใดก็ดี ทั้งนั้น จิตจะสะอาด พวกที่เขาตายโดยอุบัติเหตุก็ให้ญาติรีบทำสังฆทาน ถวายอาหาร พระพุทธรูป (ขนาดไหนก็ได้) ผ้าไตรจีวร และปัจจัยสร้างวิหาร วัดไหนก็ได้ เป็นสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน ทำสมาธิภาวนา อุทิศส่วนกุศลเจาะจงให้แก่ผู้ตายแล้วโดยตรง ก่อนที่เขาจะลงนรกเขารับรู้และอนุโมทนา ก็จะพ้นขุมนรก

    เพื่อความแน่ใจว่าผู้ตายจะได้รับบุญที่ญาติส่งไปให้ ก็กล่าวขอมอบฝากกับท่านปู่พระยายามราช ขอให้ท่านบอกกับผู้ตายชื่อนั้นชื่อนี้ ให้เขาได้โมทนา ความเป็นทิพย์ของท่านปู่พระยายมราชมี ท่านรับทราบท่านเต็มใจที่จะบอก เพราะท่านไม่ต้องการให้ใครลงนรก เพราะบางครั้งคนตาย ทำบุญกุศลมามากตอนมีชีวิต แต่ก่อนตายตกใจจิตว้าวุ่น วิตกกังวลกลัวเป็นห่วงญาติห่วงทรัพย์สมบัติจิตเศร้าหมองจิตวิญญาณก็ไปทางต่ำคือ อบายภูมิ ผู้รับอนุตตรธรรม รับธรรมไว้ในจิตใจไม่ผิดศีล 5 อีกต่อไป ย่อมได้รับการโปรด หลุดพ้นจาการควบคุมของยมฑูต มีการไหว้พระสวดมนต์ มีพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์อยู่ในใจก็มีเทพเทวดาคอยรักษาคุ้มครองป้องกันภัย

    ทุกคนมีบาป ทุกคนจึงต้องรีบเร่งทำบุญหนีบาป บาปเก่าอดีตชาติยังคอยจ้องติดตามเราอยู่ตลอดเวลา รีบเตรียมรับกรรม อย่ากลัวตาย จงพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับบาปกรรม บาปกรรมที่หนักที่สุดก็คือ เจ้าจะได้รับความเจ็บปวดรวดร้าวก่อนที่ร่างกายจะแยกแตกสลายตายไปนะแหละ จำไว้เถิดลูกเอ๊ย จงรีบเร่งใช้สติปัญญาที่เรามี พิจารณาขันธ์ 5 ให้ได้มากที่สุด คือ สักกายทิฎฐิ นะแหละให้พิจารณาว่าร่างกายขันธ์ 5 เป็นทุกข์ เป็นโทษ เป็นของสกปรก ไม่ใช่ของเรา จิตเป็นของเรา จะบังคับร่างกายก็ไม่ได้ ต้องปล่อยทำเฉย ๆ ทิ้งร่างกายขันธ์ 5 เป็นเรื่องของโลกของธาตุ 4 ดินน้ำลมไฟเสีย นั่นแหละเจ้าจะปลดกรรมเก่าได้

    พอปลดปล่อยขันธ์ 5 ออกจากจิตเจ้าได้แล้วมันก็จะทุกข์น้อยลง เมื่อบาปกรรมเก่าของเจ้ามาถึง เจ้าก็จะคิดว่า กรรมเก่าทำเจ้าได้เฉพาะร่างกายเท่านั้น จิตเจ้าชนะร่างกายไม่เป็นทาสของร่างกายแล้ว และร่างกายก็ไม่ใช่ของเจ้าแล้วจะเจ็บจะปวดทรมานอย่างไรก็เป็นเรื่องของขันธ์ 5 จิตของเจ้าก็จะนอนยิ้ม เพราะเห็นว่าร่างกายมันไม่ใช่ของเจ้านี่ มันจะตายเพราะใช้บาปกรรมก็ดี ยอมตายดีกว่าใช่ไหม มันจะได้ไม่เจ็บปวดทรมานต่อไป เจ้ากรรมนายเวรจะน้อยลง รีบหนีไปนิพพานเสียให้หมดทุกคน หากใช้มโนมยิทธิจะรู้ว่าทุกคนมีเจ้ากรรมนายเวร คือ บาปเก่ารออยู่ข้างหลังพวกเจ้าทุกคน

    สิ่งที่ชั่วร้ายที่สุดคือ ร่างกายของคน อย่าหลงรักของชั่วร้าย คือ กายเรา กายเขา คือขันธ์ 5 เราขันธ์ 5 เขาต้องไล่ ขันธ์ 5 ร่างกายนี้ออกจากจิต ถ้าไม่ไล่ร่างกายของเจ้าออกจากจิตเจ้า เจ้าก็จะทุกข์กายทุกข์จิตใจแน่นอน ที่บอกมาก็เพราะต้องการให้เจ้าใช้กรรมด้วยปัญญา ไม่ให้หลงฤทธิ์ ถอดจิตหนีขึ้นนิพพานอย่านึกว่าพ้นนะ การทำบุญ เปรต สัมภเวสี เทวดา เขารอโมทนาเยอะ ถ้าผีวิญญาณที่เขาได้รับบุญกุศลที่เราอุทิศแผ่ไปเขาก็จะได้รับอภัยโทษ ให้ไปเกิดเป็นคนบ้าง ไปเกิดเป็นเทวดาบ้าง จงใช้มโนมยิทธิของเจ้าดู บ้างก็ไปเสวยบุญชั่วขณะตามกำลังของบุญ เมื่อหมดก็มาขอบุญอีกก็มีเยอะ ดังนั้นเจ้าควรจะทำสมาธิภาวนาแผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญกุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกตลอดเวลา ทุกลมหายใจเข้าออกยิ่งดี

    ผู้ที่ขยันแผ่เมตตาจิตไปทั้ง 3 โลก คือ 1.นรกโลก 2.มนุษย์โลก 3.เทวโลก พรหมโลก จึงเป็นที่รักใคร่ของมวลเทพเทวดา และมนุษย์ผีวิญญาณเร่ร่อนทั่วไป ปรทัตตูปชีวเปรตจะคอยโมทนา จงท่องคำอุทิศส่วนกุศลให้ทุกท่านได้โมทนาอยู่เป็นประจำก็จะดีมาก จะผ่านท่านปู่พระยายมราชได้ยิ่งดี ท่านจะจำนำเป็นพยานที่เจ้าได้ทำบุญกุศลไว้ตอนเป็นคนให้ จงพูดถึงข้า คือท่านปู่พระยายมราชทุกครั้งเมื่อกระทำบุญ

    เมื่อเจ้าลงนรกไปด้วยความประมาท ไม่ได้นึกถึงบุญความดีหรือพระพุทธเจ้าก่อนตาย ข้าหรือท่านปู่พระยายมราชจะได้บอกว่า เจ้าเคยฝากบุญไว้กับข้า คือท่านปู่พระยายมราชมาก่อน ข้าก็จะบอกให้เจ้าที่ผ่านสำนักพระยายมราชว่า จงโมทนาสาธุยินดีในบุญความดีเสีย บาปจะได้ตามไม่ทันจะได้พ้นนรก ถ้าเจ้ามีกำลังจิตจะฝากบุญกุศลให้แก่จิตวิญญาณของ คนทั้งโลกก็ได้ ข้าก็จะได้บอกเขาว่ามีคนฝากบุญกุศลให้เขาโมทนา ถ้าเขารับได้เขาก็จะพ้นทุกข์ตามกำลังของจิตของเขาที่ ทำบุญกุศลได้

    ถ้าหากเจ้าคิดจะแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ทั้ง 3 โลกให้ทำดังนี้จะสะเทือนไปถึงทั้ง 3 โลก แต่เจ้าต้องมีศีล 5 บริสุทธิ์ เป็นอย่างต่ำ และมีบุญทานภาวนาเป็นอย่างสูง ให้ว่าดังนี้


    อาจารย์เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ

    พระคาถาแผ่เมตตาทั่วไตรภพ

    สวดในนามพระพุทธเจ้าแล้ว แผ่เมตตาจิตไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก(นรกโลก มนุษย์โลก เทวโลก) สวดอย่างน้อย 9 จบ อย่างมากตลอดเวลา

    "นโมพระพุทธสิกขีพระพุทธเจ้า ขอได้โปรดดลบันตาลให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก ได้หลุดพ้นจากภัยพิบัติวัฏฏสงสารโดยสิ้นเชิง ด้วยพระบารมีมิอาจประมาณ ลูกขอนอบน้อมนมัสการด้วยจิตใจ ขอให้ลูกมีจิตสะอาดสว่างใสหลุดพ้นไซร้ สู่บ้านนิพพานเทอญ สัมปะจิตฉามิ"

    คุณประโยชน์ของการอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาจิตให้สรรพสัตว์ทั้ง 3 โลกไปกับฉัพพรรณรังสี รัศมี 6 ประการ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์แรกเริ่มมีดังนี้

    1. โปรดช่วยสรรพสัตว์ได้ แดนเปรต อสุรกาย มนุษย์โลก สัตว์ทั้งที่มีชีวิตและเป็นภูมิผีวิญญาณเร่ร่อน แผ่ไปทั่วเทวโลก พรหมโลก ได้รับโมทนาบุญกับเรา
    การแผ่เมตตา แผ่ส่วนกุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก รวมถึงเจ้ากรรมนายเวร จงทำทุกวัน จงตัดเวรตัดกรรม ให้อโหสิกรรมต่อกัน ยกเป็นอภัยทาน ถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเราโกรธตอบจะเพิ่มภพชาติให้เกิดมาใช้หนี้เวรกรรมกันอีก

    2. สวดด้วยจิตศรัทธาแท้ เทพ พรหมรักใคร่ สรรเสริญ เมตตาติดตามรักษาเราให้อยู่เย็นเป็นสุข

    3. สวดตลอดเวลา คิดปรารถนาสิ่งใดก็สมหวัง

    4. สวดตลอดเวลาจิตเป็นสมาธิ ภาวนาจิตไม่ฟุ้งซ่าน จิตสะอาดปราศจากนิวรณ์

    5. จิตสะอาดสว่างไสว จิตหลุดพ้นจากการหลงยึดติดในขันธ์ 5 จิตเป็นจิตประภัสสร เป็นจิตพระอริยบุคคลได้ง่าย เพราะเป็นจิตที่มีเมตตา เคารพบูชา พระรัตนตรัยมองเห็นภัยในวัฏฏสงสาร เป็นจิตฉลาดไม่มีอวิชชา เป็นจิตที่มีพระนิพพานเป็นกรรมฐานได้ 8 กรรมฐาน คือ

    1) พุทธานุสสติกรรมฐาน

    2) ธรรมนุสสติกรรมฐาน

    3) สังฆานุสสติกรรมฐาน

    4) พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

    5) อุปสมานุสสติกรรมฐาน นึกถึงความดียิ่งของพระนิพพาน

    6. เป็นการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ตัดเวรตัดกรรม ยกเป็นอภัยทาน ถวายพระพุทธเจ้า ถ้าเจ้าโกรธก็เป็นการเพิ่มภพเพิ่มชาติ

    7. การอุทิศแผ่กุศลไปยังสรรพสัตว์ทั้ง 3 โลก จงทำทุกๆวัน วันละอย่างน้อยสวด 9 จบ ช่วยทั้งคนทั้งผี ทั้งสัตว์โลก สัตว์นรก ช่วยเทพเทวดา มีโอกาสโมทนากับพวกเราด้วย

    8. พระคาถาสวดพระนามพระพุทธเจ้านี้ พระท่านให้ไว้แก่มวลมนุษย์มาจากเบื้องบนพระนิพพาน ให้สวดทุกวัน เพื่อช่วยมวลเวไนยสัตว์ และตนเองก็หลุดพ้นจากนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ไม่ต้องได้เกิดในแหล่งอบายภูมิ 4 อย่างนี้ เป็นการเสริมบารมีให้แก่ตนและผู้อื่น

    9. การแผ่พลังจิตให้เป็นพลังไปรอบทิศจักรวาลทั้ง 3 โลกนั้น ทำจิตให้ว่างจากขันธ์ 5 ว่างจากกิเลสตัณหา ทำบุญกุศลทุกอย่าง ขอถวายทางจิตให้องค์สมเด็จพระบรมครูพระพุทธเจ้าโปรดโมทนาบุญกุศลทุกๆพระองค์ เพื่อประโยชน์สูงสุดแด่มวลสรรพสัตว์ทุกจิตดวงธรรมญาณ ได้รับผลบุญที่ลูกแผ่ไปให้ทุกดวงจิตธรรมญาณเทอญ

    การขอแรงพลังจิตขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการขอแรงคลื่นวิทยุของท่านผู้เป็นใหญ่บุญบารมีใหญ่ ช่วยอีกแรงหนึ่งเพื่อให้สรรพสัตว์ 3 โลก ได้ยินคลื่นวิทยุได้ดียิ่งขึ้น

    จิตของสัตว์อบายภูมิน้อยนักที่จะได้รับได้ยินเหมือนคนตาบอด แต่ถ้าเขาโมทนายินดีรับกับการอุทิศบุญกุศลแผ่เมตตาไป ให้กับเขา ก็ทำให้เขาเป็นสุข พ้นทุกข์จากอบายภูมิได้ทุกคน เราต้องทำจิตให้สะอาดทำจิตว่างจากขันธ์ 5 ปล่อยพลังจิตไปทั่วรอบทิศจักรวาล

    10. สวดพระคาถาพระนามองค์สมเด็จพระปฐมบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ฝากบุญกุศลไว้กับท่านท้าวยมราชได้แน่นอน โปรดสัตว์ได้ทั่วทั้ง 3 ไตรภพ แล้วแต่จะกำหนดจิตโปรดได้หมดทุกประเภท ทั้งชาติกำเนิด 4 คือ(เกิดในไข่ เกิดในคูต เกิดเป็นตัว เกิดขึ้นเอง เช่น ผี เทพ พรหม ) ภูมิวิถี 6 คือ 1.สัตว์นรก 2.เปรต 3.อสุรกาย 4.สัตว์เดรัจฉาน 5.คน 6.เทวดา พรหม

    โปรดสัตว์ได้ตามวาระจิตของวิญญาณใด ถึงพร้อมย่อมสามารถเข้าถึงสุขติภูมิ คือ สวรรค์ และคนชั้นสูงมีความสุขตามฐานะกฎของกรรมต่าง ๆ ที่คอยกีดกั้นขวางงาน เป็นเมตตาบารมี กฎของกรรมก็ตามไม่ทัน เพราะบุญใหญ่
    เวลาการบำเพ็ญบารมีของแต่ละท่านก็แตกต่างกันคือ

    พระสาวกภูมิ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 1 อสงไขยกับแสนกัป
    พระอัครสาวก ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 2 อสงไขยกับแสนกัป
    พระปัจเจกพุทธเจ้า ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 2 อสงไขยกับแสนกัป
    พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 4 อสงไขยกับแสนกัป
    พระพุทธเจ้าศรัทธาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 8 อสงไขยกับแสนกัป
    พระพุทธเจ้าวิริยะธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีนาน 16 อสงไขยกับแสนกัป

    (รวบรวมโดย เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ)

    http://www.yotathongthin.com/club/index.php?topic=344.0
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773



    หาดกะรนเฮี้ยน!คลื่นยักษ์กลืนฝรั่งอาการสาหัส
    <TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 18.30 น.ที่ผ่านมา(10 มิ.ย.)พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกต สารวัตรเวร สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต

    รับแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวจมน้ำบริเวณชายหาดกะรน ตรงข้ามโรงแรมถาวรปาล์มบีช รีสอร์ท ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากได้รับแจ้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลกะรน

    ที่เกิดเหตุมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร เห็นชาวบ้านกำลังช่วยเหลือผู้จมน้ำขึ้นมาได้จำนวน 2 ราย

    ซึ่งอาการปลอดภัย เห็นที่บริเวณกลางทะเล มีคนดำผุดดำว่าย เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืมเรือเร็ว 1 ลำ จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวหาดกะรน เพื่อออกนำไปช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถช่วยเหลือกลับขึ้นมาได้ ไม่ทราบชื่อ-สกุล อายุประมาณ 30 ปี ทราบว่าเป็นชาวรัสเซีย ซึ่งอยู่ในอาการสาหัส จึงรีบนำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลป่าตอง แต่อาการสาหัสมากเจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต เป็นการด่วน และขณะนี้ป่วยอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถทราบชื่อและที่พัก เนื่องจากไม่มีเพื่อน-ญาติ เดินทางมายังโรงพยาบาล แม้แต่คนเดียว

    จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำนานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ถูกคลื่นซัดลงไปกลางทะเล

    กลุ่มชาวบ้านเห็นจึงได้ลงไปช่วยเหลือกลับขึ้นมาได้จำนวน 2 ราย ส่วนหญิงสาวชาวรัสเซีย ที่สาหัส นั้นถูกคลื่นซัดออกไปกลางทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 200 เมตร โชคดีที่มีช่วยเหลือกลับขึ้นมาได้ทัน ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในวันเดียวกันเวลาประมาณ 15.30 น.มีนักท่องเที่ยวจมน้ำบริเวณเดียวกันจำนวน 2 ราย แต่โชคดีที่ชาวบ้านเครือข่ายตาสับปะรด ได้ลงไปช่วยเหลือกลับขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทั้ง 2 ราย ที่จมนั้นชาวบ้านได้เตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง จึงเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ชายหาดกะรนตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. มีผู้จมน้ำเสียชีวิต 2 ราย และวันที่ 6 มิ.ย.อีก 1 ราย รวม 3 ราย แล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    </CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    11 มิ.ย. 52<O:pคอย.....3
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ยังมีอีกหลายสัญญาณเกี่ยวกับ ภัยพิบัติของต่างประเทศและเหตุการณ์ภาคใต้ ผมไม่ขอกล่าวถึงอีก ผมจะเข้าเรื่องเลยว่า ทำไม? ต้องมาทำหน้าีที่ตรงนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลังจากที่ผมได้รับสัญญาณต่อเนื่อง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    20 ส.ค. 47 พบสองกษัตริย์ รหัส 011
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1 ม.ค. 50 พบพระองค์แรกที่บ้าน ในนิมิต มีชื่อว่า กมลา รหัส 1001 (กมลา เป็นพระมเหสีของพ่อนารายณ์ ) ในนิมิตเป็นผู้ชาย ความหมายคือ พ่อนารายณ์นั่นเอง
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    13 ก.พ. 50 พบพระองค์ที่สอง บนเขาภูควายเงิน ในขณะนอนครึ่งหลับครึ่งตื่น ท่านเลื้อยผ่านเต็นท์นอนผมแล้วไปหยุดอยู่ตรงหน้าพระประธาน หันพระพักตร์มองมาทางผมและปลุกให้ผมตื่นขึ้นมานั่งสมาธิ ท่านมีพระนามว่า พ่อนาคะราชา
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ในตอนหลังผมถึงได้รู้ว่าท่านทั้งสองพระองค์เป็นพี่น้องกันและลงมาเพื่อคุ้มครองปกปักรักษาผู้ทำความดีในยามภัยพิบัติที่จะมาถึง พร้อมกับปู่เทพอุดรที่เป็นภาคหนึ่งของพระพุทธเจ้าหนึ่งในห้าพระองค์
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สัญญาณนี้เองที่ทำให้ผมตัดสินใจลงมาเล่นด้วย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ผมเริ่มลงมาเล่นในเว็บฯ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 50 ด้วยบทความที่ว่า “สองวงล้อกับ พ.ศ. <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com2537”</st1:metricconverter> ซึ่งมีความหมายคือ เวลาได้ถูกเลื่อนออกไปแล้ว 2537*24 ปี คือ พ.ศ. 2561<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  19. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สธ.พบผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 ในประเทศไทยเพิ่มอีก 30 คน รวมทั้งหมด 46 คน


    กทม. 11 มิ.ย. - มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นวันนี้อีก 30 คน ทำให้ยอดรวมทั้งหมดทั่วประเทศอยู่ที่ 46 คนแล้ว

    นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 30 คน แยกเป็นผู้ป่วยในระบบเฝ้าระวัง 5 คน เป็นชาวอังกฤติ 1 คน ที่เหลือเป็นคนไทยซึ่งมีทั้งที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และติดเชื้อจากผู้ป่วย อีก 21 คน เป็นกลุ่มพนักงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่พัทยา รวมถึงแพทย์พยาบาลที่ติดเชื้อมาจากนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน และอีก 4 คน เป็นนักเรียนห้องเดียวกับนักเรียนชั้น ป.6 เด็กชาย 11 ปี ที่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายที่ 16

    ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยในประเทศไทยพุ่งขึ้นเป็น 38 คน และมีความเป็นไปได้ว่าจะยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ แต่ขอให้ประชาชนอย่าตระหนก เพราะจากข้อมูลพบว่าโรคนี้ไม่รุนแรง ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 90 มีอาการน้อยและหายเองได้ แต่ทุกคนต้องช่วยกันป้องกันโรค โดยสามารถดูคำแนะนำได้ ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข

    2009-06-11 14:05:24

    คุมเข้มการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ในโรงเรียนดังเขตดุสิต


    กรุงเทพฯ 11 มิ.ย.-กรมอนามัยคุมเข้มการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในโรงเรียนดังเขตดุสิต หลังพบนักเรียน ป.6 ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขณะที่โรงเรียนรอผลการตรวจนักเรียนเฝ้าระวังทั้ง 13 คน ก่อนพิจารณาว่าต้องสั่งปิดชั้นเรียนเพิ่มเติมจากเดิมหรือไม่

    บรรยากาศที่โรงเรียนเอกชนชื่อดังในเขตดุสิต ที่พบเด็กนักเรียนชาย ชั้น ป.6 ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จนโรงเรียนต้องสั่งปิด 3 ห้องเรียนชั้น ป.6/2 – 4 ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 มิถุนายน เป็นเวลา 3 วัน พร้อมทำความสะอาดห้องเรียน สิ่งของต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยพบว่ายังคงมีเด็กนักเรียนมาเรียนตามปกติ แต่จะใส่หน้ากากอนามัย แต่ก็มีผู้ปกครองบางส่วนที่ยังไม่มั่นใจการป้องกันการแพร่เชื้อได้พาบุตรหลานกลับ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเล็ก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกรมอนามัยได้มาให้ความรู้แก่ครูและนักเรียน พร้อมนำคู่มือการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ตลอดจนหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาแจกด้วย

    อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคำสั่งจากกระทรวงสาธารณสุขให้ปิดห้องเรียนหรือถึงขั้นต้องปิดโรงเรียน เนื่องจากยังไม่มีรายงานการพบนักเรียนติดเชื้อเพิ่ม ขณะที่ผลการตรวจนักเรียนเฝ้าระวัง 13 คน จะออกในบ่ายวันนี้ หลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุข กทม. และโรงเรียนจะมาพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-11 10:07:13

    เลขาฯ กช.เผยจะสั่งปิดเรียนทันที หากพบนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ เพิ่ม


    กรุงเทพฯ 11มิ.ย.- ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่มีข่าวนักเรียนป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ยังส่งบุตรหลานมาเรียนตามปกติ มีบางส่วนเท่านั้นที่ขอรอดูสถานการณ์ก่อน ด้านเลขาฯ กช. เผยสถานการณ์ไม่น่าห่วง แต่หากพบมีการติดเชื้อเพิ่มจะให้โรงเรียนหยุดเรียนทันที ซึ่งจะทราบผลตรวจนักเรียน 13 ราย ในบ่ายวันนี้

    บรรยากาศที่โรงเรียนเอกชนที่มีข่าวนักเรียนป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานเข้าเรียนตามปกติ มีบางส่วนนำเด็กกลับบ้าน เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อโรคในโรงเรียน จะรอความชัดเจนอีก 2-3 วัน ก่อนจะให้บุตรหลานมาเรียนตามปกติ นักเรียนส่วนใหญ่ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

    หากเด็กคนใดไม่มีหน้ากากทางโรงเรียนก็จะแจกให้ พร้อมฉีดยาฆ่าเชื้อในห้องเรียน ทำความสะอาดสิ่งของที่นักเรียนใช้ร่วมกันตั้งแต่เย็นวานนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมอนามัย สำนักอนามัย กทม. นำหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ รวมทั้งคู่มือป้องกันไข้หวัดมาแจกให้ทางโรงเรียน อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวภายในบริเวณโรงเรียน

    นายบัณฑิต ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยภายหลังเข้าตรวจเยี่ยมความพร้อมโรงเรียนเอกชนแห่งนี้เมื่อเช้าวันนี้ว่า มาตรการดูแลควบคุมโรคของโรงเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงไม่น่าเป็นห่วง หากพบว่าทางโรงเรียนมีนักเรียนติดเชื้อเพิ่มให้โรงเรียนปิดการเรียนการสอนได้ทันที

    ด้านนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติม จึงยังไม่สั่งให้ปิดห้องเรียนเพิ่ม ตอนนี้รอผลการตรวจสารคัดหลั่งจากนักเรียน 13 คน ที่ป่วย คาดว่าจะทราบผลในช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนจะนำผลตรวจมาหารือร่วมกับ กทม. สธ. และผู้บริหารโรงเรียน เพื่อจะกำหนดแนวทางดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-11 10:33:21

    มท.1 เชื่อสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ไม่รุนแรง


    กรุงเทพฯ 11 มิ.ย.- นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชื่อว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะไม่รุนแรง เพราะในการประชุมกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ วานนี้ (10 มิ.ย.) ได้เชิญอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มาให้ความรู้ และแนวทางปฏิบัติ เพื่อควบคุมโรคแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-11 14:15:03

    รมว.สธ.แนะปฏิบัติตามสุขบัญญัติป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009


    สำนักข่าวไทย 11 มิ.ย.-รมว.สธ.เผยสถานการณ์แพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในไทย อยู่ในระดับแพร่ระบาดภายในประเทศเนื่องจากเริ่มพบผู้ป่วยที่ไม่ได้เดินทางไป ตปท. หรือสัมผัสกับผู้ที่เดินทางไป ตปท.เริ่มมีอาการป่วย แนะปฏิบัติตามสุขบัญญัติช่วยป้องกันได้

    นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้ส่งสัญญาณมาโดยตลอดว่าการป้องกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นการป้องกันเพื่อเตรียมความพร้อมรับการแพร่ระบาดภายในประเทศ แต่จากความวิตกกังวลของประชาชนที่ต้องการเดินทางไป-กลับต่างประเทศว่าจะถูกควบคุมตัว จึงทานยาแก้ไข้ หรือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบหน้า เครื่องเทอร์โมสแกนจึงไม่สามารถสแกนหาตัวผู้ป่วยได้ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อาจแพร่ระบาดเข้ามา ขณะนี้ได้พยายามเตรียมความพร้อมเรื่องโรงพยาบาล และให้ความรู้แก่ประชาชน ครู นักเรียน เพื่อเตรียมการป้องกัน

    นายวิทยา ระบุไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้เป็นโรคที่สามารถรักษาและป้องกันได้ เพราะเชื้อไม่ได้ฟุ้งกระจายในอากาศ ส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสและเข้าทางตา จมูก ปาก แนะหมั่นล้างมือให้สะอาด และปฏิบัติตามสุขบัญญัติ 10 ประการ จะช่วยป้องกันได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์

    <TABLE class=Text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    สุขบัญญัติแห่งชาติ ๑๐ ประการ

    ข้อที่ ๑ ว่าด้วยการรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด
    ข้อที่ ๒ ว่าด้วยการรักษาฟันให้แข็งแรง และแปรงฟันทุกวันอย่างถูกต้อง
    ข้อที่ ๓ ว่าด้วยการล้างมือให้สะอาด ก่อนกินอาหารและหลังขับถ่าย
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px dashed">ข้อที่ ๔ ว่าด้วยการกินอาหารสุกสะอาด ปราศจากสารอันตรายและหลีกเลี่ยงอาหารสีฉูดฉาด
    ข้อที่ ๕ ว่าด้วยการงดสูบบุหรี่ สุรา ยาเสพติด การพนันและการสำส่อนทางเพศ
    ข้อที่ ๖ ว่าด้วยการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้อบอุ่น
    ข้อที่ ๗ ว่าด้วยการป้องกันอุบัติภัยด้วยการไม่ประมาท
    ข้อที่ ๘ ว่าด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและตรวจสุขภาพประจำปี
    ข้อที่ ๙ ว่าด้วยการทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
    ข้อที่ ๑๐ ว่าด้วยการมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ร่วมสร้างสรรค์สังคม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    -สำนักข่าวไทย 2009-06-11 12:47:05

    ภาวะโลกร้อนทำให้แมลงก่อกวนมนุษย์มากขึ้น


    เกษตรศาสตร์ 11 มิ.ย.- ภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของมด ซึ่งมีอัตราการแพร่พันธุ์มากขึ้น และรุกรานมนุษย์มากขึ้น ขณะเดียวกัน นักวิชาการเตือนภัยคุกคามของมดคันไฟอเมริกา ซึ่งเป็นอัตรายต่อคนระบาดถึงฮ่องกงแล้ว

    นายเดชา วิวัฒน์วิทยา อาจารย์จากภาคชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวหลังการเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการมดในประเทศไทย ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่า ภาวะโลกร้อนที่เริ่มก่อตัวในปัจจุบัน ทำให้อัตราการแพร่พันธุ์ของแมลง รวมทั้งมด เพิ่มขึ้น และรุกรานต่อชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์มากขึ้น ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มากนัก แต่ในอนาคตแล้ว เชื่อว่าจะส่งผลกระทบกับคนอย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะให้ความระมัดระวังการแพร่กระจายของมดคันไฟสายพันธุ์จากอเมริกา ซึ่งเมื่อกัดต่อยคนแล้ว จะส่งผลให้เกิดการอักเสบของผิวหนังอย่างรุนแรง บางรายเนื้อเยื้อถูกทำลาย และรุนแรงถึงช็อกได้ ซึ่งปัจจุบัน มดประเภทนี้แพร่กระจายเข้ามากับตู้สินค้า เรือขนส่งสินค้ามาถึงไต้หวัน และฮ่องกง แล้ว จึงมีโอกาสที่จะเข้ามาถึงไทยไม่ยากนัก.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-11 11:38:44

    ที่มา http://news.mcot.net/social/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. winny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +659
    ช็อก!! ผลแล็บยัน 4 นร.ร.ร.เอกชนติดหวัดพันธุ์ใหม่ พัทยาพบเชื้อในนักท่องเที่ยวอีก 4 คน
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 มิถุนายน 2552 14:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>“วิทยา” เผยผลแล็บยัน 4 นักเรียนโรงเรียนเอกชนดังย่านถนนสามเสน ติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รอลุ้นที่เหลืออีก 4 ราย ขณะที่พัทยาเจอผู้ป่วยเพิ่มอีก 4 คน เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวผับ-เธค ส่งผลทำให้ยอดรวมทั้งประเทศเพิ่มเป็น 42 ราย ล่าสุด ร.ร.ดัง ประกาศหยุดเรียน 7 วัน 12-18 มิ.ย.

    นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันว่า พบนักเรียนของโรงเรียนเอกชนชื่อดังย่านถนนสามเสนได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 4 ราย จากการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งในนักเรียนที่ต้องสงสัยจำนวน 13 ราย อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือนักเรียนอีก 4 รายที่ผลแล็บยังไม่เรียบร้อย ซึ่งคงต้องรอต่อไป

    นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้รับรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดเชื้อที่พัทยา จ.ชลบุรี ล่าสุดด้วยว่า พบนักท่องเที่ยวติดเชื้อเพิ่มอีก 4 คน ซึ่งเป็นตัวเลขเพิ่มจากก่อนหน้านี้ที่รายงานไปแล้วจำนวน 17 ราย

    ทั้งนี้ ยอดรวมล่าสุดของผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจนถึงขณะนี้มีทั้งสิ้น 42 ราย

    ล่าสุด โรงเรียนชื่อดังส่งหนังสือถึงผู้ปกครองประกาศหยุด 7 วัน ระหว่างวันที่ 12-18 มิ.ย.หลังพบไข้หวัด 2009 โดยจะเปิดเรียนวันที่ 19 มิ.ย.และระหว่างที่โรงเรียนปิดขอให้นักเรียนพักอยู่กับบ้าน แต่ถ้ามีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีไข้ ให้รีบไปพบแพทย์

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้