พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาทบทวนความทรงจำที่หลายๆท่านได้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และรับพระวังหน้าไปห้อยคอและบูชากัน



























     
  2. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาทบทวนความทรงจำที่หลายๆท่านได้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และรับพระวังหน้าไปห้อยคอและบูชากัน









     
  3. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาทบทวนความทรงจำที่หลายๆท่านได้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง และรับพระวังหน้าไปห้อยคอและบูชากัน











     
  4. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ไว้หลังปีใหม่ ( 2551 ) ผมจะนำพระวังหน้า(ที่อาราธนาพระบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกกุสันโธ ,พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี อธิษฐานจิต ซึ่งแล้วแต่พิมพ์) มามอบให้ท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งกันอีกครั้ง รวมทั้งล็อกเก็ตด้วยครับ

    โมทนาบุญทุกๆท่านครับ

    .
     
  5. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ได้ข่าวว่าคุณตั้งใจกลับ ยะลาคราวนี้ พกความมั่นใจเต็มเปลี่ยมใช่มั้ย อ้อไหนบอกจา..ให้ผมนิมนต์ กรุเนปาลไงลืมทวงจนได้ครับ(glass)
    nongnooo...
     
  6. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผมขอจองครับ ....ซ้อมไว้ก่อน ข่มขวัญคุณตั้งใจครับ55555(b-smile)
     
  7. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=69601&page=30
    ร่วมบุญบูชาผ้ายันต์และวัตถุมงคลแห่งวัดป่าโนนจ่าหอมเพื่อสร้างโบสถ์

    <TABLE class=tborder id=post797377 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 05:11 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#591 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>นักเดินทาง<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_797377", true); </SCRIPT>
    สมาชิก



    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:32 PM
    วันที่สมัคร: Jul 2005
    อายุ: 39 ปี
    ข้อความ: 1,125 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 3,491 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 8,378 ครั้ง ใน 1,045 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1075



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_797377 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ร่วมบูชาเพชรพญานาค ปัจจยที่ได้ร่วมสมทบทุนสร้างโบสถ์ เที่ยวนี้มีจำนวนไม่มาก ติดต่อบูชาได้ที่คุณอนุชวน








    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=83574&page=44

    <TABLE class=tborder id=post784359 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">30/10/2550, 07:43 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#852 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Pattana<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_784359", true); </SCRIPT>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต



    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:06 PM
    วันที่สมัคร: Sep 2005
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 2,481 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 17,771 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 33,948 ครั้ง ใน 2,501 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3686


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_784359 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->สรุปรายการที่มีผู้ร่วมประมูลอันดับ 1 และ 2 ดังนี้ครับ
    14. เหรียญรูปถ่ายของขวัญรับพระราชทานสมณศักดิ์ ปี 2528 คุณ sithiphong เสนอสูงสุดที่ 450 บาท



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post795485 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 08:06 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #901 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Pattana<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_795485", true); </SCRIPT>
    สมาชิก กิตติมศักดิ์
    สมาชิกยอดฮิต



    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:50 PM
    วันที่สมัคร: Sep 2005
    อายุ: 40 ปี
    ข้อความ: 2,511 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 17,935 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 34,933 ครั้ง ใน 2,542 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 3788


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_795485 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->วันนี้ได้ส่งพระแบบ EMS ให้ดังนี้ครับ

    1. คุณ pailin รหัส EF133549328TH
    2. คุณ chirakit รหัส EF133549376TH
    3. คุณ pallop รหัส EF133549380TH
    4. คุณ ลัก..ยิ้ม รหัส EF133549359TH
    5. คุณ sithiphong รหัส EF133549393TH
    6. คุณ ranault รหัส EF133549362TH
    7. คุณ Newone รหัส EF133549331TH
    8. คุณ ligore รหัส EF133549345TH

    9. คุณ mali (ส่งพรุ่งนี้ครับ)
    10. คุณ ปรมาภรณ์ (ส่งพรุ่งนี้ครับ)

    ท่านสามารถติดตามการนำส่งได้จาก Link ข้างล่างนี้ครับ โดยการนำรหัสของแต่ละท่านมากรอกในช่องว่างครับ

    http://track.thailandpost.co.th/trac...t/Default.aspx
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ผมได้รับพระ,แหนบและDVDหลวงพ่อฤาษี(by boy)แล้ว ขอขอบคุณคุณพัฒนาและคุณมหาหินด้วยนะครับ

    โมทนาสาธุครับ


    .<!-- / message --><!-- sig -->
     
  9. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://modernine.mcot.net/view.php?news_id=1262&tk=art


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD>ตะลึง...เจอแม่ค้า ปาดเชื้อราขนมปังหมดอายุ นำออกขายใหม่ สธ.เตือนบริโภคเป็นมะเร็ง</TD></TR><TR vAlign=top><TD class=th_normal>

    กระทรวงสาธารณสุข เตือนภัยลูกหลานเด็กเล็ก หลังพบแม่ค้าในแถบจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง ลักลอบนำขนมปังหมดอายุ มีราขึ้น หรือขนมปังตกมาตรฐาน มาตากแดด ปาดส่วนที่มีเชื้อราออก แล้วนำมาบรรจุใส่ถุงพลาสติก มัดเป็นพวงๆ ขายส่ง เร่ขายตามบ้าน ราคาถูกเพียงถุงละ 1 บาท ชี้อันตรายขนมราขึ้น เสี่ยงมะเร็งตับ สั่งสาธารณสุขจังหวัด และอสม.เข้มงวด ตรวจสอบ หากพบผู้ขาย จะมีความผิด มีโทษปรับไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท จำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
    นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปติดตามงานสาธารณสุขที่จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ได้รับรายงานว่า ในพื้นที่แถบนี้ มีพ่อค้าแม่ค้าในหมู่บ้าน นำขนมปังปอนด์ เช่นแซนวิช ขนมปังแผ่นทาใบเตย ขนมปังไส้ครีม ที่ผลิตจากโรงงาน ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตอาหาร จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แต่หมดอายุแล้ว มีราขึ้น หรือขนมปังกรอบไส้ครีม ที่ตกเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งบริษัทผู้ผลิตได้เปิดประมูล เพื่อนำไปเป็นอาหารสัตว์ แต่มีพ่อค้าดังกล่าวได้ประมูลมา แล้วนำมาตากแดด แล้วจ้างชาวบ้านในชนบท ตกแต่งโดยตัดส่วนที่มีเชื้อราขึ้นออก แล้วนำมาบรรจุใส่ในถุงพลาสติกเล็กๆ มัดเป็นพวงๆ พวงละ 12 ถุง แล้วนำมาขายส่งในตลาดสด ราคาพวงละ 9 บาท ให้พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย นำไปขายปลีกในหมู่บ้าน หรือตระเวณเร่ขายให้เด็กๆ ตามหมู่บ้านในชนบท ราคาถุงละ 1 บาท

    นายแพทย์มรกตกล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าว เป็นเรื่องมีความเสี่ยงมาก เนื่องจากผู้ที่ซื้อขนมประเภทดังกล่าวมักเป็นเด็กๆ ที่ไม่รู้ถึงพิษภัยอันตราย การปาดเอาส่วนที่เป็นเชื้อราออกและกินส่วนที่เหลือ เป็นการเสี่ยงที่จะได้รับสารพิษจากเชื้อราได้ ซึ่งหากเป็นเชื้อราที่สร้างสารพิษ สารพิษก็จะซึมไปที่ด้านล่าง หรืออยู่รอบๆ จุดที่ขึ้น สารพิษจากเชื้อราบางชนิดมีพิษสูงมาก การได้รับในปริมาณน้อยๆ มีผลทำให้สารพิษสะสมในร่างกาย เป็นสาเหตุให้เกิดเป็นมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งตับ รวมถึงอาหารที่หมดอายุ มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ และบุรีรัมย์ได้กวาดล้างขนมประเภทนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่พบมีการลักลอบขายอยู่เนืองๆ จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ครู องค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ และอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ร่วมกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องภัยอันตรายของลูกหลาน จากขนมเหล่านี้

    ทั้งนี้ ลักษณะของขนมหมดอายุแล้ว นำมาแบ่งบรรจุใหม่ ขนมปังที่ผ่านการตกแต่งตัดส่วนที่เชื้อราขึ้นออกไปนี้ สังเกตได้ง่ายๆ ได้แก่ ไม่มีฉลากอาหาร หรือมีฉลากที่ไม่ถูกต้อง เช่นไม่มีเครื่องหมาย อย. ไม่มีรายละเอียดสถานที่ตั้งของผู้ผลิต เป็นต้น ซึ่งข้อมูลบนฉลาก จะช่วยให้สืบหาผู้กระทำผิด เพื่อรับผิดชอบต่อผู้บริโภคได้ หากประชาชนพบเห็นขนมเหล่านี้ อย่าซื้อให้ลูกหลานกินอย่างเด็ดขาด และขอความร่วมมือ ให้แจ้งที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ หรือแจ้งผ่านสถานีอนามัยใกล้บ้าน หรืออสม. เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามกฎหมายทันที โดยผู้ขายมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร มีโทษปรับไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท จำคุก 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

    ทางด้านนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า อาหารทุกชนิดมีอายุการบริโภค เมื่อเก็บไว้นานๆจะมีการเสื่อมสภาพ และสูญเสียคุณค่าทางอาหาร หากผู้บริโภคซื้ออาหารที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุมาบริโภค ก็อาจจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 194 เรื่องฉลาก กำหนดให้อาหารที่มีอายุการบริโภคไม่เกิน 90 วัน ต้องแสดงวัน เดือน และปีที่หมดอายุการบริโภค หรือวันเดือนและปีที่ควรบริโภคก่อน ไว้บนฉลากด้วย อย่างเช่นอาหารประเภทขนมปัง มักมีอายุการบริโภคไม่เกิน 7 วัน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อและบริโภคอาหารทุกครั้ง ผู้บริโภคควรสังเกตวัน เดือนปี ที่หมดอายุ ก่อนการบริโภค

    นายแพทย์ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ความสำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหาร โดยเข้มงวดในการตรวจ เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดและแหล่งผลิต พร้อมประสานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวัง ตรวจ ติดตาม และลงโทษผู้กระทำผิด ทั้งแหล่งผลิตและจำหน่าย พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคใช้ช่องทางสายด่วนบริโภค 1556 ในการร้องเรียน เมื่อพบเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

    ขอขอบคุณข้อมูลข่าว : กระทรวงสาธารณสุข

    อัพเดทโดย : ศศิวิมล

    </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=th_normal>อัพเดตเมื่อ 2007-11-04 เวลา 23:22:34 </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=th_b>ข่าวย้อนหลัง | ข่าวทั้งหมด </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=th_normal>ตะลึง...เจอแม่ค้า ปาดเชื้อราขนมปังหมดอายุ นำออกขายใหม่ สธ.เตือนบริโภคเป็นมะเร็ง
    สธ.เตือน...รีไซเคลิขวดพลาสติกใส่น้ำซ้ำๆ ควรระวังความสะอาด
    เฉพาะแพร่ ปี 48-49 มะเร็งเต้านมฆ่าสตรี 68 ราย ชี้ใส่ใจใช้ 3 นิ้วค้นมะเร็งเต้านมได้เอง
    เตือนเชื้ออหิวาต์ระบาดหนัก ล่าสุดติดเชื้อเกือบพันราย...ตายแล้ว 4 ราย
    นักลุยป่าฝน..เฮ แพทย์ไทยคิดสูตรสมุนไพร ป้องกันทากดูดเลือดสำเร็จ
    เตือน..สาวๆ ผู้นิยมรัดเปรี๊ยะ ชั้นในใยสังเคราะห์ ระวังติดเชื้อของรัก..ของสงวน
    สธ.เตือนใส่เครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกินซอง เสี่ยงภาวะโรคไต
    อย.ประกาศห้ามใช้เครื่องสำอาง 13 ยี่ห้อ พบสารพิษทำหน้าพัง
    ระวัง...หน้าหนาว 20 ในร้อยราย เด็ก 2 ขวบที่ติดเชื้อคล้ายหวัด แต่ไอเรื้อรัง สุดท้ายไม่รอด
    สธ.ระดม อสม.รณรงค์คนไทยให้ใส่ใจการตรวจหา ภัยร้ายจากโรคมะเร็ง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เจ้าพระยาเกริกไกร กับ“กระบวนพยุหยาตราชลมารค” มรดกทางวัฒนธรรมหนึ่งเดียวในโลก
    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9500000130883
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 พฤศจิกายน 2550 15:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กระบวนพยุหยาตราชลมารค มรดกทางวัฒนธรรมหนึ่งเดียวในโลกที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองไทยเพียงประเทศเดียว </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> วันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 นี้ นับเป็นโอกาสดีอีกครั้ง ที่คนไทยจะได้ชม“กระบวนพยุหยาตราชลมารค” ในงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในระหว่างเวลา 15.00 – 17.00 น. ตั้งแต่บริเวณท่าวาสุกรีจนไปสิ้นสุดบริเวณวัดอรุณราชวรารามฯ

    สำหรับกระบวนพยุหยาตราชลมารค(หรือขบวนเรือพระราชพิธี หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จประทับในเรือพระที่นั่ง) และประเพณีเห่เรือ ถือเป็น "มรดกทางวัฒนธรรม" ที่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลกที่เมืองไทยเท่านั้น ซึ่งนับได้ว่ากระบวนพยุหยาตราชลมารค นอกจากจะเป็นมรดกไทยอันล้ำค่าแล้ว ยังเป็นมรดกโลกอันทรงคุณค่าอีกด้วย

    กระบวนพยุหยาตราชลมารค หรือการเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำ(การเสด็จพระราชดำเนินทางบก เรียกว่า “พยุหยาตราสถลมารค”) เป็นประเพณีสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สืบต่อกันมานับแต่โบราณ จากบันทึกของหม่อมราชวงศ์ แสงสูรย์ ลดาวัลย์ ได้อธิบายถึงมูลเหตุของเรือที่ใช้ในกระบวนพยุหยาตราฯ ไว้ว่ามาจากเรือรบที่ใช้ในศึกสงคราม รวมถึงเรือส่งกำลังพล เรือส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ เรือส่งเสบียงดังที่บันทึกเอาไว้ว่า

    ...เรือพระราชพิธีที่ใช้ในกระบวนเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนพยุหยาตราชลมารคนี้ แท้จริงก็คือ เรือรบที่โบราณท่านใช้รบในลำแม่น้ำ...

    และเมื่อสงครามทางน้ำห่างหายไป เรือเหล่านี้จึงถูกนำมาใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำในพระราชพิธีต่างๆ ซึ่งพระมหากษัตริย์เลือกที่จะใช้เรือรบหลวงต่างๆเหล่านี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงแสนยานุภาพภายใต้พระบารมี จึงเกิดเป็นกระบวนพยุหยาตราชลมารคขึ้นมา

    โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค หมายถึง ริ้วกระบวนที่จัดขึ้นในการที่พระเจ้าอยู่หัวสมัยโบราณเสด็จพระราชดำเนินไปในการต่างๆ ทั้งเป็นการส่วนพระองค์และที่เป็นการพระราชพิธี ดังเช่น พระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า กระบวนพยุหยาตราชลมารค น่าจะมีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยว่ากันว่า เริ่มจากการที่ พระร่วงได้นำเรือออกไปลอยกระทงหรือกระทำพิธี “จองเปรียง” ณ กลางสระน้ำ พร้อมทั้งเผาเทียนเล่นไฟในยามเพ็ญเดือนสิบสอง

    ต่อมาอีกราว 100 ปี ในยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตามพงศาวดารได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระนเรศวรเมื่อคราวเสด็จไปตีเมืองเมาะตะมะ เสด็จพระราชดำเนินจากกรุงศรีอยุธยาโดยชลมารค พอได้เวลาฤกษ์ พระโหราราชครูอธิบดีศรีทิชาจารย์ ก็ลั่นกลองฆ้องชัยให้พายเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์ อันเป็นเรือทรงพระพุทธปฏิมากรทองนพคุณ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุถวายพระนามสมญา “พระพิชัย” นำกระบวนออกไปก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล

    ครั้นในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231) ปรากฏหลักฐานว่าเมื่อพระองค์เสด็จแปรพระราชฐานไปยังหัวเมืองต่างๆ มีการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารค ที่เรียกว่า “ขบวนเพชรพวง” เป็นริ้วกระบวนยิ่งใหญ่ 4 สาย พร้อมริ้วเรือพระที่นั่ง ตรงกลางอีก 1 สาย มีเรือทั้งสิ้นไม่ตำกว่า 100 ลำ ซึ่งนับเป็นกระบวนพยุหยาตราชลมารคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และนับเป็นต้นแบบสำคัญของกระบวนพยุหยาตราชลมารคในสมัยต่อๆ มา

    ทั้งนี้สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ปรากฏกระบวนพยุหยาตราชลมารค ครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 โดยเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานผ้าพระกฐิน ณ วัดบางหว้าใหญ่ และวัดหงส์ เมื่อวันพุธ เดือน 11 แรม 4 ค่ำ เบญจศก พ.ศ. 2325

    ส่วนในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน มีกระบวนพยุหยาตราชลมารค ครั้งแรกในวันที่ 14 พ.ค. 2500 ซึ่งทางราชการได้จัดขึ้นเนื่องในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ

    นอกจากนี้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้มีการจัดสำหรับพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินไปจำนวน 9 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด จัดเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2542 เป็นการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารค (ใหญ่) เพื่อถวายผ้าพระกฐินหลวงไปยังวัดอรุณราชวรารามฯ

    สำหรับในวันที่ 5 พ.ย. 2550 นี้ ถือเป็นการจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารค(ใหญ่) เพื่อถวายผ้าพระกฐินหลวงไปยังวัดอรุณราชวรารามฯอีกครั้งหนึ่ง(ครั้งที่ 10 ) ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ ได้แก่ เรือสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 ที่กองทัพเรือร่วมกับกรมศิลปากร และสำนักพระราชวัง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาส พระพิธีกาญจนาภิเษก และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์

    ส่วนเรือประเภทต่างๆได้แก่ เรือเอกชัยเหินหาว เรือเอกชัยหลาวทอง เรือพาลีรั้งทวีป เรือสุครีพครองเมือง เรือสุรวายุภักษ์ เรืออสุรปักษี เรือกระบี่ปราบเมืองมาร เรือกระบี่ราญรอนราพณ์ เรือครุฑเหินเห็จ เรือครุฑเตร็จไตรจักร เรือเสือทยานชล เรือเสือคำรณสินธุ์ เรืออีเหลือง เรือแตงโม เรือทอง-ขวานฟ้า เรือทองบ้าบิ่น เรือดั้ง 22 ลำ เรือแซง 7 ลำ เรือตำรวจ 3 ลำ

    โดยรวมเรือทั้งหมดในกระบวนพยุหยาตราชลมารคเป็นจำนวน 52 ลำ

    ทั้งนี้ผู้ที่เฝ้าชมการแสดงสามารถรับชมได้บริเวณสถานที่สาธารณะริมน้ำหรือร้านอาหารที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท่าวาสุกรี – วัดอรุณราชวราราม ในระหว่างเวลา 15.00 – 17.00 น.

    ********************************************************

    ภาพชุดซ้อมใหญ่กระบวนพยุหยาตราชลมารค
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“เรือพระที่นั่ง” สุดยอดความงามของเรือแห่งสยามประเทศ
    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9500000130967
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 พฤศจิกายน 2550 18:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> กระบวนพยุหยาตราชลมารค หรือการเสด็จพระราชดำเนินทางน้ำ(การเสด็จพระราชดำเนินทางบก เรียกว่า “พยุหยาตราสถลมารค”) เป็นประเพณีสำคัญและยิ่งใหญ่ที่สืบต่อกันมานับแต่โบราณนับเป็นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นเอกของโลก ที่เกิดขึ้นความชาญฉลาดของบรรพบุรุษที่ได้สร้างสรรค์และสืบสานมรดกทางปัญญาอันล้ำค่าให้ชนรุ่นหลังได้ภาคภูมิใจ

    สำหรับ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 นี้ นับเป็นโอกาสดีอีกครั้ง ที่คนไทยจะได้ชม“กระบวนพยุหยาตราชลมารค” ในงานพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในระหว่างเวลา 15.00 – 17.00 น. ตั้งแต่บริเวณท่าวาสุกรีจนไปสิ้นสุดบริเวณวัดอรุณราชวรารามฯ

    การจัดกระบวนพยุหยาตราชลมารคครั้งนี้ เพื่อถวายผ้าพระกฐินหลวงไปยังวัดอรุณราชวรารามฯ ประกอบด้วย เรือพระราชพิธี 52 ลำ โดยเรือแต่ละลำต่างก็มีความงดงาม และความสำคัญ และหน้าที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งกระบวนเรือทั้งหมดต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนัก พร้อมทั้งต้องประสานกันให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้เกิดเป็นกระบวนพยุหยาตราชลมารคอันงดงามตระการตา

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายๆคนเวลาชมกระบวนพยุหยาตราชลมารค (หรือขบวนเรือพระราชพิธี หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จประทับในเรือพระที่นั่ง)ต่างก็มักจะใจจดใจจ่อเฝ้ารอชมเรือพระที่นั่ง ซึ่งถือเป็นเรือที่สำคัญที่สุดในกระบวนฯเพราะเป็นเรือที่พระมหากษัตริย์ประทับ

    ซึ่งเรือพระที่นั่งทุกลำจะประดับประดาไปด้วยลวดลายอันวิจิตรงดงาม และมีความต่างจากเรือประเภทอื่นในกระบวนก็คือ เรือพระที่นั่งจะไม่มีการกระทุ้งเส้าให้จังหวะฝีพาย แต่จะมีการใช้กรับแทน โดยเรือพระที่นั่งเกือบทุกลำจะมีการทอดบัลลังก์บุษบก ทอดบัลลังก์กัญยา หรือบัลลังก์พระที่นั่ง ในส่วนกลางลำเรืออันเป็นที่ประทับ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้เรือพระที่นั่งยังมีการแบ่งประเภทตามลำดับชั้นและมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป คือ

    เรือพระประเทียบ เป็นเรือสำหรับเจ้านายฝ่ายใน

    เรือต้น เป็นเรือที่พระมหากษัตริย์เสด็จประพาสลำลอง หรือเสด็จประพาสต้น

    เรือพระที่นั่งศรีสักหลาดหรือเรือพระที่นั่งศรี ซึ่งเป็นเรือที่มีลวดลายสวยงามตลอดข้างลำเรือ ใช้สำหรับเสด็จลำลอง

    เรือพลับพลา เป็นเรือที่ใช้สำหรับเปลี่ยนเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์

    เรือพระที่นั่งกราบ เป็นเรือพระที่นั่งลำเล็ก ใช้เวลาเปลี่ยนถ่ายเรือเพื่อเสด็จเข้าไปในคูคลองสายเล็กๆ

    เรือพระที่นั่งทรงและเรือพระที่นั่งรอง เป็นเรือที่พระมหากษัตริย์เสด็จประทับ โดยมีเรือพระที่นั่งอีกลำสำรองไว้กรณีเรือพระที่นั่งลำหลักชำรุด

    เรือพระที่นั่งกิ่ง เป็นเรือชั้นสูงสุดของเรือพระที่นั่ง ถือเป็นเรือที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ สำหรับความเป็นมาของเรือพระที่นั่งกิ่งนั้น ในสมัยกรุงศรีอยุธยา กษัตริย์พระองค์หนึ่งได้รับชัยชนะกลับจากสงคราม และก็มีผู้หักกิ่งไม้มาปักไว้ที่หัวเรือ นับแต่นั้นมา ก็มีการเขียนลายกิ่งไม้ประดับที่หัวเรือ และโปรดให้เรียกว่า เรือพระที่นั่งกิ่ง

    เรือพระที่นั่งเอกไชย เป็นเรือพระที่นั่งเกือบเทียบเท่าเรือพระที่นั่งกิ่ง มักโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ประทับร่วมไปกับกระบวนพยุหยาตราชลมารค แต่ในยุครัตนโกสินทร์ก็แทบจะไม่มีการแบ่งแยกระหว่างเรือพระที่นั่งกิ่งและเรือพระที่นั่งเอกไชยอีกเลย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับพระที่นั่งที่ใช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารคครั้งนี้มี 4 ลำ คือ

    เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช หรือเรือพระที่นั่งบัลลังก์นาค 7 เศียร เป็นเรือพระที่นั่งกิ่ง สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 4 และสร้างลำใหม่แทนลำเดิมในรัชกาลที่ 6 โขนเรือปิดทองประดับกระจก เป็นรูปพญานาค 7 เศียร พื้นเรือสีเขียว น้ำหนัก 15.36 ตัน กว้าง 2.95 เมตร ยาว 42.95 เมตร ลึก 0.76 เมตร กินน้ำลึก 0.31 เมตร ฝีพาย 54 นาย นายท้าย 2 นาย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือพระที่นั่งกิ่งที่ถือเป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ตอนนั้นใช้ชื่อว่า“เรือศรีสุพรรณหงส์”ก่อนที่จะทำการปรับปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่ ในช่วงปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ถึงสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้า อยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยได้คงไว้ในส่วนที่เป็นของดั้งเดิมก็คือส่วนของโขนเรือ หัวเรือ และท้ายเรือ ส่วนลำเรือและลวดลายได้ทำขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ได้เปลี่ยนชื่อจากเรือศรีสุพรรณหงส์ เป็น “เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์” ซึ่งรัชกาลที่ 6 ได้ประกอบพิธีลงน้ำเมื่อ วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2454

    เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ มีโขนเรือเป็นรูปหงส์ ลงรักปิดทองประดับกระจก พื้นเรือสีดำน้ำหนัก 15.6 ตัน กว้าง 3.15 เมตร ยาว 44.70 เมตร ลึก 0.90 เมตร กินน้ำลึก 0.41 เมตร ฝีพาย 50 นาย นายท้าย 2 นาย นายเรือ 2 นาย พายที่ใช้เป็นพายทอง พลพายจะพายในท่านกบิน และถือเป็นธรรมเนียมว่าถ้าจะเปลี่ยนท่าพายธรรมดาจะต้องรับพระบรมราชานุญาตเสียก่อน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 เดิมเป็นเรือพระที่นั่งกิ่งประเภทเรือรูปสัตว์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีนามว่า “เรือมงคลสุบรรณ” มีโขนเรือเป็นรูปพญาครุฑเพียงอย่างเดียว ต่อมารัชกาลที่ 4 โปรดให้เสริมรูปพระนารายณ์ประทับยืนบนหลังพญาสุบรรณเพื่อความสง่างาม พร้อมทั้งพระราชทางนามใหม่ว่า “เรือนารายณ์ทรงสุบรรณ”

    ส่วนเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 นี้ กองทัพเรือ ร่วมกับ กรมศิลปากร และสำนักพระราชวัง ได้ดำเนินการจัดสร้าง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน วโรกาสพระราชพิธีในปีกาญจนาภิเษก มีฐานะเป็นเรือพระที่นั่งรอง ทอดบัลลังก์กัญญา เทียบเท่า เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ พื้นเรือสีแดงชาด น้ำหนัก 20 ตัน กว้าง 3.20 เมตร ยาว 44.30 เมตร ลึก 1.10 เมตร ฝีพายจำนวน 50 นาย นายท้าย 2 นาย (เพื่อให้สอดคล้องกับ วโรกาสครบรอบ 50 ปี แห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นเรือพระที่นั่งศรี สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หัวเรือจำหลักปิดทองเป็นรูปพญานาคเล็กๆ จำนวนมาก พื้นเรือสีชมพู น้ำหนัก 7.7 ตัน กว้าง 3.15 เมตร ยาว 45.40 เมตร ลึก 1.11 เมตร กินน้ำลึก 1.46 เมตร ฝีพาย 61 นาย นายเรือ 2 นาย นายท้าย 2 นาย

    และนี่ก็คือเรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ ที่ใช้ในการแสดงขบวนเรือพระราชพิธีครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า และยังถือเป็นสุดยอดของเรืออันงดงามแห่งสยามประเทศอีกด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ผมต้องไปทำงานต่างจังหวัด ไปจังหวัดเพชรบุรี กว่าจะกลับมาน่าจะเป็นตอนเย็นครับ

    ช่วงเย็นค่อยคุยกันนะครับ

    .
     
  13. ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    อ้าว...ไม่น่าลืมเลยนะเนี่ย(b-smile)
     
  14. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    พระพิมพ์องค์จตุคามที่แจกในงานวันเกิดปู่ประถมครับ
     
  15. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    วันนี้สบายผมล่ะ...อินเดียนแดงอยู่เฝ้าเป็นหน้าม้า 5555(555)
    nongnooo...
     
  16. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อินเดียนแดง หาวแล้วไม่มีใครแซวเลย...คุณตั้งใจก็ไปไหนซะละ ...
    nongnooo...
     
  17. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    แว่วๆว่าวันนี้พี่เค้า ต้องขออโหสิกรรมปู 3ตัวแน่ะครับ(b-malang)
    วันนี้ผมกลับมาเด็กอีกล่ะใช่มั้ย พี่เอ
    nongnooo...
     
  18. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
    แว่วๆว่าวันนี้พี่เค้า ต้องขออโหสิกรรมปู 3ตัวแน่ะครับ(b-malang)
    วันนี้ผมกลับมาเด็กอีกล่ะใช่มั้ย พี่เอ
    nongnooo...
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กลางวันลูกค้าพาเดินเข้าร้านอาหาร ผมเห็นปลา ,ปู ,หอย ,กุ้งมังกร(ไม่ใช่กุ้งมังกอนเด้อ) เป็นๆอยู่ในอ่างขนาดใหญ่ ก็เลยเดินเข้าไปดู ปรากฎว่าลูกค้าผมสั่งปูม้านึ่ง 3 ตัว เห็นพนักงานเดินมาช้อนเอาไปนึ่ง นึกแล้วว่า บาปอีกแล้ว แต่กินแล้วอร่อยจริงๆครับ

    .
     
  19. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ขอบคุณครับคุณnongnooo

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02083.JPG
      ขนาดไฟล์:
      8.7 KB
      เปิดดู:
      80
    • DSC02081.JPG
      ขนาดไฟล์:
      8.2 KB
      เปิดดู:
      67
    • DSC02082.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.6 KB
      เปิดดู:
      41
    • DSC02079.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.8 KB
      เปิดดู:
      39
  20. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คำบูชาพระบรมสารีริกธาตุ<O:p</O:p

    นโม ๓ จบ<O:p</O:p

    อะหัง วันทามิ อะธะ ปะติฏฐิตา พุทธะธาตุโย ตัสสานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เม. <O:p</O:p
    ข้าพเจ้า ขอน้อบน้อมนมัสการกราบไหว้ พระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ประดิษฐานอยู่ ณ ที่นี้ ด้วยอานุภาพแห่งกุศลผลบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้าประสพแต่ความสุขสวัสดีตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    คำอาราธนาพระบรมสารีริกธาตุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อะเนกะกัปเป กุสะเล จินิตตะวา โลกานุกัมปายะ มะเนกะทุกขัง อุสสาหะยิตตะวา จะ สุจีระการัง พุทธัตตะ ภาวัง สะกะลัง อะคัญฉิ เอวัญจะ กัตตะวา ภะคะวา ทะยาลุ ทุกขา ปาโมเจกะ ขิเล จะอัมเห ทัสเสถะ โน ปาฏิหิรัง สุวิมหัง เฉทายะ กังขัง สะกะลัง ชะนัสสะ กาเกนะ รัญญา กะถิตันตุ ยัง ยัง ตัง ตัง อะขีลัง วิตะถัง ตะถัง เจ พุทธานะกะถา วิตะถา ตะถา เจ ทัสเสถะ วิยหัง นะยะนัสสะ โนปิ อัชชะตัคเต ปาณเปตัง พุทธัง ธัมมัง สะระณังคะตา สะมิมะหันตา ภินนะมุตตา จะมัชฌิมา ภินนะตัณฑุลา ชุททะกา สาสะปะมัตตา เอวัง ธาตุโย สัพพัฏฐาเน อาคัจฉันตุสีเสเม ปัตตันตุ ฯ
    <O:p

    คำบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (ประดิษฐานในองค์พระปฐมเจดีย์)
    <O:p</O:p

    วันทามิ พุทธัง ปะฐะมัง จะ เจติยัง ตัตถะ ปะติฏฐัง ปะระมัง จะ ธาตุกัง ธัมมัง วะรันตัง ภะวะโต จะ สาสะนัง สังฆัง วิสุทธัง อุชุกัง จะ โสภะณัง อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโย ฯ
    <O:p</O:p
    ข้าพเจ้าขอกราบไหว้ พระพุทธเจ้า องค์พระปฐมเจดีย์ พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในองค์พระปฐมเจดีย์นั้น<O:p</O:p
    ขอกราบไหว้พระธรรมอันประเสริฐสุด ซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุด<O:p</O:p
    ขอกราบไหว้พระสงฆ์ผู้งดงาม ผู้บริสุทธิ์ยิ่ง ผู้ประพฤติตรงต่อคำสอน ข้าพเจ้านมัสการอยู่ซึ่งพระรัตนตรัย และองค์พระปฐมเจดีย์ อันเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุใด ซึ่งควรนมัสการโดยส่วนเดียวเช่นนี้ ได้รับแล้วซึ่งกุศลผลบุญอันไพบูลย์ ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และผลบุญนั้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    คำไหว้พระธาตุรวม หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง<O:p</O:p

    นโม ๓ จบ<O:p</O:p

    วันทามิ เจติยัง สัพพัฏฐาเนสุ ปติฏฐิตา สรีระธาตุง มหาโพธิง พุทธะรูปัง สกลัง สทา นาคะโลเก เทวะโลเก ตาวะติงเส พรัหมะโลเก ชัมพูทีเป ลังกาทีเป <O:p</O:p
    สรีระธาตุโย เกสาธาตุโย อรหันตา ธาตุโย เจติยัง คันธะกุฏิ จตุราสี ติสะหัสสะ ธัมมักขันธา ปาทะเจติยัง นะระเทเวหิ ปูชิตา อหังวันทามิ ธาตุโย อหังวันทามิ ทูระโต อหังวันทามิ สัพพะโส<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้