พุทธพยากรณ์ และภัยพิบัติโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 8 เมษายน 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>วิกฤติการณ์มหันตภัยขั้นสุดท้ายของโลก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50">
    โดย Dr.G.G.Junior
    http://www.universal-signal.com
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"> </td> <td class="style50 style50" width="96%">มหันตภัยล้างโลกนั้น มนุษย์ได้ค้นพบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น ซากพืช และสัตว์ ที่กลายเป็นหินที่เรียกว่า fossils หรือหลักฐานอื่นใดก็ตาม ยังคงมีความล้าสมัย อยู่มาก เนื่องจากเป็นข้อมูลแวดล้อมภายนอกที่นำมาใช้ ในการประมาณ ในการคิด จินตนาการให้เห็นจริง โดยแท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น มนุษย์มีความเชื่อว่า เผ่าพันธุ์ ของมนุษย์นั้น มีบรรพบุรุษมาจากสัตว์จำพวกลิง อ้างความสัมพันธ์ทางสัณฐานวิทยาบ้าง พฤติกรรมบ้าง ถ้าความเชื่อนี้เป็นจริง ระดับมันสมองของมนุษย์ ต้องด้อยความสามารถ กว่าปัจจุบันนี้มากเลยทีเดียว เพราะการพัฒนารูปร่างนั้น รวดเร็วกว่าการพัฒนาด้านสมอง มากนัก ถ้าจะกล่าวว่า ในธรรมชาติที่เป็นจริงมนุษย์นั้น พัฒนามาจากบรรพบุรุษของ มนุษย์เอง ไม่ได้มาจากลิงน่าจะถูกต้องมากกว่า เพราะมนุษย์มีวิวัฒนาการด้านพฤติกรรม ไม่เหมือนลิง และสัตว์อื่นๆ ทั้งหมด แตกต่างตรงที่มนุษย์ปรับสภาพแวดล้อมเข้าหาตนเอง ซึ่งตรงกันข้ามกับลิง และสัตว์อื่นๆ ลิงมีความสามารถปรับพัฒนาการรูปร่างคล้ายกับคน แต่ด้อยกว่า จะได้แค่เป็นลิง ในอนาคตก็เป็นได้แค่ลิง อย่างนี้วิทยาศาสตร์ของชาวโลก ก็ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงมากทีเดียว กล่าวไว้เป็นตัวอย่างหนึ่งว่า วิทยาศาสตร์ของ ชาวโลก ก็ยังเป็นความงมงาย หรือความเชื่อ “ ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ” การค้นพบ ทางวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่เอื้อให้มีความสะดวก ความสุขแบบมนุษย์ และความสบายนั้น

    โดยแท้จริงเป็นเพียงการคิดค้นสร้างให้เกิดการทำลายธรรมชาติทั้งสิ้นไป
    มหันตภัยล้างโลกเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายไม่นานเท่าที่มนุษย์ได้ประมาณไว้ว่า เกิดในยุค ที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ ประมาณหลายสิบล้านปีก่อน แต่ในระยะเวลาที่เห็นจริง ตามการบ่งบอกของอณูธาตุในสรรพสิ่งนั้น รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อ ๑๘๐,๐๐๐ ปี ที่ผ่านมา เท่านั้น โดยการเกิดสภาวะยุคน้ำแข็ง จากการเกิดสภาวะยุคน้ำแข็งครั้งนั้น เกิดอยู่ นาน ๑,๐๘๐ ปี มีมนุษย์หลงเหลืออยู่ ที่เป็นบรรพบุรุษของชาวโลกปัจจุบันเพียง สองร้อยกว่าคน กระจายไปทั่วโลก มนุษย์ทั้งหมดนี้รอดตายและใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำ ขยายเผ่าพันธุ์ภายในถ้ำ จนโลกอบอุ่นขึ้น จึงออกมาใช้ชีวิตปกติ มีอาหารหลักคือ ปลา เพราะสภาวะยุคน้ำแข็ง ในครั้งนั้น น้ำแข็งเกิดเฉพาะด้านบน แต่ใต้ท้องทะเลน้ำไม่แข็ง ปลาจึงรอดชีวิตมากมาย หลายชนิด มนุษย์และสัตว์ก็อาศัยความร้อนใต้พิภพ เพื่อการอยู่รอด เห็นไหมว่า เวลานั้น ความร้อนใต้พิภพมีประโยชน์ เพราะไม่ได้ถูกทำลายความสมดุลไป ซึ่งต่างจากปัจจุบัน สรรพชีวิตกำลังได้รับอันตรายจากการที่มนุษย์ทำลายความสมดุลใต้พิภพ ด้วยการระเบิดหิน ขุดเจาะน้ำมัน เป็นต้น การเกิดสภาวะยุคน้ำแข็งนั้น มีสาเหตุจาก โลกเสียสมดุลของสนามแม่เหล็ก จึงมีการโคจรผิดปกติไปจากเดิม โดยโคจรเป็นวงรีมาก จนห่างจากดวงอาทิตย์มากเกินไป ความร้อนจากแสงอาทิตย์สาดไปไม่ถึงพื้นโลกเลย จึงเกิดความเย็นอย่างเฉียบพลัน ระยะเวลาเพียง ๓ ชั่วโมงมนุษย์ ทุกสิ่งบนพื้นโลกนี้ ก็แข็งไปทั้งหมดแล้ว กลายเป็นยุคน้ำแข็ง ส่วนในมหันตภัยของโลกในครั้งที่เป็นปัจจุบันนี้ มีสาเหตุแตกต่างจากครั้งที่แล้ว สัญญาณธาตุรู้บอกข้าว่า สาเหตุหลักมาจากสนามแม่เหล็ก และชั้นบรรยากาศของโลกขาดเป็นช่อง เป็นรู ส่งผลถึงการโคจรของดวงจันทร์ และดาวข้างเคียง พร้อมทั้งพื้นโลกร้อนกว่าเดิมมากนัก ทำให้น้ำเคลื่อนที่อย่างไม่สมดุล ที่เก็บกักน้ำของโลกเสียสภาพไป เช่นพื้นที่สูงเก็บน้ำในรูปหิมะ ในทะเลแถบขั้วโลก เก็บในรูปภูเขาน้ำแข็ง ใต้ดินเก็บเป็นน้ำใต้ดิน (แต่มนุษย์เอาขึ้นมาใช้มาก เกินกำหนดแล้ว) เก็บในรูปน้ำมันดิบ ส่วนบนพื้นผิวโลกเก็บน้ำในต้นพืช และส่วนต่างๆ ของพืช รวมทั้งผิวดินใต้ร่มเงา นอกจากการสูญเสียการเก็บกักน้ำตามธรรมชาติแล้ว มนุษย์ยังทำให้โลกสั่นสะเทือน ทั้งพื้นล่างและเบื้องบน การทดลองนิวเคลียร์ การยิงจรวด ขีปนาวุธ การปล่อยยานอวกาศล้วนเป็นการทำลายกำแพงกั้นชั้นบรรยากาศทั้งนั้น และยังทำลายความสมดุลสนามแม่เหล็กโลกอย่างหนักหน่วงเลยทีเดียว และถ้ามีสงครามนิวเคลียร์เกิดขึ้น ก็จะเกิดมหันตภัยด้วยเลยทันที โดยไม่ต้องรอคอย เพราะความสมดุลปัจจุบันเข้าสู่ขั้นวิกฤติ แล้วตั้งแต่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐ (มนุษย์เอ๋ยสังวรไว้ให้ดีๆ) เห็นไหมว่าวิทยาศาสตร์ของพวกเจ้านั้น ทำลายธรรมชาติ แต่เพียงฝ่ายเดียว และที่มอมเมากันว่า รักษาธรรมชาตินั้น เป็นเพียงอย่างดีก็เพียงลด การทำลาย ให้น้อยลงได้นิดหน่อยเท่านั้น (ไม่ทำจะมีชีวิตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ยืดยาวกว่า) ตอนนี้ถ้าติดตามข่าวของมนุษย์เองจะเห็นว่า น้ำสร้างความเสียหายขึ้นแล้ว ในทุกมุม ของโลก จึงชัดเจนว่า โลกจะสูญเสียพื้นดินที่จะกลายเป็นพื้นน้ำประมาณว่า อย่างน้อย ครึ่งหนึ่ง (ถ้าโชคดี หรือโชคร้ายกว่านี้ ก็ขึ้นกับการสร้างสนามพลังงานแห่งมวลมนุษยชาติ ของมนุษย์เอง) และมีสาเหตุหลักร่วมอีกอย่างหนึ่งคือ เชื้อโรคร้าย สายพันธุ์ใหม่ ทั้งเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่มียุงเป็นพาหะ กาฬโรคชนิดใหม่ รุนแรงกว่าเดิม มีหนู เป็นพาหะนำโรคจะเอาชีวิตมนุษย์ไปอีกมากโข แล้วจะเหลือมนุษย์เข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ กี่คน (รอดตายจากมหันตภัย) คำถามนี้ มนุษย์ และพฤติกรรมของตน (มนุษย์เอง) เป็นผู้กำหนดคำตอบนี้ สรุปได้ว่ามหันตภัยล้างโลกในครั้งนี้คือ น้ำท่วมโลกนั่นเอง สงสาร มนุษย์ตัวน้อยๆ ที่โชคร้าย ข้าอยากให้มันเหล่านั้นโชคดี มนุษย์ผู้มีโพธิจิตมั่นทั้งหลาย จงร่วมกันอวยพรให้เด็กๆ บนพื้นโลกนี้ทั้งหมด จงโชคดี ด้วยการภาวนารักษาศีล เผยแพร่ความจริงในจิตมนุษย์ร่วมกัน เพื่อการสร้างสนามพลังงานแห่งมวลมนุษยชาติ ให้สำเร็จให้จงได้ เหตุการณ์ทั้งหมดที่กล่าวไว้เป็นปัจจุบัน และอนาคตนี้ จะได้ไม่เป็นจริง จงรับรู้ข้อเท็จจริงของธรรมชาติ จงตื่นขึ้นหลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์สมบัติ แล้วจงไปกับข้า “ ธาตุรู้ที่อยู่ทุกอณูในสรรพสิ่ง ”
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>สภาวะการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย กับมหันตภัยของโลก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50">
    โดย Dr.G.G.Junior
    http://www.universal-signal.com
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"> </td> <td class="style50 style50" width="96%">ได้ทราบสัญญาณจากธาตุรู้แล้วว่า มนุษย์นั้นเป็นตัวการหลักที่สำคัญที่สุด ในการทำให้โลกนี้เสียความสมดุลอย่างรุนแรง ในขณะที่โลกหมุน และปรับแกนของตน เพื่อถ่วงความสมดุลนั้นกลับคืนมา ถ้าเปรียบกับมนุษย์แล้ว โลกทำงานหนักแสนสาหัส โดยไม่มีเวลาหยุดพักเลย ในทุกๆ ขณะที่กิจกรรมของโลกดำเนินไป มนุษย์ก็ยิ่งสร้าง ความไม่สมดุลให้กับโลกเพิ่มพูนทวี ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจถึงสภาวะสมดุลดังกล่าว มุ่งแต่ประโยชน์ และให้ได้มาซึ่งทรัพย์ที่เรียกว่า “ มนุษย์สมบัติ ” ทั้งหลาย สงสารแต่ มนุษย์ตัวเล็กๆ ที่อาจจะไม่มีโอกาสได้รับรู้ความเป็นจริงธรรมชาติตามวัยอันควร ต้องจบชีพตนอย่างเวทนา เนื่องจากมนุษย์ผู้ใหญ่ทั้งโลก มีความเสื่อมของปัญญาทิพย์ อย่างถาวร จึงไม่อาจมี หรือสะสมความรู้ด้านสภาวะสมดุลของตน ของโลก ของจักรวาล มนุษย์ส่วนใหญ่ จึงประกอบอาชีพด้วยการทำลายโลกที่ตนอยู่ ให้ป่วยขั้นสาหัสขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญที่สุดคือ มนุษย์ไม่รู้ว่าตนนั้นทำลายโลก และจักรวาล ให้เสียหายอย่างไร มากมายเท่าใด และยังคงทำต่อไปอย่างที่เรียกว่า ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และทระนงว่า ตนนั้น เป็นฝ่ายพัฒนาโลกนี้ ให้เจริญงอกงามทางเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ หรือการค้นพบนั้นแท้จริงแล้ว มนุษย์ใช้เป็นเพียงเครื่องมือค้นหาธรรมชาติต่างหาก ยังมีธรรมชาติรอให้มนุษย์ค้นหา และเข้าใจอีกมากมายนัก แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ ใช้วิทยาศาสตร์ เพื่อการเอาชนะกันเพียงเท่านั้น เช่น เอาชนะว่าใครรู้มากกว่ากัน เอาชนะว่า ใครจะแปรเป็นทรัพย์ (เศรษฐกิจ) ได้มากกว่ากัน เอาชนะด้วยสงครามว่าใคร มีอำนาจเหนือใคร เอาชนะว่า ใครมีชั้นความเป็นอยู่สูงกว่าพวกใคร มนุษย์เกือบทั้งโลก ตกอยู่ในอารมณ์เหล่านี้ทั้งนั้น ไม่เว้นแม้นักปราชญ์ที่พูดเก่ง ก็ซ่อน ความอยากเอารัด เอาเปรียบกับมนุษย์ที่โง่กว่า ไว้ในใจด้วยกันทั้งนั้น มนุษย์ไม่รู้เลยว่า แท้ที่จริง พวกท่านทั้งหลาย กำลังพากันเดินทางเข้าสู่หายนะมหันตภัย ของโลก ที่เกิดจากน้ำมือ ของตนเองทั้งสิ้น ยิ่งมีความรู้ ความสามารถ และ/หรืออำนาจมากเท่าใด ก็ยิ่งทำลายโลก ด้วยความเลวร้ายมากขึ้น และรวดเร็ว มากขึ้นเท่านั้น ท้ายที่สุด มนุษย์ไม่สามารถ ชนะสิ่งใดได้เลย แต่ต้องกลับเป็นผู้พ่ายแพ้ตลอดกาล อย่างน่าสงสาร เจ้ามนุษย์เอ๋ย ! จงมองเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างเท่าเทียม จะเห็นว่าสัญญาณข้อความที่กล่าวนี้เป็นจริง เพราะมนุษย์ไม่รู้จัก และเข้าใจซึ้งถึงสิ่งอื่นๆ เลย นอกจากกิเลสที่นำพาตน ดิ่งลงสู่หายนะสภาวะมหันตภัยเพียงเส้นทางเดียว (เริ่มด้วยความอยากนั้นเป็นจุดเริ่มต้น ตามด้วยความโกรธ และตามด้วยความหลง ซึ่งเป็นอบาย ส่องทางให้มนุษย์ เลือกเอา การทำลายสิ่งทั้งหลายทั้งปวงโดยไม่เลือกหน้า อย่างเมามัน และไร้สติ อย่างในปัจจุบัน) แต่นี้ไป มาดูผลงานการทำลายของพวกท่านกันเถิดว่า ยิ่งใหญ่มโหฬาร หรือเลวร้าย แสนสาหัสเพียงใด (ขอยกสิ่งใกล้ตัวคือ ประเทศไทย) ถ้าปราศจากการแก้ไข โดยมนุษย์เอง ตั้งแต่บัดนี้ สำหรับประเทศไทย ถ้ายังอยู่ในสภาวะปัจจุบัน มีข้อมูล ความเสียหายของพื้นที่ จากภัยพิบัติ ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศเริ่มตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวาระสุดท้าย เพื่อการเข้าสู่ ยุคพลังงานใหม่ โดยเริ่มจากจังหวัดเชียงราย มีแผ่นดินยุบบางส่วน โดยเฉพาะ อ.เชียงแสน จะเสียหายจากแผ่นดินยุบ เกือบทั้งอำเภอ จังหวัดเชียงใหม่ เกิดรอยแยกจากรอยเลื่อนของแผ่นดินใต้จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิด ความเสียหายจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุด ตามแนวรอยเลื่อน แถบเทือกเขา อำเภอแม่สะเรียง ผ่านขึ้นดอยอินทนนท์ และรอยแยกเข้าที่ลุ่มตัวเมืองเชียงใหม่ ออกไปสู่อำเภอแม่ริม ไปเข้าสู่จังหวัดเชียงราย แถบจังหวัดพิษณุโลก พบภัยจากน้ำเป็นบางส่วน จังหวัดกำแพงเพชรพบภัยจากน้ำเล็กน้อย จังหวัดตาก ส่วนที่เกี่ยวเนื่องเลียบตามชายแดนพม่า และแม่ฮ่องสอนจะเกิดภัยแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก จังหวัดกาญจนบุรีเกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินแยกยุบตามรอยเลื่อน ที่ทอดยาวไปกับเทือกเขาตะนาวศรี เกิดความร้อนผุดขึ้นบางพื้นที่ จังหวัดสุโขทัยพบภัยจากน้ำมากพอสมควร ต่ำลงมาตั้งแต่จังหวัดลพบุรี อ่างทอง อยุธยาจะกลายเป็นที่ลุ่มมากขึ้น กรุงเทพมหานคร ปากน้ำ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ถูกน้ำคุกคามทั้งหมด ส่วนนครปฐม ยังคงอยู่บางส่วน ในที่สูงรอยต่อกับจังหวัดกาญจนบุรีถึงสุพรรณบุรี แต่ต้องระวังที่เก็บน้ำ เช่น ถ้าเขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรีแตก พื้นที่เหล่านี้ก็เกิดภัยจากน้ำได้เช่นกัน ภาคใต้ทั้งหมดจะกลายเป็นพื้นที่เกาะ ในส่วนที่เป็นเกาะปัจจุบันเช่น ภูเก็ตจะจมหายไปจนเกือบหมด เป็นไข่มุกใต้ท้องทะเล อีสานเป็นพื้นที่ปลอด จากภัยพิบัติ แต่แห้งแล้งหนัก ในส่วนพื้นดินเป็นดินทรายยิ่งโก่งตัวขึ้นก็ยิ่งแห้งแล้ง ในพื้นที่ดินแดงจะมีน้ำมากขึ้น ภาคตะวันออกนั้น ในพื้นที่อ่อนนุ่ม จะจมน้ำลงไปก่อน แล้วน้ำจะคืนให้บางส่วนทีหลัง ส่วนพื้นที่อยู่ปลายแหลม ไม่มีเหลือที่ให้มนุษย์ มีแต่สัตว์น้ำที่ครอบครองดินแดนแทน
    สัญญาณอณูธาตุรู้ยังบ่งบอกให้รู้อีกว่า ณ วันนี้ (๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๐) ภัยพิบัติ ซึ่งเป็นช่วงแรกของมหันตภัย ระหว่างเดือนกรกฎาคมปีนี้ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้านั้น มีความชัดเจนขึ้นมาก ที่มนุษย์และสรรพชีวิตจะต้องพบกับ "ภัยร้ายทางน้ำ" มาเป็นเอก ส่วนภัยทางอื่นรองลงมาแต่มีความเกี่ยวข้องกันด้วยที่ว่าธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ ทำงานร่วมกันเสมอ ในพื้นที่ที่มีน้ำน้อยจะประสบสภาวะขาดน้ำ พื้นที่ใดมีน้ำมาก ก็จะมีน้ำมากเกิน จนเกิดโทษ อุปกรณ์ และวัสดุที่มนุษย์ใช้กับน้ำ เช่น เขื่อน สิ่งก่อสร้างใกล้น้ำ ควรตรวจความคงทนแข็งแรง ให้มีความมั่นคงแน่นหนา ในพื้นที่เก็บน้ำในรูปหิมะจะเกิดหิมะละลายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่สูง และจะเกิดสภาวะความร้อนสูงเข้ามาแทนที่ เนื่องจากหิมะให้ความเย็น และยังปกปิด ไม่ให้ความร้อนใต้พิภพผุดขึ้นมาตามรอยแตกของหิน ด้วยแรงดึงดูด จากผิวเปลือกโลก จะการเกิดพายุฝน และพายุลมบ่อยมาก และรุนแรงขึ้น ปีนี้มีปริมาณน้ำมาก และสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ด้วยมีฤดูฝนที่ยาวที่สุด เท่าที่เคยพบมาของมนุษย์ปัจจุบัน และมีแนวโน้มหนักขึ้นทุกปี สมควรที่มนุษย์ เร่งแก้ไขโดยร่วมกันสร้างสนามพลังงานแห่งมวลมนุษยชาติให้แข็งแรง และสามารถลดภัยพิบัติครั้งอีกให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป มนุษย์ใฝ่ดีทั้งโลกนี้ ได้สร้างสนามพลังงานนี้ขึ้นได้มากกว่าเดิม ๑๐ % แล้ว ถึงแม้เพียงน้อยนิด แต่ก็รักษาชีวิตมนุษย์ได้มากทีเดียว ข้าคือสัญญาณธาตุรู้ในทุกสรรพสิ่ง ขออนุโมทนา เป็นปฐม ปกติข้าไม่เคยพึ่งความโชคดี แต่ข้าก็ขออวยพรให้มนุษย์และสรรพชีวิตจงโชคดี หากมนุษย์ยังเฝ้าคอยแต่โชคชะตา โดยไม่รู้จักตื่นไปกับข้า "ธาตุรู้ในทุกสรรพสิ่งแห่งสากลจักรวาล"
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>การเตรียมตัวรับคลื่นความร้อนและพายุห่าฝนยักษ์ ในแผ่นดินไทย และทั่วโลก ในเดือนกันยายน-ตุลาคม ๒๕๕๐ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> </td> </tr> <tr> <td> [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]</td> </tr> <tr> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50">
    โดย Dr.G.G.Junior
    http://www.universal-signal.com
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50"> </td> </tr> <tr valign="top"> <td colspan="3" class="style50"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"> </td> <td class="style50 style50" width="96%">มนุษย์ในประเทศไทย ตื่นตัวและเริ่มรับรู้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ และแผ่นเปลือกโลก ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจนในทุกขณะ การเกิดแผ่นดินไหว ทุกวัน มีพายุลมแรงบ่อยครั้ง รอบด้านของขอบประเทศ การมีพายุฝน แผ่นดินไหว คลื่นลมแรง สึนามิ โดยเฉพาะการเกิดพายุงวงช้าง ที่พึ่งเริ่มมีหลายครั้งในเขตทวีปเอเชีย และที่มนุษย์กำลังสัมผัสได้ดี ในขณะนี้ก็คือ คลื่นความร้อนจากใต้พิภพที่ผุดขึ้น ในทุกมุม ของโลกใบนี้ จนถึงในขณะนี้ก็สังเกตได้ว่า ภัยทั้งหลายเหล่านี้ ได้เคลื่อนตัวเข้าใกล้แผ่นดิน ขวานทองของไทยเข้ามาทุกขณะ มนุษย์มีความหลากหลายในวิธีการคิด สรุปเหตุผลจาก สภาวะโลกร้อน แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์สมควรหันกลับมาคิดบนฐานของข้อเท็จจริง ในรอบด้าน เพราะทางวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานข้อเท็จจริง ด้านหนึ่งส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังคง มีมิติ และด้านต่างๆ อีกมากมายให้มนุษย์ได้รับรู้ข้อเท็จจริง ทำไมมนุษย์คิดด้านเดียว ก็เพราะมนุษย์ยึดอาชีพอย่างเดียวที่ถนัดที่สุด ความรู้อย่างอื่นๆ จึงด้อยลง มนุษย์ปัจจุบัน ไม่นิยมเรียนรู้ทุกด้านและทุกมิติไปด้วยกัน เนื่องด้วยมนุษย์เอง มีความพิการทางการรับรู้ ซึ่งหลงเหลือความสามารถรับรู้ได้เพียงทางอายตนะเท่านั้น (ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) อายตนะที่รับรู้ได้นี้ ก็เพียงรับสิ่งที่กระตุ้นความอยากในวัตถุเท่านั้น และเพื่อเพียงการมี ชีวิตรอด เท่านั้น เช่นกัน จะเห็นได้ว่า มนุษย์ใช้กลอุบายแย่งชิงความเหนือกันในฐานะ ทางสังคมเป็นหลัก มนุษย์ขาดการรับรู้ทางสัญชาตญาณ ในขณะที่สัตว์และสรรพชีวิตอื่นๆ มีอย่างครบถ้วน การเตรียมตัวของหมู่สัตว์ทั้งหลายจึงมีก่อนมนุษย์ และมนุษย์ยังหลงใน ลาภ ยศ สรรเสริญ เพิ่มเติมอีก ก็ยิ่งให้ไม่สามารถรับรู้ด้าน และมิติอื่นๆ ได้เลย ในทาง ตรงกันข้าม ในความไม่รับรู้ของมนุษย์ ยังก่อให้เกิดการทำลายล้างสมดุลแห่งธรรมชาติ อย่างร้ายกาจเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น สภาวะโลกร้อนนั้น มีสาเหตุจากสิ่งใด เป็นหลักกันแน่ มนุษย์บอกว่าการเผาผลาญน้ำมันทำให้เกิดความร้อนบนผิวโลก แต่สัตว์ ไม่แสดงการ ตอบรับเช่นนั้น แต่แสดงให้รู้ได้ว่า ความร้อนจากใต้ผิวโลกนั้น มีผลต่อความร้อนบนผิวโลก อย่างรุนแรงที่สุด สัตว์ใต้ท้องทะเลลึก และสัตว์ใต้ผิวดิน แสวงหาที่อยู่ใหม่ที่มีความร้อน น้อยกว่าที่อยู่เดิม สรุปได้ว่าสัตว์นั้น มีการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนกว่ามนุษย์ โดยเอาตัวเองเป็นอุปกรณ์ทดลองในสภาพจริง ถ้าคิดพิจารณาบนข้อเท็จจริงแล้ว จะเห็นว่า น้ำมันนั้นคือ รูปแบบของพลังงานที่ธรรมชาติจัดเก็บไว้ ไม่ให้เกิดความร้อนต่อโลกคือ อยู่ในสถานะน้ำ และยังทำหน้าที่เป็นฉนวนกั้นความร้อน ระหว่างชั้นหินร้อนใต้พื้นโลก กับบนผิว และชั้นบรรยากาศของโลก การแก้ไขปัญหา คือ หยุดขุดเจาะน้ำมัน เลิกใช้ เครื่องจักรหนักขุดเจาะให้เกิดรอยแตกของชั้นหินที่กั้นความร้อนใต้ผิวโลกทันที ลดจำนวน การเกิดของมนุษย์ เข้าสู่สภาวะไร้เศรษฐกิจ ฟื้นฟูสภาวะจิตมนุษย์ลดความโลภ โกรธ หลง ล้างอบายทั้งหลาย สนับสนุนให้มนุษย์อยู่ในหลักศาสนา หยุดการใช้ศาสนาเพื่อการ รวมกลุ่มมนุษย์ เพื่อทำสงครามทุกรูปแบบ ยกเลิกการใช้ปรมาณู และอาวุธทั้งปวง ส่งเสริมการติดอาวุธทางจิต คือ โพธิจิต ด้วยการมีเมตตาและอภัย นำพาให้มนุษย์รู้ว่า ทุกคนสามารถติดต่อความรู้ในทุกอณูในสรรพสิ่งได้ด้วยตัวเอง (แมลงตัวเล็กๆ ของข้ามันยังทำได้เลย มีมันสมองนิดเดียว) สัญญาณธาตุรู้บอกข้าว่า ข้อความข้างบน มนุษย์ไม่เข้าใจ เพราะมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้มี อวิชชา ตัณหา อุปาทาน อันหนักหน่วง ด้วยกันทั้งสิ้น เหตุผลก็คือ ความสมดุลของสนามแม่เหล็กโลกคือ ดัชนีชี้วัดสิ่งเหล่านี้ ด้วยสถานการณ์อย่างนี้ ธรรมชาติจึงส่งสัญญาณมาเมตตามนุษย์ให้มากๆ และบ่อย เพื่อว่าอาจจะมีมนุษย์เห็นความจริงรอบด้าน และทุกมิติเพิ่มขึ้นบ้าง แค่เพียงคนเดียว ก็ยังดีกว่าไม่มีเอาเสียเลย มีนักวิทยาศาสตร์ในดินแดนอาทิตย์อุทัย ทดลองดูโมเลกุล ของน้ำ พบว่าน้ำที่อยู่ในเมืองมีรูปร่างโมเลกุลบิดเบี้ยว น้ำในธรรมชาติบนขุนเขามีโมเลกุล เป็นระเบียบ น้ำในสถานที่ที่คนบ่นด่าแช่งกันมีโมเลกุลอัปลักษณ์ น้ำในสถานที่สวดมนต์ ภาวนา มีโมเลกุลเป็นระเบียบสวยมากมีประกายสว่างใส น้ำมีอยู่ทุกหนแห่ง แม้แต่ ร่ายกายมนุษย์ก็มีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก จากการทดลองจะเห็นว่า มิติพลังงานที่แสดง ให้มนุษย์รู้ โดยน้ำเป็นสิ่งเชื่อมโยงความรู้ของทุกอณูเข้าด้วยกัน ส่งผ่านความรู้ให้แก่กันได้ นับประสาอะไรกับแมลงตัวเล็กๆ ของข้า เชื้อโรค หรือสัตว์เซลล์เดียว ก็ย่อมถ่ายทอด และรับความรับความรู้ได้จากโมเลกุลของน้ำได้ด้วยกันทั้งนั้น ณ เวลานี้มนุษย์นั้น อาจจะเป็นสัตว์ชนิดที่ดุร้ายที่สุด และโง่ที่สุดในจักรวาล เพราะมันทำร้ายทั้งมนุษย์ และสัตว์ด้วยกัน และยังทำลายทุกสรรพสิ่ง พร้อมกับโลกและจักรวาลแห่งนี้อย่างไม่รู้ตัว สรุปบทสุดท้ายจึงจะขอยกตัวอย่างการเตรียมตัวรักษาสภาพสมดุลในบ้านเมืองนี้ เป็นตัวอย่าง เผื่อสัตว์ประเสริฐที่เรียกว่า มนุษย์ จะสำนึกได้บ้างสักหนึ่งคนก็ยังดี

    ๑. การสวดมนต์ภาวนา เพื่อการสร้างสนามพลังแห่งธรรมชาติ (มีอธิบายไว้แล้ว) ช่วยรักษาสมดุลของโลกนี้ได้ เหตุผลก็คือ โลกประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ ถ้าธาตุน้ำสามารถสื่อความรู้ได้ ธาตุทั้งหมดทั้ง ๔ ธาตุก็สามารถเช่นกัน สรุปมนุษย์ และสัตว์สื่อสารได้ พืชและสรรพสิ่งรวมทั้ง ๔ ธาตุ สามารถรับรู้ความรู้บนข้อเท็จจริงได้ แต่ถ่ายทอดโดยตรงไม่ได้ เพราะมนุษย์รับได้แต่ของหยาบ ที่เป็นรูปเท่านั้น ไม่สามารถ รับความรู้ที่เป็นนามได้ (แต่ในอดีตสามารถรับได้ดีที่สุด) ไม่ว่าชาติ ศาสนาใด ก็สวดมนต์ ได้ทั้งนั้น ทุกวันทุกเวลา

    ๒. หลักสำคัญทางศาสนา และโบราณสถาน เป็นสัญลักษณ์ให้บุคคลรุ่นหลังสืบค้นความจริง และยังเป็นแหล่งรวมพลังงานอีกด้วย เมื่อมนุษย์สวดมนต์บูชาในที่เหล่านี้ จะเป็นการรวมพลังงานที่ดี ช่วยให้โลกสมดุลขึ้นได้ (ถ้าหาเหตุผลไม่ได้ : มนุษย์สวดมนต์บูชาก็หยุดตัวเองเบียดเบียนผู้อื่นแล้วขณะนั้น น้ำ ในบริเวณนั้น ก็มีโมเลกุลเป็นระเบียบ ช่วยให้อณูน้ำของโลกเป็นระเบียบ โลกก็สมดุลขึ้น) มนุษย์ทั้งหลาย สมควรบูรณะซ่อมแซม ยก หรือกั้นให้พ้นจากน้ำท่วม ในเดือนกันยายน ถึงตุลาคมนี้ มีรายนามโบราณสถานที่มีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุทั้งประเทศ ที่สมควรดูแลซ่อมแซมให้แข็งแรงโดยเร็ว ดังนี้


    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr class="style50" bgcolor="#ffcc00"> <td> </td> <td>จังหวัด</td> <td width="373">ชื่อวัด</td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td width="10">
    </td> <td class="style50" width="135">1. กรุงเทพ</td> <td class="style50" valign="top"> พระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระแก้ว(วัดพระศรีรัตนศาสดาราม)
    วัดมหาธาตุ ภายในมณฑปมีพระเจดีย์ทอง บรรจุพระบรมธาตุ
    วัดสระเกศ บนภูเขาทอง
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">2. อยุธยา</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพุทไธสวรรค์
    เจดีย์ศรีสุริโยทัย
    วัดมเหยงค์ ( เจดีย์เก่าด้านหน้า)
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">3. อ่างทอง</td> <td class="style50" valign="top"> วัดป่าโมก(พระนอน)
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">4. กาญจนบุรี </td> <td class="style50" valign="top"> วัดวังวิเวการาม
    วัดสันติคีรีศรีบรมธาตุ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">5. สมุทรปราการ</td> <td class="style50" valign="top"> พระสมุทรเจดีย์
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">6. ปราจีนบุรี </td> <td class="style50" valign="top"> วัดป่าพระธาตุโพธิ์ทอง อ.ศรีมหาโพธิ์ (เจดีย์พระธาตุร้างในป่าทุ่งหญ้า)
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td> </td> <td class="style50">7. นครปฐม </td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระประโทน
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">8. เพชรบุรี </td> <td class="style50" valign="top"> วัดเพชรพลี
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">9. นครศรีธรรมราช</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระมหาธาตุ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">10. สุราษฎร์ธานี </td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระบรมธาตุไชยา
    พระบรมธาตุเกาะสมุย
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">11. ชุมพร</td> <td class="style50" valign="top"> พระเจดีย์วัดสวี
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">12. สงขลา</td> <td class="style50" valign="top"> วัดจะทิ้งพระ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">13. เชียงใหม่</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระธาตุดอยสุเทพ
    วัดสวนดอก
    วัดพระธาตุแสนไห
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">14. เชียงราย</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระธาตุจอมกิตติ
    พระธาตุดอยเวา
    พระธาตุดอยตุง
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">15. แม่ฮ่องสอน</td> <td class="style50" valign="top"> วัดจองคำ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">16. ลำปาง</td> <td class="style50" valign="top"> พระธาตุอักโขชัยคีรี
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">17. พะเยา </td> <td class="style50" valign="top"> วัดอนาลโย
    วัดพระธาตุจอมทอง
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">18. น่าน</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระธาตุแช่แห้ง
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">19. แพร่</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระธาตุช่อแฮ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">20. ตาก</td> <td class="style50" valign="top"> พระธาตุดอยดินถี่
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">21. กำแพงเพชร </td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระบรมธาตุ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">22. พิษณุโลก</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">23. สุโขทัย</td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ศรีสัชนาลัย
    เจดีย์วัดช้างล้อม
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">24. อุตรดิตถ์ </td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">25. เพชรบูรณ์</td> <td class="style50" valign="top"> พระบรมธาตุเขาค้อ
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">26. หนองคาย </td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระธาตุบังพวน
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">27. สกลนคร </td> <td class="style50" valign="top"> พระธาตุภูเพ็ก
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50">28. นครพนม </td> <td class="style50" valign="top"> วัดพระธาตุพนม
    </td> </tr> <tr bgcolor="#ffffcc" valign="top"> <td>
    </td> <td class="style50" valign="top">29. ขอนแก่น </td> <td class="style50" valign="top"> กู่ อยู่ระหว่างบ้านเหล่า บ้านโพนทอง บ้านดอนช้าง บ้านหัวบึง บ้านหว้า
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table>
    ๓) สถาบันพระมหากษัตริย์ นำพาผืนแผ่นดินนี้มีความอุดมสมบูรณ์ ประชาราษฎร พ้นทุกข์ภัยได้สิ้น ก็ด้วยภูมิพลังแห่งพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์สานุวงศ์ทั้งหลาย และยังเป็นหลักชัยของแผ่นดินด้วย ทำไมเป็นเช่นนั้น ด้วยความมุ่งมั่นในพระราชประสงค์ อันที่จะให้ประชาชนทุกคนบนแผ่นดินนั้น เป็นสุขถ้วนหน้ากัน พ้นทุกข์ภัยทั่งปวง ไม่ถือเอา เป็นอารมณ์ ทรงอภัยให้กับมนุษย์และสรรพชีวิต ไม่เฉพาะบนแผ่นดินนี้เท่านั้น แต่แผ่ ไพศาลไกลไม่ถือขอบเขตประเทศเป็นใหญ่ ทรงถือพระเมตตา และอภัย เป็นอาวุธที่สำคัญ ในการนำพามนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ก้าวล่วงสู่ โพธิจิต บนข้อเท็จจริงแห่งธรรมชาติ พลังทิพย์ทั้งหลายยังต้องก้มเศียรให้ และร่วมอนุโมทนากับแผ่นดินนี้ อย่างหนาแน่น อยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามสภาวะที่มนุษย์เห็นอยู่ตรงหน้านั้น เป็นกรรม หรือวิบาก ที่สร้างขึ้นกันเองทั้งนั้น ด้วยหลงในอำนาจ วาสนา บารมี ที่เป็นมายาที่มาจากอวิชชา ตัณหา อุปทานด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ดังนั้นสมควรแก่การบูชาสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ยิ่งๆ สืบไป

    ๔) การเตรียมตัวรับสถานการณ์ สำหรับความเป็นมนุษย์แล้ว สมควรเตรียมการรับ สภาวะน้ำท่วมขังในแผ่นดิน พายุลมฝนที่รุนแรงกว่าปกติ เช่น ซ่อมแซมที่อยู่ให้แน่นหนา เตรียมยก หรือกั้นให้สูงพ้นน้ำ สะสมอาหารแห้งให้พอ อย่างน้อย ๑-๔ สัปดาห์ โดยเฉพาะ น้ำดื่มที่สะอาด ยารักษาโรคพื้นฐาน หรือโรคที่เป็นอยู่ให้พอ พลังงานทุกรูปแบบ เช่น ก๊าซหุงต้ม ถ่านไฟฉาย เป็นต้น ป้องกันภัยสัตว์ที่มากับน้ำ สายไฟ และปลั๊กไฟที่น้ำท่วมถึง ภัยจากมนุษย์ด้วยกัน เป็นต้น รายละเอียดอื่น สามารถหาอ่านได้ทั่วไป

    ๕) จงรีบฝึกการรับรู้ ข้อเท็จจริงของธรรมชาติ จงตื่นขึ้นหลุดพ้นจากความเป็น มนุษย์สมบัติ แล้วจงไปกับข้าธาตุรู้ที่อยู่ทุกอณูในสรรพสิ่ง มนุษย์แบ่งตามการรับรู้ : (๑) ยังไม่รับรู้ใดๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสมดุลของโลกและจักรวาล, (๒) รับรู้แล้ว ไม่เห็นว่า สำคัญต่อตนเพราะมากด้วยอวิชชา ตัณหา อุปทาน ที่ขับแรงทะยานความอยากของตน อย่างเมามัน, (๓) รับรู้เข้าใจได้ และคิดเพียงการเอาชีวิตตน กับญาติมิตรให้รอดตาย เพียงเท่านั้น, (๔) รับรู้เข้าใจได้ด้วยสมอง ใจ และจิตโดยมีโพธิจิตคิดช่วยลดวิบากของโลก และจักรวาลร่วมกันกับผู้อื่น, (๕) รับรู้เข้าใจได้แล้ว อย่างลึกซึ้งในดวงจิต ทั้งพลังงานหยาบ และพลังงานละเอียด โดยไม่ยึดติดในอัตตา และทิฐิทั้งหลายย่อมเสียสละทุกอย่าง ในทรัพย์ มนุษย์สมบัติ ที่พึ่งมีให้ได้ พร้อมจิตที่มีโพธิจิตเต็มเปี่ยม เพื่อช่วยลดวิบากของโลก และจักรวาลอย่างต่อเนื่อง เต็มกำลัง โดยไม่ประสงค์ในลาภ ยศ สรรเสริญแบบมนุษย์ แต่ได้รับอนุโมทนาจากเหล่าเทวดาทั้งหลายยิ่งนัก


    สรุป ผู้ที่มีโอกาสอยู่รอดชีวิตได้มากที่สุด เริ่มจาก ๕ ไป ๔ ไป ๓ และไป ๒ กับ ๑ พอๆ กัน เหตุผลก็คือ วิบากที่เผชิญอยู่นั้น เป็นของใครของมัน ในทุกคน ใครจะเป็นผู้ถอดถอน วิบากตรงหน้าของตนได้ก่อนกันนั่นเอง เพื่อการหลุดพ้นวงวัฏฏะ และนำตนเข้าเส้นทาง สว่างแห่งแกนดวงจิตของตนโดยแท้
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="97%">การร่วมสร้างสนามพลังแห่งธรรมชาติ:</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td> </td> </tr> <tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td> </td> <td>[​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td width="3%"> </td> <td width="97%">วิธีการสร้างความสมดุลของโลกและจักรวาลโดยมนุษย์</td> </tr> <tr> <td> </td> <td>โดย Dr.G.G. Junior</td> </tr> <tr> <td> </td> <td>www.universal-signal.com</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td width="6%"> </td> <td width="89%">
    การสร้างสนามพลังแห่งธรรมชาติและสนามพลังแห่งมนุษยชาติที่บริสุทธิ์นั้น สามารถช่วยให้โลกมีการปรับตัวที่มีความรุนแรงลดลง การปรับตัวในครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ด้วยเป็นการปรับแบบการกลับขั้วสนามแม่เหล็กที่จะเกิดทุกๆ ๑๐๘ ล้านปี เมื่อ ๑๐๘ ล้านปีก่อน คือ ยุคไดโนเสาร์สูญพันธุ์ มนุษย์บนโลกนี้ ค้นพบแต่การสูญพันธุ์ของสัตว์ขนาดใหญ่ เพราะคงเหลือซากไว้ให้ศึกษาวิจัย แต่ไม่ทราบว่ามนุษย์เองก็เกิดมาในยุคนั้นด้วย และก็เข้าสู่มหันตภัยแห่งการสูญพันธุ์ในครั้งนั้นเช่นกัน ในครั้งนี้ มนุษย์จะเป็นผู้ชี้ชะตาที่ว่าด้วยการสูญพันธุ์ของตน ด้วยพฤติกรรมการปรับสภาพแวดล้อมเข้าหาตน โดยนึกเอาว่าสรรพสิ่งเป็นสมบัติของตน ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องหวนกลับมาลดการสร้างพลังงานเสีย ให้โลกต้องหยุดการพัฒนาตนเอง ด้วยการเกิดยุคน้ำท่วมโลก หรือยุคน้ำแข็งที่สิ่งที่มีชีวิตทั้งหมดต้องจบชีวิตลง ด้วยความยากลำบากในการมีชีวิตรอด ดังนั้น วิธีที่สามารถลดความรุนแรงของมหันตภัย ที่มนุษย์เป็นผู้ที่เป็นสาเหตุอยู่ทุกขณะเวลา จนกระทั่งปัจจุบันได้ ดังนี้

    ๑. ลดการระเบิดหินในความลึกที่มีผลทำให้เกิดช่องรอยแตก และความร้อนภายในโลกพุ่งออกมาได้


    ๒. ลดการดูดเอาน้ำและน้ำมัน ที่ทำหน้าที่เป็นฉนวนกั้นความร้อนระหว่างความร้อนใต้โลก กับความร้อนผิวโลกที่มีความร้อนแตกต่างกันมากมาย และการเผาผลาญน้ำมันทำให้เกิดความร้อนและมลภาวะต่อโลก


    ๓. ลดการทำลายป่าไม้และปลูกป่า ปลูกพืชให้มากที่สุด เพราะเป็นฉนวนและเป็นเครื่องมือกั้นความร้อน และแปรความร้อนให้เป็นเนื้อเยื่อของตน และสามารถใช้ประโยชน์ได้ในยามวิกฤติ เช่น อาหาร ที่อยู่ เครื่องนุ่งห่มและยารักษาโรค เห็นไหมว่าพืชยังทำหน้าที่เป็นปัจจัยสี่ของมนุษย์อีกด้วย


    ๔. สร้างพลังความคิดและการดำเนินชีวิตที่เป็นพลังฝ่ายสว่าง มีความเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อต่อกันมีการแบ่งสันปันส่วนกัน จะทำให้พลังรอบตัวสว่าง ส่งผลให้สนามพลังแห่งมนุษยชาติสะอาดสว่าง ลดความรุนแรงของมหันตภัยได้อย่างมากๆ


    ๕. ผู้นำทั่วโลกควรตระหนักถึงว่า สงครามไม่ใช่ภัยที่ทำร้าย และฆ่ามนุษย์ด้วยกันเพียงอย่างเดียว แต่ท่านกำลังทำให้เกิดมหันตภัยของโลกอย่างร้ายแรงที่สุด เพราะเป็นการสร้างสนามพลังด้านมืดให้โลกนี้


    ๖. มนุษย์ควรเข้าใจว่า ศาสนาที่มีไว้ให้มนุษย์เข้าใจถึงธรรมชาติบนข้อเท็จจริง ไม่ได้มีไว้ให้ผู้อื่นเข้าใจตน และไม่ได้มีไว้ให้เข้าใจตนเองอย่างเดียว แต่มีไว้ให้มนุษย์เข้าใจตนเอง และเข้าใจในสรรพสิ่งทั้งหลายของโลก และจักรวาลด้วยข้อเท็จจริง เพื่อการใช้เป็นเครื่องนำทางสู่ความสว่างแห่งปัญญา ในการสร้างพลังที่สว่างแก่ตน และสรรพสิ่งในสากลจักรวาล


    ๗. มนุษย์สามารถร่วมกันใช้ทรัพยากร ด้วยการจัดการบริหารให้เกิดผลเสียต่อโลก และจักรวาลน้อยที่สุด คืออย่างน้อยก็ใช้เพราะว่าจำเป็นแก่ชีวิตจริงๆ เป็นต้น ไม่ใช้เพื่อสนองความต้องการ หรือความอยากของตนเพียงอย่างเดียว


    ๘. การร่วมกันสวดภาวนา ร่วมกันเพื่อการสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติฝ่ายดีสว่าง ส่งสมทบเป็นสนามพลังแห่งธรรมชาติของโลกและจักรวาลเป็นการเร่งด่วน ด่วน ด่วน เพราะมหันตภัยได้เริ่มขึ้นแล้ว และจะรุนแรงขึ้นเป็นทวีในไม่ช้านี้ โดยรายละเอียด สามารถศึกษาจากหัวข้อ สวดภาวนาสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติ ขออนุโมทนาในความเมตตาของท่านทั้งหลาย ที่ร่วมภาวนาเมตตาค้ำจุนโลกและจักรวาล ขอสรรเสริญและอนุโมทนา
    </td> <td width="5%"> </td> </tr> <tr> <td colspan="3"> </td></tr></tbody></table>
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2">
    บูชาธาตุทั้งสี่เพื่อสมดุลแห่งธรรมชาติ
    </td> </tr> <tr> <td width="3%"> </td> <td width="97%">
    โดย Dr.G.G. Junior</td> </tr> <tr> <td> </td> <td>www.universal-signal.com</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="100%"> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td width="100%">
    เมื่อทราบแล้วว่าในโลก ในทุกสรรพสิ่งในจักรวาล และในทุกอณูแห่งดาราจักรนี้ มีสนามพลังที่ต่อเชื่อมกัน อันเป็นสนามพลังที่เกิดขึ้นจากธาตุรู้นั่นเอง ในเมื่อธาตุรู้มีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง ธาตุรู้ย่อมรับและถ่ายทอดความรู้นั้น โดยการสั่นสะเทือนความรู้ต่อเชื่อมกันไปจนทำให้เกิดมีสนามพลังขึ้น สนามพลังนี้ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าของมนุษย์ แต่สนามพลังนี้สามารถตรวจวัดได้ด้วย เครื่องมือวัดความถี่ ที่มนุษย์ดัดแปลงใช้ และมนุษย์ก็เรียนรู้สนามพลังนี้กันบ้างแล้ว มนุษย์ที่ได้ชื่อว่า เป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นนักวิชาการทั้งหลาย มีอยู่กลุ่มหนึ่งในมวลมนุษย์ที่สนใจเรียนรู้เรื่องนี้ ได้เผยแพร่สิ่งที่ตนเองค้นพบไปตามแหล่งเผยแพร่ต่างๆ ปรากฏว่า ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะมนุษย์คิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว แท้จริงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากต่อมวลมนุษยชาติ ถึงขั้นที่จะพลิกวิกฤติของโลกได้เลยทีเดียว

    เมื่อได้รับคำถามเกี่ยวกับการค้นพบเหล่านี้ของมนุษย์ จึงเห็นสมควรนำมาทำการศึกษาเพื่อให้เข้าใจว่า ผลงานจากการค้นคว้าเหล่านี้ เป็นบทนำให้มนุษย์อื่นๆ สามารถที่จะเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ซาบซึ้งกับสนามพลังและมีจิตสำนึกร่วมกัน ในการสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนจากสนามพลังแห่งมนุษยชาติที่ทำให้โลก และจักรวาลเสียสมดุล ให้กลับมาเป็นสนามพลังที่สร้างเสริมความสมดุลในการปกป้องโลก ที่จะทำให้เผ่าพันธุ์ของตน และลูกหลานมีชีวิตรอดจากวิกฤติมหันตภัยที่ใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว ​
    มนุษย์ทั่วไปรวมทั้งนักวิทยาศาสตร์นักวิชาการเข้าใจว่า ทุกสิ่งนั้นก็คือจิตสำนึกของมวลมนุษยชาติที่แผ่ออกไปปกคลุมทั่วโลก ผู้ที่ค้นพบเหล่านั้นไม่รู้ว่า มีจิตเล็กๆ ที่เรียกว่า อณูธาตุรู้สากลที่เป็นจิตเล็กๆ แทรกอยู่ในทุกสรรพสิ่งทำหน้าที่เชื่อมต่อความรู้นั้น จนทำให้เกิดสนามพลังแห่งธรรมชาติขึ้น และสนามพลังแห่งมนุษยชาติที่มนุษย์สร้างขึ้นก็เป็นส่วนหนึ่งในสนามพลังนั้น

    ดังนั้นจิตสำนึกของมวลมนุษย์จึงเป็นเพียงข้อมูล และพลังงานที่ถูกสื่อสารถ่ายทอดโดยธาตุรู้สากล ที่มีความเร็วสูงมากกว่ามนุษย์จะคำนวณความรวดเร็วนั้นได้
    อณูธาตุรู้สากลแทรกอยู่ในทุกอณูธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ ที่เป็นองค์ประกอบของโลกใบนี้ ความรู้จากอณูธาตุรู้ในดินถูกส่งด้วยการสั่นสะเทือน มีความหมายว่า ณ เวลาปัจจุบัน (ค.ศ.๒๐๐๗) พลังงานของธรณีธาตุดินขัดแย้งกับพลังงานของมนุษย์ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร มนุษย์ในสมัยโบราณมีการบูชาสรรพสิ่งโดยมีความเข้าใจว่า เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้ จะปลูกพืชพรรณธัญญาหารเพื่อนำมาใช้หล่อเลี้ยงชีวิต ก็บูชาในพืชพรรณธัญญาหารเหล่านั้น เห็นในพระคุณในสิ่งที่ตนจะนำมาเลี้ยงชีวิตได้ บูชาแม่ธรณีว่า แม่ธรณีเป็นผู้ให้ชีวิตให้ที่อยู่อาศัย ให้อาหารสำหรับพืชเพื่อนำพืชนั้นมาเลี้ยงชีวิตต่อๆ ไป บูชาน้ำ เรียกว่า พระแม่คงคา บูชาลม เรียกว่า พระพาย บูชาไฟ เรียกว่า พระเพลิง ยกย่องให้เกียรติถือว่าไฟเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ความอบอุ่นต่อร่างกายนำความมีชีวิตมาให้ บูชาน้ำว่าน้ำเป็นสิ่งมีคุณให้เราชำระร่างกายดื่มกิน และเป็นที่อยู่ของสัตว์บางจำพวกที่สามารถนำมาเป็นอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตได้

    มนุษย์เหล่านั้นกระทำการต่อธาตุทั้งสี่แห่งโลกด้วยความเคารพ มีการแบ่งสรรปันส่วนกันด้วยความพอเหมาะพอดี ต่อมามนุษย์นำเอาสิ่งที่ตาสามารถมองเห็นเท่านั้น มาเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นจริง และตัดสินตามความพึงใจที่มีความต้องการ หรือความอยากเป็นสิ่งกระตุ้นให้หลงไป มนุษย์เริ่มเปลี่ยนแปลงไป คิดว่าสิ่งที่มองไม่เห็นนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นความไม่ทันสมัยไม่เป็นวิทยาศาสตร์ แต่แท้ที่จริง แล้ววิทยาศาสตร์ปัจจุบัน ก็ยังตรวจสอบพิสูจน์ธรรมชาติได้เพียงบางเรื่องเท่านั้น ขนบธรรมเนียมเหล่านี้จึงถูกละเลยไป ยังไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังทำลายล้างความสมดุลของธาตุ ทั้งสี่เหล่านี้ ทำให้น้ำเป็นแหล่งของความสกปรกขาดความเคารพไม่ช่วยกันดูแล ทำให้ดินกลายเป็นแหล่งของความสกปรก ขาดความเคารพไม่ช่วยกันดูแล สร้างความบาดเจ็บกับธาตุดินบนโลก เช่น การระเบิดภูเขานำหินนำดินไปใช้เกินต่อความจำเป็น ที่ใดก็ตามที่มีการทำลายล้างภูมิประเทศ สถานที่ใดก็ตาม เหลือแต่ผาหินเว้าแหว่ง ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้เลย จะสามารถสังเกตได้ว่า สถานที่นั้นจะบังเกิดความแห้งแล้งขาดความมีชีวิต สภาพสนามพลังงาน ณ ที่นั้นจะเสียไป สิ่งที่เรียกว่า ความมีชีวิต คือจิตวิญญาณของสถานที่นั้นก็บาดเจ็บเสียหาย เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบนดวงดาวนี้ทั่วไป มนุษย์นำเอาทรัพยากรต่างๆ มาใช้งาน ยกตัวอย่างน้ำมัน มนุษย์ดึงเอาน้ำมันซึ่งเป็นทรัพยากรที่ถูกกลั่นและผลิตอยู่ใต้พื้นโลก (น้ำมันได้จากซากพืชและสัตว์ทับถมกัน ซึ่งเป็นการเก็บความร้อนรูปแบบหนึ่ง ที่โลกใบนี้กระทำต่อความร้อนของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องพลังงานให้พืชและสัตว์เหล่านั้น) น้ำมันนอกจากเป็นรูปแบบหนึ่งของการเก็บความร้อนแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องกั้นระหว่าง ความร้อน และการรักษาอุณหภูมิบนพื้นผิวของเปลือกโลก ความร้อนที่อยู่ภายในกับอุณหภูมิบนเปลือกโลก คงสภาพความสมดุลที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้อย่างไร ก็ด้วยทรัพยากรเหล่านี้ ที่มนุษย์เรียกมันว่า ทรัพย์ เพราะมนุษย์เอามาแลกเปลี่ยนเป็นทรัพย์

    โดยแท้จริงแล้วมันคือสมบัติของโลก มันคือสิ่งที่ถูกสร้างเพื่อให้ทำหน้าที่ในการรักษาความสมดุล เป็นชั้นรองรับและเป็นสิ่งที่เรียกว่า ฉนวนกั้นความร้อนที่แตกต่างระหว่างภายในกับผิวเปลือกโลก ทำให้เกิดความสมดุล ยิ่งมนุษย์นำเอาน้ำมันขึ้นมาใช้มากเพียงใด ความร้อนจากใต้ผิวโลกก็ปรากฏขึ้นได้มากเท่านั้น และยังส่งผลให้ความร้อนบนผิวเปลือกโลกเพิ่มมากขึ้นจากการเผาผลาญน้ำมัน ในโลกใบนี้ ถ้าพิจารณาสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น ความร้อนที่สร้างขึ้นจากมนุษย์เองมันเป็นสัดส่วนที่น้อยนัก เมื่อเปรียบเทียบกับความร้อนที่อยู่ภายใต้ผิวโลก สิ่งที่ต้องการชี้ให้เห็นก็คือ

    การนำเอาสิ่งที่ธรรมชาติมีไว้ให้ป้องกันตนเองขึ้นมาใช้งานโดยไม่รู้ว่าความสมดุลอยู่ตรงไหน ทำให้เกิดความผิดเพี้ยนของบรรยากาศเบื้องบน อุณหภูมิเบื้องบนผิวโลกกับอุณหภูมิใต้เปลือกโลกกำลังปรับตัวเข้าหากัน แต่ด้วยลักษณะทางกายภาพของโลกใบนี้มีสนามแม่เหล็ก มีแรงดึงดูดมีแรงเหวี่ยงหมุนที่ทำให้เกิดสมดุล รวมทั้งพลังงานแห่งดาราจักร ที่มีหน้าที่จะต้องปกป้องโลกเอาไว้ให้สามารถดำเนินต่อไป จะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นไม่ได้ จึงทำให้ธรรมชาติมีการแก้ไขตัวเองโดยคำสั่งของการสร้างเป็นรหัสในการเกิดตั้งแต่แรก น้ำและความเย็นก็เริ่มออกมาทำงาน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ให้น้ำอาละวาดขึ้นในเวลานี้ เมื่อธรณีถูกทำร้ายมากขึ้น สิ่งที่ส่งกระแสออกไปถึงสนามพลังงาน ไม่ได้เกิดขึ้นจากความนึกคิด หรือจิตปรุงแต่ง แต่เกิดขึ้นจากการรับรู้ความรู้บนข้อเท็จจริง ว่ามีการบาดเจ็บเกิดขึ้น สนามพลังงานที่กระจายอยู่ทั่วโลกในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพื้นดิน จึงเปลี่ยนแปลงเป็นสีนวล และเป็นสีเทา ขณะนี้เป็นสีน้ำตาลแดงเป็นสีคล้ายเลือดที่แห้ง นั่นแสดงถึงความบาดเจ็บ

    ธาตุน้ำแสดงความเสียหายจากความบาดเจ็บด้วยอณูของธาตุรู้ที่กระจายตัวอยู่ทั่วไปในธาตุน้ำ น้ำจากเป็นสีนวลกลายเป็นสีเทา เมื่อธาตุดินและธาตุน้ำเสียสมดุล

    ธาตุลมและธาตุไฟก็ไม่สามารถรักษาสมดุลของตัวเองไว้ได้เช่นกัน

    ธาตุไฟข้องเกี่ยวกับลักษณะของความร้อนและความเย็นด้วย เมื่อความร้อนใต้ผิวโลกเริ่มกระจายตัวกันออกมาบนเปลือกโลก

    ธาตุไฟที่ถูกควบคุมด้วยความสมดุล ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงความร้อนเพิ่มขึ้น

    ธาตุน้ำที่ถูกกำกับด้วยรหัสสัญญาณต้องปรับตัวเองเข้ามาแก้ไขเหตุการณ์ เพื่อประสานความสมดุลให้เกิดขึ้นให้ได้ ก็ไหลรินลงมา ความเย็นที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็ง เข้าจับกับความร้อนของธาตุไฟ

    เนื่องจากความเย็นและความร้อนเป็นลักษณะของธาตุไฟที่จะต้องควบคุม จึงเกิดความเสียหายในความสมดุลขึ้นจากการปรับตัวยังไม่ได้ ทำให้เกิดมีพายุขึ้นตามที่ต่างๆ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างรวดเร็วของพื้นดินกับพื้นน้ำ รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของขั้วโลกทั้งสองขั้ว จะพบเห็นว่าแม้มรสุมธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับมนุษย์ คลื่นที่เกิดจากลมมรสุมที่เคยพัดพาเข้าฝั่งอย่างปกตินั้น มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นคลื่นยักษ์ที่โถมทำลายเข้าไปในพื้นดินอย่างไม่มีปราณี ครานี้เกิดจากการทำงานที่ผิดพลาด มิใช่เพียงแต่มนุษย์กลุ่มน้อยๆ ที่พยายามปรับสมดุลด้วยการสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติอย่างเดียวเท่านั้น ธรรมชาติเองก็พยายามปรับตัวเองให้เกิดสมดุลจนถึงที่สุดอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน การปรับตัวเองของธรรมชาติก็เหมือนร่างกายของมนุษย์ที่พยายามขับไล่เชื้อโรคนั่นหละ จะเกิดการเจ็บป่วยจะเกิดการเป็นไข้ จะเกิดเป็นหนองตามจุดต่างๆ มันคือการต่อสู้ ฉะนั้นผู้ที่อาศัยอยู่บนเปลือกโลกนี้จึงจำต้องรับผลการกระทำของตนไปโดยปริยาย
    มนุษย์บางพวกบางหมู่เริ่มรับรู้ว่า ในสรรพสิ่งบางอย่างของโลก เช่น น้ำสามารถถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด สามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณได้ โดยมนุษย์เหล่านี้ไม่ทราบถึง อณูของธาตุรู้สากลที่กระจายถ่ายทอดการการรับรู้อยู่ทั่วไป ที่สามารถเชื่อมโยงกับจิตของมนุษย์เดิมที่ก็เป็นธาตุรู้เช่นกัน และปัจจุบันก็ยังเป็นธาตุรู้เหมือนกัน แต่เป็นธาตุรู้ที่มืดบอด บางคนก็แค่มืดมัว บางคนก็แค่ฟางๆ แต่ส่วนใหญ่จะมืดบอดทั้งหมดนั่นแหละ มนุษย์ที่ได้รับรู้ว่าธาตุน้ำซึมซับความรู้สึกได้ ถ่ายทอดจิตวิญญาณได้ ก็ตื่นเต้นยินดีในความรู้ใหม่ๆของตน แต่นักค้นพบเหล่านั้นไม่รู้ว่า มนุษย์สามารถกระจายความรู้จากจิตความเมตตามอบส่งให้แก่แม่ธาตุทั้งสี่ คือ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และสรรพชีวิตทั้งหมดทั้งปวงได้ในเวลาเดียวกัน จะทำให้ธาตุดิน น้ำ

    ลมและไฟคลายจากความบาดเจ็บ เป็นการช่วยกันอีกทางหนึ่งในการปรับสมดุลแห่งธรรมชาติของโลกใบนี้ ด้วยการปรับสนามพลังแห่งมนุษยชาติ (Human Morphic Field) เพราะทุกตัวตนของสรรพสิ่งเป็นตัวเชื่อมโยงของสนามพลังนี้ทั้งนั้น เมื่อรับรู้ว่าธรณีพิโรธ

    จะทำอย่างไรจึงจะค่อยคลายความพิโรธของธรณีลงได้ เมื่อรับรู้ว่าคงคาพิโรธ จะทำอย่างไรจึงจะค่อยคลายความพิโรธของคงคาลงได้ ผลเกิดแต่เหตุ ต้องการให้ผลนั้นกลับจากผลที่เสียมาเป็นผลดี ก็ต้องไปดูสาเหตุว่าอะไรที่เป็นตัวต้นเหตุให้เกิดผลเสีย ก็ไปปรับที่เหตุนั้นผลมันจะได้กลับเป็นดี

    มนุษย์ต้องร่วมกันคิดและต้องช่วยกันทำเพราะโลกใบนี้เป็นทุกสิ่งของทุกๆ คน และสรรพชีวิตที่อยู่บนเปลือกโลกแห่งนี้ มนุษย์ทั้งหลายจงตื่นจากอวิชชาคือความไม่รู้ทั้งปวง สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ใช้เรื่องโคมลอย ไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์เกินกว่าจะรับรู้ได้ แต่มันได้ถูกค้นพบแล้ว ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่วัดความถี่ และรูปร่างผลึกของน้ำเป็นต้น โดยสังคมมนุษย์ยกย่องบุคคลเหล่านี้ว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งปัจจุบัน มีความสามารถในการแสดงให้ทราบถึงพลังที่มีอยู่ในทุกอณูของธาตุและสรรพชีวิต และมีความเชื่อมโยงกันถ่ายทอดความรู้กันอยู่ตลอดเวลา แต่มนุษย์เองไม่สามารถรับส่งถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ ได้ด้วยการมีอาการมืดบอดของการรับส่งสัญญาณ เพราะมนุษย์มีความปักใจเชื่ออยู่กับสิ่งที่ตาสามารถมองเห็น หรือจับต้องได้เท่านั้นนั่นเอง

    สรุปว่ามนุษย์เชื่ออยู่กับมายาของโลกที่ตามองเห็นเพียงเท่านั้น จึงเป็นที่มาของความมืดบอดของการรับส่งถ่ายทอดสัญญาณความรู้กับธรรมชาติ
    ขอได้รับการอนุโมทนาในการช่วยให้มนุษย์พ้นจากความมืดบอดของดวงจิต สู่ความสว่างในข้อเท็จจริงแห่งธรรมชาติ เพื่อความสมดุลแห่งธรรมชาติของโลกใบนี้ ด้วยการร่วมแรงร่วมจิตสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติ ไปปรับเปลี่ยนให้แม่ธาตุทั้งสี่คลายความพิโรธลง จนกระทั่งแปลงเป็นความเมตตา โอบอุ้มมนุษย์ด้วยความสมดุลแห่งธรรมชาติสืบไป</td></tr></tbody></table>
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    นอสตราดามุสทำนายสงครามโลกครั้งที่สาม
    คำทำนายสงครามโลกครั้งที่สาม ของ นอสตราดามุส โหรตาทิพย์ชาวฝรั่งเศส จากการถอดความคำทำนายโดย ทองใบ ธีรานันทางกูร กล่าวถึงสงครามที่จะอุบัติขึ้นในอนาคต โดยมีจุดเกิดที่ตะวันออกกลาง

    บรรยากาศทางการเมืองระหว่างประเทศ
    ก่อนเกิดสงคราม


    คำพยากรณ์ที่ 1 : พยากรณ์สถานการณ์ในปัจจุบัน
    Les fleaux passes diminue le monde,
    Longtemps la paix terres inhabitees;
    Sur marchera ciel, terre, mer et onde,
    Puis de nouveau les guerres suscitees. (l,63)


    คำแปล
    ความพินาศย่อยยับผ่านพ้นไปแล้ว บัดนี้โลกหดตัวเล็กลงกว่าเดิม จะมีสันติภาพอยู่เป็นเวลานาน ในดินแดนต่างๆประชากรจะมีจำนวนมากขึ้น ผู้คนจะท่องเที่ยวไปได้โดยตลอด ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางทะเล และใต้น้ำ แต่แล้วสงครามจะก่อหวอดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง


    ตีความและวิเคราะห์
    จากคำแปลคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสบทนี้ มีสิ่งที่ควรนำมาตีความไม่มากนัก เพราะข้อความส่วนใหญ่กระจ่างชัดอยู่แล้ว นอสตราดามุสกล่าวพยากรณ์ไว้อย่างแน่ชัดว่า ปัจจุบันนี้เป็นยุคที่มีสันติภาพพอสมควร ในยุคนี้จะมีลักษณะโดดเด่น คือ มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านการคมนาคมและการขนส่ง ซึ่งทำให้การติดต่อไปมาหากันใช้เวลาน้อย จึงเหมือนกับว่าโลกหดตัวลงเล็กกว่าเดิม ส่วนประชากรในโลกจะเพิ่มจำนวนขึ้นมากมาย และจะมีการเดินทางติดต่อค้าขายกัน ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางทะเล และใต้ทะเล ในท่ามกลางบรรยากาศที่มีสันติภาพเช่นนี้ นอสตราดามุสพยากรณ์ไว้ว่า จะมีปัจจัยที่ทำให้เกิดสงครามโลกอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน


    คำพยากรณ์ที่ 2-4 : การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงในสหภาพโซเวียต
    La loi Moricque on verra defaillir :
    Apres une autre beaucoup plus seductive :
    Boristhenes premier viendra faillir :
    Par dons et langue une plus attractive : (lll,95)
    Es lieux et temps chair au poisson donnera lieu,
    La loi commune sera faite au contraier :

    Vieux tiendra

    fort</placetype>
    puis</placename></place> otee du milieu,</p>
    La Panta Chiona Philon mis

    fort</placetype>
    arriere</placename></place>. (IV,32)</p> De gent esclave, chansons, chants et requetes,
    Captifs par Princes et Seigneurs aux prisons :
    A l’avenir par idiots sans tetes,
    Seront recus par divines oraisons. (l,14)


    คำแปล
    กฎของโธมัส มอร์ (ลัทธิคอมมิวนิสต์) จะเสื่อมความนิยมลงไป มีการเรียกร้องให้ยอมรับปรัชญาอย่างอื่นมากขึ้น การเสื่อมความนิยมในกฎของโธมัส มอร์ จะเริ่มที่แถบแม่น้ำดนีเปอร์ (รัสเซียทางตะวันตก) ก่อน โดยประชาชนรัสเซียจะหันมานิยมชมชอบสินค้าที่ผลิตจากชาติอื่น
    ในระหว่างงานเทศกาลทางศาสนา (วันอีสเตอร์) ในปีหนึ่ง กฎแห่งคอมมิวนิสต์จะถูกคัดค้าน ผู้นำเก่าจะทำการปราบปรามผู้คัดค้านเหล่านี้อย่างเด็ดขาด แต่ก็ไม่สามารถจัดการใดๆได้สำเร็จ และในที่สุดบรรดาผู้นำเก่าจะถูกถอดออกจากอำนาจ ลัทธิที่นิยมว่าควรให้ทุกสิ่งเป็นของกลาง(ลัทธิคอมมิวนิสต์) จะประสบกับความปราชัยอย่างหนัก
    ประชาชนเผ่าสลาฟ (ในรัสเซีย) จะลุกฮือขึ้นตะโกนร้องคำขวัญและทำการคุกคามรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ต่อจากนั้นบรรดาผู้นำและรัฐบุรุษในประเทศรัสเซียจะถูกจับตัวไปจองจำไว้ในคุก ในที่สุดเสียงเรียกร้องจากบรรดาคนโง่ไม่มีหัวคิดเหล่านี้จะได้รับการยอมรับเสมือนหนึ่งว่าเป็นเสียงสวรรค์


    ตีความและวิเคราะห์
    ประเด็นสำคัญที่อยู่ในคำพยากรณ์บทนี้ ได้แก่คำพยากรณ์ที่ว่า ในระหว่างเทศกาลอีสเตอร์ (พิธีฉลองการเสด็จขึ้นจากหลุมของพระเยซู ตรงกับวันอาทิตย์ต่อจากวันเพ็ญ ภายหลังวันที่ 21 มีนาคมของทุกปี) ในปีหนึ่ง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากประชาชนชาวรัสเซียเกิดความไม่พอใจในชีวิตความเป็นอยู่ของตน จึงทำการประท้วงและเรียกร้องให้รัฐบาลโซเวียตจัดหาสิ่งอุปโภคและบริโภคต่าง ๆ อย่างที่มีอยู่ในประเทศทุนนิยมทั้งหลาย ให้แก่พวกตน การชุมนุมประท้วงครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่พวกชนกลุ่มน้อยเผ่าต่าง ๆ ในประเทศสหภาพโซเวียตมีความรู้สึกทางชาตินิยมเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จากเหตุการณ์เหล่านี้ จะทำให้พวกเผด็จการคอมมิวนิสต์ในรัฐบาลเก่าของโซเวียตต้องสูญเสียอำนาจ และมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาซึ่งก็จะเป็นรัฐบาลคอมมิวนิสต์ แต่เพียงในนามเท่านั้น
    ในตอนแรกของคำพยากรณ์บทนี้ที่ว่า กฎของโธมัส มอร์จะเสื่อมความนิยมลงไปนั้น คำว่า กฎของโธมัส มอร์ หมายถึง ปรัชญาการเมืองของ เซอร์ โธมัส มอร์ เขียนไว้ในหนังสือ ยูโธเปีย ตีพิมพ์เป็นภาษาละตินเมื่อปี พ.ศ. 2059 นอสตราดามุสจะต้องได้อ่านหนังสือของโธมัส มอร์เล่มนี้อย่างไม่ต้องสงสัย บรรดาโหรในยุคปัจจุบันต่างก็ยอมรับว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์มีความเชื่อมโยงกับกฎของมอร์ รวมทั้งตำรับตำราที่สำคัญ ๆ หลายต่อหลายเล่มต่างก็ถือว่า ยูโธเปีย ของโธมัสมอร์ก็ดี รีปับลิค ของเพลโต ก็ดี งานเขียนทางปรัชญาการเมืองของ เบคอน ก็ดี ปรัชญาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นต้นเค้าของอุดมการณ์สมัยใหม่ของลัทธิคอมมิวนิสต์ สจ๊วต รอบบ์ อ้างความเห็นของ เอ็ดการ์ ลีโอนี ไว้ในหนังสือของเขาที่ชื่อ คำทำนายประหลาดที่เป็นจริง(Strange Prophecies that Came True) หน้า 146 ว่า.-
    ในบรรดาคำพยากรณ์ทั้งหลายของนอสตราดามุส คำพยากรณ์ในช่วงนี้อาจจะไม่มีความสำคัญใด ๆ เลยกับผู้อ่านที่มีชีวิตอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่มันมีความหมายอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่มีชีวิตอยู่ในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพราะมันเป็นเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ จากคำพยากรณ์นี้ทำให้เราได้ทราบว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์ในปัจจุบันก็คืออุดมการณ์ยูโธเปีย ซึ่งได้ต้นเค้ามาจากหนังสือยูโธเปียของ เซอร์ โธมัส มอร์ นั่นเอง.....คำพยากรณ์ของนอสตราดามุส กล่าวเป็นนัย ๆ ว่า อุดมการณ์นี้ประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางก่อนที่จะเสื่อมความนิยม และคำพยากรณ์ยังระบุด้วยว่า การเสื่อมความนิยมในอุดมการณ์นี้จะเริ่มเกิดขึ้นที่บริเวณดนีเปอร์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญในรัฐยูเครนของรัสเซีย ในยุคของนอสตราดามุส อาณาบริเวณดังกล่าวมีสภาพล้าหลังที่สุดในยุโรป เคยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐโปแลนด์-ลิทัวเนีย เป็นเวลา 300 ปี เมื่อเป็นเช่นนี้นอสตราดามุสไม่น่าจะพยากรณ์ว่าพื้นที่นั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวทางการเมือง จนถึงขั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของรัสเซีย แต่ข้อกังขาเช่นนี้เป็นอันหมดไปเมื่อถึงยุคคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพราะอาณาบริเวณนี้ไม่ได้ล้าหลังอยู่อย่างเดิมแล้ว แต่ได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น ดังนั้นเราจึงพอที่จะเชื่อถือได้ว่าจะเป็นไปตามคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสทุกประการ จุดเริ่มต้นของการปฏิวัติจะเริ่มที่รัฐยูเครนของโซเวียต และบางทีจะเป็นที่เมืองสำคัญของรัฐนี้คือเมืองเคียฟ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำดนีเปอร์ ลักษณะอื่น ๆ ที่ปรากฏในคำพยากรณ์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือว่าจะเป็นเรื่องจริง
    จากเนื้อหาของคำโคลงพยากรณ์ เราสามารถตีความได้ว่า อุดมการณ์ยูโธเปียจะไม่เป็นเพียงทฤษฎีเหมือนเดิม หากแต่จะมีการนำทฤษฎีนี้มาปฏิบัติในที่สุด ดังที่ข้อความในบรรทัดแรกของคำพยากรณ์กล่าวไว้ว่า กฎของ มอร์จะเสื่อมความนิยมลงไป จากข้อความนี้แสดงว่า ก่อนหน้านี้อุดมการณ์ยูโธเปียหรือลัทธิคอมมิวนิสต์มีผู้นิยมและนำไปปฏิบัติตามกันอย่างกว้างขวาง เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ปัจจุบันจะเห็นว่า คำพยากรณ์ส่วนต้นของนอสตราดามุสมีความถูกต้องทุกประการ เพราะในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ก็เป็นที่เห็น ๆ กันอยู่ว่า ประเทศต่าง ๆ จำนวนหนึ่งในสามของโลก มีการปกครองตามระบอบคอมมิวนิสต์ ไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ พวกเราต่างก็รู้กันโดยทั่วไปแล้ว
    ที่น่าสนใจอีกประเด็นหนึ่งในคำพยากรณ์ของนอสตราดามุส ก็คือการที่เขาได้กำหนดบริเวณที่จะเป็นจุดเริ่มของความเสื่อมความนิยมในลัทธิคอมมิวนิสต์ในอนาคต โดยเขาพยากรณ์ไว้อย่างแน่นอนว่า บริเวณโบริสเทเนส เป็นแห่งแรกที่จะเกิดความเสื่อมความนิยม แม่น้ำซึ่งในอดีตมีชื่อว่า โบริสเทเนส นั้น ปัจจุบันก็คือแม่น้ำดนีเปอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสามสายหลักของรัฐยูเครน อันเป็นดินแดนอยู่ในใจกลางของประเทศรัสเซีย แม้แต่ คาร์ล มาร์กซ์ ซึ่งถือว่าเป็นปรมาจารย์แห่งลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุคปัจจุบันก็ยังไม่มี
    ความสามารถพอที่จะจินตนาการว่าดินแดนที่ล้าหลังแห่งนี้จะเป็นแห่งแรก
    ที่นำระบบเผด็จการโดยชนชั้นกรรมาชีพไปใช้ แต่ความจริงกลับปรากฏว่าดินแดนแห่งนี้นี่เองที่ริเริ่มใช้ระบบการปกครอง
    แบบคอมมิวนิสต์เป็นครั้งแรก
    คำว่า ดนีเปอร์ที่นอสตราดามุสระบุไว้ในคำพยากรณ์ อาจตีความได้ 2 นัย นัยที่หนึ่งอาจจะหมายถึงดินแดนฝั่งแม่น้ำดนีเปอร์ ในรัฐยูเครน ซึ่งปัจจุบันเป็นจุดหนึ่งที่รัสเซียกำลังประสบปัญหาความยุ่งยาก อันเนื่องมาจากประชาชนในรัฐนี้มีความรู้สึกทางชาตินิยมรุนแรงและมักจะก่อความวุ่นวายอยู่เสมอ จึงเป็นไปได้ว่าชาวยูเครนจะเป็นผู้ริเริ่มในการก่อการปฏิวัติรัสเซียเป็นครั้งที่สอง ส่วนนัยที่สองนอสตราดามุสอาจจะใช้คำว่าดนีเปอร์เป็นคำรวม ซึ่งหมายถึงประเทศรัสเซียทั้งหมดก็ได้ อย่างเดียวกับในปัจจุบันที่เราเรียกชื่อเมืองหลวงของประเทศแทนที่จะเรียกชื่อประเทศนั้น ๆ ตรง ๆ เมืองเคียฟซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของรัสเซีย ปัจจุบันตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำดนีเปอร์ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น แม่น้ำสายนี้มีแหล่งกำเนิดมาจากเชิงเขาวัลไดฮิลล์ ในพื้นที่สโมเลนสก์ ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงมอสโกในปัจจุบัน ดังนั้นเมื่อเกิดการปฏิวัติในดินแดนดนีเปอร์ ก็ย่อมมีผลกระทบกระเทือนต่อรัฐบาลคอมมิวนิสต์ที่กรุงมอสโกอย่างไม่ต้องสงสัย


    คำพยากรณ์ที่ 5 : มิตรภาพระหว่างอเมริกากับรัสเซีย
    Un jour seront d’amis les deux grand maitres
    Leur grand pouvoir se verra augmente :
    La terre neuve sera en ses hauts etres,
    Au sanguinaire le nombre raconte. (ll,89)
    คำแปล
    วันหนึ่งสองเจ้านายผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นมิตรกัน อำนาจที่ยิ่งใหญ่จะเพิ่มยิ่งขึ้น โลกใหม่จะพัฒนาถึงที่สุด โลกที่มีการนองเลือดจะตัดสินด้วยจำนวนคนตาย


    ตีความและวิเคราะห์
    ประวัติศาสตร์โลกจะมาถึงจุด ๆ หนึ่ง ที่สหรัฐอเมริกาเป็นชาติที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกและสหรัฐอเมริกานี้จะเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะทั้งสองอภิมหาอำนาจตระหนักว่าไม่มีฝ่ายใดจะทำสงครามชนะกันได้ จึงหันมาใช้นโยบายเป็นมิตรและให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งนโยบายนี้อาจจะเป็นทางเดียวที่จะยุติการแข่งขันทางการสะสมอาวุธ นอสตราดามุสระบุว่า ถ้าสองอภิมหาอำนาจทำสงครามกันย่อมหมายถึงความวอดวายของทั้งสองฝ่าย เพราะเหตุนี้ทั้งสหรัฐอเมริกาและรัสเซียจึงตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางนโยบายต่างประเทศเสียใหม่ คือ จากเดิมที่เคยเป็นศัตรูกันก็หันมาเป็นพันธมิตรกันเสียเลย


    คำพยากรณ์ที่ 6 : การรวมตัวกันในเอเชีย
    Tant attendu ne reviendra jamais,

    Dedans l
    Europe</place> en Asie apparaitra;</p> Un de la ligue issu du grand Hermes,
    Et sur tous Rois des Orients croitra. (X,75)
    คำแปล
    จะต้องรอคอยเป็นเวลานานกว่าเขาจะมาสู่ยุโรป ตรงกันข้ามเขาจะปรากฏตัวในเอเชีย จะมีผลมาจากมหาสันนิบาตของเทพเจ้าเฮอร์เมส (เทพเจ้ากรีกที่ทำหน้าที่เจรจา) เขาจะครอบงำผู้นำทั้งปวงในประเทศย่านตะวันออก


    ตีความและวิเคราะห์
    การเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซีย จะยังไม่มีผลดีใด ๆ เกิดขึ้น และความเพียรพยายามที่จะแก้ไขความขัดแย้งระหว่างชาติ โดยใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ จะประสบกับความล้มเหลว แต่ในทางตะวันออกไกลมีลักษณะตรงกันข้ามกับในยุโรป เพราะจะมีมหาอำนาจหนึ่งประสบกับความสำเร็จโดยทางเจรจาและการใช้กำลังบีบบังคับ จนสามารถรวมประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกไกลได้ และชาติต่าง ๆ จะยอมรับมหาอำนาจนี้เป็นผู้นำของตน
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 7 : เกิดการแบ่งแยกระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ
    Un peu de temps les temples des couleurs
    De blanc et noir des deux exxtremmmelees :
    Rouges et jaunes leur embleront les leurs,
    Sang, terre, peste, faim, feu d’eau affolee. (VI, 10)


    คำแปล
    ฝ่ายศาสนจักรจะฟื้นฟูอำนาจและอิทธิพลขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ พวกผิวขาวกับผิวดำจะรวมตัวกัน ส่วนพวกผิวแดงกับผิวเหลืองจะแยกออกไปรวมตัวอยู่ต่างหาก แผ่นดินจะนองไปด้วยเลือด เกิดโรคระบาด ทุพภิกขภัย สงคราม และการปฏิวัติ


    ตีความและวิเคราะห์
    การที่ฝ่ายตะวันออกไกลมีอำนาจทั้งการเมืองและการทหารเพิ่มขึ้นนั้น จะมีผลกระทบต่อความพยายามที่จะสร้างความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างประเทศ นอสตราดามุสสามารถมองเห็นอนาคตได้อย่างแจ่มชัดว่า จะเกิดความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ องค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ จะเริ่มเกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงและจะสลายตัวไปในที่สุด ทั้งนี้เพราะอ้างเอาความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์มาเป็นเหตุและปัจจัย อีกประการหนึ่งก็เพราะมีการแข่งขันกันเพื่ออำนาจทางการเมืองระหว่างประเทศ พวกผิวแดงและผิวเหลือง ซึ่งหมายถึงชาติต่าง ๆ ในตะวันออกกลางและตะวันออกไกล จะพร้อมใจกันผละออกจากที่ประชุมเจรจาระหว่างประเทศ และต่างฝ่ายก็พยายามแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยกำลังทหาร ผลที่ติดตามมาก็คือเกิดการสู้รบกันอย่างนองเลือดในเอเชีย ติดตามมาด้วยโรคระบาด ทุพภิกขภัย อัคคีภัย และอุทกภัยอย่างร้ายแรง นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นของมหาสงครามโลกครั้งที่ 3


    คำพยากรณ์ที่ 8 : อุกกาบาตยักษ์ตกลงสู่พื้นโลก
    La grande montagne ronde de sept stades,
    Apres paix, guerre, faim, inondation,
    Roulera loin abimant grands contrades,
    Memes antiques, et grande fondation. (I,69)


    คำแปล
    ในขณะที่เอเชียประสบกับความเดือดร้อนทั่วทุกหย่อมหญ้า ทุกหนทุกแห่งกำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม เกิดทุพภิกขภัย และอุทกภัยอยู่นั้น จะมีหินกลมขนาดยักษ์ (ก้อนอุกกาบาต) ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งไมล์ หมุนลอยละล่องตกจากท้องฟ้าลงมาสู่โลก ผลจากการตกลงมาของหินยักษ์นี้ จะทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในประเทศใหญ่ ๆ ที่มีอายุเก่าแก่ในโลกหลายประเทศ


    ตีความและวิเคราะห์
    พร้อม ๆ กับที่สันติภาพกำลังถูกคุกคามอย่างหนักเพราะเกิดสงครามในตะวันออกไกลอยู่นั้น จะมีอุกกาบาตลูกหนึ่งตกลงมาในมหาสมุทรอินเดีย และจะเกิดผลทำลายล้างอย่างกว้างขวาง โดยทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่และรุนแรงในมหาสมุทรซัดเข้าไปท่วมชาติต่าง ๆ ในอาณาบริเวณรอบ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาติต่าง ๆ ในแอฟริกาตะวันออก ออสเตรเลีย และเอเชียใต้ จะประสบกับอำนาจทำลายล้างของอุกกาบาตยักษ์จากฟากฟ้าลูกนี้อย่างเต็มที่ ดินแดนต่าง ๆ ในแถบนี้ซึ่งมีภาวะสงครามอยู่แล้วก็จะเกิดความสับสนวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
    ในต้นฉบับของคำพยากรณ์ นอสตราดามุสไม่ได้บอกว่าเป็นอุกกาบาต แต่บรรยายไว้ว่าเป็นภูเขากลมขนาดใหญ่ ขนาดของภูเขาลูกนี้เขาบรรยายว่าใหญ่เจ็ดสแต๊ด จากรูปลักษณ์และขนาดที่บรรยายไว้นี้ เราพอจะอนุมานภูเขาลูกนี้ได้ สแต๊ดเป็นมาตราวัดของกรีกในสมัยโบราณ ซึ่งความยาวของมันจะแตกต่างไปตามกาลเวลาและสถานที่ แต่โดยทั่วๆไป หนึ่งสแต๊ดมีความยาวประมาณ 607-738 ฟุต เมื่อภูเขากลมลูกนี้มีขนาดเจ็ดสแต๊ด ก็จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางวัดได้ประมาณ 1 ไมล์ แต่ในที่นี้เราวิเคราะห์ว่า ภูเขา ได้แก่ ลูกอุกกาบาต ทั้งนี้เพราะในบรรทัดที่ 3 ของคำพยากรณ์ได้ชี้ชัดโดยระบุว่า ภูเขาจะหมุนลอยละล่องลงมาและในการหมุนลงมานั้นจะทำให้ชาติใหญ่ ๆ จมอยู่ใต้น้ำ
    เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง คือ บรรดาโหรในยุคปัจจุบันหลายต่อหลายคนต่างก็พยากรณ์ไว้ในทำนองเดียวกันกับนอสตราดามุส เช่น นางจีน ดิกสัน กล่าวไว้ว่า
    ดิฉันเห็นดาวหางดวงหนึ่งโคจรมาปะทะกับโลกของเรา… ผลของการปะทะกันระหว่างโลกกับดาวหางครั้งนี้ จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดคลื่นอย่างรุนแรงในมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ผลที่ติดตามมาก็คือความหายนะครั้งร้ายแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เท่าที่โลกเคยประสบมา
    นางจีน ดิกสัน ไม่ได้ระบุชื่อของชาติต่าง ๆ ที่จะได้รับผลกระทบกระเทือนจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติครั้งนี้ แต่นอสตราดามุสได้พยากรณ์ไว้ชัดเจน โดยกล่าวว่า ชาติเก่าแก่และมีอายุมานานมากหลายชาติ จะประสบกับความหายนะจากดาวหางดวงนี้ เมื่อศึกษาตามประวัติศาสตร์จะเห็นว่าแหล่งอารยธรรมโบราณมีศูนย์กลางอยู่ที่ ลุ่มแม่น้ำไนล์ในประเทศอียิปต์ ที่ลุ่มแม่น้ำเมโสโปเตเมียในประเทศอิรักในปัจจุบัน และที่ลุ่มแม่น้ำสินธุในประเทศปากีสถาน และเมื่อมองดูในแผนที่โลกแล้ว จะเห็นว่าดินแดนในลุ่มแม่น้ำดังกล่าวอยู่ติดกับมหาสมุทรอินเดีย หรือไม่ไกลจากมหาสมุทรอินเดียมากนัก จึงเป็นไปได้ว่าภัยที่เกิดจากดาวหางหรืออุกกาบาตจะครอบคลุมไปถึงดินแดนตะวันออกกลาง แอฟริกาตะวันออกและเอเชียใต้ รวมทั้งประเทศไทย (โปรดดูจากแผนที่)
    ดังได้กล่าวมาแล้วว่า หลังจากองค์การระหว่างประเทศประสบกับความล้มเหลว จนสลายตัวไปในที่สุดแล้ว จะเกิดสงครามในตะวันออกไกล พร้อมกับเกิดโรคระบาด ทุพภิกขภัย อัคคีภัยและอุทกภัยอย่างร้ายแรง เมื่อต้องประสพเคราะห์กรรมอันเนื่องจากคลื่นในมหาสมุทรอินเดียซ้ำเข้าอีก จะทำให้ฉากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชียเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ผลที่จะติดตามมาจากภัยพิบัติครั้งนี้ ได้แก่ เกิดภาวะอ่อนแอทางด้านการทหารในประเทศแถบเอเชียใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ อินเดียซึ่งเป็นศัตรูของจีน สถานการณ์เช่นนี้จะยิ่งเอื้ออำนวยให้กองกำลังรุกรานจากตะวันออกไกลภายใต้การนำของจีน บุกและยึดครองประเทศในย่านเอเชียใต้ได้ในที่สุด


    คำพยากรณ์ที่ 9 - 10 : จอมเผด็จการครอบงำตะวันออกกลาง
    II entera vilain, mechant, infame,
    Tyrannisant la Mesopotamie :
    Tous amis fait d’adulterine dame,
    Terre horrible noir de physionomie. (VIII,70)
    Le Prince Arabe Mars, Sol, Venus, Lion,
    Renge d’Eglise par mer succombera :
    Devers la Perse bien pres d’un million,
    Bisance, Egypte, ver serp invadera. (V,25)


    คำแปล
    จะมีบุรุษผู้น่าเกลียดชั่วร้ายเลวทรามผู้หนึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจ เขาจะปฏิบัติการก่อกรรมทำเข็ญประเทศทั้งหลายในลุ่มแม่น้ำเมโสโปเตเมีย เขาจะสร้างมิตรโดยวิธีการหลอกลวง ดินแดนทั้งหลายจะถูกทำลายล้างจนกลายเป็นเถ้าถ่าน และต่อมาจอมเผด็จการผู้นี้จะได้เป็นผู้นำของชาติอาหรับทั้งหมด เมื่อดาวอังคาร ดาวอาทิตย์และดาวศุกร์โคจรมาอยู่ในราศีสิงห์ จอมเผด็จการผู้นี้จะโจมตีนักบวชนิกายโรมันคาทอลิกในทะเล นอกจากนั้นก็จะใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่งล้านคนบุกโจมตีประเทศอิหร่าน ตุรกีและอียิปต์


    ตีความและวิเคราะห์
    ในขณะที่พื้นที่ในตะวันออกไกลกำลังประสบกับความหายนะ อันสืบเนื่องมาจากอุกกาบาตตกลงมา และจากความไม่แน่นอนทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิบัติการของพวกขยายดินแดนในตะวันออกไกล ก็จะมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญเกิดขึ้นอีก โดยนอสตราดามุสพยากรณ์ว่า จะมีผู้นำอาหรับผู้หนึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจ ผู้นำผู้นี้จะเสริมสร้างกำลังทางการเมืองของเขา ด้วยการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามชาติอื่น ๆ โดยเริ่มแรกจะรุกรานประเทศซีเรีย อิรัก และจอร์แดน (ดินแดนเดิมของเมโสโปเตเมียโบราณ) จากนั้นจะใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่งล้านคนบุกโจมตีอิหร่าน ตุรกี และอียิปต์ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง จอมเผด็จการอาหรับผู้นี้จะใช้กำลังทางเรือโจมตีนักบวชในนิกายโรมันคาทอลิก นอสตราดามุสไม่ได้ปิดบังอำพรางเกี่ยวกับวันเดือนปีของการโจมตีนักบวชคริสต์ครั้งนี้ เขาได้คำนวณโดยวิธีการทางดาราศาสตร์ว่า จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 11 : ฝ่ายอาหรับบุกโมร็อกโกในแอฟริกาเหนือ
    Au point du jour au second chant du coq,
    Ceux de Tunes, de Fez, et de Bugie,
    Par les Arabes captif le Roi Maroq,
    L’am mil six cent et sept, de Liturgie. (VI,45)
    คำแปล
    กองกำลังของฝ่ายอาหรับที่ตั้งอยู่ในตูนิส (ตูนีเซีย) ในเฟช (โมร็อกโกตอนเหนือ) และในบูจี (อัลจีเรีย) จะบุกประเทศโมร็อกโก ในที่สุดกษัตริย์โมร็อกโกจะถูกจับ ปีที่จะเกิดเหตุการณ์นี้คือปีที่ครบ 1607 ปี หลังการพัฒนาพิธีลิทัวร์จีในศาสนาคริสต์ ส่วนเวลาที่จะปฏิบัติการ ได้แก่ช่วงที่ไก่ขันเป็นครั้งที่สองก่อนจะรุ่งสาง


    ตีความและวิเคราะห์
    เมื่อถึงตอนนี้ ฝ่ายอาหรับมีแผนที่จะรวมดินแดนทั้งหมดทั้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ดังนั้นกองกำลังของฝ่ายอาหรับที่เข้าไปตั้งฐานอยู่ในประเทศตูนีเซียและอัลจีเรียกับกองโจรจากภาคเหนือของโมร็อกโก จะทำการรุกรานประเทศโมร็อกโกที่นิยมตะวันตก และโค่นล้มระบอบกษัตริย์ของประเทศนี้ นอสตราดามุสพยากรณ์ว่า การรุกรานของฝ่ายอาหรับครั้งนี้จะเกิดขึ้นในตอนเช้าตรู่


    คำพยากรณ์ที่ 12 : ประเทศอิสราเอลตกเป็นของอาหรับ
    La synagogue sterile sans nul fruit
    Sera recue entre les infideles :
    De Babylon la fille du poursuit,
    Misere et triste lui tranchera lesailes. (VIII,96)


    คำแปล
    ซินาก๊อก (วัดในกรุงเยรูซาเล็ม) จะกลายสภาพเป็นวัดร้าง ต้นไม้จะไม่ผลิดอกออกผลเหมือนเดิม และจะตกอยู่ในเงื้อมมือของคนนอกศาสนา (มุสลิม) ธิดาของผู้ลี้ภัยจากบาบิโลน(อิสราเอล) จะประสบกับความระทมทุกข์ เพราะปีกที่จะใช้บินของเธอถูกตัด


    ตีความและวิเคราะห์
    นอสตราดามุสพยากรณ์ว่า ฝ่ายอาหรับจะใช้กำลังรุกรานประเทศอิสราเอล และครั้งนี้กองทัพของฝ่ายอาหรับจะชนะอิสราเอลอย่างเด็ดขาด เพราะประชาชนชาวอิสราเอลไม่มีจิตวิญญาณของการต่อสู้อย่างในอดีต ฝ่ายอิสราเอลจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบ เมื่อกองทัพอากาศของตนปราชัยต่อกองทัพอากาศของฝ่ายอาหรับ


    คำพยากรณ์ที่ 13 : ผู้นำลิเบียจะก่อความวุ่นวาย
    Prince Libyque puissant en Occident
    Francais d’Arabe viendra tant enflammer.
    Savant aux lettres sera condescendant
    La langue Arabe en Francais translater. (III,27)


    คำแปล
    เจ้าชาย (ผู้นำ) ลิเบีย จะเป็นผู้มีอิทธิพลมากในประเทศตะวันตก (ยุโรป) เขาจะเป็นผู้สร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นระหว่างประชาชนฝรั่งเศสกับอาหรับ เขาจะยิ่งก่อความเดือดร้อนมากขึ้นโดยสร้างความเข้าใจผิดระหว่างฝ่ายอาหรับกับฝรั่งเศส


    ตีความและวิเคราะห์
    นอสตราดามุสพยากรณ์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอาหรับกับฝ่ายตะวันตกที่เสื่อมทรามอยู่แล้วจะเสื่อมทรามและตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เพราะการกระทำของผู้นำลิเบียซึ่งแปลสารสำคัญที่ส่งติดต่อกันระหว่างยุโรปกับอาหรับผิดพลาด ทำให้ชาวอาหรับกับชาวฝรั่งเศสแค้นเคืองและจงเกลียดจงชังกัน


    คำพยากรณ์ที่ 14 : ผู้ก่อการร้ายอาหรับลักพาตัวพระราชาคณะในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
    Par mer le rouge sera pris de pirates,
    La paix sera par son moyen troublee :
    L’ire et I’avare commettra par feint acte,
    Au grand Pontife sera I’armee doublee. (V,44)


    คำแปล
    คนสวมชุดแดงคนหนึ่ง (พระราชาคณะในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก) ถูกโจรสลัดทะเลจับกุมตัว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้สันติภาพถูกคุกคามอย่างรุนแรง คนสวมชุดแดงที่ถูกจับตัวนั้น จะเปิดเผยความชั่วร้ายของโจรสลัดเหล่านั้น องค์สันตะปาปาจะเพิ่มกำลังกองทัพของพระองค์เป็นสองเท่า


    ตีความและวิเคราะห์
    หลังจากฝ่ายอาหรับประสบความสำเร็จในการใช้กำลังทหารรุกรานประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลางแล้ว ก็จะเกิดความฮึกเหิมและทะนงตัวมากยิ่งขึ้น คราวนี้พวกเขาจะทำการก้าวร้าวลามปามไปจนถึงศาสนจักรโรมันคาทอลิก โดยจับตัวพระราชาคณะในศาสนาโรมันคาทอลิกรูปหนึ่ง ซึ่งกำลังเดินทางมาทางทะเล พระราชาคณะรูปนี้จะประณามการกระทำของโจรสลัดมุสลิมและเปิดเผยความชั่วร้ายของพวกโจรสลัดเหล่านั้น นอสตราดามุสเรียกพระราชาคณะในศาสนาโรมันคาทอลิกว่า คนสวมชุดแดง ส่วนคำว่า โจรสลัด เขาหมายถึงพวกโจรสลัดมุสลิมที่อยู่ในแอฟริกาเหนือ ในยุคของนอสตราดามุส พวกสลัดมุสลิมเหล่านี้จะคอยขัดขวางการสัญจรไปมาของเรือต่าง ๆ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดังนั้นเมื่อตีความในคำพยากรณ์แล้ว จะเห็นได้ว่า พระราชาคณะรูปหนึ่งถูกพวกโจรสลัดอาหรับลักพาตัวไปในทะเล แต่ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 21นี้ ผู้ที่ลักพาตัวเหล่านี้น่าจะเป็นผู้ก่อการร้ายชาวอาหรับมากกว่า
    แต่ประเด็นหนึ่งที่ชวนให้สงสัยเป็นอย่างยิ่ง คือที่นอสตราดามุสพยากรณ์ว่า องค์สันตะปาปาจะเพิ่มกำลังกองทัพของพระองค์เป็นสองเท่า พระองค์จะเพิ่มกำลังกองทัพได้อย่างไร ? ในเมื่อปัจจุบันสำนักวาติกันไม่ได้มีกองทัพของตนเอง จะมีก็แต่เพียงกำลังทหารรักษาการณ์ชาวสวิสจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็มีจำนวนไม่มากพอที่จะประกอบเป็นกองทัพได้ หากเป็นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะฝ่ายศาสนจักรโรมันคาทอลิกปกครองดินแดนรัฐต่าง ๆ ในภาคกลางของประเทศอิตาลีและฝ่ายศาสนจักรก็มีกองทัพประจำการของตนอีกด้วย แต่ทั้งรัฐและกองทัพประจำการของฝ่ายศาสนจักรดังกล่าวไม่มีอีกแล้วนับตั้งแต่อิตาลีรวมประเทศเมื่อ พ.ศ. 2413 ปัจจุบันสำนักวาติกันมีสิทธิและอำนาจปกครองเฉพาะนครวาติกัน ซึ่งมีพื้นที่เพียง 1 ตารางไมล์เท่านั้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อพิจารณาถึงการเมืองภายในของประเทศอิตาลีในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ารัฐบาลอิตาลีเป็นรัฐบาลผสมประกอบด้วยพรรคคอมมิวนิสต์อิตาลี ซึ่งเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปฝ่ายหนึ่ง และพรรคการเมืองของฝ่ายคาทอลิกกับพรรคการเมืองอื่น ๆ อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายกำลังพยายามที่จะช่วงชิงเพื่อมีอำนาจอย่างเด็ดขาดแต่เพียงฝ่ายเดียว จึงเป็นไปได้ว่าระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยของอิตาลีจะประสบกับความล้มเหลว และเมื่อเวลานั้นมาถึงฝ่ายศาสนจักรที่นครวาติกันอาจจะก้าวเข้ามาปกครองประเทศอิตาลีเสียเองก็ได้
    มีโหรสมัยใหม่ผู้หนึ่งพยากรณ์ไว้ว่า จะเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้ โหรผู้นี้ชื่อ คริสเวลล์ เป็นชาวคาลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เขาได้พยากรณ์ว่า ในไม่ช้านี้ อิตาลีจะเป็นรัฐที่ปกครองโดยฝ่ายศาสนจักรอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากแรงต่อต้านคอมมิวนิสต์ ซึ่งเกิดขึ้นมาใหม่ในประเทศอิตาลี เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ก็หมายความว่า องค์สันตะปาปาจะมีกองทัพประจำการของพระองค์เองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นช่วงเดียวกับที่ชาติอาหรับทั้งปวงกำลังรวมประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกา ถ้าองค์สันตะปาปาได้ปกครองประเทศอิตาลีทั้งประเทศจริง ก็เป็นที่แน่นอนว่าพระองค์จะต้องเพิ่มกำลังกองทัพเพื่อใช้ป้องกันประเทศจากการรุกรานจากฝ่ายอาหรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่ฝ่ายอาหรับลักพาตัวพระราชาคณะ
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 15 : การรวมตัวทางการเมืองในประเทศตะวันออก
    Mer par solaires sure ne passera,
    Ceux de Venus tiendront toute l’Affrique :
    Leur regne plus Saturne n’occupera,
    Et changera la part Asiatique. (V,ll)


    คำแปล
    ผู้ที่มาจากดวงอาทิตย์ (ศาสนจักรโรมันคาทอลิก) จะไม่สามารถสัญจรทางทะเลได้โดยปลอดภัย ผู้ที่มาจากดาวศุกร์ (ประเทศอาหรับต่าง ๆ ) จะยึดแอฟริกาได้ทั้งหมด ผู้ที่มาจากดาวเสาร์ (กองทหารในประเทศเล็ก ๆ) จะไม่สามารถคุ้มครองประเทศของตนได้อีกต่อไป และส่วนอื่นๆของเอเชียจะตกอยู่ในภาวะทำนองเดียวกัน


    ตีความและวิเคราะห์
    จากการที่ฝ่ายอาหรับมีกำลังอำนาจเข้มแข็งขึ้น รวมทั้งที่เกิดเหตุการณ์ลักพาตัวพระราชาคณะดังกล่าวแล้ว ทำให้ฝ่ายศาสนจักรในประเทศอิตาลีมีความตระหนักว่า การเดินทางทางทะเลไม่เป็นการปลอดภัยสำหรับประชาชนของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในขณะเดียวกันพวกอาหรับก็จะผนึกกำลังของตนเองทั่วแอฟริกาเหนือและแอฟริกาใต้ และใช้กำลังทหารบุกยึดหรือใช้วิธีการขับไล่ผู้ปกครองที่นิยมฝ่ายตะวันตกออกจากอำนาจ ส่วนในเอเชียส่วนอื่นๆ ผู้นำของฝ่ายตะวันออกไกลคือประเทศจีนก็กำลังจะดำเนินแผนในลักษณะเดียวกันเพื่อรวมเอเชียให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน


    คำพยากรณ์ที่ 16 : ชาติต่าง ๆ ในแอฟริกาเป็นพันธมิตรกับชาติในตะวันออกกลาง
    Plus ne sera le grand en faux sommeil,
    L’inquietude viendra prendre repos :
    Dresser phalange d’or, azur, et vermeil,
    Subjuguer Afrique la ronger jusqu’os. (V.69)


    คำแปล
    ไม่มีวันที่ผู้นำยิ่งใหญ่จะมีใจรักสงบ ความฟุ้งซ่านจะเข้าแทนที่ความสงบเยือกเย็น จะมีการจัดกองทัพประกอบด้วยไพร่พลสวมเสื้อเกราะสีเหลืองและสีแดง เพื่อส่งไปพิชิตแอฟริกาให้ราบคาบ


    ตีความและวิเคราะห์
    เมื่อฝ่ายอาหรับสามารถพิชิตดินแดนต่าง ๆ ในตะวันออกกลางได้หมดแล้ว ก็จะเตรียมการบุกไปยังดินแดนอื่นอีกต่อไป ผู้นำของฝ่ายอาหรับจะเริ่มแสดงออกมาให้เห็นชัดว่า ตนยังไม่พึงพอใจแค่เพียงดินแดนที่ยึดครองมาได้แล้วนั้น และเพื่อสนองความใฝ่อำนาจของผู้นำของตนต่อไป กองทัพของฝ่ายอาหรับจะเริ่มคุกคามดินแดนในแอฟริกากลางและแอฟริกาใต้ เพื่อนำประเทศเหล่านี้มาเป็นพันธมิตรของเหล่าประเทศในตะวันออกกลางต่อไป
    คัมภีร์วิวรณ์ในคัมภีร์ไบเบิ้ล มีการตีความคำพยากรณ์ไว้แตกต่างกันหลายอย่าง เฉพาะในบทที่ 1 ของคัมภีร์วิวรณ์นี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันที่นอสตราดามุสได้พยากรณ์ไว้ โดยเฉพาะในตอนที่พรรณนาเกี่ยวกับกองกำลังของฝ่ายอาหรับ มีดังนี้
    ....และเทพองค์ที่ 6 ก็ส่งเสียง..ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังออกจากมุมทั้ง 4 ของหิ้งบูชาที่อยู่เบื้องหน้าของพระผู้เป็นเจ้า
    เสียงนั้นกล่าวกับเทพองค์ที่ 7 ซึ่งถือทรัมเป็ตอยู่ในมือว่า จงปล่อยเทพ ๔ องค์ ซึ่งถูกมัดไว้ในดินแดนลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส
    แล้วเทพทั้ง 4 ก็ถูกแก้มัดปล่อยตัวออกมา เทพทั้ง 4 ได้เตรียมการที่จะสังหารมนุษย์จำนวนหนึ่งในสามอยู่เป็นเวลาแรมปี
    และข้าพเจ้าได้ยินเสียงนั้นบอกจำนวนกองทัพทหารม้าว่ามีอยู่ถึง 200 ล้านคน
    เมื่อมองไป ข้าพเจ้าก็เห็นกองทัพม้า รวมทั้งทหารที่นั่งอยู่บนหลังม้าเหล่านั้น ซึ่งสวมเสื้อเกราะเป็นสีแดงบ้าง สีน้ำเงินบ้าง สีเหลืองบ้าง แต่ม้าที่ทหารเหล่านั้นนั่งอยู่มีศีรษะแปลกประหลาดเหมือนกับศีรษะของราชสีห์ มีไฟ ควันและกำมะถันพุ่งออกจากปากของม้าเหล่านั้น
    มวลมนุษย์ถึงหนึ่งในสามถูกสังหารด้วยไฟ ควันและกำมะถันที่พุ่งออกจากปากของม้าเหล่านี้
    ม้าเหล่านี้มีพลังอยู่ที่ปากและที่หางของมัน หางของมันมีลักษณะเหมือนอสรพิษร้าย ทั้งศีรษะและหางของมันสามารถทำลายล้างมนุษย์ได้
    จากคำพยากรณ์ในคัมภีร์นี้ พอจะจับประเด็นสำคัญ ๆ มากล่าว ได้ดังต่อไปนี้
    1) กองกำลังที่มีอำนาจทำลายล้างนี้มาจากดินแดนในแถบแม่น้ำยูเฟรติส นั่นคือจากตะวันออกกลาง
    2) กำลังทหารมีจำนวนถึง 200 ล้านคน ซึ่งจะมีจำนวนมากมายเช่นนี้ได้ ก็เนื่องมาจากฝ่ายอาหรับได้กำลังสนับสนุนจากพันธมิตรทางทหารหลาย ๆ แห่ง
    3) ทหารเหล่านี้ ในคำพยากรณ์บรรยายว่าเป็นทหารม้าธรรมดา แต่ทว่าม้าที่นั่งออกรบหาได้เป็นม้าธรรมดาไม่ ทั้งนี้เพราะมันมีศีรษะเหมือนกับราชสีห์ และสามารถพ่นควันออกจากปากของมันได้ด้วย ม้าเหล่านี้มีลักษณะเป็นรถรบชนิดหนึ่งซึ่งสามารถยิงไฟและควันได้ ซึ่งสิ่งที่ยิงออกมานั้นบางทีอาจจะเป็นขีปนาวุธก็ได้
    4) สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งในคำพยากรณ์ในหนังสือดังกล่าว ก็ตรงที่ระบุสีสำคัญ ๆ ของเสื้อเกราะที่บรรดาทหารในกองทัพอาหรับสวมใส่ ได้แก่ สีแดง สีน้ำเงินและสีเหลือง ซึ่งก็เป็นสีเดียวกับที่ปรากฏในคำพยากรณ์ของนอสตราดามุส
    เป็นไปได้ไหมว่า คำพยากรณ์ทั้งสองแหล่งเป็นการทำนายเหตุการณ์เดียวกัน คือเหตุการณ์ของสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเรายังไม่ทราบขอบข่ายการทำลายล้างของมัน ถ้าเป็นการทำนายเหตุการณ์เดียวกันจริง เราก็ต้องยอมรับความจริงที่ปรากฏในคัมภีร์วิวรณ์ ที่ว่ามันจะทำให้ มนุษย์ถูกสังหารถึงหนึ่งในสาม นั่นก็หมายความว่า
    สงครามโลกครั้งที่ 3 จะทำลายล้างมนุษย์ไปจำนวนหนึ่งในสามของโลก ซึ่งเมื่อนำจำนวนประชากรโลกในปัจจุบัน(ประมาณหกพันล้านคน)มาคำนวณดูแล้ว ก็จะได้ตัวเลขผู้ที่จะเสียชีวิตในสงครามมหาประลัยครั้งนี้ถึง 2,000 ล้านคน นับว่าเป็นจำนวนมากมายยิ่งกว่าสงครามครั้งใด ๆ ที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต


    คำพยากรณ์ที่ 17 : ความขัดแย้งขยายออกไปในประเทศตุรกี
    La grande Arabe Marchera bien avant,
    Trahi sera par les Bisantinois :
    L’antique Rodes lui viendra au-devant,
    Et plus grand mal par austre Pannonois. (V,47)


    คำแปล
    มหาอำนาจอาหรับเคลื่อนทัพต่อไป แต่ความมักใหญ่ใฝ่สูงของพวกเขาจะถูกต้านทานโดยพวกเติร์กในประเทศตุรกี โรดส์โบราณ(กองทัพเรือกรีก) ก็จะส่งกำลังทางเรือออกต่อต้านกองกำลังของฝ่ายอาหรับ นอกจากนั้นอันตรายจะคุกคามฝ่ายอาหรับจากพวกแพนโนเนียน (ชาติต่าง ๆ ในคาบสมุทรบอลข่าน)


    ตีความและวิเคราะห์
    เมื่อพวกอาหรับยกกำลังทหารบุกประเทศตุรกี กองทัพเรือกรีกจะใช้กำลังทางเรือโจมตีที่มั่นของฝ่ายอาหรับเพื่อปิดล้อมไม่ให้รุกคืบหน้าต่อไป ส่วนชาติต่างๆ ในคาบสมุทรบอลข่านที่อยู่ชายฝั่งทะเลดำ คือ โรมาเนียและบัลแกเรีย ก็จะเตรียมประกาศสงครามกับพวกอาหรับ เมื่อพวกอาหรับประกาศยึดช่องแคบบอสโฟรัส ซึ่งเป็นการคุกคามต่อการเดินเรือสินค้าและการเคลื่อนกำลังเรือรบ
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 18 - 19 : แผ่นดินไหวในกรีซ และตุรกี
    Mars et Mercure, et l’argent joint ensemble,
    Vers le midi extreme siccite :
    Au fond d’Asie on dira terre trembls,
    Corinthe, Ephese lors en perplexite. (III,3)
    Dans plusieurs nuits la terre tremblera :
    Sur le printemps deux mers nagera :
    Corinthe, Ephese aux deux efforts suite :
    Guerre s’emeut par deux vaillans de luite. (II,52)
    คำแปล
    เมื่อดาวอังคาร ดาวพุธ และดาวจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ในดินแดนทางใต้ (แอฟริกาและเอเชียใต้) จะเกิดภาวะความแห้งแล้งอย่างรุนแรง ส่วนในเอเชียกลางก็จะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งจะมีผลกระทบกระเทือนต่อโครินท์ (กรีซ) และอีเฟซุส (ตุรกี)
    แผ่นดินจะไหวอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นเวลาหลายคืน และในฤดูใบไม้ผลิจะมีเหตุการณ์รุนแรงสองครั้งติดตามมา โครินท์และอีเฟซุสจะพบกันในทะเล สงครามจะระเบิดระหว่างสองชาติผู้กระหายสงครามนี้


    ตีความและวิเคราะห์
    ในขณะนั้น ขณะที่ดินแดนต่าง ๆ ในเอเชียกำลังเกิดสงครามอยู่นั้น ประเทศกรีซและตุรกีก็เกิดขัดแย้งกันอย่างรุนแรง และทั้งสองชาตินี้จะแก้ไขความขัดแย้งด้วยการสู้รบกันอย่างรุนแรงในทางทะเล ขณะเดียวกันจะเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินถล่มขึ้นในบริเวณเอเชียกลาง และจะมีผลเสียหายเกิดขึ้นไปทั่วประเทศกรีซและตุรกีที่กำลังทำสงครามกันอยู่ ในคำพยากรณ์สองบทนี้ นอสตราดามุสทำนายไว้เช่นเดียวกับโหรในสมัยใหม่คนหนึ่งชื่อ จีน ดิกสัน โดยนางจีนกล่าว “ธรรมชาติจะช่วยขัดขวางแผนการพิชิตโลกของโซเวียต จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเหตุการณ์ที่ควบคุมชะตาชีวิตของมนุษย์ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สำคัญและรุนแรงมาก”


    คำพยากรณ์ที่ 20 - 21 : ประเทศกรีซแพ้สงครามที่ทำอยู่กับตุรกี
    Les Rhodiens demanderont secours,
    Par le neglect de ses hoirs delaissee.
    L’empire Arabe revelera son cours,
    Par Hesperies la cause redressee. (IV,39)
    En ce temps la sera frustree Cypres,
    De son secours de ceux de mer Egee :
    Vieux trucides : mais par mesles et lyphres
    Seduit leur Roi, Reine plus outragee. (III,89)


    คำแปล
    พวกโรเดียน (กองทัพเรือกรีก) ร้องขอความช่วยเหลือ แต่จะถูกผู้นำของตนทอดทิ้ง จักรวรรดิอาหรับแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากยิ่งขึ้น เฮสปีเรีย (ดินแดนทางตะวันตกไกล-อเมริกา) จะส่งอาวุธมาสนับสนุนกองทัพเรือกรีก
    ในขณะเดียวกัน ชาวเกาะไซปรัสจะเกิดความกดดันอัดอั้นตันใจ เพราะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากประชาชนในแถบทะเลเอเจียน (ชาวกรีก) คนชราจะถูกเข่นฆ่าด้วยกระสุนปืนใหญ่ และยอมทำตามข้อเรียกร้องของศัตรู ผู้นำจะยอมแพ้ต่อฝ่ายศัตรู ส่วนภรรยาของเขาจะเกิดความคับแค้นในใจ


    ตีความและวิเคราะห์
    ผลของการสู้รบ กองทัพเรือกรีกจะประสบความสูญเสียอย่างหนักจากการสู้รบกับกองทัพเติร์ก และกองทัพฝ่ายอาหรับที่ร่วมมือกันจัดการฝ่ายกรีกอย่างเต็มที่ กองทัพเรือกรีกพยายามเรียกร้องให้รัฐบาลของตนส่งกำลังรบไปเสริมในแนวรบ แต่ทางฝ่ายรัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเรียกร้องได้ เพราะในขณะนั้นรัฐบาลกรีกไม่มีกำลังทางเรือพอที่จะส่งไปช่วยได้อีก เมื่อฝ่ายเติร์กและฝ่ายอาหรับเห็นว่ากำลังได้เปรียบในการยุทธ์ทางเรือ จึงประกาศที่จะดำเนินนโบยายทางทหารแข็งกร้าวยิ่งขึ้น ทางฝ่ายประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อได้รับการร้องขอจากรัฐบาลกรีก ก็จะตกลงใจส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ มาช่วยแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ในการรบของกองทัพเรือกรีกกระเตื้องขึ้นมาได้เลย หลังจากที่กรีกสูญเสียที่มั่นบนเกาะไซปรัสแล้ว เป็นอันว่าชาวไซปรัสต้องยอมแพ้ต่อกองกำลังของเติร์กและอาหรับ การยอมจำนนต่อฝ่ายศัตรูครั้งนี้จะมีผลอย่างรุนแรง ที่ทำให้ภรรยาของผู้นำไซปรัสเกิดความขุ่นเคืองในใจ


    คำพยากรณ์ที่ 22 : การเป็นพันธมิตรทางการทหารระหว่างสหรัฐอเมริกากับรัสเซีย
    Quand ceux du pole arctique unis ensemble,
    En Orient grand effrayeur et crainte :
    E’lu nouveau, soutenu le grand tremble,


    Rhodes</place>, Bisance de sang Barbare teints. (VI,21)</p>คำแปล
    เมื่อผู้อยู่ในบริเวณมหาสมุทรอาร์คติกรวมตัวกัน ผู้คนในดินแดนตะวันออกจะเกิดความรู้สึกพรั่นพรึงและเกรงกลัว ผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ แม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ก็จะมีความรู้สึกพรั่นพรึง ในขณะเดียวกัน โรดส์ (กรีซ) และตุรกีจะเปื้อนไปด้วยเลือดของอาหรับ


    ตีความและวิเคราะห์
    ในขณะที่กรีซและตุรกีกำลังทำสงครามกันอยู่นั้น สถานการณ์ทางการทหารก็เพิ่มความสับสนยิ่งขึ้น เนื่องจากแทนที่ฝ่ายอาหรับจะระดมกำลังรุมเล่นงานกรีซ กลับเปลี่ยนแผนเป็นบุกประเทศตุรกี ส่วนทางด้านยุโรป สองชาติซึ่งติดต่อเชื่อมโยงกัน โดยใช้เส้นทางผ่านทางมหาสมุทรอาร์คติก (สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย) ก็ประกาศร่วมลงนามในสนธิสัญญาพันธมิตรทางด้านการทหาร เพื่อรวมตัวกันต่อต้านมหาอำนาจทางตะวันออกไกล และกองกำลังร่วมของฝ่ายอาหรับ การเคลื่อนไหวของสองอภิมหาอำนาจสร้างความวิตกกังวลให้แก่กลุ่มมหาอำนาจในตะวันออกไกลเป็นอย่างยิ่ง ผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งขึ้นมาใหม่ของฝ่ายสัมพันธมิตรในตะวันออกไกล เกิดความหวาดหวั่นต่อสองอภิมหาอำนาจมากยิ่งขึ้น
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 23 : สหรัฐอเมริกาคุกคามว่าจะทำสงครามกับฝ่ายตะวันออก
    De l’aquatique triplicite naitra
    D’un qui fera le jeudi pour sa fete :
    Son bruit, los, renge, sa puissance croitra,
    Par terre et mer aux Orients tempete. (I,50)
    คำแปล
    จะมีชาติหนึ่งกำเนิดจากแม่น้ำสามสาย เป็นชาติซึ่งใช้วันพฤหัสบดีเป็นวันหยุดราชการ ชาตินี้จะเจริญเติบโตในทางเกียรติยศ ศักดิ์ศรี การปกครอง และอำนาจ เป็นชาติที่คุกคามชาติตะวันออก ทั้งทางบกและทางทะเล


    ตีความและวิเคราะห์
    คำพยากรณ์บทนี้ เป็นที่น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบทอื่น ๆ เลย นอสตราดามุสได้เขียนคำพยากรณ์ไว้ในบรรทัดสุดท้าย มีข้อความเป็นปริศนาว่า จะมีชาติหนึ่งมาคุกคามดินแดนทางตะวันออก ลักษณะสำคัญประการแรกของชาตินี้คือมีกำเนิดมาจากแม่น้ำสามสาย นั่นก็คือมีน้ำล้อมรอบทั้งสามด้าน ซึ่งหากดูจากลักษณะประการแรกนี้เพียงอย่างเดียว เราก็จะตีความและวิเคราะห์ไม่ออกเลยว่าเป็นชาติใดเพราะมีหลายชาติในโลกที่มีน้ำล้อมรอบทั้งสามด้านแบบนี้
    แต่เมื่อนำลักษณะที่สองที่อยู่ในคำพยากรณ์มาพิจารณา ก็จะทำให้ความเป็นไปได้ทั้งหลายลดลงเหลือเพียงหนึ่งเท่านั้น เพราะนอสตราดามุสระบุต่อไปว่า วันพฤหัสบดีเป็นวันเฉลิมฉลองพิเศษของชาติที่เป็นปริศนานี้ ในบรรดาชาติต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็มีเพียงแต่สหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีวันพฤหัสบดีเป็นวันหยุดประจำชาติ วันนี้ได้แก่วันแธงค์กิฟวิ่งเดย์ (วันขอบคุณพระเจ้า) ซึ่งในปี พ.ศ. 2484 สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ลงมติให้จัดในวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งต่อมาประเทศแคนาดากำหนดให้มีวันเทศกาลประจำปีแธงค์กิฟวิ่งเดย์นี้เหมือนกัน แต่ให้จัดในวันศุกร์ ดังนั้น จึงมีเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่มีวันหยุดราชการเช่นนี้ในวันพฤหัสบดี
    นอกจากนั้นที่มั่นใจว่าชาติปริศนาในคำพยากรณ์จะต้องเป็นสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน ก็เพราะสหรัฐอเมริกามีน้ำล้อมรอบทั้งสามด้าน คือ มหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรแปซิฟิก และอ่าวเม็กซิโก นอสตราดามุสยังพยากรณ์ไว้ด้วยว่า ชาติที่มีวันหยุดราชการในวันพฤหัสบดีดังกล่าวจะเจริญรุ่งเรืองทั้งในด้าน เกียรติยศ ศักดิ์ศรี การปกครอง และอำนาจ แทบจะไม่ต้องอธิบายใด ๆ เราก็ต่างรู้ๆ กันว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาได้พัฒนามาเป็นเวลา 200 ปี จนบัดนี้ได้เป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกแล้ว ส่วนลักษณะสุดท้ายที่คำพยากรณ์บรรยายไว้ที่ว่า ชาติปริศนานั้นจะคุกคามประเทศตะวันออกทั้งทางบกและทางทะเลนั้น เมื่อมองย้อนไปในอดีตจะเห็นว่า สหรัฐอเมริกาเคยประพฤติตนในลักษณะนี้มาแล้ว ดังจะเห็นได้จากในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้เข้าสู่สงครามในแปซิฟิก นับตั้งแต่กองเรือญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์ ในปี พ.ศ. 2484 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้มีมติกำหนดให้วันแธงค์กิฟวิ่งเดย์เป็นวันหยุดประจำชาตินั่นเอง
    คำว่า ตะวันออก ซึ่งแปลมาจากภาษาอังกฤษว่า Orient หรือ ฝรั่งเศสว่า Orients ที่นอสตราดามุสใช้ในคำพยากรณ์นั้น ตามปกติหมายถึงพื้นที่กว้างขวางไม่เฉพาะแต่ภาคตะวันออกไกลเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้นอสตราดามุสเห็นจะใช้คำว่า Orients หมายถึงทวีปเอเชียทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งตะวันออกไกลและตะวันออกกลางด้วย ถ้าหากเขาตั้งใจให้มีความหมายกว้างเช่นนี้จริง เราก็สามารถตีความในบรรทัดสุดท้ายของคำพยากรณ์ได้ว่า สหรัฐอเมริกาจะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งขอบข่ายของสงครามจะขยายไปจนเกือบทั่วทวีปเอเชีย


    คำพยากรณ์ที่ 24 : ความล้มเหลวในการเจรจาสันติภาพที่นครเจนีวา
    Du lac Leman les sermons facheront,
    Des jours seront reduits par des semaines,
    Puis mois, puis ans, puis tous defailliront,
    Les Magistrats damneront leur lois vaines. (I,47)


    คำแปล
    การปรึกษาหารือที่ทะเลสาบนครเจนีวา เป็นเรื่องที่น่ารำคาญ จะยืดเยื้อออกไป จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนในที่สุดการปรึกษาหารือจะประสบกับความล้มเหลว ผู้นำของโลกทั้งหลายจะประณามการตัดสินใจที่ไร้ประโยชน์จากการเจรจากันนั้น


    ตีความและวิเคราะห์
    ในขณะที่ชาติอาหรับและพวกขยายดินแดนในตะวันออกไกลภายใต้การนำของจีนกำลังใช้กำลังทหารบุกยึดพื้นที่ต่าง ๆ อยู่นั้น ที่นครเจนีวาก็มีการจัดการประชุมเจรจากันเพื่อหาทางแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธีอย่างต่อเนื่อง แต่ในที่สุดการเจรจาที่นครเจนีวาก็ยุติลง โดยไม่สามารถนำสันติภาพมาสู่โลกได้ ทุกคนต่างมั่นใจว่าสันติภาพจะไม่มีอีกต่อไป
    สงครามโลกจึงดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    บทที่ 6
    สถานการณ์การรบครั้งสุดท้าย
    ก่อนที่จะสูญเสียยุโรปทั้งทวีป


    คำพยากรณ์ที่ 146 - 149 : อังกฤษยกพลขึ้นบกทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส

    Euge, Temins,
    Gironde</place> et la Rochelle :</p> O sang Troien ! Mars au port de la fleche :

    Derriere le fleuve au

    fort</placetype>
    mise</placename></place> a l’echelle,</p> Pointes a feu grand meurte sur la breche. (II,61)
    Du plus profond de l’Occident Anglois
    Ou est le chef de l’Isle Britannique,

    Entrera classe dans Gyronde par <city>
    Blois</place></city>,</p> Par vin et sel, feux caches aux barriques. (V,34)

    Vers <state>
    Aquitaine</place></state> par insult Britanniques</p> De par eux-memes grandes incursions.
    Pluies, gelees feront terroirs uniques,
    Port Selyn fortes fera invasions. (II,1)
    Par cite franche de la grande mer Seline,

    Qui porte encore a l’estomac la <city>
    pierre</place></city>,</p> Angloise classe viendra sous la bruine
    Un rameau predre, du grand ouverts guerre. (V,35)
    คำแปล
    ผู้ที่มาจากแม่น้ำเทมส์ (ทหารอังกฤษ) จะยึดครองกีรอนด์ และลาโรเชลล์ (ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) บนฝั่งแม่น้ำ (กาโรน) เมืองจะถูกโจมตีด้วยอาวุธอัดพลังไฟ จอมเพชฌฆาตสามารถตีฝ่าวงล้อมเข้ามาจนได้
    กองเรือรบจากดินแดนของอังกฤษทางภาคตะวันตก (ประเทศแคนาดา) ที่มีความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลเกาะอังกฤษ จะเข้ามาถึงกีรอนด์ หลังจากยึดบลาเย (ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) ได้แล้ว เมื่อได้เงินสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น พวกเขาจะนำไปซื้ออาวุธที่อัดพลังไฟไว้ภายใน
    ผู้ที่มาจากเกาะอังกฤษ จะมุ่งตรงมายังอไควเทน (ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) จะบุกมาแต่เพียงลำพัง ฝนและน้ำแข็งจะทำให้เคลื่อนทัพไปได้ยาก ศัตรูจะใช้เมืองเจนัวเป็นฐานทัพที่สำคัญ
    ในท่ามกลางทัศนวิสัยที่ไม่ค่อยดีนัก กองเรือรบอังกฤษจะเดินทางมาถึงเมืองสำคัญที่อ่าวบิสเคย์ (บอร์โด) แล้วยึดชายฝั่งของเมืองนี้เป็นหัวหาด และผู้นำที่ยิ่งใหญ่จะประกาศสงคราม


    ตีความและวิเคราะห์
    ภายหลังจากเกิดอุทกภัยอย่างหนัก ถึงกับต้องอพยพออกจากเกาะอังกฤษแล้ว รัฐบาลอังกฤษก็จะพาประชาชนอังกฤษไปอาศัยอยู่ที่ประเทศแคนาดาเป็นการชั่วคราวก่อน และที่ประเทศแคนาดานี้เองที่รัฐบาลพลัดถิ่นอังกฤษจะเริ่มแผนการขับไล่กองทัพของฝ่ายตะวันออกไปจากทวีปยุโรป รัฐบาลอังกฤษจะส่งกองทัพของตนจากอ่าวฮัดสันไปยึดชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศสไว้เป็นหัวหาดเพื่อปฏิบัติการทางทหารในทวีปยุโรป ถึงแม้ว่าสภาพภูมิอากาศในประเทศฝรั่งเศสจะไม่เอื้ออำนวยเท่าที่ควร แต่กองทัพอังกฤษก็จะสามารถยกพลขึ้นบกได้สำเร็จ จากนั้นก็จะใช้ปืนใหญ่และอาวุธนิวเคลียร์สนับสนุนการสู้รบกับกองทัพของฝ่ายตะวันออกในครั้งนี้ จนสามารถเคลื่อนทัพลึกเข้าไปจนถึงเมืองกีรอนด์ (ที่ปากแม่น้ำกาโรน) ฝ่ายอังกฤษจะใช้จุดนี้เป็นหัวหาดในการยึดเมืองบอร์โด จากนั้นก็จะเดินทัพมุ่งหน้าต่อไปยังเมืองตูลูส


    คำพยากรณ์ที่ 150 - 154 : อังกฤษรุกไปตามลุ่มแม่น้ำกาโรน-อูเด
    L'entree de Blaye par Rochelle et l'Anglois
    Passera outre le grand Aemathion :
    Non loin d’Agen attendra la Gaulois,
    Secours Narbonne decu par entretien. (IX,38)
    La cite prise par tromperie et fraude,
    Par le moyen d’un beau jeune attrape :
    Assault donne Raubine pres de L’Aude,
    Lui et tous morts pour avoir vien trompe. (III,85)

    L’Aemathion passer monts
    Pyrenees</place>,</p> En Mars Narbon ne fera resistance :
    Par mer et terra fera si grand menee,
    Cap. N’yant terre sure pour demeurance. (IX,64)

    Bien contigue des grands monts
    Pyrenees</place>,</p> Un contre l’MAigle grande copie addreeser :
    Ouvertes veines, forces exterminees,

    Que jusqu’a <city>
    Pau</place></city> le chef viendra chasser. (IV,70)</p> Proche del duero par mer Tyrrene close.

    Viendra percer les grands monts
    Pyrenees</place>,</p> La main plus courte et sa perce close,

    A <city>
    Carcassonne</place></city> conduira ses menees. (III,62)</p>



    คำแปล
    ชาวอังกฤษจะเข้าเมืองบลาเยและลาโรเชลล์ (ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) ผู้ที่ยึดครองเมืองมาซีโดเนีย (ฝ่ายตะวันออก) จะถอนตัวออกไป กองทัพฝรั่งเศสจะคอยอยู่ไม่ไกลจากเมืองเอเจน (บนฝั่งแม่น้ำกาโรน) จะประสพผลสำเร็จในการเจรจา เพื่อหาทางช่วยเหลือเมืองนาร์บอนน์ (ชายฝั่งด้านใต้ของฝรั่งเศส)
    เมืองที่ปลอดภัยอันเนื่องมาจากการเจรจาตกลง (เมืองนาร์บอนน์) จะถูกยึดอย่างฉับพลันอีกครั้งหนึ่ง โดยข้าศึกที่มีผู้นำอายุอยู่ในเยาว์วัย กองทัพอีกฝ่ายหนึ่งจะตีโต้ในบริเวณลุ่มน้ำโรบินและแม่น้ำอูเด ทั้งไพร่พลและผู้นำจะถูกหลอกไปสังหาร
    ฝ่ายที่ยึดครองเมืองมาซีโดเนีย (ฝ่ายตะวันออก) จะโจมตีข้ามเทือกเขาพีเรนิส เมืองนาร์บอนน์จะไม่สามารถต้านทานไว้ได้ ฝ่ายข้าศึกจะดำเนินตามแผนลับทั้งทางบกและทะเล ฝ่ายฝรั่งเศสจะมีดินแดนที่พักอาศัยเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย
    ที่ใกล้เทือกเขาพีเรนิส ผู้นำผู้หนึ่งจะบัญชาการทัพใหญ่โจมตีกองกำลังของนกอินทรี (สหรัฐอเมริกา) การรบอันนองเลือดจะเปิดฉากขึ้น ไพร่พลในกองทัพจะถูกทำลายล้าง เขาจะไล่ติดตามผู้นำของอีกฝ่ายหนึ่งไปจนเมืองเปา (ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส)
    จะมีบุคคลผู้หนึ่งเดินทางผ่านแม่น้ำดูเอโร (ภาคเหนือของสเปน) และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก แล้วข้ามเทือกเขาพีเรนิส บุคคลผู้นี้มีแขนข้างหนึ่งสั้นกว่าอีกข้างหนึ่งและถือคทาทอประกายแสงวาววับ จะมาวางแผนการรบที่เมืองคาร์คัสโซน


    ตีความและวิเคราะห์
    นอสตราดามุสได้แสดงให้เห็นภาพของสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นฉากในตอนที่กองทัพเฉพาะกิจของอังกฤษกำลังพร้อมที่จะปฏิบัติการรบ เพื่อหยุดยั้งการรุกคืบหน้าของกองทัพฝ่ายตะวันออก คำพยากรณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายอังกฤษจะประสพผลสำเร็จในการรบกับกองทัพฝ่ายตะวันออก ในช่วงระยะแรก ๆ เท่านั้น
    เมื่อนำคำพยากรณ์เหล่านี้มาตีความและวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ก็จะสามารถมองเห็นภาพออกได้ว่า การที่อังกฤษบุกภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะตัดสเปนซึ่งถูกฝ่ายตะวันออกยึดครองออกจากฝรั่งเศสตามแนวลุ่มแม่น้ำกาโรน-อูเด และเป็นแผนที่มุ่งเปิดทางไปสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ถูกฝ่ายตะวันออกปิดล้อมเอาไว้ การที่ จะให้แผนนี้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้นั้น กองทัพอังกฤษซึ่งอยู่ที่ต้นน้ำทาง ตะวันตกของแม่น้ำกาโรน-อูเด จะต้องพยายามหาทางเชื่อมกับกองทัพฝรั่งเศส ซึ่งกำลังสู้รบกับกองทัพฝ่ายตะวันออกที่บริเวณตอนกลางของลุ่มแม่น้ำแห่งนี้ให้ได้ ซึ่งถ้าหากกองทัพของอังกฤษและกองทัพของฝรั่งเศสสามารถเชื่อมโยงกันได้แล้ว ก็จะรวมกำลังยกมุ่งหน้าไปยังเมืองนาร์บอนน์ ซึ่งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์ เรเนียนต่อไป กองกำลังของฝ่ายฝรั่งเศสอยู่ที่เมืองนาร์บอนน์ตกลงที่จะปฏิบัติตามแผนนี้ แต่ต่อมาแผนทางยุทธการนี้จำต้องเปลี่ยนแปลงไป เพราะถูกกองทัพของฝ่ายตะวันออกจากฐานทัพที่อยู่ในภาคเหนือของประเทศสเปนบุกอย่างฉับพลัน ผู้บัญชาการทัพของฝ่ายตะวันออกที่นำทัพบุกจากสเปนเข้ามาในประเทศฝรั่งเศสครั้งนี้ เป็นชาวจีนมีมือข้างหนึ่งพิการ จะใช้อาวุธชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะเหมือนคทา มีประกายวาววับ มีสมรรถนะในการทำลายล้าง อย่างมหาศาล เขาจะมาตั้งกองบัญชาการรบแห่งใหม่อยู่ที่เมืองคาร์คัสโซน และส่งกำลังทหารไปปราบปรามกองทัพของฝ่ายอังกฤษและอเมริกัน ที่บริเวณลุ่มแม่น้ำอูเดและแม่น้ำโรบิน ในที่สุดกองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกจะถูกปราบปรามอย่างเด็ดขาด เมื่อถึงตอนนี้ฝ่ายตะวันออกจะสามารถยึดพื้นที่ในประเทศฝรั่งเศสได้เกือบจะทั้งหมด
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 155 - 160 : ฝ่ายตะวันออกใช้อาวุธนิวเคลียร์ต้านการบุกของฝ่ายอังกฤษ
    A Quarante-huit degre climaterique,
    A fin de Cancer si grande secheresse :
    Aoisson en mer, fleuve, lac cuit hectique,

    <state>
    Bearn</place></state>, Bigorre par feu ciel en detresse. (V,98)</p> Condom et Aux et autour Mirande,
    Je vois du ciel feu qui les environne :
    Sol Mars conjoint au Lion, puis Marmande

    Foudre, grande grele, mur tombe dans
    Garonne</place>. (VIII,2)</p> Tout aupres d’Aux, de Lecture et Mirande
    Grand fer du ciel en trois muits tombera :
    Cause aviendra bien stupende et mirande :
    Bien peu apres la terre tremblera. (I,46)
    Le boute-feu par son feu attrape,
    De feu du ciel a Cartas et Cominge :
    Foix, Aux, Mazer, haut viellard echappe,
    Par ceux de Hasse, des Saxons et Turinge. (V,100)
    Le ne difforme par horreur suffoque,
    Dans la cite du grand Roi havitable :
    L'edit severe des captifs revoque,
    Grele et tonnerre, Condom inestimable. (V,97)
    A vant conflit le grand mur tombera,
    Le grand a mort, mort trop subiet et plainte,
    Ne imparfait : la plupart nagera :
    Aupres de fleuve de sang la terre teints. (II,57)


    คำแปล
    เมื่อถึงปลายราศีกรกฎ (วันที่ 21 มิถุนายน) ในภาคเหนือจะเกิดภาวะ แห้งแล้งอย่างรุนแรง น้ำในแม่น้ำ ในทะเลสาบ และในทะเลจะเดือดจนทำให้ปลาตาย เมืองเบิร์นและเมืองบิกอร์ (ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง เนื่องจากมีไฟตกลงมาจากท้องฟ้า
    ข้าพเจ้าเห็นไฟตกลงมาจากท้องฟ้า เผาผลาญเมืองคอนดอม เมืองออชและเมืองมาร์มันด์ เมื่อดาวอาทิตย์และดาวอังคารโคจรมาอยู่ในราศีสิงห์ ที่เมืองมิรันด์ จะเกิดฟ้าผ่าและมีเสียงโห่ร้องดังสนั่นหวั่นไหว กำแพงต่าง ๆ จะพังทลายลงในแม่น้ำกาโรน
    ที่ใกล้เมืองออส เมืองเลคทัว และเมืองมิรันด์ (ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) มีดวงไฟขนาดมหึมาตกลงมาจากท้องฟ้าติดต่อกันสามวันสามคืน เหตุการณ์ครั้งนี้ถือได้ว่ามีความรุนแรงมากจนทำให้แผ่นดินไหวสั่นสะเทือน
    บุคคลที่สร้างไฟนี้จะติดอยู่ในไฟของตนเอง ไฟจากท้องฟ้าจะตกที่เมืองคาร์คัสโซน เมืองคอมมินเจส เมืองฟัวซ์และเมืองออช รัฐบุรุษอาวุโส สำคัญผู้หนึ่งจะหลบหนีไปด้วยความช่วยเหลือของชาวเยอรมัน
    ผู้มีร่างกายพิการมาแต่กำเนิด (ผู้นำทางการทหารชาวจีนที่มีแขนข้างหนึ่งสั้น) ถูกไฟคลอกตายอย่างทารุณในเมือง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์ (เมืองคาร์คัสโซน) มีการออกคำสั่งให้ปฏิบัติต่อเชลยอย่างทารุณโหดร้าย เสียงร้องดังสนั่นหวั่นไหวจะกระหึ่มไปทั่วเมืองคอนดอม (ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส) ความเสียหายมีมากจนไม่สามารถประเมินได้
    ก่อนที่การรบจะเกิดขึ้น กำแพงยักษ์ (ในตะวันออกไกล) จะพังทลายลงมา ผู้นำคนสำคัญผู้หนึ่งจะเสียชีวิต เป็นการเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน ยังความโศกสลดให้แก่ประชาชน มีผู้คนมายมายจมน้ำตาย เนื่องมาจากการกระทำของชายผู้ที่พิการมาแต่กำเนิดนี้ ที่บริเวณใกล้แม่น้ำแห่งหนึ่ง (แม่น้ำกาโรน) แผ่นดินจะนองไปด้วยเลือด


    ตีความและวิเคราะห์
    การที่กองทัพฝ่ายตะวันออกสามารถหยุดการรุกของกองทัพอังกฤษได้นั้น เนื่องจากผู้บัญชาการทหารชาวจีนผู้มีแขนพิการข้างหนึ่ง ออกคำสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาใช้อาวุธนิวเคลียร์ยิงทำลายล้างกองทัพของอังกฤษ อาวุธนิวเคลียร์ชนิดนี้เมื่อยิงขึ้นสู่อากาศจะเกิดเสียงดังมาก และเมื่อระเบิดในอากาศจะเกิดพลังความร้อนรุนแรง สามารถเผาไหม้บรรยากาศของโลกและจะมีละอองก๊าซลุกเป็นไฟตกลงมายังพื้นดิน พื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส จะถูกเผาผลาญด้วยไฟมหาประลัยเหล่านี้
    อย่างไรก็ตาม ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีศัตรูในครั้งนี้ผู้บัญชาการทหารชาวจีนเกิดคำนวณผิดพลาด ทำให้ตนเองต้องเสียชีวิตไปด้วย กล่าวคือ ไฟมหาประลัยที่เกิดจากอาวุธนิวเคลียร์จะตกลงมาที่กองบัญชาการของกองทัพ ฝ่ายตะวันออกที่เมืองคาร์คัสโซนด้วย ยังผลให้ผู้บัญชาการชาวจีนผู้นั้นรวมทั้งไพร่พลอีกจำนวนหนึ่งถูกไฟมหาประลัยคลอกเสียชีวิตในทันที นอกจากนั้นไฟจากนิวเคลียร์ยังจะมีผลทำให้สภาพอากาศในบริเวณนั้นเกิดความแปรปรวนอย่างรุนแรง ผู้นำทัพคนสำคัญคนหนึ่งในกองทัพอังกฤษจะเสียชีวิตในทันที เพราะฤทธิ์เดชของอาวุธนิวเคลียร์ ส่วนอีกคนหนึ่งจะรอดพ้นจากความหายนะในครั้งนี้ ด้วยความช่วยเหลือของกองทหารเยอรมัน
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 161 - 165 : เกาะสก็อตแลนด์ ถูกรุกราน
    Le chef de Londres par regne l’Americh,
    L’Isle d’Escosse tempiera par gelee,
    Roi Reb auront un si faux Antechrist,
    Que les mettra trestous dans la melee. (X,66)
    Dedans les Iles si horrible tumulte,
    Rien on n’ouira qu’une bellique brigue,
    Tant grand sera des predateurs l’insulte
    Qu’on se viendra ranger a la grande ligue. (II,100)
    Sous le terroir du rond globe lunaire,
    Lors que sera dominateur Mercure :
    L’Isle d’Escosse fera un luminaire,
    Que les Anglois mettra a deconfiture. (V,93)
    La bande faible le terre occupera,
    Ceux du haut lieu feront horrible cris :
    Le gros tropear d’estre coin troublera,
    Tombe pres Dinebro decouverts les escris. (VIII,56)
    Le chef d’Escosse, avec six d’Allemagne
    Pars gens de mer Orientaux captif :
    Traverseront le Calpre et Espagne,
    Present en Perse au nouveau Roi craintif. (III,78)


    คำแปล
    ประมุขแห่งกรุงลอนดอนจะเสด็จไปประทับอยู่ใน (ทวีป) อเมริกา เกาะสก็อตแลนด์ จะประสพปัญหาจากการถูกหิมะปกคลุม กษัตริย์และพวกกบฏเผชิญกับกองกำลังของพวกที่ไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ (พวกมุสลิม) การที่กษัตริย์ประทับอยู่ ณ ที่นี้ จะทำให้แต่ละฝ่ายเผชิญหน้ากัน
    ในเกาะอังกฤษจะเต็มไปด้วยเสียงร้องระงมน่าสยดสยอง ผู้กระหาย สงครามเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้ยินเสียงนี้ พวกหนึ่งจะมาอย่างนักปล้นสะดม และจะปฏิบัติการอย่างก้าวร้าวรุนแรง ส่วนอีกพวกหนึ่งประสงค์จะเข้าร่วมกับมหาสันนิบาตของผู้ชนะ
    เมื่อดาวพุธทอประกายเจิดจ้าทั่วฟากฟ้า ผู้นำที่ชาญฉลาดของสก็อตแลนด์ ก็จะใช้กลยุทธ์ตามแนวของลูกพระจันทร์เสี้ยว (ชาวอาหรับ) ปลุกปั่นให้ชาวอังกฤษตกอยู่ในภาวะสับสน
    กองทัพของผู้อ่อนแอจะเข้าครอบครองดินแดน บรรดาผู้ที่หลบซ่อนอยู่ในเทือกเขา จะโห่ร้องเข้าต่อต้านกำลังของกองทัพที่ได้จู่โจมเข้ามา ทำให้กำลังทหารจำนวนมหึมาที่อยู่ใกล้ชายฝั่งประสพกับความลำบากในฉับพลัน เมื่อเกิดเผชิญหน้ากัน จะมีเสียงร้องระงมและความพ่ายแพ้ใกล้เมืองเอดินเบอระ
    ประมุขแห่งสก็อตแลนด์พร้อมกับเชลยศึกจากเยอรมนีหกคน จะถูกจับกุมตัวโดยทหารเรือชาวตะวันออก แล้วจะถูกกำหนดให้เดินทางผ่านไปทางสเปนและช่องแคบยิบรอลตาร์ เพื่อเข้ามอบตัวต่อผู้นำที่น่ากลัวคนใหม่ของประเทศอิหร่าน


    ตีความและวิเคราะห์
    หลังจากที่กองทัพอังกฤษพ่ายแพ้แก่กองทัพฝ่ายตะวันออกในประเทศ ฝรั่งเศสแล้ว รัฐบาลอังกฤษจะประสพกับปัญหาอื่น ๆ อีกด้วย นอสตราดามุสได้พยากรณ์ไว้ในคำพยากรณ์ข้างต้นว่า จะเกิดน้ำท่วมครั้งร้ายแรงในอังกฤษ โดยเฉพาะในทางภาคใต้คืออิงแลนด์จะจมอยู่ใต้น้ำ ส่วนสก็อตแลนด์ซึ่งอยู่ในที่สูง จะกลายสภาพเป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ รัฐบาลอังกฤษต้องโยกย้ายที่ทำการจากกรุงลอนดอนไปอยู่ประเทศแคนาดา เมื่อกองทัพของฝ่ายตะวันออก สามารถครอบครองยุโรปตะวันตกได้แล้ว รัฐบาลอังกฤษต้องการใช้สก็อตแลนด์เป็นฐานทัพ เพื่อปฏิบัติการทางทหารในภาคพื้นยุโรป แต่ชาวสก็อต แลนด์ทำการคัดค้านรัฐบาลอังกฤษ ผู้ก่อการคนหนึ่งจะนำประชาชนชาว สก็อตแลนด์ลุกฮือขึ้นต่อต้านการอ้างอำนาจอธิปไตยของรัฐบาลอังกฤษเหนือ เกาะสก็อตแลนด์ รัฐบาลพลัดถิ่นของอังกฤษที่ประเทศแคนาดาจะดำเนินนโยบายเด็ดขาด โดยส่งกำลังทหารไปยึดสก็อตแลนด์ และจะทำการกวาดล้างกลุ่มต่อต้านอย่างหนัก ทำให้ผู้นำที่ก่อการกบฏครั้งนี้ต้องหลบหนีการกวาดล้างไปหลบซ่อนอยู่ในบริเวณป่าเขา
    การที่รัฐบาลอังกฤษส่งกองทหารไปยึดครองสก็อตแลนด์นั้น ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ผ่อนคลายความตึงเครียดได้แม้แต่น้อย ปัญหาสก็อตแลนด์จะเริ่มสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น เมื่อฝ่ายกบฏชาวสก็อตแลนด์ได้ทำการติดต่อขอความช่วยเหลืออย่างลับ ๆ จากฝ่ายตะวันออกที่กำลังยึดครองยุโรปตะวันตกอยู่ในขณะนั้น การติดต่อขอความช่วยเหลือในครั้งนี้ จะประสพผลสำเร็จ เพราะฝ่ายตะวันออกหวังจะใช้กำลังของฝ่ายกบฏทำหน้าที่เป็นหน่วยบ่อนทำลายกองทหารอังกฤษในสก็อตแลนด์ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตามแผนฝ่ายตะวันออกก็จะส่งทหารเข้าไปโจมตีสก็อตแลนด์ในทันที โดยในเบื้องแรกจะสามารถเอาชนะกองกำลังป้องกันชายฝั่งของอังกฤษได้ก่อน เสร็จแล้วก็จะสามารถทำลายกองกำลังหลักของอังกฤษ ที่เมืองเอดินเบอระ กองกำลังยึดครองสก็อตแลนด์ของอังกฤษ จะประสพกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ ฝ่ายตะวันออกสามารถจับตัวผู้บัญชาการทหารอังกฤษได้ และจะส่งผู้บัญชาการผู้นี้พร้อมกับเชลยศึกชาวเยอรมันอีกหกคนไปยังประเทศอิหร่าน โดยผ่านทางช่องแคบยิบรอลตาร์


    คำพยากรณ์ที่ 166-169 : ฝ่ายตะวันออกยึดกรุงลอนดอน
    La grand dite d’Ocean maritime,
    Environnee de marais en caistal :
    Dans le solstice hyemal et la prime,
    Sera tentee de vent espouvantal. (IX,48)
    Un peu devant que le Soleil s’esconse,
    Conflit donne grand peuple dubieux :
    Profliges, port marin ne fait reponse,
    Pont et sepulcre en deux etranges lieux. (I,37)
    La fortresse aupres de la Tamise
    Cherra par lors le Roi dedans serre :
    Aupres du pont se ra vu en chemise
    Un devant mort, puis dans le fort barre. (VIII,37)
    Les bien aises subit seront demis,
    Par les trois freres le monde mis en troule,
    Cite marine saisiront ennemis,
    Faim, feu, sang, peste et de tous maux le double. (VIII,17)


    คำแปล
    มหานครแห่งห้วงมหาสมุทร (กรุงลอนดอน) จะถูกน้ำท่วม น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งในเดือนธันวาคม ในฤดูใบไม้ผลิ มหานครแห่งนี้จะประสพภัยพิบัติจากมหาวาตภัย
    ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินเพียงเล็กน้อย เสียงของการสู้รบจะดังกระหึ่มขึ้น มหาชนตกอยู่ในภาวะสับสนและถูกทำลายล้างชีวิตในที่สุด เมืองท่า (ของลอนดอน) ตกอยู่ในความเงียบ สะพานและหลุมฝังศพถูกทำลายอย่างย่อยยับ
    ป้อมปราการใกล้แม่น้ำเทมส์(ลอนดอน)โค่นล้มลงมา ผู้นำประจำป้อมถูกจับ เขาสวมเสื้อเชิ้ตออกมาปรากฏตัวที่บริเวณใกล้สะพาน และในที่สุดก็จะเอาชีวิตไปทิ้งในป้อมนั้นเอง
    พวกที่คิดว่าตนเองปลอดภัยแล้ว จะถูกทำลายในฉับพลัน เมื่อสามชาติทำสงครามกัน โลกก็จะเดือดร้อน ศัตรูเข้ายึดเมืองน้ำ (ลอนดอน) และประชาชนในเมืองนี้ประสพกับความทุกข์ทรมานเพราะทุพภิกขภัย อัคคีภัย และมหาวาตภัย เชื้อโรคและความทุกข์ร้อนนานาประการแพร่กระจายไปทั่ว


    ตีความและวิเคราะห์
    เมื่อพินิจพิเคราะห์ดูคำพยากรณ์ในช่วงนี้แล้ว พอจะมองภาพออกว่า เมื่อน้ำท่วมทางภาคใต้ของอังกฤษ คือส่วนที่เป็นอิงแลนด์นั้น มีบางส่วนในมหานครลอนดอนที่น้ำยังไม่ท่วม ยังเหลือเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่หลายแห่ง บริเวณน้ำตื้น ๆ ที่รายล้อมเกาะเหล่านี้จะกลายเป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาวและเกาะเหล่านี้จะเผชิญกับมหาวาตภัยอยู่ตลอดเวลา
    ในเย็นวันหนึ่ง ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินเพียงเล็กน้อย กองทัพของฝ่ายตะวันออกจะยกมาล้อมเกาะลอนดอน พร้อมกับใช้ปืนใหญ่และอาวุธเชื้อโรคระดมยิง ทำให้ประชาชนในเกาะต่าง ๆ เสียชีวิตทั้งหมด
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 170-171 : การบุกครั้งใหม่ในยุโรปตอนเหนือ
    Persecutee sera de Dieu l’Eglise,

    Et les saints <city>
    Temples</place></city> seront expolies,</p> L’enfant la mere metra nue en chemise,
    Seront Arabes aux Polons rallies. (V,37)
    Faibles galeres seront unies ensemblle,
    Ennemies faux le plus fort en rempart :
    Faibles assaillies Vratislaue termble,
    Lubecq et Mysne tiendront barbare part. (IX,94)


    คำแปล
    ชาวประชาในศาสนจักรจะถูกประหัตประหาร โบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์จะถูกปล้นสะดม เยาวชนจะหันไปต่อต้านบุพการีของตน พวกอาหรับจะได้ชาวโปแลนด์มาเป็นพันธมิตร
    กองทัพเรือของชาติที่อ่อนแอจะรวมตัวกัน แต่จะถูกศัตรูบุกทำลายแนวป้องกันที่แข็งแรงได้อย่างลับ ๆ เมื่อกองทัพเรือของชาติที่อ่อนแอถูกโจมตี บราติสลาวา (ออสเตรีย เชโกสโลวะเกียและฮังการี) จะสั่นสะเทือน ลูเบคและเมสเซน (เยอรมนีตะวันออก)จะหันมาเป็นพันธมิตรกับพวกอาหรับ


    ตีความและวิเคราะห์
    ในขณะเดียวกันกับที่กรุงโรมถูกทำลาย และฝ่ายพันธมิตรตะวันตกไม่สามารถต่อต้านกำลังของฝ่ายตะวันออกที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้นั้น ฝ่ายตะวันออกจะได้ประเทศโปแลนด์และเยอรมนีตะวันออกมาเป็นพันธมิตรของฝ่ายตน การเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองระหว่างประเทศในครั้งนี้ จะมีผลกระทบกระเทือนต่อแผนการป้องกันของประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตอนกลาง คือ เชโกสโลวะเกีย ฮังการี ออสเตรีย และเยอรมนีตะวันตก นอกจากนั้น ในช่วงเวลาเดียวกัน กองทัพเรือของประเทศเล็ก ๆ บางประเทศ จะรวมตัวกันเพื่อต่อต้านการรุกของฝ่ายตะวันออก แต่ก็จะไม่สามารถต้านทานการรุกคืบหน้าของกองทัพของฝ่ายตะวันออกได้เลยแม้แต่น้อย


    คำพยากรณ์ที่ 172-174 : ฝ่ายตะวันออกบุกเยอรมนีตะวันออกและออส เตรีย
    La grand ruine des sacres ne s’eloigne,

    Prouence, <city>
    Naples</place></city>, Sicille, Seez et <city>
    Ponce</place></city>,</p>
    En Germanie, au Rhin et la <city>
    Cologne</place></city>,</p> Vexes a mort par tous ceux de Magonce. (V,43)
    Qusnd le plus grand emportera le prix,

    De Nurenerg, d’Ausourg, et ceux de
    Basle</place>,</p>
    Par Agrippine chef <city>
    Frankfort</place></city> repris</p> Traverseront par Flamant jusqu’en Gale. (III,53)
    La saint Empire viendra en Germanie,
    Isaelites trouveront lieux ouverts :
    Anes voudront aussi la Carmanie,
    Les soutenants de terre tous couverts. (X,31)


    คำแปล
    ความพินาศย่อยยับครั้งยิ่งใหญ่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก มันจะมาถึงเมืองโปรวองซ์ (ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส) เมืองเนเปิลส์ (ในอิตาลี) เกาะซิซิลี สำนักวาติกันและองค์สันตะปาปา และมันจะเลยมาถึงเยอรมนี โดยมีเป้าหมาย ที่แม่น้ำไรน์ เมืองโคโลญจ์ โดยกำลังกองทัพที่เข้ามาทางด้านเมืองเมนซ์
    ผู้นำคนหนึ่งจะได้รางวัลที่เมืองนูเรมเบิร์ก เมืองอ็อกสเบิร์ก (ทางภาคใต้ประเทศเยอรมนี)และเมืองต่าง ๆ ในบาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) จากเมืองโคโลญจ์ บรรดาผู้นำในเมืองแฟรงเฟิร์ตจะถูกจับกุม พวกเขาจะเดินทัพผ่านฟลันเดอร์ส (ทางโปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และภาคเหนือของสเปน) ไปยังฝรั่งเศส
    เขาจะเดินทางต่อไปในเยอรมนีและออสเตรีย พวกอาหรับจะทะลวงแนวป้องกันได้ ในขณะเดียวกัน ความพินาศจะมาถึงคาร์มาเนีย (ทางภาคใต้ของอิหร่าน) กองกำลังฝ่ายป้องกันจะถูกเด็ดชีวิตฝังไว้ใต้ธรณี


    ตีความและวิเคราะห์
    ในการบุกยุโรปครั้งนี้ กองทัพของฝ่ายตะวันออกกระทำการเหมือนกับในครั้งที่ประเทศเยอรมนีรุกรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 กล่าวคือ เมื่อตีได้ประเทศหนึ่งแล้วก็จะใช้ประเทศนั้นเป็นฐานเพื่อโจมตีประเทศอื่นอีกต่อไป จากคำพยากรณ์ของนอสตราดามุสบทนี้แสดงว่า ในทันทีที่ยึดประเทศอิตาลีและภาคใต้ของฝรั่งเศสได้เด็ดขาดแล้ว กองทัพของฝ่ายตะวันออกก็จะบุกโจมตีเยอรมนีและประเทศออสเตรีย ในการบุกประเทศเยอรมนีครั้งนี้ ฝ่ายตะวันออกจะบุกมาสองทิศทาง คือทางหนึ่ง บุกจากเยอรมนีตะวันออก แล้วเคลื่อนทัพมาตามแม่น้ำเมนจนถึงเมืองเมนซ์ จากเมืองเมนซ์ก็จะทำการบุก โจมตีไปทางภาคเหนือมุ่งตรงยังเมืองโคโลญจ์และที่เมืองแฟรงเฟิร์ต กองทัพของฝ่ายตะวันออกสามารถจับกุมผู้บัญชาการกองทัพเยอรมนีตะวันตกได้
    ส่วนอีกทางหนึ่ง กองทัพฝ่ายตะวันออกจะบุกมาทางประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มุ่งหน้าไปทางภาคใต้ของเยอรมนีตะวันตก จนสามารถยึดเมือง นูเรมเบิร์กได้สำเร็จ
    ในที่สุด กองทัพของฝ่ายตะวันออกก็บุกต่อไป ยังประเทศเนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และภาคเหนือของฝรั่งเศส อย่างไรก็ดีขณะที่กองทัพของฝ่ายตะวันออก กำลังจะพิชิตยุโรปตะวันตกได้นั้น กองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกจะใช้ยุทธวิธีตลบหลังข้าศึก โดยส่งกำลังบุกเข้าโจมตีที่ใจกลางดินแดนในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะส่งกองเรือรบเข้าโจมตีอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งขณะนั้นฝ่ายตะวันออกใช้เป็นฐานทัพเรือสำคัญของตน


    คำพยากรณ์ที่ 175 : ผู้บัญชาการทหารเยอรมันเสียชีวิต
    Aupres du Rhin des montagnes Noriques,
    Naitra un grand de gens trop tard venu,
    Qui defendra Saurome et Pannoniques,
    Qu’on ne saura qu’il sera devenu. (III,58)


    คำแปล
    จะมีผู้นำคนสำคัญคนหนึ่ง เดินทางจากภูเขานอริค (ในประเทศออส เตรีย) มาที่บริเวณใกล้แม่น้ำไรน์ จะวางแผนตั้งแนวป้องกันจากภาคกลางยุโรป จนถึงภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศรัสเซีย แต่แผนการนี้จะถูกทำลายอย่างย่อยยับ ตัวเขาเองก็จะเสียชีวิต แม้แต่ซากศพก็หาไม่พบ


    ตีความและวิเคราะห์
    ขุนพลชาวออสเตรียผู้หนึ่ง จะวางแผนป้องกันการบุกของกองทัพฝ่ายตะวันออก โดยจะสั่งให้สร้างแนวป้องกันยาวเหยียด จากประเทศออสเตรียถึงประเทศรัสเซีย ทั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะป้องกันไม่ให้กองทัพของฝ่ายตะวันออก ที่อยู่ในภาคใต้ของยุโรปสามารถเชื่อมโยงกับพรรคพวกที่อยู่ในประเทศโปแลนด์และเยอรมนีตะวันออกได้ แต่แผนการของขุนพลชาวออสเตรียผู้นี้ ล่วงรู้ไปถึงกองทัพของฝ่ายตะวันออกเสียก่อน ในที่สุด เมื่อขุนพลผู้นี้ปฏิบัติตามแผน กองทัพของเขาจะถูกทำลายอย่างย่อยยับ เขาเองก็จะเสียชีวิตในสนามรบ แม้แต่ซากศพของเขาก็จะหาไม่พบ


    คำพยากรณ์ที่ 176 : ผู้บัญชาการทหารเยอรมันอีกผู้หนึ่งขายชาติ
    Un capitaine de la grand Germanie,
    Se viendra rendre par simule secours
    Au Roi des Rois aide de Pannonie,
    Que sa revolte fera de sang grand cours. (IX,90)


    คำแปล
    ผู้บัญชาการแห่งเยอรมนีใหญ่(เยอรมนีตะวันตก)ผู้หนึ่ง ให้ความช่วยเหลือแก่ข้าศึก โดยเป็นผู้บอกแผนการป้องกันคาบสมุทรบอลข่านแก่ผู้นำของฝ่ายตะวันออก การขายชาติของเขาจะยังผลให้มีการหลั่งเลือด


    ตีความและวิเคราะห์
    ผู้บัญชาการทหารชาวเยอรมันอีกผู้หนึ่ง เป็นตัวการทำให้แนวป้อง กันยุโรปตอนกลางไม่บรรลุผลตามเป้าหมาย เพราะเขาจะเปิดเผยแผนการนี้ให้แก่กองทัพของฝ่ายตะวันออก ดังนั้น เมื่อเกิดการสู้รบกันระหว่างกองทัพของฝ่ายตะวันออกกับกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก กองทัพของฝ่ายพันธมิตรตะวันตกจะพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ ไพร่พลในกองทัพล้มตายไปเป็นจำนวนมากมาย แนวป้องกันยุโรปตอนกลางจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 177 : เมื่อแนวป้องกันยุโรปตอนกลางพังทลาย
    Pres de Sorbin pour assaillir Ongrie,
    L’heraut de Brudes les viendra avertir :
    Chef Bizantin, Sallon de Sclauonie,
    A loi d’Arabes les viendra convertir. (X,62)
    คำแปล
    กองทัพกองหนึ่งจะโจมตีประเทศเชโกสโลวะเกียและฮังการี จากซอร์บิค แซกโซนี(เยอรมนีตะวันออก) โฆษกที่บูดาเปสต์จะส่งเสียงแสดงความตื่นตระหนก ผู้นำชาวอาหรับจะโจมตีจากภาคกลางและภาคเหนือของยูโกสลาเวีย และจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชนให้เป็นแบบเดียวกับพวกอาหรับ


    ตีความและวิเคราะห์
    การที่แนวป้องกันในยุโรปตอนกลาง ต้องถูกทำลายลงไปตามที่กล่าวมาแล้วนั้น ก็เนื่องมาจากถูกกองทัพของฝ่ายตะวันออกโจมตีจากเยอรมนีตะวันออกและยูโกสลาเวียในเวลาพร้อม ๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้น ในกองทัพของเยอรมันตะวันตก มีนายพลคนหนึ่งประพฤติตนเป็นคนขายชาติ ต้องการบอกความลับทางทหารของฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกแก่กองทัพของฝ่ายตะวันออก ทำให้ฝ่ายตะวันออกสามารถทำลายแนวป้องกันยุโรปตอนกลางได้ในที่สุด หลังจากนั้นเป็นต้นไป จะเหลือพื้นที่ในยุโรปอีกเพียงไม่กี่แห่งที่ยังไม่ถูกกองทัพของฝ่ายตะวันออกยึดครอง


    คำพยากรณ์ที่ 178 : ฝ่ายตะวันออกบุกฮอลแลนด์และเบลเยี่ยม
    Translatera en la grande Germanie,


    Brabant</place> et Flandres, Gand, <city>
    Bruges</place></city> et <city>
    Boulogne</place></city> :</p> La treve feinte, le grand Duc d’Armenie

    Assaillire Vienne et la <city>
    Cologne</place></city>. (V,94)</p>คำแปล
    หลังจากเดินทัพเข้าพิชิตเยอรมนีใหญ่ (เยอรมนีตะวันตก) ได้แล้ว พวกเขาก็จะเดินทัพเข้าบุกบราบันท์ (ประเทศเนเธอร์แลนด์) ฟลันเดอร์ เจนท์และบรูเจส (ประเทศเบลเยี่ยม) และบูโลน (ภาคเหนือของฝรั่งเศส) หลังจากพักรบอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ดยุคชาวตะวันออกก็จะบุกโจมตีเวียนน์และโคโลญจ์


    ตีความและวิเคราะห์
    ภายหลังจากยึดเยอรมนีตะวันตก และประเทศออสเตรียได้แล้ว ฝ่ายตะวันออกจะใช้สิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านการทหารของเยอรมนี ตะวันตก เพื่อเป็นฐานในการโจมตีประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศเบลเยี่ยม และดินแดนทางภาคเหนือของประเทศฝรั่งเศสต่อไป


    คำพยากรณ์ที่ 179 : ฝ่ายตะวันตกสูญเสียที่มั่นแห่งสุดท้ายที่เมืองบรูเจส
    Saturn au goeuf joue en l’eau, Mars en fleche,
    Six de Fevrier mortalite donnera,

    Ceux de Tradaigne a <city>
    Bruges</place></city> si grande breche,</p> Ou a Ponteroso chef Barbarin mourra. (VIII,49)


    คำแปล
    เมื่อดาวเสาร์โคจรมาอยู่ในราศีพฤษภ ดาวพฤหัสบดีโคจรมาอยู่ในราศีกุมภ์ ดาวอังคารสถิตอยู่ในราศีธนู วันที่ 6 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันแห่งความตาย ผู้ที่อยู่ในเมืองทาร์ไดจ์ (ทางภาคเหนือของฝรั่งเศส) และที่เมืองบรูเจส (ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเบลเยี่ยม) จะประสพกับความปราชัย ชาวอาหรับจะเสียชีวิตบนสะพานสีแดงแห่งหนึ่ง


    ตีความและวิเคราะห์
    ในที่สุด เหตุการณ์ที่ชวนให้เกิดความโศกสลดก็มาถึง กองทัพของฝ่ายพันธมิตรตะวันตกจะถูกกองทัพของฝ่ายตะวันออกไล่ติดตามไปจนถึงเมืองบรูเจส ในประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นที่มั่นแห่งสุดท้ายของฝ่ายพันธมิตรตะวันตก ไพร่พลในกองทัพของฝ่ายพันธมิตรตะวันตก จะตกอยู่ในสภาพอ่อนระโหยโรยแรง จนไม่สามารถยืนหยัดสู้รบกับกองทัพของฝ่ายตะวันออกซึ่งมีกำลังพลมากกว่าหลายเท่า รวมทั้งมีแสนยานุภาพทางด้านอาวุธที่เหนือกว่าอีกด้วย การรบครั้งนี้ฝ่ายพันธมิตรตะวันตกจะพ่ายแพ้อีกเช่นเคย อย่างไรก็ดี ในการใช้กำลังประจัญบานกันครั้งนี้ ทหารของฝ่ายตะวันตกสามารถสังหารนายพลคนสำคัญของฝ่ายตะวันออกได้หนึ่งนาย
    เมื่อกองทัพของฝ่ายตะวันออกสามารถยึดเมืองบรูเจสในเบลเยี่ยม และยึดดินแดนทางภาคเหนือของประเทศฝรั่งเศสได้แล้ว เป็นอันว่าดินแดนทั้งหมดในทวีปยุโรป ตกอยู่ในความครอบครองของกองทัพผสมจากตะวันออกไกลและตะวันออกกลาง ในที่สุดกองทัพของฝ่ายตะวันออกก็จะยุติการบุกยึดดินแดนลงแค่นั้น ทั้งนี้ก็เพราะว่าไม่มีดินแดนใด ๆ ในทวีปยุโรปที่จะให้พวกเขายึดอีกต่อไปแล้ว
    <!-- text below generated by server. PLEASE REMOVE --><script language="JavaScript" src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc.js"></script><script src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc1.js"></script><script src="http://us.i1.yimg.com/us.yimg.com/i/mc/mc2.js"></script><script language="JavaScript" src="http://geocities.com/js_source/geov2.js"></script><script language="javascript"></script>[​IMG]
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 59 - 62 : ฝรั่งเศสส่งทหารไปรบในอิตาลี
    La gent Gauloise et nation etrange,
    Outre les monts, morts, pris et profliges :
    Au mois contraire et proche de vendange,
    Par les Seigneurs en accord rediges. (III,38)

    Gens d’alentours de
    Tarn</place>, Loth, et
    Garonne</place></p>
    Gardez les monts
    Apennines</place> passer :</p>
    Votre tombeau pres de <city>
    Rome</place></city>, et d’Anconne,</p> Le noir poil crepe fera trophee dresser. (III,43)
    Armee Celtique en ltalie vexee
    De toutes parts conflit et grande perte :
    Romains fuis, o Gaule repoussee!
    Pres du Thesin, Rubicon pugne incerts. (II,72)

    Pres de Tesin les habitants le
    Loire</place>,</p>

    Garonne</place> et
    Saone</place>,
    Seine</place>, Tain et
    Gironde</place> :</p> Outre les monts dresseront promontoire,

    Conflit donne, <city>
    Pau</place></city> granci, submerge onde. (VI,79)</p>

    คำแปล
    กองทัพฝรั่งเศสและกองกำลังจากชาติอื่น ๆ จะเดินทัพข้ามภูเขา ทวยทหารจะล้มตายถูกจับหรือถูกสังหารเป็นจำนวนมากมาย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ (ฤดูใบไม้ร่วง) และในเดือนมกราคม การยกทัพไปครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสู้รบกับบรรดาผู้นำชาวมุสลิมที่รวมตัวกันอย่าง
    เหนียวแน่น
    ทหารฝรั่งเศสเหล่านี้จะไปจาก ทาร์น ลอต และกาโรน (แม่น้ำในฝรั่งเศส) และเดินทัพข้ามเทือกเขาอะเพนไนน์ (ในประเทศอิตาลี) แต่ในที่สุดพวกเขาจะถูกฝังไว้ใกล้กรุงโรมและแอนโคนา(ชายฝั่งตะวันออกของอิตาลี) ศัตรูผู้มีเคราดำหยิก จะจัดสร้างสิ่งที่ระลึกในการมีชัยชนะ
    กองทัพฝรั่งเศสถูกรบกวนในประเทศอิตาลี จะประสพกับความสูญเสียอย่างย่อยยับในการรบทุก ๆ แนว กองกำลังทหารโรมันที่ยังรอดชีวิตอยู่จะแตกหนี ส่วนทหารฝรั่งเศสจะถูกขับไล่ในการสู้รบที่ยังไม่ปรากฏผลแน่นอน ที่บริเวณใกล้แม่น้ำติชิโนและแม่น้ำรูบิคอน
    ทหารฝรั่งเศสที่มาจากแม่น้ำลัวร์ แม่น้ำคาโรน แม่น้ำซาออง แม่น้ำเซน แม่น้ำทาร์น และแม่น้ำคีรอนด์ จะมาอยู่ที่แม่น้ำติซิโน จะตั้งค่ายอยู่ไกลจากภูเขา และเมื่อการสู้รบเริ่มขึ้นอีก แม่น้ำโป (ทางเหนือของอิตาลี) น้ำจะขึ้นมากจนทำให้บริเวณนั้นเกิดน้ำท่วม


    ตีความและวิเคราะห์
    กองทัพฝรั่งเศสและกองทัพประเทศตะวันตกอื่น ๆ จะร่วมมือต่อต้านการรุกรบของกองทัพฝ่ายตะวันออกอย่างเต็มที่ ในเดือนมกราคมของปีหนึ่ง กองกำลังผสมของฝรั่งเศสจะเดินทัพข้ามเทือกเขาแอลปส์ และเทือกเขาอะเพนไนน์ เข้าไปช่วยกองทัพของประเทศอิตาลี ต้านทานกองกำลังของฝ่ายตะวันออก ที่กำลังรุกคืบหน้าเพื่อยึดครองอิตาลีทั้งประเทศ
    แต่การปฏิบัติการทางทหารของกองทัพฝรั่งเศสครั้งนี้ไม่บรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยจะพ่ายแพ้และสูญเสียอย่างหนักเมื่อประจัญบานกับกองทัพของฝ่ายตะวันออกที่บริเวณกรุงโรมและที่ฝั่งทะเลอะเดรียติก กำลังทหารของกองทัพฝรั่งเศสและอิตาลีที่ยังมีชีวิตรอดจากการสู้รบครั้งสำคัญ ๆ เหล่านี้ จะถอยทัพหนีจากแอนโคนา (ชายฝั่งตะวันออกของอิตาลี) มุ่งขึ้นเหนือไปที่แม่น้ำรูบิคอน ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับเมืองรีมินี จากเมืองรีมินีก็จะถอยต่อไปอีกจนถึงปาเวีย ซึ่งอยู่บริเวณใกล้ ๆ แม่น้ำติชิโน
    เป็นอันว่า การรบระหว่างกองทัพตะวันออกกับพันธมิตรตะวันตกในประเทศอิตาลี ลงเอยด้วยการที่ฝ่ายพันธมิตรตะวันตกพ่ายแพ้อย่างยับเยิน


    คำพยากรณ์ที่ 63 : กองทัพฝรั่งเศสรวมพลใหม่หลังจากพ่ายแพ้
    Pour la faveur que la cite fera,
    Au grand qui tot perdra champ de bataille,

    Fuis de rang <city>
    Pau</place></city>, Tessin versera </p> De sang, feux, morts, noyes de coup de taille. (II,26)


    คำแปล
    ชาวนครปารีสแสดงความชื่นชมยินดีกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของตน แต่ในไม่ช้าผู้นำนี้จะพ่ายแพ้ในสมรภูมิ เขาจะนำทัพไปตั้งรับที่ชายฝั่งแม่น้ำโป ภายหลังจากเกิดน้ำท่วมหนักที่ติชิโน และที่ติชิโนนี้จะมีการรบนองเลือด เกิดอัคคีภัย ความตาย การทำร้ายกัน และการจมน้ำตาย


    ตีความและวิเคราะห์
    กองทัพฝรั่งเศสที่แตกพ่ายแพ้จากการรบ ถูกกองทัพของฝ่ายตะวันออกไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด และกองทัพฝรั่งเศสอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถจะต้านทานการรุกคืบหน้าของกองทัพฝ่ายตะวันออกได้เลย ในขณะที่กำลังถอยหนีอยู่นั้น กองทัพของฝ่ายฝรั่งเศสจะปะทะกับศัตรูอีกครั้งหนึ่งที่ติชิโน ซึ่งฝ่ายฝรั่งเศสจะประสพกับความพ่ายแพ้อีกเช่นเคย กำลังพลในกองทัพจะล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ผู้บัญชาการกองทัพฝรั่งเศสประเมินสถานการณ์แล้วเห็นว่า หากสู้รบกับศัตรูต่อไป กำลังพลฝรั่งเศสจะต้องล้มตายมากยิ่งขึ้นอีก ดังนั้น เขาจะตัดสินใจถอนทหารออกจากสมรภูมิ เพื่อไปรวมตัวกันอีกครั้งหนี่งที่ลุ่มแม่น้ำโป ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี

     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 64 - 65 : น้ำท่วมเกาะอังกฤษ

    La grande <state>
    Bretagne</place></state> comprise d’ Angleterre</p> Viendra par eaux si haut a inonder
    La Lique neuve d’ Ausonne fera guerre,
    Que contre eux ils se viendront bander. (III,70)

    Grand <city>
    Pau</place></city>, grand mal pour Gaulois recevra,</p> Vaine terreur au maritime Lion :
    Peuple infini par la mer passera,
    Sans echapper un quart d’un million. (II,94)


    คำแปล
    บริเตนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่เป็นอิงแลนด์ จะถูกน้ำท่วมมีระดับสูงมาก ในขณะเดียวกัน ทางด้านสันนิบาตออสโซเนีย (ประเทศอิตาลีตอนใต้) จะทำสงครามต่อต้านการรุกของข้าศึก
    เมื่อฝรั่งเศสตระเตรียมต่อต้านความชั่วร้ายที่สำคัญที่แม่น้ำโป สิงห์ทะเล (บริเตน) จะตกอยู่ในห้วงมหันตภัย ประชาชนจะหนีออกทางทะเลจำนวนมากมายจนสุดคณานับ แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งในสี่ล้านคนไม่สามารถหนีรอดไปได้


    ตีความและวิเคราะห์
    ในขณะที่กองกำลังของอิตาลีซึ่งยังหลงเหลืออยู่กำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการมีชีวิตรอดอยู่ต่อไปและกองทหารฝรั่งเศสกำลังรับมือกับกองกำลังของฝ่ายตะวันออกที่แม่น้ำโปอยู่นั้น ทางด้านประเทศอังกฤษก็เกิดภาวะน้ำท่วมรุนแรง ถึงกับรัฐบาลและประชาชนอังกฤษต้องอพยพหลบหนีออกจากเกาะอังกฤษ ในการอพยพทางทะเลครั้งนี้ มีประชาชนชาวอังกฤษเสียชีวิตไปเป็นจำนวนประมาณ 250,000 คน
    เป็นที่แน่ชัดในคำพยากรณ์ของนอสตราดามุส ว่า จะเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในบริเตนใหญ่ แต่ที่จะประสพกับความสูญเสียอย่างร้ายแรงได้แก่เขต อิงแลนด์ กล่าวคือทางตอนใต้ของประเทศ ถ้าหากลองมองสำรวจดูในแผนที่ที่บอกถึงความสูงต่ำของพื้นที่แล้ว จะเห็นได้ว่า ส่วนของแผ่นดินที่อยู่ในอาณาบริเวณของอิงแลนด์ โดยทั่วไปจะต่ำกว่าพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่ทางภาคเหนือ คือในเขตสก็อตแลนด์ ในคำโคลงพยากรณ์อื่น ๆ อีกสามบท นอสตราดามุสได้กล่าวถึงเหตุการณ์อย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นบน เกาะสก็อตแลนด์ ความจริงแล้ว ในปัจจุบันสก็อตแลนด์ไม่ได้เป็นเกาะแต่อย่างไร แต่เมื่อ อิงแลนด์ทางตอนใต้ของอังกฤษจมอยู่ใต้น้ำ ก็ย่อมเป็นไปได้อย่างแน่นอนว่า สก็อตแลนด์จะกลายเป็นเกาะ เพราะผลของมหาอุทกภัยครั้งนี้
    โหรอื่น ๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบันอีกหลายคนเคยพยากรณ์เกี่ยวกับประเทศอังกฤษไว้ในลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น
    1) เอ็ดการ์ เคย์ซี (Edgar Cayce) โหรในมลรัฐเคนตั๊กกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา พยากรณ์ไว้ว่า วันหนึ่ง ในยุโรปตอนเหนือจะมีการเปลี่ยนแปลง ในชั่วพริบตา เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณี
    2) จอห์น เพนดรากอน (John Pendragon) คนทรงชาวอังกฤษ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 เคยพยากรณ์ไว้เช่นกันว่า ส่วนหนึ่งของกรุงลอนดอนจะจมอยู่ใต้น้ำ และแผ่นดินในที่ลุ่มของประเทศอังกฤษจะมีน้ำท่วมเจิ่งนองไปทั่ว
    3) มาดาม บลาวัตสกี (Madame Blavatsky) ซึ่งเป็นผู้ลึกลับและคนทรงในประเทศทางตะวันออก(รัสเซีย)เคยเขียนไว้เมื่อ พ.ศ. 2425 ว่าเกาะต่างๆ ในประเทศอังกฤษจะรวมอยู่ในดินแดนชาติอื่นๆที่ประสพกับความเสียหายอย่างร้ายแรงอันสืบเนื่องมาจากแผ่นดินถล่มและเกิดอุทกภัยครั้งร้ายแรง
    4) มัลทาซาร์ มาส (Malthasar Mas) โหรในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เคยนั่งทางในเห็นเกาะ ๆ หนึ่งถูกน้ำท่วมหนักจนถูกกลืนหายไปในทะเล หลังจากนั่งทางในแล้ว มัลทาซาร์ มาส ยังอ้างด้วยว่า ตนนอนหลับฝันเห็นภาพเหตุกาณ์ในขณะน้ำกำลังขึ้นทีละน้อย ๆ จนกระทั่งท่วมตึกรามบ้านช่อง ต่อมาน้ำก็ลดลงช้า ๆ จนกระทั่งสามารถมองเห็นหอคอยและตึกรามบ้านช่องส่วน บน ๆ อีกครั้งหนึ่ง
    และมีเสียงหนึ่งมากระซิบบอกเขาว่า สิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่นั้น คือ เกาะอังกฤษ ที่กำลังโผล่จากทะเลอีกครั้งหนึ่งหลังจากถูกน้ำท่วมอยู่ระยะหนึ่ง


    คำพยากรณ์ที่ 66 : แผ่นดินไหวในกรุงลอนดอน
    Le tremblement de terre a Mortara,
    Cassich saint George a demi perfondrez,
    Paix assoupie la guerre evaillera,
    Dans temple a Pacques abimes enfondrez. (IX,31)


    คำแปล
    จะเกิดแผ่นดินไหวที่มอร์ตารา (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี) ทิน เซนต์ ยอร์จ (ประเทศอังกฤษ) จะจมน้ำไปครึ่งหนึ่ง สันติภาพจะหลับและสงครามจะถูกปลุกให้ตื่น ในระหว่างวันอีสเตอร์ โบสถ์ (โบสถ์เวสต์มินสเตอร์ ในลอนดอน) จะร้าวเป็นรอยแตกขนาดมหึมา


    ตีความและวิเคราะห์
    คำพยากรณ์บทนี้ได้บรรยายถึงความพินาศย่อยยับที่จะเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยเชื่อมโยงแผ่นดินไหวซึ่งจะเกิดขึ้นที่มอร์ตาราในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี กับโศกนาฏกรรมที่ได้บรรยายไว้ในบรรทัดที่สองของคำพยากรณ์ว่า ทิน เซนต์ ยอร์จ จะจมน้ำไปครึ่งหนึ่ง ประเด็นที่น่าพิจารณาก็คือ พวกโฟนิเซียนโบราณเรียกดินแดนตอนใต้ของประเทศอังกฤษว่า เกาะดีบุก (Tin Island) ส่วนคำว่า เซนต์ ยอร์จ เป็นชื่อของนักบุญ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือในประเทศอังกฤษ เพราะเหตุนั้น คำว่า ทิน เซนต์ ยอร์จ ก็คือประเทศอังกฤษนั่นเอง ในคำพยากรณ์บทนี้ได้กล่าวไว้อีกครั้งหนึ่งว่า พื้นที่ ที่จะจมลงไปในน้ำครึ่งหนึ่ง นั้น หาใช่ดินแดนประเทศอังกฤษทั้งหมดไม่ แต่จะจำกัดอยู่เฉพาะในพื้นที่บริเวณอิงแลนด์เท่านั้น เป็นไปได้ไหมว่า แผ่นดินไหวในอิตาลีจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลันทั่วพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอังกฤษ ซึ่งน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้อาจจะทำให้เกิดภาวะกดดันจนทำให้เกิดแผ่นดินถล่มทลาย สั่นสะเทือนไปจนถึงภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลีก็ได้
    ในคำโคลงพยากรณ์ของนอสตราดามุสบทนี้ มีอีกประเด็นหนึ่งที่ชวนให้เกิดความสงสัย คือที่ระบุว่าจะมีโบสถ์แห่งหนึ่งเกิดรอยแตกร้าวขนาดมหึมา เมื่อพิจารณาคำพยากรณ์ทั้งบทก็เป็นไปได้ว่า โบสถ์แห่งนี้ถ้าไม่อยู่ที่มอร์ตารา ในประเทศอิตาลี ก็จะต้องอยู่ในประเทศอังกฤษ แต่หลังจากการตรวจสอบดูแล้ว ปรากฏว่าไม่มีโบสถ์ที่พอจะมีชื่อเสียงสำคัญในมอร์ตารา แต่ในประเทศอังกฤษมีโบสถ์แห่งหนึ่ง ที่นอสตราดามุสเคยกล่าวถึงในคำพยากรณ์ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น ในคำพยากรณ์ที่ชื่อว่า ศตวรรษที่ 8 ในบทที่ 53 นอสตราดามุสระบุถึงโบสถ์แห่งหนึ่งชื่อ โบสถ์แห่งพระอาทิตย์ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามช่องแคบอังกฤษด้านบาวโลน โบสถ์แห่งนี้ นายชาร์ลส์ เอ วอร์ด ชาว อังกฤษ ให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นโบสถ์เวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน โบสถ์สำคัญแห่งนี้สร้างคล่อมที่ตั้งเดิมของโบสถ์ อพอลโลแห่งสุริยเทพ ซึ่งถูกทำลายไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 697 ที่ตีความว่าจะเป็นโบสถ์เวสต์มินสเตอร์นั้น พิจารณาได้จากคำพยากรณ์อีกบทหนึ่งของ นอสตราดามุสที่ชื่อ ศตวรรษที่ 6 ในบทที่ 22 ซึ่งได้บรรยายถึงโบสถ์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนว่าเป็น โบสถ์สวรรค์ที่ยิ่งใหญ่
    อีกเหตุผลหนึ่งที่พอจะยืนยันว่าโบสถ์แห่งนั้นจะต้องเป็นโบสถ์เวสต์ มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอนอย่างแน่นอน ก็เนื่องมาจากว่ามีอุโมงค์ทอดยาวไปตามฝั่งเหนือของแม่น้ำเทมส์ ซึ่งอุโมงค์นี้ตัดลอดผ่านพื้นที่บริเวณย่านสะแตรนด์ ฟลีตสตรีต และคอร์นฮิลล์ ในกรุงลอนดอน ซึ่งหากมีแรงกดดันมาก ๆ ก็เป็นไปได้ที่อุโมงค์ยาวนี้จะพังทลายลงได้ง่าย ๆ ซึ่งผลของมันนอกจากจะทำให้พื้นผิวดินในลอนดอนยุบตัวลงเป็นบริเวณกว้างขวางแล้ว ก็ยังอาจจะทำให้พื้นของโบสถ์เวสต์มินสเตอร์พลอยยุบพังไปด้วยกัน
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 67 - 70 : ฝ่ายตะวันออกรุกรานชายฝั่งตะวันตกของประเทศอิตาลี
    Depuis Monech jusqu’aupres de Sicille
    Toute la plage demeurera desolee :
    II n’y aura faubourg, dite ni ville,
    Que par Barbares pillee soit et volee. (II,4)

    <city>
    Naples</place></city>, Palerme, et toute la Sicille,</p> Par main Barbare sera inhabitee :
    Corsique, Salerne et de Sardaigne I’IIe,
    Faim, peste, guerre, fin de maux intentee. (VII,6)
    Classe Gauloise n’approches de Corseigne,
    Moins de Sardaigne, tu t’en repentiras :
    Trestous mourrez frustres de I’aide grogne :
    Sang nagera:captif ne me croiras. (III,87)
    Je pleure Nisse, Mannego, Pize, gennes,

    Sauone, <city>
    Siena</place></city>, Capur, Modene, Malte :</p> Le dessus sang et glaive par etrennes,
    Feu trembler terre, eau, malheureuse nolte. (X,60)


    คำแปล
    ทั่วชายฝั่งประเทศอิตาลี นับตั้งแต่โมนาโคถึงเกาะซิซิลี จะเงียบเชียบราวกับป่าช้า พวกอาหรับจะเข้าปล้นสะดมทั่วทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล โดยไม่เว้นแม้แต่แห่งเดียว
    เนเปิลส์ ปาเลอร์โม และทุกหนทุกแห่งในเกาะซิซิลี จะกลายเป็นเมืองร้างเพราะน้ำมือของชาวอาหรับ คอร์ซิกา ซาเลอร์โน และเกาะซาร์ดิเนีย จะได้รับผลกระทบกระเทือนจากทุพภิกขภัย เชื้อโรคและสงคราม ไม่มีใครรู้เลยว่าความลำเค็ญเหล่านี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
    กองเรือรบฝรั่งเศส จะไม่สามารถรุกเข้าไปใกล้คอร์ซิกาและซาร์ดิเนียได้เลย แล้วเจ้าจะเสียใจ พวกเจ้าทุกคนจะต้องจบชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน โดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาคพื้นดิน พวกเจ้าจะต้องนอนจมกองเลือดของตน หรือไม่ก็ถูกจับตัว แต่พวกเจ้าก็จะไม่เชื่อข้า
    ข้าขอร่ำไห้เพื่อไว้อาลัยให้แก่เมืองนิช โมนาโค ปีซา เจนัว (บนฝั่งแม่น้ำริเวียรา) ซาโวนา เซียนา โมเดนา (ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี) และมอลตา เพราะดินแดนเหล่านี้จะได้รับเลือดและเหล็กเป็นของขวัญปีใหม่ จะเกิดอัคคีภัย แผ่นดินไหวและอุทกภัย โดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน


    ตีความและวิเคราะห์
    ในช่วงใกล้วันขึ้นปีใหม่ปีหนึ่ง กองทัพของฝ่ายตะวันออกจะเริ่มส่งกำลังรบจำนวนมากมายบุกชายฝั่งตะวันตกอันยาวเหยียดของประเทศอิตาลี รวมทั้งดินแดนภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตลอดจนเกาะซิซิลี เกาะคอร์ซิกา และเกาะซาร์ดิเนีย ของประเทศอิตาลี ฝ่ายตะวันออกจะทำสงครามเชื้อโรคและใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนอสตราดามุสบรรยายไว้ว่า เป็นไฟซึ่งจะทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน โดยการใช้อาวุธเหล่านี้ จะทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกประสพกับความสูญเสียอย่างหนัก กองเรือรบของฝรั่งเศสจะพ่ายแพ้ในการทำยุทธนาวีกับกองเรือรบของฝ่ายตะวันออกที่ทะเลอะเดรียติก และทหารเรือฝรั่งเศสจำนวนมากมายจะเสียชีวิตในการยุทธ์ทางเรือครั้งนี้ ส่วนผู้ที่รอดตายอยู่ในทะเลก็จะถูกล้อมจับและถูกสังหารในบริเวณใกล้ ๆ เกาะต่าง ๆ นั่นเอง


    คำพยากรณ์ที่ 71 - 73 : องค์สันตะปาปา จะถูกบีบบังคับให้เสด็จไปอยู่ยังดินแดนแห่งใหม่
    Par feu du ciel la cite presque aduste :
    L’urne menace encore Deucalion :
    Vexee Sardaigne par la punique fuste,
    Apres que Libra lairra son Phaeton. (II,81)
    Par la puissance des trois roi temporels,
    En autre lieu sera mis le saint siege :
    Ou la substance de l’espirit corporal,
    Sera remise et recus pour vrai siege. (VIII,99)
    La grande etoile par sept jours brulera,
    Nuee fera deux soleils apparoit :
    Le gros matin toute nuit hurlera
    Quand grand pontife changera de terroir. (II,41)


    คำแปล
    เมืองจะถูกเผาผลาญเกือบหมดจากไฟที่หล่นมาจากท้องฟ้า แอฟริกาเหนือจะส่งกองเรือรบ เข้าก่อกวนเมืองซาร์ดิเนีย และฝ่ายคริสต์ศาสนจักรจะต้องละทิ้งฐานแห่งอำนาจของตน
    ด้วยอำนาจของสามอาณาจักร ที่ทำการศาสนจักรโรมันคาทอลิก จะถูกย้ายให้ไปอยู่ที่อื่น และจะมีการเลือกตั้งฐานอำนาจของฝ่ายศาสนจักรองค์ใหม่
    ดาวดวงมหึมา (ดาวหาง) จะลุกเผาไหม้เป็นเวลา 7 วัน หมู่เมฆจะทำให้พระอาทิตย์สองดวงปรากฏขึ้นมา (การระเบิดของปรมาณู?) สุนัขใหญ่ตัวหนึ่งเห่าอยู่ตลอดคืน เมื่อองค์สันตะปาปาเปลี่ยนไปประทับอยู่ประเทศอื่น


    ตีความและวิเคราะห์
    เมื่อดาวหางดวงหนึ่งปรากฏอยู่บนท้องฟ้า จีน รัสเซีย และสหรัฐอเมริกาจะทำสงครามกัน ที่ทำการศาสนจักรโรมันคาทอลิกจะถูกบีบบังคับให้ย้ายออกจากเมืองหลวงเดิมที่กรุงโรม และในขณะที่ไปอยู่ในที่แห่งใหม่ จะมีการเลือกตั้งองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ เพื่อทำหน้าที่ปกครองศาสนจักรต่อไป
    เหตุการณ์ที่จะเป็นเหตุทำให้มีการย้ายที่ทำการของฝ่ายศาสนจักร โรมันคาทอลิก ซึ่งเกิดขึ้นในท่ามกลางความรุนแรงนั้น ได้เคยปรากฏในญาณวิถีของ องค์สันตะปาปา ปิอุสที่ 10 เมื่อปี พ.ศ.2452 คือในระหว่างที่ประชาชนกำลังเข้าเฝ้าอยู่นั้น องค์สันตะปาปา ปิอุสที่ 10 ทรงเข้าสมาธิ และเมื่อทรงออกจากสมาธิแล้ว พระองค์ได้ตรัสขึ้นด้วยพระสุรเสียงอันดังว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นมันน่ากลัวมากเหลือเกิน มันอาจเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในยุคที่ข้าพเจ้าเป็นประมุข หรือในยุคต่อ ๆ มา ซึ่งไม่อาจจะทราบได้อย่างแน่ชัด แต่ที่แน่นอนก็คือ องค์สันตะปาปาจะต้องสละกรุงโรม
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำพยากรณ์ที่ 74 : กองทัพฝรั่งเศสถูกลอยแพในภาคเหนือของอิตาลี
    Sur le sablon par un hideux deluge,
    Des autres mers trouve monstre marin :
    Proche du lieu sera fait un refuge,

    Tenant Savone esclave de <city>
    Turin</place></city>. (V,88)</p>

    คำแปล
    จะมีผู้พบสัตว์น้ำชนิดหนึ่งจากท้องทะเล ขึ้นมาจากคลื่นลูกใหญ่แล้ว โจมตีชายหาด สัตว์ตัวนี้จะหาที่พักพิงใกล้สถานที่แห่งหนึ่ง (ขึ้นบก) และจะเข้ายึดซาโวนา (ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี) เพื่อจะใช้เป็นฐานปฏิบัติการยึดเมืองตูรินต่อไป


    ตีความและวิเคราะห์
    กองทัพของฝ่ายตะวันออกจะปฏิบัติการรบแบบสะเทินน้ำสะเทินบกอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้รถถังดำน้ำได้เข้าโจมตีกองทัพของฝ่ายพันธมิตร ตามบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี โดยเฉพาะที่ซาโวนา ใกล้กับเมืองเจนัว ฝ่ายตะวันออกใช้จุดนี้เป็นหัวหาดที่จะบุกต่อไปยังเมืองตูริน ในการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ ฝ่ายตะวันออกมีจุดมุ่งหมายที่จะลอยแพกองทัพฝรั่งเศสซึ่งตั้งอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำโปไม่ให้สามารถใช้เส้นทางส่งกำลังบำรุงหลัก ที่ตัดผ่านเทือกเขาแอลปส์ไปยังประเทศฝรั่งเศสได้


    คำพยากรณ์ที่ 75 - 77 : กองทัพฝรั่งเศสพ่ายแพ้มากยิ่งขึ้น และเจ้าชายอัลเบิร์ตถูกจับ
    Par le torrent qui descend de Verone

    Pars lors qu’au <city>
    Pau</place></city> guiera son entree</p>
    Un grand naufrage, et non moins et
    Garonne</place>,</p> Quand ceux de Gennes Marcheront leur contree. (II,33)
    Peuple infini paritra a Vicence,
    Sans force, feu bruler la basilique :
    Pres de Lunage defait grand de Valence,
    Lorsque Venise par morte prendra pique. (VIII,11)
    Dedans le coin de Luna viendra rendre,
    Ou sera pris et mis en terre etrange,
    Les fruits immurs seront a grand esclandre,
    Grand vitupere, a l’un grande louange. (IX,65)


    คำแปล
    กองกำลังต่อต้านของฝรั่งเศส จะเคลื่อนทัพตามลำน้ำที่ไหลมาจากวีโรนา (แม่น้ำเอดิจ) ไปจนถึงแม่น้ำโป (ทางภาคเหนือของอิตาลี) แต่จะถูกกองทัพของฝ่ายตะวันออกซึ่งตั้งมั่นอยู่ใกล้เมืองเจนัวตีจนแตกพ่ายไป เมื่อนั้นเองกองทัพฝ่ายตะวันออกก็เข้าปิดล้อมฝรั่งเศส
    กองทัพฝรั่งเศสถอยร่นมาจนถึง วิเซนซา (ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี) จะซมซานมาอย่างอ่อนระโหย ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าจะปกปิดร่างกาย โบสถ์แห่งหนึ่งจะถูกไฟไหม้ องค์รัชทายาทแห่งโมนาโคจะประสพกับความพ่ายแพ้ที่บริเวณใกล้หุบเขาลูนิเจียนา เมื่อเมืองเวนิชถูกยึด
    พระองค์จะเข้าไปในหุบเขาลูนิเจียนา และถูกจับเป็นเชลยส่งไปยังต่างแดน นับเป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงของเหล่าทหารรักษาพระองค์ ที่จะได้รับแต่การตำหนิติเตียน แต่ลำพังพระองค์เองจะได้รับการยกย่องอย่างสูง


    ตีความและวิเคราะห์
    ในเวลาเดียวกับที่เมืองเวนิชถูกทำลาย และฝ่ายตะวันออกยกพลขึ้นบกที่ใกล้เมืองซาโวนาและเจนัว เพื่อที่จะโจมตีฐานที่มั่นของกองทัพฝรั่งเศส ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลีอยู่นั้น กองทัพฝรั่งเศสจะประสพกับความพ่ายแพ้ ในการรบกับกองทัพของฝ่ายตะวันออกที่ยุทธภูมิสองแห่ง คือครั้งแรก กองทัพฝรั่งเศสจะพยายามรบต้านทานศัตรูที่จะยกมาจากเมืองวีโรนา ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี โดยจะส่งกองทหารไปตามแม่น้ำเอดิจ เพื่อให้มุ่งหน้าต่อไปยังปากแม่น้ำโป ทั้งนี้โดยมีแผนการที่จะตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงของฝ่ายตะวันออกที่จะไปยังเมืองท่าเวนิช ที่ฝ่ายตะวันออกยึดได้แล้ว แต่ในการปะทะกันครั้งนี้ กองทัพของฝ่ายตะวันออกจะมีชัยชนะเหนือกองกำลังของฝ่ายฝรั่งเศส หลังจากนั้นกองกำลังของฝ่ายฝรั่งเศสจะยกกำลังหลบหนีขึ้นมาตามลำน้ำเอดิจ จนกระทั่งถึงเมืองวิเซนซา และ ณ จุดที่สองนี้ กองทัพของฝ่ายตะวันออกที่ติดตามมาอย่างกระชั้นชิด จะสามารถล้อมจับกองกำลังของฝ่ายฝรั่งเศสได้ทั้งหมด และจะเผาทำลายโบสถ์สำคัญแห่งหนึ่งที่อยู่ในเมืองนี้ด้วย
    ในบรรทัดที่สามของคำพยากรณ์บทที่ 2 เมื่อแปลโดยพยัญชนะจะได้ความว่า ใกล้ลูนิเจียนา ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวาเลนซ์ผู้หนึ่งจะพ่ายแพ้ ผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้หมายถึงผู้ที่จะถูกจับในการรบครั้งที่สองที่หุบเขาลูนิเจียนาในภาคกลางส่วนเหนือของประเทศอิตาลี ณ ที่นี้นี่เองที่โอรสของเจ้าชายโรเนียและเจ้าหญิงเกรซเกลลีซึ่งเป็นองค์รัชทายาทของรัฐโมนาโค จะถูกกองกำลังทหารของฝ่ายตะวันออกล้อมจับพร้อมกับกองกำลังทหารของกองทัพฝรั่งเศส พระองค์จะถูกจับเป็นเชลยที่บริเวณตอนกลางของหุบเขาลูนิเจียนา และถูกควบคุมตัวไปคุมขังในประเทศหนึ่งที่แถบตะวันออกไกล
    ในยุคของ นอสตราดามุส คำว่า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวาเลนซ์ หมายถึงผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นดยุคแห่งวาเลนตินัวส์ ในปี พ.ศ. 2185 ตำแหน่งนี้ถูกโอนไปถวายแก่เจ้าชายแห่งโมนาโค และตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ถือว่าตำแหน่งนี้เป็นขององค์รัชทายาทในโมนาโค ซึ่งเป็นรัฐเอกราชอยู่ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส มีนครหลวงชื่อมอนตีคาร์โล องค์รัชทายาทของโมนาโคในปัจจุบัน ได้แก่ เจ้าชายอัลเบิร์ต ทรงมีพระชนมายุครบกำหนดที่จะต้องเป็นทหารในยามบ้านเมืองคับขัน ฉะนั้น พระองค์ก็จะต้องถูกเกณฑ์เป็นทหารออกทำการสู้รบ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปได้ว่า พระองค์จะถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...