อานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก
......ดังมีใจความว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถี
ในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้ามีความประสงค์ว่าจักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมประกาศอานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก ให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัทพระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถาม
แก่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา จะมีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า
........ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ดูกรท่านสารีบุตร ถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว
เมื่อตายไปแล้วก็จักรได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์ ใช่แต่เท่านั้น
เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ก็จะได้เป็นพระราชา มีอนุภาพอีก ๙ อสงไขย
ต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่าง ๆ เป็นลำดับไป คือตระกูลพราหมณ์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย
ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย
เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์
สุจริตปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม
ดังนี้เป็นต้น ดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดา แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปุราณโคดม ได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น สมเด็จพระปุราณโคดมบรม
ศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่า อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระสมณโคดมก็คือพระตถาคต เรานี้เองดังนี้แลก็สิ้นสุดพระกระแสธรรมเทศนา ที่
พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้
http://84000.org/anisong/28.html
-------------------------------------------------------------
อานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้น เป็นอาจินไตร
ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงมีพระพุทธฎีกาว่า
“ดูก่อนพระสารีบุตร อันบุคคลผู้ใดสร้างพระไตรปิฎกถวายในพระศาสนานี้ ย่อมได้อานิสงส์เป็นอันมาก สุดที่จะนับจะประมาณได้ก็ป่วยการกล่าวไปใย
ถึงอานิสงส์สิ้นทั้งนั้นเล่า เฉพาะอานิสงส์แห่งอักขระตัวเดียว ก็จะนับประมาณมิได้
สารีบุตรผลานิสงส์แห่งบุคคลผู้ใดสร้างซึ่งอักขระตัวเดียวไว้ ในศาสนา นี้
ก็อาจให้ผลยังตนให้ประสบสุขสิ้นกาลช้านาน
คือจะได้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ์เป็นเวลานานถึง 84,000 กัลป์
จะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินในประเทศราชเป็นเวลานานถึง 9 อสงไขย
จะได้เป็นมหาเศรษฐีคหบดีผู้ใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากเป็นเวลานาน 9 อสงไขย
และเสวยทิพย์สมบัติในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวดีเหล่านี้ ชั้นละ 9 อสงไขย เป็นกำหนด
ครั้นจุติจากเทวโลกแล้ว ก็จะเกิดมาในโลกมนุษย์อีก
จะได้เป็นคนมีทรัพย์นับวิชามากด้วยสมบัติศฤงคารบริวาร
จะได้เป็นคนดีมีศีลมีสัตย์ยินดี อยู่ในการบำเพ็ญกุศล
จะได้เป็นคนมีรูปโฉมงาม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่ชนทั่วไป
จะบริบูรณ์พูนเกิดไม่รู้จักพกพร่อง
ทั้งนี้เพราะอานิสงส์อักขระตัวเดียว ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา การที่จะกำหนดอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้น เป็นอาจินไตร”
http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/009921.htm
------------------------------------------------------------------
อานิสงส์แห่งธรรมทาน
พุทธพจน์:
“...ดูกรสุภูติ หากชายคนหนึ่งทำทานโดยการ
ถวายทานด้วยสมบัติกองสูงเท่ากับภูเขาพระสุเมรุทั้ง
จักรวาลมารวมกัน ส่วนอีกคนหนึ่ง รับฟังคำสอนไว้
ในใจ อ่าน เรียนรู้ จดจำ แล้วสั่งสอนผู้อื่น
บุญกุศลของชายคนแรกยังไม่มากเท่าหนึ่งใน
ร้อย หนึ่งในพัน หนึ่งในแสน ของบุญกุศลที่ชายคน
ที่สองได้รับ เพราะไม่สามารถจะเปรียบกันได้เลย”
http://thai.mindcyber.com/modules.ph...icle&artid=168
<!-- / message -->
พุทธพจน์ อานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก
ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 11 ธันวาคม 2004.
หน้า 1 ของ 2
-
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เยี่ยม หาบุญแบบนี้ทำยากในสมัยนี้ ขอร่วมบุญด้วยคน
-
ช่วยเต็มที่ครับ
-
เห็นด้วยกับคุณกระเจียวค่ะ บุญอย่างนี้หาทำยากจริงๆ
ทั้งหมดที่ว่ามาก็อยากได้อยู่มากค่ะ แต่ถ้าขอได้ขอพระนิพพานดีกว่า
อย่างน้อยก็รู้ว่าถ้าทำงานนี้สำเร็จ สวรรค์ชัดๆ เลย ได้กับได้ค่ะ -
เมื่อมีโอกาสทำกบุญแล้วก็จะช่วยอย่างเต็มที่ขอรับ
-
ยอดยิ่งในหมวดทานที่เป็นอามิสแล้วครับ โมทนาและช่วยเต็มที่ครับ
-
สาธุ
-
มาอนุโมทนา ด้วย แล้วก็บริจาคไปแล้ว 2 รอบค่ะ ตามกำลัง รู้สึกดีใจที่ได้ทำบุญสร้างพระไตรปิฎก ค่ะ คิดว่า ถ้าแต่งงานก็คงจะแจก หนังสือสวดมนต์ หรือไม่ก็หนังสือพระไตรปิฎกนี้แหละค่ะเป็นของชำร่วย มีประโยชน์และยังได้ช่วยน้อมจิตรใจคนกลับมาสู่คำสอนและลำรึกถึงพระธรรมด้วยค่ะ
ความคิดนี้ไม่สหงวนนะค่ะเชิญทุกท่านพร้อมใจนำมาปฏิบัติได้ค่ะ เป็นผลดีต่อผู้รับและผู้ให้ค่ะ เป็นบุญไม่มีมลทิน จ๊ะ -
อานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก
พอจะบอกที่มา (Refer) ได้ไหมครับ เช่นว่า สุตตนิกาย ฑีฆนิกาย ฯลฯ เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาค้นคว้าสืบไป ..
ขอบคุณครับ -
พระไตรปิฎกแต่ละฉบับก็ไม่เมหือนกัน มีการตัดทอน บางฉบับก็ตัดเรื่องอภินิหารออก
ผมไม่ทราบว่าหนังสือใครเขียน
ลองไปดูตรงนี้
http://84000.org/anisong/28.html -
อานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้น เป็นอาจินไตร
ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงมีพระพุทธฎีกาว่า
“ดูก่อนพระสารีบุตร อันบุคคลผู้ใดสร้างพระไตรปิฎกถวายในพระศาสนานี้ ย่อมได้อานิสงส์เป็นอันมาก สุดที่จะนับจะประมาณได้ก็ป่วยการกล่าวไปใย
ถึงอานิสงส์สิ้นทั้งนั้นเล่า เฉพาะอานิสงส์แห่งอักขระตัวเดียว ก็จะนับประมาณมิได้
สารีบุตรผลานิสงส์แห่งบุคคลผู้ใดสร้างซึ่งอักขระตัวเดียวไว้ ในศาสนา นี้
ก็อาจให้ผลยังตนให้ประสบสุขสิ้นกาลช้านาน
คือจะได้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ์เป็นเวลานานถึง 84,000 กัลป์
จะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินในประเทศราชเป็นเวลานานถึง 9 อสงไขย
จะได้เป็นมหาเศรษฐีคหบดีผู้ใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากเป็นเวลานาน 9 อสงไขย
และเสวยทิพย์สมบัติในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวดีเหล่านี้ ชั้นละ 9 อสงไขย เป็นกำหนด
ครั้นจุติจากเทวโลกแล้ว ก็จะเกิดมาในโลกมนุษย์อีก
จะได้เป็นคนมีทรัพย์นับวิชามากด้วยสมบัติศฤงคารบริวาร
จะได้เป็นคนดีมีศีลมีสัตย์ยินดี อยู่ในการบำเพ็ญกุศล
จะได้เป็นคนมีรูปโฉมงาม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่ชนทั่วไป
จะบริบูรณ์พูนเกิดไม่รู้จักพกพร่อง
ทั้งนี้เพราะอานิสงส์อักขระตัวเดียว ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา การที่จะกำหนดอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้น เป็นอาจินไตร”
http://larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/009921.htm -
อานิสงส์แห่งธรรมทาน
พุทธพจน์:
“...ดูกรสุภูติ หากชายคนหนึ่งทำทานโดยการ
ถวายทานด้วยสมบัติกองสูงเท่ากับภูเขาพระสุเมรุทั้ง
จักรวาลมารวมกัน ส่วนอีกคนหนึ่ง รับฟังคำสอนไว้
ในใจ อ่าน เรียนรู้ จดจำ แล้วสั่งสอนผู้อื่น
บุญกุศลของชายคนแรกยังไม่มากเท่าหนึ่งใน
ร้อย หนึ่งในพัน หนึ่งในแสน ของบุญกุศลที่ชายคน
ที่สองได้รับ เพราะไม่สามารถจะเปรียบกันได้เลย”
http://thai.mindcyber.com/modules.ph...icle&artid=168 -
ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี
อนุโมทนาครับ ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และในอนาคตไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ พร้อมเหล่าพระสาวกของพระพุทธเจ้าทุกท่านทุกองค์ไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ สาธุ มหาสาธุ
-
เป็นความจริงที่มิอาจบิดเบือน
พระพุทธศาสนารักษาไว้ซึ่งความจริงอันประเสริฐโดยแท้
หมู่สัตว์อย่างข้าขอน้อมรับด้วยใจ
............................................................
"..ถึงแขนขวาขาดไปแล้วจะเป็นไร ข้าก็ยังมีแขนซ้ายที่ใช้กอดท่านได้.." -
อนุโมทนา ด้วยค่ะ ดี มาก ๆ เลยค่ะ ได้ความรู้ เพิ่มเติมอีกมาก ๆ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ มีคุณค่าที่ควรจดจำ.. ไว้ ตราบนานเท่านานเลยทีเดียวค่ะ
-
ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ กับมหากุศลของคุณวีระชัย (คุณWebSnow)
ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่คุณวีระชัย ให้ความเคารพนับถือ ได้โปรดดลบันดาลให้คุณวีระชัยและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญ พ้นจากสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ทั้งมวล ถึงพร้อมด้วยชื่อเสียง เกียรติยศ และความสำเร็จทุกประการ -
ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยกับทุกครับผมก็ได้สร้างตู้พระไตรปิฎกและหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมด้วยพระพุทธรูปปางเชียงแสน ร่วมก้บเพื่อนสหายธรรม3ท่านพร้อมเพื่อนๆพี่ๆทีมีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์คนละเล็กละน้อยเป็นเจ้าภาพร่วมก้น ถวายวัดใหม่สามัคคีธรรม และร่องพระเจ้า อำเภอ เชียงดาว จว.เชียงราย ที่ผ่านมาครับผม
-
หวัดดีคับ ผม ทุเรียนทอดคับ ขอแสดงความยินดีกับทุกๆคน
ที่ได้รู้จักคับ -
pongtera24p ชมรมศิษย์หลวงปู่เทพโรคอุดร พิจิตร
พุทธพจน์<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
สุนกฺขตฺตํ สุมงฺคลํ สุปภาตํ สุหุฏฐิตํ<o:p></o:p>
ประพฤติชอบเวลาใด เวลานั้น ชื่อว่าเป็นฤกษ์ดี มงคลดี เช้าดี รุ่งอรุณดี<o:p></o:p>
อนุโธ ยถา โชติมธิฏฺเหยฺย<o:p></o:p>
ขาดตาปัญญาเสียแล้ว ก็เหมือนคนตาบอด เหยียบลงไปได้ แม้กระทั่งไฟที่ส่องทาง<o:p></o:p>
กฤมฺภูตสฺส เม รตฺตินฺทิวา วีติปตนฺติ<o:p></o:p>
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่<o:p></o:p>
ปญฺญาสหิโต นโร อิธทุกฺเข สุขานิ วินฺทติ<o:p></o:p>
คนมีปัญญา ถึงแม้ตกทุกข์ ก็ยังหาสุขพบ<o:p></o:p>
ปญฺญาย ปริสุขฺฌติ<o:p></o:p>
คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา<o:p></o:p>
โย ทนฺธกาเล ทนฺเธติ ตรณีเย จ ตีรเย<o:p></o:p>
ที่ควรช้าก็ช้า ที่ควรเร่งก็เร่ง ผลที่หมายจึงจะสำเร็จบริบูรณ์<o:p></o:p>
โย จ วสฺสสตํ ชีเว กุสีโต หีนวีริโย<o:p></o:p>
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย วิริยํ อารภโต ทฬฺหํ<o:p></o:p>
ผู้ใดเกียจคร้าน หย่อนความเพียร ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ร้อยปี ก็ไม่ดีอะไร<o:p></o:p>
ชีวิตของผู้เพียรพยายามจริงจังมั่นคงเพียงวันเดียวยังประเสริฐกว่า<o:p></o:p>
ทหราปิ จ เย วุฑฺฒา เยพาลา เย จ ปณฺฑิตา<o:p></o:p>
อฑฺฒา เจว ทลิทา จ สพฺเพ มจฺจุปรายนา<o:p></o:p>
ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล ทั้งบัณฑิต ทั้งคนมี<o:p></o:p>
ทั้งคนจน ล้วนเดินหน้าไปหาความตายทั้งหมด<o:p></o:p>
สุเขน ผุฏฐา อถวา ทุกฺเขน น อุจฺจาวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ<o:p></o:p>
บัณฑิต ได้สุขหรือทุกข์กระทบ ก็ไม่แสดงอาการขึ้นๆลงๆ <o:p></o:p>
จิตฺตํ รกฺเขถ เมธาวี<o:p></o:p>
ผู้มีปัญญา พึงรักษาจิต<o:p></o:p>
กาโล ฆสติ ภูตานิ สพฺพาเนว สหตฺตนา<o:p></o:p>
กาลเวลาย่อมกลืนกินสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกันไปกับตัวมันเอง<o:p></o:p>
นตฺถิ ปญฺญา อฌายิโน<o:p></o:p>
ปัญญาไม่มี แก่ผู้ไม่พินิจ<o:p></o:p>
อปิ อตรมานานํ ผลาสาว สมิชฺฌติ<o:p></o:p>
อันความหวังในผล ย่อมสำเร็จแก่ผู้ไม่ใจเร็วด่วนได้<o:p></o:p>
เวคสา หิ กตํ กมฺมํ มนฺโท ปจฺฉานุตปฺปติ<o:p></o:p>
การงานที่ทำโดยผลีผลาม ทำให้คนอ่อนปัญญาต้องเดือดร้อนภายหลัง<o:p></o:p>
สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ<o:p></o:p>
ความบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตัว<o:p></o:p>
นาญโญ อญฺญํ วิโสธเย<o:p></o:p>
คนอื่นทำคนอื่น ให้บริสุทธิ์ไม่ได้<o:p></o:p>
กลฺยาณํ วต โภ สกฺขิ อตฺตานํ อติมญฺญสิ<o:p></o:p>
ท่านเอ๋ย ท่านก็สามารถทำดีได้ ไยจึงมาดูหมิ่นตนเองเสีย<o:p></o:p>
อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา<o:p></o:p>
บัณฑิตย่อมฝึกตน<o:p></o:p>
ยาวุปฺปตฺติ นิมิตสฺสติ ตตฺราปิ สรตี วโย<o:p></o:p>
วัยย่อมเสื่อมลงเรื่อยไป ทุกหลับตา ทุกลืมตา<o:p></o:p>
นตฺถิ ฌานํ อปญฺญสฺส<o:p></o:p>
ความพินิจ ไม่มีแก่คนไร้ปํญญา<o:p></o:p>
อโมฆํ หิวสํ กยิรา อปฺเปน พหุเกน วา<o:p></o:p>
เวลาแต่ละวัน อย่าให้ผ่านไปเปล่า จะน้อยหรือมาก ก็ให้ได้อะไรบ้าง<o:p></o:p>
ยทูนกํ ตํ สนติ ยํ ปูรํ สนฺตเมว ตํ<o:p></o:p>
สิ่งใดพร่อง สิ่งนั้นดัง สิ่งใดเต็ม สิ่งนั้นเงียบ<o:p></o:p>
นิปฺผนฺนโสภิโน อตฺถา<o:p></o:p>
ประโยชน์งามตรงที่สำเร็จ<o:p></o:p>
หน้า 1 ของ 2