ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    1 ก.ค. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ฐานเชียงคาน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ช่วงวันที่ 12 ส.ค. 52 ผม แนวร่วมและเพื่อนจะขึ้นไปที่เชียงคาน รวมประมาณ 6-7 คน ผมจะพาผู้ที่สนใจจะซื้อที่ๆผมเคยลงบทความเอาไว้ ไปดูที่ ส่วนผมและแนวร่วมจะไปต่อรองราคาและวางเงินมัดจำไว้ก่อน วันซื้อจริงคงปลายเดือนก.ย. 52 เป็นอย่างเร็ว
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เมื่อได้ซื้อที่เป็นที่เรียบร้อย เงินที่เหลือจากการต่อรองก็จะนำมาสร้างสิ่งจำเป็น เช่น เดินท่อประปาหมู่บ้านเข้าพื้นที่ ขุดบ่อส้วม ขุดบ่อน้ำ ซื้อโอ่งน้ำ ฯลฯ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    มีท่านสมาชิกอยู่รายหนึ่งที่จะขึ้้นไปกับผมด้วย ผมต้องการให้รายนี้ซื้อด้วย เพื่อที่จะซื้อไว้รองรับผู้ที่ทานเจ จากกลุ่มเตาปูน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    เรื่องที่ดินเป็นอันว่าหมดห่วง ที่ห่วงคือการสร้างสาธารณูปโภคไว้รองรับคนจำนวนมาก แต่คงต้องค่อยเป็นค่อยไป
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    สำหรับบุคคลภายนอก(ผู้ยังทานเนื้อสัตว์อยู่) ถ้าสนใจจะไปอยู่จุดนี้ก็เข้ามาคุยกันได้<O:p</O:p
     
  2. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รวมคำทำนายของโหรโสรัจจะ นวลอยู่
    (เฉพาะที่เกี่ยวกับน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ.2552)



    ราวปลายปี 2552 ชายฝั่งทะเลอันดามันรวมทั้งเกาะภูเก็ต กระบี่ พังงา ถูกคลื่นยักษ์ (สึนามิ) พุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่ กวาดผู้คนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ บ้านเรือนลงทะเลจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิตมากกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมา ​

    เกิดใต้ฝุ่นเข้าถล่มภาคใต้ที่ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และสุราษฎร์ธานี ผลเสียหายมากเป็นมหาวาตภัย เรือประมงจมร่วม 100 ลำ ลูกเรือสูญเสียไปเป็นพัน และปลายปี พายุถล่มรอบสองรุนแรงมาก คนตายเรือนพัน จังหวัดชุมพรเสียหายร่วม 100 เปอร์เซ็นต์ ยังต้องระวังกับวาตภัย เกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศอีกครั้ง กรุงเทพฯ จะจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลานาน ​

    กรกฎาคม 2552

    - ภูเขาไฟใต้น้ำแถบมหาสมุทรแปซิฟิกผุด(ระเบิด) ใกล้แผ่นดินใหญ่เอเชียขึ้นทำลายล้างมนุษย์ ​

    - เกิดแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราอย่างรุนแรง เกิดสึนามิ ผู้คนเสียชีวิตจำนวนมาก ​

    สิงหาคม 2552

    - เกิดดีเปรสชั่นทางตอนเหนือของประเทศรุนแรง ​

    - น้ำป่าไหลบ่าจากเหนือ อีสานจนถึงกรุงเทพฯ เขื่อนพัง น้ำท่วมใหญ่ พืชพันธุ์เสียหายหนัก คนตาย ​

    - กรุงเทพฯ จมใต้บาดาล ​

    กันยายน 2552

    - จีน เวียดนามโดนไต้ฝุ่น ​

    พฤศจิกายน 2552

    - เกิดพายุไซโคลนรุนแรงเข้าภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ

    ธันวาคม 2552

    - เกิดสึนามิพัดถล่มทางฝั่งอันดามัน เสียหายใหญ่ คนตายนับแสน

    ****************************************************
    ( คำทำนายปี 2552 ของคุณ โสรัจจะ นวลอยู่ ในหนังสือ Positioning Magazine )
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      2,470
  3. ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ถามจริงๆนะครับ หลายคนที่เข้ามาเตือน แก่ผู้คนรอบข้างหรือว่าในเว็ปก็ดี ผมทราบดีและหลายๆคนย่อมทราบดีว่าท่านทุกคนทำไปย่อมไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ แล้วเคยประสพปัญหาเกี่ยวกับเดียวเดินเตะไอ้นั้นเตะไอ้นี้ให้ได้รับความเจ็บปวดหรือได้รับความลำบากใจเล็กๆน้อยให้ทุกข์ร้อนใจแต่ก็พอยับยั้งได้อยู่เสมอใช้ไหมครับ ที่ผ่านมาผมหวังที่จะประกอบกรรมตรงนี้คือกรรมดีที่อยากจะหวังให้คนหลายๆคนที่อยู่ใกล้ชิดผมก็ดีแม้จะพึ่งพบและถูกชะตาบ้างก็มีแต่พอรู้ว่าทำแล้วช่วยเตือนแล้วตัวเองก็จะได้รับผลวิบากเช่นนั้นอยู่เป็นนิจก็ยังยอมใช้ไหมครับ ผมอยากทราบเช่นนั้นเองเพื่อหวังอนุโมทนากับกลุ่มทีมงานทุกคนในความลำบากยากเข็นในการประกอบกรรมดีตรงนี้เท่านั้นเอง

    สาธุๆๆ กราบ

    ถ้าสิ่งที่ผมกล่าวมาเป็นจริงก็ขอความกรุณาแจ้งบอกมาด้วยครับมันจะเพิ่มกำลังใจสนองความดีและยังเตือนสติแก่คที่ผ่านมาอย่างเช่นที่กลุ่มทีมงานมีให้แก่กระผมเช่นนั้นเสมอมาด้วยข้อมูลข่าวสารหรือเตือนสติไม่ให้ประมาทและลุ่มหลงอยู่ในช่วงแห่งการใช้ชีวิตให้ระมัดระวังสิ่งต่างๆได้ดีเยี่ยมเสมอมาครับ ขอบคุณครับ
     
  4. Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เรียนคุณรักพล

    ผมเองก็เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกับที่คุณประสพมาเหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับเหตุข้อมูลที่คุณจะนำไปเตือน

    1. เหตุนั้นใช่แน่ๆ อันนี้ก็ต้องดูด้วยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องการให้มีการเตือนกันหรือไม่ ถ้าไม่ แล้วคุณไปเตือนคุณก็ต้องรับผลของวิบากอันนี้คล้ายเหมือนโดนทำโทษ ถ้าเขาต้องการให้เตือนคุณก็ไปเตือนคนอื่นๆได้โดยไม่มีวิบากใดใดเกิดขึ้น

    2. เหตุนั้นไม่แน่นักว่าจะเกิด อันนี้หากคุณไปเตือนว่ามันต้องเกิดแน่คุณก็เข้าข่ายมุสา ยังไงคุณก็ต้องรับวิบากแน่นอน

    3. เหตุนั้นไม่ใช่ของจริง อันนี้หากคุณไปเตือนแบบมั่นใจหรือไม่มั่นใจว่าเกิด คุณรับวิบากเต็มๆครับระวังตรงนี้ด้วย

    นี่เป็นแค่เพียงสิ่งที่ประสพการณ์ของผมได้มาเท่านั้นนะครับ อาจจะไม่เหมือนของท่านอื่นๆ อย่าคิดว่ามันเป็นจิงเป็นจังนักนะครับ
     
  5. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เมื่อวานใครดูรายการตาสว่างบ้าง เริ่มแรกมีการเลิกยาที่ถ้ำกระบอกด้วยสัจจะ

    ต่อด้วย 11 ปีน้ำจะท่วมกรุงเทพ ดร.เสรี จากมหาวิทยาลัยรังสิต
    สรุปคร่าวๆ นะ แบบว่า ง่วงด้วย ฟังไปด้วย

    - น้ำจะท่วมกทม ไม่เกิน ปี 2563

    - น้ำท่วมจะมี cycle ของมัน ทุกๆ 25 ปี ครั้งก่อนท่วมใหญ่ปี 2538 (ครั้งต่อไปประมาณ 2563 คือ ไม่ได้เปะๆ นะ อาจเกิดได้ในปี สองปีนี้ หรือ สามสี่ปี อะไรทำนองนี้)

    - ความเสียหายประมาณไว้ว่า 1 แสนล้านบาท

    - น้ำจะท่วมไปถึงสาธร (น้ำหนุนจากทะเล)

    - ขณะนี้ปริมาณน้ำฝนมากกว่า record เก่าๆ ประมาณ 15%

    - คาดการณ์ว่าเกิดเดือนตุลา เพราะเป็นเดือนที่น้ำป่าไหลหลาก น้ำทะเลหนุน และฝนตกขัง

    - มันจะวนรอบไปเหมือนก่อน คือ เมื่อก่อนแถวกทม พวกเนี่ยะเป็นทะเล และชายหาดอยู่ลพบุรี มันจะย้อนกลับไปเหมือนเก่า

    - ส่วนเรื่องคนคาดว่า จะเกิดซึนามิ 22 กค มีโอกาสเป็นไปได้ เพราะองค์กรที่ดูแลเรื่องแผ่นดินไหวเค้าคาดการณ์ว่า จุดนั้นจะมีแผ่นดินไหวแรงๆ แน่ๆ แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คาดว่าจะเกิดวันที่ 22 เปะๆ แต่ลองทำ simulation แล้ว ปรากฏว่าถ้าเกิดซึนามิจริง จะมาถึงทางใต้เรา นราธิวาส ปัตตานี อะไรแถบๆ นั้นประมาณ 12 ชั่วโมง (มั้ง) แล้วจะมาถึงอ่าวไทย ประมาณ 14 หรือ 18 ชั่วโมงนี่แหล่ะ (จำตัวเลขไม่ค่อยได้จ้า มันง่วงอ่ะ อิอิ) แล้วคลื่นซึนามิตรงอ่าวไทยจะแค่ 50 เซ็นต์เอง แต่คลื่นซึนามิแรง กระแทกคนได้

    - ตอนนี้น้ำทะเลขึ้นสูง อย่างตรงสมุทรปราการ ถ้าทางส่วนราชการไม่ทำที่กั้นไว้ น้ำขึ้นแน่ อย่างเมื่อวันก่อนเห็นว่าน้ำท่วม 30 เซ็นต์เลย

    - เดี๋ยวคิดก่อน คิดอะไรออกมาใส่ใหม่

    ;aa8
    -
    -
    -
    -
    -
    -

    -
     
  6. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ชวนชมสุริยุปราคา เช้าวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 เห็นทั่วประเทศไทย





    สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชวนคนไทยตั้งตารอชม "สุริยุปราคา" เหนือฟ้าเมืองไทย ในช่วงเช้าวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ชี้ภาคเหนือเห็นดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์มากที่สุด หากพลาดต้องรออีกครั้งวันที่ 15 มกราคมปีหน้า เผยจับมือมหาวิทยาลัย 8 แห่งทั่วประเทศจัดกิจกรรมเฝ้าชมปรากฏการณ์อย่างปลอดภัย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาแบบบางส่วนในประเทศไทย ซึ่งดวงจันทร์จะบดบังดวงอาทิตย์บางส่วน และสามารถมองเห็นได้ทั่วประเทศ โดยแต่ละภูมิภาคจะสามารถเฝ้าชมปรากฏการณ์บนท้องฟ้านี้ ในแต่ละที่แตกต่างกันและเห็นได้ไม่เท่ากัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น.-09.15 น.

    แต่สำหรับบางพื้นที่ของโลก เช่น ประเทศอินเดีย จีน ญี่ปุ่น และมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่เส้นทางเงามืดของดวงจันทร์พาดผ่าน จะเกิดเป็นสุริยุปราคาแบบเต็มดวงที่กินเวลานานที่สุดในศตวรรษที่ 21 คือ 6 นาที 39 วินาที ที่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้

    รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้คนไทยมีความตื่นตัวสูงต่อเรื่องราวทางดาราศาสตร์ ในแต่ละครั้งที่เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ก็จะมีผู้คนให้ความสนใจกันมาก องค์กรภาครัฐและเอกชนได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การติดตั้งกล้องดูดาว การพัฒนาเครื่องมือเทคโนโลยี การเพิ่มหลักสูตรการเรียนการสอนภายในสถาบันอุดมศึกษา แม้กระทั่งหน่วยงานในท้องถิ่นยังสร้างท้องฟ้าจำลองขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชน

    "ปรากฏการณ์สุริยุปราคาไม่สามารถดูด้วยตาเปล่า เพราะจะทำให้ตาบอดได้ ที่ผ่านมาเรามุ่งเน้นให้ความรู้ในการชมสุริยุปราคาอย่างถูกวิธีและปลอดภัย โดยแนะนำอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น แผ่นไมราที่ทำขึ้นสำหรับดูดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ แผ่นซีดีและหน้ากากสำหรับช่างเชื่อมโลหะที่หาได้ในท้องตลาด ส่วนอุปกรณ์ที่ห้ามใช้คือ แว่นกันแดด กล้องส่องทางไกล กล้องดูดาวที่ไม่ติดแผ่นกรองแสงอาทิตย์ และฟิล์มต่างๆ เพราะทดสอบแล้วพบว่ามีรังสีผ่านเข้ามาได้และเป็นอันตรายต่อดวงตา" ผศ.บุญรักษากล่าว

    ทั้งนี้ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษา 8 แห่งในทุกภูมิภาค ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จัดกิจกรรมสุริยุปราคาเหนือฟ้าเมืองไทย 22 กรกฎาคม 2552 เพื่อให้ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ได้มีโอกาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์นี้ไปพร้อมๆ กัน

    สำหรับกำหนดเวลาของการมองเห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาในวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 ที่กรุงเทพมหานคร ดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสู่สัมผัสที่ 1 ในเวลาประมาณ 07.06 น. บังมากที่สุดในเวลา 08.03 น. และสิ้นสุดเหตุการณ์ในเวลา 09.08 น. โดยดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังคิดเป็นร้อยละ 42.2 ของพื้นที่ดวงอาทิตย์

    ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนในครั้งนี้จะเกิดนานที่สุดในภาคเหนือ คือที่จังหวัดเชียงราย ประมาณ 2 ชั่วโมง 12 นาที โดยจะเริ่มเห็นเวลา 07.02 น. จนถึงเวลา 09.14 น. ดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังมากที่สุดร้อยละ 69 ของพื้นที่ดวงอาทิตย์

    สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่เกิดสุริยุปราคา อาทิ จ.เชียงใหม่ เริ่มเวลา 07.02 น. บังมากที่สุดเวลา 08.02 น. สิ้นสุดการบังเวลา 09.11 น. เห็นได้ 63.4% จ.พิษณุโลก เริ่มเวลา 07.04 น. บังมากที่สุดเวลา 08.03 น. สิ้นสุดเวลา 09.11 น. เห็นได้ 54.8%

    จ.อุดรธานี เริ่มเวลา 07.05 น. บังมากที่สุดเวลา 08.06 น. สิ้นสุดเวลา 09.16 น. เห็นได้ 54.7% จ.อุบลราชธานี เริ่มเวลา 07.09 น. บังมากที่สุดเวลา 08.10 น. สิ้นสุดเวลา 09.19 น. เห็นได้ 45.4%

    จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มเวลา 07.07 น. บังมากที่สุดเวลา 08.05 น. สิ้นสุดเวลา 09.10 น. เห็นได้ 40.8% จ.ประจวบคีรีขันธ์ เริ่มเวลา 07.08 น. บังมากที่สุดเวลา 08.02 น. สิ้นสุดเวลา 09.04 น. เห็นได้ 35.9%

    จ.ภูเก็ต เริ่มเวลา 07.13 น. บังมากที่สุดเวลา 08.01 น. สิ้นสุดเวลา 08.55 น. เห็นได้ 23.2% จ.สงขลา เริ่มเวลา 07.16 น. บังมากที่สุดเวลา 08.04 น. สิ้นสุดเวลา 08.57% เห็นได้ 19.5%

    ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคาครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 มกราคม 2553 เป็นสุริยุปราคาแบบบางส่วน แต่ดวงจันทร์จะบดบังดวงอาทิตย์มากกว่าวันที่ 22 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยจุดที่มองเห็นได้สวยงามที่สุดคือ ทางภาคเหนือ เช่น จังหวัดเชียงราย เห็น 75% และกรุงเทพฯ เห็นได้ 57%.

    ที่มา ชวนชมสุริยุปราคา เช้า22กรกฎาคมเห็นทั่วประเทศ | ไทยโพสต์<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    บางส่วนของคำสอนเรื่องพุทธภูมิและพระโพธิสัตว์
    โดยพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    สำหรับท่านที่บำเพ็ญตนปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล การปรารถนาพุทธภูมิเป็นของดี แต่จะต้องทำความรู้สึกไว้เสมอว่า

    เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการรื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข จิตจะต้องคิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ทุกข์ของชาวประชาทั้งหลายเป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้

    หมายความว่า เราจะทุกข์แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่องของเรา ไม่มีความสำคัญ จิตใจของเรานั้น เราคิดว่าเราจะพ้นทุกข์ได้ เพราะว่าเราช่วยเหลือความสุขแก่บรรดาประชาชนที่มีความทุกข์ ถ้าเราเปลื้องทุกข์เขาได้ เราก็เป็นคนหมดทุกข์ เราสร้างให้เขาเป็นคนมีความสุขได้เราก็เป็นคนมีความสุข จิตใจของพระโพธิสัตว์มีอารมณ์อย่างนี้ แต่ทว่าให้เป็นไปตามบารมี

    บารมีของพระโพธิสัตว์นั้น แม้จะเป็นการเริ่มต้นแห่งการปรารถนาพุทธภูมิ กำลังใจเต็มเปี่ยมด้วยเมตตาปรานี ก็จะมีบริษัทมาก จะมีบริวารมาก เป็นการฝึกกำลังใจของนักปฏิบัติเพื่อจะได้ซ้อมกำลังใจของเราว่ามีความหนักแน่นเพียงใด นักปรารถนาพุทธภูมิจะต้องมีทั้งขันติและโสรัจจะ ขันติ อดทนต่อความยากลำบากทุกประการ เพื่อความสุขของปวงชน โสรัจจะ แม้จะกระทบกระทั่งทำให้ใจตนไม่สบายเพียงใดก็ตาม ก็ทำหน้าแช่มชื้นไว้เสมอ นี่ก้าวแรกสำหรับพุทธภูมิ และกำลังใจอีกส่วนหนึ่งที่จะเว้นไม่ได้นั่นคือ พระนิพพาน จงอย่าคิดว่าถ้าจิตเราเกาะพระนิพพานแล้วความเป็นพุทธภูมิจะหายไป ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ต้องถือว่า เป็นผู้มีกำลังใจต่ำ ก้าวไม่ถึงก้าวสำคัญของพุทธภูมิ

    พุทธภูมิจะต้องมีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเราเป็นผู้ที่ต้องการพระนิพพาน อารมณ์ใดที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงแนะนำในด้านวิปัสสนาญาณ ต้องเกาะให้ติด และมีกำลังจิตใช้ปัญญาพิจารณาไว้เสมอ เพื่อความสุขของจิต เพื่อปัญญาเลิศแล้ว ก็มีจิตตั้งไว้เสมอว่า ถ้าหากจิตของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเมื่อไหร่ เมื่อนั้นบารมีของเรานั้นไซร้ จะเข้าเต็มเปี่ยมในขั้น พุทธวิสัย ชื่อว่า การที่เราจะเข้าพระนิพพานคนเดียว เราไม่เข้าใจ มองไว้เข้าใจว่า บุคคลใดที่มีความทุกข์ในโลกที่ยังมีความฉลาดไม่พอ บุคคลนั้นเราเองจะเป็นผู้อุ้มเขาไปสู่แดนเอกันตบรมสุขคือพระนิพพาน

    อันนี้ เป็นกำลังใจของท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ

    ที่มา http://www.bodhisattva.name/Bodhiyana/Buddhabhumi.html
     
  8. littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    ในหลวงจักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ในอนาคตกาล

    ...
    "ในหลวงพระองค์นี้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์น๊ะ..!!!!"
    พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร


    และความเป็น"พระโพธิสัตว์"ของในหลวงนั้น ก็เป็นถึงระดับ"นิยตโพธิสัตว์"ผู้เที่ยงแท้ต่อพระโพธิญาณในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นอย่างแท้จริงด้วย สมจริงดังที่หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ ได้กล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองทีเดียวว่า
    "ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนามเคยเป็นช้างนาฬาคิริง ส่วนในหลวงองค์ปัจจุบันเป็นช้างป่าเลไลยก์นะ..!!!!!"

    เหตุที่ท่านเจ้าคุณพระญาณสิทธาจารย์(สิม พุทฺธาจาโร)ซึ่งเป็นพระขีณาสวสงฆ์ผู้ทรงญาณวิสัยอันลึกล้ำ สามารถแทงตลอดในการทุกสิ่งอัน และได้แจ้งในใจในพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ นี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในอนาคตวงศ์ภายภาคหน้าเป็นอย่างดีที่สุด หลวงปู่สิมจึงได้ถวายความจงรักภักดีในพระองค์ท่านอย่างยิ่ง แม้ตราบเท่าวาระสุดท้ายแห่งชีวิตท่านอย่างน่าซาบซึ้งประทับใจที่สุด ไม่มีใดจะเทียมทันได้ ซึ่งการทั้งปวง อาจเข้าไปชมได้ในหัวข้อ"จงรักภักดีด้วยชีวิต"
    (http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-071204131122160) ได้ตามอัธยาสัย

    "พระองค์มัวแต่เป็นห่วงคนอื่น แต่ไม่ทรงห่วงพระองค์เองบ้างเลย.."
    หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ <table width="100" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td></td></tr></tbody></table><table width="250" align="center" bgcolor="#f4f4f4" border="0" bordercolor="#ffffff" cellpadding="5" cellspacing="1"><tbody><tr><td align="middle" bgcolor="#ffffff"></td></tr></tbody></table>
    หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี พระมหาโพธิสัตว์ใหญ่ที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมากล่าวรับรองไว้ด้วยองค์เองว่า"เป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตพุทธวงศ์เบื้องหน้า"ฟัง สังเกตว่า ดูหลวงพ่ออุตตมะท่าน"เฉย"มากๆ ก่อนที่จะปรารภออกมาอย่างราบเรียบที่สุด เหมือนมิได้ไยดีใดๆว่า
    "เขาไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากเหมือนกับในหลวงหรอก..!!!!!"

    ที่มา:ในหลวงจักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้า ในอนาคตกาล
     
  9. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กัป อสงไขยกัป มหากัป พุทธันดรกัป ยุค
    โดย กาญจนา นาคสกุล


    กัป

    อายุของโลกตามจินตนาการของคนอินเดียโบราณ ๑ กัป นับเวลาตั้งแต่เมื่อพระพรหมสร้างโลกเสร็จ จนถึงเวลาที่ไฟบรรลัยกัลป์มาล้างโลก ในภาษาไทยใช้คำว่า กัป หรือ กัลป์ ก็ได้ คำว่า กัป มาจากภาษาบาลีว่า กปฺป ส่วน กัลป์ มาจากภาษาสันสกฤตว่า กฦปฺ ซึ่งแปลว่า เป็นไปได้ เหมาะสม สามารถ และหมายถึง อายุที่เหมาะสมของโลก ในวรรณคดีสันสกฤต ๑ กฦปฺ นาน ๒,๐๐๐ มหายุค แต่ในวรรณคดีบาลี และในไตรภูมิกถาในภาษาไทย กัปเป็นระยะเวลาที่นานมากจนไม่สามารถจะนับด้วยตัวเลขได้

    ในหนังสือ ไตรภูมิกถา ได้อธิบายความยาวนานของเวลา ๑ กัป ด้วยการเปรียบเทียบว่า มีที่แห่งหนึ่งสร้างกำแพงกั้นไว้สี่ด้าน ยาวด้านละ ๑ โยชน์ กำแพงนั้นให้สูง ๑ โยชน์ ภายในกำแพงจึงมีปริมาตรจุ ๑ ลูกบาศก์โยชน์ ให้บรรจุเมล็ดพันธุ์ผักกาดไว้ให้เต็มถึง ๑๐๐ ปี ให้นำเมล็ดผักกาดออกไป ๑ เมล็ด (สมมุติว่า เมล็ดผัดกาดนั้นจะไม่ผุเปื่อยยุ่ย หรือกลายเป็นต้นผักกาดไปเสียก่อน) เมล็ดผักกาดหมดแล้วยังไม่นานเท่าเวลา ๑ กัป เลย

    หรือสมมุติว่า มีเขาหินลูกหนึ่ง กว้างยาวด้านละ ๑ โยชน์ สูง ๑ โยชน์ (คิดง่ายๆว่า เป็นก้อนหินขนาด ๑ ลูกบาศก์โยชน์) ไม่มีช่อง ไม่มีโพรง ทึบตันทั้งลูก ถึงเวลา ๑๐๐ ปี เอาผ้าแพรเนื้อบางมาลูบเขานั้นครั้งหนึ่ง ทำไปเรื่อยๆ ภูเขานั้นราบลงถึงพื้นก็ยังยาวนานไม่เท่าเวลา ๑ กัป

    คำว่า กัป เป็นรูปคำที่มาจากภาษาบาลี กัลป์ เป็นรูปที่มาจากภาษาสันสกฤต ในภาษาพูดทั่วไปนิยมใช้คำว่า กัป หรือใช้เป็นคำซ้อนว่า กัปกัลป์

    อสงไขยกัป

    หมายถึง กัปที่นับไม่ได้ เรียกช่วงเวลาระหว่างโลกหนึ่งกับอีกโลกหนึ่ง นับง่ายๆ คือ เมื่อมีโลก โลกจะมีอายุนาน ๑ กัป เมื่อหมดเวลา ๑ กัป ก็จะเป็นช่วงที่โลกพินาศ ช่วงเวลานั้นเอง คือ ช่วงเริ่มอสงไขยกัป อสงไขยกัปมี ๔ ช่วง นับช่วงเวลาที่โลกเริ่มพินาศไปจนถึงพินาศหมดสิ้น สลายกลายเป็นธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ นับเป็น อสงไขยกัปที่ ๑ ช่วงระยะเวลาที่โลกอยู่ในสภาพพินาศและว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย นับเป็นอสงไขยกับที่ ๒ ช่วงระยะเวลาที่โลกเริ่มมีวิวัฒนาการขึ้นมาใหม่ กลับมีพลังงาน มีพระอาทิตย์ พระจันทร์ มีแผ่นดิน มีแม่น้ำ มีภูเขา และเริ่มมีสิ่งมีชีวิต นับเป็นอสงไขยกัปที่ ๓ ส่วนอสงไขยกัปที่ ๔ คือช่วงระยะเวลาที่โลกเริ่มมีวิวัฒนาการได้สมบูรณ์ ไปจนถึงเวลาที่โลกเริ่มพินาศใหม่ คือเวลาอีก ๑ กัป นั่นเอง อสงไขยกัปจึงนานแสนนาน นานเกินกว่าใครจะนึกถึงได้

    มหากัป

    ระยะเวลาตั้งแต่สิ้นโลกไปจนถึงเวลาเกิดของโลกใหม่และได้มีวิวัฒนาการเป็นโลกใหม่ที่สมบูรณ์ จึงรวมเวลาของอสงไขยกัปที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ และที่ ๔ เข้าเป็น ๑ มหากัป เวลาในช่วง ๑ กัป นั้น อายุของคนจะเริ่มตั้งแต่อายุ ๑๐ ปี และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากได้ทำบุญกุศลมากขึ้นๆ และมีอายุมากจนนับไม่ได้ที่เรียกว่า อสงไขย อายุที่ยืนยาวมากอย่างนี้ทำให้คนหลงและประมาทจึงทำบุญน้อยลง ทำบาปมากขึ้น เมื่อทำบาปอายุที่ยืนยาวก็จะค่อยๆลดลงๆ จากอสงไขยลดลงมาจนถึงอายุ ๑๐ ปี ก็ถึงเวลาที่โลกจะพินาศ ตามลักษณะนี้ถ้ามนุษย์พยายามทำความดี ทำบุญให้มาก อายุก็ควรจะยืนยาวไปได้นาน และถ้ามนุษย์ยังมีอายุยืนยาวอยู่โลกก็คงจะยังไม่พินาศ

    พุทธันดรกัป

    คำว่า พุทธันดร เกิดจากคำว่า พุทธ ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้า กับคำว่า อันตร แปลว่า ระหว่าง ระยะเวลา หรือระยะเวลาที่ยาวนาน พุทธันดร จึงหมายถึง ระยะเวลาระหว่างพระพุทธเจ้า คือระยะเวลาระหว่างที่เกิดพระพุทธเจ้าขึ้นพระองค์หนึ่งจนถึงเวลาที่เกิดพระพุทธเจ้าขึ้นอีกพระองค์หนึ่ง บางตำราแปลคำว่า พุทธันดร ตามรูปศัพท์ว่า ช่วงเวลาที่โลกว่างพระพุทธศาสนา คือ ช่วงเวลาที่พระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งสิ้นแล้ว และพระพุทธเจ้าพระองค์ใหม่ยังไม่อุบัติกัปในช่วงระยะเวลานี้เรียกว่า พุทธันดรกัป

    ยุค

    หมายถึง ระยะเวลาใดเวลาหนึ่งของโลกในขณะที่มีลักษณะเด่นอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ยุคแรกเมื่อมนุษย์ยังไม่มีความเจริญ อยู่กันตามป่าตามเขา ไม่มีเรื่องราวให้เรารู้กันมากนัก เรียกว่า ยุคดึกดำบรรพ์ หรือยุคมืด ต่อมาเมื่อมนุษย์เจริญขึ้น รู้จักใช้หินเป็นเครื่องมือ เป็นอาวุธ จึงเรียกว่า ยุคหิน นักประวัติศาสตร์แบ่งเวลายุคหินเป็น ๒ ยุค โดยอาศัยลักษณะหินที่ใช้เป็นอาวุธนั้น คือ ยุคหินเก่า ใช้หินเป็นก้อนๆตามธรรมชาติ และยุคหินใหม่ ซึ่งใช้หินที่ลับหรือดัดแปลงให้เป็นรูปร่างอย่างที่ต้องการได้บ้างแล้ว ต่อมามียุคโบราณ ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคล่าอาณานิคม ยุคจรวด และปัจจุบันอาจเรียกว่า ยุคคอมพิวเตอร์ ยุค จึงใช้เรียกเวลาของโลกช่วงหนึ่งๆ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดขึ้นในโลกครั้งหนึ่งก็ถือว่าหมดยุคเก่าหรือสิ้นยุคเก่า และเกิดยุคใหม่ เวลาในยุคหนึ่งๆไม่เท่ากัน และแต่ละยุคอาจมีระยะเวลาไม่นานนัก

    ในวรรณคดีอินเดีย แบ่งโลกออกเป็น ๔ ยุค มีชื่อเรียกว่า กฤดายุค ทวาบรยุค ไตรดายุค และกลียุค

    กฤดายุค เป็นยุคแรกของโลก เป็นยุคของคนดี ผู้คนต่างมีศีลมีธรรมมั่นคง ซื่อตรง มีจิตใจผ่องใส ไม่อิจฉาริษยา ไม่คดโกง ทุกคนจึงอยู่อย่างมีความสุขเต็มที่ กฤดายุคยืนยาวมาได้ ๔,๘๐๐ ปีสวรรค์ คิดเป็นเวลามนุษย์ได้ ๑,๗๒๘,๐๐๐ ปี เนื่องจาก ๑ ปีสวรรค์ เทียบได้เท่ากับ ๓๖๐ ปีมนุษย์

    ยุคที่ ๒ คือ ทวาบรยุค เริ่มมีคนชั่วประมาณ ๑ ใน ๔ ส่วน มนุษย์จึงเริ่มมีความทุกข์ ทวาบรยุคมีอายุ ๓ ใน ๔ ส่วนของยุคแรก จึงยาว ๓,๖๐๐ ปีสวรรค์ หรือเท่ากับ ๑,๒๙๖,๐๐๐ ปีมนุษย์

    ยุคที่ ๓ คือ ไตรดายุค คนชั่วเพิ่มมากขึ้นจนมีจำนวนเท่ากับคนดี เรียกว่า มีคนดีครึ่งหนึ่งคนชั่วครึ่งหนึ่ง ไตรดายุคยาว ๒,๔๐๐ ปีสวรรค์ เทียบเท่ากับ ๘๖๔,๐๐๐ ปีมนุษย์

    ยุคที่ ๔ คือ กลียุค คนชั่วมีถึง ๓ ใน ๔ ส่วน มีคนดีเพียงส่วนเดียว ชีวิตจึงมีความลำบากมาก โจรผู้ร้ายมีมาก มีการฆ่ากัน ทำร้ายกัน โกงกัน กลียุคมีอายุ ๑,๒๐๐ ปีสวรรค์ เทียบเท่ากับ ๔๓๒,๐๐๐ ปีมนุษย์

    ยุคที่เราอยู่นี้คือ กลียุค ชีวิตจึงไม่ค่อยสุขสบายนัก มีโจรผู้ร้าย มีการฆ่ากัน มีการหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบกัน พอหมดกลียุค โลกก็ถึงกาลอวสาน มีไฟบรรลัยกัลป์มาล้างโลก

    ที่มา นิตยสารสกุลไทย ฉบับที่ 2598 ปีที่ 50 ประจำวัน อังคาร ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2547

    http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetailsql.asp?stcolumnid=3135&stissueid=2598&stcolcatid=2&stauthorid=19
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระสุมงคล (ช้างปาลิไลยกะ)



    ภาพที่เห็นเป็นภาพเหตุการณ์ตอนหนึ่งในประวัติของพระพุทธเจ้า เป็นตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาในป่าโดยลำพังพระองค์ ไม่มีพระภิกษุใดหรือใครอื่นตามเสด็จไปจำพรรษาอยู่ด้วยเลย ป่าที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาครั้งนี้ เป็นป่าใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของช้างโทนเชือกหนึ่ง ชื่อว่า <!--coloro:blue--><!--/coloro-->"ปาลิไลยกะ"<!--colorc--><!--/colorc--> หรือ "ปาลิไลยก์" ป่าแห่งนี้จึงได้นามตามช้างนี้ว่า "ป่าปาลิไลยก์" คนไทยเราเรียกว่า <!--coloro:blue--><!--/coloro-->"ป่าปาเลไล"<!--colorc--><!--/colorc--> อันเดียวกันนั่นเอง

    มูลเหตุที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาที่ป่าแห่งนี้ เพราะทรงรำคาญพระภิกษุชาวเมืองโกสัมพีสองคณะ พิพาทและแตกสามัคคีกัน ถึงกับไม่ยอมลงโบสถ์ร่วมกัน พระพุทธเจ้าทรงทราบเข้า ได้เสด็จมาทรงระงับให้ปรองดองกัน แต่พระภิกษุทั้งสองคณะก็ไม่เชื่อฟัง พระพุทธเจ้าจึงทรงเสด็จหนีไปจำพรรษาอยู่ในป่าดังกล่าว

    <!--coloro:blue--><!--/coloro-->ด้วยอำนาจพุทธบารมีและพระเมตตาของพระพุทธเจ้า ช้างปาลิไลยก์ก็ได้เข้ามาอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า เช้าขึ้นหาผลไม้ป่ามาถวาย ตอนเย็นต้มน้ำร้อนถวายพระพุทธเจ้า ด้วยวิธีกลิ้งก้อนหินที่เผาไฟให้ร้อนลงในแอ่งน้ำ<!--colorc--><!--/colorc-->

    ลิงตัวหนึ่งเห็นช้างปรนนิบัติถวายพระพุทธเจ้า ก็ได้นำ<!--coloro:blue--><!--/coloro-->รังผึ้งมาถวายพระพุทธเจ้า<!--colorc--><!--/colorc-->บ้าง พระพุทธเจ้าทรงรับแต่ไม่ทรงฉัน ลิงจึงได้เข้าไปนำรวงผึ้งกลับมาพิจารณาดู เมื่อเห็นตัวอ่อนของผึ้ง จึงนำตัวอ่อนออกหมด แล้ว<!--coloro:blue--><!--/coloro-->จึงนำแต่น้ำผึ้งหวานไปถวายใหม่ คราวนี้พระพุทธองค์ทรงรับแล้วฉัน<!--colorc--><!--/colorc-->ลิงแอบดูอยู่บนต้นไม้ เห็นพระพุทธเจ้าทรงฉันรวงผึ้งของตน ก็ดีใจ <!--coloro:red--><!--/coloro-->กระโดดโลดเต้นบนกิ่งไม้ จนพลัดตกลงมา ถูกไม้แหลมเสียบท้องทะลุตาย<!--colorc--><!--/colorc-->

    เมื่อออกพรรษา พระภิกษุที่แตกกันเป็นสองฝ่ายยอมสามัคคีกัน เพราะชาวบ้านไม่ยอมทำบุญใส่บาตรให้ ได้ส่งผู้แทนไปกราบทูลพระพุทธเจ้าเสด็จกลับเข้าเมือง ช้างปาลิไลยก์อาลัยพระพุทธเจ้านักหนา เดินตามพระพุทธเจ้าออกจากป่า ทำท่าจะตามเข้าไปในเมืองด้วย พระพุทธเจ้าจึงทรงหันไปตรัสบอกช้างว่า <!--coloro:blue--><!--/coloro-->

    "ปาลิไลยก์ ถิ่นของเธอหมดแค่นี้ แต่นี้ต่อไปเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ ซึ่งเป็นภัยต่อสัตว์เดรัจฉานเช่นเธอ เธอไปด้วยไม่ได้หรอก"<!--colorc--><!--/colorc-->

    ช้างปาลิไลยก์ก็ยืนร้องไห้เสียใจ ไม่กล้าเดินตามพระพุทธเจ้า พอพระพุทธเจ้าลับสายตาก็เลย<!--coloro:blue--><!--/coloro-->อกแตกตาย<!--colorc--><!--/colorc-->อยู่ ณ ที่นั้น คัมภีร์บอกว่า ทั้งลิงและช้างตายแล้ว ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ที่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ที่มา http://www.intania8x.com

    พระอนาคตวงศ์
    (พระพุทธเจ้า ๑๐ พระองค์ที่จะมาตรัสรู้ในภายภาคหน้า)

    พระอนาคตวงศ์นี้ เป็นเรื่องกล่าวถึงประวัติย่อของพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ผู้บำเพ็ญพระบารมีในชาติหนึ่ง ซึ่งปรากฏเป็นยอดปรมัตถบารมีอันประเสริฐ เกิดสำเร็จผล ทรงพระอภินิหาร ประกอบด้วยพระเดชามหานุภาพ เป็นพุทธสมบัติที่จะมาอุบัติตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสิบพระองค์ในโลก ณ อนาคตกาลภายหน้า นั้นคือ

    - พระศรีอาริยเมตไตรย (พระอชิตเถระ)
    - พระราม (นารทมาณพ)
    - พระธรรมราช (พระเจ้าปเสนทิโกศล)
    - พระธรรมสามี (พระยามาธิราช)
    - พระนารทะ (พระยาอสุรินทราหู)
    - พระรังสีมุนีนาท (โสณพราหณ์)
    - พระเทวเทพ (สุภพราหมณ์)
    - พระนรสีหะ (โตไทยพราหมณ์)
    - พระติสสะ (ช้างนาฬาคีรี)
    - พระสุมงคล (ช้างปาลิไลยกะ)


    พระสุมงคล (ช้างปาลิไลยกะ)

    ภควา อันว่าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแห่งเรา ตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่า เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงพระนามว่า พระติสสะสัพพัญญูพุทธเจ้า เสด็จล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานสิ้นกาลช้านานแล้ว ฯ

    ในลำดับนั้น อันว่าช้างปาลิไลยหัตถีตัวรี้ก็เป็นพระบรมโพธิสัตว์สร้างพระบารมีมาเป็นอันมาก จักได้ตรัสเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระสุมงคล ในอนาคตกาลพระสุมงคลทศพลญาณเจ้านั้น มีพระองค์สูงได้ ๖๐ ศอก พระชนมายุมีประมาณแสนปีเป็นกำหนด ไม้กากะทิงเป็นพระศรีมหาโพธิ ประดับด้วยพระพุทธรัศมีรุ่งเรืองสว่าง ดังสีทองเป็นอันงามประดุจกลางวัน แล้วจะบังเกิดมีไม้กัลปพฤกษ์ต้นหนึ่ง ห้อยย้อยไปด้วยสิ่งของเครื่องประดับ มีประการต่างๆ ด้วยพระพุทธานุภาพ

    ฝูงมนุษย์ทั้งหลายในพระศาสนาของพระสุมงคล มิได้กระทำซึ่งกสิกรรม วาณิชกรรม ได้อาศัยซึ่งต้นกัลปพฤกษ์นั้น ประพฤติเลี้ยงชีวิตแห่งอาตมา มนุษย์ทั้งหลายมีความผาสุกสบาย ขวนขวายแต่การเล่นเต้นรำแต่งตัวอยู่เป็นนิจ เสมอเหมือนเทพบุตร เทพธิดา ซึ่งได้ทิพยสมบัติในสวรรค์เทวโลกฯ สมเด็จพระสุมงคลทศพลญาณเจ้า ก่อสร้างพระบารมีมาทั้ง ๑๐ ประการ จึงสำเร็จแก่พระพุทธสมบัติเห็นปานดังนี้ ฯ อันว่ากองพระบารมีครั้งหนึ่ง พระองค์กระทำมาแต่ยังเป็นพระบรมโพธิสัตว์อยู่นั้น ปรากฏเป็นปรมัตถบารมีอันยิ่งยอดอย่างเอกอุดมทาน ฯ

    ที่มา http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9030
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิกฤตโลกในปี ค.ศ. 2009-2012


    Demons มนุษย์ต่างดาวที่ไม่หวังดีกับมนุษย์โลก

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->แม่นายมล<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2220905", true); </SCRIPT> สมาชิก(รายงานสรุปการบรรยาย)

    จาการบรรยายครั้งที่ 152 วันที่ 7 มิ.ย.52 เรื่อง อีก 3 ปีโลกนี้จะมีภัย โดย อ.ปริญญา ตันสกุล

    วิกฤตในไทยปี ค.ศ.2009-2012

    1. เกิดโรคระบาดรุนแรง
    2. ขาดแคลนอาหาร และอาชญากรรมมากขึ้น
    3. คนว่างงาน ยาเสพติดระบาดขั้นโคม่า
    4. ภัยธรรมชาติรุนแรงอีก 3 ครั้ง
    5. สงครามกลางเมือง-ผู้นำอ่อนแอ
    6. บุคคลสำคัญของชาติจะป่วย-อาจถึงขั้นเสียชีวิต
    7. ได้รับผลกระกระทบจากภาวะเอลนินโญ่
    8. เกิดเรื่องไม่งามในวงการศาสนา
    9. แก้ปัญหาเศรษฐกิจ-การเมืองไม่สำเร็จ
    10. คนไทยจะพึ่งอวิชชามากขึ้น - คนจะได้ฤทธิ์แบบไม่รู้ตัวมากขึ้น<!-- google_ad_section_end -->

    วิกฤตโลกปี ค.ศ.2009-2012
    ----------------------------
    ด้านอุบัติภัยทางธรรมชาติ
    ----------------------------
    1. อาจเกิดแผ่นดินไหวใหญ่รุนแรง โหดกว่าครั้งที่ผ่านมาเอาชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ไทยก็อาจโดนด้วย
    2. อุบัติเหตุทางเครื่องบิน-เรือล่ม -ทางรถยนต์ การตายหมู่ถี่มากขึ้น
    3. อุทกภัยหนักที่สุดพัดถล่มทั่วโลก ไทยก็อาจโดนด้วย จีนหนักที่สุด
    (ทำบาปมาก เพราะสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง อันจะเป็นเหตุให้ แม่น้ำโขงหายไปจากแผนที่โลก)
    4. อาจเกิดน้ำท่วม กทม. และอัคคีภัยรุนแรง แผ่นดินทรุด น้ำทะเลหนุน ท่วมแล้วลด
    5. เกิดหิมะตกในเขตร้อน อากาศหนาวก็หนาวมากๆ
    6. อาจเกิดอุบัติเหตุจากอาวุธนิวเคลียร์

    -----------------
    ด้านสาธารณสุข
    -----------------
    1. เกิดโรคร้ายรุนแรงในหลายประเทศ เชื้อโรคมาจากต่างดาวที่ไม่หวังดีกับมนุษย์โลก
    2. ขาดแคลนอาหารบริโภค
    3. ขาดแคลนเครื่องอุปโภค - เครื่องใช้
    4. ไข้หวัดนกกลายพันธ์สำเร็จ
    5. โรคร้ายเก่าๆ จะกลับมาใหม่และร้ายแรงกว่าเดิม เช่น อหิวาต์ ไข้เลือดออก

    2-07-2009, 01:46 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข่าวสารจากจิตจักรวาล.66981/page-31
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เด็กหญิงที่รอดชีวิตจากเครื่องบินตกเล่าสถานการณ์นาทีวิกฤติ



    บีบีซี นิวส์ ออนไลน์ 2 ก.ค.-เด็กหญิงบายา บาคารี วัย 12 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเครื่องบินโดยสารของสายการบินเยเมเนียพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 153 คน ประสบอุบัติเหตุตกใกล้หมู่เกาะคอโมโรสในมหาสมุทรอินเดีย กล่าวกับบิดาที่โรงพยาบาลในประเทศเยเมน ว่า

    เธอจำเหตุการณ์ได้ดี โดยร่างของเธอถูกเหวี่ยงออกมาจากเครื่องบินทันทีที่ตกในทะเล แต่ในเวลานั้นมืดมาก เธอมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง และด้วยการที่เธอว่ายน้ำไม่เก่งนัก ทำให้ต้องหาสิ่งของใกล้ตัวมายึดเกาะเพื่อพยุงตัวให้รอดชีวิต

    ทางด้านบิดาของเด็กหญิงบายา กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนขี้กลัวมากทำให้แทบไม่เชื่อว่าเธอจะรอดชีวิตมาได้ในสถานการณ์เช่นนี้ นอกจากนี้ เธอมีร่างกายอ่อนแอและแทบจะว่ายน้ำไม่เป็น คุณพ่อของเด็กหญิงบายา บอกด้วยว่า เขาบอกลาภรรยาและลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายที่สนามบิน ซึ่งแม้ลูกสาวรอดชีวิตแต่ก็ไม่คิดว่าภรรยาจะยังมีชีวิตอยู่

    ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสในกรุงโมโรนี นครหลวงของคอโมโรส กล่าวยกย่องความกล้าหาญของเด็กหญิงบายา และว่าเป็นความมหัศจรรย์อย่างแท้จริงที่เธอรอดชีวิตมาได้ ทั้งนี้เด็กหญิงบายาถูกนำตัวกลับไปรักษาต่อที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่เมื่อค่ำวานนี้ (1 ก.ค.) โดยที่ยังรู้สึกตัวดีและพูดจารู้เรื่อง.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 08:54:50

    ชาวยุโรปหลายประเทศเผชิญคลื่นความร้อน



    ยุโรป 2 ก.ค.-ชาวยุโรปหาทางรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดที่แผ่ปกคลุมในหลายประเทศ

    ชาวฝรั่งเศสใช้เวลาช่วงกลางวันไปท่องเที่ยวตามสวนสาธารณะต่าง ๆ ที่มีบ่อน้ำและน้ำพุเพื่อเล่นน้ำคลายความร้อน เนื่องจากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นถึง 31 องศาเซลเซียส ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันกล่าวว่า อากาศร้อนทำให้เห็นผู้คนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีสีสันสวยสดงดงาม และอากาศทั่วไปก็ไม่ร้อนมากเหมือนที่สหรัฐ

    ส่วนที่สเปน ประชาชนก็กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อน โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน 24 จังหวัดให้ระวังภัยจากสภาพอากาศร้อนจัด ที่กรุงมาดริดอุณหภูมิสูงถึง 32 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวต้องใช้วิธีหลบแดดตามใต้ต้นไม้ กินไอศกรีมและดื่มน้ำบ่อย ๆ เช่นเดียวกับที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งอุณหภูมิเพิ่มสูงถึง 32 องศาเซลเซียสเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 01:18:29

    น้ำท่วมในจีนคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 16 คน



    จีน 2 ก.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมในจีนได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 16 คน ขณะที่อีกหลายพันคนต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย

    ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแยงซี มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 16 คน รัฐบาลระบุว่าผู้เสียชีวิต 8 คน อยู่ในมณฑลอานฮุย และมณฑลเหอเป่ย์ นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีก 4,000 คน ที่ต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง มีผู้เสียชีวิต 6 คน และมีรายงานว่าบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย

    ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในจีนแล้ว 95 คน ขณะที่รัฐบาลกลางเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับฤดูมรสุมที่กำลังจะมาถึง.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 10:06:54

    พายุฝนกระหน่ำจีน เสียชีวิตแล้ว 11 คน



    ปักกิ่ง 2 ก.ค. – สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เกิดฝนตกหนักในภาคตะวันออกและตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 คน

    ซินหัวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 9 คนและสูญหายไป 1 คน หลังจากเกิดฝนตกหนักในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศนับแต่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ส่วนอีก 2 คนเสียชีวิตในมณฑลเจียงซี ซึ่งอิทธิพลของพายุฝนทำให้บ้านเรือนของทั้งสองพังถล่มลงมา คาดว่า ฝนจะยังคงตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันศุกร์นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประกาศเตือนให้ระวังน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม

    ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ทางการจีนได้ประกาศเตือนผ่านสื่อท้องถิ่นว่าจีนอาจเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนอันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน -สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 13:31:23

    ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อหวัด 2009 ในอาร์เจนตินาเพิ่มเป็น 44 คน



    อาร์เจนตินา 2 ก.ค. - ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อหวัดใหญ่ 2009 ในอาร์เจนตินา เพิ่มเป็น 44 คน ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขคนใหม่ เข้ารับตำแหน่งแล้ว

    สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อหวัดใหญ่ 2009 ในอาร์เจนตินา ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 44 คน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อแล้ว 1,587 คน ส่วนกรณีที่ นางกราเซียลา รัฐมนตรีสาธารณสุขอาร์เจนตินา ตัดสินใจลาออก รัฐบาลอาร์เจนตินาได้แต่งตั้งให้ นายฮวน มันซูร์ เข้ารับตำแหน่งเพื่อปฎิบัติหน้าที่แทนทันที

    นอกจากนี้ ทางการอาร์เจนตินายังเผยมาตรการพิเศษเพื่อหวังหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อหวัดใหญ่ 2009 อาทิ การเพิ่มความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างหน่วยงาน การเพิ่มกำลังบุคลากรทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม ทางการอาร์เจนตินายังไม่มีมีแผนการที่จะปิดโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร หรือ ปิดอาคารสาธารณะ

    อาร์เจนตินานับเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อหวัดใหญ่ 2009 มากเป็นอันดับ 3 รองจากเม็กซิโก และสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 10:04:31

    ภาพประวัติศาสตร์ คางคกกินงู



    เสฉวน 2 ก.ค. - นักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถบันทึกภาพประวัติศาสตร์คางคกกำลังกินงู นับเป็นครั้งแรกที่มีหลักฐานว่าคางคกซึ่งโดยปกติเป็นสัตว์ที่ถูกงูล่าเป็นอาหาร กลับกลายมาเป็นผู้ล่า

    ภาพดังกล่าวเป็นคางคกภูเขากำลังกินงูหางกระดิ่งสายพันธุ์หนึ่งที่อุทยานเขาฉิงเชิงในมณฑลเสฉวน ทางภาคกลางของจีน นักท่องเที่ยวรายนี้ บอกว่า ขณะเดินไปบนถนนของภูเขาลูกนี้ เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองที่เห็นคางคกตัวหนึ่งกำลังกินงูที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างเอร็ดอร่อย และดีใจที่มีกล้องอยู่ในมือจึงสามารถถ่ายภาพนี้ออกมาได้

    เขาบอกว่าคางคกกินงูหมดทั้งตัวภายในเวลาประมาณ 5 นาที และมาถึงขณะนี้ก็ยังยากที่จะเชื่อว่าสัตว์ที่เคยเป็นผู้ล่ากลับกลายเป็นเหยื่อของผู้ถูกล่าเสียเอง ขณะที่นักสัตววิทยา กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ยินข่าวคางคกกินงูเป็นอาหาร.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 11:38:29

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตือนภัยพิบัติล้างโลก ปี ค.ศ.2012
    โดย อาจารย์สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา


    เมื่อราวเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2551 (ค.ศ.2008) อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา กลายเป็นที่รู้จักของคนไทย จากการเป็นผู้คิดค้นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในประเทศไทยเป็นคนแรก โดยพัฒนาอุปกรณ์แยกไฮโดรเจนจากน้ำ ทำให้รถยนต์สามารถใช้พลังงานน้ำแทนน้ำมัน เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนได้สำเร็จ หรือเรียกง่ายๆ ว่า รถใช้น้ำที่ใครหลายคนฝันไว้ ได้เกิดขึ้นได้จริงจากนักวิจัยท่านนี้

    แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า นอกจากการเป็นนักวิจัยของไทยที่นับว่ามีความรู้ความ สามารถท่านหนึ่งแล้ว อาจารย์สุมิตรยังทำงานอยู่ในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซ่า ในสายงานที่อาจเรียกว่าพิเศษก็ไม่ผิดนัก กล่าวคือ ต้องทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก สร้างยานอวกาศ เพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือ ปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันในวงจำกัดเท่านั้น!!!

    อาจารย์สุมิตร บอกเล่าผ่านรายการ The Taxi ทางช่องเอ็นบีที เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติของโลก ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า โลกจะเกิดหายนะขึ้นจากเหตุอุทกภัย น้ำจะท่วมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งคนในองค์การนาซ่าทุกคนต่างทราบเรื่องนี้มานานแล้ว จึงได้พยายามสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลก โดยอาจารย์สุมิตร เผยว่า ยานอวกาศดังกล่าวใกล้เสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าสร้างไว้ทั้งหมดกี่ลำ

    พร้อมกันนี้ อาจารย์สุมิตร ยังระบุด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง และปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า โดยใช้วิธีสื่อสารทางโทรจิตในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555) อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างปกปิด ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ เนื่องจากอาจมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

    "โลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ"

    เมื่อรู้เช่นนี้ อาจารย์สุมิตร จึงเสนอต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทย เพื่อให้เร่งสร้างยานอวกาศเตรียมไว้สำหรับอพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก ค.ศ.2012 แต่กลับไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักมากพอในเชิงหลักฐาน

    "อีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมด ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ มันเป็นวันหายนะที่ร้ายแรง ไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่"

    นี่เป็นคำยืนยันจากปากของ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ไทยจากองค์การนาซ่า ที่หลายคนอาจเชื่อ แต่หลายคนอาจไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี นอกจากอาจารย์สุมิตรแล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกลายคนที่พยายามจะมาเตือนคนไทยเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วม ล้างโลกก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทำนายกรุงเทพฯ จมใต้น้ำในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) และอีกท่านที่รู้จักกันดี คือ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ทำนายอนาคตโลกต้องเกิดภัยพิบัติครั้งมโหฬารในปี พ.ศ.2560 (ค.ศ.2017) โดยท่านทำนายไว้เมื่อปี พ.ศ.2548



    ย้อนกลับไปดูผลงานรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนของอาจารย์สุมิตร เป็นรถที่ใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร โดยอาศัยหลักการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ทำให้ได้ก๊าซไฮโดรเจน 2 อะตอม และ ออกซิเจน 1 อะตอม โดยใช้อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเรียกว่า "รีแอคเตอร์" เป็นตัวแยก เมื่อนำไปติดตั้งกับรถยนต์จะใช้ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่รถ 12 โวลต์ เข้ามาทำการแยกโดยขั้วบวกจะมีปฏิกิริยาของออกซิเจน ขั้วลบจะเป็นปฏิกิริยาของไฮโดรเจนในการแยกโมเลกุลน้ำ และได้ไฮโดรเจนซึ่งเป็นเชื้อเพลิง แล้วส่งเข้าไปสันดาปในเครื่องยนต์

    "จุดประสงค์ที่คิดค้นเกิดจากอยากให้โลกรู้ว่า น้ำสามารถเป็นพลังงานทดแทนได้ในอนาคต จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ตัวนี้ขึ้นมา นอกจากนี้รีแอคเตอร์ยังเป็นตัวแก้ปัญหามลพิษ สภาวะปัญหาของโลกในปัจจุบันที่เกิดสภาวะโลกร้อน เพราะการใช้น้ำมาเป็นพลังงานเป็นเชื้อเพลิง จะทำให้ลดภาวะโลกร้อนและแก้ปัญหามลพิษไปด้วย ผลงานชิ้นนี้จะไม่ใช่ชิ้นแรกและชิ้นสุดท้าย ขอให้คนไทยเป็นกำลังใจให้ผมและทีมงานทำหน้าที่ต่อไปให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป" พ.อ.อ.สุมิตร กล่าว​

    สำหรับ อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา เดิมเป็นชาว จ.ราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนจ่าอากาศ เริ่มต้นรับราชการที่กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เป็นเวลา 6 ปี จากนั้นได้ศึกษาต่อในหลายสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ กระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมอากาศยาน จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปี ในบริษัทผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โบอิ้ง หรือแอร์บัส ทำงานในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา มีผลงานการประดิษฐ์ที่ทำให้ประหลาดใจหลายอย่าง จนเพื่อนร่วมงานขนานนามว่า "พ่อมด" แห่งองค์การนาซ่า​

    การศึกษา

    • ปริญญาโทสาขาศิลปกรรม ด้านวิศวกรการบิน สหรัฐอเมริกา (19 มีนาคม พ.ศ.2550)
    • ปริญญาตรีสาขาศิลปกรรม ด้านวิศวกรการบิน สหรัฐอเมริกา (13 มิถุนายน พ.ศ.2545)
    • ประกาศนียบัตรจากบริษัทการบินไทยจำกัด มหาชน ( 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2533 – พ.ศ.2542)
    • A -300- B 4/ A- 300-600 Familiarization Course
    • B -747-400 Basic course
    • B -737-400 ใบอนุญาตวิศวกรท่าอากาศยาน
    • ประกาศนียบัตรจากโรงเรียนฝึกช่างเทคนิคการบิน
    • จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดราชบุรี​

    รางวัลที่เคยได้รับ

    • รางวัลปฏิบัติการยอดเยี่ยม ปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.2525), Wing 23 ฐานการบินอุดร ,การบินไทย
    • พนักงานยอดเยี่ยม ค.ศ.1988 (พ.ศ.2531) US Air Force สหรัฐอเมริกา
    • รางวัลยอดเยี่ยมของผู้บังคับการกองทัพทหารบก สหรัฐอเมริกา กองทัพอัจฉริยะ ครั้งที่ 204,การสำรวจแผนที่จากอากาศ ​

    โครงการและสิ่งประดิษฐ์

    • ระบบควบคุมน้ำอัจฉริยะ (อยู่ในระหว่างจดสิทธิบัตร)
    • น้ำ-ไฮโดรเยน พลังงานเชื้อเพลิงในอนาคต สำหรับโครงการมนุษยชาติในประเทศไทย
    • Fuel Cell (พลังงานเชื้อเพลิง)
    • รถวิ่งโดยใช้น้ำ ​

    ภาพข่าวจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ที่มา http://learning.eduzones.com/rangsit/26198
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดพระธาตุลำปางหลวงยันไม่เคยเรี่ยไรเงินบริจาคเพื่อบูรณะ



    ลำปาง 2 ก.ค. - นายสุวรรณ ปวงคำ ประธานมูลนิธิวัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ช่วงนี้กรมศิลปากรอยู่ระหว่างการบูรณะองค์พระธาตุลำปางหลวง อายุ 1,329 ปี ซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา

    ปรากฏว่า ทางวัดได้รับแจ้งจากประชาชนว่า ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลนำอุปกรณ์และรูปองค์พระธาตุตระเวนเรี่ยไรเงิน ทั้งใน จ.ลำปาง และ จ.เชียงใหม่ อ้างว่าจะนำไปบูรณะองค์พระธาตุลำปางหลวง ขอยืนยันว่า ทางวัดไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว และที่ผ่านมาไม่เคยออกเรี่ยไรเงินบริจาค จึงเข้าหารือกับเจ้าอาวาสและคณะกรรมการมูลนิธิวัด เพื่อหาทางแก้ ก่อนจะเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน สำหรับประชาชนที่มีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาคเงิน เพื่อทำการบูรณะองค์พระธาตุ และเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลวัดพระธาตุลำปางหลวง สามารถมาบริจาคได้ที่วัดตามปกติ

    ทั้งนี้ องค์พระธาตุลำปางหลวงยังไม่เคยได้รับการบูรณะมาก่อน โดยเฉพาะยอดฉัตรทองคำแท้ ซึ่งถูกฟ้าผ่าเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จนยอดฉัตรบางส่วนตกลงมา ขณะนี้ช่างขึ้นไปนำยอดฉัตรทองคำส่วนฐานบนยอดพระธาตุลงมาเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมบูรณะต่อไป ส่วนองค์พระธาตุขณะนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างตรวจสอบองค์พระธาตุในเรื่องโครงสร้างความแข็งแรงและความชื้น โดยกรมศิลปากรอนุมัติงบประมาณมาดำเนินการ 15 ล้านบาท. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 14:39:36

    ปภ.น่าน ห่วง 303 หมู่บ้าน เสี่ยงอุทกภัย เร่งติดอุปกรณ์เตือนภัย



    น่าน 2 ก.ค. - นายธวัช เพ็ชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดติดตั้งอุปกรณ์วัดระดับน้ำฝน และอุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยง 303 หมู่บ้าน 5 อำเภอ คือ เชียงกลาง ปัว ท่าวังผา เวียงสา และภูเพียง

    ซึ่งได้ให้มิสเตอร์เตือนภัยและเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังภัยติดตามสถานการณ์ฝนทุกระยะ รวมทั้งทำรายงานไปยังผู้นำชุมชน และ ปภ.อย่างสม่ำเสมอ เ พื่อวิเคราะห์สถานการณ์ หากเกิดอุทกภัยจะสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ริมน้ำ ลำห้วย หรือในหุบเขา ให้เตรียมพร้อมและคอยติดตามข่าวสารจากจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 16:28:23

    น่านรอผลตรวจนักเรียนไข้สูง 4 ราย



    น่าน 2 ก.ค. - นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยถึงกรณีนักเรียนโรงเรียนสตรีศรีน่าน มีไข้สูงมาหลายวัน จำนวน 4 ราย ว่า จากการซักประวัติพบว่า 1 ราย กลับมาจากกรุงเทพฯ และเริ่มเป็นไข้ แต่ผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก หรือเดินทางไปต่างประเทศ

    ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างเสมหะส่งตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะทราบผลภายในเวลาประมาณ 3 วัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ให้ผู้ป่วยทุกรายกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แต่ยังไม่ให้ไปโรงเรียน หรือออกไปข้างนอก และให้เจ้าหน้าที่เร่งออกรณรงค์แนะนำวิธีป้องกันโรคดังกล่าวอย่างถูกวิธี. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 17:04:15

    ชาวกัมพูชาด้านเมืองจันท์หยุดสั่งซื้อสินค้าจากฝั่งไทย



    จันทบุรี 2 ก.ค. - ผู้ประกอบการกัมพูชาด้านชายแดนเมืองจันท์เกรงสถานการณ์ชายแดนไทย-ศรีสะเกษ กระทบการปิด-เปิดด่าน ล่าสุดหยุดสั่งซื้อสินค้าฝั่งไทยอย่างไม่มีกำหนด

    บรรยากาศตลาดชายแดนเมืองจันท์เงียบเหงา ชาวกัมพูชาไม่ข้ามมาซื้อสินค้าฝั่งไทยตามปกติ ทำให้มูลค่าการซื้อขายที่เคยมีกว่าวันละ 20 ล้านบาท เหลือเพียง กว่า 5 ล้านบาทต่อวัน ขณะนี้ชาวกัมพูชาหยุดสั่งซื้อสินค้า หลายสิบรายการ จากผู้ประกอบการคนไทย ทั้งวัสดุก่อสร้าง อาหาร อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สบู่ ผงซักฟอก ยาสีฟัน

    ด้านนายกชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการชาวกัมพูชาหยุดสั่งซื้อสินค้าจากไทย เป็นผลมาจากไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดศรีสะเกษ.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 10:09:29

    ทหารไทย-เขมรเจรจาล้มเหลว



    สุรินทร์ 1 ก.ค.- การเจรจาระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 กับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ล้มเหลว เนื่องจากกัมพูชายืนยันจะไม่ปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดนด้านเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ

    พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 เจรจากับพลโทเจีย มอญ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา มีขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในชุมชนโอรเสม็ด ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดน โดยเฉพาะด้านเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ โดยการเจรจาใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ก่อนแม่ทัพภาคที่ 2 จะเดินทางกลับ โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเจรจาครั้งนี้ล้มเหลว เนื่องจากทางกัมพูชา ยืนยันไม่ยอมปรับลดกำลังทหารตามแนวชายแดน และจะไม่มีการเจรจาเรื่องนี้อีก มีรายงานด้วยว่าทหารกัมพูชามีการเสริมกำลังตามแนวชายแดน รวมทั้งติดตั้งจรวดต่อสู้อากาศยานด้วย.- สำนักข่าวไทย

    2009-07-01 23:06:38

    หญิงชราวัย 79 ปี ถูกลูกชายทำร้ายร่างกาย-ไล่ออกจากบ้าน



    สมุทรสาคร 2 ก.ค.-หญิงชราอายุ 79 ปี ถูกลูกชายทำร้ายร่างกายและขับไล่ออกจากบ้าน บางวันลูกชายใช้ขันตักน้ำตีศีรษะและใช้ผ้าขนหนูฟาดกลางหลังอย่างรุนแรง จนต้องหนีออกจากบ้าน

    นางเซี่ยงเค็ง แซ่ลี้ หญิงชรา วัย 79 ปี เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังทั้งน้ำตาว่า พักอาศัยกับนายไพศาล แซ่อึ๊ง ลูกชายแท้ๆ อายุ 57 ปี ที่ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยนายไพศาล จะทำร้ายร่างกายและไล่ออกจากบ้าน ล่าสุดถูกขันตักน้ำตีศีรษะ แล้วใช้ผ้าขนหนูพันเป็นเกลียวฟาดกลางหลังอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว ต้องหนีออกจากบ้านมาขอความช่วยเหลือกับนายอำเภอกระทุ่มแบน

    นางเซี่ยงเค็ง กล่าวด้วยว่า มีลูกทั้งหมด 3 คน โดย 2 คนแต่งงานมีครอบครัว และย้ายไปอยู่ที่อื่น ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากสามีเสียชีวิต ถูกลูกชายแท้ ๆ ก็ทำร้ายร่างกาย ตลอดเวลา ประกอบกับมีโรคประจำตัวหลายโรค จึงทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง เจ้าหน้าที่จึงให้หญิงชรา วัย 79 ปี คนนี้ พักอยู่ที่พักสายตรวจชั่วคราว เพื่อรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ

    2009-07-02 02:14:34

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เอาพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัส ของในหลวงมา เพื่อเพื่อนๆ เลือกเอาไปปวาราณาช่วงเข้าพรรษากัน

    คุณธรรม 4 ประการ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ประกอบด้วย

    ประการ แรก คือ การรักษาความสัจ ความจริงใจต่อตัวเอง รู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมืองประพฤติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และเป็น ธรรม

    ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจตนเอง ฝึกใจตนเอง ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัจ ความดี

    ประการที่สาม คือ การอดทน อดกลั้น และอดออม ไม่ประพฤติล่วงความสัจสุจริต ไม่ว่าจะด้วยเหตุประการใด

    ประการที่สี่ คือ การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต

    คุณธรรม 4 ประการนี้ ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝังและบำรุงให้เจริญงอกงามขึ้นโดยทั่วกันแล้ว จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุข ความร่มเย็น และมีโอกาสที่จะ

    ปรับปรุงพัฒนาให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไปได้ดังประสงค์


    พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ------------------------------------------------------------------------
    " การมีเสรีภาพนั้นเป็นของดีอย่างยิ่ง

    แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบมิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน

    ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปรกติสุขของส่วนรวมด้วย

    มิฉะนั้น จะทำให้มีแต่ความยุ่งยาก จะทำให้สังคมและชาติประเทศต้องแตกสลายจนสิ้นเชิง"



    พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    ------------------------------------------------------------------------
    " คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี

    อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้

    เรา ทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป"




    (พระราชดำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.2521


    ------------------------------------------------------------------------

    " ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน

    อัน เป็นที่เกิดที่อาศัย ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษา ประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป "




    (พระบรมราโชวาท ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวนสนาม ของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต 3 ธ.ค.2529)


    ------------------------------------------------------------------------


    " บรรพชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

    สามัคคี พร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตย และมีความสุขความสมบูรณ์ทุกอย่างมาจนกระทั่งทุกวันนี้ "




    (พระบรมราโชวาท ในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ 3 ธ.ค.2522 ณ ลานพระราชวังดุสิต)


    ------------------------------------------------------------------------

    " ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดี และเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอกจากคนไทย

    เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใด คนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทย เสมอ "



    (พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น 27 ก.พ. 2537)


    ------------------------------------------------------------------------

    " การดำเนินชีวิตโดยใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัวและหลักศีลธรรมประกอบด้วย

    ผู้ที่มีความรู้ดี แต่ขาดความยั้งคิด นำความรู้ไปใช้ในทางมิชอบก็เท่ากับเป็นบุคคลที่เป็นภัยแก่สังคมของมนุษย์ "



    (พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 18 ก.ย.2504)


    ------------------------------------------------------------------------

    " ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา

    และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้ ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย

    และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้ "



    (พระ ราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน1 ก.ย.2526)


    ------------------------------------------------------------------------

    " การจะพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างให้เจริญนั้นจะต้องสร้างและเสริมขึ้นจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนทั้งสิ้น

    ถ้าพื้นฐานไม่ดีหรือคลอนแคลนบกพร่องแล้ว ที่จะเพิ่มเติมเสริมต่อให้เจริญขึ้นไปอีกนั้น ยากนักที่จะทำได้

    จึงควรจะเข้าใจให้แจ้งชัดว่า นอกจากจะมุ่งสร้างความเจริญแล้ว ยังต้องพยายามรักษาพื้นฐานให้มั่นคง ไม่บกพร่อง พร้อมๆกันไปด้วย "



    (พระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาฯ 10 ก.ค.2523)


    ------------------------------------------------------------------------
    " คุณธรรมข้อหนึ่งที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ การให้

    การให้นี้ไม่ว่าจะให้สิ่งใด แก่ผู้ใด โดยสถานใดก็ตาม เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง

    เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญระหว่างบุคคลกับบุคคล และให้สังคมมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม "


    (พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค.2545)


    ------------------------------------------------------------------------

    " การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า

    การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย "




    (พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค.2502)


    <hr class="hrcolor" size="1" width="100%"> " วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและประชาชนโดยทั่วไป มีความเปลี่ยนแปลงมาตลอดเนื่องจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ของโลก

    ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้น ได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นอยู่ โดยประหยัดเพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวหน้าต่อไปได้โดยสวัสดี






    (พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 31 ธ.ค.2521)
    <table style="table-layout: fixed;" width="100%" border="0"> <tbody><tr> <td colspan="2" class="smalltext" width="100%">
    </td> </tr><tr> <td class="smalltext" id="modified_1663" valign="bottom">
    </td></tr></tbody> </table>
    ------------------------------------------------------------------------

    " ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึง ความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม

    ทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น "



    (พระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกทรงครองราชย์ครบ 50 ปี)
    <table style="table-layout: fixed;" width="100%" border="0"> <tbody><tr> <td colspan="2" class="smalltext" width="100%">
    </td> </tr><tr> <td class="smalltext" id="modified_1664" valign="bottom">
    </td> <td class="smalltext" valign="bottom" align="right">
    </td></tr></tbody> </table> เรา-รักใน-หลวง:ประมวลพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
     
  16. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ญี่ปุ่นพบผู้ป่วยหวัดมรณะดื้อยารายที่ 2 ของโลก-อังกฤษรับยอดติดเชื้ออาจถึงแสนคนต่อวัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กรกฎาคม 2552 03:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    พนักงานร้านขายยาในอาร์เจนตินา ต้องสวมหน้ากากป้องกันหวัดพันธุ์ใหม่ขณะที่มันลุกลามไปทั่วโลก โดยอังกฤษคาดอาจพบผู้ติดเชื้อกว่าแสนคนต่อวัน ส่วนญี่ปุ่นพบผู้ป่วยดื้อยาทามิฟลูรายแรกของประเทศ

    เอเอฟพี/เอเจนซี - กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี(2) พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ดื้อยาทามิฟลู เป็นรายแรกของประเทศและรายที่ 2 ของโลก ขณะที่อังกฤษรับอาจมีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะนี้มากกว่า 1 แสนคนต่อวันในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ตามทิศทางการแพร่ระบาด ณ เวลานี้

    อาการดื้อยาถูกพบในคนไข้รายหนึ่งที่ได้รับยาทามิฟลูตั้งแต่แรกที่ตรวจวินิจฉัยโรคพบว่าติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของรัฐบาลแรงงาน สวัสดิการสังคมและสาธารณสุขเมื่อวันพฤหัสบดี(2)

    รายงานข่าวระบุต่อว่า ผู้ป่วย -- เป็นผู้หญิงรายหนึ่งที่อยู่ในอำเภอโอซากา -- อาการดีขึ้นเรื่อยๆหลังจากแพทย์เปลี่ยนไปให้ยารีเลนซา ยาต้านไข้หวัดอีกตัวยาหนึ่ง

    ก่อนหน้านี้ทางการเดนมาร์ก แถลงในช่วงต้นสัปดาห์ว่า พวกเขาพบผู้ติดเชื้อหวัดใหญ่ดื้อยาทามิฟลูเป็นรายแรกของโลก โดยคนไข้หญิงรายนี้ได้รับยาทามิฟลู เพื่อรักษาแต่เนิ่นๆ ทว่าอาการกลับดื้อยาทำให้แพทย์ต้องให้ยารีเลนซาและยาตัวนี้ประสบความสำเร็จในการรักษาเธอ

    โฆษกของบริษัทโรช ผู้ผลิตยาต้านไวรัสทามิฟลู บอกว่า ได้รับแจ้งข่าวดังกล่าวแล้ว และยืนยันว่ากรณีดื้อยาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นอัตราที่เกิดขึ้นได้ 0.4% เท่านั้น ไม่ได้แสดงว่ายาทามิฟลูมีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสลดลง

    สำหรับตัวเลขล่าสุดขององค์การอนามัยโลกนั้น ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 แล้วถึง 1,266 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต

    ขณะเดียวกันที่ลอนดอน รัฐบาลออกมายอมรับเมื่อวันพฤหัสบดี(2) ว่าอังกฤษอาจพบผู้ติดเชื้อหวัดมรณะนี้ 100,000 คนต่อวันในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม แต่ก็ย้ำว่าไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด

    แอนดี เบิร์นแฮม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากแนวโน้มผู้ติดเชื้อในอังกฤษยังคงเป็นไปตามมิศทางปัจจุบัน ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 เพิ่มเป็นสองเท่าในแต่ละสัปดาห์และเวลานี้มีผู้ติดเชื้อเกือบ 7,500 รายแล้ว

    "ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุกสัปดาห์ และตามทิศทางแบบนี้เราอาจมีผู้ติดเชื้อกว่า 100,000 คนในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม แต่ผมย้ำว่ามันเป็นเพียงการคำนวณล่วงหน้าเท่านั้น" เบิร์นแฮม บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงได้และแน่นอนเราต้องมีแผนสำหรับกรณีที่ยุ่งยากกว่าที่เป็นอยู่"

    ด้วยตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นบีบให้กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษละทิ้งนโยบายพยายามยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อมาเป็นพุ่งเป้าให้รักษาผู้ติดเชื้อด้วยยาต่อต้านไวรัส โดยจะให้ยาแก่ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอันดับแรก

    ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขององค์การอนามัยโลกอยู่ที่ 79,339 รายและมีผู้เสียชีวิต 332 คน

    รายงานยังระบุว่าพบเชื้อแพร่ระบาดในดินแดนต่างๆ ทั่วโลก123 แห่ง แบ่งเป็นประเทศเอกราช 108 แห่งกับเขตปกครองพิเศษอีก 15 แห่ง โดยล่าสุดเกาะกวมซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิกพบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่เดินทางกลับจากมลรัฐเทกซัส และในยูกันดา ก็พบผู้ติดเชื้อรายแรกเช่นกัน โดยเป็นชายชาวอังกฤษวัย 40 ปี ที่เดินทางเข้าประเทศเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9520000075199
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เผยผลสอบเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ไม่ได้ระเบิดกลางอากาศก่อนตก



    ฝรั่งเศส 3 ก.ค. - รายงานผลการสอบสวนในเบื้องต้นชี้ว่า เครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ที่ประสบอุบัติตกในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อต้นเดือนก่อน ไม่ได้ระเบิดกลางอากาศ

    เจ้าหน้าที่สอบสวนของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า จากหลักฐานซากเครื่องบินที่พบบ่งชี้ว่า เครื่องบินแอร์บัส เอ 330 มรณะลำนี้ ตกลงในแนวดิ่งด้วยความเร็วสูง ก่อนจะกระแทกกับผิวน้ำแตกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมากจนผู้โดยสารไม่มีเวลาตั้งตัวทัน โดยเห็นได้จากเสื้อชูชีพที่ไม่มีร่องรอยของการพองลม นอกจากนี้ กว่าระบบบนเครื่องบินจะส่งข้อความแจ้งเหตุออกมา ก็ผ่านไปแล้วกว่า 6 ชั่วโมง และนักบินได้พยายามติดต่อกับหอควบคุมการบินในกรุงดาการ์ ของเซเนกัล ทางดาวเทียมถึง 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ จนถึงตอนนี้สาเหตุของอุบัติเหตุยังคงเป็นปริศนา

    ขณะที่ทางฝรั่งเศส ระบุว่า บราซิลยังไม่ได้มอบรายงานการชันสูตรศพผู้เคราะห์ร้ายให้ ซึ่งอาจเป็นเบาะแสที่เป็นประโยชน์ในการสอบสวน.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 11:08:06

    เกาหลีเหนือเตรียมทดลองจรวดพิสัยปานกลาง



    โซล 3 ก.ค.-หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ ของเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีเหนืออาจทดลองจรวดพิสัยปานกลางหรือจรวดพิสัยใกล้เพิ่มเติมจากที่ทดลองไปแล้ว 4 ลูก เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.)

    การทดลองจรวดของเกาหลีเหนือได้เพิ่มความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีและภูมิภาคใกล้เคียง นายไบรอัน วิทแมน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่า พฤติกรรมของเกาหลีเหนือยังคงเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ เชื่อว่า เกาหลีเหนือจะต้องทดลองจรวดเพิ่มขึ้นอีก เพื่อแสดงแสนยานุภาพทางทหาร จึงต้องติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด

    ทั้งนี้ เกาหลีเหนือมักทดลองจรวดพิสัยใกล้ในช่วงเวลาที่กำลังมีความบาดหมางทางการทูต ซึ่งการทดลองจรวดพิสัยใกล้ 4 ลูกเมื่อวานนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นายฟิลิป โกลด์เบิร์ก ทูตสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ประสานงานการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ เดินทางเยือนจีนเพื่อขอความช่วยเหลือดำเนินมาตรการที่เข้มงวดขึ้นต่อเกาหลีเหนือ ในฐานะที่จีนมีความสัมพันธ์และเป็นหุ้นส่วนการค้ากับเกาหลีเหนือมาอย่างยาวนาน .-สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 10:10:30

    สหรัฐระบุการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการยั่วยุครั้งล่าสุด



    วอชิงตัน 3 ก.ค.-ทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า การยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือเมื่อวานนี้ นับเป็นท่าทียั่วยุครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ย้ำมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศที่มีต่อเกาหลีเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว และหวังว่าเกาหลีเหนือจะยอมทำตามแรงกดดัน

    นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า สหรัฐไม่แปลกใจที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูกเมื่อวานนี้ หลังจากที่เคยประกาศไว้แล้ว และถือว่าเกาหลีเหนือยังคงแสดงท่าทีท้าทายตลอดมา อย่างไรก็ตาม นายกิบส์ กล่าวว่า เกาหลีเหนือจะเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่มีต่อเกาหลีเหนือหลังจากทดลองอาวุธนิวเคลียร์รอบสองไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2552

    โดยเป็นมาตรการเข้มงวดในทุกด้านทั้งการตรวจสอบการขนส่งทางอากาศ ทางทะเล และทางบกที่เข้า-ออกเกาหลีเหนือ รวมถึงการห้ามขนส่งอาวุธด้วย ซึ่งเกาหลีเหนือต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน เนื่องจากครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากรัสเซียและจีน ที่เคยคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือมาก่อน.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 07:38:43

    เกาหลีเหนือจะขาดแคลนอาหาร 840,000 ตันในปีนี้



    โซล 2 ก.ค. - กระทรวงยุทธศาสตร์และการเงิน และสถาบันการพัฒนาเกาหลี คาดการณ์ว่า เกาหลีเหนือจะขาดแคลนอาหารในปีนี้ 840,000 ตัน

    ทั้งนี้ ได้มีการประเมินว่า ปริมาณธัญพืชของเกาหลีเหนือในปีนี้มีราว 4.29 ล้านตัน แต่ความต้องการขั้นต่ำ คือ 5.13 ล้านตัน เพื่อให้เพียงพอเลี้ยงประชากร 24 ล้านคน การประเมินครั้งนี้ได้อ้างอิงข้อมูลจากโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ ระบุว่า เกาหลีเหนือสามารถผลิตธัญพืชได้เอง 3.34 ล้านตัน นำเข้าจากต่างประเทศ 500,000 ตัน และได้รับความช่วยเหลือ 450,000 ตัน

    ฐานการคำนวณเกิดจากสมมติฐานว่า ชาวเกาหลีเหนือบริโภคเฉลี่ยวันละ 1,600 แคลอรี หรือเพียง 75% ของค่าเฉลี่ยที่คนปกติบริโภคในแต่ละวันตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ซึ่งถ้ารัฐบาลเกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธความช่วยเหลือธัญพืช 330,000 ตัน จากสหรัฐ ก็จะส่งผลให้เกาหลีเหนือขาดแคลนอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 1.17 ล้านตัน ในปีนี้

    โครงการอาหารโลก เผยวานนี้ว่า ชาวเกาหลีเหนือโดยเฉพาะเด็กเผชิญกับการขาดแคลนอาหารถึงขั้นวิกฤติ เนื่องจากการบริจาคจากต่างประเทศหดหาย หลังจากเกาหลีเหนือท้าทายประชาคมโลกด้วยการทดลองระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2 ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประเมินว่า มีชาวเกาหลีเหนือเกือบ 9 ล้านคน หรือกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ ต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร. - สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 14:47:03

    ชี้สถานการณ์ในไนเจอร์อยู่ในภาวะอันตราย



    ดาการ์ 2 ก.ค. - นายแบร์นาร์ด คุชแน รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า วิกฤติการเมืองในไนเจอร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นกำลังอยู่ในภาวะอันตราย โดยประธานาธิบดีประกาศยุบสภา และศาลรัฐธรรมนูญซึ่งคัดค้านแผนที่เขาจะยกเลิกการจำกัดวาระในการดำรงตำแหน่ง

    นายคุชแน กล่าวหลังเดินทางถึงเซเนกัลวานนี้ว่า สถานการณ์ในไนเจอร์กำลังอันตราย เนื่องจาก การเรียกร้องหลายประการของประธานาธิบดี ท่าทีของฝ่ายค้าน ปัญหาความแตกแยก รวมทั้งความปรารถนาของประธานาธิบดีที่ต้องการอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้จะดำรงตำแหน่งมาแล้วถึง 2 สมัยตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งฝรั่งเศส ยืนกรานเหมือนประเทศอื่นในแอฟริกาที่ต่างเห็นว่า เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเคารพและกลับไปปฏิบัติตามระเบียบแนวทางประชาธิปไตย

    ประธานาธิบดีมามาดู ตันจา ประกาศยุบสภาและศาลรัฐธรรมนูญ ที่คัดค้านแผนการของเขาที่จะจัดการลงประชามติให้เขาสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 3 หลังกฎหมายกำหนดให้เขาหมดวาระลงในเดือนธันวาคม นอกจากนี้เขายังอ้างใช้อำนาจในภาวะฉุกเฉิน โดยระบุว่า มีความจำเป็นในการปกป้องเอกราชของประเทศไนเจอร์ -สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 11:17:14

    ออสเตรเลียวอนอย่าตื่นตระหนกหลังพบเด็กเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009



    เมลเบิร์น 2 ก.ค. – ทางการออสเตรเลียวอนบรรดาผู้ปกครองไม่ให้ตื่นตระหนกต่อการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หลังจากพบเด็กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นรายแรก

    นายจอห์น บรัมบี้ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียระบุว่า การเสียชีวิตของเด็กวัย 3 ขวบ จากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจ แต่ก็ย้ำว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อผู้ป่วยทุกราย ดังนั้น จึงไม่ควรตื่นตระหนก ตำรวจและเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพกำลังสอบสวนการเสียชีวิตของเด็กชายดังกล่าวที่มีรายงานว่าเสียชีวิตในบ้านที่นครเมลเบิร์น เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา นับเป็นเหยื่อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายที่ 8 ใน

    ออสเตรเลีย ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิกถึง 4,370 คน
    ด้านผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลเด็กเวสต์มีด ในนครซิดนีย์ กล่าวว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อาจคร่าชีวิตเด็กราว 10-12 คน ในอีก 12 เดือนข้างหน้า มากกว่าไข้หวัดใหญ่ธรรมดาถึงสองเท่า โดยเหยื่ออาจไม่จำเป็นจะต้องเป็นเด็กที่มีประวัติการป่วยอยู่ก่อนแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรียได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองเฝ้าสังเกตบุตรหลาน และควรปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยพื้นฐาน. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-02 10:58:42

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    ลอกจาก พันทิพ ดอท คอม :z17 NASA ตอบ

    <!--WapAllow0=Yes--><!--pda content="begin"--><BIG><BIG><!--Topic-->ดาวนิบิรุ เรื่องโม้สุดขั้วโลก <!--InformVote=0--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[0], 0);</SCRIPT> </BIG></BIG>

    <!--MsgIDBody=0-->ไปที่ nasa.gov กันเลยดีกว่า คอลัมน์นาซาตอบคำถาม มีหมายเหตุด้านบนว่า ทางนาซาได้รับคำถามเกี่ยวกับนิบิรุมาเป็นพันๆ ครั้ง และได้ตอบไปไม่ต่ำกว่า 200 ครั้งแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามส่งเข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้นกรุณาอ่าน SUMMARY ก่อนค่อยถามนะจ๊ะ (นักวิทยาศาสตร์เบื่อจะตอบแล้ว)

    หน้า summary คือที่นี่ค่ะ Nibiru and Doomsday 2012: Questions and Answers � Ask an Astrobiologist � NASA Astrobiology
    ผู้เขียนคือ David Morrison, NAI Senior Scientist เพิ่งเขียนตอบครั้งล่าสุดเมื่อ 1 มิถุนายน 2009 ที่ผ่านมานี้เอง

    ในหน้าเว็บดังกล่าวมี 20 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับนิบิรุ ผู้สนใจเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ ขอสรุปแบบย่อๆ เอาไว้ดังนี้

    1. ข่าวลือต่างๆ นานาเกี่ยวกับดาวนิบิรุชนโลกที่ปรากฏในอินเตอร์เน็ต เป็นข่าวลวงทั้งหมด (Hoax)

    2. Nibiru คือชื่อทางโหราศาสตร์ของดาวพฤหัสบดีในวัฒนธรรมบาบิโลน ไม่ใช่ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของดาวเคราะห์ดวงใหม่แต่อย่างใด (ส่วนที่อ้างว่าเป็นชื่อของทางสุเมเรียน สืบเนื่องมาจากนวนิยายของ Zecharia Sitchin ที่เรียก Planet ดวงที่ 12 ว่า นิบิรุ – เรียกว่าเป็น Planet เพราะในวัฒนธรรมโบราณนอกจากดาวเคราะห์ทั้ง 9 แล้ว จะนับรวมดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็น Planet ด้วย)

    3. หอดูดาวที่ขั้วโลกใต้ ไม่ใช่หอดูดาวของนาซา แต่เป็นของ NSF เป็นกล้องโทรทรรศน์วิทยุ (radio telescope) สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ในช่วงคลื่นอินฟราเรด และวิทยุคลื่นสั้น ผลจากการสังเกตการณ์ไม่ใช่รูปภาพ ดังนั้นภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นภาพของนิบิรุที่มองเห็นแม้ในเวลากลางวัน จึงไม่จริง

    4. คำว่า Planet X เป็นคำที่นักดาราศาสตร์ใช้เรียกดาวเคราะห์ลึกลับที่ยังค้นไม่พบแต่จากผลการ คำนวณเชื่อว่าน่าจะส่งอิทธิพลต่อวงโคจรของดาวเคราะห์ที่รู้จักแล้ว เมื่อมีการค้นพบดาวเคราะห์ ก็จะตั้งชื่อสามัญให้ ดังเช่น พลูโต และอีรีส ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยถูกเรียกว่า Planet X มาก่อน แต่ ดาวเคราะห์แคระที่ค้นพบอยู่ในเขตรอบนอกของระบบสุริยะ ไม่มีดวงใดที่มีวงโคจรเข้ามาถึงระบบสุริยะชั้นในเลย จึงไม่มีทางจะมาทับซ้อนกับวงโคจรของโลกได้

    ในหน้า Summary ดังกล่าวยังมีการยืนยันถึงเรื่อง “โลกพลิกกลับด้าน” อีกครั้งด้วยว่า ไม่เป็นความจริง และว่าการกุข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับ “วันพิพากษา” เหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้หวาดกลัวต้องเสียเงินเสียทองไปในกรณีต่างๆ กัน ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณและตรวจสอบความเป็นจริงกันก่อนจะเชื่ออะไร

    น่าสงสารคุณเดวิดจริงๆ ดูท่าจะต้องเขียนตอบไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว เพราะตอบด้วยความเหนื่อยใจอย่างมาก เอ้า! ก็ช่วยกันประกาศข้อเท็จจริงต่อไปก็แล้วกัน ข่าวลือน่ะแพร่ง่าย เชื่อง่าย แต่ความจริงมักไม่ค่อยมีใครเชื่อ แปลกแท้ๆ <!--MsgFile=0-->
    จากคุณ : <!--MsgFrom=0-->iwc touch - [ <!--MsgTime=0-->3 ก.ค. 52 12:17:16 <!--MsgIP=0-->]
    [FONT=Tahoma,Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif][/FONT]
    <!--EcardSend=0--><!--pda content="end"--><!--Begin Console-->
     
  19. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จีนตอนใต้อ่วมน้ำท่วมดินถล่ม



    จีน 3 ก.ค. - พายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักและแผ่นดินถล่มในหลายมณฑลทางตอนใต้ของจีน

    พายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักติดต่อกันร่วม 3 วัน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายต่าง ๆ ในมณฑลหูหนาน เพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับอันตราย ชาวบ้านกว่า 11,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ที่มณฑลเจียงซีและมณฑลอันฮุย ถนนหนทางและพื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้น้ำ น้ำในเขื่อนเริ่มทะลักออกมา ความรุนแรงของพายุฝนยังส่งผลให้การจราจรตามเมืองต่าง ๆ ทางตอนใต้ของจีนเป็นอัมพาต ที่มณฑลยูนนาน มีรายงานว่าเกิดโคลนถล่มในหลายพื้นที่ ปิดกั้นเส้นทางคมนาคม พายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาในช่วงฤดูมรสุมของปีนี้คร่าชีวิตผู้คนในจีนไปแล้ว 95 คน สูญหายอีก 21 คน. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 15:31:20

    จีนระบุเหตุเพลิงไหม้รถบัสเป็นการจงใจก่อเหตุ



    ปักกิ่ง 3 ก.ค. - หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี ของทางการจีน รายงานว่า รถโดยสารที่เกิดเพลิงไหม้ มีผู้เสียชีวิต 27 คน และบาดเจ็บ 70 คน เป็นการจงใจก่อเหตุโดยชายคนหนึ่งที่ต้องการฆ่าตัวตาย

    รถโดยสารปรับอากาศเกิดไฟลุกไหม้ช่วงเวลาเร่งด่วนในตอนเช้าที่เมืองเฉิงตูและเสียหายยับเยินภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ผู้บาดเจ็บอีกกว่า 70 คน บางส่วนอาการสาหัส ตำรวจกล่าวว่า นายจาง หยุนเหลียง วัย 62 ปี นำถังใส่น้ำมันขึ้นมาบนรถและจุดไฟเผาจนตัวเองตาย สื่อระบุว่านายจาง ชายตกงานขู่ฆ่าตัวตายเนื่องจากต้องพึ่งพาเงินเลี้ยงดูจากลูกสาว และไม่ทราบว่าเหตุใดเขาจึงก่อเหตุในที่สาธารณะ .-สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 13:57:05

    WHO เตือนไม่สามารถยับยั้งการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้



    แคนคูน 3 ก.ค.- องค์การอนามัยโลกเปิดการประชุมในเมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโก ร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขจากทั่วโลก เพื่อหาทางรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แต่ยอมรับว่า การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยับยั้งได้

    แต่ถึงกระนั้น แพทย์หญิง มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกย้ำว่า การเลือกเม็กซิโกเป็นสถานที่จัดการประชุมก็แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในประเทศนี้ ทั้งที่เป็นจุดที่เกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อย่างหนัก แต่โดยรวมแล้วเม็กซิโกก็ยังปลอดภัย ทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่งดงาม เหมาะแก่การเดินทางมาเยือน

    และแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะทวีความรุนแรงขึ้น แต่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกระบุว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง และหลายคนก็หายป่วยเองภายใน 1 สัปดาห์ โดยไม่ต้องรับการรักษา ยกเว้นกลุ่มหญิงมีครรภ์และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งอาจมีความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดโรคแทรกซ้อนจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ดังนั้น จึงควรจับตาคนกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดถ้ารู้ว่าติดเชื้อ -สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 15:50:13

    WHO เร่งหาทางผลิตวัคซีนหวัด 2009 เพิ่ม



    เม็กซิโก 3 ก.ค. - องค์การอนามัยโลก หาทางผลิตวัคซีนต้านไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่ม เพื่อแจกจ่ายให้กับประเทศกำลังพัฒนา

    นางมากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เปิดเผยในระหว่างการประชุมที่เมืองแคนคูนของเม็กซิโก ว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังคงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขในระดับโลก โดยในขณะนี้มีบริษัทผู้ผลิตวัคซีน 2 แห่ง ที่รับปากจะผลิตยาให้กับองค์การอนามัยโลก จำนวนทั้งสิ้น 150 ล้านโดส ซึ่งวัคซีนเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายไปยังประเทศกำลังพัฒนา

    อย่างไรก็ดี วัคซีนจำนวนดังกล่าวยังไม่เพียงพอ และองค์การอนามัยโลกกำลังหาทางเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนให้มากขึ้นเพื่อป้อนให้กับประเทศกำลังพัฒนา. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 16:11:47

    เกาหลีใต้จะซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้ประชากร 13 ล้านคน



    โซล 3 ก.ค.- กระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า จะใช้เงิน 152 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับประชากร 13 ล้านคน หรือกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ

    แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข ระบุเป้าหมายการใช้งบประมาณครั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสชนิดเอ H1 N1 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

    เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทแห่งหนึ่งของสหรัฐ ซึ่งได้รับสัญญาการพัฒนาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่โดยใช้เทคโนโลยีเซลล์แมลง ประกาศการผลิตวัคซีนชุดแรก ขณะที่นักวิจัยของเกาหลีใต้ ได้เริ่มพัฒนาวัคซีนต้นแบบในสัปดาห์นี้

    มีรายงานจากเกาหลีใต้ว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 238 คน แต่ยังไม่มีผู้ใดเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เกิดความวิตกว่าชาวเกาหลีที่ไปศึกษาในต่างประเทศจะนำเชื้อเข้ามาแพร่ในเกาหลีใต้เมื่อพวกเขาเดินทางกลับมาพักผ่อนช่วงฤดูร้อน เกาหลีใต้ได้สั่งปิดโรงเรียนประถมเป็นการชั่วคราวเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) หลังจากได้รับคำยืนยันว่านักเรียนคนหนึ่งติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่.-สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 15:23:30

    บรูไนพบผู้เสียชีวิตจากหวัดใหญ่ 2009 รายแรกของประเทศ



    บันดาร์เสรีเบกาวัน 3 ก.ค.- กระทรวงสาธารณสุขบรูไน ยืนยันพบผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รายแรกของประเทศ เป็นเด็กหญิงวัย 12 ปีที่ป่วยเป็นโรคตับอยู่ก่อนที่จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1

    กระทรวงสาธารณสุขบรูไน รายงานว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพียงคนเดียว จากผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ 93 คน โดยเด็กหญิงมีอาการเข้าขั้นวิกฤติตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. เนื่องจากมีอาการตับวาย ตับอักเสบ และปอดบวม ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่า เธอติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้อย่างไร และเชื่อกันว่า การติดเชื้อทำให้อาการเจ็บป่วยของเธอรุนแรงขึ้นจนเสียชีวิตลงในที่สุด. -สำนักข่าวไทย

    2009-07-03 14:54:25

    ที่มา http://news.mcot.net/international/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2231021", true); </SCRIPT>

    ไฉน ท่านอ้างอิงจากหนังสือ ใย ไม่เดินทาง มากราบ รอยพระพุทธบาทเกาะแก้วพิสดาร เล่า.......
    ประวัติรอยพระพุทธบาทที่ ๕
    ณ นัมทานที
    (เกาะแก้วพิสดาร จ.ภูเก็ต)






     

แชร์หน้านี้