ได้รับพระธาตุเรียบร้อยครับ ไม่ทราบว่าบรรจุซองละ10องค์เช่นทุกครั้งหรือเปล่าครับเพราะเกินมา 2พระองค์ โมทนาครับ
มอบพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้า วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๐ เป็นวันสุดท้าย
ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 26 กุมภาพันธ์ 2007.
หน้า 34 ของ 40
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
ไม่มีอะไรมากครับ.... -
อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
ผมจะจัดส่งซองไปตามกติกา พร้อมค่าส่ง
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบุญวาสนาว่าจะได้บูชาหรือเปล่า(ทันตามกำหนดไหม)
เรื่องบูรณะพระโมคคัลลานะ โปรดแจ้งข่าวด้วย ศรัทธาอยากร่วมบูรณะครับ -
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
ผมไม่สามารถมอบพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้าให้คุณนริศ ชวนะฯ ได้เนื่องจากไม่ใช่ซองกันกระแทกครับ ขออภัยด้วยครับ
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
พี่ครับพระธาตุที่บอกว่าเป็นของพระโมคคัลานะที่ได้รับมา ปรากฏว่าไม่เหมือนกับที่เข้าใจ(เข้าใจผิดนะครับ)จึงอาจไม่ใช่พระธาตุพระโมคคัลลานะ แต่อาจเป็นของพระปัจเจกแต่สุดวิสัยที่จะรู้ครับ แต่จะหาผู้ตรวจสอบต่อไป
-
เผอิญผมทำงานแถวบริเวณนั้น...ไม่ทราบว่าบ้านของคุญเพชรมีกล่องนสพ.กรุงเทพธุรกิจและมีรถสีขาวจอดอยู่ใช่ไหมครับ..ผมจะได้ไปส่งซองได้ถูกครับ...ขออนุโมทนาด้วยครับ(verygood)
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
สมัยไปฝึกกรรมฐานที่วัดพาตื่นทำวัตรแต่ตีสี่ -
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ chaipat
เรียน พี่เพชร
ผมดูเวลา เข้ามาครั้งสุดท้าย 04.13 น. แสดงว่า ตี 4 ก็ยังไม่นอน
หรือครับ เอหรือว่ากายก็เป็นเรื่องของกาย และใจก็เป็นเรื่องของใจครับ
สาธุครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
. -
ได้รับพระธาตุสิวลีที่ส่งมาให้มาบูชาแล้วค่ะ
ขอขอบพระคุณมากค่ะ
ขอเล่าเหตุการณ์หน่อยนะคะ เมื่อวานได้นำมาบูชาและสวดมนต์ตามที่คุณเพชรแนบลิ้งมาค่ะ ขณะที่สวดอยู่ได้กลิ่นหอมมาก ๆ ค่ะ มีกลิ่นหอมเป็นช่วง ๆ ในขณะสวดมนต์บูชาพระสิวลี และพระธาตุรวมค่ะ
ขอบพระคุณมาก ๆ นะคะคุณเพชร ที่ได้มอบพระธาตุพระสิวลี เป็นสิริมงคลให้แก่ครอบครัวค่ะ -
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
ผมได้ถ่ายภาพพระสิวลีอรหันต์เถรเจ้าไว้รูปหนึ่ง ผมรักพระสิวลีองค์นี้มากครับ ซึ่งไม่ค่อยได้พบเห็นพระพักตร์ลักษณะนี้บ่อยนัก..
พระสิวลีองค์นี้ผมถ่ายภาพจากที่วัดท่าซุง ตรงบริเวณโบสถ์เก่า ใกล้กับศาลานวราช ด้วยกล้องรุ่นเก่า PENTAX MXไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ที่มา http://www.extrasoul.com/old7.html
<CENTER>ระวัง....การล่วงเกิน "ผู้มีธรรม"</CENTER>
เมื่อเขียนเรื่องการใช้ไหว้วาน "ผู้ทรงธรรม" แล้ว ก็เลยอยากจะเขียนถึงเรื่อง "การล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วย การใช้ไหว้วาน "ผู้ทรงธรรม" นั้น ก็เป็นสิ่งไม่อยู่แล้ว แต่การล่วงเกิน "ผู้ทรงธรรม" หรือ "ผู้มีธรรม" นั้นหนักกว่า บาปมากกว่า เพราะเป็นการล่วงเกิน เป็นการทำร้าย "ผู้ทรงธรรม" ไม่ว่าจะเป็นทั้งกายหรือใจ หรือจะด้วยเจตนาและไม่เจตนาก็ตาม เพราะ "ผู้มีธรรม" และ "ผู้ทรงธรรม" นั้น คล้ายกันในความหมาย ก็คือเป็นผู้ที่ยึดถือการกระทำความดี เป็นชีวิตจิตใจ เป็นสรณะ เป็นที่พึ่ง และเป็น "คนดี" ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
คำว่าเป็นคนดีนั้น หมายความว่า.... 1. ทำอะไรก็แล้วแต่.....มีประโยชน์ต่อตนเอง 2. ทำอะไรก็แล้วแต่.....มีประโยชน์ต่อคนอื่น 3. ทำอะไรก็แล้วแต่.....ไม่สร้างเดือดร้อนต่อตนเอง 4. ทำอะไรก็แล้วแต่.....ไม่สร้างเดือดร้อนต่อคนอื่น ต้องทำให้ได้ครบ 4 ข้อ เราจึงเรียกว่า "ความดี"
"ผู้มีธรรม"....ต้องทำ "ความดี" ทั้งต่อหน้าและลับหลัง "ผู้มีธรรม" นั้นมีทั้งภิกษุ สงฆ์ ผู้ทรงศีล นักบวช และฆราวาสที่มี "จิต" ดี เราไม่มีโอกาสจะทราบได้อย่างแน่ชัด 100 เปอรเซ็นต์เลยว่า...ใครบ้างเป็น "ผู้มีธรรม" นอกจากการสังเกต และการสันนิษฐานของเราเองและผู้อื่น "ผู้มีธรรม" นั้น ตัวท่านเองก็ไม่สามารถจะพูดให้ใครฟังได้ว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะบางทีตัวของ "ผู้มีธรรม" นั้นเอง ก็ยังไม่ทราบตัวท่านเองเลยว่า ท่านเป็นอย่างไร ? เพราะความเป็น "ธรรม" นั้น มันเป็นเรื่องของ "จิตใจ" ที่เกิดขึ้นมาจากความเป็น "ธรรมชาติ" ไม่สามารถหาซื้อจากที่ใดได้ อาจจะติดมาจากอดีต แล้วมา "ปรุงแต่ง" เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในภาวะปัจจุบัน
เพราะฉะนั้น เมื่อเราไม่รู้ว่าใครบ้างเป็น "ผู้มีธรรม" จงอย่าได้มีความประมาท เผลอไผลไปตำหนิติเตียน หรือทำร้ายท่านทั้งทางกายและใจ ด้วยใจที่เป็นอกุศล หรือต้องการประชดประชัน ตีวัวกระทบคราด ใช้คำไม่สุภาพ หรือล่วงเกินในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้จริง ความปลอดภัย เมื่อเราไม่รู้ว่าจะไป "ล่วงเกิน" ใครบ้างที่เป็น "ผู้มีธรรม" ควรทำอย่างนี้ เวลาจะออกความเห็นใด หรือกล่าวถึง ที่เป็นการกล่าวตรงข้ามกับความคิดเห็นหรือการกระทำของผู้อื่น ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใคร ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือหลับหลังใครก็ตาม ควรกล่าวถึงหรือเขียนด้วยความเป็นสุภาพชน ไม่ใช้ถ้อยคำกระแทกแดกดัน ประชดประชัน กล่าวส่อเสียด ดูหมิ่น เหยียดหยามหรือแสดงในสิ่งที่ไม่สมควรแสดง เพราะ "ผู้มีธรรม" ก็เป็นคนธรรมดา ย่อมมีความผิดพลาดได้เป็นของธรรมดา เมื่อทำผิดพลาด ก็ย่อมได้รับคำติเพื่อก่อ เพื่อสร้างสรรค์ เช่นคนอื่นได้เช่นกัน
เคยหรือไม่ ? ที่ท่านเองเคยมีคนหมั่นไส้ท่านอย่างไม่รู้สาเหตุ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ? เคยหรือไม่ ? ที่ท่านเคยถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจากคนอื่น บางครั้งก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ? เคยหรือไม่ ? ที่ท่านมักจะมึนงงกับปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่รู้ทางแก้ไข บางครั้งก็ไม่ทราบสาเหตุ เคยหรือไม่ ? ที่ท่านถูกกล่าวร้ายป้ายสีจากคนอื่น ทั้งๆ ที่ท่านไม่ได้ทำ บางครั้งก็ไม่ทราบสาเหตุ เคยหรือไม่ ? ที่ท่านพูดอะไรไปแล้ว ไม่มีคนเชื่อถือ หรือพูดอะไรไปแล้วคนไม่เชื่อ เหล่านี้คือ "กรรม" ที่ได้กล่าวล่วงเกิน "ผู้มีธรรม"
ตรงกันข้าม...ถ้าใครให้เกียรติ ให้ความเคารพ แม้ว่าจะติเพื่อก่อ หรือให้เหตุผลที่ตั้งบนความบริสุทธิ์ใจ "กรรม" ที่ได้รับก็คือ........ ไปไหน ทำอะไร พูดกับใคร ไหว้วานใคร ร่วมงานบุญกับใคร เจอะเจอใคร ? ก็มีแต่คนรักใคร่ เป็นที่ชื่นชอบ เป็นที่รัก เป็นที่เคารพของหมู่ชนทั่วไป ลองสังเกตคนใกล้ตัว ไกลตัว หรือคนที่คุณรู้จัก ...ที่เป็นที่รักที่เคารพของคนทั่วไป ที่ไม่ใช่เพื่อนยกยอปอปั้น ชื่นชมกันเอง (ประเภทเขียนเอง..ชมเอง หรือไหว้วานให้คนอื่นมาชมแทน) ว่าเป็นเช่นนี้หรือเปล่า ? ถ้าใช่ ก็แสดงว่าคนๆ นั้นให้ความเคารพ "ผู้มีธรรม" อย่างดี อาจารย์ผมคนหนึ่งชื่อ อาจารย์ วิสุทธิ์ ปัญจะ เวลาท่านจะแสดงความคิดเห็นใด ต่อผู้ที่คิดว่าน่าจะเป็น "ผู้มีธรรม" ท่านมักจะขึ้นต้นว่า "ขออนุญาต ขอสอบถามเพื่อศึกษา เพื่อเรียนรู้ ว่า......" นั่นคือผู้ที่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร แต่พวกเรา..ไม่ต้องขนาดนั้น ไม่ต้องนอบน้อมขนาดนั้นก็ได้ เพียงแต่ว่า พูดคุย แสดงความคิดเห็น หรือแลกเปลี่ยนความรู้ กล่าวถึง ด้วยความสุภาพอ่อนน้อมให้เกียรติคนอื่น ใช้กริยาวาจา (ข้อเขียน) ด้วยใจที่คิดว่ากำลังคุยกับเพื่อน ไม่ใช่คุยกับคนที่เกลียดขี้หน้ากัน การใช้วาจาตรงๆ ก็สามารถทำได้ เพราะการใช้วาจาพูดคุยกันตรงๆ ก็สามารถใช้คำพูดหรือข้อเขียนที่อ่อนน้อม สุภาพ ได้ คนปากกับใจตรงกัน หรือคนที่พูดตรงๆ ต่างจาก "คนปากพล่อย" มากมายนัก
ในที่นี้ผมเพียงจะพูดถึงเรื่องการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" เพียงการพูด ทั้งการพูดต่อหน้าและลับหลัง การกล่าวถึง การตำหนิติเตียนด้วยความไม่ชอบ ยังไม่ได้พูดถึงการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วยการกระทำ เพราะแค่ล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วยวาจา ด้วยการกล่าวถึง ยังต้องได้รับ "กรรม" ที่หนักหนาสาหัสแล้ว ถ้าล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ด้วยการกระทำด้วยแล้ว จะยิ่งสาหัสสากรรจ์มาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ผมได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้เป็นอย่างนี้ และได้ถูกสอนให้เห็นถึงการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" อย่างชนิดที่ไม่ได้ถูกแค่สอนด้วยวาจา แต่ผมโดนสอนด้วยการถูกลงโทษจริงๆ จึงรู้..จึงเข้าใจว่า...การได้รับ "กรรม" จากการล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" นั้น มันเจ็บปวดและทรมาน จึงไม่อยากให้ท่านที่พลั้งเผลอไปกล่าวล่วงเกิน "ผู้มีธรรม" ได้รับกรรมเช่นนั้น เมื่อเราไม่รู้ว่า ใครบ้างที่เป็น"ผู้มีธรรม" ก็จงอ่อนน้อมถ่อมตน ติเตียนด้วยความสุภาพ หรือแสดงความคิดเห็นด้วยใจที่ไม่มีอคติ... ทำอย่างนี้เอาไว้ก่อน...ปลอดภัยกว่ากันเยอะ ผม (อโณทัย) ไม่ใช่ "ผู้มีธรรม" เพราะยังมีอารมณ์ มีความโกรธ ไม่ได้เป็นคนดีทั้งต่อหน้าและลับหลังตลอด 24 ชั่วโมง หรือตลอดเวลา และไม่ได้ทำความดีครบองค์ประกอบ 4ประการ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ...ก็ตามใจท่าน ผมมีหน้าที่แค่ "บอก" "กรรม" ใดใครทำ คนนั้นเป็นคนรับครับ
อโณทัย เขตต์บรรพต
</PRE>
<!-- / message --><!-- sig --> -
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
ผมได้รับจดหมายขอรับพระธาตุจากเพื่อนท่านหนึ่งถึง 2 ครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สามารถจะมอบพระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้าให้ได้จริงๆ เจ้าของจดหมายมีหนังสือแบบเดียวกัน 2 ครั้งโดยไม่คิดจะปรับปรุงวิธีการที่เหมาะสมกว่านี้
พระธาตุสิวลีอรหันต์เถรเจ้านี้เป็นสิ่งสักการะแทนพระองค์ท่านที่สูงค่ายิ่ง ด้วยวิธีการมอบผ่านซองกันกระแทก กล่อง หรือซองจดหมายที่แข็งแรงเหมาะสมนั้น ก็นับว่าผมผ่อนปรนให้มากมายแล้ว ผมยังต้องขมาพระรัตนตรัยเลยครับ คุณลองไปคุยด้วยเหตุผลในลักษณะนี้กับคุณมาโนชที่เวป "รักษ์พระธาตุ" จะทราบว่ากฎเกณฑ์การมอบนั้นกระทำด้วยความเคารพ และศรัทธาอย่างแท้จริง ซองจดหมายตอบกลับในสภาพนี้(ซองตอบกลับลักษณะเดียวกับแบบนี้ ผมไม่ต้องการเปิดเผยชื่อผู้ส่งมา ขออภัยด้วย) และข้อความในจดหมายแบบนี้ ผมจึงไม่สามารถจะมอบให้ได้จริงๆ ความจริงผมไม่ได้รังเกียจคนจนนะครับ ขอให้เข้าใจตามนี้ด้วยครับ ต้องแยกให้ออกครับว่าการกระทำด้วยความเคารพ และเหมาะสมเป็นคนละเรื่องกับความยากจน และคำกล่าวอ้างว่า "ไม่มีเวลา" บางทีก็ไม่ต้องใช้เงิน หรือใช้เงินก็น้อยมาก ในกรณีที่ยังไงก็ต้องจ่ายมันก็จ่ายครับ เรียกว่า"ใช้เงินเป็น" รางวัลความสำเร็จทุกความสำเร็จต้องจ่ายด้วยราคาแพงด้วยกันทั้งนั้นครับ ไม่มีอะไรที่ได้มาแบบง่ายๆ และฟรีๆครับ ผมอยากให้ทราบคุณค่าของสิ่งที่กำลังมอบอยู่นี้ว่าสูงค่าเพียงใด หากไม่มีเงินไปซื้อซองเพราะเหตุผลว่า "จน" ผมยังสามารถพอจะนำเงินส่วนหนึ่งของเพื่อนๆที่ส่งมาสมทบเป็นค่าจัดส่งที่เหลือนั้นมาซื้อกล่องซื้อซองกันกระแทกส่งให้ได้ครับ แต่หากบอกว่า"ไม่มีเวลาไปที่ไปรษณีย์" อันนี้เป็นสาเหตุหลักที่ผมไม่สามารถจะมอบให้ได้ หากผมส่งมอบให้คุณ ก็ไม่คุ้มกับบาปที่ผมได้รับครับ เพราะขนาดนี้กิจกรรมเพียงครั้งเดียวในการขอรับพระธาตุนี้ ยังไม่สามารถทำให้ได้ ผมยิ่งมั่นใจว่าการที่จะปฏิบัติธรรมสักการะบูชาพระธาตุชุดนี้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เช่นกัน เพราะคือการสักการะบูชาเป็นกิจวัตรประจำวัน ก็คงจะ....ไม่มีเวลา.....
<!-- / message --><!-- sig -->ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
:::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี
วันนี้ผมได้ดำเนินการจัดส่งให้เพื่อนๆอีก 8 ท่านตามรายชื่อล่าสุดนี้ครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ขอโมทนาครับคุณเพชร นึกไม่ถึงจริงว่าจะได้มาบูชา เพราะปกติสวดคาถาบูชาพระสิวลีของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร ที่ท่านเขียนด้วยลายมือท่าน สวดอยู่เป็นประจำทุกวัน เช้าและก่อนนอนระลึกถึงพระสิวลีเถระและหลวงพ่อกวยอยู่มิได้ขาด ทำมาประมาณปีครึ่งแล้ว แล้วก็มีวาสนาได้พระธาตุของท่านมาบูชา ดีใจมากครับ เหมือนท่านเมตตามาให้บูชา ดีใจมากและขอบพระคุณมากครับ
อนุชา
หน้า 34 ของ 40