พระเครื่องในคอผู้เฒ่าประจำบ้าน.. น.๔๘๙ สุดยอดแห่งแดนใต้..

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย บุพนิมิต, 9 สิงหาคม 2010.

  1. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    อิอิอิ....ผมเองก็ได้เห็นพระของหลวงปู่จากภาพของคุณตี๋ (dek watpa) อ่ะครับ...ไม่ได้คุ้นเคยเลยครับท่าน pardy......

    แต่ส่วนตัวแล้ว....ผมว่าดูดีอ่ะครับ....โดยเฉพาะ "รัตนจักร" ด้านหลัง... เข้มขลังโดนใจ.....

    รบกวนคุณตี๋ช่วยให้คำแนะนำน้องๆพี่ๆด้วยครับ....


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    อืมมม...เพิ่งเคยเห็นครับ...ว่าหลวงปู่ดีมีพิมพ์นี้....เนื้อสวยมากครับ....
    พิมพฺทรงชัดดีครับ....อิอิอิ จะได้เก็บไว้เป็นความรู้ครับ....สาธุ สาธุ สาธุ.....

    ผมมีความเห็นนิดหนึ่ง...อยากฝากพี่ๆน้องๆชาว "แท้ของตรู" ไว้อ่ะครับ..เพราะเป็นประสบการณ์ตรงของผม.....

    พระเครื่องของเกจิอาจารย์บางท่าน...ตลอดชีวิตท่าน...ทำอะไรไว้หลากหลาย...แต่พอมีใครสักคน...คิดรวบรวมประวัติ และเครื่องรางของท่านขึ้นเป็นตำรา และสร้างเกณฑ์ในการสะสม (แท้/เก๊) ขึ้นมา ผู้ที่เข้ามาสะสม...ย่อมที่จะยึดเป็นแนวทางเพื่อป้องกันความเสี่ยง...ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ....

    แต่ก็มีหลายครั้ง...ที่บางคนมีพระเครื่องของหลวงพ่อ หลวงปู่ ท่านนั้นๆ...จากความคุ้นเคย จากพ่อแม่ปู่ย่าตายาย...แต่กลับไม่พบว่ามีในตำราที่สากลเค้านิยมกัน...เลยทำให้ความศรัทธาลดลง....

    ต้องฝากพี่ๆน้องๆได้พึงพิจารณาด้วยตัวเองนะครับ...หากใครเข้าใจแล้ว...ก็อนุโมทนาด้วยครับ....หาใครยังข้องใจไม่หาย ว่าทำไมพระของตรูเค้าไม่มีข้อมูลกัน...ก็สุดแต่กรรมนะครับ...บุพนิมิตคงช่วยให้กำลังใจท่านได้แค่นี้...ฮ่าๆๆๆ (ไม่อยากไปอวดเก่งกับใครเค้าให้ชีวิตวุ่นวายอ่ะครับ)....

    ดีใจครับ...และมีความสุขมากๆที่ได้ชมพระพื้นบ้าน หรือพระมรดก ของพี่ๆน้องๆกัลยาณมิตรทุกคน....ฮ่าๆๆๆ.....(หาดูยากกว่าพระสมเด็จฯอีกครับ)...


     
  3. อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    สวัสดีทุกๆท่านครับ ช่วงนี้หลวงปู่ชื้นมาแรงครับคุณเกรียงกระทู้นี้ อย่างนี้ต้องเอาเหรียญธรรมสภาเนื้อตะกั่วมาอวดกันบ้างแล้ว 555+
     
  4. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    โห....อย่าช้าเลยครับพี่หน่อง ฮ่าๆๆๆๆๆ......
    เดี๋ยวเปลี่ยนหัวโพสกลับไปเป็นหลวงปู่ชื้นอีกรอบ....เผื่อมีใครมีอะไรดีดีมาโชว์ให้อิ่มตาอิ่มใจเพิ่มอีกครับ....

    กราบขอบคุณพี่หน่องล่วงหน้าครับ...
    ปล. ได้รับซีดีหรือยังครับพี่...จากใจครับ...
     
  5. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน อยุธยา

    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน อยุธยา....

    ผมได้ยินชื่อท่านครั้งแรก...จากเพื่อนสนิทผม ซึ่งตอนแรก ผมก็ไม่ทราบว่าเพื่อนสนิทผมเคยบวชและปรนิบัติท่านช่วงที่บวช...
    เมื่อครั้งที่เพื่อนผมทราบว่าผมกำลังศึกษาเรื่องพระ...
    ท่านก็ถามผมว่า..."รู้จักหลวงปู่ชื้นวัดญาณเสน มั๊ย"....
    ผมก็ตอบท่านไปว่า..."ไม่รู้จักครับ"....ฮ่าๆๆๆ ก็ไม่รู้จักจริงๆอ่ะครับ...แม๋...ที่ดังๆยังรู้จักไม่หมดเลย ....
    อ่ะนะ...นั่นความเดิม....

    พอมาเมื่อปลายปี 2553 นี่แหล่ะ...ฟ้าประทาน ของขลังชิ้นแรกของหลวงปู่ฯมาให้ผม...
    ผมเริ่มหาข้อมูล เริ่มรู้จักหลวงปู่....กลับไปคุยกับเพื่อนสนิทเพิ่ม...
    เริ่มรู้ว่า...ที่บ้านเพื่อนสนิทผม มีเยอะ...แต่ตอนนั้น...ไม่ได้คิดขอ ฮ่าๆๆๆๆๆ (ยังไม่มีแรงจูงใจ....)...

    แต่พอมาคุย สนทนากับคุณตื๋ (เด็กวัดป่า)...คุยอะไรบ้าง...จำไม่ได้...
    แต่ได้รู้จักพระเครื่องของหลวงปู่มากมาย (มีแต่ภาพ)....
    โห....อยากได้มั่ง...เลยตัดสินใจจู่โจมขอเพื่อน....

    ติดตามผลงานหลายรอบ...มีเยอะจริงๆด้วย....
    เทียวไปหา....ได้พระเนื้อดินฝังตะกรุดมา 1 องค์...หุหุหุ....
    คุณตี๋ช่วย confirmed ว่า....ทันหลวงปู่ปลุกเสกแน่นอน...ฮ่าๆๆๆๆๆ.....
    แต่อยากได้เหรียญมากกว่า....ตามผลงานต่อ....

    เพื่อนสนิทเริ่มรู้ตัว...ตีกัน...พระหลวงปู่บางรุ่นแพงมาก..หาไม่ได้อีกแล้ว....
    เออ...เต็มใจให้องค์ไหนก็ให้มาเหอะ....แต่ขอ 1 ชิ้น....(ผมบอกเพื่อนไป)...

    และแล้ว....ฟ้าก็ตัดหน้าส่งเหรียญหยดน้ำ 2525 มาให้ก่อน...
    โอ้พระเจ้า...เพื่อนสนิทหากให้สูงกว่าปี 2525 อายฟ้าตายห่า....
    หุหุหุ....อ่ะ....ต้องทำใจ อ่ะไรก็ได้ฟ่ะ....

    แล้วก็มาถึง...มีมาให้เลือก 3 เหรียญ (อยากได้ทั้งสามเลยน่ะ...แต่อายใจตัวเอง คิคิคิ)...
    ตัดสินใจอยู่นาน...

    - หยดน้ำมีแล้ว...ซ้ำจะดีมั๊ย...ชอบอ่ะครับ เก่า ขลัง....สุดๆ...
    - รุ่น 2530 เหรียญไข่เล็กๆ...ไม่เล้าใจ...แต่ปี พศ. ลึก ถัดมา....อืมมมมม....
    - รุ่น 2534 เหรียญกลม เนื้อนวะ เข้ม ขลัง ได้ใจมากๆ...เหรียญใหม่กลี๊บ ขึ้นรุ้งที่ผิวเหรียญ ยามส่องได้มุมดีดี...อืมม....เอาไงดีฟ่ะ....

    สุดท้าย..นิทานทำให้ตัดสินใจ...."เหรียญรุ่น 2534 หลวงปู่บอกไว้ว่า...พระของท่านรุ่นนี้ ป้องกันได้แม้จะเป็นระเบิดนิวเคลียร์..."
    โห....ไม่เชื่อเพื่อนแล้วจะไปเชื่อใครฟ่ะ....เลยตัดสินใจเลือกองค์นี้....
    แถมทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า...ปีใหม่หน้าขออีกเหรียญนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ

    เหรียญกลม 2534 นี้...คุณตี๋ให้ข้อมูลสนับสนุนว่า...ถือเป็นเหรียญฝาแฝดของเหรียญ "ธรรมสภา"...ปลิ้มใจมากๆครับ...

    นี่แหร่ะครับ...หลวงปู่ชื้นของบุพนิมิต....

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    สวยครับพี่ ผมว่าจะตามจีบรุ่นแรกอยู่แต่งบไม่พอครับ แหะๆ
     
  7. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ผมขออวยพรให้ท่านน้อง narmja ได้รุ่นหนึ่งฟรีๆจากผู้มีเมตตา สมใจปรารถนาครับ....ฮ่าๆๆๆๆๆ...

    ผมขอรบกวน ท่าน narmja โปรดเมตตาแนะนำพระหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม ของท่าน keepwork โพสก่อนหน้านี้ด้วยครับ...

    ขอบพระคุณอย่างสูงด้วยครับ...(smile)
     
  8. อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795

    รอแป๊ปครับตอนนี้กำลังหลอมตะกั่วอยู่ 555+ ส่วนซีดียังไม่ได้เลยครับ
     
  9. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    คิคิคิคิ....มีมุข....รอได้ครับ อิอิอิ...
    ...............................................
    ผมให้ลูกน้องที่ออกตลาด (ฝ่ายจัดซื้อ)...ems ให้เมื่อวันศุกร์ครับ....ไหง ems ยุคนี้ช้าจังหว่า...หุหุหุ....หลักฐานการส่งอยู่ในมือผม...ไม่น่าพลาด ฮ่าๆๆๆๆ.....

    ...............................................
    หลอมออกมาเป็นพระนะครับ...ม่ะใช่หัวลูกปืน...อันนี้ไม่เอาครับ....ฮ่าๆๆๆๆ
     
  10. narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    ผมไม่ใช่สายตรงไม่ต้องเชื่อผมนะครับพี่แต่ผมพอเห็นพระสภาพใช้มาบ้าง เหรียญนี้พระสภาพใช้แต่ดูไม่ธรรมชาติครับ สังเกตุจากขอบเหรียญดูมีความคม ลูกตาหลวงพ่อน่าจะมองเห็นบ้าง
     
  11. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    หลวงปู่ชื้น พุทฺธสโร วัดญาณเสน

    ประวัติหลวงปู่ชื้น พุทฺธสโร วัดญาณเสน ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยาจ.พระนครศรีอยุธยา

    หลวงปู่ชื้นเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดญาณเสนเจ้าตำราเคล็ดวิชา รัตนจักรอันลือลั่นท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ วิชาอาคมและแพทย์แผนโบราณโดยนำความรู้ทุกแขนงมาช่วยปัดเป่าทุกข์ให้กับชาวเมืองกรุงเก่าจนเป็นที่เคารพเลื่อมใสในความมีเมตตาธรรมอันสูงส่งนอกจากนี้ ยังมีวัตถุมงคลขลังที่มากด้วยประสบการณ์ ด้านเมตตา แคล้วคลาดนับเป็นพระดีศรีอยุธยา อีกรูปหนึ่งที่ชาวเมืองกรุงเก่าภาคภูมิใจยิ่งนัก

    พื้นเพของท่านเป็นชาวหมู่บ้านไฝต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี นามเดิมว่า ชื้นเกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2450 ในตระกูลของนายจันนางหงิม สกุล ยอดฉิมซึ่งประกอบอาชีพทางการเกษตร เบื้องต้นได้ศึกษาเล่าเรียนที่วัดเกาะลอย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน

    จากนั้นเมื่ออายุ15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณรจนถึงอายุ 18 ปี ก็ลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ประมาณ 3 ปีภายหลังจึงเข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเกาะลอย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2470 โดยมีหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสระบุรีเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมาด วัดหนองแคเก่าเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองดี วัดเกาะลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า พุทธสโรท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการเรียนพระปริยัติธรรมจนกระทั่งพรรษาที่3จึงสอบได้นักธรรมตรีก่อนที่จะตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านนี้เบนเข็มทิศไปหาความรู้ทางด้านไสยศาสตร์วิชาอาคมจากครูบาอาจารย์วัดเกาะลอยซึ่งทั้งวิชาไสยเวทย์และแพทย์แผนโบราณ เมื่อมีความรู้รักษาตนเองได้จึงออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเสาะหาพระเกจิอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่องได้ออกเดินทางจากจังหวัดสระบุรีเรื่อยมาจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและมาหยุดจำพรรษาที่วัดญาณเสนในปัจจุบันนี้

    ณ อารามแห่งนี้ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ โหราศาสตร์และวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับพระอาจารย์สายหรือขุนโจรย่ามแดงในอดีต ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นมาโดยพึงพอใจกับวิชาความรู้ที่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมที่มาให้ท่านช่วยปัดเป่าบรรเทาความเดือดร้อนอยู่หลายปีด้วยกันช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์สายและพระอาจารย์ชื้นเป็นที่ร่ำลือถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรมาท่านทั้งสองจะช่วยสงเคราะห์ได้หมด ชื่อเสียงขจรไกลถึงกรุงเทพฯซึ่งขณะนั้นได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งได้เกิดเป็นโรคเหน็บชา รักษาอย่างไรก็ไม่หายยาไทยยาเทศกี่ขนานก็เอาไม่อยู่ เมื่อล่วงรู้เกียรติศักดิ์ของหลวงพ่อชื้นจึงเดินทางมาให้ท่านรักษา ท่านเสกไพรไปให้ทานปรากฏว่าหายเป็นปลิดทิ้งเขาจึงกราบเรียนท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแค นางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพฯพร้อมถวายตัวเป็นโยมอุปัฎฐาก แต่เมื่อท่านไปปรึกษากับพระอาจารย์สายได้รับเหตุผลและแง่คิดมากมาย จนทำให้ต้องบอกปฏิเสธไปต่อมาพระอาจารย์สายได้ลาสิกขาบทออกไปทำให้หลวงปู่ชื้นต้องอยู่อย่างลำพังต้อนรับญาติโยมที่นับวันจะมากขึ้นทุกวันจึงเริ่มเบื่อหน่ายในวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคมทำให้ร่างกายและจิตใจของท่านเกิดความร้อนรุ่ม

    ประกอบกับมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งมาปลักกลดอยู่ที่หน้าวัดกุฎีทองมีญาติโยมขึ้นกันมากมายปฏิปทาของพระอาจารย์รูปนั้นเป็นที่โจษขานกันมากโดยในวันพระจะไม่พูดกับใครเลยและจะไม่ฉันอาหารใดๆทั้งสิ้นส่วนวันธรรมดาก็จะพูดน้อยมาก อัฐบริขารก็จะมีเพียงกลด จีวรและรองเท้าเก่าๆส่วนในย่ามก็มีเพียงกะลาสำหรับเป็นภาชนะใส่ข้าวและช้อนที่ทำจากกะลาเท่านั้นมารู้ภายหลังว่าพระอาจารย์รูปนั้นคือ พระอาจารย์เสน เตชธัมโม ธุดงค์มาจากอ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลวงปู่ชื้นจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปใกล้ชิดเพื่อสัมผัสและพิสูจน์ตามคำโจษขานนั้น และได้รับคำทักท้วงว่า ท่านเดินผิดทางแล้วพระอาจารย์เสนย้ำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหน จนท่านนำคำพูดนั้นมาทบทวนและค่อยใช้สติสมาธิพิจารณาถึงความหมาย จนกระทั่งพบข้อเท็จจริงแห่งสัจธรรมทั้งสองท่านก็ปรารถณาเป็นศิษย์-อาจารย์กัน ทบทวนศีล พระธรรมวินัยต่างๆโดยหลวงปู่ชื้นได้นำตำราไสยศาสตร์วิชาอาคมต่างๆที่เล้าเรียนมาตั้งแต่ต้นเผาทิ้งจนหมดสิ้นจึงกลับมาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์เสนพร้อมทั้งนิมนต์ให้ผู้เป็นอาจารย์มาจำพรรษาที่วัดญาณเสนจากปฏิปทาที่เปลี่ยนแปลงไปของท่าน จึงมีเสียงครหาไปในทางไม่สู้ดีแต่ท่านก็ไม่สนใจยังคงมุ่งหน้าที่จะมุ่งปฏิบัติต่อไปจนถึงขั้นอุกฤษฎ์ใต้ต้นโพธิ์ข้างโบสถ์เป็นเวลา 1 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิตลอดเวลา ยกเว้น เวลาฉัน ปัสสาวะและขับถ่ายเท่านั้นชั่วเวลาเพียง 24 วัน จากการเริ่มปฏิบัติท่านก็สำเร็จสุดยอดวิชารัตนจักรพร้อมกันนั้นท่านก็ถูกร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้พิจารณาในปฏิปทาที่เพี้ยนๆเป็นต้นว่าชอบอยู่อย่างสมถะ สันโดษ ข้างของที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครจะหยิบอย่างไรก็ไม่ห้ามปรามหมู หมา กา ไก่ ฯลฯจะมาอยู่ในวัดสร้างความสกปรกอย่างไรท่านก็วางเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้นจึงมีมติให้ปลดท่านจากการเป็นเจ้าอาวาสหลวงปู่ชื้นท่านก็มิได้อนาทรร้อนใจใดๆทั้งสิ้น เพียงขอทางคณะสงฆ์ว่าการตั้งเจ้าอาวาสให้ตั้งจากพระที่มาจากวัดญาณเสนเท่านั้นในความรู้สึกของชาวบ้านและญาติโยมทั่วไปก็ยังคงเคารพนับถือหลวงปู่ชื้นไม่มีเสื่อมคลายในวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื้นที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่านหลวงปู่จะอัญเชิญพระรัตนจักรมาสถิตในวัตถุมงคลนั้นๆเสมอ

    หลวงปู่ชื้นพุทฺธสโร มรณภาพอย่างสงบในวัย 97 ปี ภายในกุฏิตึกทรงธรรมต่อหน้าลูกศิษย์จำนวนมากที่เฝ้าดูแลใกล้ชิดหลังจากอาพาธมานานด้วยโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน เมื่อ 17 มิ.ย. 2546
     
  12. อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    เหรียญธรรมสภาเนื้อตะกั่ว
    หลวงปู่ชื้น ญาณเสน



    ได้รับแล้วครับ ขอบคุณมากๆครับ อืมมแม่บ้านเล่นไปไว้ผิดที่ เลยไม่รู้เรื่องกัน 555+
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ขอบพระคุณท่านน้อง narmja มากๆครับ....
    แท้/เก๊...สุดท้ายก็อยู่ที่ใจเจ้าของพระครับ ฮ่าๆๆๆๆ.....

    คำแนะนำติชม...ถือเป็นความรู้และเป็นบุญต่อผู้อยากรู้ครับ....
    สาธุ สาธุ สาธุ.....
     
  14. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    หุหุหุ....หลอมออกมาเห็นเหรียญตะกั่วหลวงปู่ชื้น...(ลุ้นแทบแย่...)....สวย กริ๊บ...ได้ใจจริงๆครับพี่หน่อง...
    สาธุ สาธุ สาธุ.....

    -------------------------------------------------------------------
    แต่ว่า....พี่หน่องพอจะเล่าให้ฟังมั่งได้มั๊ยครับ...รุ่นธรรมสภา...ดังเพราะอะไรครับ....อยากรู้จัง...ฮ่าๆๆๆๆ
     
  15. akkhawee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,908
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ตามมาดูหลวงปู่ชื้น ยามบ่ายๆ (ทำไมเราไม่มีบ้างนะ)
     
  16. อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    ไปเจอมา.......เลยนำมาให้อ่าน
    สำหรับท่านที่มีความสงสัยในเรื่องธรรมสภา ผมก็ต้องขอออกตัวว่าผมเองก็มิใช่ผู้ที่ปฏิบัติได้สูงอะไร หากแต่เรื่องธรรมสภา มีเรื่องราวอันมหัศจรรย์มากครับ

    ...สัญลักษณ์ประจำองค์ท่านคือ รุปพระพุทธเจ้าสามพระองค์ มีกงจักรอยู่ตรงกลาง เป็พุทธนิมิต ที่ท่านได้รับเมื่อตอนสำเร็จธรรมนั่นเอง กงจักรนี้ นอกจากหลวงปู่ชื้นจะได้ประสบพบพานด้วยองค์ท่านเองแล้ว ยังมีบุคคลท่านหนึ่งที่ปฏิบัติธรรมได้ถึงขั้นสูง ที่มีพระอาจารย์ดีคือ หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง คือ พลโท สมาน วีระไวทยะ นั่นเอง ปัจจุบันท่านลาจากโลกนี้ไปเสวยทิพยสมบัติ ณ สวรรค์เบื้องบนแล้ว ดังเรื่องราวต่อไปนี้
    <O:p
    คืนวันหนึ่งหลังจากปฏิบัติกิจศาสนาคือสวดมนต์แล้ว ท่านได้นั่งสงบใจโดยไม่ได้ปรารถนาจะเห็นอะไรที่เกินวิสัยของปุถุชน หากแต่ได้น้อมนำเอาพระพุทธรุปที่มีละกษณะงดงามมากกำหนดภาพเป็นสมาธิไว้ เมื่อจิตสงบแล้วก็พลันบังเกิดภาพนิมิตแปลกประหลาดเกินกว่าที่ปรารถนาจะได้พบเห็น.
    <O:p
    ภาพนั้นเป็นภาพห้องประชุมใหญ่ที่มีความสวยงามวิจิตรพิสดารมากมีลายเทพพนมที่งดงามอย่างไม่เคยเห็น จิตทราบว่าศาลานั้นมีชื่อว่าเทวสภา หรือ ธรรมสภา เป็นที่ประชุมเทศนาธรรมและแก้ปัญหาธรรมของเหล่าเทพ พรหม และพระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก
    <O:p
    ครั้นแล้วภาพนั้นก็หายวูบไป ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไหร่ก็ไม่ได้เห็นภาพนั้นอีก ทุกอย่างอยู่ในความมืด ต่อมาสักครู่ภาพนั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีก เหล่าเทพ พรหม ภิกษุต่างนั่งสงบเรียบร้อย ตรงหน้ามีธรรมาสน์ ที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ส่วนทางขวาและซ้ายมีองค์พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร และมีพระอริยสงฆ์นั่งอยู่เต็มนับไม่ถ้วน
    <O:p
    สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาในขณะนั้นคือ เมื่อมองไปที่พระพุทธองค์ก็เห็นว่าบนพระเศียรเป็นแก้วสีขสวทึบลอยอยู่เหนือพระเศียรมีแสงสว่างรุ่งโรจน์ไปทั่วธรรมสภาแห่งนั้น ความแรงของแสงรังสีที่แผ่กระจายออกมานั้นมากมายจนขับแสงของเทพพรหมในนั้นเกือบหมดสิ้น เมื่อเห็นเช่นนั้นก็กำหนดถามในใจว่านั่นอะไรหนอ พลันก็มีเสียงตอบว่านั่นคือ จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเกิดจากบารมีที่พะองค์ได้ทรงบำเพ็ญเพียรมาถึงหนึ่งแสนมหากัป
    <O:p
    เมื่อท่านพลโทฯ ได้ฟังเรื่องราวสักพักหนึ่ง ก็พอดีความรู้สึกออกจากสมาธิ แล้วก็เกิดความสงสัยกับตัวเองว่านี่อะไรกัน จะเป็นไปได้หรือ.. จนวันหนึ่งท่านมีโอกาสได้พบกับหลวงปู่ชื้น พุทธสโร แห่งวัดญาณเสน จึงได้เล่าเรื่องราวถวายท่านๆจึงตอบว่า “เรื่องนี้เกินภูมิมนุษย์ อย่าได้นำไปพูดให้ใครฟัง ถ้าเขาไม่เชื่อจะเป็นโทษได้ สิ่งที่เห็นมาเป็นพุทธนิมิต ซึ่งจะเกิดแก่คนที่ปฏิบัติและมีบารมีสะสมมาแต่อดีตชาติเท่านั้น”..

    โมทนาสาธุกับทุกท่านที่ศรัทธาหลวงปู่ชื้น พุทธสโร พระอรหันตเจ้าแห่งวัดญาณเสนครับ<O:p


    <!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  17. narmja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    7,921
    ค่าพลัง:
    +8,496
    เพิ่มเติมให้ครับพี่รอยตัดกนกทั้งสองด้านผิดครับ
     
  18. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    อธิษฐานซิครับ..คุณอัคฯ.....
    แล้วจะสมหวังอย่างไม่น่าเชื่อ....ไม่ลองไม่รู้ครับ...ความลับในโลกใบนี้....
     
  19. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    สาธุ สาธุ สาธุ....
    กราบขอบพระคุณพี่หน่องมากๆครับ....ได้ฟังแล้วอิ่มใจครับ....
     
  20. บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ฮ่าๆๆๆ...ขอบพระคุณท่านน้อง narmja อีกครั้งครับ....
    ยิงลูกสุดท้าย...ก่อนเสียงนกหวีด ....ฮ่าๆๆๆ

    โมทนาสาธุครับ...
     

แชร์หน้านี้