คนส่วนใหญ่มักจะถูกหลอกด้วยจริยาของผู้แสดงธรรมว่ามีวาจาอันไพเราะสงบนิ่ง
แต่นั่นคือหินทับหญ้า ภายในกิเลสตัณหาแก่กล้า
บุคคลที่ควรเชื่อในธรรมได้จะต้อฃเป็นโสดาบันขึ้นไป เพราะตัดสังโยชน์ได้สามประการ ไม่ได้เปิดจากการมโนนึกคิดปรุงแต่ง
คนส่วนใหญ่มักถูกหลอกด้วยธรรมะอันสวยหรูแชะดูสงบนิ่งที่เป็นเหมือนหินทับหญ้า
"พระเจ้าจักรพรรดิราช"
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 23 มกราคม 2011.
หน้า 33 ของ 78
-
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
-
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
คนส่วนใหญ่มักจะถูกหลอกด้วยจริยาของผู้แสดงธรรมว่ามีวาจาอันไพเราะสงบนิ่ง
แต่นั่นคือหินทับหญ้า ภายในกิเลสตัณหาแก่กล้า
บุคคลที่ควรเชื่อในธรรมได้จะต้อฃเป็นโสดาบันขึ้นไป เพราะตัดสังโยชน์ได้สามประการ ไม่ได้เปิดจากการมโนนึกคิดปรุงแต่ง
คนส่วนใหญ่มักถูกหลอกด้วยธรรมะอันสวยหรูแชะดูสงบนิ่งที่เป็นเหมือนหินทับหญ้า -
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
ของจริงนิ่งเป็นใบ้
คนที่ชอบมาพูดธรรมเหมือนจะสงบเหมือนจะนิ่ง
ยังห่างไกลธรรมชุ้นสูงอีกมาก
เป็นเพียงโชว์ว่าข้าพูดด้วยสติ พูดด้วยสงบ
จริยาแลบนี้คืออุปกิเลส16. กิเลสหนาปัญญาหยาบ ชองจริงไม่ต้องแสดง ไม่ต้องแอบสร้างภาพพกลัวคนจะไม่นับถือหรือศรัทธา
ของจริงคืออริยะสัจ
ธรรมดำธรรมขาวคือธรรม
มิใช่เพียงคำพูดสวยหรู ดูน่าศรัทธา คนจริงต้องได้ขอฃจริง ทำจริง จึงแสดงธรรม
มิใช่การโอ้อวดเพืีออยากใผ้เขาเข้าใจว่าข้าคือพญาธรรมผู้สงบ
ธรรมพื้นๆใครก็พูดได้
แต่ธรรมในธรรมหายาก
ถึงได้โดนหลอกกันเพราะจริยาภายนอก
ไม่งั้นจะมีสุภาษิต
ปากหวานก้นเปรี้ยว
ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงทำไม
คนที่ดูจริยาเป็นอาการหลักขึ้ยชื่อว่าบุคคลคนนั้นเป็นคยเขลาอยู่มาก
ธรรมที่เขาไม่ได้นิมนต์หรืออาราธนาธรรมให้แสดงคือธรรมจำอวด โอ้อวด อยากพ฿ดอยากโชว์
เป็นอุปกิเลสคือเครื่องเศร้าหมอง อยากแวดงให้เห็นว่าข้านี่สงบไม่มีโกรธ
ได้ธรรมะเพียงแค่นึ้ยังไกลมาก แค่อุปกิเลสความโอ้อวดยังก้ามไม่พ้น -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
1..พระโสดาบันเขาดูตรงไหน?
2..สังโยชน์สามเขาตัดที่ไหน?
3..ใครเป็นคนตัดสังโยชน์?
4..เมื่อตัดสังโยชน์แล้วใครรู้บ้าง?
5..วิธีตัดสังโยชน์เขาทำยังไง?
-
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
แล้วถ้าพญาธรรมคือความสงบ คือคใามไม่โกรธแสดงว่าควายมันก็เป็นได้ เพราะควายนี่สงบใครจะเฆี่ยนจะตีก็ไม่โกรธ
พญาธรรมคือธรรมที่ยิ่งกว่าธรรมดำรงธรรมยิ่งกว่าชีวิต เกิดจากสติปัญญา เกิดจากศรัทธา
ไปศึกษามาใหม่นะ ไม่ใช่นั่งหลับตานิมิตคิดเอง
มันต้องเกิดจากสังคมยอมรับ
พญาธรรมไม่ใช่พญทควาย
ที่ต้องสงบนิ่ง
ธรรมเป็นใหญ่ เขาจึงเรียกพญาธรรม
ธรรมมีหลายหมวด ไม่ใชาพรหมวิหาร4เพียงหมวดเดียว
แบบนี้เขาไม่เรียกพญาหรอก
.เขาเรียกธรรมทั่วไปใครก็มีถ้าไม่ถูกกระทบ -
โอกาสสุดท้ายแล้ว เลือกเอาเองว่าจะเป็นหยกหรือเป็นหินครับ
กุศลกรรมบถ 10 แบ่งออกเป็น 3 หมวด ดังนี้
1. กายกรรม 3 ประการ
1. ไม่ฆ่าหรือทำลายชีวิตผู้อื่น
2. ไม่ลักขโมย หรือยึดเอาทรัพย์ของผู้อื่นมาเป็นของตน
3. ไม่ประพฤติผิดในกาม
2. วจีกรรม 4 ประการ
4. ไม่พูดเท็จ
5. ไม่พูดส่อเสียด
6. ไม่พูดคำหยาบคาย
7. ไม่พูดเพ้อเจ้อ
3. มโนกรรม 3 ประการ
8. ไม่โลภอยากได้ของคนอื่น
9. ไม่คิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น
10. เห็นชอบตามคลองธรรม
อกุศลกรรมบถ 10 ประการ แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ
1. อกุศลกรรมบถ ทางกาย 3 ข้อ (กายกรรม)
กายกรรม หมายถึง การกระทำที่แสดงออกด้วยกาย โดยอกุศลกรรมบถทางกายกรรม เรียกว่า กายทุจริต 3 ประการ คือ
1) ปาณาติบาต หมายถึง การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต คือ การกระทำโดยเจตนาที่ทำให้สัตว์ที่มีชีวิต มีลมหายใจ และมีจิตวิญญาณถูกทำลายหรือตายไป เช่น การทุบตีงูให้ตายเพียงเพราะเห็นงูเข้าบ้าน
2) อทินนาทาน หมายถึง การลักทรัพย์ คือ การเอาสิ่งของของผู้อื่นมาด้วยอาการอันเป็นโจรที่ผู้อื่นไม่ยินยอมให้ เช่น เข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านที่เจ้าของไม่อยู่บ้าน
3) กาเมสุมิจฉาจาร หมายถึง การประพฤติผิดทางกาม คือ การประพฤติผิดในการมีเพศสัมพันธ์กับชายต้องห้าม และหญิงต้องห้ามทั้งหลาย เช่น มีเพศสัมพันธ์กับภรยาคนอื่น
2. อกุศลกรรมบถ ทางวาจา 4 ข้อ (วจีกรรม)
วจีกรรม หมายถึง การกระทำทางวาจาหรือกิริยา ไม่ว่าจะเป็นการพูดออกมา การเขียนบอก และการแสดงกิริยา อันหวังสื่อสารให้ผู้อื่นรับหรือหรือเข้าใจตาม โดยอกุศลกรรมบถทางวจีกรรม เรียกว่า วจีทุจริต 3 ประการ คือ
1) มุสาวาท หมายถึง การพูดปด คือ การพูดหรือการแสดงกิริยาท่าทางอันทำให้ผู้อื่นหลงผิดหรือสำคัญผิดด้วยการมีเจตนา เช่น เพื่อนขอยืมเงิน แต่กลับตอบว่าไม่มี เพียงเพราะไม่อยากให้ยืม ทั้งๆที่ตนเองมีเงินมากมาย
2) ปิสุณวาจา หมายถึง การพูดส่อเสียด ให้ร้าย คือ การพูดเพียงเพื่อทำให้ผู้อื่นเกิดความขุ่นข้องหมองใจ หรือให้เกิดความเข้าใจผิดหรือแตกแยกความสามัคคี เช่น กล่าวหาเพื่อนว่าลักทรัพย์ตนเองทั้งๆที่ไม่ใช่ความจริง
3) ผรุสวาจา หมายถึง การพูดคำหยาบ คือ การพูดคำที่ไม่สุภาพเพียงเพราะความโกรธอันทำให้ผู้อื่นเจ็บช้ำใจ เช่น ด่าว่าด้วยคำหยาบ
4) สัมผัปปลาปะ หมายถึง การพูดเพ้อเจ้อ คือ การพูดด้วยการหาสาระไม่ได้ เชื่อถือไม่ได้ ไม่มีเหตุ และไม่มีผล เช่น พูดบอกคนอื่นว่าพรุ้งนี้จะเป็นวันสิ้นโลก
3. อกุศลกรรมบถ ทางใจ 3 ข้อ (มโนกรรม)
มโนกรรม หมายถึง การกระทำทางใจอันเกิดจากความคิด ความเชื่อที่มีอยู่ในตน โดยอกุศลกรรมบถทางมโนกรรม เรียกว่า มโนทุจริต 3 ประการ คือ
1) อภิชฌา หมายถึง ความโลภ คือ การยากได้ทรัพย์ของคนอื่นด้วยการคิดกระทำในทางมิชอบ เช่น คิดลักทรัพย์ผู้อื่นเมื่อเขาไม่อยู่บ้าน
2) พยาบาท หมายถึง ความพยาบาท คือ การคิดที่จะกระทำให้ผู้อื่นมีความทุกข์ทางกาย และทางใจ เช่น คิดแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายตนเอง
3) มิจฉาทิฏฐิ หมายถึง ความเห็นผิด คือ ความคิดเห็น ความเชื่อ อันผิดจากหลักธรรมอันดีงาม เช่น เห็นว่าการฆ่าคนจะช่วยล้างปาปได้
ที่มา https://thaihealthlife.com/อกุศลกรรมบถ10/ -
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
ขอโทษทีพอดีไม่ใช่พญาธรรมและไม่ใช่โสดาบัน
เลยตอบไม่ได้ เอาไว้เป็นก่อนเดี๋ยวจะมาตอบให้นะ
เพราะยังทำไม่ได้ เลยไม่กล้าตอบกลัวลงนรก
ไม่อยากเแ็นแค่ธรรมะที่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
1...อุปกิเลส16เมื่อเกิดขึ้นแล้วใครเป็นผู้เกิด?
2...อุปกิเลส16เกิดที่ไหน?
3...พระพุทธเจ้าทรงห้ามสาวกแสดงธรรมด้วยหรือ?
4...อวดอุตริมนุษยธรรมหมายความว่าอะไร?
5...บุคคลผู้ปฏิบัติเข้าถึงธรรมแล้วจัดว่าอวดอุตริมนุษยธรรมหรือไม่? -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
-
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
555
แล้วมีคสคอนเฟริมไหมว่าใครบรรลุ
หรือนึกติดเอง มโนเอง????
เหมือนพญาธรรมอีก สรุปจะเป็นทั้งพญาธรรมหนือโสดาบัน
ช้วยไแถามพระอรหันต์ที่มีญาณแก่กล้าหลายๆรูปยืนยัยหน่อยนะ อย่าพูดเองอย่าอวดธรรมที่ตนไม่มี มันเป็นกรรมหนักคืออเวจี -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ท่านคงพอทราบนะว่าสติคืออะไร? -
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
ลองย้อนปลับไปอ่านข้อความด้านบนนะว่าใครแสดงธรรมได้..โสดาบัน???
แล้วมาถามสาวกแสดงธรรมอวอวดอุตริเหรอ???
ปัญญา ยังไม่เฉียบแหลมว่องไวนี่นะพญาธรรมควบโสดาบัน
ใึรทำมาแสดงธรรมอยากให้เขายกย่องว่าเราไม่โกรธ เราวงยเพียงเพื่อโชว์ธรรมแค่นี้ก็เอา
ฤษีในป่าเขายังได้มากกว่านี้ ฌานสมาบัติก็ได้แต่ก็ไม่บรรลุธรรม
ของดีไม่จำเป็นต้องอวดต้องโชว์
ไม่จำเแ็นต้องทำอะไรๆเลย
ความดีมันหอมทวนลม
ความชั่วมันก็เหม็นตามลม
ดังบ่อดี
ดีบ่อดัง -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า...สัพเพ
ธรรมา อนัตตา
หมายความว่า...ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา...
เมื่อพิจารณาได้ดังนี้ก็คงไม่พ้นทุกอย่างเป็นเพียงความว่างไม่มีตัวตน... -
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
จำไว้นะ
ธรรมะคือปัญญา
ปัญญา คืออาวุธ
คนมีปัญญาเขาจะแสดงธรรมก็ต่อเมื่อเขามีธะรรนั้น.นตัวเอง
มีผู้ถามผู้สน.จจึงแสดง
ไม่ใช่เอาความอยากโชว์หล่อ ไปยัดเยียดแล้วเที่ยวสอนธรรม
ถึงได้โดนคนหมั่นไส้ โดนด่าไง
เขาเรียกว่าไม่ใช้ปัญญา
คนเขาไม่ๆด้อยากฟังของเราแต่อยากพูด
เขาเรียกว่ากิเลส
อ่านตัวออกไหม
อุปกิเลสคือ .อยากอวด. อยทกโชว์ มันละเอียดนะกิเลสถ้าเป็นคนมีปัญญา อ่านตัวออก ไม่ลำเอียงเข้าข้างตัวก็จะละได้
นี่ละไม่ได้แสดงว่าหลงตัว -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ส่วนการสนทนาธรรมนั้นพระพุทธองค์ทรงห้ามพุทธบริษัทด้วยหรือ
มีแต่เทวดาจะมาร่วมสาธุการด้วย -
คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี
เคาคิดสิธรรมเรามีแค่นี้แค่เศษธุลีดิน
แต่พระอรหันต์ท่านมีมากกว่าเราเยอะ
เขาไปฟังพระอรหัยต์ดีกว่าไหม
เขาก็ติมาทั่วยังคิดไม่ได้
ยังโชว์หล่ออยู่นั่นเอง -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ส่วนการโพสต์แต่ละโพสต์ก็ตอบคนที่ถามและคนที่สนใจส่วนหนึ่งก็เท่านั้น -
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
-
ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี
ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพระอรหันต์ -
หน้า 33 ของ 78