ถึงแม้ความกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติจะคลายไปได้หลายส่วน แต่หลายๆสำนัก หลายคำทำนายยังมุ่งประเด็นไปเกี่ยวพันกับวันที่ 21-12-2012 กันอยู่ และนี่ก็เหลือเวลาอีก 43 วัน ช่วงนี้ก็เหมือนกับเกลียวเชือกที่ถูกบิดจนใกล้จะขาด
กระทู้นี้เปิดขึ้นตามคำเรียกร้อง โดยมีวัตถประสงค์ดังนี้
วัตถุประสงค์ :
1. เก็บรวบรวมและเผยแพร่ข้อเท็จจริง และไม่มีจุดมุ่งหมายทำลายความน่าเชื่อถือของผู้ทำนาย ( discredit )
2. เพื่อให้เกิดความสะดวกในการค้นหาและติดตามสถานการณ์ล่าสุด
3. วิเคราะห์และวิจารณ์ด้วยเหตุผล
4. ตรวจสอบความถูกต้อง แม่นยำของผู้ทำนาย
รายละเอียดในการรวบรวม :
ผู้ทำนาย - ทำนายเกี่ยวกับ - เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิด - สถานที่ - ความรุนแรง - ช่วงเวลาที่จะเกิดภัย
เนื่องจากช่วง 8-12 พย ผมต้องเดินทางไปงานบุญกฐินที่ต่างจังหวัด อาจไม่สะดวกที่จะเข้าเวป ดูและอัพเดทกระทู้ ผมจะเปิดเอาไว้แล้วให้ท่านทั้งหลายช่วยหาข้อมูลมาลงไว้ แล้วค่อยๆ ย่อยเอาเฉพาะ สาระสำคัญ เพื่อรวบรวมลงในตาราง spreadsheet อีกที ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่ช่วยเป็นกำลังสำคัญในเรื่องนี้
.
รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย hiflyer, 8 พฤศจิกายน 2012.
หน้า 1 ของ 242
-
จากช่วงเวลา 21/12/12 ผมขอเสนออีกช่วงเวลานึงที่อยากให้ติดตามด้วยเช่นกันเนื่องจากมีการกล่าวไว้ในกระทู้นึงว่า 8-9 ธันวาคม 55 บวกเพิ่มอีก7 วัน จะเป็นช่วงที่ ประเทศไทยได้รับภัยพิบัติ และได้มีการแนะนำให้ไปเตรียมพร้อมที่สถานที่แห่งนึง อันนี้น่าจะเก็บไว้เพื่อพิสูจน์ข้อเท้จจริงอีกอันนึงครับ
-
ที่ผมเห็นรวบรวมไว้ก็เป็นของท่าน Survival
http://palungjit.org/threads/คลิปกา...ัยและสร้างที่หลบภัยครั้งสุดท้าย.359801/page-6
คงจะดึงเอาสาระสำคัญออกมาจาก แล้วลงในตารางอีกทีครับ -
จริงๆแล้ว ไม่ได้จำกัดช่วงเวลาหรอกครับท่าน zixma99 ตั้งแต่วันนี้ไปจน 2580 กันเลยหล่ะ และที่ผ่านมาแล้วก็จะทำเก็บไว้ด้วย
. -
"สาสน์จากชาวมายัน"จากองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
สาสน์จากชาวมายัน
องค์ความรู้ของ พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
เรียบเรียงโดย จีรพันธุ์ ประศาสน์วุฒิ
10 ธ.ค. 2553
http://palungjit.org/threads/ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์-รตนญาโณ.269042/page-13
. -
"เจาะลึกภัยพิบัติ พลิกวิกฤตให้เป็นทางรอด ครั้งที่ 2"
version: ต้อนรับปี 2012
ณ หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก กรุงเทพฯ
อาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2554 เวลา 8.30 น. - 17.00 น.
การสัมมนาและการบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมากด้วยประสบการณ์
เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุแห่งการเกิดภัยพิบัติต่างๆ
และภัยธรรมชาติที่เกิดอยู่ในปัจจุบันและอนาคต
พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ
ดร.สมิทธ ธรรมสโรช
ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์
รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ
ดร.ก้องภพ อยู่เย็น
http://palungjit.org/threads/ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์-รตนญาโณ.269042/page-10
. -
รวบรวมเฉพาะที่สำคัญๆ...และที่พระอาจารย์รัตน์เคยแจ้งไว้เป็นสาธารณะ...ครับ
หากมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น...จะมีการนำข้อมูลมา Update อีกครั้ง
. -
ขอบคุณท่าน ZZ ครับที่เข้ามาเจิมกระทู้ให้ ขอให้กระทู้นี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งด้วยเทอญ
. :d -
หมอดูอีที ทำนาย ปีหน้า(พ.ศ.2556 หรือ ค.ศ.2013)ประเทศไทยจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ -
ที่ผ่านมามีอะไรที่ท่านทายได้แม่นยำบ้าง หากใครมีข้อมูล รบกวนแชร์หน่อยนะครับ
. -
อย่าลืม...เด็กชายปลาบู่นะครับ.......ช่วงปีใหม่นี้ เขื่อนจะแตก
...........อ.อุบลบ้านสวนพีระมิด...........ออกจากกทม.ได้แล้วภัยมาปลายปี
...........อ.อาจอง.........................หวั่นพายุสุริยะปลายปี
...........ดร.เทพนมเมืองแมน.....................เอเลี่ยนบอกมาประมาณ21หรือปลายๆปีเหมือนกัน....คนใหญ่คนโตเสียชีวิต..มีสงคราม
..........อ.สมิทธิ์............ดวงดาวเรียงตัว ช่วง21/12/2012....สตอมเซริท์...มีดาวเฉียดโลก 14/2/2013
.........นาซ่า................21/12/2012.......พายุสุริยะครบรอบ11ปีระเบิดครั้งใหญ่
.........ใครบางคน..................โอบามาโดนลอบสังหารหลังขึ้นเป็นประธานาธิบดี2อาทิตย์
........ปฏิทินมายัน..........เปลี่ยนยุคไปสู่ยุคใหม่..ไม่ใช่โลกแตก
........ท่านอีที.2012แผ่นดินไหวใหญ่....(ไหวแล้วเมือชาวนี้ที่เม็กซิโก้ตายครึ้ง100แล้ว)....ปีหน่าแผ่นดินไหวใหญ่ในไทยและน้ำจะท่วมโลก
........ใครบางคน..............ฟ้าจะดับ..กทม.โดนสึนามิ
........ฯลฯ....เท่าที่นึกออกนะครับพอจะเป็นไลน์ในการวิเคราะห์ได้บ้างมั๊ยส่วนเนื้อหาเต็มลองช่วยกันหาดูนะครับ...ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยคับ -
ลืมอีกอันนึงครับ....ถอดรหัสในสิ้นโลกจากไมโครซอฟท์เวริด์ พิมพ์คำว่า AMERICAN
ตัวหนังสือ เป็น wingdings หรือบางเวอร์ชั่น จะใช้ wingdings1
มีเลข2 มีระเบิด มีเลข1
มีพระอาทิตย์ มีเลข5(เลข5อาจหมายถึงการชูมือขึ้นเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือเป็นการบังแสงหรือรังสีจากดวงอาทิตย์)
มีเลข1มีเลข2
มีหัวกะโหลก
ผมตีความตามรหัสดังนี้ครับ
วันที่ 21 มีการระเบิดของดวงอาทิตย์อย่างรุนแรง เดือน 12 ปี 12 มีคนเจ็บร้องขอความช่วยเหลือ และมีคนตาย ...(อาจดูติงต๊องหรือบังเอิญไปหน่อยนะครับสำหรับคำทำนายอันนี้)^^ -
เกิดในครอบครัวคนธรรมดา ไม่ได้พิการแต่กำเนิด
“ตอนเด็กๆ พ่อเป็นผู้จัดการธนาคาร เป็นคนธรรมดาสามัญชน ไม่ได้พิการแต่กำเนิด พออายุ 15 เขาไปไหว้พระ แล้วไม่สบายมากๆ อยู่ๆ หูก็หนวกไม่ได้ยิน พูดก็ไม่ได้ทั้งที่ตอนแรกพูดได้ มะตีตี้ห่างกับหมอดูอีที 2 ปี หมอดูอีทีจะพูดช้ากว่าคนอื่น สมมติคนอื่นพูดได้ตอน 2 ขวบครึ่งเขาก็จะพูดตอน 3 ขวบ อย่างเดินหมอดูอีทีก็เดินได้พร้อมน้องสาว หมอดุอีทีจะอยู่กับมะตีตี้ตลอด เวลาจะทำอะไรหมอดูอีทีก็จะทำตามน้องตลอด ตอน 3-4 ขวบพ่อแม่ก็สังเกตุว่าผิดปกติแล้ว แต่มารู้ชัวร์ๆ ตอน 9 ขวบ”
ต้องกลายเป็นคนพิการ แต่กลับได้ “ฌาน” พิเศษมาแทน
“แต่ตอนที่หูไม่ได้ยินเขากลับยิ่งได้พลังเยอะมาก เริ่มแสดงความมหัศจรรย์ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พูดอะไรก็แม่นมาก เขาสามารถบอกได้ว่าใครคือโจร ใครคือขโมย ตอนที่แสดงให้รู้ว่าหมอดูอีดูดวงได้ก็คือตอนที่เขาอายุ 9 ขวบ แล้วลุงของเขามาที่บ้านบอกว่าแหวนหาย แล้วก็จะจับคนแถวบ้านไปให้ตำรวจเพราะเข้าใจว่าเป็นคนขโมย แต่ตอนนั้นหมอดูอีทีหูยังได้ยินอยู่ เขาก็บอกว่าคนนี้ไม่ใช่ขโมยนะ แหวนมันอยู่ในลิ้นชักในตู้นั่นแหละ ให้ไปดูดีๆ ลุงก็เลยกลับไปค้นดูแล้วก็หาเจอจริงๆ เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนรู้ว่าหมอดูอีทีมีฌาณพิเศษ”
“หลังจากนั้นลุงก็กลับมาหาหมอดูอีทีอีก แล้วก็ให้หมอดูอีทีดูดวงให้ว่าตัวเองจะได้แต่งงานกับใคร เนื้อคู่เป็นใคร โดยที่ในใจก็มีคำตอบในใจอยู่แล้วว่าตัวเองชอบผู้หญิงที่เป็นไฮโซ เพราะลุงเป็นคนสนุกสนานเฮฮา ชอบไปปาร์ตี้ แต่หมอดูอีทีก็บอกว่าลุงจะได้แต่งงานกับคนบ้านนอก ลุงเขาก็ไม่เชื่อ แล้วมีวันนึงเขาก็ขับรถไปที่ภาคกลางของพม่า แล้วที่นั่นมีต้นตาล ไปกินน้ำตาลแล้วเมา ก็เลยมีคนแก่คนนึงพาไปที่บ้าน แล้วลุงก็ไปพบรักกับสาวบ้านนั้น ทุกคนก็เลยรู้ว่าหมอดูอีทีมีฌาณพิเศษตอนนั้น แต่พ่อก็กลัวว่าหมอดูอีทีจะเป็นอันตราย พ่อเขาก็เลยไม่อยากให้ดูหมอ ตอนที่พ่อเกษียณหมอดูอีทีก็บอกว่าจะเป็นคนหาเงินเลี้ยงครอบครัวเอง จึงได้มีหมอดูอีทีมาจนทุกวันนี้”
มีฌาณพิเศษขนาดนี้จึงไม่แปลกที่หมอดูอีทีจะเห็นผีสางนางไม้
“หมอดูอีทีสามารถเห็นผีได้ มีคนรวยที่อินโดนีเซียจะซื้อบ้าน ก็เชิญหมอดูอีทีไปดูให้ พอหมอดูอีทีไปเขาก็ถอย ไม่ยอมเข้าบ้าน เพราะเขาเห็นผู้หญิงคนนึงท้องและตายอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่เขาก็กลัวมาก ตอนนี้ก็ยังกลัว อย่างเวลาไปไหว้พระเขาก็เห็นสิ่งศักดิ์สิทธ์”
“แต่ก็มีเหมือนกันที่เขากลัวกับการที่เห็นสิ่งเหล่านี้ เขาเคยอยากเป็นคนธรรมดา เพราะแล้วอย่างเวลาที่เขาต้องช่วยคน อย่างคนที่โดนไสยศาสตร์มา แล้วหมอดูอีทีต้องช่วยเอาออก เขาก็ต้องโดนด้วย เขาก็เหนื่อยล้าเหมือนกัน ก็เลยทำให้บางทีเขาก็ไม่อยากดูหมอแล้ว แต่พอได้ช่วยคนเขาก็คิดว่าชาติหน้าจะได้ไม่พิการ เขาก็เลยยินดีจะทำต่อไป บางครั้งหลังจากทีทำนายแล้วหมอดูอีทีรู้สึกว่าพลังเขาต่ำลง ก็เลยเหมือนกับว่าต้องชาร์ตแบต เขาก็เลยต้องนั่งสมาธิ แต่เขานั่งสมาธิตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว”
มหัศจรรย์ถึงขั้นรู้อดีตชาติของตัวเองว่า ชาติก่อนเคยหักมือแม่ ชาตินี้ก็เลยพิการ
“ตอน 2 ขวบหมอดูอีทีพูดได้ เขาก็เลยบอกว่าอดีตชาติเขาเคยหักมือแม่เขา พอแม่เขาตายไป แล้วเขาโตขึ้นมาก็ไปเป็นมัคทายกของวัด แล้วถูกโจรที่มาปล้นวัดเอาน้ำร้อนมาลวกตนทั้งตัว พอเกิดมาชาตินี้ก็เลยเกิดมาร่างกายไม่สมบูรณ์”
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่าเจ้าตัวมีพลังอะไรหรือเปล่า ถึงได้แม่นราวกับมีพรายกระซิบนั้น “มะตีตี้” น้องสาว ได้เฉลยว่า...
“เขาบอกว่ามีแม่เขาที่เป็นเทวดาที่ดูแลเขาอยู่ เป็นคนบอกให้เขาบอกคน ดูดวงให้คน เวลาเขาจะทำนายดวงก็จะมีเทวดาซึ่งก็คือแม่เขาเป็นคนบอก ตอนเด็กๆ เขาไม่ต้องอ่านหนังสือเลย แต่เวลาสอบได้ที่หนึ่งตลอด เพราะแม่เขาบอก”
เห็นหมดูอีทีฟันเงินค่าดูดวงได้เดือนละ 350 ล้าน มีคนทุกระดับบินไปดูดวงด้วย แต่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ดูทุกคน
เครดิตจากเวปผู้จัดการ อ่านฉบับเต็มได้ที่
Entertainment - Manager Online - “หมอดูอีที” เผยปมพิการเพราะชาติก่อนเคยหักมือแม่ รวยอื้อฟันค่าแม่นเดือนละ 350 ล้าน!
อีกหนึ่งข้อมูล
หมอดูอีที เป็นหญิงชาวพม่า อายุ 42 ปี ชื่อ อีที (ET) เป็นคำย่อของ อีติ (E Thi) หรือ มะขุ่ย ลักษณะร่างกายนั้น เป็นหญิงรูปร่างเล็ก เป็นใบ้ หลังค่อม นิ้วคด เท้าพลิก มือเกร็ง ว่ากันว่า หมอดูอีทีคนนี้ สามารถทำนายโชคชะตา ดูดวงบ้าน ดูดวงเมือง ได้แม่นราวกันตาเห็น ซึ่งบรรดานักการเมืองระดับบิ๊กเบิ้มจากทั่วโลก ก็ได้เดินทางมาให้ หมอดูอีที ช่วยทำนายดวงให้ ไม่เว้นแม้แต่นักการเมืองไทย หรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเรา โดยอัตราการดูหมอนั้น คิดค่าบริการครั้งละ 1,000 US หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 30,000 บาท ส่วนคิวการดูดวงกับหมอดูอีทีนั้น ต้องต่อคิวยาวหลายต่อหลายเดือนเลยทีเดียว
สำหรับการดูดวงของหมอดูอีทีนั้น เราไม่สามารถสื่อสารกับหมอดูได้โดยตรง เนื่องจากหมอดูอีทีเป็นใบ้ หมอดูอีทีจะทำนายโดยให้น้องสาว และญาติ ๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้เป็นล่าม ผ่านการอ่านปากของหมอดูอีที แล้วญาติก็จะเขียนใส่กระดาษให้กับผู้ที่รับการทำนาย ส่วนฐานะการเป็นอยู่ของหมอดูอีทีนั้น อาศัยอยู่ในบ้านธรรมดา เขตติงกานจูน (Thingangyun) รอบนอกกรุงย่างกุ้ง แต่เมื่อเทียบกับคนพม่าแล้ว เปรียบได้ว่า ครอบครัวของหมอดูอีทีร่ำรวยเหมือนมหาเศรษฐีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ การดูดวงของหมอดูอีที ไม่ใช่แบบที่เราพบเห็นทั่วไป เช่น เตือนให้ระวังของหาย จะแต่งงานเมื่อไร จะป่วยเป็นอะไรหรือไม่ แต่หมอดูอีทีจะทำนายในลักษณะ เช่น การงานจะมีคนอุปถัมภ์หรือไม่ เป็นชายหรือหญิง งบที่ขอไปจะผ่านหรือไม่ บริษัทจะเป็นอย่างไร งานไหนจะได้ดี งานไหนประมูลได้ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละเคสของการดูดวงของหมอดูอีทีนั้น จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที หรือประมาณ 7-8 คำถามต่อคน เท่านั้น ส่วนที่หมอดูอีทีสร้างความทึ่งให้กับผู้คนอย่างมากก็คือ การทำนายเลขแบงค์ ไม่ว่าแบงค์ดอลล่าร์ หรือแบงค์ประเทศอะไร หมอดูอีที ทำนายได้ตรงเป๊ะ ๆ ทุกตัว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ หมอดูอีทีได้ทุ่มเงินที่ได้จากการทำนายดวงชะตา นำมาก่อสร้างโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลาง มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท ในนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ชาวพม่าผู้ยากไร้ โดยได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา (2554) และมีข่าวแว่ว ๆ ว่า หมอดูอีที อาจจะเลิกดูดวงก่อนที่โรงพยาบาลจะสร้างเสร็จ
ที่มา kapook.com
...............
จุดนี้ผมขอตั้งข้อสังเกตุตรงที่เหตุใดในเมื่อน้องสาวของหมอดูพูดเขียนอ่านภาษาอังกฤษได้จึงไม่อธิบายให้ผู้ไปดูฟัง แต่ใช้วิธีเขียนเป็นคำหรือประโยคสั้นๆและกำกวมประเภทตีความได้หลายอย่าง อย่างที่ในบอร์ดนี้ก็ตีความไม่ตรงกันเช่นในกระทู้นี้
http://palungjit.org/threads/คำทำนา...ระเทศไทยปี-2012-2013-เรื่องจริงผ่านจอ.338112/ -
เดือนละ 350 ล้านบาทไทย???
OMG!!!!
:eek::eek::eek::eek::eek: -
แต่จากที่ฟังๆมาผมว่าเป็นแผนโปรโมทกันมากกว่า ลักษณะทฤษฎีสมคบคิดเพราะที่ดังมากๆเห็นจะเป็นเรื่องผู้นำพม่าย้ายเมืองหลวงตามคำทำนาย ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะหาความเป็นไปได้ยากเต็มทีว่าระดับผู้นำประเทศจะคิดทำอะไรใหญ่โตขนาดนี้เพียงแค่คำทำนาย หากจะบอกว่าเป็นผู้นำก็มีความเชื่ออย่างนี้ได้ผมก็ไม่เถียงหรอกของไทยก็มีให้เห็น แต่ถึงเชื่อมันก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลใช้กับตัวเองได้ครอบครัวได้ แต่คงไม่นำมาใช้ตัดสินใจในการบริหารประเทศ
รู้สึกว่าหลังเกิดภัยพิบัติที่พม่าข่าวนี้ก็มีออกมาแล้วขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราก็ได้ยินข่าวเรื่องหมอดูราคาแพงกัน หลังจากนั้นก็แล้วแต่ใครช่องไหนรายการไหนไปทำข่าว หลังๆมาก็สร้างหนังและขยายภูมิหลังกันใหญ่
ค่าครองชีพพม่าเป็นอย่างไรเราก็รู้ๆกันอยู่ 350ล้านต่อเดือนนี่สุดยอด มีใครได้บ้างน่ะในฐานะเป็นคำแพงให้นั่งพิง -
ผมขอร่วมอนุโมทนาบุญและกุศลกับท่านhiflyerด้วยครับ (สาธุ_/|\_) ส่วนของผมก็วันอาทิตย์นี้ครับงานทำบุญทอดกฐินสามัคคี ณ วัดแถวๆบ้านครับ ^_^
-
ปล.
"ค่าครองชีพพม่าเป็นอย่างไรเราก็รู้ๆกันอยู่ 350ล้านต่อเดือนนี่สุดยอด มีใครได้บ้างน่ะในฐานะเป็นคำแพงให้นั่งพิง"
ตัวหนังสือสีแดงผมไม่ได้พิมพ์ผิดน่ะครับ แต่ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นจะมี 2 ความหมายอยู่ในนั้นครับ
1.ความหมายจากตัวอักษร "คำแพง""แพงจริงๆ ดูแต่ล่ะครั้งก็ประมาณ 15 นาที 30,000บาท" แพงมั๋ยล่ะครับ
2.ความหมายจากคำพ้องเสียงกลายๆ "กำแพง"
บอกไว้ก่อนครับเดี๋ยวใครหาว่าผมเขียนผิด เดี๋ยวผิดเจตนาในการเขียน -
ขอบคุณท่าน Sestulee สำหรับความรู้เกี่ยวกับหมอดูอีทีนะครับ
15นาที 3หมื่นบาท ตกนาทีละ 2,000.- คงเหมาะกับคนระดับสูงเท่านั้นครับ
จะว่าไปก็สมเหตุสมผลนะครับ ท่านไม่ผิดหรอกที่ตั้งราคาระดับนี้ เพราะได้ยินมาว่าเงินส่วนใหญ่ท่านก็เอาไปทำนุบำรุงศาสนา และหากเรียกค่าดูน้อยกว่านี้ ชาวบ้านระดับกลางๆก็คงแห่กันไปดูมากโข ลำบากท่านเปล่าๆที่ต้องมาคอยตอบคำถามเรื่องรักๆใคร่ๆ
ส่วนตัวมองว่าหากไม่มีเงินดูหมอ ก็ทำปัจจุบันให้ดี แล้วอนาคตก็จะดีตามเองแหล่ะครับ
. -
แล้วก็นำเงินมาทำบุญทำนุบำรุงศาสนาอย่างที่ท่านบอกครับ อีกอย่างที่ผมว่าประเสริฐยิ่งคือเค้านำเงินมาสร้างโรงพยาบาลรักษาฟรีให้แก่คนยากคนจนซึ่งผมว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ควรค่าแก่การยกย่องมากกว่าความสามารถในการดูหมออีก เป็นสิ่งที่สวนทางกับการกระทำของพวกหูดีตาดีครบ32มีญาณบารมีสูงส่งหลายๆท่านซะอีก -
Aunyasit สมาชิก
ขอให้ญาติธรรมที่ลงทะเบียนเข้าพักที่พุทธสถาน ไปรวมตัวกันที่พุทธสถานในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. 55 ครับ ถ้าท่านใดสามารถพักอยู่ที่พุทธสถานได้ถึง 7 วันก็จะดีมากเพราะช่วงตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. เป็นต้นไป ประเทศไทยจะมีความเสี่ยงกับภัยพิบัติมาก
และในช่วงวันที่ 24-25 พ.ย.นี้ทางพุทธสถานจะจัดงานบุญถวายฉัตรพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ รวมทั้งปิดทองพระเกศหลวงพ่อโต บ้านสันติสุข ต.สีกาย อ. เมือง จ. หนองคายและทำบุญสมโภชน์ฉัตรเศียรและฉัตรข้าง ถวายหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ที่หลวงปู่ทองทิพย์ ท่านได้สร้าง/ปั้นไว้เมื่อประมาณปี 2500 โดยท่านได้บำเพ็ญบารมีอดอาหารทั้งพรรษาเพื่อสร้างหลวงพ่อโต โดยหลวงปู่ท่านเริ่มปั้นหลวงพ่อโตในวันเข้าพรรษาและเสร็จพอดีในวันออกพรรษา
ในช่วงกลางคืน วันที่ 24 พ.ย. จะมีการสวดมนต์ ภาวนาและในช่วงดึกจะอาราธนาปู่อชิตะ ท่านจะลงมาประสิทธิ์ครอบแก้วให้กับญาติธรรม เพื่อเป็นศิริมงคลและไว้เป็นเป็นภูมิคุ้มกันตนเองในยามภัยพิบัติ สำหรับครอบแก้วนั้นจะเป็นครอบแก้วห่อหุ้มตนเอง แบบเดียวกับผู้ที่สามารถอัญเชิญบารมี 30 ทัศน์มาห่อหุ้มตนเองครับ
นอกจากนั้นจะมีการทำบุญตักบาตรถวายพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ในช่วงเช้าของวันที่ 25 พ.ย ด้วยครับ
6-11-2012, 3:50 PM
ที่มา http://palungjit.org/threads/f178/f178/%E0%...343175.23/
....................
จากที่ผมก๊อปมาวางขออนุญาติตั้งข้อสังเกตุดังนี้ เพื่อสมาชิกทั้งหลายได้ร่วมกันพิจารณา
1.ไปรวมตัวกันที่พุทธสถานในช่วงวันที่ 8-9 ธ.ค. 55
****สรุปคือให้เดินทางไปถึงที่พุทธสถานก่อนวันที่ 10 ธ.ค.55 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของการเกิดภัยพิบัติ****
2. ถ้าท่านใดสามารถพักอยู่ที่พุทธสถานได้ถึง 7 วันก็จะดีมาก
****สรุปว่าถึงก่อนวันที่ 10ธ.ค. และอยู่ต่อถึง 7 วันจะดีมากคือถึงวันที่ 17 ธ.ค.นั่นเอง หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับได้****
3. ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. เป็นต้นไป ประเทศไทยจะมีความเสี่ยงกับภัยพิบัติมาก
****สรุปว่าหลังวันที่ 10 ธ.ค.2555 ทุกวันมีโอกาสเกิดภัยพิบัติได้ทั้งนั้นและไม่รู้ว่าภัยพิบัตินั้นจะหยุดเมื่อไหร่****
ปล. แล้วพวกที่เดินทางกลับจากพุทธสถานหลังอยู่ครบ 7 วันแล้วดีล่ะ จะไม่เสี่ยงต่อภัยพิบัติเหรอครับ
หน้า 1 ของ 242