พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    กินดี หลับสบาย
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000103743-
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">25 สิงหาคม 2554 15:57 น.</td></tr></tbody></table>

    ในชีวิตมนุษย์เรานั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องกินและเรื่องนอน ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ก็มีความสัมพันธ์กันด้วย “108 เคล็ดกิน” จึงมีความรู้ดีๆ มานำเสนอ เพื่อให้ทุกคนได้กินอิ่ม และหลับสบายกันถ้วนหน้า

    อาหารมีความสำคัญต่อการบำรุงร่างกาย แต่การกินอาหารไม่ถูกต้อง หรือกินในปริมาณที่ไม่เหมาะสม ก็จะเป็นสาเหตุให้นอนไม่หลับได้ เช่น การกินอาหารจำพวกแป้งมากเกินไปก่อนเข้านอนจะทำให้รู้สึกอึดอัด เนื่องจากเป็นอาหารหนัก ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักกว่าปรกติ รวมทั้งอาหารที่มีความมัน และอาหารรสจัดต่างๆ ด้วย รวมไปถึงอาหารที่มีสารไทรามีน (Tyramine) ซึ่งจะไปยับยั้งสารเคมีในสมองอย่างนอร์เอพิเนฟรีน (nor epinephrine ) ซึ่งทำให้มีอาการนอนไม่หลับ พบในเบคอน ซีส ช็อคโกแลต แฮม ไส้กรอก มันฝรั่งและมะเขือเทศ

    ส่วนอาหารที่ช่วยกระตุ้นให้นอนหลับเป็นปกติ ได้แก่ อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง อาหารจำพวกธัญพืชไม่ขัดขาว การกินอาหารกลุ่มนี้ในเมื้อเย็นช่วยให้ใช้เวลาในการย่อยไม่มากนัก เมื่อถึงเวลานอน ร่างกายจึงเข้าสู่การนอนหลับได้ง่าย

    นอกจากนี้ก็ยังมี ทริปโตฟาน ซึ่งมีความสำคัญกับการนอนอย่างมากเพราะร่างกายจะใช้กรดอะมิโนชนิดนี้ในการส ร้าง เมลาโทนิน อันเป็นที่รู้จักกันในชื่อฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ พบได้ใน กล้วย ไข่ ลูกพรุน สาหร่าย ไก่งวง และนม

    ส่วนวิตามินบี ที่พบได้ในธัญพืชมีความสำคัญเช่นกัน โดยจะช่วยปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ทำให้ร่างกายผ่อนคลายจนสามารถหลับลึกได้ ในส่วนของวิตามินบี 6 จะรวมตัวกับทริปโตฟานเพื่อกระตุ้นกระบวนการนอนหลับอีกด้วย ซึ่งสามารถพบวิตามินเหล่านี้ได้จากซีเรียล เต้าหู้ ถั่ว เนื้อวัว ปลา ไก้ ไข่ หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด คะน้า และบร็อคโคลี

    ในเรื่องของเวลาการกินก็สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ควรกินอาหารมื้อเย็นดึกเกินไป ไม่ควรกินอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มทุกประเภทก่อนเข้านอน 2 ชั่วโมง เพื่อช่วยป้องกันการตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน


    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000103743-

    .
     
  2. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    นอนอย่างไรทำสมองใสยามเช้า


    เผย 5 เคล็ดลับหลับสบาย ตื่นยามเช้าทำสมองใส จิตใจสมดุล พร้อมสู่การเรียนรู้

    หนุ่ม-สาววัยใสที่มักมีอาการสมองตื้อ ระหว่างวันความคิดแล่นช้า ขณะเดียวกัน ยังมีอารมณ์ขุ่นมัวร่วมด้วย ลองรีสตาร์ท (Restart) ระบบร่างกายตั้งแต่ก่อนนอน ด้วย “5 เคล็ดลับ” ต่อไปนี้

    เริ่มจาก อาบน้ำอุ่นก่อนนอน
    จะทำให้อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้น ระหว่างนั้น อาจหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ปริมาณเล็กน้อยลงอ่างน้ำ ซึ่งมีคุณสมบัติระงับประสาทให้รู้สึกสงบ และผ่อนคลาย ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ ทั้งยังช่วยคลายอาการตึงตัวของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ด้วย

    เลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้หลับไม่ลง
    อย่าง คาเฟอีน นิโคติน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารรสหวาน จากกาแฟ, ชา, โคล่า, โกโก้, ช็อคโกแลต สูบบุหรี่ รวมทั้งไม่รับประทานมื้อหนักก่อนนอนอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง หากหิวควรทานนมอุ่น ๆ ดีกว่า

    4 ชั่วโมงก่อนนอนไม่ควรออกกำลัง
    เพราะมีผลกระตุ้นกล้ามเนื้อ โดยร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ทำให้หลับยาก ทั้งนี้ การออกกำลังกายช่วงเช้า หรือเย็น ประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนินสารเคมีที่สร้างจากสมอง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

    ทั้งนี้ จากรายงานของหน่วยงานที่ศึกษาด้านการนอนหลับ ของสหรัฐฯ พบว่า การสัมผัสกับแสงไฟนีออนยามนอน ส่งผลต่อคุณภาพการหลับลดลง โดยแสงดังกล่าว จะไปกดการทำงานของเมลาโทนินฮอร์โมนตามธรรมชาติ ซึ่งควบคุมการนอนหลับ ดังนั้น ไม่ควรเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืน

    เมื่อตื่นนอนตอนเช้า ใช้เวลา 5 นาทีออกไปรับลม และแสงนอกระเบียง หรือหน้าต่าง
    จะกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่น อารมณ์แจ่มใส สมองตื่นตัว เพียงเท่านี้ก็บอกลาอาการง่วงซึมระหว่างวันได้แล้ว แนะนำวัยเรียนลองไปพิสูจน์กันดู.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์



    -http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=651&contentID=159197-

    .
     
  3. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 23 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, somlatri, chantasakuldecha+</td></tr></tbody></table>




    สวัสดีครับน้องchantasakuldecha

    ไว้พี่โทร.ไปคุยด้วย

    ส่วนของไม่ปลอมแต่เก๊ พี่จะส่งให้ดูอีกเรื่อยๆครับ

    .
     
  4. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไว้ไปหามาให้ชมครับ

    ว่าแต่ว่า คืนนี้ พี่ไปพักผ่อนก่อนครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ

    .
     
  5. อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    เมนู'ปลาทู'ใกล้ตัวอุดมโอเมก้า-3

    วันศุกร์ ที่ 26 สิงหาคม 2554 เวลา 0:00 น


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD><TD id=ext-gen16 style="WIDTH: 46px">วีดีโอ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- START OF THE PLAYER EMBEDDING TO COPY-PASTE --><OBJECT id=player height=480 width=640 classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000 name=player>
























    <OBJECT type=application/x-shockwave-flash height=480 width=640 data=/content/videos/player-licensed.swf> Get Flash to see this player.
    </OBJECT></OBJECT><!-- END OF THE PLAYER EMBEDDING -->​


    ‘โอเมก้า-3’ ชื่อนี้เป็นที่คุ้นหู ด้วยคนทั่วไปเข้าใจว่า เป็นสารอาหารที่มีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึก กินแล้วช่วยให้มีความจำที่ดี แม้เป็นความเข้าใจที่ไม่ผิด แต่ยังรู้กันไม่ครบ เหตุนี้เองผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายสาขาจึงรวมตัวกันเปิดตัว ‘โอเมก้า- อะคาเดมี เอเชีย’ ศูนย์ความรู้ออนไลน์เกี่ยวกับโอเมก้า-3 ไว้โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ Omega 3 เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาข้อมูลของโอเมก้า-3 ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพ จากเนื้อหาที่อ่านเข้าใจง่าย

    ซึ่ง ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ และเลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลปิยะเวท ฝากเตือนผู้สนใจว่า หากขาดความรู้ที่ถูกต้อง การกินโอเมก้า-3 ทั้งที่มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติหรืออาหารเสริม อาจส่งผลกระทบต่อการออกฤทธิ์ของยาที่กินเพื่อรักษาโรคอยู่ก็เป็นได้

    สำหรับ ‘โอเมก้า-3’ ชื่อเต็มๆ คือ กรดไขมันโอเมก้า-3 สายโซ่ยาว ประกอบด้วยกรดไขมันสี่ชนิด คือ DHA DPA EPA ซึ่งมีเฉพาะในปลาที่มีน้ำมันมาก และ ALA ที่พบในน้ำมันพืชและผักสีเขียวบางชนิด เช่น ผักโขม ผักแขนง โดยรวมแล้ว เป็นไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อนที่ดีต่อสุขภาพ ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่ได้จากอาหารที่กินเข้าไป สรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ลดระดับไตรหลีเซอไรด์ในเลือด รักษาระดับคอเลสเตอรอลให้เหมาะสม

    นอกจากนี้ โอเมก้า-3 ยังดีต่อสมอง การพัฒนาสมองด้านการคิดและการควบคุมการทำงานของสมอง ป้องกันอาการหลงลืมในผู้สูงอายุ ลดความบกพร่องของสายตาในกลุ่มคนสูงวัย และดีกับข้อต่อ เพราะสามารถจำกัดการเพิ่มจำนวนของเซลล์ที่ผิดปกติเมื่อเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

    ด้าน อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพ(อเมริกา)และที่ปรึกษาโภชนบำบัด โรงพยาบาลเทพธารินทร์ เผย ปัจจุบันคนไทยเรากินปลา 30 กิโลกรัมต่อปี หรือคิดเป็น 100 กรัมต่อวัน จัดว่าน้อยเกินไป ทั้งบางคนยังคิดว่า โอเมก้า-3 มีอยู่ในปลาที่มีราคาแพง อาทิ แซลม่อน ทั้งที่ๆ ปลาทู อาหารคู่ครัวไทย หาง่าย ราคาถูก ก็อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ในปริมาณมาก เช่นเดียวกับปลาช่อน ปลาสวาย และปลาอินทรีย์

    ส่วนการกินให้ได้คุณค่าโอเมก้า-3 สูงสุดนั้น อ.ศัลยา แนะให้เลี่ยงการนำปลาไปทอดในน้ำมันด้วยความร้อนสูงและนาน เนื่องจากจะลดทอนโอเมก้า-3 ให้น้อยลงไป อย่างนี้ ‘มุมสุขภาพ’ ขอเสนอเมนูมีโอเมก้า-3 และไม่ใช้วิธีทอดน้ำมันในการประกอบอาหาร นั่นคือ ‘ต้มส้มปลาทูสด’ เป็นเมนูกินดีไม่เสียสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ ส่วนผสมประกอบด้วย…
    • ปลาทูสด 3-4 ตัว
    • รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
    • พริกไทย 5 เม็ด
    • หอมแดง 4 หัว
    • กะปิดี 1 ช้อนชา
    • น้ำเปล่าหรือน้ำซุป 2 ถ้วย
    • น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
    • น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
    • ขิงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
    • ต้นหอมหั่นท่อน 1/2 ถ้วย
    • ผักชีเด็ดเป็นใบ 1/4 ถ้วย

    ขั้นตอนในการทำ
    เริ่มด้วยนำรากผักชี พริกไทย หอมแดง กะปิ โขลกรวมกันให้ละเอียดเข้ากันดี จากนั้นตั้งน้ำให้เดือด ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไป ต้มต่อไปจนน้ำในหม้อเดือด ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกข้น น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา เมื่อน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ให้ใส่ปลาทูสดและขิงซอยลงไป ไม่นานปลาทูก็จะสุก ให้ใส่ต้นหอม ปิดเตาโรยผักชีเป็นอันเสร็จ.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  6. อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    ห้องครัวสะอาดปราศจากเชื้อโรค

    วันศุกร์ ที่ 26 สิงหาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>


    การดูแลห้องครัวควรเริ่มตั้งแต่การออกแบบตกแต่งไม่ควรทำให้รกเกินไป หลักในการตกแต่ง และจัดวางห้องครัวไม่ให้รกทำได้ง่ายๆ คือ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้งานแล้วต้องนำมาล้าง ควรจัดวางให้ใกล้กับอ่างล้างจาน เพราะจะสามารถทำให้เก็บได้สะดวก

    โดยขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย เช่น จานชามก็สามารถวางซ้อนกันได้ ถ้วยกาแฟไม่ควรจะวางซ้อนกัน สำหรับหม้อและกระทะก็ควรวางไว้ให้ใกล้เคียงกับบริเวณทีจะประกอบอาหาร สำหรับครอบครัวที่ใช้เครื่องปรุงในการทำอาหารหลายชนิด ก็ควรวางไว้ให้ใกล้กับบริเวณที่ทำอาหารเช่นกัน

    แต่ควรวางไว้เป็นหมวดหมู่ สามารถหยิบใช้ได้ง่าย นอกจากนี้การเก็บวัสดุที่ทำความสะอาด ก็ควรจะเก็บให้เรียบร้อย น้ำยาทำความสะอาดก็ควรเก็บไว้ให้ห่างมือเด็ก การตกแต่งอื่นๆ ภายในห้องครัวควรใช้วัสดุที่จำเป็นเท่านั้น และควรใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะการทำอาหารภายในครัวมักจะมีคราบมันบ่อย

    สุดท้ายถึงจะวางแผนอย่างไรสำหรับการตกแต่งห้องครัวไม่ให้รก แต่ปัจจัยสำคัญต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานครัวว่าจะใช้งานอย่างไร ที่จะไม่ทำให้ครัวรกเสียเอง อีกทั้งควรหมั่นดูแลห้องครัวอย่างสม่ำเสมอ ไม่แพ้ห้องนอนหรือห้องน้ำ แค่นี้ก็จะใช้ห้องครัวได้อย่างมีความสุขปลอดโรค





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  7. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จาก pm ผมครับ

    --------------------------------------------------------

    <table id="post" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px">มื่อวานนี้, 01:33 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> edison-tee
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Dec 2009
    ข้อความ: 5
    พลังการให้คะแนน: 0


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> สนใจร่วมทำบุญค่ะ ไม่ทราบว่ามีพระเหลืออยู่ใช่ไหมคะ อยากได้มาบูชาค่


    ปัจจุบันนี้ ผมให้ร่วมทำบุญ 500 บาท ผมมอบให้ 1 องค์ และผมจะเป็นผู้เลือกพิมพ์ให้เอง


    ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร

    บช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทองบมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม

    </td></tr></tbody></table>
    ------

    <table id="post" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> เมื่อวานนี้, 02:53 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> edison-tee
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Dec 2009
    ข้อความ: 5
    พลังการให้คะแนน: 0


    </td> <td class="alt1" id="td_post_" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>สอบถามใหม่ค่ะ

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> พระวังหน้า ที่ทันสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกอธิษฐานจิต ยังมีอยู่ใช่ไหมคะ โดยร่วมบุญ พันนึง
    แล้วที่ร่วมบุญห้าร้อย ต่างกันอย่างไรคะ

    ขอบคุณค่ะ
    </td></tr></tbody></table>

    --------------------------



    ปัจจุบัน ผมให้ร่วมทำบุญ 1,000 บาท ครับ

    ผมจะมอบพระวังหน้าให้ 1 องค์ครับ


    .
     
  8. อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    คุณ sithiphong ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญสร้างพระบูชาพระอานนท์เถระเจ้า หน้าตัก 16 นิ้ว แล้ว เมื่อวันที่ 25/08/54 เป็นเงิน 300.03 บาท ยอดมีเศษสตางค์ เพื่อง่ายต่อการเช็คนะครับ
     
  9. อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    บาร์ซาอัดปอร์โตซิวแชมป์ซูเปอร์คัพ

    วันเสาร์ ที่ 27 สิงหาคม 2554 เวลา 4:00 น


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ที่สนาม สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ราชรัฐโมนาโก เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา บาร์เซโลนา แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากสเปน พบ เอฟซี ปอร์โต แชมป์ ยูโรปา ลีก จากโปรตุเกส
    ครึ่งแรกเป็น บาร์เซโลนา ที่ครองเกมได้เหนือกว่า และมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ เปโดร โรดริเกซ จ่ายบอลย้อนกลับมาให้ ลิโอเนล เมสซี สังหารเข้าไปไม่เหลือซาก
    ครึ่งหลังยังเป็น "เจ้าบุญทุ่ม" ที่ทำได้ดีกว่า และมาบวกเพิ่มได้อีก 1 ประตู เมื่อ เมสซี ตักบอลข้ามแนวรับให้ เชส ฟาเบรกาส ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง พักบอลด้วยอกก่อนจะดีดเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้นในนาทีที่ 88 จบเกม บาร์เซโลนา จึงชนะไป 2-0 คว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 4 อย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่ ปอร์โต ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 9 คนจากการโดนไล่ออกของ โรลันโด ในนาทีที่ 86 และเฟรดดี กวาริน ในนาทีที่ 90
     
  10. อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    แผลร้อนในหรือแผลในปาก

    วันเสาร์ ที่ 27 สิงหาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    <TABLE class=x-tabs-strip id=ext-gen5 cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR id=ext-gen4><TD class=" on" id=ext-gen10 style="WIDTH: 72px">เนื้อหาข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>


    แผลร้อนในหรือแผลในปาก มักเกิดในช่วงวัยรุ่นและสามารถเกิดได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ซึ่งอาจเกิดได้หลายสาเหตุ มีหลายประเภทดังนี้
    1. แผลขนาดเล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-10 มิลลิเมตร พบได้บ่อยที่สุดและหายได้ภายใน 7-10 วัน

    2. แผลขนาดใหญ่ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง มากกว่า 10 มิลลิเมตร พบได้น้อยกว่าแผลขนาดเล็ก และอาจใช้เวลานาน 10-30 วัน แผลจึงจะหายได้ เมื่อหายแล้วอาจกลายเป็นแผลเป็นได้

    3. แผลเฮอร์ปิติฟอร์ม เป็นแผลขนาดเล็กหลายแผลรวมกัน (ไม่เกี่ยวข้องกับแผลเริมในปาก) และหายได้เองใน 7-10 วัน

    อาการ ของแผลร้อนในหรือแผลในปากมักพบแผลตามลิ้น เยื่อบุด้านในของริมฝีปาก หรือตามเหงือก อาจเกิดได้ 1-2 ครั้งต่อปีหรือมากกว่านั้น มักมีอาการปวดแสบร้อนที่แผล แผลในปากไม่ได้เป็นโรคติดต่อและไม่สามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้

    สาเหตุ ของแผลร้อนในหรือแผลในปาก อาจเกิดจากการแพ้อาหาร หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันผิดปกติ บางรายเกิดจากการขาดสารอาหาร เช่น วิตามินบี 12 ขาดธาตุเหล็ก ขาดวิตามินซี นอกจากนี้ก็อาจเกิดจากโรคลำไส้อักเสบ ความเครียด กัดโดนเยื่อบุปาก เคี้ยวของแข็ง แปรงฟันผิดวิธี รับประทานอาหารเผ็ดร้อน สูบบุหรี่หรือฟันปลอมที่สวมไม่พอดี ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโซเดียมลอรีลซัลเฟต ก็อาจทำให้เกิดแผลในปากได้

    ระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติสามารถทำให้เกิดการอักเสบของร่างกาย เช่น โรคเอสแอลอี โรคโครห์น หรือ โรคเบเซ็ท ซึ่งก็อาจทำให้เกิดแผลอักเสบในปากได้ ในผู้หญิงบางคนอาจเกิดแผลในปากได้ในขณะมีประจำเดือน บางรายก็อาการดีขึ้นเมื่อตั้งครรภ์

    วิธีการรักษาและข้อแนะนำ

    1. ควรหลีกเลี่ยงการทานมันฝรั่งทอดหรือของแข็งที่อาจทิ่มแทงเยื่อบุปากได้ และควรหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดร้อน

    2. แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างปาก หรือน้ำเกลือบ้วนปาก

    3. ทายาที่แผลในปาก ได้แก่ ครีมยาชา หรือครีมสเตียรอยด์

    4. รับประทานยาแก้ปวด หรือให้อมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ และดื่มน้ำเย็น ๆ

    5. รับประทานวิตามินบีและซี

    6. ถ้าเกิดจากโรคอื่น เช่น โรคเอสแอลอี โรคโครห์น หรือ โรคเบเซ็ท ควรพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการของโรคนั้น

    ส่วนใหญ่แผลในปากจะค่อย ๆ หายได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้ยาอื่นๆ นอกจากยาบรรเทาปวดเป็นครั้งคราว ลักษณะของโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผลในปาก

    1. โรคเอสแอลอี เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายเนื้อเยื่อของตนเอง อาจพบความผิดปกติตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น มีผื่นขึ้นตามแก้ม ปลายนิ้วมือซีดและเขียว เมื่อสัมผัสอากาศเย็น ผมร่วง มีภาวะไตอักเสบ บวมทั้งตัว หรือสมองอักเสบ เป็นต้น

    2. โรคโครห์น เป็นโรคภูมิคุ้มกันที่ก่อให้เกิดลำไส้อักเสบ การอักเสบส่วนใหญ่นั้นมักจะเกิดขึ้นที่ลำไส้เล็กส่วนปลายที่ต่อกับลำไส้ใหญ่ การอักเสบจะทำให้ผนังลำไส้หนาตัวมากขึ้น อาจคลำก้อนในท้องได้ หรือมีจุดกดเจ็บที่ท้อง มีผื่น ปวดข้อ และแผลในปาก

    3. โรคเบเซ็ท จะพบแผลในปากเป็น ๆ หาย ๆ มีแผลที่อวัยวะเพศ ตาอักเสบ นอกจากนี้อาจมีอาการข้ออักเสบร่วมด้วย

    4. แผลเริมในปากเป็นการติดเชื้อเริมที่ริมฝีปากเกิดจากเชื้อเฮอร์ปีส์โดยมีลักษณะเป็นตุ่มใสเล็ก ๆ บริเวณริมฝีปาก เหงือกและมีอาการปวด จะติดต่อจากการสัมผัสโดยตรง เช่น การจูบ หรือการใช้ของร่วมกัน เช่น การใช้ใบมีดโกน การใช้ผ้าเช็ดหน้าร่วมกัน หลังจากได้รับเชื้อ 7-10 วันจะเริ่มเกิดอาการแสบร้อนและตามด้วยตุ่มใส
    เล็ก ๆ ตุ่มใสนี้จะอยู่เป็นเวลา 7-10 วันแล้วจึงเริ่มหาย
    5. มะเร็งในช่องปาก ลักษณะเป็นปื้นแผลสีขาว หรือเป็นก้อนที่แตกออกเป็นแผลเรื้อรังที่ไม่หายขาด

    6. โรคเอดส์ มักเกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ แผลมักหายได้เองภายในเวลาไม่กี่วัน ควรให้การรักษาตามอาการเพื่อทุเลาปวดเช่น ป้ายยาสเตียรอยด์หรืออมน้ำแข็ง ถ้าเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ และไม่หายขาดอาจเกี่ยวข้องกับโรคเอสแอลอี โรคโครห์น โรคเบเซ็ท แผลเริมในปาก มะเร็งช่องปาก หรือโรคเอดส์ได้.

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิงรพีพร โรจน์แสงเรือง
    ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล





    ที่มา เดลินิวส์ ออนไลน์
     
  11. :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เณรแปลงร่างมาเป็นพระ แล้วหลงเข้าใจว่าเป็นพระจริง ภายนอกบางครั้งก็รู้ว่าไม่ดี บางครั้งดูดี จนเข้าใจว่าเป็นพระ ลองดู clip นี้เปรียบเทียบกันนะครับ จะเข้าใจว่า เณรปลอมตัวมาเป็นพระเป็นยังไง...ก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ชื่นชอบพระวังหน้า ได้โปรดระมัดระวัง จดจำไว้ทุกขณะ..
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=_8io0a7j09s&feature=fvsr"]Cô giáo xinh cực kỳ luôn nhưng... - YouTube[/ame]
     
  12. :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    <IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0px; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0px; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0px; TOP: 0px; BORDER-RIGHT: 0px; LEFT: 0px" id=_atssh206 title="AddThis utility frame" height=1 src="//s7.addthis.com/static/r07/sh52.html#iit=1314453426765&cb=0&ab=-&dh=palungjit.org&dr=&du=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fnewreply.php%3Fdo%3Dnewreply%26p%3D5040304&dt=&inst=1&lng=th&pc=men&pub=xa-4a38f0f6636e48fa&ssl=0&sid=4e58f7b25afa03e5&srd=1&srf=0.02&srp=0.2&srx=0.5&ver=250&xck=0&rev=103632&ct=1&xd=1" width=1 name=_atssh206 frameborder="0"></IFRAME>
    โรคนี้โบราณเรียก"ไข้พิษไข้กาฬ" อยู่พระคัมภีร์ตักศิลา เพิ่งเรียนจบไปวันนี้ การรักษาต้องกระทุ้งพิษออกมาก่อน บางครั้งผู้คนเข้าใจผิดว่า แพ้ยา ทำไมยิ่งทาน ยิ่งออกมาเยอะ การรักษาของแผนปัจจุบัน จะให้ตัวยากดพิษเอาไว้ข้างใน เราจะเข้าใจว่ามันหาย แต่จริงๆ มันยังอยู่ สมัยโบราณหากหมอโบราณท่านใดจะรักษาไข้ประเภทนี้จะต้องสร้างรูปปั้นพระฤาษีพระองค์หนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญการรักษาไข้ตักศิลานี้ และเป็นผู้แต่งพระคัมภีร์ตักศิลา มีเพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งเขาเคยเห็นหมอรุ่นพี่รักษาคนที่เป็นโรคประเภทนี้ เขาถามว่า รักษาได้หรือ sure หรือ เขาตอบว่า sure เขาเลยเดินหนีไป อีกไม่กี่อาทิตย์ได้พบกัน ถึงได้ทราบว่า เขาติดเชื้อนี้เข้าไปแล้ว เพิ่งจะถึงบางอ้อว่า โรคประเภทนี้ติดต่อกันได้ ก็ใช้เวลากว่าจะแก้ได้ ..
     
  13. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <table id="post5040267" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> เมื่อวานนี้, 08:08 AM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #46382 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> อนัตตัง
    สมาชิก



    วันที่สมัคร: Feb 2011
    ข้อความ: 385
    พลังการให้คะแนน: 45


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5040267" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> คุณ sithiphong ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญสร้างพระบูชาพระอานนท์เถระเจ้า หน้าตัก 16 นิ้ว แล้ว เมื่อวันที่ 25/08/54 เป็นเงิน 300.03 บาท ยอดมีเศษสตางค์ เพื่อง่ายต่อการเช็คนะครับ
    </td></tr></tbody></table>


    -----------------------------------------------------------------

    โมทนาสาธุครับ



    .
     
  14. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    โปรดระวังครับ

    จริงๆแล้ว ผมว่าน่าจะนำรูปหน้าผู้ที่กระทำ ไปลงตามสื่อต่างๆ จะได้ให้รู้ว่า คนนี้เป็นพวกนี้ครับ


    --------------------------------------------


    รูปภาพ เตือนภัยสาวๆ แอบถ่ายใต้กระโปรง กำลังระบาดอีกครั้ง

    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="2" width="100%"><tbody><tr><td align="center"><table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>

    <table id="Table_01" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_10.gif"> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_22.gif"> </td> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_24.gif"> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td background="http://202.183.165.44/images_play/box_w_35.gif"> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table>




    <ins style="display:inline-table;border:none;height:15px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:728px"><ins id="aswift_1_anchor" style="display:block;border:none;height:15px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:728px"></ins></ins>

    </td> </tr><tr> </tr></tbody></table> เตือนภัยสาวๆ แอบถ่ายใต้กระโปรง กำลังระบาดอีกครั้ง เตือนภัยสาวๆ นุ่งสั้น แก๊งค์แอบถ่าย แอบถ่ายใต้กระโปรง กำลังกลับมาระบาดอีกแล้วโดยล่าสุดกลับมากับแผนเดิมๆด้วยการ ซ่อนกล้องไว้ในกระเป๋าถือ หลังจากนั้นก็เดินไป ถ่ายช้อนใต้กระโปรงสาวๆ แต่โชคดีที่ โรคจิตแอบถ่ายใต้กระโปรง รายนี้โดนตำรวจรวบได้ทันควัน

    -http://play.kapook.com/photo/show-115351-

    .
     
  15. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันพรุ่งนี้ และมะรืนนี้ (29-30 สิงหาคม 2554) ผมโดนไปอบรมอีกแล้วครับ

    เนื่องจากนิสัยไม่ดี

    แถมต้องโดนสอบในวันอบรมอีกด้วยครับ


    .
     
  16. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมส่งรูปไปให้ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า และ ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า ได้ชมกัน

    เป็นเรื่องอะไร และ รูปอะไรบ้าง ไปชมใน Email ครับ

    และขอความกรุณา ห้ามส่งต่อครับ

    .
     
  17. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    "โอเมก้า 3" ลดความเสี่ยง "โรคหัวใจ" หาได้ใน "ปลาทูไทย"

    ความเจริญของโลกใบนี้ก่อให้เกิดการพัฒนาอาหารที่มีความหลากหลาย เพื่อให้ถูกปากและถูกใจคนกินมากยิ่งขึ้น

    โดยเฉพาะไขมันที่มีมากในอาหารประเภทเร่งด่วน ตัวเร่งให้เกิดความอ้วนและโรคนานาชนิดที่แฝงมากับอาหารในโลกยุคใหม่

    ดังนั้น เราจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม เพื่อหลีกหนีอาหารที่หน้าตาดีแต่ไม่มีประโยชน์เหล่านั้น

    ศ.น.พ.นิธิ มหานนท์ อายุรแพทย์โรคหัวใจและเลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลปิยะเวทกล่าวว่า การรับประทานอาหาร และการดำเนินชีวิตแบบเร่งรีบเป็นตัวทำให้เกิดโรคได้มากมาย โดยเฉพาะโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ ซึ่งมีโอกาสพัฒนาไปเป็นโรคหัวใจและโรคเส้นเลือดในสมองได้ในอนาคต

    และ ยิ่งอาหารที่เราบริโภคในปัจจุบัน ถือว่ามีสารอาหารต่าง ๆ หดหายไป ซึ่งบางชนิดยังเป็นโทษต่อร่างกายอีกด้วย เช่น ผลไม้ที่มีความหวานมากขึ้น ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคได้

    โดยเฉพาะไขมันซึ่งมีทั้งไขมันดี และไขมันไม่ดี ซึ่งร่างกายต้องการไขมันดีมาช่วยให้การฟื้นฟูเซลล์และฮอร์โมนใน ส่วนต่าง ๆ จากข้อมูลทางวิชาการพบว่า ไขมันที่ร่างกายต้องนำไปใช้คือ โอเมก้า 3, 6 และ 9 ซึ่งตัวที่ร่างกายต้องการมากที่สุดคือ โอเมก้า 3 ที่จะช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคสมองเสื่อมได้

    สำหรับโอเมก้า 3 บางชนิด ถ้าได้ตั้งแต่เด็ก ๆ หรืออยู่ในครรภ์มารดาจะทำให้การเจริญเติบโตของสมองดีขึ้น และยังมีผลการวิจัยพบว่า โอเมก้า 3 ยังช่วยลดอาการอักเสบของโรคข้ออักเสบได้ด้วย ส่วนผู้ป่วยโรคหัวใจนั้นโอเมก้า 3 จะช่วยป้องกันโรคได้ และถ้าในคนที่เป็นโรคแล้วยังป้องกันไม่ให้มีอาการเพิ่มขึ้น

    ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพ (อเมริกา) และที่ปรึกษาโภชนบำบัดโรงพยาบาลเทพธารินทร์กล่าวว่า โอเมก้า 3 มีมากอยู่ในอาหารจำพวกปลาทะเล แต่ก็มีอาหารชนิดอื่น ๆ ที่มีสารอาหารชนิดนี้ด้วยเช่นกัน อาทิ ในน้ำมันบางชนิดในพืชบางชนิด เช่น ถั่วเหลือง ผักโขม ผักแขนง เมล็ดปอ และในสาหร่าย แต่ในอาหารเหล่านี้จะเป็นโอเมก้า 3 ที่ไม่ใช่รูปแบบเดียวกับที่อยู่ในปลา

    อย่าง ไรก็ตาม โอเมก้า 3 จะถูกทำลายเมื่อนำไปประกอบอาหารด้วยวิธีใช้ความร้อนสูง ๆ โดยเฉพาะวิธีการทอด เพราะโอเมก้า 3 จะละลายไปกับน้ำมันที่ใช้ทอดเกือบทั้งหมด

    ดังนั้น วิธีที่จะประกอบอาหารให้ คงโอเมก้า 3 ไว้ให้ได้มากที่สุดก็คือ การยำ การต้ม หรือแกง เพราะโอเมก้า 3 จะละลายอยู่ในน้ำซุปหรือน้ำแกง

    นอกจากนั้น ปลาทูของไทยยังมีโอเมก้า 3 มากเพียงพอกับปลาแซลมอน ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อหาปลาราคาแพงมาประกอบอาหารเลย



    -http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1314425611&grpid=no&catid=12-

    .
     
  18. Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ดีครับ คุณอนันตังสบายดีไหมครับ วันหยุดเป็นไงบ้างนะครับผม
     
  19. Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    คุณหนุ่มครับ ผมได้รับทรายเสกแล้วนะครับ ขอบคุณมากนะครับผม
     
  20. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    เปิดใจ "นวพร เรืองสกุล" เดินหน้า 3 ภารกิจหลัก-ล้างภาพลบ ก.ล.ต.




    วันแรกของการเข้าทำงานอย่างเป็นทางการของประธาน ก.ล.ต. คนใหม่ "นางสาวนวพร เรืองสกุล" เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นที่จับตามองของคนในตลาดทุนอย่างมาก ว่าจะมีวิสัยทัศน์ในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กรกำกับดูแลตลาด ทุนอย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อย่างไร

    แม้ว่าการเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้จะเป็นการรับช่วง ต่อจากนายวิจิตร สุพินิจ ที่เกิดอุบัติเหตุปมหุ้นร้อน บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ เนื่องจากนายวิจิตรเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของกลุ่มผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายย่อยบางกลุ่ม จนทำให้ภาพนายวิจิตรออกมาถูกสังคมพิพากษาขาดธรรมาภิบาล และเป็นปมร้อนที่ทำให้พนักงาน ก.ล.ต.ทนไม่ไหวจนต้องออกมาประท้วง ทำให้ต้องตัดสินใจยื่นใบลาออกก่อนหมดวาระเนื่องจากเกษียณอายุ ทั้ง ๆ ที่อีกเพียงเดือนกว่า ๆ ก็หมดวาระตำแหน่งอยู่แล้ว

    ทั้งนี้ นางสาวนวพรจะเข้ามารับช่วงตำแหน่งประธาน ก.ล.ต.ในช่วงวาระที่เหลือของนายวิจิตรเท่านั้น คือ ตั้งแต่ 14 ก.ค. 2554 ถึงเดือน เม.ย. 2555 โดยนางสาวนวพรได้กล่าวเปิดใจว่า

    โดยส่วนตัวไม่ ได้กังวลกับการทำงานใน ก.ล.ต.มากนัก แม้จะเข้ามาทำงานในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีเป้าหมายในการทำงานอยู่หลายเรื่อง นอกเหนือจากงานการดูแลสำนักงาน รวมถึงนโยบายด้านตลาดทุนและการกำกับตลาดหลักทรัพย์ฯซึ่งเป็นงานหลัก

    นาง สาวนวพรได้เปิดเผยถึงงานที่อยากจะทำ ได้แก่ การพัฒนาตลาดตราสารหนี้ให้ดีขึ้น ซึ่งตลาดตราสารหนี้ถือเป็นตลาดที่ต้องเดินไปควบคู่กับตลาดทุน แต่ปัญหาปัจจุบันตลาดตราสารหนี้ยังมีสภาพคล่องน้อย จึงต้องมาคิดวิธีการว่า จะทำอย่างไร หรือต้องเพิ่มบทบาทผู้เล่นรายใดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ดังนั้นหากตลาดนี้มีสภาพคล่องดีและซื้อขายได้กว้างขึ้น รัฐบาลจะระดมเงินได้ง่ายและถูกยิ่งขึ้นด้วย

    อีกเรื่องที่อยากทำมาก เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเองด้วย นั่นคือ เรื่องการบริหารเงินให้ผู้สูงอายุ หรือบริหารจัดการทางการเงิน (financial management) ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญถึงการออมเงินเพื่อการเกษียณเท่านั้น แต่ไม่ได้พูดถึงการบริหารจัดการเงินหลังเกษียณ

    ฉะนั้นจึงต้องการให้ผู้สูงวัยสามารถจัดการเงินส่วนนี้ เพื่อดูแลตัวเองในระยะข้างหน้าด้วย

    ส่วน เรื่องที่สามคือ การให้ความรู้ด้านการเงิน (financial educate) จะกว้างกว่าการให้ความรู้ด้านการลงทุน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯและ ก.ล.ต.ทำแล้ว เพื่อให้นักลงทุนสนใจในลงทุนตราสารทางการเงินต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าควรจะให้การศึกษาว่าจะบริหารจัดการเงินทองอย่างไรด้วย

    นางสาวนวพรได้กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ก.ล.ต. 21 ก.ค.นี้ ็เตรียมจะเสนอแผนงานดังกล่าว

    อย่าง ไรก็ตาม นายธีระชัย ภุวนาถนรานุบาล เลขาธิการก.ล.ต. ได้เตรีมเสนอเรื่องให้บอร์ด ก.ล.ต.พิจารณาคดี"ยิ่งลักษณ์"จะดำเนินการต่อหรือยุติ

    สำหรับการเข้า มาทำงานของนางสาวนวพรใน ก.ล.ต. ดูเหมือนจะเป็นแสงสว่างให้กับคนใน ก.ล.ต.ไม่น้อยว่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้อีกครั้ง หลังจากที่ตกอยู่ในบรรยากาศอึมครึมมาก่อนหน้านี้ ซึ่งนางสาวนวพรมีคำตอบว่า

    "ปัญหา เรื่องภาพลักษณ์ ก.ล.ต. ที่เสียไป ถ้าเราทำดีก็จะดี เพราะอยู่ที่ คน เรื่องของธรรมาภิบาลก็พูดกันไป แต่ท้ายที่สุดต้องวัดที่การกระทำ เราจะมาพูดเองไม่ได้หรอก ต้องให้คนอื่นพูดถึงเรา"

    จากนี้ไปคงต้องวัดเรตติ้งประธาน ก.ล.ต.คนใหม่จากเสียงสะท้อนของคนรอบข้างพิสูจน์ฝีมือกันไป


    -http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1310876841&grpid=&catid=09&subcatid=0900-

    .
     

แชร์หน้านี้