555+ สวนพลู งานหลวงไม่ขาดงานราษฏร์ไม่เว้นบ้างเลย :cool:
ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.
หน้า 276 ของ 364
-
-
...ให้มันได้อย่างงี้..ซิ....
..อา..เป็นกำลังใจให้..และ..จะเข้ามาอ่านบ่อยๆ...
....คนอื่น..จะได้รู้ถึงการต่อสู้ในชีวิต..ที่มีสภาวะที่เป็นแบบพิเศษ
......ได้ยังไง...ต้องใช้วิธีการควบคุมจิตใจ..มันเริ่มมายังไง..
............แล้วปรับเปลี่ยนไปยังไง..เมื่อโตขึ้น....
.........จนมาเป็น....สวนพลู..ในปัจจุบัน.......
................................................
..." นรชาติวางวาย..มลายสิ้นทั้งอินทรีย์..
.....สถิตทั่ว..แต่ชั่วดี..ประดับไว้ใน..โลกา.." -
ติดตามอ่านด้วยคนครับ..
-
-
-
เมื่อครั้งยังเด็ก .........(1)
การเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่ได้จะระบุว่า ตัวผมเองเป็นผู้วิเศษ พิเศษ กว่าคนอื่นแต่อย่างใด เพียงแต่วิถีแห่งชีวิตมันเป็นไปเอง ไม่ทราบจะด้วยกรรมเก่า หรืออะไรก็ตามที จึงเป็นแบบนี้ ก็จะขอเริ่มเรื่อง เหมือนเล่าประวัติตัวเอง เกี่ยวกับ ผีๆ แล้วก็การเอาชนะความหลอน ได้ยังไง ก็จะพยายามเขียนให้ต่อเนื่อง ไปเรื่อยๆ นะครับ เริ่มตั้งแต่วัยเยาว์ อายุ 2 ขวบกว่าๆ ยังไม่เกี่ยวกับผี
ด้วยเกิดมานั้นเป็นเด็กสลัมคนนึง เติบโตมาท่ามกลาง น้ำคลำเน่าๆ บ้านเกิดของแม่ อยู่ที่ลพบุรี ในยุคนั้นผมยังได้ทันนั่งเกวียนที่ลพบุรีอยู่เลย ผมเกิดปี 2526 (ใครที่เรียกผมว่าพี่สำรวจอายุด้วยนะครับ หุหุ) ........ เรื่องเกิดตอนผมประมาณ สองขวบกว่าๆ แม่มาเล่าให้ฟังตอนโต ประมาณ ม.ปลาย นั่งๆอยู่บ้านในสลัม กับแม่ อยู่ๆ แม่ก็บอกว่า ไอ้เล็ก!.....(ผมเป็นลูกคนสุดท้องคนที่7 แม่คลอดผมตอนอายุ 38 ปีได้ คนโบราณจะเรียกลูกคนสุดท้องว่าไอ้เล็กไม่ค่อยเรียกชื่อ) ............ มึงรู้มั้ย ว่ามึงน่ะไม่ใช่ลูกแม่น่ะ .........ไอ้ตัวผมก็งง ไปนิดนึง ก็เลยถามแม่ว่า ทำไมอ่ะแม่ ...... ก็ตอนเด็กๆ...สองขวบกว่า มึงยังพูดไม่ชัดเลย มึงบอกว่ามึงไม่ใช่ลูกแม่........แล้วแม่ก็เข้าเรื่องยาวๆ .......... ตัดภาพให้นึกถึงเด็กสองขวบกว่า พูดเป็นเรื่องเป็นราวยาวๆ ได้ ก็เป็นเรื่องแปลกๆอย่างนึงที่แม่เล่าให้ฟัง ........... แม่เล่าต่อ....ตอนผมเป็นเด็กพูดกับแม่ว่า............แม่! ๆ ๆ แม่รู้ป่าวว่า หนูหน่ะ ไม่ใช่ลูกแม่หรอก......(แม่ขำ) ......... แล้วบอกว่า อ้าว! แล้วมึงลูกใครหล่ะ...............เด็กน้อยตอบว่า.................ก็หนูอ่ะเป็นลูกคนนี้..ชื่อ .......ตระกูล......... มาตายที่ตรงทางโค้งแถวๆ ธรรมศาสตร์ ตายทั้งครอบครัวเลยนะแม่..........(แม่คงจะอึ้ง) .แม่ก็ถามว่าตายยังไง .......เด็กน้อยก็บอกไปว่า รถคว่ำซิแม่ ตายทั้งคัน......... ซึ่งสอดคล้องกับ ตอนแม่ฝันก่อนท้องผม ..........ว่า มีฤาษีแก่ๆเอาเด็ก มาให้ เด็กคนนั้นอยู่ใครครอบแก้วใสๆ ลอยมาจากยอดแหลมๆของตึก ธรรมศาสตร์ และแล้ว แม่ก็ข้องใจ ว่าเด็กอะไรพูดเป็นตุเป็นตะได้ขนาดนี้ และเรื่องราวตอนฝันก่อนจะมีลูกก็สอดคล้องกัน แม่ก็เลยสืบๆดูแถวๆนั้น ช่วงๆ ก่อนตั้งท้อง ถามๆย้อนหลังเอา สรุปว่า นี่คือเรื่องจริง เกิดขึ้นจริงๆ ........... นี่อาจจะเรียกว่าการระลึกชาติตอนเด็กๆ ก็ได้ และมันอาจเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ติดตัวมา ทำให้ผมสัมผัสกับผีอยู่เนืองๆ และช่วง ประถม พอจำความได้ ก็มีเรื่องราวมากมายหลายอย่างเกิดขึ้น แต่อยากจะบอกว่า แม่ผมนี่จอมคาถาเลยครับ ดับพิษไฟ ธรณีสาร ทำน้ำมนต์ เดี๋ยวจะกล่าวถึงแม่ผมในโอกาสต่อไปครับ
-
***สุดยอด เลยครับ ท่าน สวนพลู เอาอีก เอาอีก***
-
-
ขอลงทะเบียน ก่อนเลยครับ *** -
..เอ้อ..นี่ละดีแล้ว..เราต้องเล่าละเอียด..มันถึงจะปูทาง..ทำให้คนอ่านGetได้..อย่างนี้ละดีแล้ว..ไปเรื่อยๆ..ไม่ต้องรีบ..ค่อยๆฟื้นคืนความทรงจำมา..ความยาว..ขนาดนี้..ก็พอแล้วแต่ละตอน.....
....มิน่าละ...มันมีที่มาอย่างนี้นี่เอง...ความทรงจำเก่ายังล้างไม่หมด...เพราะอา..เคยอ่านของเมืองไทย..และ..เมืองนอกจะคล้ายๆกัน..คือ..คนที่ความทรงจำล้างไม่หมด(..ระลึกชาติได้นั้น)..ก็จะเกิด..SENSE พิเศษแบบนี้..ขึ้นด้วยเป็นส่วนใหญ่พอโตขึ้น...
...เพราะ..พวกนี้ตอนเด็ก..ก็ยังจำได้..พอโตขึ้นมาสักพักความจำเก่าก็จะเลือนไป..แล้วSENSE..พิเศษ..มันจะมาทดแทน..ส่วนที่เป็นความทรงจำเก่า..แทน.....
....น่าสนใจมาก...ค่อยๆทยอยออกมา..นะดีแล้ว..คนอ่านเค้าจะค่อยๆINไป..กับเรื่องราวไปทีละนิด...
...........ยอดเยี่ยม..อาเป็นกำลังใจให้.... -
ขอบคุณครับคุณสวนพลู ....ที่เขียนบทความ จากประสบการณ์จริงให้เราได้เรียนรู้...
-
มีพระอาจารย์ดีเป็นแบ๊คอย่างนี้.ต้องหมดโม่สถานเดียวครับ..แบบนี้ต้องเรียกว่ากระทู้แห่งชาติ
เรียกว่าครบรสขนานแท้..แบบนี้แถวบ้านผมเรียก.คอนเทมโพราลี่..ฝุด.ฝุด.. -
มาติดตามอ่านเรื่องราวประสบการณ์ของคุณสวนพลูด้วยครับ น่าสนใจมากๆครับ
-
ตามอ่านด้วยเช่นกันครับพี่สวนพลู
-
-
รอติดตามตอนต่อไปครับ .... สนุก ๆๆ
-
..ถูกต้อง....
...เมื่อ..เกริ่นไว้แล้ว..ก็เล่าเลย..เพราะ..มันเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้าน..
..ของ..คนที่เป็นพ่อ..เป็น..แม่ยุค..สาธารณสุข..ไม่ครอบคลุม..
..การเดินทางลำบาก..ส่วนใหญ่..เป็น..การส่ง..ต่อกัน..จาก..พ่อแม่..ปู่ย่า..ตายาย..อีกส่วน..ก็ไปได้เพิ่มเติมมาใหม่....
....คนยุคก่อน..ต้องพึ่ง..ตัวเองเป็นหลัก..ยิ่งอยู่ต่างจังหวัด..และห่างไกล
ความเจริญ...นี่ก็..ถือ..เป็นสาระยุคก่อนด้วย......
......ผู้อ่านที่เป็น..คนรุ่นใหม่..หนุ่มสาว..พ่อแม่..เป็นคนในเมือง..ส่วนใหญ่แล้ว..ก็จะไม่ได้สัมผัสส่วนนี้..แต่ควรรับรู้..ไว้ว่า..นี่คือ..วัฒนธรรมไทย... -
***คุณ สวนพลู เล่าเรื่องได้ถูกใจ พี่ เขาแล้วครับ โอ้ย ตามอ่านแล้ว สุขใจจริงๆครับ***
-
เมื่อครั้งยังเด็ก ..(2)
จากเดิมก็จะเกริ่นว่า มาเล่าถึงประวัติแม่ผมก่อน.........คุณแม่จอมขมังเวทย์ ของผมเอง ......... เริ่มจากคุณยายผม เป็นน้อง ของ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู (ใครอยากทราบประวัติว่าเก่งยังไง ก็ไปค้นอ่านในกระทู้เรื่องจริงผลัดกันเล่าครับ เขียนไว้หลายเรื่อง) และแม่ผม ก็ไปรับใช้ใกล้ชิดหลวงตาพริ้ง อยู่หลายปี แม่ชอบเล่าว่า เวลาท่านปลุกเสกวัตถุมงคลเสร็จ เขาก็เอาปืนมายิงใส่กันเหมือนปืนเด็กเล่น บนศาลาการเปรียญเลย ออกมั่ง ไม่ออกมั่ง ออกก็ไม่เข้า............ถามว่าผมเกิดทันมั้ย หลวงพ่อพริ้ง ผมเกิดทัน พอผมเกิดไม่กี่เดือน ท่านก็มรณภาพไปก่อน แต่เรื่องเล่าท่านในพื้นที่บริเวณลพบุรี ในยุคนั้น เขาบอกว่า หลวงพ่อพริ้งนี่แหละ สุดยอดแห่งเมืองละโว้แล้ว.......... เรียกได้ว่า ไปภายในอำเภอเมือง ภายในตำบลใกล้ๆ ไม่เคยต้องนั่งรถ ไม่ต้องนั่งเรือ ให้คนมารับกลับไปก่อนตลอด แล้วท่านก็รับแขกที่วัด จนหมด แต่ก็ถึงก่อนรถและเรือ ทุกทีไป ................... นี่หลวงตาพริ้ง จัดเป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ของแม่ผม และเป็นลุงแท้ๆด้วย อีกท่านนึง คือ หลวงพ่อเฮ็น วัดดอนทอง องค์นี้ผมทัน และรู้เรื่องแล้วด้วย นี่ท่านก็เป็นอาจารย์อีกรูปนึง แต่อาจารย์ที่สำคัญสุดของแม่ผมคือ ตาผมเอง ............. (ที่ลพบุรี เขาจะเรียกคุณตาว่า แก่ใหญ่ คุณยายเรียกว่า แก่เล็ก ผมจึงจะขอเรียกคุณตาว่า แก่ใหญ่ครับ) ..........แก่ใหญ่ ผมเกิดทัน และให้เห็นความมหัศจรรย์ของแก่ใหญ่อยู่หลายที..... ท่านเสียไปตอนผมประมาณ ประถม 5 อายุ 90 กว่า ปี ได้ ถ้าจำไม่ผิด ท่าน ชีวิตของจอมขมังเวทย์ตอนจบ ไม่ค่อยสวยงามเท่าไรครับ ท่านต้องรับกรรมแทนคนที่ท่านช่วย แล้วไม่รักษาสัญญา ทำตามที่ครูท่านสั่งไว้ ขาแก่ใหญ่ จากเข่าลงไป เป็นสีดำเขียวๆ ส่งกลิ่นเหม็น ทั้งที่ตัวยังไม่ตาย ก็น่าจะเน่าขณะที่ยังมีชีวิตอยู่คงทรมารน่าดูผมไปทันดูใจแก่ใหญ่....................แก่ใหญ่เป็นคนสำคัญของตำบลเลยครับ ........... ใครเจ็บไข้ได้ป่วย ผีเข้า กระดูกหัก .......แก่ใหญ่ช่วยหมด.......แต่ ต้องทำตามคือ ให้ใส่บาตร ด้วยตัวเองให้ครบ 7 วัน ต่อเนื่อง แล้วอุทิศให้ครูแก่ใหญ่ .......ค่าครู ก็คือบุหรี่ เงินหกสลึง ดอกไม้ธูปเทียน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีเพียงแค่นี้ครับ แล้วก็ใส่บาตรให้ครบ ................ จำได้ว่า คุณปิยะพงษ์ ก็ยังมารักษาเลย ............ ใครสนิทกับคุณปิยะพงษ์ ลองถามดูครับ ...... ท่านเป็นคนอารมณ์สุนทรีย์มากๆ ผมอยู่กับแก่ใหญ่ตอนเด็ก ด้วยความที่เป็นลิเกเก่า แกก็ร้องลิเกทั้งวัน ดูดยาเส้น ใบตอง ก่อนดูด ก็เป่าๆ ที่ใบตอง ตอนเด็กๆ ก็ไม่รู้ว่า แก่ใหญ่ จะเป่าทำไม ............. แก่ใหญ่เป็นผู้เข้มขลังมากๆ .............. ขนาดจะยิงปืนข้ามหลังคาบ้าน ยังไม่ได้ ..............ลูกปืนจะตกลงบนหลังคาแล้วกลิ้งตามลอนสังกะสีกลับมาเลย........... จากปากคำพี่ชายผม ก็อายุสี่สิบกว่าๆ ......เขาบอกว่า แก่ใหญ่น่ะ เป็นศิษย์ หลวงปู่กลั่น........... วัดพระญาติ ............ อยู่ด้วยกันกับหลวงปู่ตั้งแต่เป็นเณร และธุดงค์กับหลวงปู่ด้วย ..... อันนี้เขาเล่ามาครับ ผมตอนนั้นเด็กมากๆ อยู่ในสลัม กทม. ปีนึงก็จะกลับลพบุรี ซักสองครั้ง ตอนเด็กๆ .......ถนนลูกรังแดงๆ หัวแดงเลย เวลากลับไป .......... และก็ยังเป็นบุญ ที่ได้เคยนั่งเกวียนอยู่บ่อยๆ ............ ส่วนใหญ่ก็จะกลับไปช่วงสงกรานต์ ทุกปี ช่วงนี้แหละเป็นช่วงสำคัญ สงกรานต์ทุกที่ จะเป็นการทำความสะอาดหิ้งพระ แก่ใหญ่ ก็จะเอากระถางธูป ออกมาเททุกปี ................. จังหว่ะนี้แหละ ลูกหลาน จะมามุงดูกันทุกปี เพราะบรรดาพระเครื่องพวกตะกูลลพบุรี สุโขทัย จะมาอยู่ในกระถางธูป ที่แปลกคือ ................มาเอง!..................... แก่ใหญ่ ไม่เคยออกไปไหนเลย......... ไม่เคยมีเงินเดินสนามพระ........... กินแค่ข้าวไปวันๆ ................และก็หวานเย็นบ้างนิดหน่อย............ แล้วแก่ใหญ่เอาพระมาจากไหนทุกปี..........ผมก็เห็นคาตาอยู่เหมือนกัน ...................แก่ใหญ่จะบอกว่า สวดมนต์บ่อยๆ ทุกวัน ท่านก็มาเอง....................อันนี้เป็นเพียงส่วนนึง.......จากความขลัง ของแก่ใหญ่ของผม...........ซึ่งแม่ผม ก็ได้รับบางอย่างมาบ้าง แม่บอกว่าไม่เคยเรียน ได้ยินแก่ใหญ่สวด แล้วก็จำได้เอง.........ผิดกับผม สวดทุกวันก็ยังจำไม่ได้เลย................เล่าไปคือ สามอาจารย์ ที่สอนแม่ผมมา คือ 1. หลวงตาพริ้ง 2. หลวงพ่อเฮ็น 3. แก่ใหญ่......ต่อไปก็จะเล่าเรื่องแม่อีกนิดหน่อยครับ วันนี้ยาวแล้ว......จบก่อนครับ
-
มาให้กำลังใจพี่สวนพลูครับ
หน้า 276 ของ 364