หลักที่ควรรู้ของการทำทาน
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_93871 class=t_msgfont>ทานคือการให้ แบ่งออกเป็นหลายอย่างเช่น วัตถุทาน วิทยาทาน ธรรมทาน อภัยทาน
แต่ในที่นี้ผมจะกล่าวถึงการให้ทานประเภทวัตถุทาน เนื่องจากมีหลายท่านสอบถามผมมากเรื่องการทำทานนั้นทำอย่างไรเพื่อผลที่ดีและไม่เป้นการทำทานในทางที่ผิด
ความร่ำรวยความผาสุขนั้นมีผลมาจากกำลังของทานและการรักษาศีลเป้นหลัก
บางท่านทำทานมากแต่ศีลไม่ค่อยรักษา เลยทำให้ไม่เกิดความคล่องตัวของฐานะความเป็นอยู่ ดังนั้นทานและการรักษาศีลต้องประกอบกันถึงจะส่งผลให้เกิดความเจริญความคล่องตัวในเรื่องฐานะความเป็นอยู่
หลักที่สำคัญของการให้ทานคือ ต้องมีใจคิดเอ้อเฟื้อเผื่อแผ่ด้วยใจจริงไม่ใช่ทำแบบลงทุนทำแล้วหวังผลกำไรตอบแทนแบบมากๆ ถ้าทำทานโดยมีใจคิดแบบนี้ผลของการทำทานก็น้อย แทนที่จะทำทานเพื่อขจัดความโลภในตัวออกไปกลับเป็นการทำทานแล้วหวังผลเอาความโลภเข้าตัวเพิ่มมากขึ้นอีก อันนี้นับว่าเป็นการทำทานที่ไม่ถูกต้อง
ดังนั้นหลักของการทำทานที่ดีต้องประกอบด้วย
1 ตัดความโลภแบบหวังผลแบบเก็งกำไรออกไปก่อน ให้มีใจคิดทำทานด้วยใจเอื้อเฟื้อ ทำทานเพื่อตัดความตระหนี่ความโลภออกจากตัว
2 .ให้ด้วยใจที่ศรัทธา คือมีความคิดในใจว่าการให้ทานนั้นเป็นของดี เป็นสิ่งที่สร้างความสุขในปัจจุบันทั้งผู้ให้และผู้ได้รับ และผลของการให้จะเกิดสุขติดตามไปในอนาคต
3 .ให้ด้วยความเคารพ มีความรู้สึกว่าการทำทานนั้นเป็นของที่สูงและมีคุณค่าไม่ใช่ให้แบบเสียไม่ได้เช่นผลักไสสิ่งของให้หรือโยนให้แบบไม่ได้มีใจคิดว่าการให้ทานนั้นมีคุณค่า
4 ให้โดยกาลเวลา คือการให้ของที่เหมาะสมกับเหตุการณ์ในตอนนั้น เช่นเรารู้ว่าเขากำลังขาดอาหารแล้วเราก็รีบนำอาหารไปให้เขาในเวลาจำเป็นตามเหตุการณ์ที่มีความจำเป้นต้องใช้ในตอนนั้น ผลที่ให้ก้เกิดแสงสว่างของปิติบุญที่มากเพราะให้ของตามกาลเวลาที่เหมาะสม แล้วอานิสงฆ์ของการให้ของแบบตามกาลนี้จะส่งผลให้ในเวลาที่เรามีความจำเป็นหรือต้องการที่จะได้ในสิ่งต่างๆในเวลาที่เราต้องการเรามักจะได้ในสิ่งนั้นทันเหตุการณืพอดี
5 .ให้ด้วยใจที่อนุเคราะห์ คืออยากให้ด้วยใจจริงๆคิดช่วยเหลือจริงๆ
6 ให้โดยไม่กระทบตนเองหรือผู้อื่น ให้ด้วยการไม่ประชด ไม่แข่งขันชิงดีชิงเด่น
ไม่คิดเอาหน้าเกินใคร
เดี๋ยวมาต่อกันครับ</TD></TR></TBODY></TABLE>
(ปิดกระทู้)แจ้งข่าวอ.ต้น (คนวัด) เรื่อง พิธีขอขมากรรม,ระเบิดจิต,สักผงสีวลี,สักไก่แดง ประจำปี 2554
ในห้อง 'บริการรับดูดวง' ตั้งกระทู้โดย saipote, 27 มิถุนายน 2010.
หน้า 105 ของ 106
-
สรุปรายการพบปะสนทนาชมรมฯ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD id=postmessage_87038 class=t_msgfont>ผมขอสรุปรายปดาห็ที่การพบปะและสนทนาในกลุ่มฯ
ตามนี้ครับ ผมได้มาคิดแล้วว่า1อาทิตย์ผมจะเดินทางเข้ากทมเพื่อพบปะทุกอาทิตย์อาทิตย์ละ1วันโดยมีกำหนดการดังนี้ครับ
ในแต่ละเดือนเราจะจัดรายการสนทนาในกลุ่มดังนี้
อาทิตย์ที่1ของเดือนเราจะจัดบรรยายธรรมะเช่นแนวทางการพัฒนาการตรวจพลังงานในบ้านสถานที่อยู่ด้วยตัวท่านเองฯลฯ
สัปดาห์ที่สองของเดือน จะเป็นการเข้าพบพูดคุยปรึกษาเรื่องชีวิตในด้านต่างๆและหาทางแก้ไขตามหลักธรรมตามจริง
สัปดาห์ที่สามของเดือนจัดทำพิธีกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นการสักผงยาหรือพิธีกรรมทางด้านต่าง
สัปดาห็ที่4ของเดือนสอนกรรมฐานตามหมวดต่างๆในกรรมฐานทั้ง40กองตามจริตของแต่ละบุคคล
ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีรายการดังนี้ครับท่านใดเห็นสมควรตามนี้หรือมีอะไรชี้แจงเพิ่มเติมขอให้แจ้งให้ทราบด้วยนะครับ
ส่วนในเรื่องสถานที่ของพูดคุยและตกลงกันเป็นที่แน่ชัดกันก่อนว่าจะที่ไหนและกำหนดเวลาอย่างไรครับ
ขออนุโมทนาบุญ
อ.คนวัด</TD></TR></TBODY></TABLE> -
พิธีสักผงยาปฐมฯ
พิธีนี่เป็นการสักเพื่อชื่อเสียงความเจริญในหน้าที่การงาน ซึ่งอาจารย์จะทำให้ตามความต้องการในแต่ละบุคคล ที่ต้องการเน้นเรื่องชื่อเสียงฯเหมือนยาสุววรณกลับ เป็นผงยากลับดวง ตามอำนาจบุญ อาจารย์ไม่ค่อยทำให้ใคร หรือสักให้ใครมากนัก เพราะผสมผงยาค่อนข้างยุ่งยากนิดหน่อยแต่รีบนำมาแจ้งให้ทราบ เพราะเห็นว่าผงยามีไม่มาก (สำหรับผู้ที่ต้องการด้านชื่อเสียงและเมตตา)
ปล. การสักผงยาปฐมอาจารย์จะพิจารณาให้เป็นรายบุคคลเท่านั้นโดยพิจารณาจากพลังชีวิตในแต่ละคนในด้านชื่อเสียงว่ามีหรือไม่มี คนไหนมีก็สามารถสักได้ไม่สามารถสักได้ทุกคนค่ะ
-
พิธีครอบสิวลี
มีการสักผงสิวลี ป้อนยาสิวลี ครอบพระสิวลีฯลฯ จะจัดขึ้นใน วันที่ 3 เมษายน 2554 พิธีนี้จะรับจำนวนจำกัดเพียงไม่กี่ท่าน เพราะผงยามีน้อย และจะทำพิธีนี้เพียงครั้งเดียว ในแต่ละปีจัดทำครบตามวิชาปัญจมหาเศรษฐี
รายละเอียดการทำพิธีสิวลี
1.อ่านโองการเชิญบรมครู
2.สักผงยาสิวลี
3 .ป้อนผงยาสิวลีที่ทำจากข้าวเหนียวดำผสมผงยาต่างๆที่ให้ผลทางการเงินโดยตรง
4 .ลงยันต์สิวลีที่ฝ่ามือ
5 .เจิมอุณาโลมนะสิวลีที่หน้าผาก
เป็นอันเสร็จพิธี (พิธีนี้จัดในวันพระนะครับเป็นเคล็ดเฉพาะทาง)
จึงเรียนมาให้ทราบ
อ.คนวัด
------------------------------------------------------------------------------
ลงชื่อจองคิวครอบสีวลี (รับแค่ 10 คน)ปิดรับครบแล้วค่ะ
1. apiluk_tarot - 3 คน
2. คนริมคลอง - 1 คน
3. รัชนี99 - 2 คน
4. Panmiles - 2 คน
5. พนาสน - 2 คน -
พิธีสักกาแป็ด
จัดใน วันที่ 24 เมษายน 2554
ขออธิบายเพียงเล้กน้อยนะครับ เพราะมีข้อห้ามในการแจ้งรายละเอียดของวิชา
การสักกาแป็ดเป็นวิชาของไทยใหญ่ครับ เป็นวิชาที่หวงแหนมาก เพราะเป็นวิชาที่ว่าด้วยการหาจุดเสียในตัวของแต่ละบุคคลที่เรียกว่าจุดกาลากิณี
ซึ่งคนเราทุกคนจะมีจุดตำหนินี้ติดตัวมากันทุกคน บางคนมี5จุด บางคนมี3 จุด บางคนมี 2 จุด
จุดเสียนี้ มีอะไรบ้างยกตัวอย่างเช่น
1 ทำคุณคนไม่ขึ้น
2 ชีวิตคู่ไม่มีความสุข
3 เก็บเงินทองไม่อยู่
4 บอกสอนลุกหลานไม่เชื่อฟัง
5 ผู้ใหญ่ไม่เมตตามีปัญหากับผู้ใหญ่เจ้านาย
นี่ยกตัวอย่างนะครับ
การหาจุดเสียนี้จะใช้คัมภรีบางอย่างวิชาบางอย่างหาว่าแต่ละคนแต่ละท่านนั้น มีจุดเสียตรงจุดไหนและเสียเรื่องอะไรบ้าง
แล้วจะมีการทำสะตวงส่งแทนตัวเพื่อเป็นเคล็ดเอาจุดเสียออก
หลังจากนั้นจะอาบน้ำมนต์ที่มีผงยาทางพม่าอยู่ แล้วมาคำนวณหาจุดเสียแล้วทำการสัก แล้วเจิมมือแล้วลงทองเป็นอันเสร็จพิธี
นี่รายละเอียดคร่าวๆครับ
ในการทำพิธีนี้ไม่ค่อยทำได้บ่อยนักเพราะมีการทำพิธีหลายอย่างในคราวเดียวกัน
ผมจะไม่ค่อยทำบ่อยครับ
ท่านใดสนใจก็ขอเชิญร่วมพิธีได้ครับ
อ คนวัด บ้านดวงธรรม<!-- google_ad_section_end -->
รายละเอียดการทำพิธีสักกาแป็ด
เวลา 09.30 ทำพิธีอ่านโองการส่งสะตวง
เวลา 10.30 ทำน้ำมนต์ไว้สำหรับอาบ
เวลา 11.00 อาบน้ำมนต์
เวลา12.00 พักทานข้าว
เวลา 13.00 คำนวณหาจุดเสียกาลากิณี
เวลา 13.30 สักกาแป็ด
เวลา 15.00 เสร็จพิธี
ตามกำหนดการมีดังนี้ครับ ขอให้ทุกท่านมาพร้อมเพียงกันครับแล้วแจ้งการยืนยันในการเข้าร่วมพิธีเพื่อจะเตรียมของได้ถูกต้อง
จึงเรียนให้ทราบโดยทั่วกัน
--------------------------------------------------------------------
ลงชื่อจองคิวสักกาแป๊ด
1. apiluk_tarot - 1 คน
2. คนริมคลอง - 1 คน
3.<!-- google_ad_section_end --> -
พิธีขอขมากรรมครั้งใหญ่
รอบที่สองประจำปี 2554 จัดในวันที่ 7พฤษภาคม 2554
พิธีขอขมากรรม
1 การทำพิธีนี้เพื่อขอขมากรรมต่อสรรพเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณเจ้าหนี้เจ้าสิน ของทุกท่านตั้งแต่กาลก่อนถึงปัจจุบันโดยเน้นที่ว่ากรรมทุกชนิดมีทางปรับเปลี่ยนลดแรงกรรม
ลงได้ มีกรรมเดียวที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนหรือลดแรงกรรมได้คือกรรมที่เรียกว่าอนันตริยกรรม (คือกรรมอันหนัก) แต่กรรมที่รองลงมานั้นสามารถปรับเปลี่ยนและลดแรงความเข้มข้นของกรรมได้ ด้วยการทำกรรมดีให้มาก การขอขมากรรม การอโหสิกรรม ในภพชาติปัจจุบันให้ดีที่สุด จึงมีพิธีกรรมดังกล่าวนี้เกิดขึ้นมาเพื่อเสริมกำลังใจ และเพื่อคลี่คลายความเข้มข้นของกรรมนั้นๆ ให้อ่อนแรงลงไปตามลำดับ
พิธีกรรมนี้ไม่ใช่เป็นการแก้กรรม แต่เป็นการปรับเปลี่ยนกรรมเป็นการขอขมากรรมเพื่อให้ผลกรรมนั้นลดระดับความรุนแรงลง
2 ผู้ที่คิดว่าตัวเองทำอะไรติดขัดมีปัญหาตลอด หรืออยากรู้ว่าการให้ผลของกรรมนั้นเป็นอย่างไร หรืออยากทราบหนทางการปรับเปลี่ยนกรรมนั้นๆ
ก็สามารถเข้าร่วมทำพิธีดังกล่าวได้
3 สิ่งที่ต้องเตรียมมามีแค่พวงมาลัยกับธูปเทียนแพ และค่าบูชาครู
4 ก่อนทำการพากล่าวขอขมากรรม ผมจะวิเคราะห์ลำดับการให้ผลของกรรมของแต่ละท่าน โดยเบื้องต้นก่อนเพื่อให้ท่านทราบว่าตัวท่านเองมีวงจรกรรมใดที่กำลังส่งผลในขณะนี้
5 หลังจากนั้นผมจะกล่าวเรื่องการให้ผลของกรรม วิธีบริหารกรรมและวิธีใช้กรรมดีแทรกแซง กรรมไม่ดี เพื่อให้แรงกรรมที่ไม่ดีที่กำลังส่งผลให้ตัวท่านลดระดับความเข้นข้น
6 บางครั้งสิ่งที่ท่านพบเจออยู่บางทีก็ไม่ใช่เป็นเพราะกรรมเพียงอย่างเดียว
แต่เกิดจากกฏของธรรมชาติ อีกสี่ข้อส่งผลให้ท่านลำบากก็มี ซึ่งในเรื่องนี้ผมจะอธิบายตามลำดับ ทีละท่านตามหลักการของคำสอนในพระธรรมเพื่อให้ท่านเข้าใจ
7 หลังจากนั้นผมจะพากล่าวขอขมากรรม โดยการพากล่าวนี้จะใช้เวลาในการทำพิธี นี้ประมาณครึ่งชั่วโมง
8 หลังจากนั้นจะให้ท่านตัดเล็บมือเท้าเส้นผมนิดหน่อย แล้วให้ท่านนำเอาสิ่งดังกล่าวไปลอยในแม่น้ำ ตามที่ท่านสะดวก
เป็นอันเสร็จพิธี ตามคำสอนของบรมครูท่านว่าปีนึงควรทำขอขมากรรมสามหน คือต้นปี กลางปี และปลายปี เพื่อชีวิตของแต่ละท่านจะได้ดีไม่ค่อยมีปัญหาใดๆมากในแต่ละรอบปี โดยเฉพาะปี53 จะมีมีมรสุมของการเงินการงานความรัก ที่ให้ผลรุนแรงมากในแต่ละท่านของอย่าได้ประมาท
เหตุใดในพิธีขอขมากรรมถึงได้มีขั้นตอนถึง3ประการสำหรับท่านที่ได้ไปเข้าร่วมงานพิธีขอขมากรรมยังไม่เข้าใจว่าำพิธีทำไมถึงทำถึง3ขั้นตอน
สาเหตุคือ
1)ในขั้นตอนแรกพาท่านกล่าวขอขมากรรมแล้วแต่เจ้ากรรมนายเวรบางรายยังคงมีจิต
ที่เป็นมิจฉาทิฐิอยู่เวลาที่เรากล่าวคำขอขมากรรมไปเจ้ากรรมนายเวรบางส่วนอาจไม่ียินยอม
ให้อโหสิกรรมเราได้เพราะจิตของเขานั้นยังชุ่มด้วยความโกรธพยาบาท ความแค้นเรา เลยต้องทำพิธีในขั้นตอนต่อมา
2)การระเบิดจิตการเปิดกรรมออกกรรม
คือการนำหลักการทางวิชาหลายอย่างมาผสมผสานกันเพื่อใช้กำลังบุญกำลังจิตกำลังสมาธิผลักดันเอาสิ่งที่ไม่ดีในธาตุขันธ์ของตัวเราให้แสดงออกมา ในขั้นตอนนี้บางคนมีอาการรุนแรงมาก บางคนรุนแรงน้อยบางคนก้ไม่มีอาการใดๆบางคนมีของไม่ดี ถูกคุณผีคุณคนไสยศาสตร์ หรือมีพลังของเทวดาเทพพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองก็จะแสดงอาการออกมาให้รับรู้
ในขั้นตอนนี้บางคนไม่เข้าใจว่าอาการที่แสดงออกมานั้นคืออะไรสรุปได้ดังนี้
1.คนที่มีอาการกรีดร้องดิ้นทุรนทุรายนั้นโดยส่วนมากมักมีของไม่ดีในตัวเช่นเจ้ากรรมนายเวรติดตามหรือโดนไสยศาสตร์
2.คนที่มีอาการปิติพูดภาษาแปลกๆหรือร่ายรำโดยส่วนมากมีพลังของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
3.คนที่มีอาการตัวเกร็งหนักบ่านั้นคือผลของแรงกรรมที่ติดค้างแบบเล็กน้อยแสดงออกมาทางร่างกาย อาการที่เป็นจะเป็นอยู่ไม่นานหรือประมาณวันสองวันก็หาย
4.คนที่ไม่มีอาการใดๆเลยอาจเป็นไปได้ว่ากลางสมาธิ ในการเปิดกรรมยังทำไม่ถูกจุด หรือยังไม่ค่อยมีแรงกรรมใดๆที่รุนแรงให้ผลการเกิดอาการกรรมนั้นไม่ใช่เป็นการสกดจิตเพราะทุกคนจะรู้สึกตัวเองว่าเรากำลังทำอะไรแต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้เพราะในขณะเวลานั้นกายหยาบเราได้ถุกพลังงานเจ้ากรรมนายเวรหรือเทพเทวาผ่านร่างกายแสดงออกมาให้รับทราบ บางคนที่ไม่ได้เรียนวิชาหรือปฏิบัติ ทางนี้จะบอกว่าเป็นอาการจิตอยู่ในภวังค์หรือจิตอ่อน จริงไม่ใช่ออาการของจิตอยู่ในภวังค์หรือจิตอ่อนใดๆ แต่เป็นการนำเอาพลังของกรรมฐานมาคลายธาตุขันธ์เพื่อแสดงออกอาการทางกายกรรมวจีกรรมมโนกรรมออกมา และผู้ที่ทำพิธีนั้นต้องเชี่ยวชาญและชำนาญเกี๋ยวกับศาสตร์ทางนี้มาพอสมควรเป็นอย่างมากเพราะในระหว่างการทำพิธีนั้นต้องควบคุมให้เจ้ากรรมนายเวร ของแต่ละบุคลแสดงออกมาทางธาตุขันธือย่างถูกต้องและถ้าคนใดมีอาการที่อสดงออกมาแบบเหมือน มีพลังเทพเทวาเจ้าพิธีที่ทำให้นั้นต้องเชี่ยวชาญและสามารถแยกได้ว่าเป็นพลังเทพเทวาจริงหรือปลอมได้เพราะโดยส่วนมามักมีพวกเปรตที่มีฤิทธิืแฝงตัวแสดงพลังออกมาว่าเป็นเทพแต่จริงคือเปรตโดยส่วนมาก แต่ถ้าเป็นเทพจริงๆจะบ่อยให้แสดงอาการออกมาจนคลายลงและสวดเสริมพลังบุญให้แต่ถ้าเป็นเจ้ากรรมนายเวรหรือคุณไสยนั้นต้องรีบแก้ไขทันทีจนอาการหาย
ต่อมาเป็นการเสริมพลังชีวิตด้วยการสักผงยาเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นมีโชคลาภฯลฯ
จะเห็นได้ว่าการทำพิธีขอขมากรรมที่ผ่านมาที่ผมและคณะศิษยืได้จัดทำขึ้นมานั้นมีรายละเอียดและครบถ้วนตามสมควรทุกประการเพื่อมุ่งหวังให้ทุกท่านมีความเจริญมีความคล่องตัวในทางโลกและเกิดปัญญาตามจริงตามสมควร
--------------------------------------------------------------------
ลงชื่อจองคิวขอขมากรรม
1.
2.
3.<!-- google_ad_section_end -->
<!-- google_ad_section_end --> -
คุณไซ ครับ จองคิวพิธีครอบสิวลี วันที่ 3 เมษายน 2554 จำนวน 3 คนครับผม
จองคิวสักกาแป๊ดวันที่ 24 เมษายน 2554 จำนวน 1 คน ครับผม:cool: -
-
รับจองยอดจำนวนคนครอบสิวลี จากจำนวนทั้งหมด 150คน ในตอนนี้มียอดจองแล้ว 140คน ในเว็ปพลังจิตนี้สามารถรับได้แค่10คนครับ
จึงเรียนมาให้ทราบ
อคนวัด (และขออภัยที่ไม่ได้แจ้งการทำพิธีล่วงหน้าจึงทำให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมรับทราบข่าวช้าไป) -
รับจองยอดจำนวนคนครอบสิวลี จากจำนวนทั้งหมด 150คน ในตอนนี้มียอดจองแล้ว 140คน ในเว็ปพลังจิตนี้สามารถรับได้แค่10คนครับ
จึงเรียนมาให้ทราบ
อคนวัด (และขออภัยที่ไม่ได้แจ้งการทำพิธีล่วงหน้าจึงทำให้ผู้ที่ต้องการเข้าร่วมรับทราบข่าวช้าไป) -
อนุโมทนาบุญกับน้องไซด้วยค่ะ และจองพิธีครอบสีวลีและสักกาแป๊ด1 คน ค่ะyimm
-
-
ขอจองคิว สัก ครอบผงยาพระสิวลี จำนวน2ท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ
-
-
ดูตาราง
พิธีกรรมต่าง ๆ และเช็ครายชื่อ ที่หน้า 107 ค่ะ -
คุณไซ ขอจองเข้าร่วมพิธีครอบพระสิวลี 2 คนค่ะ
ขอบคุณค่ะ -
คุณไซ ขอจองเข้าร่วมพิธีครอบพระสิวลี 2 คนค่ะ
ขอบคุณค่ะ -
-
มาให้อนุโมทนาบุญจ๊ะ
วันพุธที่ 30/03/54 จัดส่ง
1.บริจาคตุ๊กตา ให้แก่ วัดโบสถ์วรดิษฐ์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จำนวน 1 กล่องใหญ่
2.บริจาคหนังสือสวดมนต์ ให้แก่ คุณกุลธิดา (มอบต่อวัด) จ.นครราชสีมา จำนวน 1 กล่อง
3.บริจาคหนังสือสวดมนต์ ให้แก่ พระครูปลัดอภิวุฒิ ปญฺญาธโร อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จำนวน 1 กล่องใหญ่
4.บริจาค พระธาตุ และเกศา พระอรหันต์ , ลูกแก้วพยานาค ให้แก่ คุณหลวง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จำนวน 1 กล่อง
5.บริจาค พระธาตุข้าวบิณฑ์ , พระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 200 ชุด ให้แก่ พี่นุชคนฉายกรรม แจกญาติธรรม
6.จัดส่ง พระบรมสารีริกธาตุ ,อัครสาวก และพระอรหันต์ ต่าง ๆ จำนวน 21 สันฐาน ให้แก่ พี่นุชคนฉายกรรม บรรจุโบสถ์
7. จัดส่ง เหรียญทำน้ำมนต์ จำนวน 20 เหรียญ และพระธาตุต่าง ๆ ให้แก่ คุณ สุพัตรา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จำนวน 1 กล่อง
8.จัดส่ง พระมวลสารหลวงปู่ดุ่ มีพระธรรมธาตุเสด็จ และพระธาตุต่าง ๆ ให้แก่ คุณกุลธิดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา -
มาให้อนุโมทนาสาธุบุญค่ะ
วันที่ 31/03/54
1. จัดส่งพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 100 ชุด ไปร่วมงานสร้างโบสถ์ ของ พี่นุชุ (คนฉายกรรม)
2. ร่วมทำบุญ วัดอัมพวัน หลวงพ่อจรัญ จำนวน 300 บาท
3. ร่วมบุญซื้อกระเบื้องห้องน้ำ กับครูบาตุ๋ย สำนักสงฆ์ บ้านหนองม่วง อ.ส่องดาว จ.สกลนคร จำนวน 300 บาท
4. จัดส่งซองซิป ไปร่วมใส่พระผง คุณหลวง จำนวน 1 กล่องใหญ่
5. บริจาคช่วยสินามิที่ญี่ปุ่น ตามกำลัง<!-- google_ad_section_end -->
หน้า 105 ของ 106