ขออนุโมทนาด้วยครับ อาจจะไม่สะดวกในการอัญเชิญเพราะสัมภาระน่าจะมาก ตอนแรกว่าจะไปกัน ๒ คนนั่งข้างหน้า แต่กลับกลายเป็นว่าจะมีผู้ร่วมเดินทางอีก ๒ ท่านนั่งด้านหลัง ที่นั่งตอนกลางเลยคิดว่าจะอัญเชิญโถพระบรมสารีริกธาตุวางในกาละมังกันการกระทบการแตกของโถ จึงขอรับไว้ตามเดิมดีกว่าครับ โดยส่วนนี้จะอัญเชิญไปที่วัดป่าคลองกุ้ง
พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....
ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.
หน้า 1625 ของ 2607
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
โมทนาสาธุครับ -
วีธีเข้าห้องน้ำนอกบ้านให้ปลอดเชื้อโรค
บทความ เข้าห้องน้ำนอกบ้าน ให้ปลอดเชื้อโรค
สุขภาพ health โรค ไข้หวัดใหญ่2009 flu ไข้หวัด2009
วีธีเข้าห้องน้ำนอกบ้านให้ปลอดเชื้อโรค (ไอเอ็นเอ็น)
เชื้อโรคที่มักพบในห้องน้ำสาธารณะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เชื้อในกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเชื้อที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร
น.พ.เชิดพงษ์ ชินวุฒิ สูติ-นรีแพทย์ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช สาทร-คอนแวนต์ เผยว่า เชื้อโรคที่มักพบในห้องน้ำสาธารณะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เชื้อในกลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อหนองใน เชื้อเริม และเชื้อที่ทำให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น เชื้ออุจจาระร่วง เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด เอ เป็นต้น
เชื้อพวกนี้อาจแฝงอยู่ตามจุดต่างๆ ของห้องน้ำ เช่น ชักโครก อ่างล้างมือ หรือแม้กระทั่งลูกบิดประตู แต่โอกาสที่เราจะติดเชื้อพวกนี้จนทำให้เกิดโรคหรือเป็นอันตรายนั้นน้อยมาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยเหตุผลที่ว่า
1. เชื้อพวกนี้จะสามารถก่อให้เกิดโรคได้ ต้องมีปริมาณที่มากพอ เราอาจไปสัมผัสกับเชื้อพวกนี้ก็จริง แต่ปริมาณไม่มาก จึงไม่เกิดอันตรายใดๆ
2. เชื้อพวกนี้มักจะเจริญเติบโตได้ดีในร่างกายคนเรา แต่เมื่อออกมาสัมผัสกับแสง และอุณหภูมิภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป เชื้อมักจะมีชีวิตอยู่ไม่นานพอที่จะติดต่อไปสู่คนอื่น
3. เชื้อพวกนี้จะก่อให้เกิดโรคได้ ต้องมีหนทางที่จะผ่านเข้าไปในร่างกายของคนเรา เช่น ผ่านเข้าทางผิวหนังที่มีแผล หรือรับเข้าทางปาก การที่เราไปสัมผัสและเชื้อนั้นติดอยู่กับผิวหนังเฉยๆ จะไม่ทำให้เกิดโรค เพราะผิวหนังเป็นปราการด่านแรกที่ป้องกันการติดเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี
4. หากได้รับเชื้อเข้าไปจริง ร่างกายของเรามีระบบภูมิคุ้มกันที่คอยจัดการเจ้าเชื้อโรคแปลกปลอมนี้อยู่แล้ว
น.พ.เชิดพงษ์ แนะนำวิธีปฏิบัติตัวแบบง่ายๆ เพื่อป้องกันการรับเชื้อโรคจากการเข้าห้องน้ำสาธารณะไว้ว่า ใช้เวลากับการทำกิจธุระในห้องน้ำสาธารณะให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าจำเป็นต้องใช้ชักโครก เลือกที่ดูสะอาด ทำความสะอาดที่รองนั่งด้วยกระดาษทิชชูสักหน่อย แล้วจึงใช้งาน ไม่ต้องถึงกับใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ
ที่สำคัญเมื่อเสร็จกิจธุระแล้วต้องล้างมือทุกครั้ง เพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคติดมากับมือของเรา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
-
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER>[ แนะนำเรื่องเด่น ] </CENTER></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nongnooo, sithiphong+, narin96 </TD></TR></TBODY></TABLE>
หวาดดีครับทุกท่าน หุ หุ -
-
เรียนพี่ๆน้องๆในชมรม
เรื่องประชุมในวันพรุ่งนี้
ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับเพราะผมไม่ว่างจริงๆ อย่างที่บอกไว้ช่วงนี้งานผมมากจริงๆครับเพราะงานที่บริษัทกำลังจะเปลี่ยนระบบคอมฯทั้งหมดจึงต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าโดยสาขาของผมได้รับเลือกให้เป็นต้นแบบก็อย่างที่บอก top4 แรงจริงๆได้รับคำชมเชยเยอะครับ
อีกอย่างเมื่อคืนสุนัขของแฟนที่บ้านน้ำท่วมปอดหมอช่วยไม่ทันผมเลยต้องทิ้งงานกลับบ้านด่วน ช่วงนี้เค้าเศร้าอยู่ผมอยากอยู่ให้กำลังใจเค้าเพราะเค้ารักมากเลี้ยงมา5ปีแล้ว พอดีกับที่ทำงานมีประชุมด่วนตอน 11.00 น. หลังจากนั้นคิดว่าจะกลับบ้านเลย
จึงขออภัยทุกๆท่านด้วยครับคิดว่าคราวต่อไปไม่พลาดโอกาสแน่นอนครับผมสัญญา นะครับ
คุณสิทธิพงศ์ / nongnooo / สมบัติ / แหน่ง / เพชร
และทุกๆคนชาว รักษ์วังหน้า
จากใจจริง .............. piboon ( มูริญโญ่ )-Forever + U- -
พบเชื้อไวรัสหวัด 2009 ดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ครั้งแรกในไทย
ไข้หวัด2009 ดื้อยา โอเซลทามิเวียร์ ครั้งแรกในไทย
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
วานนี้ (7 สิงหาคม) รศ.ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าหน่วยไวรัสวิทยาและจุลชีววิทยาโมเลกุล คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดีมหาวิทยา ลัยมหิดล ได้รายงานต่อที่ประชุม ว่า ตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ดื้อต่อยาโอเซลทามิเวียร์ แล้ว 1 ตัวอย่าง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการตรวจพบเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์
โดย รศ.ดร.วสันต์ ยอมรับว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง โดยที่ผ่านมาทาง รพ.รามาธิบดี ได้มีการตรวจตัวอย่างที่มีการส่งมาตรวจที่ห้องปฏิบัติการของ รพ.รามาธิบดี ประมาณ 12,000 ตัวอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 80% ตรวจพบว่าเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1 )
อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยไวรัสวิทยาฯ ได้ทำการสุ่มตัวอย่างเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มาถอดรหัสพันธุกรรมประมาณ 50 ตัวอย่าง พบว่า 2 ตัวอย่างพบเชื้อมียีนดื้อยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ โดยตัวหนึ่งเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล กรณีนี้เป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากสหรัฐ ซึ่งการที่เชื้อไข้หวัดใหญ่ดื้อต่อยาโอเซลทามิเวียร์ ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะขณะนี้เชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในบ้านเราดื้อต่อยาโอเซลทามิเวียร์ประมาณ 70-80% แต่อีก 1 ตัวอย่างถอดรหัสพันธุกรรมแล้วพบว่า เป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ดื้อต่อยาโอเซลทามิเวียร์ โดยจากการย้อนไปดูข้อมูล พบว่าคนไข้รายนี้เป็นคนไข้ในของโรงพยาบาลรามาธิบดี และหายป่วยแล้ว
รศ.ดร.วสันต์ กล่าวต่อว่า การจะบอกว่าเชื้อไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ดื้อต่อยาโอเซลทามิเวียร์หรือไม่ องค์การอนามัยโลกระบุว่า จะต้องดูที่ยีนสร้างเอ็น 1 ในตำแหน่ง H274Y หากตำแหน่งนี้ผิดแปลกไปก็จะบอก ได้ทันทีว่าเป็นเชื้อดื้อยา ซึ่งทางห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลรามาธิบดี ตรวจพบตรงนี้ แต่ต้องยอมรับว่าตัวอย่างที่นำมาตรวจน้อยเกินไป ดังนั้นคงต้องมีการสุ่มตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อยู่เป็นระยะ และมากขึ้น เพื่อดูว่าเชื้อดื้อยาหรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่พบเลย หรืออาจจะพบเพิ่มขึ้นก็ได้
"การตรวจหาเชื้อดื้อยาตรงนี้เป็นหน้าที่ที่ห้องปฏิบัติการของ รพ.รามาธิบดี ต้องทำอยู่แล้ว ซึ่งข้อมูลที่ตรวจพบในครั้งนี้คงจะมีการรายงานไปยังผู้บริหารกระทรวงสาธารณ สุขให้ทราบต่อไป อย่างไรก็ตามคงต้องบอกว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่เราพบในขณะนี้ ต้องยอมรับว่ามันมิใช่เบา ๆ เหมือนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และการ ที่เชื้อดื้อยาเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว ว่าจะเกิดขึ้น หากตรวจพบว่ามีการดื้อต่อยา โอเซลทามิเวียร์ก็จะได้ให้ยาตัวอื่นรักษาต่อไป" รศ.ดร.วสันต์ กล่าว
ขณะที่ นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงภายหลังประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่รัฐบาลแต่งตั้งเป็นหน่วยงานสนับสนุน สธ. ในการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ การแพร่ระบาดยังเป็นช่วงขาขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงปกติที่ไข้หวัดใหญ่จะระบาดมากที่สุด จึงคาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยสถิติในปี 2551 มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ช่วงเดียวกันประมาณ 10,000 รายต่อเดือน ขณะที่ปีนี้ในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เฉลี่ยมากกว่าเดิมประมาณ 10 เท่า เป็นผลจากการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ประชาชนยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
"การมีคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกันฯ มาเป็นหน่วยงานกลางประสานกับทุกภาคส่วนในสังคม จะทำให้การป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีประสิทธิภาพมากขึ้น" นายวิทยา กล่าว
รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า ล่าสุดได้รับรายงาน มีการโฆษณาขายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ผ่านทางเว็บไซต์จำนวนมาก โดยพบว่าชื่อที่มีการนิยมใช้ในการประกาศขายยาดังกล่าวมากที่สุดคือ วิทยา 88 และวิทยา 68 ซึ่งอาจจะเป็นยาปลอมที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บางเว็บไซต์ให้ข้อมูลว่า มีการลักลอบนำยาต้านไวรัสชนิดนี้จากประเทศไทยไปขายยังประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีการใช้ยาโอเซลทามิเวียร์จำนวนมาก ขณะที่ยาชนิดนี้ก็มีราคาไม่แพงในประเทศไทย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
-
-
ว่างก็มา หากติดธุระ หรือ ติดภาระกิจในงาน ก็ต้องทำงานก่อนครับ
โดยเฉพาะกับ ผบทบ.(ผู้บัญชาการที่บ้าน) ต้องเกรงใจเป็นพิเศษครับ -
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 56 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 54 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>มูริญโญ่, newcomer </TD></TR></TBODY></TABLE>
ผมมาแล้วครับ ฮิฮิฮิฮิฮิ -
-
ไม่ได้เข้ามาทักทายนานเลยครับ
พอดีวันนี้ผมได้บูชาหนังสือประมวลภาพพระเครื่อง-วัตถุมงคลพระราชวุฒาจารย์ หลวงปู่ดูลย์-อตุโล-สุรินทร์ มาครับ 4สีทั้งเล่ม มีรูปต่างๆเยอะมากครับ ไม่แพงด้วยครับ
ใครสนใจก็ลองดูรายละเอียดกันเองนะครับ
ที่ ประมวลภาพพระเครื่อง วัตถุมงคล พระราชวุฒาจารย์ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล จ.สุรินทร์
เอามาฝากลูกศิษย์หลวงปู่ด้วยกันครับ ผมพอได้แล้วยังขอเพิ่มอีก2เล่มเลยครับ
น้องเอ -
สวัสดีครับ
วันนี้ ไม่ได้ประชุมชมรมครับ เหตุเนื่องจากท่านประธานติดภาระกิจด่วน ก็เลยไม่ได้มา
แต่ก็ได้นั่งคุยกันสบายๆ กลางวันไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน ชายหาด พี่บางท่าน และน้องบางท่าน ทานไป สีหน้านั่งอมทุกข์อยู่ (โดนผมใส่ข้าวซะเยอะ อิ่มแล้วยังต้องนั่งทานอีก)
กลับมาตอนบ่าย ก็มานั่งคุยกันต่อ
วันนี้ได้ชมพระวังหน้ากันอย่างจุใจ
พบกันอีกครั้งในวันผ้าป่านะครับ
โมทนาสาธุครับ -
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ศิลปะทวารวดี” ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในสยามประเทศ
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 สิงหาคม 2552 16:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ธรรมจักร ศิลปะทวารวดีตอนต้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “ศิลปะทวารวดี” จัดเป็นศิลปกรรมต้นอารยธรรมสมัยประวัติศาสตร์ที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ณ บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11-16 บรรดาโบราณวัตถุ และโบราณสถาน ส่วนใหญ่ล้วนสร้างขึ้นเนื่องในพระพุทธศาสนาลัทธิหินยาน หากแต่ยังปรากฏหลักฐานการนับถือศาสนาพุทธลัทธิมหายานและฮินดูรวมอยู่ด้วย อิทธิพลของศิลปวัฒนธรรมทวารวดีได้แพร่ขยายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ จึงอาจกล่าวได้ว่าศิลปะทวารวดี คือ “ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในสยามประเทศ”
แต่เดิมนั้นการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของศิลปะทวารวดีมักให้ความสำคัญต่อกลุ่มพระพุทธรูปเป็นหลัก เนื่องจากมีการค้นพบเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังบ่งบอกถึงการรับนับถือพุทธศาสนาลัทธิเถรวาทในวัฒนธรรมทวารวดีได้เป็นอย่างดี แม้จะมีการค้นพบหลักฐานที่เป็นพุทธศาสนาลัทธิมหายาน และศาสนาฮินดูปะปนอยู่บ้างแต่มีจำนวนไม่มากนัก โดยทั่วไปมักจะแบ่งกลุ่ม และยุคสมัย พระพุทธรูปศิลปะทวารวดีออกเป็น 3 รุ่นคือ
รุ่นที่ 1 (อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 – ต้นพุทธศตวรรษที่ 13) จัดเป็นพระพุทธรูประยะแรกของทวารวดีและพุทธศิลปะที่ปรากฏบนแผ่นดินไทย ซึ่งยังคงลักษณะต้นแบบของพระพุทธรูปของศิลปะอินเดียแบบอมราวดี คุปตะ – หลังคุปตะ
รุ่นที่ 2 (อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13 – 15) พระพุทธรูปมีลักษณะแบบพื้นเมือง เป็นแบบที่พบมากที่สุด และรุ่นที่ 3 อิทธิพลของศิลปะเขมร (พุทธศตวรรษที่ 16 – 17) จัดเป็นรุ่นสุดท้ายของศิลปะทวารวดี มีอิทธิพลของศิลปะเขมรสมัยบาปวนหรือ สมัยลพบุรีตอนต้นเข้ามาปะปน
</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระพุทธรูป ศิลปะทวารวดี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หากว่าใครอยากจะเห็นโบราณวัตถุที่เป็นศิลปะทวารวดี สามารถไปชมกันได้ที่งานนิทรรศการ “ศิลปะทวารวดี ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 ส.ค.-9 ต.ค. 2552 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยการจัดนิทรรศการครั้งนี้ เกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร เผยว่า จากผลสำเร็จในการนำโบราณวัตถุศิลปะทวารวดีของไทย จำนวน 149 รายการ ไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลปะ เอเชียกีเมนต์ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในวันที่ 11 ก.พ.-20 มิ.ย.2552 ตามแผนความร่วมมือด้านการพัฒนาพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในประเทศไทย ระหว่างกรมศิลปากรและสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯทอดพระเนตรนิทรรศการและทรงร่วมสัมมนาทางวิชาการในหัวข้อ “ศิลปะทวารวดี แง่มุมต่างๆ ด้านการวิจัยทางโบราณคดีในประเทศไทย” เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมศิลปากรและสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเห็นควรให้มีการจัดนิทรรศการลักษณะเดียวกันนั้นในประเทศไทย เพื่อแสดงถึงสัมพันธภาพความร่วมมืออันดีทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกันด้วย
ในงานนิทรรศการครั้งนี้ได้รวบรวมโบราณวัตถุศิลปะทวารวดีจำนวนทั้งสิ้น 167 รายการ แบ่งเป็นโบราณวัตถุไทย ซึ่งนำกลับมาจากการแสดงที่ประเทศฝรั่งเศส จำนวน 107 รายการ และโบราณวัตถุที่มีความสำคัญซึ่งไม่ได้นำไปร่วมจัดแสดงที่ฝรั่งเศส อีกจำนวน 60 รายการ ได้แก่ ธรรมจักร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดในการแสดงถึงอารยธรรมทวารวดี และนับเป็นโบราณวัตถุที่มีความเก่าแก่อายุกว่า 1 พันปี ทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถขุดพบได้บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในดินแดนประเทศไทยเท่านั้น อีกทั้งกรมศิลปากรยังได้จัดพิมพ์หนังสือ “ศิลปะทวารวดี ต้นกำเนิดพุทธศิลป์ในประเทศไทย” ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จำนวน 250 หน้า พิมพ์สี่สีทั้งเล่มสำหรับเป็นที่ระลึก ซึ่งจัดจำหน่ายภายในงานนิทรรศการ
ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.30-16.00 น. เสียค่าเข้าชมตามปกติ และในวันศุกร์ที่ 21 และวันอาทิตย์ที่ 23 ส.ค.เวลา 08.30-17.30 น. มีการเสวนาและชมนิทรรศการพิเศษรับเพียง 100 ที่นั่งเท่านั้น ติดต่อโทร.0-2224-1333
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> -
ขอไปชมศึกคอมมูนีตี้ชิลด์ ระหว่าง Manchester United กับ Chelsea
ขอไปเชียร์ Manchester United ก่อนนะครับ
. -
-
กรอบละ 50 บาท
อ่า ไม่มีตังตัดกรอบเงินหรือกรอบทองครับ
. -
เป้นไงบ้างครับวันนี้จุใจเหมือนเดิมปล่าวครับ และมีรายการดีมั้ยแรงมั้ย รึปล่าวครับ หุ หุ
-
ดีและแรงครับ สำหรับน้องฝน,น้องอุ้ม ทาน 2 จาน ผมแรงกว่า ทาน 3 จาน หุหุหุ -
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
ซักครู่พบกันครับ ผมขอฝากหนังสือประวัติวัดทรายงามกับคุณหนุ่มไว้มอบให้กับเพื่อนๆที่มีรายชื่อข้างล่างนี้ในวันที่พบกันท่านละ ๑ เล่ม ก็ได้จัดพิมพ์ด้วยกระดาษที่ช่วยถนอมสายตา ก็ได้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับดั้งเดิมค่อนข้างมาก เนื้อหาภายในมีคุณค่าอย่างมาก ตบท้ายด้วยพระสิทธัตถะโสฬสคาถาอันหาอ่านได้ยากยิ่ง
ก็ขอรบกวนคุณหนุ่มด้วยครับ ผมหาโอกาสพบเพื่อนๆยากจริงๆ
คุณpsombat
คุณnongnooo
คุณพี่สันติ
คุณน้องdragonlord
คุณchantasakuldecha
คุณหนุ่ม
สำหรับคุณkwok คุณพุทธันดร คุณnewcomer ผมจะดำเนินการให้โดยตรงอีกครั้ง
จำนวนนี้เป็นคนละส่วนกับที่ถวายวัดทรายงาม ๒,๐๐๐ เล่ม สรุปคือพิมพ์มากกว่า ๒,๐๐๐ เล่มมาได้ราว ๑๐๐ เล่มเพื่อมอบให้ผู้ร่วมบุญท่านละ ๑ เล่ม โดยมอบให้กับทางวัดเต็มจำนวน ก็ขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับเพื่อนๆทุกท่านที่มีส่วนร่วมบุญถวายหนังสือเป็นธรรมทานด้วยครับ
หน้า 1625 ของ 2607