ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....................
    .......................
    .....เอ้า..ขอบใจน้องๆ..หลานๆ..และ..ลูกศิษย์..ทุกท่านที่..อวยพรผม
    ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่..ขอให้พรประเสริฐอันใดที่มอบให้ผม..ก็ย้อนกลับคืนไปที่..พวกเราที่มาอวยพร..ทุกคน..เช่นกัน.................
    ............................................................
    ...ผมได้พักไป..หลายวัน..จริงๆก็ไม่ได้ไปไหน..เก่งสุดก็ไปรดน้ำอวยพรปีใหม่..พ่อผม..และพี่สาวพี่เขย..อีก ๒ ครอบครัว..แค่นั้น..เวลาส่วนใหญ๋..ถ้าไม่แกะสลักไม้..
    ..ก็อยู่หน้าจอคอมพ์นี่แหละ.....
    ..........จริงแล้วเหตุที่หยุด..นอกเหนือ..จากจบตอน..ล้างสมองเรื่องเก่าออกแล้วนั้น..
    ....อย่างที่ผมเคย..บอกไปคือ..ผมเองนั้นมีปัญหาเรื่องสายตา..เพราะเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว...เวลาที่ต้องพิมพ์ข้อความเยอะๆ(สำหรับผมนะ..คนอื่นอาจคิดว่าไม่เยอะ..แต่ผม..ว่าเยอะ)..นอกจากจะต้องเพ่งสายตามากๆนานๆ..ทุกๆวัน..ต่อเนื่องเป็นชั่วโมงแล้ว...........
    ....ใครที่เข้าใจผิด..เข้าใจซะใหม่ด้วยว่า..บทความที่ผมเอามาลงให้ท่านอ่านอยู่
    ทุกวัน..นั้น..แต่ละตอนใน ๑ ครั้งที่ post..ผมต้องใช้เวลาพิมพ์..มากกว่า ๑ ชั่วโมง
    ...พวกเราที่เคยอ่าน..มาก่อน..ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า..ผมพิมพ์ได้ช้ามาก..
    ....แถม..ผมไม่มีscript..หรือ..ร่างใดๆ..ก็ทำนองเดียวกับนักเขียนนั่นแหละ..
    ....คิดแล้วก็เขียนเลย...มีข้อดีหน่อย..คือ..สิ่งที่ไม่เคยเกิดกับผมคือ...
    ...เขียนไปเกือบจบตอน..อ่านแล้วไม่ชอบใจ..รื้อเขียนใหม่ทั้งหมด..
    .....อย่างเก่ง..ก็..รื้อแค่..บรรทัด ๒ บรรทัด...ถามว่า..ในการนำบทความ
    มาให้พวกเราอ่าน..นี่เหนื่อยมั้ย..ก็เหนื่อยทั้งนิ้ว..สายตา..และ..สมอง..พอดู...เพราะต้องคิดทุกอย่างเอง..ไม่ได้..ไปลอกใครมาเป็น..ตอนๆ..แล้ว..ค่อยๆทยอยลง..ให้อ่านกัน..วัน..เหมือนๆบางคน..หรือ..หลายคน...
    .....................
    ..ดังนั้น..ผมจึง..ต้องพักเรื่องนี้บ้าง..เปิดคอมพ์..ดูหนัง..ฟังเพลงไปเรื่อย..
    ...เรื่องจริง..ที่ไม่เคยบอกใครนั้นคือ..เวลาผมเขียนบทความนั้น..
    ..ผมจะเปิดเพลงไปด้วย..แต่เป็นเพลงเฉพาะทางที่ผมชอบมาก..คือ..
    .....เพลงคลาสสิก..พวกบาค..โชแปง..วิวาลดี..อะไร..ทำนองนี้..
    .......เพื่อให้สมองลื่น..อันนี้ไม่ใช่กระแดะ..นะครับ..มันช่วยดีมาก
    .........เพราะส่วนตัวนะ..ชอบอยู่แล้วด้วย.............
    .......................................................
    ....อ้อเกือบลืม...ขอบใจMASTERTEST ศิษย์ครู..ที่ช่วยเอารูปมาลงให้..
    .....แต่รุ่นแรกปี ๓๖ น้้น..ไม่ใช่อันที่เอามาลงให้ดูนะ..เป็นเหรียญร.๕หันข้าง..ไม่ใช่หันเฉียง..คล้ายๆเหรียญปราบฮ่อ..นารายณ์ทรงครุธเหยียบหัวยักษ์..นี่ใหญ่เต็มหลังเหรียญเลย..ยักษ์นี่ไม่ได้อมอะไรทั้งสิ้นเป็นยักษ์ไม่มีมงกุฏ..แบบเดียวกับที่หน้าบัน.....
    ...ไม่ต้องลำบากไปหารูปอีกหรอก..แค่นี้ก็พอแล้ว..ขอบใจ
    ...................................
    ...และ..ผมไม่ลืม..ตอนใหม่..ก็จะเริ่มคืนนี้เลย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2014
  2. supermanbatman

    supermanbatman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอให้คุณอามีสุขภาพแข็งแรงนะครับ...ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องราวและสาระคุณภาพที่มีให้เสมอมา...ผมจะรออ่านตอนต่อไปนะครับ...ด้วยความเคารพครับ...
     
  3. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...หวัดดี..borntobe..และ..ทุกคนในตรอบครัวผม....
    ....................................
    ....เรื่องใหม่..ตอนใหม่...........
    ..............................
    ...เกริ่น...
    ...........
    ........................................................................
    ...นารายณ์ทรงครุฑ..ในวัฒนธรรมไทย..จากจุดเริ่ม..จนมาถึง...จุดนี้..
    ........................................................................
    ....เรื่องนี่..นับว่า..ต่อเนื่องจากเดิม...เนื่องจากผมลองเข้าไปค้นดูเล่นๆ..พบว่า..เท่าที่เจอ..ไม่ได้ให้แก่นสาร
    ที่มาที่ไป..ความสำคัญ..ความเกี่ยวข้อง..ก็ว่าไปคนละทิศ..คนละทาง..เอาแค่ว่า...
    ..ชุดเครื่องแบบ..ส่วนของหมวกข้าราชการ..หน้าหมวกทำไมถึงเป็น..รูป..ครุฑ...
    ..เอกสารราชการ..ต้องมี..”ตราครุฑ”....เหรียญ..ห้าบาทสมัยก่อน..มีรูป..”ครุฑ”...
    ..ไม่ว่า..ธนบัตรอะไร..เหนือคำว่า...รัฐบาลไทย..ต้องมี..ครุฑ....ฯลฯ.....
    .........แล้ว..ครุฑ..ตัวนี้..หมายถึง...อะไร...ของใคร.....
    ...ถ้าพวกเรา..มีลูก..แล้ว..ลูกมันถามอย่างงี้...จะตอบว่าไง.......
    อาจมีหลายคนในพวกเรา..ตอบได้..แต่อย่าถามลงลึกมาก..เดี๋ยวจะไปไม่เป็น......
    .....นั่นคือ..สิ่งที่ผม..ไม่อยากให้เกิดกับ..น้องๆ..หลานๆ..ที่เป็นครอบครัวผมที่นี่...
    ..ครอบครัวผม...เป็นคนไทย..ก็ควรจะรู้เรื่องไทยๆ..วัฒนธรรมไทย..ให้ดี..ไม่สับสน..
    ...เพราะต่อไป..อีก สามสิบสี่สิบปี..เป็นปู่..เป็น..ตา..หรือ..เผลอๆ..ทวด..ไม่มีใคร
    เขียนถึง..ถามใครไม่ได้..มาถามปู่มัน..ก็ยังโชว์..ศักยภาพได้..ไม่ใช่แก่หงำเหงือก..ไปวันๆ
    ....นักวิชาการด้านวัฒนธรรมไทย...เขาก็รู้..เพียงแต่เขา..ไม่จับเอาหัวข้อ..มาเขียนเผยแพร่
    เป็นเรื่อง..เป็นราวกัน..เหมือนอย่างที่..ผมเขียนเรื่อง...กาล....เวลาพวกเราไปฟังเทศน์..
    ....ที่ธรรมมาส...เราก็เห็น..ไอ้ตัวนี้..แต่ไม่มีใครไปนึกสงสัยว่า..มันคือ..อะไร..หรือที่มาของมัน
    เป็นยังไง...
    ...............................................
    ...ที่ผมมาเขียนเรื่อง..แนวนี้..ผมว่ามันเป็นประโยชน์..และได้..สาระกว่า..หลวงพ่อไหนดัง...
    หลวงพ่อไหนแรง...ของปลอมเป็นยังไง...คนอื่นเขาเขียนกันโครมๆ..ผมไม่ต้องมาเขียนหรอก
    ..ถึงเขียนไปก็คงไม่ได้..เพราะออกนอกวงการไปแล้ว...ผมเป็นแต่เรื่องเก่า..จนถึง..เก่ามากๆ
    ...ซึ่งที่ผ่านมาก็ถ่ายทอดเรื่อง..พระเครื่อง..ประวัติวงการพระ..ไปจนเยอะแล้ว..ต่อไปก็ไม่เขียน
    ทำนองนี้อีกแล้ว....ผมก็เปลี่ยนแนว..มาที่เป็น..สาระ..ที่เกี่ยวข้องกับ..ศาสนา..ประวัติศาสตร์สังคมไทย
    ดีกว่า.....เขียนเรื่องที่มันมีปัญหาซ่อนอยู่ในตัว..อย่างงี้มันกว่า..ยกตัวอย่าง...
    ....ทำไม..เดือนนึง..มี ๔ อาทิตย์...ทำไม..๑ อาทิตย์..มี ๗ วัน..(อาทิต์ย์นึง มี ๔ วัน..เดือนนึง มี ๗
    อาทิตย์..ได้มั้ย..)..............ปีใหม่ไทย..เมื่อ สองพันปีที่แล้ว..เขาใช้..วันไหน..กำหนดได้ยังไง
    แล้วทำไม..ฝรั่งแขกจีน..เขาก็มี ๔ อาทิตย์เหมือนไทย..๑ อาทิตย์..ก็มี ๗ วัน.........วันขึ้นปีใหม่
    ฝรั่ง..ทำไมเป็นวันที่ ๑ มกราคม....ไม่ยักกะตรงกับไทย...แล้วทำไม..มันถึงเลือกวันนี้
    ฯลฯ...มันมีคำตอบ..มีที่มาที่ไปทั้งนั้น......นี่ซิ..สาระ..เรื่องแค่ปลายจมูกนี่แหละ
    .....................................................
    ............เริ่มเรื่อง..ตอนหน้า......................
     
  4. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา..มาติดตามอ่านบทความดีๆมีสาระตอนต่อไปครับ
     
  5. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...............
    ...หวัดดี..เฉียวฟงหลานรัก..และ..ทุกคนในครอบครัว....
    ......................
    ..เริ่มเรื่อง.........
    ......................
    ...........................................................
    .....เรื่องที่แล้ว...ของผม..เมื่อตอนที่..พูดถึง..หน้าบัน...รูปที่แสดงให้..เห็น..โดดเด่นที่สุด..นั่นคือ..
    ...รูป..นารายณ์ทรงครุฑยุดนาค..ที่เป็นไม้แกะ..ติดกับ..หน้าบัน....
    ..ผมก็เคยเล่าไปแล้วว่า..สัญญลักษณ์นี้..แสดงถึง..เป็นพระอารามหลวง..ที่ใช้กัน..ตั้งแต่สมัย
    อยุธยา..จนถึง..ปัจจุบัน..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า..ถ้าหน้าบันโบสถ์ที่ไหน..ไม่มีรูปนารรายณ์
    ทรงครุธ..นั้น..จะต้องเป็นแค่..วัดราษฎร์ทั่วไป...พระอารามหลวง..หลายวัดก็ไม่ได้ทำ..ยิ่ง...
    พระอารามหลวงที่สร้าง..หรือ.งปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งหมด...นั้น..เพราะโบสถ์..จะออกแนวจีน..
    ไม่มีช่อฟ้า..ใบระกา..ออกแนวเหมือนศาลเจ้าจีน..มากกว่า..หน้าบันเป็นปูน..ติดประดับ..กระเบื้อง
    เคลือบ..และ..ชามกังไส..แทน..เป็นศิลปราชนิยม..ดั่งเช่น..วัดราชโอรส..เป็นต้น......แต่ในยุค
    ก่อนนั้น..จน ๒๕๐๐...วัดราษฏร์ทั่วไปที่สร้างใหม่..และ..กรมศาสนา..ยังเข้ม..ยังเคร่งครัดต่อ..
    ธรรมเนียญปฏิบัติ..สืบมา...คือ..ไม่มีใครกล้าทำหน้าบัน..เป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ......
    ...ต่อให้ใครทำ..เมื่อกรมศาสนาเข้ามตรวจสอบ..ก่อนรับรองขึ้นทะเบียนเป็นวัด..นั้น..ก็ต้อง
    โดนแก้ไข..แน่นอน......
    ..............เพราะ..นารายณ์ทรงครุฑยุดนาค..นั้น..หมายแสดงให้ผู้คนเห็นว่า..เป็นของหลวง..หรือว่า..
    อุปถัมภ์และ..ให้ความดูแล..โดย..พระมหากษตริย์..นั่นเอง....
    ...แต่มา สามสิบกว่าปีหลัง...วัดสร้างใหม่..ที่ตรวจสอบแน่แล้วว่า..ไม่ใช่..พระอารามหลวง..ก็ดันไป
    สร้าง..เป็นแบบนี้..ผมก็ไม่เข้าใจกรมศาสนา..ไม่ได้ตรวจสอบหรือไง....ก่อนจะขึ้นทะเบียน..เป็นวัด..
    มีหลายวัด..ที่ผมเห็นด้วยตนเอง..ในตามต่างจังหวัด...
    .....ผมว่าไปแล้ว..ว่าเราเริ่มใช้กัน..ตั้งแต่อยุธยาตอนต้นเป็นเรื่อยมา...แล้วคตินิยม..มันมาจากไหนละ
    .........แน่นอน..พระนารายณ์..เป็น..เทพสูงสุด ๑ ใน ๓ ..ของศาสนาฮินดู..และ..พราหมณ์..ที่เกิดที่
    ชมพูทวีป..ดินแดนชมพูทวีป..นั้น..หมายถึง..ดินแดน..ที่อยู่เบื้องทิศใต้..ของเขาพระสุเมรุ..หรือ..เขาไกร
    ลาศ..ที่สถิตย์แห่ง..เทพ..ดินแดนที่ว่า..ในปัจจุบันนั้น..ครอบคลุม..อินเดีย..ปากีสถาน..บังคลาเทศ..
    เนปาล..สิกขิม..ภูฐาน..และ..ศรีลังกานั่นเอง...
    ..........ถ้าอยากเข้าใจ..เรื่อง..ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู..ตลอดถึง..การที่ศาสนาพราหมณ์..เดินทางเข้ามา
    ที่สุวรรณภูมิ..ให้ดีขึ้น..นั้น..ต้องหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้..และ..เป็นที่ยอมรับ..ไม่ต้องไปอ่านมั่ว
    มาจากแหล่งหลายแหล่ง..ซึ่งตัวคนอ่านเองไม่ทราบที่มาที่ไป..คือ..ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน..หรือ..รู้มาแค่
    งูๆปลาๆ..แยกแยะ..ไม่ออกว่า..อันไหนน่าเชื่อถือ..อันไหนจริง..ผมแนะนำให้อ่านจากที่เดียว..แล้ว..ที่นี่
    ..ข้อมูลดังกล่าวเป็น..มาตรฐานเชื่อถือได้..ผมก็ได้ความรู้จากที่นี่เยอะพอควร..แค่แหล่งที่มานี่ก็ไม่มีใคร
    ที่กล้าจะปฏิเสธความน่าเชื่อถือได้..นั่นคือ..
    ....................ข้อมูลจาก...เทวสถานโบสถ์พราหมณ์..เสาชิงช้า..............
    ...เข้าไปที่..เวิรลด์ไวด์เว็บ devasthan.org...รับรอง..สำหรับทั่วๆไป..พอเพียง..ไว้อ่านเสริมกับ..เรื่อง
    ราวที่ผมจะเล่า...ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ..พราหมณ์-ฮินดู..ผมก็ใช้ข้อมูลที่นี่เป็นหลัก...เพียง
    แต่ผมจะย่นย่อ..ตัดตอนบางส่วนตาม..สไตล์ของผม......
    อ่านในนั้นจะเข้าใจว่า..ทำไม..เขาไม่แยกพราหมณ์..และ..ฮินดู..ก็เขานับถือเทพองค์เดียวกัน...
    อาจเปรียบกันเล่นๆว่า..พราหมณ์เป็นครู..ฮินดูเป็นชาวบ้าน..นั่นแหละ...
    .........ย้อนกลับไป..ก็จะบอกให้เป็นความรู้..ผมว่า..หลายท่านยังไม่ทราบ..คุณไปหา..เขาพระสุเมรุ..
    ในดินแดนชมพูทวีป..หาให้ตายยังไงก็ไม่เจอหรอกครับ...แต่ถ้าคุณหา..เขาไกรลาศ..นะเจอแน่...
    ....เขาไกรลาศ..ในภาษาอังกฤษคือ..MOUNT KAILASH..อยู่บนเทือกเขาหิมาลัยครับ...แต่หา
    บ้านพระศิวะ..ไม่เจอหรอกครับ..มีแต่..หิมะ...เขานี้..รูปร่างแปลกที่สุด..ในทุกเขา..บนเทือกหิมาลัย
    ....ตีนเขา..เป็นแอ่งเว้าโดยรอบ..ตัวเขา..เกือบเป็นรูปวงกลม..ส่วนตัวเขา..นั้นมีลัษณะสมมาตร..
    ..โด่ขึ้นไป..เป็นรูป..หัวปลัดขิก..หรือ..หัวไอ้จู๋..นั่นเอง...แล้วมันจะเป็นไอ้จู๋..ของใครไปไม่ได้..นอกจาก
    พระศิวะ....พูดง่ายๆคือ..เป็นรูปทรงของศิวะลึงก์..ที่ตั้งอยู่บนฐานรอง..นั่นเอง......(..อย่างที่เราอาจ
    เคยได้เห็นตามเทวสถานของทั้งพราหมณ์ที่ร่วมกับพุทธ(โบสถ์พราหมณ์)..และ.ฮินดู(วัดแขกสีลม)
    ซึ่งเป็น..พราหมณ์-ฮินดู..แท้ๆ..ที่ไม่เกี่ยวข้องพุทธ..พวกแขกฮินดูในพระนครเป็นผู้สร้าง
    แม้แต่ทุกวันนี้..ทั้งพราหมณ์..และ..ฮินดู..ก็...
    ยังถือเป็น..เขาศักดิ์สิทธิ์..ตลอดมาและ..ยังมีผู้นับถือ..ไปแสวงบุญ..เดินทางไปกราบไหว้อยู่สม่ำเสมอ

    .................. 03%20First%20View%20Of%20Mount%20Kailash%20Close%20Up.jpg

    ................... mount_kailash.jpg

    ....................... 0Dharma%20Wheel%20From%20The%20Roof%20Of%20Dirapuk%20Gompa%20On%20Mount%20Kailash%20Outer%20Kora.jpg

    ....นี่แหละครับเขาไกรลาศ..อันศักดิ์สิทธิ์..ของจริง...ปัจจุบันที่ตั้งจริงนั้น..อยู่ในเขตฑิเบต..ของจีนครับ..ไม่ใช่ของแขก......
    ...เพิ่มเติมให้หน่อย..ในบรรดายอดเขาสูงในเทือกเขาหิมาลัย..ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของฝรั่ง
    นักปีนเขา..มันขึ้นไปฉี่บนยอดกันมาหมดแล้ว..เหลือ..ยอดนี้แหละครับ..ยอดเดียวที่ทางการ
    จีนห้ามใครปีนเด็ดขาด..รักษาน้ำใจ..คนทิเบต..และ..แขกอินเดีย..รวม..เนปาลด้วยครับ..
    .....เป็นยอดที่บริสุทธิ์จริงๆ..สมัยก่อน..แต่ไหนแต่ไร..จะมีฝรั่งอยากมาปีน..นอกจากคนพื้น
    เมืองจะไม่นำทางแล้ว..ยังถูกไล่อีกต่างหาก..ปัจจุบัน..ก็ไปได้แค่ตำแหน่ง..ถ่ายรูปของรูปที่๒
    นั่นแหละครับ..เขาห้ามเข้าไปใกล้ๆ


    .....................................ด่อตอนหน้า.............
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 เมษายน 2014
  6. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,203
    สวัสดีปีใหม่ไทยครับพี่ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงครับ รอติดตามความรู้ดี ๆ ครับ
     
  7. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ผมได้รับรู้มาว่า ไอ้ที่เป็นพญาครุฑ ทั้งหมด ทั้งตราแผ่นดิน และเอกสารราชการ ก็คือ เราเปรียบพระมหากษัตรย์ของเราเป็น สมมุติเทพ แทนองค์พระนารายณ์ หรือเป็นพระนารายณ์มาเกิด สังเกตุจากชื่อบรรดาบูรพกษัตริย์ของเรา จะมีชื่อที่เกี่ยวกับพระนารายณ์เสียส่วนมาก และพญาครุฑ ก็คือ พาหนะ ของพระนารายณ์ ก็เลยนำมาเป็นตราเอกสารต่างๆครับ เข้าใจอย่างนี้มาตลอดครับคุณอา
     
  8. MasterTest

    MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    สวัสดีครับคุณครู _/\_
    มาเฝ้ากระทู้ติดตามศึกษาต่อครับ ^__^
     
  9. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...................................
    ...ใช่นั่นคือ..ภาพรวมมุมกว้าง..ซึ่งอาจะมาเจาะความหมายจริงๆ..ที่มา..จุดเริ่มต้น..ความเกี่ยวข้อง..และ..การเปลี่ยนแปลงต่างๆ..ให้ค่อยๆได้รับทราบ..กันต่อไป..เรื่องมันยาว..หลานเอ้ย...
     
  10. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    รอติดตามครับคุณอา เพราะที่รู้มาผมก็รู้แค่นี้เองครับ รออ่านยาวๆครับผม
     
  11. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............
    ....เออ..ไม่รู้เป็นอะไร..เข้าไม่ได้..เพิ่งจะเข้าได้ตอนคี๒..นี่แหละ..
    .........หวัดดี..กำธรน้องรัก..หลานสวนพลู..และ..Mastertestศิษย์ครู..
    ..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม...
    .................
    ต่อจากตอนที่แล้ว..
    ....................
    .............................................
    ....ใครๆ..ก็ทราบว่า..พวกแขกอินเดีย..นี่เป็นนักเดินทาง..ส่วนนึงที่ต้องยอมรับคือ..ไม่ได้ไปในที่ต่างๆ
    เพื่อเผยแพร่ศาสนาหรอก..แต่ไปหาที่ทำกินกัน..คนอยู่กันเยอะแต่ไหนแต่ไร..มาหลายพันปี..แล้ว...ทั้ง
    จน..หนีภัยสงคราม..ทำให้แขกอินเดีย..กระจายไปตลอด..อาณาเขตมหาสมุทรอินเดีย..และ..แปซิฟิค
    ตอนใต้....อาฟริกาตะวันออก..เกาะมาดากัสการ์..เกาะมอริเชียส..เกาะมัลดีฟ..หมู่เกาะโซโลมอน...
    แหลมทอง..อินโดนีเซีย...พวกนี้ไปก็เอาความเชื่อคือศาสนาไปด้วย...ซึ่งก็มีทั้งพราหมณ์..และ..ฮินดู...
    ....การไปของพวกนี้..ทั้ง ๒ ศาสนาปริมาณแตกต่างกันมาก..คือ..พวกฮินดู..นั้นก็คือพวกทั่วไป..ไปหา
    ที่ตั้งรกรากใหม่เลย..ส่วนพราหมณ์นั้น..เป็นพวกที่น้อยกว่ามาก..เป็นพวกมีความรู้ประกอบพิธีกรรม..แต่
    ตามแห่เขาไปด้วย..เพราะอาจจะชักชวนกันไป..เพราะฮินดูทั่วไปไม่รู้พิธีกรรม..ต้องพึ่งพราหมณ์..ซึ่งพวกพราหมณ์
    นั้น..ต่างกันจากฮินดูอย่างชัดเจนอย่างนึง..คือ..พวกนี้มี..วรรณะเดียวคือ..วรรณะพราหมณ์..ที่อยู่ในระดับ
    สูง..เป็นเจ้าพิธีกรรม..เป็น..ครู..ลูกผู้ชายทุกคนต้องเรียนรู้พิธีกรรม..พระเวทต่างๆ..คือเรียกว่า..ทุกคนพร้อม
    ที่จะทำหน้าที่..เป็นเจ้าพิธีทางพราหมณ์ได้..แต่ตำแหน่งหัวหน้าจะตกอยู่ที่..ลูกชายคนโตก่อน..น้องๆก็ทำ
    หน้าที่ผู้ช่วยไป...ในครอบครัวใหญ่ๆ..ลูกชายคนรองๆบางคน..ก็อาจจะไปประกอบอาชีพทั่วไปได้..แต่..
    ความเป็นพราหมณ์..ไม่ได้หายไป..ถ้าพี่ชายที่เป็นหัวหน้าพราหมณ์..เกิดเสียชีวิตลง..หรือ..ป่วยจนปฏิบัติ
    หน้าที่ไม่ได้..ลูกชายคนถัดมาตามธรรมเนียมปฏิบัติ..ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรอยู่ตอนนั้น..ก็ต้องเลิก..และ..
    กลับมาทำหน้าที่..หัวหน้าพรามณ์..รับช่วงต่อไป..มันเป็นอย่างนี้..มาไม่รู้กี่พันปีแล้วตั้งแต่เริ่มศาสนา...
    โดยเฉพาะ..สายตระกูลที่ต้องรับใช้กษัตริย์..ซึ่งนับเป็นสายตระกูลสูง...เป็นมาจน..ปัจจุบันครับ.....
    ........ที่ผมบอกอย่างนี้ได้..เพราะสัมผัสมาด้วยตัวเอง..เนื่องจาก..ลูกน้องของพ่อผม..คนนึง..เป็นนายทหาร
    ..แกสนิทกับ..ครอบครัวผมอย่างดี..แกผิวพรรณดีมาก..หน้าก็ไม่ออกแขก..หน้าไทยๆนี่แหละ..แต่ผิวขาว
    ..นิสัยสุภาพ..เรียบร้อย..ยศครั้งสุดท้าย..แกเป็น..พันตรี...ไม่กินเหล้า..ไม่สูบบุหรี่..แต่มาวันนึง..ก็มาหาพ่อ
    ผม..ขอลาออกจากราชการ..เนื่องจาก..แกเป็น..พราหมณ์..และ..ตระกูลของแก..ไม่ใช่พราหมณ์ธรรมดา
    ..แต่เป็นตระกูลพราหมณ์..ชั้นสูง...รับใช้ใต้เบื้องยุคลบาท..เป็นตระกูลของ..ราชครูพราหมณ์..ที่เป็นประธาน
    ของพราหมณ์ทั้งปวง..ในไทย..บอกไปถ้าอยู่ในแวดวงนี้..หรือ..มีความรู้สักหน่อย..จะรู้จักดี....
    ....................................รังสิพราหมณกุล............................................
    .....เนื่องพี่ชายคนโต..ซึ่งดำรงตำแหน่ง..สูงสุดคือ..พระราชครูวามเทพมุนี..เสีย...พี่ชายคนรอง..ต้องขึ้นรับ
    ตำแหน่งแทน...ตัวแกเป็นน้องถัดมา..จึงต้องไปทำหน้าที่เป็นรองของพระราชครูวามเทพมุนีคนใหม่แทน
    ..ตามธรรมเนียมปฏิบัติแทน...เพราะผู้ที่เป็นรองต้องเตรียมความพร้อมไว้ก่อน..เพื่อจะทดแทนได้..ซึ่งแก
    เล่าว่า..น้องชายของแก..อีกคนนั้น.ก็ทำหน้าที่พราหมณ์อยู่แล้ว..แต่แกต้องไปตามศักดิ์..เพราะเป็นพี่....
    ...พ่อผมเสียดายมาก..เพราะแกเป็นทหารที่เคร่งครัด..ระเบียบวินัยดี..สุภาพอ่อนโยน..ซึ่งมีน้อย..แต่ก็หมด
    สิทธิ์ที่จะทักท้วง..แกเล่าให้พ่อผมฟังว่า..ใจแกนะไม่อยากไปหรอก..เพราะเป็นทหารมานาน..และรักใน
    ชีวิตทหาร..แต่นี่..มันเป็นกฏของศาสนาแก..ที่แกเลี่ยงไม่ได้...........เหตุการณ์นี้..มันกว่า ห้าสิบปีมาแล้วครับ..
    ......................แต่นี่แหละ..จึงบอกให้เห็นว่า..ทำไม..ศาสนาพราหมณ์..ถึงเหนียวแน่น..และ..อยู่กันยั่งยืน
    ......ดังนั้น..ที่บอกว่า..ครอบครัวพราหมณ์..ลูกชายทุกคน..สามารถประกอบพิธีกรรมได้..เมื่อไปอยู่ปนกับ
    พวกฮินดู...ซึ่ง..มีหลายวรรณะ..กษัตริย์..แพศย์..สูทร..จันฑาล...จึงมีประโยชน์..สามารถช่วยฮินดู..ที่ไม่มีความรู้
    ประกอบพิธีกรรมได้ด้วย..หรือ..แม้แต่การตั้ง..ศาสนสถาน..ในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์..แหล่งที่พวกฮินดู..
    ไปอยู่..และ..สร้างอาณาจักร..รวมถึง..ทำให้พวกท้องถิ่น..มานับถือศาสนาของตนมากที่สุด..คือ....
    .........อินโดนิเซีย...โดยเฉพาะ..ที่เกาะบาหลี...ที่ๆเป็นที่มั่นสุดท้าย..หลังจาก..แขกอพยพมุสลิมอินเดีย..
    จะมารุกราน..ทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศไปนับถือ..ศาสนามุสลิมแทน..ที่นี่..คนที่เป็นคนพื้นเมือง
    ดั้งเดิม..บาหลีนั้น..๙๕ เปอร์เซนต์ขึ้นไป..นับถือ..ฮินดูครับ..คนนอกคือ..พวกข้าราชการที่มาจากเกาะอื่น
    ซึ่งมีอยู่ไม่ถึง ๕ เปอร์เซนต์ของประชากร..ถึง..จะเป็น..มุสลิม...

    ............. vishnugaruda1.jpg

    .........นารายณ์ทรงครุฑ..ที่..เกาะบาหลี..อินโดนิเซีย.........

    ........................................ต่อตอนหน้า..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  12. MasterTest

    MasterTest เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,031
    สวัสดีครับคุณครู _/\_
    ภาพนี้ครุฑโหดมากครับ พระนารายณ์ก็เข้ม ถ้าองค์เป็นๆเหาะลงมายืนต่อหน้าต่อตาแบบนี้ นึกไม่ออกเลยว่าจะวิ่งหนีดีหรือยกมือไหว้ดี ^__^
     
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...................................
    ...นี่แหละ..เอกลักษณ์..งานศิลป์..ของบาหลี..ที่ออกแนวโหด..และ..ละเอียด..วานศิลป์เค้าเน้นอารมณ์..มากๆ..ฝรั่งชอบ..ยิ่งฝีมือ..แกะงานไม้..
    ..ถ้าคนเคยสัมผัสของบาหลีจริงๆ..ยอมรับไปเถอะ
    ไม่ต้องอาย..ไทยเราสู้เค้าไม่ได้....งานแกะไม้บาหลี..จึงเป็น๑ใน..งานแกะไม้ขายดีที่สุดในโลก....ที่เอารูปมาให้ดู..ภาพล่างนี่ขยายมาใหญ่กว่าของจริงนะครับ..ของเล็กกว่านี้..



    [​IMG] DSC_0687.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2014
  14. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    อวยพรปีใหม่ไทยย้อนหลังนะครับคุณอา ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะครับ

    ติดตามเป็นกำลังใจให้เสมอครับผม

    เรื่องพระนารายณ์ทรงครุฑ นี่ของชอบเลย
     
  15. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................
    ...หวัดดี..หลานเขม..และ..Mastertestศิษย์ครู..
    ...............
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว..
    .................
    .........................................................
    .......เนื่องจาก...พวกพราหมณ์นั้น..เป็น..ครู..เป็น..นักวิชาการ..และเป็น..ผู้รอบรู้ในศาสตร์วิทยาการ..หลาย
    ด้าน..วัฒนธรรม..อารยธรรม..ยุคโบราณที่ผ่านต่อ..จากรุ่นสู่รุ่น..ธรรมเนียมปฏิบัติ..ของศาสนา..จึงเรียกว่า
    ทำให้..พราหมณ์นั้นมีค่า..ในสังคมยุคโบราณ..ทั้งในชมพูทวีป..โดยเฉพาะนอกชมพูทวีป..ที่สังคม..วัฒนธรรม
    ..อารยธรรม..ยังล้าหลัง...อย่าในแหลมทอง..สุวรรณภูมิ..จนไปยัน..อินโดนิเซีย..พราหมณ์บางกลุ่มซึ่งอยากไป
    หาชีวิตใหม่ที่ดีกว่า..จึงอยากไปโพ้นทะเล..บ้าง.........
    .........ผมเชื่อว่า..แม้ก่อนหน้าที่..พระเจ้าอโศกมหาราช..จะส่งพระเถระที่นำศาสนาพุทธไปเผยแพร่..รอบชมพูทวีป
    เมื่อกว่า สองพันปีที่แล้วนั้น...ก็คงต้องมีพราหมณ์..บางกลุ่มเริ่มเดินทางออกไปทางเรือบ้างแล้ว..บางกลุ่มอาจ..
    ประสพความสำเร็จ..อยู่รวมกับเจ้าของพื้นที่ได้..บางกลุ่มอาจไม่รอด..ซึ่งถ้าพวกนี้..ออกเดินทางทางเรือ..จาก..
    อินเดียใต้..วิ่งมาทางตะวันออก..แผ่นดินแรกใกล้สุด..ที่จะพบนั้น..ก็คือ..แหลมทอง..หรือสุวรรณภูมิ....
    สำหรับเมืองไทยนั้น..ก็เรียกว่า..ตั้งแต่..ระนอง..ตะกั่วป่า..พังงา..ด้วยการพิสูจน์ทางโบราณคดีปัจจุบัน..หลักฐาน
    ที่พบว่า..ที่นี่..เป็นแหล่งค้าขายสินค้า..หรือ..แม้กระทั่งเครื่องเทศ..มาตั้งแต่ก่อนยุคกรีก..รุ่งเรืองด้วยซ้ำ..
    ซึ่งอาจเก่ากว่ายุคพุทธกาลด้วย...(..เรือใหญ่จอดอันดามัน..ลงเรือเล็กตามคลอง..อาจเดินทางๆบกมั่งก็
    มาทะลุอ่าวไทย..แล้วก็..ส่งสินค้าลงเรื่อใหญ่อีกที..เชื่อมระหว่าง..มหาสมุทรอินเดีย..และ..แปซิฟิก.....
    ซึ่งเราพบหลักฐาน..ไปตามเส้นทางตลอด..อย่างที่..เขาพนม..เขาสก..เป็นต้น)
    ..และเป็นการง่าย..สำหรับกลุ่มพราหมณ์ที่นี่..ในการเชื่อมต่อกับ..กลุ่มพราหมณ์ที่อินเดีย...
    .....อย่างที่บอกว่า..พราหมณ์เป็นพวกมีความรู้..และ..กลุ่มเล็ก..ไม่รบทัพจับศึกกับใคร..เมื่อไปถึงที่ๆมี
    อารยธรรมอยู่บ้าง..ก็ย่อมเป็นที่ต้อนรับ..ยิ่งพอถึงเมื่อคราวพระเจ้าอโศกเผยแพร่ศาสนานั้น..พระสงฆ์
    ที่เดินทางออกนอกประเทศมาก็ไม่ได้มาพวกเดียว..เพราะ..มีกลุ่มพราหมณ์..ที่เดินทางมาด้วย..ดังนั้น..
    จึงมีโอกาศเป็นไปได้มากว่า..พระโสณณะเถระ..และ..พระอุตตระเถระ..อาจเดินทางเข้ามาสู่สุวรรณภูมิ
    ตามเส้นทางนี้..เพราะสะดวก..เรียกว่า..พอเข้าสู่เดือนพศจิกายน..ทะเลฝั่งมหาสมุทรอินเดีย..เริ่มสงบ..
    ..ก็มาถึงสุวรรณภูมิได้ง่าย..ปลอดภัย..และเร็วกว่า..ที่จะเดินทางๆบก...ซึ่งต้องผ่านป่าเขา..โจร..โรคภัยไข้
    เจ็บ..สัตว์ร้าย..นานาสารพัด.....นี่คือจุดที่วัฒนธรรมอินเดียแพร่ขยายเข้าสู่แดนสุวรรณภูมิ..เลยทำให้...
    ดินแดนแถบใต้นี้..เจริญมาก..และ..เป็นที่กำเนิดอาณาจักรโบราณที่ยิ่งใหญ่ต่อมา..ไม่ว่าจะเป็น..ศรีวิชัย
    ..ตามพรลิงก์....ตลอดจนขยับข้ามอ่าวไทยไปถึง..เขมรญวน..กลายเป็น..อาณาจักรฟูนัน..ต่อไปอีก....
    ...........บางคนที่..สงสัย..เพราะมีหลายคนคุยกับผม..แล้วไม่ค่อยเชื่อ..ตอนนี้..ก็น่าจะเชื่อได้แล้ว..นั่นคือ
    ..ที่มาของ...สำนักเขาอ้อ..แห่งพัทลุง..ที่ประวัติความเป็นมา..หลายคนคิดว่า..ราคาคุย..ไม่คุยหรอกครับ
    ..เรื่องจริง..ที่อายุของสำนักนี้..เป็นสถาบันทางวิทยาการที่ให้ความรู้เฉพาะทาง..ที่เก่าที่สุดในประเทศ..
    คือมากกว่า..พันปี..ด้วยเหตุผล..ตามที่เล่ามานี่เอง...พราหมณ์..นั้น..กระจายตัวอยู่เป็นกลุ่ม..รอบๆ..เส้น
    ทางค้าขาย..ที่มีความเจริญ..ทั้งฝั่งอันดามัน..และ..อ่าวไทย..เพียงแต่ส่วนที่..กระจายต่ำลงมาอยู่ที่..พัทลุง
    นี่..สามารถสร้างสำนักขึ้น..และ..ผสมกลมกลืน..ระหว่าง..พุทธ..กับ..พราหมณ์..ได้อย่างลงตัว..ค้นคิด
    ประดิษฐ์วิชา..อย่างต่อเนื่อง..และ..สร้างรูปแบบวิชาอาคม..ที่มีรากฐานมาจาก..พราหมณ์..ดัดแปลงเข้า
    มาทางสายพุทธ..ขณะเดียวกัน..ก็ยังมีส่วนที่เป็นสายพราหมณ์..แท้ๆ..สอดแทรกไปพร้อมกัน...จะสังเกต
    ว่า..ที่นี่..จึงผลิต..ลูกศิษย์ทั้งบรรพชิต..และ..ฆาราวาส..ออกมาด้วยกันตลอด..ต้องมีคนรับทอดกันทั้งสอง
    สาย..อย่างต่อเนื่อง..ระบบจัดการที่นี่ยอดเยี่ยม..ผมไม่แปลกใจที่ทำไมถึงได้ยืนยาว..มาเป็นกว่าพันปี..
    ..................................
    ....ก่อนที่จะพูดถึง..สำนักเขาอ้อ..ต่อ..ผมจะให้ท่านเข้าใจ..ที่มา..ที่วิทยาการจาก..สายพราหมณ์..ไม่ว่า..
    ..โหราศาสตร์..แพทย์แผนโบราณ..พระเวท..นั้นเข้ามาสู่ชาวไทยได้ยังไง...เมื่อในอินเดียนั้น..วิทยาการ..เหล่านี้
    ..จะไม่มีทางที่..จะถ่ายทอดไปสู่..คนนอกทั่วๆไป..โดยเฉพาะวรรณะอื่น......เพราะต้องเข้าใจว่า..นี่ก็คือ..หนทาง
    ทำมาหากิน..ของพราหมณ์...ด้วย..มันทำให้พราหมณ์..มีความสำคัญในสังคม.....
    .......เกือบทุกท่าน..จะทราบว่า..อินเดีย..นั้นมีการแบ่งชั้นวรรณะ..มาตั้งแต่ก่อน..ที่ศาสนาพุทธจะถือกำเนิด
    แล้ว...คือ
    ....พราหมณ์....นักบวชผู้เป็นครูผู้มีความรู้..วิทยาการ..และ..ติดต่อ..เป็นสื่อของเทพ..มาอวยพรให้ผู้นับถือ
    ..เป็นที่ปรึกษา..ของกษัตริย์...ในทุกเรื่อง...รวมถึงผู้สืบสายเลือดต่อๆมา....
    ....กษัตริย์...ผู้ปกครอง..เมือง..หรือ..แว่นแคว้นต่างๆ..รวมทั้งผู้ที่สืบสายเลือดต่อๆมา....
    ....แพศย์..เป็นมีความสำคัญ..เป็นกลไก..ของแว่นแคว้น..ไม่ว่า..ขุนนาง..แม่ทัพ..นายกอง..พ่อค้า..เศรษฐี..
    ..เกษตรกร..ทำมาค้าขาย...มีทรัพย์สิน..ที่ดินเป็นของตัวเอง...รวมทั้งผู้สืบสายเลือดต่อๆมา
    ....สูทร...คือ..ผู้ใช้แรงงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ..ปฏิบัติตามผู้ที่มีวรรณะสูงกว่า..เรียกง่ายๆไม่ต้องใช้สมอง..
    ..เช่น..กรรมกรแบกหาม..ขุดดิน..รวมถึง..ไพร่ทหาร..ชั้นล่าง...พวกนี้จะไม่มีที่ดินเป็น..ของตัวเอง..
    รวมถึง..ผู้สืบสายเลือดต่อๆมา...
    ...จัณฑาล..คือ..พวกที่เป็นที่รังเกียจ..ของสังคม..ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อ..รักษาไม่หาย..เช่นโรคเรื้อน..
    กุฏฐัง...หรือ..ที่จัดไว้ให้..เพื่อไม่ให้..แต่ละวรรณะ..ข้ามกัน..ก็คือ..พวกลูกหลานที่เกิดจากการข้ามวรรณะ
    รวมถึงผู้สืบสายเลือดต่อๆมา....
    ............เรียกว่า..ระบบสังคมของอินเดีย..พราหมณ์นั้น..จัดแจงไว้หมด..วรรณะไหน..มีหน้าที่อะไร..

    .............. %E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD06.jpg

    ..ฤาษีที่..สำนักเขาอ้อ...ซึ่งฤาษี..หรือ..พระดาบส..ก็มาจากสายพราหมณ์..นั่นเอง
    (ขอบคุณภาพจาก do2you.blogspot.com)
    ..........................ต่อตอนหน้า............................
     
  16. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ได้ความรู้มากๆ เลยครับ

    ขอเรื่องเขาอ้อต่อเลยนะครับอา :cool:
     
  17. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    สอดคล้องกับที่ผมเคยซื้อหนังสือตำนานเขาอ้อมาอ่านครับ เป็นพราหม์ก่อนพุทธ แต่ถูกพุทธกลืนไปหน่อย เพราะกระแสพราหม์ตกไป พุทธเฟื่องฟูอย่างมาก ขอบพระคุณครับคุณอา
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............
    ...ขอแทรกเรื่องหน่อย..คือ..มันหงุดหงิด..ที่บรรดาผู้มาpostในกระทู้ต่างๆ
    ..ในเว็บบอร์ดด้านพระเครื่อง(ทั้ง..ห้องประสพการณ์..และ..วิธีดูพระฯ)..ใช้
    ภาษา..หรือ..คำผิดๆ..แล้วกลายเป็นโรคระบาด..ติดกันไปเยอะ...
    ...คนอื่นช่างมัน..แต่ผมไม่อยากให้น้องๆหลานๆในครอบครัวผมติดไปด้วย..
    ..........................
    ..คำแรก..ผมเคยบอกมาหลายครั้ง..และจะบอกอีกที.....
    ..."ศิษย์เอก"....อันนี้ใช้กันเปรอะ..เลอะเทอะ..ไปหมด....
    ....ความจริง..ควรจะใช้.."ศิษย์".....เฉยๆ.....
    ...เพราะคำว่า.."เอก"..หรือ..เอกะ..นั้น...หมายความว่า หนึ่ง..เป็นที่หนึ่ง..
    เด่นที่สุด..ที่สุด..
    ...ดูพวกหนัง..ละคร..ซิ..นี่ใช้ถูก.."ตัวเอก"..ก็มีแค่..คนเดียว...
    .."ตัวเอกฝ่ายชาย".."ตัวเอกฝ่ายหญิง"......
    ..ก็เช่นกัน...ศิษย์เอก..ก็ควรมีคนเดียว.....
    ..หลวงพ่อเอง..คงไม่ยอมรับว่าตัวเอง..เป็นศิษย์เอก..เพราะถ้าตัวหลวงพ่อเอง..ทำแบบนั้น.....
    ...เป็นการยกตนข่ม..ศิษย์ท่านอื่น..ก็คงไม่น่ากราบแล้วละ..
    ....แต่ลูกศิษย์แต่ละหลวงพ่อนี่ซิ..ตือตัวปัญหา..ต่างก็ว่าอาจารย์ของตัวเป็นศิษย์เอก
    กันทั้งนั้น......
    ....ถ้าเป็นแบบนี้..ยังอนุโลม.."ศิษย์เก่งด้าน...."..จะเป็น..ตะกรุด..
    ผง...ผ้ายันต์..ฯลฯ..ก็ว่าไป.........
    ...หลวงพ่อเหล่านี้..ไม่ได้มาสอบแข่งขันด้วย..ข้อสอบเดียวกัน...ครับ
    .....ถ้าเป้นอย่างงั้นจริง..อย่างงี้ซิ...คนที่ได้ที่ ๑ ก็สมควรเป็นศิษย์เอก..
    ที่ทุกคนยอมรับ....แล้วเรื่องจริงแบบนี้มันมีซะที่ไหน.......
    ......ตราวหลังถ้าพวกเรา..ใครจะpost..เรื่องเมื่ออ้างถึง..ใครเป็นลูกศิษย์ใคร...
    ...เอาแค่......"ศิษย์"..หรือ.."ลูกศิษย์"..ก็พอแล้ว....
    ........................................
    ...อันที่สอง...นี่เฝือ..จนไม่รู้จะเฝือ..ยังไง..ใช้กันเปรอะ..โดยไม่เข้าใจ
    ความหมายที่..แท้จริง..เพียงแต่ใช่แล้ว..มันดูดี..แต่ผิดความหมาย...
    ..........สหธรรมมิก...............
    ...ลองไปเปิด..พจนานุกรมไทย..ตามเว็บต่างๆดูได้...
    ความหมาย..ก็คือ..ผู้ที่ร่วม..ยึดถือ..ธรรม..อันเดียวกัน..แบบเดียวกัน....
    .................ไม่ใช่..เพื่อน..หรือ..สหาย..หรือ..คนคุ้นเคย...............
    ....ชาวพุทธที่นับถือศาสนาแบบเข้าใจ..เดร่งครัดในธรรมของพระพุทธเจ้า...
    .........เขาเหล่านี้..คือ..สหธรรมมิก....คนนึงอยู่พัทลุง..คนนึงอยู่เมืองนน..เกิดมาไม่เคยรู้จัก..เห็นหน้าค่าตากันเลย...ก็เป็นสหธรรมมิกกันได้........
    ...........ดังนั้น..พระ..หรือ..หลวงพ่อทุกองค์ในเมืองไทย..ที่เคร่งครัด..ในธรรม...
    หรือ..แม้แต่พระฝรั่งที่อยู่ต่างประเทศ......ก็เป็น..สหธรรมิก..กัน..
    .......
    ..........คือ..มันลำบาก..หรือ..เชยตรงไหน..ไม่ทราบ...
    ......ถึง..ใช้คำว่า..เพื่อน...สหาย..หรือ..คุ้นเคย..ไม่ได้....
    ....อยากจะ..เท่ห์..ใชัคำสวิงสวาย..แต่ใช้..คำผิดความหมาย...
    ........แล้วไอ้พวกไม่รู้เรื่อง..ก็..แห่ไปใช้กัน..กลายเป็น..โรคระบาด
    ............................................
    ....ดังนั้น..สำหรับ..สองคำ..นี้..พวกเราที่เป็นคนในครอบครัวผม..
    .........ผมขอเลย..ว่า..เปลี่ยนซะ...เลิกใช้......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2014
  19. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    ขอบพระคุณครับคุณอา..... มาติดตามบทความดีๆตอนต่อไปครับ
     
  20. bearkery

    bearkery เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,668
    ค่าพลัง:
    +6,383
    รอติดตามอ่านตอนต่อใปครับคุณลุง
     

แชร์หน้านี้

Loading...