ประเภทของพลังจิต
(ตามความเชื่อของชาวต่างชาติ แบ่งแบบชาวต่างชาติ)
พลังจิตที่มักได้ยินบ่อยๆ
Telepathy อ่านความคิดและส่งความคิดถึงคนอื่นได้ เช่นการอ่านใจและการเห็นคำพูดในความคิดของผู้อื่น และอาจมีการส่งคำพูดจากความคิดของตนเข้าไปในสมองผู้อื่นโดยตรง
Psychometry อ่านความทรงจำคนอื่นได้ หรือความทรงจำจากสิ่งของและสิ่งมีชีวิตอื่น โดยจะเห็นชัดจากความทรงจำที่ฝังแน่น มักอ่านจากการ แตะ สัมผัส เพ่งความรู้สึก สิ่งที่อ่านได้อาจมีทั้งภาพ เสียง หรือแรงของจิตสัมผัส
Clairvoyance ตาทิพย์ การมองเห็นเหนือประสาททั้งห้า เช่นการมองเห็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ที่ไม่เคยไปหรือไม่รู้จักมาก่อน เห็นสิ่งที่คนปกติไม่เห็นเช่นสิ่งของหรือสถานที่ที่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิดหรืออยู่ไกลมากๆ
Clairaudience หูทิพย์ ได้ยินในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน การได้ยินเสียงหรือคำเตือนในสมอง หรือการได้ยินจากภายนอก สามารถแยกเสียงต่างๆออกได้อย่างชัดเจน ได้ยินเสียงที่ไกลหรือเบามากๆ
Claiesentience,Intuition การรับรู้เหนือประสาททั้งห้าอย่างชัดเจน เช่นถ้าไปยืนอยู่ในที่ที่เป็นสนามรบเก่าจะรู้สึกอึดอัด หรือการรับรู้แบบเห็นเป็นสีในจิตใจ
Empathy การสัมผัสได้ถึงความต้องการกระทำของผู้อื่น เช่นการเข้าใจจิตใจของผู้อื่นหรือการรับรู้ถึงจิตสังหาร
Precognition การเห็นอนาคตที่ควรจะเป็นหรืออาจเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจเกิดการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ มีตั้งแต่เบาบางถึงแจ่มชัด เช่นการมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี
Psychokinesis,Telekinesis การยกหรือเคลื่อนย้ายวัตถุหรือทำสิ่งต่างๆโดยปราศจากเงื่อนไขทางฟิสิกส์ เช่นการงอช้อน การยกสิ่งของลอยในอากาศ
Levitation การลอยตัวในอากาศได้โดยปราศจากการช่วยเหลือทางฟิสิกส์
Teleportation การเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือตนเองจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยการแทนที่โดยฉับพลันเช่นการวาร์ป หรือการสลับสิ่งของโดยไม่แตะต้องหรือเคลื่อนย้ายด้วยวิธีทางฟิสิกส์
Time Traveller ผู้มีความสามารถเกี่ยวกับเวลา นักท่องเวลา มีความสามารถแตกต่างกันออกไป เช่นย้อนเวลา สามารถหนีจากปัจจุบันหรืออนาคตเพื่อไปแก้ไขเรื่องในอดีตได้ ลบเวลา สามารถลบช่วงเวลาส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกได้ นักข้ามเวลาสามารถเดินทางไปมาระหว่างมิติคู่ขนานของอดีต ปัจจุบัน อนาคตได้ หยุดเวลา สามารถเดินทางข้ามมิติของเวลาที่หยุดนิ่งได้ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดผลเสียต่อผู้ใช้ เช่นการหลงอยู่ในมิติเวลา หรือส่งผลต่ออายุขัยและร่างกายของผู้ใช้
Invisibility พลังในการล่องหนหายตัว สามารถหักเหแสงบิดเบือนการสะท้อนการมองเห็นหรือลบตัวตนและจิตของตนออกไปจากการสัมผัสของผู้อื่น
---------------------------------------------------------------------
พลังจิตอื่นๆ
Animal Telepathy การอ่านภาษาของสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น เป็นการคุยกันด้วยภาษาจิต
Chanelling การติดต่อกับสิ่งมีชีวิตหรือจิตเหนือธรรมชาติ เช่นวิญญาณ เทวดา หรือมนุษย์ต่างดาว
Automatic Writing สามารถเขียนบางอย่างที่ผิดไปจากปกติโดยไม่ต้องใช้การรับรู้ใดๆ เหมือนกับการถูกบางอย่างสิงที่มือไปชั่วขณะ
Aura Reading การมองเห็นออร่าหรือพลังชีวิต
Divination ผู้ทำนายอนาคต หยั่งรู้อนาคต
Astral Projection การถอดจิตและท่องไปตามที่ต่างๆที่ร่างการไม่สามารถไปได้
Bi-Location เหมือนกับการถอดจิต แต่สามารถสร้างร่างแยกของตนขึ้นมา โดยเป็นตัวเองอีกคนให้คนอื่นเห็นในคนละสถานที่กับที่ร่างกายจริงอยู่
Mind Over Body ผู้ที่สามารถปลดปล่อยร่างกายให้ปราศจากความต้องการพื้นฐานเช่นการดื่มน้ำ กินอาหาร นอนหลับ แต่ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้เหนือกว่าคนปกติ หรือมีสภาวะร่างกายเหมือนการจำศีล เช่นโยคี
Mind Control ควบคุมจิตใจผู้อื่น สร้างภาพลวงตาขึ้นเพื่อหลอกการเห็น หรือการยิงภาพเข้าไปในสมองโดยตรง
Hypnotic Control การสะกดให้ผู้อื่นหลับด้วยพลังจิต
Mental Invisibility การซ่อนจิตของตนเองจากการรับรู้ของผู้อื่น
---------------------------------------------------------------------------
พลังจิตสายควบคุม
Echokinesis ความสามารถในการเลียนแบบการเคลื่อนไหวของผู้อื่นได้ไม่ผิดเพี้ยนจากการมองเห็น แม้แต่การเคลื่อนไหวเกินความสามารถของตนเอง
Photokinesis ควบคุมแสงและพลังงานที่เป็นไปตามกฏทางฟิสิกส์ แต่ใช้จิตควบคุม
Pyrokinesis การควบคุมไฟ จุดไฟ ควบคุมการเกิดไฟหรือทิศทางของไฟด้วยจิต
Aquakinesis,Hydrokinesis ควบคุมน้ำให้เกิดการเคลื่อนไหวและรูปร่าง รวมทั้งควบคุมมวลของน้ำได้ดั่งใจ
Cryokinesis ควบคุมความเย็น เปลี่ยนอุณหภูมิให้ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ทำให้เกิดผลึกบนน้ำหรือเลือกบนร่างกาย หรือการทำให้น้ำในอากาศเป็นผลึกได้ตามต้องการ
Thermokinesis ควบคุมอุณหภูมิความร้อนของสิ่งต่างๆได้ แต่ไม่สามารถควบคุมไฟได้
Aerokinesis ควบคุมเกี่ยวกับลม ก๊าซ และอากาศรอบตัว เรียกให้เกิดลมหรือเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและควบคุมสมบัติของก๊าซ ควบคุมความดันบรรยากาศรอบตัว
Geokinesis,Terrakinesis ควบคุมธาตุดินให้เกิดความแปรผันได้ดั่งใจ รวมไปถึงของแข็งชนิดต่างๆที่อยู่รวมกับธาตุดินด้วย
Electrokinesis ควบคุมประจุไฟฟ้าและสายฟ้าได้ดังใจ
Atmokinesis ควบคุมฟ้าฝน บรรยากาศ และลักษณะอากาศได้ เป็นความสามารถที่รวมระหว่างการคุมอุณหภูมิความร้อน อากาศ และสายฟ้า
Atmoskinesis ควบคุมธาตุหลักทั้งสี่ได้ คือดิน น้ำ ลม ไฟ อาจรวมถึงสายฟ้าด้วย
Biokinesis เหมือนกับการควบคุมธาตุทั้งสี่ แต่จะสามารถคุมได้ถึงระดับการเจริญเติบโตทาง DNA ได้ เช่นเปลี่ยนแปลงรูปแบบธาตุและ DNA ของตัวเองให้เกิดลักษณะพิเศษตามต้องการ
Gravitokinesis ควบคุมเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงได้ แต่ไม่สามารถเคลื่อนไหวไปในทิศทางอื่นได้นอกจากทิศแรงโน้มถ่วง
Magnokinesis ควบคุมแรงแม่เหล็กและสนามแม่เหล็กในบริเวณที่ต้องการ สามารถใช้ควบคุมโลหะให้เคลื่อนที่ได้ดั่งใจด้วย
Vitakinesis การรักษาตัวเองจากอาการบาดเจ็บ
Audiokinesis การควบคุมคลื่นเสียงหรือก่อกำเนิดเสียงด้วยจิต
Hemokinesis ควบคุมรูปแบบของเซลล์เม็ดเลือดได้ รวมทั้งการถ่ายเทเลือดด้วย คล้ายกับการควบคุมน้ำ
Particle Manipulation ควบคุมสิ่งต่างๆในระดับอะตอมหรือโมเลกุล หยุดอนุภาคเหล่านั้นหรือทำให้ระเบิดออกก็ได้
ประเภทของพลังจิต
ประเภทของพลังจิต
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mobilelizard, 10 มีนาคม 2013.
หน้า 1 ของ 2
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
อานุภาพกสิณ ๑๐
กสิณ ๑๐ ประการนี้ เป็นปัจจัยให้แสดงฤทธิ์ต่างๆ ตามนัยที่กล่าวมาแล้วในฉฬภิญโญ
เมื่อบำเพ็ญปฏิบัติในกสิณกองใดกองหนึ่งสำเร็จถึงจตุตถฌานแล้ว ก็ควรฝึกตามอำนาจที่กสิณ
กองนั้น ๆ มีอยู่ให้ชำนาญ ถ้าท่านปฏิบัติถึงฌาน ๔ แล้ว แต่มิได้ฝึกอธิษฐานต่าง ๆ ตามแบบ
ท่านว่าผู้นั้นยังไม่จัดว่าเป็นผู้เข้าถึงกสิณ อำนาจฤทธิ์ในกสิณต่างๆ มีดังนี้
ปฐวีกสิณ มีฤทธิ์ดังนี้ เช่น นิรมิตคน ๆ เดียวให้เป็นคนมากได้ ให้คนมากเป็นคน ๆ เดียว
ได้ ทำน้ำและอากาศให้แข็งได้
อาโปกสิณ สามารถนิรมิตของแข็งให้อ่อนได้ เช่น อธิษฐานสถานที่เป็นดินหรือหินที่
กันดารน้ำให้เกิดบ่อน้ำ อธิษฐานหินดินเหล็กให้อ่อน อธิษฐานในสถานที่ฝนแล้งให้เกิดฝนอย่างนี้
เป็นต้น
เตโชกสิณ อธิษฐานให้เกิดเป็นเพลิงเผาผลาญหรือให้เกิดแสงสว่างได้ ทำแสงสว่างให้
เกิดแก่จักษุญาณสามารถเห็นภาพต่าง ๆ ในที่ไกลได้คล้ายตาทิพย์ ทำให้เกิดความร้อนในทุก
สถานที่ได้
วาโยกสิณ อธิษฐานจิตให้ตัวลอยตามลม หรืออธิษฐานให้ตัวเบา เหาะไปในอากาศก็ได้
สถานที่ใดไม่มีลม อธิษฐานให้มีลมได้
นีลกสิณ สามารถทำให้เกิดสีเขียว หรือทำสถานที่สว่างให้มืดครึ้มได้
ปีตกสิณ สามารถนิรมิตสีเหลืองหรือสีทองให้เกิดได้
โลหิตกสิณ สามารถนิรมิตสีแดงให้เกิดได้ตามความประสงค์
โอทาตกสิณ สามารถนิรมิตสีขาวให้ปรากฏ และทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้ เป็น
กรรมฐานที่อำนวยประโยชน์ในทิพยจักษุญาณ เช่นเดียวกับเตโชกสิณ
อาโลกกสิณ นิรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสวได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็น
กรรมฐานสร้างทิพยจักษุญาณโดยตรง
อากาสกสิณ สามารถอธิษฐานจิตให้เห็นของที่ปกปิดไว้ได้ เหมือนของนั้นวางอยู่ในที่แจ้ง
สถานที่ใดเป็นที่อับด้วยอากาศ สามารถอธิษฐานให้เกิดความโปร่ง มีอากาศสมบูรณ์เพียงพอแก่
ความต้องการได้
วิธีอธิษฐานฤทธิ์
วิธีอธิษฐานจิตที่จะให้เกิดผลตามฤทธิ์ที่ต้องการ ท่านให้ทำดังต่อไปนี้ ท่านให้เข้าฌาน ๔
ก่อน แล้วออกจากฌาน ๔ แล้วอธิษฐานในสิ่งที่ตนต้องการจะให้เป็นอย่างนั้น แล้วกลับเข้าฌาน ๔ อีก
ออกจากฌาน ๔ แล้วอธิษฐานจิตทับลงไปอีกครั้ง สิ่งที่ต้องการจะปรากฏสมความปรารถนา
http://www.palungjit.org/smati/k40/kasin10.htm
ใครสนใจเรื่องพลังจิตก็ลองไปศึกษาในหมวด อภิญญา-สมาธิ ดูซิครับ :D
อภิญญา - สมาธิ - PaLungJit.com -
หากนำมาเพื่อขจัดสิ้นกิเลสตัณหา จนเกิดปัญญา รู้แจ้งในธรรม ย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่งครับ
อนุโมทนาในธรรมทาน และ ขอให้ท่านผู้เจริญทั้งหลายจงเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป... สาธุครับ
คัดลอกเนื้อหาบางส่วน
การใช้ฤทธิ์ใช้อภิญญาสำคัญตรงที่ ต้องยอมรับกฏของกรรม
ตราบใดที่จิตยังไม่ยอมรับกฏของกรรมจริง ๆ จะต้องไปฝืนนั้น
เราไม่สามารถใช้ได้เต็มที่หรอก
บางคนก็แปลกใจ ขนาดฝึกกสิณมาแท้ ๆ แต่ใช้ได้นิดเดียว
คือ ถ้ายังไม่ยอมรับกฏของกรรมจริง ๆ ใช้ยาก
โดยเฉพาะพวกฤทธิ์พวกอภิญญาสำหรับนักปฎิบัติแล้ว
ท่านให้ใช้ส่วนของธรรมะเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับตัวเอง
ตัวเองต้องยอมรับกฏของกรรมเป็นปกติ จึงสามารถเข้าถึงมรรคผลได้
พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกรกฏาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔
-
โอ้โหแฮะ
นี่มันมหัศจรรย์แห่งมนุษย์ชัดๆ -
เหมาหมดทุกแบบ
-
อยากไดอาโปกสิณจะได้ไปช่วยทวีปที่แห้งแล้งและประเทศได้ครับ
-
เป็นการฝึกจิตในระดับในโลกีย์ฌานเท่านั้น
แม้จะฝึกถึงขั้นไหนก็ยังวนเวียนอยู่ในกองกิเลส
เมื่อใดก็ตามเราไม่รู้ตัว กามกิเลสก่อตัวมากเข้า ก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสมารอยู่ดี
ตัวอย่างมีให้เห็นแนวนี้มากมายในอดีตเช่นการฝึกของฤาษีแม้กระทั่งโยคีในอินเดียในยุคปัจจุบัน
พลังจิตที่กล่าวมาข้างต้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นไปเพื่อควบคุมคนอื่น พยายามเปลี่ยนสภาพภายนอก เปลียนคนอื่น มากกว่ากลับมาเปลี่ยนตนเอง รู้เท่าทันตนเอง
พวกนี้ฝึกมามากๆ มีพลังมากจะเกิดมานะว่าตนเหนือกว่าคนอื่น ทำให้ยิ่งไกลห่างออกไปจากการรู้ตนเอง ที่พระพุทธเจ้าเน้นนักหนาว่าต้องทำลายสักกายะทิฎฐิ อหังการ มมังการในตนให้ได้
จิตที่ที่ต้องฝึกให้มากคือจิตใต้สำนึกที่ให้รู้เท่าทันกิเลสตนเองต่างหาก -
แม่นแล้ว
-
-
ตอนนี้คงเป็นได้แค่ กระสือ....(tm-love)(tm-love)(tm-love)(tm-love)
-
จะมีสักกี่คนในฝั่งตะวันออกที่รู้เรื่องนี้จริงๆเพียวๆโดยไม่อิงกับหลักศาสนา
บางสิ่งรอบตัวเราได้ถูกเวทย์มนต์พลังจิตสอดแทรกโดยที่ไม่รู้ตัว
เพียงแค่ว่าเราลืมและถูกสภาพแวดล้อมที่ปรุงแต่งบดบังเท่านั้นเอง
ทั้งอำนาจด้านต่างๆและทิฐิ ของคนบางพวกที่คอยครอบงำศาสตร์เหล่านี้อยู่และถูกปิดกั้น
ทั้งๆที่ทางฝั่งตะวันออกเป็นอะไรที่ละเอียดและดีมาก แต่ด้วยทิฐิ จึงทำให้ไม่ก้าวไปไหน
ไม่มีใครทราบว่ามีบุคคลเหล่านี้อยู่ในองค์กรใหญ่ๆต่างๆโดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจ
แต่บ้านเรากลายเป็นความงมงายทั้งนั้นเพราะ....... แม้แต่คอมที่เราใช้อยู่ก็เกิดมาจากสิ่งพวกนี้
ปัจจุบันคนเราได้ถูกปรุงแต่งขึ้นมาและยำจนกลายเป็นทิฐิบรรทัดฐานทางสังคมไปแล้ว
ผมเองได้รู้จักกับคนกลุ่มนี้โดยบังเอิญเมื่อได้พูดคุยกับคนเหล่านี้แล้วผมเองกลายเป็นไอ้โง่ไปเลย
เขามีแม้กระทั้งมหาลัยด้วยซ้ำแต่ด้วยบางอย่างจึงถูกให้ปกปิดไว้
ปล
ไม่ต้องมา pm มาถามผมนะครับ -
ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
-
-
ผมชอบแบบ วาร์ปได้ครับ
-
น่าสนใจครับ...อนุโมทนาสาธุ แต่ที่กล่าวมาก็มีในพระพุทธศาสนาด้วย แต่ในพระพุทธศาสนามีมากกว่านี้อีกครับ ยังแยกออกได้มากกว่าที่คุณกล่าวมาอีก และมีความสามารถที่เลิศกว่าอีก -
เสริมสักนิดนะครับ ความสามารถที่เลิศนะเป็นเฉพาะบางคนเท่านั้นไม่ใช่ทุกคนนะครับ ยกตัวอย่างเช่น พระอานนท์ พุทธอนุชา ท่่านสามารถแยกร่างกายออกเป็นสองร่างได้ เพื่อให้สองเมืองที่จะทำการรบกันเพื่อแย่งสังขารท่าน โดยให้สังขารของท่านไปคนละเมือง ยุติปัญหาการสู้รบไป เป็นต้น
-
ขออนุโมทนาครับ เป็นความรู้มากยิ่งครับ แต่สำหลับบางพวกที่ฝึกบ่อยๆ อาจทำใด้ทุก
รูปแบบเลยทีเดียวก็ใด้นะครับ แต่มันเป็นส่วนเสียของตัวเราเองมากกว่า จะเป็นผลดี
ยิ่งเรารู้มากก็ยิ่งดี แต่มากไปอาจทำลายตัวเองมากกว่า ครับ คัวผมเองก็มีเรื่องพวกนี้อยู่
ฝึกจนหลงสับสน จนหาทางแก้ไม่ใด้เลยครับ แล้วเราก็จะเหมือน เวียนว่ายตายเกิด
ไม่รู้จบ ใช้กรรมเท่าไร ก็ไม่หมด ครับ ที่สำคัญฝึกแล้ว ควรอยู่กลับตัวเอง ให้มากที่สุด
ไม่งั้นจะเป็นผลเสีย ต่อตัวเองมากถึงมาก เลยทีเดียว ครับ แล้วก็จะหาทาง กลับไม่ถูก
จนเราไม่กล้า จะทำอะไรเลย สักอย่าง พวกที่ทำใด้ มักจะรู้กลับ ตัวเองครับ
พวกที่ชอบ เรื่องแบบนี้ ก็ลองฝึกดูใด้ครับ แต่จำใว้อย่างเดียว ควรมีสติอยู่กลับตัวเอง
ตลอดแล้วเราจะ มีความสุขตลอดครับ -
makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
ชอบหลายอย่างค่ะ อ่านใจคน อ่านใจสัตว์เลี้ยง
ตาทิพย์ ติดต่อเทวดา ทำนายอนาตค หยั่งรู้ฟ้าดิน โว๊ว เราเป็นผู้วิเศษน่ะสิทีนี้ -
คนเฮาใหญ่แล้วบ่ถ้ามาสอนจิ๊ฮีตแมงจอนใฝ๋สอนมันเต้น..
ความหมายของภาษิตนี้คืออย่างไร!!ครับ? -
คนเราใหญ่แล้ว ไม่ต้องให้ใครสอน ความรู้ที่เรามี จะสอนเราเอง
ให้เป็นตัวเอง แหละมีแต่ความสุข
หน้า 1 ของ 2