ช่วงก่อนปี 2000 ก็ทำนองนี้
อาจเกิดภัยพิบัติบางอย่างจริง เนื่องจากสภาวะโลกร้อนและอื่นๆที่มนุษย์ไปเบียดเบียนธรรมชาติ
ผู้มีศีลมีธรรม ย่อมรอดพ้น
ความไม่ประมาทสำคัญยิ่ง ไม่มีใครพ้นความตาย
แต่ควรเตรียมตัวก่อนตายไว้ให้ดี...เพื่อความปลอดภัยในการเวียนเกิดตายต่อไปภายภาคหน้า...
ปู่อินทร์ตาทิพย์ อายุ107ปี เตือนอีก5ปีภัยพิบัติใหญ่มาแน่
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย toplus99, 19 พฤษภาคม 2009.
หน้า 3 ของ 9
-
ถึงวันนั้นผมว่า ชาวโลกที่มีเทคโนโลยี่ที่ปิดไว้เป็นความลับ คงถูกนำมาปะติดปะต่อกัน (เทคโนโลยี่ของแต่ล่ะชาติไง) คงช่วยได้เยอะ แต่คนคงม๊องไปเยอะด้วย ถ้าเหลือคนน้อย คนจะสูญพันธ์แน่ ๆ ครับ
-
ในวันภัยพิบัติ การกราบขอรับวิธีอนุตตรธรรมเท่านั้นที่จะสามารถรอดพ้นจากภัยพิบัติเหล่านี้ได้คับผม ทุกคนก็อยากจะเอาแต่สิ่งที่ดีๆๆเข้ามาให้ตัวเองทั้งนั้นจริงใหมคับ เมื่อมีโอกาศแล้วรีบไปตามหาวิธีอนุตตรธรรมกัน เพราะว่า ยุคนี้เป็นยุคท้ายปลายกัป แล้ว
ตอนนี้ก็หมดยุคของพระพุทธเจ้าองค์ที่ 9 (เจ้าชายสิทธัตถะ ) แล้วคับ ยุคของพระพุทธเจ้าองค์ที่ 10 ( พระศรีอริยเมตไตรย ) เริ่มเข้ามาเก็บเกี่ยวแล้วคับ เกี่ยวอะไร ก็เก็บเกี่ยวเอาคนที่กราบขอรับวิธีอนุตตรธรรมไว้เป็นหน่อเชื่อในยุคของพระองค์งัยคับ -
สาธู อะไรก็เกิดขึ้นได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือการกระทำของมนุษย์และเป็นการเปลี่ยนแปลงของ
ธรรมชาติ เป็นสภาวะของจุดเปลี่ยน เปลี่ยนทั้งคน เปลี่ยนทั้งอากาศ และสภาวะอืน ให้มีการ เริ่มต้นไหม่ ทั้งทางดีและทางไม่ดี กรุงเทพมหานคร และเขตลุ่มน้ำ จะเริ่มผิดปกติตั้งแต่ 2553 เป็นต้นไป จากนี้ไปโรคระบาดก็จะเยอะขึ้นมาก และคณะแพทย์ไม่สามารถเตรียมตัวรับทันได้ ธาตุท้ง 4 จะแปรปรวน คนจะปรับธาตุไม่ได้จะป่วยออดๆแอดๆ และล้มตายในที่สุด .... เรื่องคำทำนายนี้ เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา ให้มาก แล้ววันหลัง ผมจะมาพยากรณ์ใหม่ครับ ... สาธู -
ตราบเท่าที่ยังมีผู้รู้จักนับถือพระพุทธศาสนา(เวลานี้อยู่) จะยังไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ที่สองเกิดซ้อนขึ้นมาครับ
ดังนั้น ถ้าจะถึงยุคพระศรี ต้องมีช่วงว่างจากพระพุทธศาสนาระยะหนึ่งครับ
ช่วงนั้นจะเป็นกลียุค ศีลธรรมไม่มี เข่นฆ่ากันเป็นว่าเล่น ผู้คนในระยะนั้นจะมีความทุกข์มาก หาความสุขไม่ได้ จนเริ่มกลับมาหันทำความดีกัน หลังจากนั้นอายุขัยของมนุษย์จะเริ่มยืนยาวขึ้น(หลังจากที่ทำความชั่วจนอายุขัยเหลือ 10 ปี) จนอายุเป็นหมื่นปี(ถ้าจำไม่ผิด) จะเห็นว่ามันกินเวลานานมาก จากนั้นพระศรีจะปรากฏ ผมได้ยินได้ฟังมาอย่างนี้นะครับ และเห็นว่าสมเหตุสมผลดี และพระศรีท่านคงยังไม่ลงมาตรัสรู้หรอกครับ เพราะพระพุทธศาสนาปัจจุบันยังถือได้ว่าเจริญอยู่ ยังมีพระสาวกที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่มาก
PS.ผมไม่มีเจตนาที่จะตั้งประเด็นเถียงนะครับ ทีแรกผมว่าจะไม่ตอบ แต่อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะอาจจะเป็นมิจฉาทิฏิได้นะครับ เลยพิมพ์เตือนแง่คิดบางอย่างที่ผมได้ยินได้ฟังมาซึ่งขัดกับความเห็นของคุณ
ผมว่าในช่วงเวลานี้ที่เรามีโอกาสได้รู้จักและนับถือ ถือกำเนิดมาแล้วเจอพระพุทธองค์ก็รีบปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่าครับ เพราะระยะเวลาที่เราจะรอเจอพระศรีอาจจะยาวนานมากกว่าที่เราคิด เราอาจจะพลาดพลั้งตกนรกไปเมื่อไรก็ไม่รู้จริงไหมครับ -
เราดำเนินชีวิตอยู่บนทางสายกลางอย่างไม่ประมาท ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นกรรมทั้งสิ้น
กาลามสูตร
- อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
- อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
- อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
- อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
- อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
- อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
- อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
- อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
- อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
- อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
-
ต้องให้ชีวิตสัตว์ มากๆๆ เช่น ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยหอย ฯลฯ ไถ่ชีวิตโคกระบือ
ทุกเดือน เป็นอย่างน้อย การให้ชีวิตสัตว์ ทำให้เรามีชีวิตที่ยืนยาว โรคภัยไข้เจ็บลดลง
คนที่อายุสั้นมักจะชอบ ฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อ 1 คนที่โดนภัยธรรมชาติบ้านพัง เพราะไปโกง,ขโมย,ยักยอก,เบียดบัง เอาของคนอื่นมา ผิดศีลข้อ 2
ปล่อยสัตว์ได้มหากุศล 10 ประการ
เมื่อวานได้เดินทางไปกราบไหว้หลวงปู่ทวด ณ. วัดห้วยมงคล และได้ไปทำบุญปล่อยโค และกระบือ จึงได้หนังสือ ต่างกันในกายอานิสงส์ของการปล่อยสัตว์ มาเล่าให้ฟังนะครับ เพื่อจะได้เพิ่มบุญให้กับตนเองครับ
พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ...........
1. พ้นจากภัยสงคราม การปล่อยสัตว์ทำให้ชีวิตพ้นภัยอันตรายจากศาสตรา การรบราฆ่าฟัน ล้วนเกิดจากการฆ่าสัตว์ เมื่อละเว้นจากการฆ่า หันมาปล่อยชีวิต ภัยจากศาสตราก็จะถูกขจัดหมดไป อันนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงชะตาโลกครั้งยิ่งใหญ่
2 ความเป็นมงคลจะเข้ามาหา การปล่อยสัตว์เป็นบ่อเกิดแห่งเมตตาธรรม ไอของความปิติสุขปกคลุมกาย การตอบสนองจะเป็นไปตามธรรมชาติ
3. มีสุขภาพดีอายุยืน การปล่อยสัตว์มีบันทึกไว้ในพระสูตร กล่าวคือ เปี่ยมด้วยวาสนาตอบสนอง 2 ประการ คือ มีอายุยืน และ ไร้โรคภัย
4. ได้บุตรที่กตัญญู การปล่อยสัตว์ ดีกับฟ้าดินที่มีใจให้กำเนิด ดังนั้นจึงได้บุตรกตัญญูเป็นมงคลแก่ครอบครัว
5. มีเทพอารักขา การปล่อยสัตว์เป็นการให้ชีวิตใหม่แก่สัตว์ เฉกเช่นช่วยเหลือบุตรพุทธะ เมื่อได้ช่วยชีวิตสัตว์เหล่าพุทธะต่างชื่นชมยินดี
6. สัตว์ทั้งหลายต่างสำนึกบุญคุณ เพราะสัตว์ที่ได้รับการช่วยชีวิตล้วนซาบซึ่งบุญคุณ เป็นบุญสัมพันธ์ที่สัตว์เหล่านั้นคิดจะทดแทนไปตราบนาน
7. ไม่มีเคราะห์ร้ายใด ๆ ผู้มีเมตตาจิต บุญกุศลนับวันเพิ่มพูน เคราะห์ภัยทั้งหลายล้วนมลายหายไป
8. บรรเทาภัยสังคม ปัจจุบันกลียุคสมัย ผู้คนลุ่มหลงในอบาย ภัยสุรายาเสพติดดาษดื่น การปล่อยสัตว์สามารถลดวิบากกรรมเหล่านั้นได้
9. บุญกุศลไร้ขอบเขต สัตว์ก็มาจากคนที่จุติแล้วไปเกิดเป็นสัตว์ สัตว์ก็จะกลับมาเกิดเป็นคนอีก หลังชดใช้กรรมจนหมดสิ้น
10. ได้ไปเกิดบนสวรรค์ ผู้ละเว้นจากการฆ่า หันมาปล่อยชีวิตสัตว์ เมื่อชีวิตล่วงไปแล้วจะอุบัติในสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา สำหรับผู้บำเพ็ญฯ ก็จะไปอุบัติยังแดนสุขาวดีพุทธเกษตร บุญกุศลนี้ประมาณมิได้
คุณต้นไผ่:พลังจิตดอทคอม<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p> -
ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการกระจายความมั่งคั่งระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ เมื่อไม่มีฝ่ายไหนมั่งคั่งจนเกินไป ก็ไม่มีฝ่ายไหนยากจนข้นแค้นจนเดือดร้อน ความยุติธรรมก้เกิด ความสมดุลย์ก้เกิด ประโยชน์สุขก็เกิดแก่มหาชน
-
***ช่วง 49 วันนี่แหละ ที่เป็นวันภัยพิบัติล้างโลกอย่างแท้จริง (22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 = 49 วัน)***
ตั้งใจ ให้ทาน รักษาศีล หมั่นเจริญสมถะวิปัสสนา ทุกๆวันทุกๆเวลา ไม่รู้ว่าเราๆจะอยู่ถึงกัน หรือเปล่า ความตายเป็นของเที่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หมั่นนึกถึงความตายทุกวันทุกวัน แล้วเราจะสบายใจ ยึดหมั่นในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นพระตถาคต ผู้ใดปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน ผู้นั้นขึ้นชื่อว่ามีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคุ้มครอง ด้วยพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ..พุทโธ อัปปมาโน.ธัมโม อัปปมาโน .สังโฆ อัปปมาโน.. นี้แหละความเป็น อนิจจัง ความไม่แน่นอนของชีวิต ทุกขัง ล้วนแล้วแต่เป็นทุกข์ อนัตตา สุดท้ายแล้วก็สลายไปที่สุด .หลวงพ่อบอกลูกหลานไว้ จับอารมณ์พระโสดาบันไว้นะ แล้วลูกทุกคนจะปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง.. นี่แหละของดีของหลวงพ่อเรา..ขอให้ลูกหลานทุกคนยึดมั่นในพระพทุธ พระธรรม พระสงฆ์..นะครับ -
ตอนนั้นท่านดูเหมือนคนอายุซัก 80 ทางขึ้นน่ากลัวมาก
แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงนะ -
ข้อมูลหาได้จาก ข่าวสารจากจิตจักวาล บอกเรื่องนี้มานานแล้ว -
อาจเป็นวันนี้พรุ้งนี้ด้วยซ้ำไป -
หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี
*** ตัดนิสัยสันดานได้ ก็รู้ได้เอง ***
...ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นพระตถาคต ....
ธรรม... คือ การกระทำ
ธรรม ....คือ การตัดลดนิสัยของพระพุทธเจ้า
ผู้ใดเห็นธรรม ...คือ ผู้ใดมองเห็นถึงการกระทำของพระพุทธเจ้า
ผู้นั้นเห็นตถาคต ....คือ ผู้นั้นจะเห็นได้ว่าพระพุทธเจ้าตัดลดนิสัยได้อย่างไร
พระพุทธเจ้าใช้ สัจจะ .... นำการกระทำตัดลดนิสัยของพระองค์เอง
หนทางพ้นทุกข์ของมนุษย์ ...คือ การทำตามอย่างที่พระพุทธเจ้าทำ
- " หนุมาน ผู้นำสาร " -
หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี
*** โลก มีหลักสัจจะธรรมเดียวกัน ****
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในโลก... ใช้สัจจะเป็นผู้นำการกระทำตัดลดละนิสัย
และ มีสัจจะเป็นคำสอน....เพื่อนำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์
ผู้บรรลุอรหันต์ทั้งหมด....ล้วนนำสัจจะมาตัดลดละนิสัยจนหมดไปได้จริง
สัจจะปฏิบัติ...คือ หนทางหลุดพ้นทุกข์ที่มนุษย์ยุคนี้ยังไม่ได้ทำกัน
- " หนุมาน ผู้นำสาร " -
(f) ขอโมทนาสาธุครับ รู้แล้วจะได้เตรียมการไว้ครับ(f)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
-
อีก 3 ปีที่ต้องอดทนต่อเศรษฐกิจที่จะแย่กว่านี้ และอีก 5 ปีเกิดภัยพิบัติ แค่คิดก็กลุ้มใจ เป็นห่วงไปทุกเรื่อง ครอบครัว ปัจจัยสี่ ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ความผูกพันธุ์กับทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อให้บรรลุโสดาบันแล้ว ก็ยากที่จะปล่อยวางทุกเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาได้เมื่อมีภัยพิบัติมาถึงตัว
-
สันณิฐานในลักษณะเช่นนี้หรอก...ในฐานะที่เรายังเป็นผู้น้อย คุณธรรมบารมี ยังไม่สูงเช่นท่าน การกะเกณท์อายุท่านมาเดาเล่นๆคงยาก การคาดเดา ด้วยความคึกคะนอง ไม่น่าจะเหมาะสม
ปัจจุบันท่านต้องลำบากสร้างบารมี ช่วยสร้างวัดอีกหลายที่ และต้อนรับผู้มาเยือนหลายชาติ เช่น ชาวไต้หวัน ,ฮ่องกง บางครั้งมากันเป็นคันรถทัวร์ จนวุ่นวายจนท่านต้องหนี ตามหาตัวกันนุงนังไปหมด
ขอติงข้อนี้ไม่เห็นด้วยนะ เกรงว่าจะไม่เป็นมงคล ไม่เป็นผลดีกับตัวเลย....คราวหน้าไม่เอานะ ...ไม่ทำ...ไม่พูด
ตัวอย่าง บรรดา พระ เหนือโลก เช่น หลวงปู่ละมัย เพชรบูรณ์,หลวงปู่หมุน(ละสังขารแล้ว), ครูบาเที่ยงธรรม (ละสังขารแล้ว) หลวงปู่อิง บุรีรัมย์
หลวงปู่สรวง สุรินทร์(ละสังขารแล้ว) หรือ ปู่โทนศิษย์หลวงปู่ใหญ่ นครสวรรค์ (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) นั่นถึง 144 ปีเชียวนะ อายุท่าน100 กว่า ยังปีนต้นมะพร้าวได้เฉยเลย ท่านเหล่านี้ถ้าท่านใดที่ยังชีพขันท์อยู่ ลองถามดูนะว่าท่านรู้จักกันมั๊ย.....ฌาน ญานบารมี ระดับนี้ท่านถึงกันหมด ล่ะครับ
ท่านเจริญอิทธิบาท 4 กำหนดอายุขัยได้ ในระดับหนึ่ง ก่อนที่ท่านละสังขาร ในขณะที่ร่างกาย ยังแข็งแรงๆทั้งนั้นไ ม่ได้เจ็บป่วยมาก่อนเลย..
หลายท่าน ..เสียสละขันท์ 5 เพื่อแลก กับการต่อลองกับจำนวนการสูญเสียชีวิตของผู้คน ที่จะเกิดภัยพิบัติในประเทศไทยต่อผู้มีอำนาจเหนือธรรมชาติ:z17
....จริงเท็จระดับไหน..นั่นว่ากันต่อมาอีกทีในระดับผู้ปฏิบัติธรรมสายลูกศิษย์ของท่านเอง.... -
ตายก็ตายสิ มีใครจะอยู่เป็นอมตะ
เร็วช้าก็ตาย แต่อย่างมงาย
ขอตายคนแรกเลย ถ้าคำทำนายนี้จริง
หมอดงหมอดูเนี่ย เชื่อว่าแม่นในเหตุการณ์อดีต
อนาคต แม้แต่เทวดายังทายผิด
มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวครับ
ที่ทายอนาคตแม่นยำอย่างจับวาง
เพราะมีสัพพัญญุตญาณ เพียงผู้เดียวในโลก
งมงายไร้สาระ ใครว่าอันนี้เป็นจริงมาพนันกันมะ
เกิดมาก็เห็นตายเรื่อย มีประเทศใหนบ้างครับมีคนไม่ตาย
มาทำให้คนวิตกกังวลเป็นทุกข์ปล่าวๆ น่าสงสาร
;aa13 -
ปู่อินทร์ อยู่บนเขาลูกนึง มีพระพุทธชินราช อยู่ตรงหน้าผา(เคล็ดแต่ไม่ลับ)ว่าหน้าองค์พระนั่นสามารถใช่ทำสมาธิได้เป็นอย่างดีปู่ท่านส้รางพระไว้ตรงนั่นเพื่อรวมพลังจักรวาลตรงนะจุดนั่นสามรถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทางร่างกาย และจิต แล้วก็พระแก้ว มีอาวุธคู่กายอยู่อย่างนึงคือพระขรรธ์(เหล็กไหล) ได้พบปู่ท่านหลายครั้งได้เรียนเรื่องยา และคาถาบางส่วน ปู่ท่านย่นระยะทางเก่งมาก ที่ท่านฤทธิ์เยอะ คือ ชาตินึงนั่นท่าน เป็นพญานาค ซึ่งกินเวลายาวนานมาก ฤทธิ์เลยเยอะ ถัดออกมาไม่ใกล จะมีอีกท่านนึงเป็นหลานท่าน ท่านนี้อายุ 70กว่าแล้วแต่ไม่แก่ มีฉายาว่า ฤาษีตาไฟ ก็มีดีไม่แพ้กัน เล่าแล้วยาว เอาเป็นว่า ผมก็นับถือ แต่ไม่ได้ไปเยี่ยมปู่นานอยู่เหมือนกัน ทางไปไม่ลำบากหรอก มี 2ทาง คือนึง ลุยขึ้นเขา กับอีกทาง เป็นทางราบ ถึงเชิงเขาแล้วเดินขึ้นบรรไดขึ้นไป ถ้าใครอยากไปผมหาผู้พาไปก็ได้
-
นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า ...มาม่า (หรืออาจเป็น ยี่ห้อ ไวไว,ยำยำ ,บะหมี่ FF พวกเดียวกันนี้) กินดิบได้นะครับ...
.......ไม่ต้องต้ม หรือลวกกินทุกครั้ง...ก้อได้
อ้อ...สำหรับเครื่องปรุงในซอง ที่แถมมา หรือผักอื่นๆ ที่เคยหามาใส่ทุกครั้ง @@@ถ้ามันหิวจริงๆ .....เงื่อนไขเหล่านี้ เราสามารถยกเลิกได้...ครับ พระท่านไม่ว่า...หรอก ***ไม่บาป..ไม่บาป***
เราต้องคิดนอกกรอบบ้างนะครับ...แฮ่ ๆๆๆ
แต่อาจมีปัญหาตามมาเล็กน้อย คือ ติดคอ ฝืนคอ บ้างนิดหน่อย และถึงขั้นตาเหลือกได้ ..เป็นอย่างมาก ดังนั้นควรดื่มน้ำตาม มากๆ (อันนี้แพทย์แนะนำมาอีกที) ฮิ้ว ๆๆๆ ;aa13
หน้า 3 ของ 9