ชินพร สุขสถิตย์ เป็นนามของผู้สร้างพระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่เป็นอมตะจนถึงทุกวันนี้ "ถ้าใครเอามาคืนก็รับไว้เถิด อีกหน่อยพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอ"*** เป็นคำพูดที่หลวงปู่ทิมพูดกับชินพร ตอนที่ท่านยังไม่ละสังขาร ชินพรเป็นชาวเมืองลพบุรี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2481 จบการศึกษาปริญญาวารสารศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้เข้าทำงานหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ก่อนสอบบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนชั้นตรีได้ที่กรมชลประทาน ทำหนังสือพระเล่มแรกของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2514 ชื่อหนังสือ อภินิหารและพระเครื่อง วางจำหน่ายเล่มละ 5 บาท
ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงปวารณาตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงปู่ทิม อิสริโก หรือพระครูภาวนา ภิรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง สุดยอดพระเกจิอาจารย์ยุคหลังปี 2500 พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านล้วนมีประสบการณ์ทุกรุ่น
พระกริ่งชินบัญชร คือ สุดยอดพระเครื่องของหลวงปู่ทิม เพราะสร้างเพียงครั้งเดียวไม่ยอมสร้างอีก มีรุ่นเดียวเนื้อเดียวเท่านั้น "นั่น ก็คือพระกริ่งชินบัญชรที่หลวงปู่ทิมคอยให้ผมไปสร้าง ผมขอบันทึกเรื่องราวของพระกริ่งชินบัญชรไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับชีวิตของ ผมที่มีวาสนาได้เข้าไปสร้างถวายหลวงปู่ทิม พระอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง" ชินพรบอกกล่าวให้ฟัง
หลวงปู่ทิมบอกว่า ชินบัญชรเป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก แล้วท่านบอกว่าถ้าจะสร้างพระกริ่งชินบัญชรก็ให้สร้างตามตำราที่ได้มา พร้อมกับให้ลงพระคาถาชินบัญชรมาให้ด้วย ในปี 2516-2517 นั้นพระยันต์ 108 และนะ 14 ยังไม่เป็นที่เปิดเผยและแพร่หลายกันมากนัก
การสร้างพระกริ่งมีกรรมวิธีมากต้องใช้เวลานานพอสมควร ท่านจึงให้สร้างพระสมเด็จขึ้นมาก่อน ให้ชื่อว่าพระสมเด็จชินบัญชร เช่นเดียวกับพระกริ่งชินบัญชร และให้แจกเป็นที่ระลึกในวันเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรด้วย พระกริ่งต้นแบบเมื่อผมได้รับอนุญาตจากหลวงปู่ทิมให้สร้างพระกริ่งและท่านก็เป็นคนตั้งชื่อให้ว่า 'พระกริ่งชินบัญชร'
สำหรับ แบบหรือรูปทรงของพระกริ่งนั้นยังเป็นปัญหาไม่รู้ว่าจะทำรูปแบบอย่างไร "ผม คุณประชา ตรีพาสัย และคุณอารมย์ ทับสุวรรณ เราทั้งสามคนสนใจเรื่องพระกริ่ง โดยเฉพาะสายวัดสุทัศน์ พวกเราถึงกับเคยไปหาอาจารย์หนู หรือนิรันดร์ แดงวิจิตร ท่านยังมอบรูปพระกริ่งวัดสุทัศน์มาให้ผมหลายรูป ผมได้เอามาลงหนังสืออภินิหารและพระเครื่องซึ่งลง เรื่องราวเกี่ยวกับพระกริ่ง"
ส่วนรูปแบบของพระกริ่งชินบัญชร ซึ่งหลวงปู่ทิมอนุญาตให้สร้าง "พวกเราก็ปรึกษากันว่าควรจะถอดแบบจากพระกริ่งใหญ่ของราชวงศ์ถัง ด้วยพระกริ่งใหญ่นั้นถือได้ว่าเป็นต้นแบบของพระกริ่งที่สร้างในประเทศไทย เกือบทั้งหมด" แต่เราจะเอาพระกริ่งใหญ่ที่ใดมาถอดแบบ เพราะในยุคนั้นในปีนั้นพระกริ่งใหญ่นั้นเพียงได้ยินแต่ชื่อรูปร่างหน้าตา เป็นอย่างไรก็แทบจะไม่รู้จัก
"รูปร่างที่จะเห็นได้จากหนังสือพระเครื่องนั้นไม่มีเลย แต่คุณอารมย์บอกว่าเสี่ยเพชรลูกชายเจ้าของร้านขายผ้าหลีแช ถนน 13 ห้างบางลำภู มีพระกริ่งใหญ่อยู่องค์หนึ่ง ขอถอดพิมพ์มาทำแบบคงจะได้ และเราทั้งสามคนไปหาเสี่ยเพชรที่ร้านขายผ้าชื่อดัง เสี่ยเพชรทราบวัตถุประสงค์ของพวกเราก็อนุโมทนา และยินดีให้ยืมพระกริ่งใหญ่มาถอดแบบพระกริ่งใหญ่"
"เราเอามาให้ช่าง สมร รัชชนะธรรม ถอดแบบ เป็นหุ่นเทียน 5 องค์ เข้าดินไทยเอาไปหล่อกันบนยอดดอยแม่ปั๋งในพิธีเททองหล่อพระกริ่งอรหังที่เดชา ศิริรัตน์ และน.พ.สุพจน์ ศิริรัตน์ ร่วมกันสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2517 จากนั้นได้เอาไปตกแต่งให้เป็นต้นแบบพระกริ่งชินบัญชรตามความคิด และจินตนาการเองตามใจชอบ"
ปัจจุบันพระกริ่งชินบัญชรมีราคาเนื้อทองคำหลักล้าน เนื้อนวะ ก้นเงิน ก้นทองแดง ก้นอุดผงพลายกุมาร มีราคาองค์ละหลายแสนบาท "ผมโชคดีที่ภรรยาผมได้เก็บพระกริ่งชินบัญชรไว้ในครอบครอง"
ที่มา http://www.itti-patihan.com/เปิดตัว-ชินพร-สุขสถิตย์-ผู้สร้าง-พระกริ่งชินบัญชร.html
หมายเหตุ *** เมื่อพระกริ่งชินบัญชร ออกใหม่ๆ กลางปี ๒๕๑๗ ผู้จองต่างผิดหวังที่พระออกมาไม่สวย พระกริ่งที่ออกให้บูชาองค์ละ ๓๐๐ บาท เมื่อออกแล้ว มีผู้เอามาขายคืน ผมรับคืนจนใจเสียเลยปรารภให้หลวงปู่ทิมฟัง ท่านบอกผม "ก็รับไว้เถิด อีกหน่อยพลิก แผ่นดินหาก็ไม่เจอ" ....เมื่อกาลเวลาผ่านไปไม่กี่ปีก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำพูดของ ท่านเป็นจริง หลังจากหลวงปู่ทิมพูดประโยค นี้ได้เพียง ๒-๓วัน ผู้จัดการธนาคาร สหกรณ์การเกษตร สาขาระยอง ในสมัยนั้นมาบูชาพระกริ่งชินบัญชรที่ผมรับคืนมาไปหมดในราคาเดิม และบอกว่ามีเท่าไร เอาหมดเพราะคุณเฆมี นำพระกริ่งชิน บัญชรไปอธิษฐานตัดรุ้งกินน้ำ ขึ้น ไปตัดกันบนดาดฟ้าหลังคาธนาคาร พนักงานธนาคารเห็นกันเกือบทุกคน และอีกไม่กี่วันถัดมาเถ้าแก่เรือประมงหลายลำมาหาพระกริ่งชินบัญชรกันถึงวัดละหารไร่ เขาเล่าให้ผมฟังว่า ไต้ก๋งเรือของแกเป็นคนบ้านค่าย บอกว่าหลวงปู่ทิมเป็น พระซุ่มแบบเสือซ่อนเล็บ ท่านเก่งจริงๆ อีแนะให้อั๊วเอาพระกริ่ง ติดไว้บนเสากระโดงเรือทั้ง ๔ ทิศ แล้วจะรอดตัว เพราะเวลานั้น เรือประมงมักถูกจม หรือไม่ก็โดน ทหารเรือญวณจับ อั๊วก็ทำตาม อีบอก เรือที่ออกพร้อมๆ กัน ๖-๗ ลำ มีเรือของอั๊วลำเดียวที่หลบ รอดทหารเรือญวณได้ทุกครั้ง
หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่, อิทธิญาโณ
พ.ต.ท.จิรภัทร กล่าวว่า การสร้างพระกริ่งชินบัญชร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อ.บ้าน ค่าย จ.ระยอง โดยอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์พุทธาคมของหลวงปู่ทิมได้รวบรวมแผ่นยันต์ แผ่นจาร โลหธาตุที่เป็นมงคลต่างๆ เช่น ยอดนพศูล สายล่อฟ้า หลังโบสถ์ หลังคาวิหาร หลังคาเจดีย์ เครื่องใช้ทองโบราณ นากโบราณ เงินโบราณ สำริดโบราณ มีชนวนมวลสารสำคัญ เช่น จ้าวน้ำเงิน จ้าวน้ำทอง เหล็กละลาย เหล็กไหล ชนวนโลหะ ทุกรุ่นของวัดสุทัศน์ และโลหธาตุที่เป็นมงคลต่างๆ อีกมากมายหลายชนิด ได้นำมาเททองหล่อหลอม และสร้างพระกริ่งชินบัญชรพร้อมด้วยพระชัยวัฒน์ สร้างตามตำราเดิมของสมเด็จพระพนรัต วัดป่าแก้ว
ในคัมภีร์เก่าโบราณบอกว่า ให้ลงยันต์ 108 นะ 14 เป็นพระคาถาชินบัญชรเป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์อ้างบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่อุบัติแล้วในโลกธาตุนี้ทั้ง 28 พระองค์ และอ้างบารมีของพระอรหันต์องค์ที่สำคัญ
ให้นำมวลสารที่เป็นมงคลต่างๆ ผสมกับยันต์ที่ตามตำราให้นำมาเททองหล่อเป็นพระกริ่งและพระชัยวัฒน์
พระกริ่งมีพุทธคุณขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ ขับไล่ป้องกันเสนียดจัญไร และบำบัดทุกข์ต่างๆ
พระชัยวัฒน์ มีพุทธคุณด้านประสบความสำเร็จ ชนะอุปสรรคทุกอย่าง
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdOekExTURrMU5BPT0=
พระกริ่งชินบัญชร( หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ )
ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 19 กันยายน 2013.