ผมมีเรื่องที่เหลือเชื่อ และ ไม่คาดคิดมาก่อนที่เกี่ยวกับงานผมเองในช่วง สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เองครับ ตอนแรกกะว่าจะไม่มาเขียนบอกเพื่อนๆพี่ๆ ที่หลังอดใจไม่ได้ก็ต้องมาเขียนบอกให้ทราบนะครับ คือ เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงประมาณเดือน มิถุนายน กรกฎาคม ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเสนอราคางานบ้าน 4 หลัง ให้กับพี่คนหนึ่งนะครับ พอเสนอไป พี่เค้าก็บอกว่า ให้ช่วยพี่คิดแบบเสนอราคาอาคารสักหลังหนึ่งที่อยู่ในวัด เป็นอาคารณาปณกิจ 3 ชั้น ให้ด้วยนะ แกร้อนใจมากที่ไม่มีใครช่วย ได้เลย ผมก็เลยช่วยแกคิดแบบเสนอราคางาน เพื่อจะตั้งเอาไว้เป็นงบประมาณในการสร้างอาคารนะครับ พี่เค้าเป็นประธานในการจัดหาเงินมาสร้างนะครับ และให้ช่วยทำแบบ 3D ออกมาให้ด้วยนะจะได้เห็นได้ว่าอาคารที่สร้างเสร็จแล้วนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ผมก็ทำให้พี่เค้านะครับ พอทำเสร็จแล้วพี่เค้าก็นำเสนอในที่ประชุม พี่เค้าชอบมากเลยแล้วบอกให้ผมคิดราคาค่าทำมาให้ด้วย ผมก็บอกกับพี่ไปว่าไม่เป็นไรครับผมขอช่วยไม่คิดเงิน ตอนแรกพี่เค้าก็ไม่ยอม ผมก็ยืนยันว่าขอช่วยพี่ก็แล้วกันไม่เป็นไรครับ จะได้มีส่วนทำบุญด้วยครับ ผ่านมาหลายเดือนพี่เค้าก็บอกว่าตอนนี้หาเงินได้แล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังต้องหาเงินในส่วนที่เหลือมาสร้างอีกจำนวนมากต้องอาศัยญาติโยมมาช่วยด้วย ผมก็เลยบอกพี่เค้าไปว่า ผมขอมีส่วนช่วยบ้างได้หรือเปล่าแต่ผมขอช่วย โดยจะมอบพระสมเด็จ ให้กับพี่เพื่อมอบให้กับญาติโยมที่ได้บริจากเงินสร้างอาคารนะครับ พี่เค้าก็ตกลงรับนะครับ แต่ก่อนมอบพระสมเด็จให้กับพี่เค้า ผมก็ขออนุญาติสมเด็จโตนะครับ พอวันรุ่งขึ้นพี่เค้าบอกกับผมว่าบ้าน 4 หลังที่ผมได้เคยเสนอราคาไปเมื่อ 4-5 เดือนก่อน ตกลงจะให้ผมเป็นคนสร้าง ผมตื่นเต้นมากเลยครับ เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากเลยครับ คิดไม่ถึงเลยครับ เพราะว่ามีคนเสนอราคามา 3 คน ผมเสนอราคาต่ำ มาเป็นอันดับ 2 ผมก็ไม่นึกเลยว่าจะได้งานนะครับ
พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.
หน้า 1133 ของ 2607
-
เลยต้องไปหาข้อมูลมาเสริมครับตามท่านเพชรไม่ทันเลย หุ หุ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top borderColor=#ffcc66 bgColor=#ffffff colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD>คำว่า ตีลัญจกร อาจารย์ศุภชัย จารุสมบูรณ์ เป็นผู้บัญญัติขึ้น<DD>ตีลัญจกร คือ การประสานฝ่ามือ ให้เป็นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง วิชานี้ศาสตร์การแพทย์แผนจีน เรียกว่า เทียน ฝ่อ เจิ้น คือ หัตถ์พุทธองค์ ศาสตร์นี้สามารถทำด้วยตัวเองไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมทำได้ทุกที่ทุกเวลา จะมีการสอนหัตถ์พุทธองค์ในวิชามนตราบำบัด ที่วัดโจคัง ประเทศทิเบต นั่นคือ ตีลัญจกร ซึ่งเป็นศาสตร์หนึ่งในวิชามนตราบำบัด มนต์ทั้งหลายในโลกใบนี้ แบ่งเป็น 3 อย่าง คือ
ตี เป็นคำกริยา หมายถึง กดให้เข้ากัน
ลัญจกร เป็นคำนาม หมายถึง รูปแบบ ตราที่เอาไว้ประทับ
<DD>1. มนตรา ได้แก่ อสัมวิสุโร ปุสาภุพะ ต้องสวดไม่ใช่ฟัง สวดเสร็จ ต้องขอคือการสั่งจิตใต้สำนึก สวดมนตราต้องใช้สติ สวดยากและสวดให้ได้108 คาบ ห้ามนับลูกประคำ จะทำให้คลื่นสมองลดจากเบต้าเป็นอัลฟาและสั่งจิต เช่น สั่งให้น้ำตาลในเลือดลดลงในผู้ป่วยเบาหวาน <DD>2. มนต์คาถา ได้แก่ อิติปิโส ภควาฯ ถ้ารักษาโรคต้องฟังไม่ใช่สวด หัวใจ คือ ผู้สวดต้องมีพลังผู้ฟังต้องพนมมือรับตีลัญจกร ปรางค์ มือพระพุทธรูปต่างๆ สวดเสร็จผู้สวดต้องแผ่เมตตา ผู้ฟังจึงจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ <DD>3. เวทมนต์ คือ ได้แก่ อิติปิโส ภควาฯ จากขวาไปซ้ายหรือสวดจากล่างขึ้นบน สำคัญที่สุด ต้องปล่อยคุณและไสย
<DD>สมัยก่อนวัดเป็นสถาบันรักษาโรค ศาสนาป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ คำสอนคือศีล ศีล 5 คืออุบายการรักษาโรค
ศีลข้อ 1. ห้ามฆ่าสัตว์ ทำให้เกิดการโมโห โมเลกุลของตนเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ
ศีลข้อ 2. ห้ามลักทรัพย์ มีผลกระทบต่อปอด หายใจแรงขึ้นเมื่อจะลักทรัพย์
ศีลข้อ 3. ไม่ประพฤติผิดในกาม การเคารพผู้อื่น ทำให้หัวใจแข็งแรง แต่การผิดลูกผิด เมียผู้อื่น ถือเป็นการไม่เคารพผู้อื่น
ศีลข้อ 4. ห้ามพูดปด จะมีปัญหาเรื่องม้ามและกระเพาะ
ศีลข้อ 5 ห้ามดื่มเครื่องดองของเมา การดื่มของมึนเมาทำให้ขาดสติ ถ้าสติสัมปะชัญญะไม่ดีไตก็จะมีปัญหา (ไตควบคุมสติสัมปะชัญญะ)
<DD>ตีลัญจกร คือ การกด รัด ทับ เชื่อม ตรงจุดต่างๆ ในมือเราให้เกิดเป็นรูปลักษณ์ใดรูปลักษณ์หนึ่ง หรือที่เราเรียกว่า แผงวงจรอิเลกทรอนิคในร่างกาย ให้เป็นเสารับอากาศรับคลื่นจากพลังธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย การกินน้ำ กินอาหาร ล้วนแล้วแปรเปลี่ยนไปเป็นพลังชีวิต หรือที่เราเรียกว่า พลังชี่ พลังคอสมิก พลังจักรวาล ฯลฯ
คนจีนเราแบ่งพลังงานเป็น 2 รูปแบบ
<DD>1. อู่ฉี่หรือบ๊อเก๊ก นั่นคือพลังงานที่มองไม่เห็นรูป ทางวิทยาศาสตร์ เรียกว่า ควาร์ก (quark) เป็นพลังงานที่เล็กกว่าอิเลคตรอนหรือรวมเรียกว่า คลาวมตั้มนั่นเอง สมัยก่อนใช้สัญลักษณ์ สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม แทนพลังงานต่างๆ เหล่านี้
<DD>2. ไทจี๋ คือ พลังงานเห็นรูป นั่นก็คือ หยินกับหยาง หรือขั้วบวกขั้วลบ
<DD>ในร่างกายของเราต้องการพลังงานไร้รูปด้วยให้เป็นระเบียบเวลานอนหลับ สามารถพลังงานต่างๆ เหล่านี้จะเข้ามาเหนี่ยวนำโมเลกุลที่วางตัวไม่เป็นระเบียบให้เป็นระเบียบ เช่น โมโหมาก โมเลกุลของตับเรียงตัวไม่เป็นระเบียบและถ้าวิตกกังวลด้วย โมเลกุลของม้ามของกระเพาะเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ
<DD>ตกใจกลัว ทำให้ไตมีปัญหา ธาตุในน้ำมีปัญหา, ถ้าโกรธรีบร้อน ธาตุไม้มีปัญหา, รีบเร่งดีใจเกินเหตุเป็นธาตุไฟ, ขี้น้อยใจเสียใจเป็นธาตุทองเกี่ยวกับปอดลำไส้ใหญ่ ในชีวิตประจำวันทำให้โมเลกุลของร่างกายไม่เป็นระเบียบ การนอนหลับจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้สนามพลังงานจากธรรมชาติที่เรามองไม่เห็นเข้าสู่สมองตรงกระหม่อมออกที่ปลายเท้าและที่มือ และเหนี่ยวนำให้สารโมเลกุลของร่างกายเรียงตัวเป็นระเบียบ
มีการบันทึกจากการแพทย์แผนจีนว่า
- หัวใจและลำไส้เล็ก ได้รับอิทธิพล แรงเหนี่ยวนำ สนามแม่เหล็ก ในระดับที่มีรูปหรือเรียกว่า ไทจี๋ จากดาวอังคาร
- กระเพาะ, ม้าม ได้รับอิทธิพลแรงสั่นสะเทือน จากดาวเสาร์ คนจีนแยกเป็นธาตุดินในร่างกาย ถ้าธาตุดินมีปัญหา จะทำให้วิตกกังวล และมีนิสัยชอบกินของหวาน
- ตับ ถุงน้ำดี ได้รับแรงอิทธิพลแรงสั่นสะเทือน จากดาวพฤหัส ทำหน้าที่ระบบนิเวศน์ธาตุไม้ในร่างกาย หรือคนไทยเรียกว่า ธาตุลมนั่นเอง ถ้าธาตุลมมีปัญหาจะขี้โมโหและชอบกินเปรี้ยว
- ปอด ลำไส้ใหญ่ ได้รับแรงอิทธิพลแรงสั่นสะเทือน จากดาวศุกร์ เป็นธาตุน้ำ จะเป็นคนขี้น้อยใจ เสียใจ ชอบกินเผ็ด
- ไต กระเพาะปัสสาวะ ได้รับอิทธิพลแรงสั่นสะเทือน จากดาวพุธ เป็นธาตุน้ำ น้ำจะเป็นคนขี้ตกใจกลัว ขี้กลัว ชอบกินเค็ม
- หัวใจ ลำไส้เล็ก ได้รับแรงอิทธิพลแรงสั่นสะเทือน จากดาวอังคาร เป็นธาตุไฟ เป็นคนใจร้อนชอบกินขม
การตีลัญจกร จะช่วยการแก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้ โดย มือ 2 ข้าง มีเส้นลมปราณอยู่ 6 เส้น
<DD>เส้นที่ 1 หลังมือ ลำไส้ใหญ่ <DD>เส้นที่ 2 นิ้วนาง ระบบภูมิต้านทานโรค <DD>เส้นที่ 3 นิ้วก้อยด้านนอก ลำไส้เล็ก <DD>เส้นที่ 4 นิ้วหัวแม่มือ ปอด <DD>เส้นที่ 5 นิ้วกลาง เยื่อหุ้มหัวใจ <DD>เส้นที่ 6 นิ้วก้อยด้านใน หัวใจ
2 ข้างเหมือนกัน มือยังมีจุดสะท้อนเหมือนฝ่าเท้าทุกอย่างการตีลัญจกร คือ การกด รัด ทับ เชื่อม ฝ่ามือ ให้เป็นแผงวงจรอิเล็กทรอนิคเหมือนเสาอากาศ รับคลื่นสนามแม่เหล็ก เช่น เจ็บหน้าอก บกพร่องธาตุไฟ พระจะสวดคาถาหัวใจ เราต้องติดตั้งเสาอากาศรับคลื่นสนามแม่เหล็กดาวอังคาร คำสวดของพระ คือ ไดสตาร์ท ให้พลังงานในร่างกายเราเชื่อมกับสนามแม่เหล็กของจักรวาลและเหนี่ยวนำหรือดูดซึมโดยแผงวงจรอิเลคทรอนิค ที่เราเรียกว่า ตีลัญจกร
ขั้นตอนการบำบัดโรคร้ายโดย -
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 40 คน ( เป็นสมาชิก 9 คน และ บุคคลทั่วไป 31 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, ake7440+, katicat+, newcomer, nongnooo+, กุสสลจิตโต, ชวภณ ศ.+, ทองอ้วน</TD></TR></TBODY></TABLE>
ผบทบ.สั่งให้ไปอาบน้ำแล้วครับ เดี๋ยวคงเข้าห้องพระอีกครั้ง
ฝันดี และฝันเด่นครับทุกท่าน
. -
-
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
-
-
-
-
-
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
วัดอยู่ที่ไหนคะ ไม่เห็นบอกกันมั่ง
-
อรุณสวัสดิ์ครับ เช้านี้ผมตื่นแต่เช้าเลยครับ ตั้งแต่ตี 5 มีอุบัติเหตุ เสียชีวิตไปหนึ่ง สงสัยเลือดออกในสมองอีกหนึ่งสาหัสพอสมควร
แต่ได้ถวายการรักษาพระภิกษุแต่เช้าเลยครับ (แทนใส่บาตรก็ดีเหมือนกันครับ) ท่านมีหัวใจวายมาครับ แต่ไม่หนักมากจึง admit ไว้รพ.ผมได้ครับ
เดี๋ยวว่าจะไม่นอนแล้วครับ จะนั่งสมาธิสักหน่อย อากาศกำลังดีทีเดียวครับ -
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
อีก ๒ เดือนก็ใกล้จะสิ้นปี และขึ้นปีใหม่แล้ว ท่ามกลางความขัดแย้งของคนในชาติ และพิษเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามแผ่ขยายความเสียหายไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้ ผมอยากนำ โครงการ"ธนาคารความดี" มาบันทึกเอาไว้ในกระทู้พระวังหน้า.. เพื่อเพื่อนๆที่มีความตั้งใจที่จะกระทำความดีส่งท้ายปีเก่าในช่วง ๒ เดือนสุดท้ายของปี ๒๕๕๑ นี้ อย่างน้อยก็ยังมีความดีเกิดขึ้นในสังคมเล็กๆแห่งนี้ ห้องนี้ เพียงหวังว่าด้วยอานุภาพแห่งความดีที่ปรากฎนี้จะช่วยลดทอนบาป หรือเคราะห์กรรมของประเทศไทยได้บ้าง โดยมีเงื่อนไขว่า...
ขอให้ผู้สนใจ และผู้ที่มีความตั้งใจที่จะร่วมในโครงการ"ธนาคารความดี"ได้บันทึกความดีที่ท่านได้กระทำในแต่ละวัน วันละกี่เรื่องก็ได้ ไม่ว่าจะช่วยจูงผู้สูงอายุข้ามถนน บริจาคโลหิตให้แก่สภากาชาดไทย หรือโรงพยาบาลใด อ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง หรือได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และสัตว์ใดๆได้พ้นจากทุกข์ภัย ไปร่วมในงานบุญใดๆก็ตาม หรือจะปฏิบัติสมาธิ แผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์ อะไรก็ได้ที่รวมเรียกว่า"ความดี" ขอให้บันทึกสะสมวันต่อวันโดยลำดับวัน และกิจกรรมความดีนั้น หากสรุปได้เรียบร้อยง่ายต่อการพิจารณาก็จะเป็นผลดีต่อตัวท่านเอง..
ผมอยากให้คุณหนุ่ม และคุณน้องนู๋เป็นกรรมการร่วมด้วยกันกับผมพิจารณามอบรางวัลให้ผู้ที่กระทำความดีได้อย่างน่าประทับใจ ๓ รางวัลด้วยกัน ผมไม่ขัดศรัทธาหากคุณหนุ่ม และคุณน้องนู๋จะร่วมมอบรางวัลเพิ่มเติมจากที่ผมนำมามอบให้เพื่อนๆที่เข้าร่วมโครงการนี้นะครับ ซึ่งผมคิดว่าทั้ง ๒ ท่านคงจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง(เช่นคุณหนุ่มอาจจะมอบพระเสโทธาตุให้กับผู้ที่ได้รับรางวัลที่ ๑ หรือคุณน้องนู๋จะมอบพระสมเด็จเนื้อปูนสอให้กับผู้ได้รางวัลใดๆก็ตามแต่ ฯลฯ) รางวัลที่ผมจะมอบให้มีดังนี้...
โครงการ"ธนาคารความดี"
รางวัลที่ ๑
-พระบรมสารีริกธาตุสัณฐานที่พระพุทธกัสสปพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ ของภัทรกัปป์นี้อธิษฐานจิตไว้ จำนวน ๓๐ องค์ ๓๐ เฉดสี
-พระวังหน้ามากกว่า ๔ องค์ ประกอบไปด้วย
๑)พระพิมพ์ฝีพระหัตถ์พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว บรรจุน้ำประสาน และลูกปัดทราวดี ปีพ.ศ. ๒๔๐๘ มอบให้ ๑ ใน ๘ พิมพ์พิเศษจำนวน ๑ องค์
๒)พระสมเด็จปัญจสิริ พิมพ์เก๋งจีนไตรโลกอุดร ๑ องค์(ต้องแจ้งวันเดือนปีเกิดเพื่อเฉดสีที่เหมาะกับผู้ที่ได้รับพระพิมพ์นี้)
๓)พระปิดตา ๒ หน้า เนื้อสีขาว ผสมเครื่องหอมในราชสำนัก ๑ องค์(ยังไม่เคยมอบให้ผู้ใดมาก่อน)
๔)พระสมเด็จเนื้อปูนสอแบบพิเศษ ๑ องค์ที่คุณnongnooo จะมอบให้
๕)รายการที่ ๕ นี้ คุณหนุ่ม sithiphong ยังไม่เปิดเผย แต่ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้เพื่อนๆมาก่อนแน่นอน รอเจ้าตัวมาแจ้งเพิ่มเติมจะดีกว่า
รางวัลที่ ๒
-พระธาตุพระอนุรุทธะพระอรหันต์สาวกที่เลิศทางด้านตาทิพย์ จำนวน ๑๐ องค์
-พระวังหน้าวังหลวงมากกว่า ๕ รายการ ประกอบไปด้วย
๑)พระรูปเหมือนหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเดินจงกรมของวังหน้าพิมพ์ใหญ่ ๒ องค์(ลงรักแดง และปิดทอง ๑ องค์ และสีน้ำตาล ๑ องค์) พิมพ์เล็ก ๕ องค์ ๕ สี(น้ำตาลแดง-ฟ้า-เขียว-ดำ-ขาวนวล) รวม ๗ องค์(พระชุดนี้ได้อาราธนาพระบารมีองค์พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทธะเถระเจ้า พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง ๕ พระองค์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๐)
๒)พระสมเด็จวังหน้า พิมพ์หลังประทุนตามจำนวนสมาชิกในครอบครัว
๓)พระปิดตา ๒ หน้าเนื้อผงใบลานของวังหน้า ๑ องค์
๔)พระปิดตาวังหน้าเนื้อหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์บรรจุกริ่ง ๑ องค์
๕)พระเบญจภาคี เนื้อปัญจสิริ สร้างปีพ.ศ. ๒๔๕๑ จำนวน ๑ ชุดมี ๕ องค์ และพระลีลาปัญจสิริอีก ๑ องค์
๖)พระสมเด็จเนื้อปูนสอ ๑ องค์ที่คุณnongnooo จะมอบให้
๗)รายการที่ ๗ นี้ ยังไม่ทราบว่าคุณหนุ่ม sithiphong จะมอบให้เพิ่มเติมหรือไม่ เพราะไม่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ หรือจะมอบให้เพิ่มเติมเฉพาะผู้ได้รางวัลที่ ๑ เท่านั้น แต่หากมอบเพิ่มเติมจากนี้ ก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้เพื่อนๆมาก่อนแน่นอน รอเจ้าตัวมาแจ้งเพิ่มเติมจะดีกว่า
รางวัลที่ ๓
-พระธาตุพระสีวลีพระอรหันต์สาวกที่เลิศทางด้านลาภ จำนวน ๕ องค์ สัณฐานประกายเพชรจากถ้ำแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี
-เทียนสะเดาะเคราะห์-สืบชาตา—บูชาโชค จากพระธาตุดอยตุงจำนวน ๑ เล่มแบบ three in one
-เทียนพระมหาสีวลี"เศรษฐีทั้ง ๕" มหาชัยมงคล วัดโขงขาว ซึ่งจัดสร้างตามกรรมวิธีของล้านนา ๑ ชุด(๓ เล่ม)
-พระเบญจภาคี สร้างปีพ.ศ. ๒๔๕๑ จำนวน ๑ ชุดมี ๕ องค์ และพระลีลาอีก ๑ องค์ พิเศษสุดคือจะจารชื่อนามสกุล และวันเดือนปีเกิด เวลาเกิดของผู้ครอบครองด้วยเหล็กจารที่พระอภิญญาใหญ่หลายๆองค์เคยใช้มาก่อน โดยได้ขออนุญาต ขอขมา และขอพระเมตตาจากทุกๆพระองค์แล้วในกิจที่เป็นกุศลแล้ว
-พระสมเด็จเนื้อปูนสอ ๑ องค์ที่คุณnongnooo จะมอบให้
-รายการนี้ ยังไม่ทราบว่าคุณหนุ่ม sithiphong จะมอบให้เพิ่มเติมหรือไม่ เพราะไม่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ หรือจะมอบให้เพิ่มเติมเฉพาะผู้ได้รางวัลที่ ๑ เท่านั้น แต่หากมอบเพิ่มเติมจากนี้ ก็ไม่เคยสร้างความผิดหวังให้เพื่อนๆมาก่อนแน่นอน รอเจ้าตัวมาแจ้งเพิ่มเติมจะดีกว่า
***อายุโครงการที่ได้รับรางวัล จะเริ่มกิจกรรมกระทำความดีตั้งแต่เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ ๑ พ.ย. ๒๕๕๑(ตั้งแต่ ๖ โมงเช้าของวันที่ ๑ พ.ย. ๒๕๕๑) จนถึงวันพุธที่ ๓๑ ธ.ค. ๒๕๕๑ (ก่อน ๖ โมงเช้าของวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒)สุดท้าย จำนวน ๖๑ วัน หากล่วงเลยกำหนดเวลานี้ไป ทุกท่านก็ยังคงสามารถจะกระทำความดีกันได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่มีรางวัลมอบให้แล้วก็ตามนะครับ ***
ผู้ที่ได้รับรางวัลข้างต้นนี้ทั้งหมดจะต้องนัดวันเวลามารับเองโดยตรงแม้ว่าท่านจะอยู่นอกเขตกรุงเทพและปริมณฑลก็ตาม ผมจะไม่จัดส่งทางไปรษณีย์ให้ครับ เนื่องจากมีพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุอรหันต์อยู่ด้วย เริ่มต้นด้วยความดี แต่จบท้ายโครงการด้วยการปรามาสแบบนี้ไม่ดีแน่ครับ...
คณะกรรมการจะใช้เวลาประมาณ ๑๔ วันในการสรุปความประทับใจ จึงจะประกาศผลผู้ได้รับรางวัลข้างต้นนี้ในวันเด็กแห่งชาติ(วันเสาร์ที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๒) เพื่อให้เป็นอนุสติว่า หากเราท่านมีเวลาตั้งต้นทำความดีตั้งแต่เยาว์วัย ก็จะสามารถเป็นกำลังของประเทศชาติเราได้ เริ่มจากความดีเล็กๆ ไปจนถึงคุณความดีที่เราท่านประมาณค่าไม่ได้...
ผู้ที่เข้ามาชมภายหลังจากวันที่ ๑ พ.ย. ๒๕๕๑ ไปแล้ว คือระหว่างอายุโครงการ ท่านก็สามารถจะร่วมกระทำความดีได้ แม้..วันสุดท้ายของการปิดโครงการจะเป็นวันที่ท่านเริ่มต้นสะสมความดีไว้ใน"ธนาคารความดี"แล้วก็ตามที เพียง ๑ ความดีที่สร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการ ท่านก็มีโอกาสได้รับรางวัลแล้วครับ..
ท่านจะไปกระทำความดีที่ไหนของโลกก็ได้ทั้งนั้นครับ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นที่ประเทศไทยเท่านั้น และจะกระทำความดีในรูปแบบซ้ำๆกันในแต่ละวันก็ไม่ว่าอีกเช่นกัน...
ขยายความเรื่องของการกระทำความดีในโครงการ"ธนาคารความดี"
กระทู้นี้ผมอยากให้พี่ๆน้องๆเพื่อนๆได้มีโอกาสพิจารณากันนะครับว่า
การกระทำ+ความดี
นั้นคืออะไร ?
สิ่งที่กระทำอยู่ที่วี่ทุกวันเป็นนิจสินเราสงสัยหรือไม่ว่า เรากำลังทำอะไร เรากำลังทำความดีอยู่หรือเปล่า หรือไม่แน่ใจ หรือไม่กล้าตอบ หรือทำไปวันๆ ทำเป็นอาชีพ เพื่อแลกกับเงิน ด้วยความที่เราไม่ได้ไปพิจารณาว่า สิ่งที่เรากระทำนั้นเพียงแลกกับปัจจัยที่โลกมนุษย์กำหนดเป็นตัวเงินเท่านั้น แล้วภาระนี้เมื่อไหร่จะจบลง หรือจะหมดลงไปกับเวลาที่เราเหลืออยู่ในโลกมนุษย์นี้เท่านั้น โดยที่เราเองก็ยังไม่แน่ใจว่า เราได้มีโอกาสทำความดีบ้างแล้วหรือยัง และหากเกิดใหม่เราก็ยังจะกระทำแบบเดิมๆ ตามสัญญาเดิมๆ กระทู้นี้ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการทำงานแลกกับเงินเลย ซึ่งบางเหตุการณ์ บางอาชีพ อาจจะหาประโยชน์ได้ทั้งความดี และได้ทั้งเงินไปพร้อมๆกัน ขึ้นอยู่กับ"วิธีคิด"ของเราเองว่า ปรัชญาการดำเนินชีวิตของเราเองคืออะไร การเขียนหนังสือเล่มหนึ่งของนโปเลียน ฮิวส์ ชื่อ"หลักปรัชญาชีวิตสู่ความสำเร็จ"ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าหากมีโอกาสได้อ่านกัน จะรู้สึกว่าความสำเร็จในชีวิตกับการกระทำความดีนั้นมีอยู่จริงๆ
การใช้ความรู้สึก กับ การใช้ความคิด ผมคิดว่าต่างกันครับ หากเราใช้ความรู้สึกเป็นเรื่องของอารมณ์ ซึ่งเราจะมีความสุขในทุกการกระทำ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าการกระทำนั้น ดี หรือไม่ดี แต่การใช้ความคิด เป็นเรื่องของเหตุผล แต่อาจจะไม่มีความสุขในการกระทำก็ได้ กระทู้นี้ผมเปิดกว้างไว้มากเพื่อให้เกิดความเรียบง่าย กลับกลายเป็นเรื่องยากไป ต้องขออภัยจริงๆครับ
ปรับการกระทำความดีให้รู้สึกว่าเหมาะกับอาชีพของเรา ให้รู้สึกว่าง่ายๆ ใครๆก็กระทำได้ และมีความสุขที่ได้กระทำ อยู่ที่ว่าจะกระทำกันหรือเปล่า และกรรมการทั้ง ๓ ท่านก็คงจะหนักใจไปด้วยระหว่างการใช้ความรู้สึก และการใช้เหตุผล คง balance กันยากมากครับ...
หน้า 1133 ของ 2607