รวมบทความ ที่เป็นประโยชน์กับชีวิต ของกลุ่มประสานงานฯ(เขากะลา)เพื่อออกจากทุกข์ ทำทันทีได้ทันที

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย MOUNTAIN, 3 ธันวาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <table id="post2487021" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td style="border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;" class="thead">เมื่อวานนี้, 11:51 PM </td><td style="border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" class="thead" align="right"> #12347 </td></tr><tr valign="top"><td style="border-style: solid; border-color: rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" class="alt2" width="175"><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2487021", true); </script>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,858
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,747
    ได้รับอนุโมทนา 43,338 ครั้ง ใน 1,767 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1115 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td><td style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);" id="td_post_2487021" class="alt1"><!-- google_ad_section_start -->
    ระบบปฏิบัติการ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน
    <o>
    มีผู้รับผิดชอบโครงการคือ ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต

    <o>
    มีผู้รับข้อมูลตรงจากระบบใหญ่ คือตรงจากผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต
    <o></o>
    คือ คุณวาสนา ชื่นสำนวน
    ผู้รับผิดชอบแผนกขับเคลื่อนระบบ และ maintenance ระบบ

    <o>
    จะเป็นผู้ถ่ายทอดข้อมูลจากระบบ ให้กับผู้รับผิดชอบอีก 3 แผนกได้รับทราบในโครงการช่วยเหลือภัยพิบัติในครั้งนี้

    <o>
    และมีการแยกแผนกออกเป็น 4 แผนก เพื่อรองรับงานภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น

    <o>
    ดังนั้น นโยบายการปฏิบัติ การทำงานแบบเป็นทีม จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับระบบ
    <o>
    เพราะหากไม่มีการทำงานเป็นขั้นตอน เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติ จะไม่สามารถดำเนินงานได้ในแนวทางเดียวกัน

    <o>
    เหมือนสหประชาชาติ ชาติต่าง ๆ มารวมกันมากมาย แล้วใครจะสั่งใครได้ ทุกชาติก็มีหัวหน้าของตนเอง แต่ถามว่า แล้วเข้าไปอยู่รวมกันแล้ว ทุกคนย่อมไม่รู้ว่าจะทำอะไร ทำตอนไหน ทำที่ใด<o></o>
    <o>
    ดังนั้น จึงต้องมีผู้รับผิดชอบในแต่ละโครงการ เช่น โครงการช่วยเหลือภัยพิบัติหากเกิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย

    <o>
    สมมุติว่าอังกฤษรับผิดชอบโครงการ ก็จะเป็นผู้สั่งการ ให้แต่ละประเทศไปช่วยเหลือจุดใด ตรงไหน ประเทศใดช่วยด้านใด ไทยไปประจำที่เมืองนี้ ทำหน้าที่รักษาคนป่วย อีกประเทศไปยังจุดนี้ ทำหน้าที่กู้ซากที่ทับถม อีกประเทศไปจุดนี้ ทำหน้าที่.....

    <o>
    ก็จะต้องมีการรับนโยบาย รับแผนงานก่อน แล้วผู้นำในแต่ละหน่วยจึงมีคำสั่งให้ผู้ปฏิบัติการไปดำเนินการตามนั้น
    <o>
    หากไม่มีใครเป็นผู้วางแผน ไม่มีใครสั่งการ ไม่มีใครรับผิดชอบงานแต่ละส่วน ก็จะเกิดโกลาหล ด้วยไม่รู้จะทำอะไร ไม่รู้จะไปฟังใคร ไม่รู้จะช่วยอะไรก่อนหลัง
    <o>
    ซึ่งสถานการณ์นั้น เป็นการทำงานเดี่ยว ตามกำลังตนเอง และย่อมไม่มีประสิทธิภาพ

    <o>
    ดังนั้น การทำงานเป็นทีม แล้วมีทีมสนับสนุน มีระเบียบแบบแผนนั้น ย่อมมีประสิทธิภาพสูง
    <o></o>
    ดังนั้น ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา ระบบได้มีการฝึกกลุ่มแรกขึ้นมา และได้ถ่ายทอดทฤษฎีระบบ ให้มีความเข้าใจในกลไกระบบ

    <o>
    มีการแยกแผนก ทั้ง 4 แผนก ให้เหมาะสมกับงานที่ระบบวางไว้

    <o>
    มีการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบแผนก ทั้ง 4 แผนกไว้ เพื่อรองรับงานที่จะเกิดขึ้น และเพื่อรองรับนโยบายของระบบในหน้าที่ตามงานนั้น ๆ
    <o></o>
    ซึ่งผู้รับผิดชอบทั้ง 4 แผนก ได้ถูกฝึกฝน ได้ถูกอบรม และถูกเคี่ยวกรำให้มีความเชี่ยวชาญ ให้มีความแม่นยำในทฤษฎีระบบ

    <o>
    เพื่อที่จะถ่ายทอดต่อไปยังผู้ปฏิบัติงานที่จะมีเพิ่มขึ้นในหน่วยงานต่อไป

    <o>
    ดังนั้น พี่สุดใจ ในฐานะผู้รับผิดชอบแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดข้อมูล ทฤษฎีระบบ ขยายระบบ ให้คำชี้แนะ เป็นที่ปรึกษา และคงความเรียบร้อยภายในหน่วยงาน

    <o></o>
    จึงต้องถ่ายทอดข้อมูล และจัดหาผู้ร่วมงานตามขั้นตอน ถ่ายทอดข้อความระบบให้กับสมาชิกใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับระบบ ทั้งด้านธรรมะคือประโยชน์ตน และทางด้านทฤษฎีระบบเรื่องนโยบายเพื่อการทำงาน

    <o>
    ตลอดระยะเวลานับปี ที่ดำเนินการถ่ายทอดทฤษฎีระบบ และขยายระบบให้กับสมาชิกที่สามารถมารับทราบในโครงการขั้นลึกนั้น

    <o></o>
    และพี่สุดใจ ก็ยังคงต้องไปรับการขยายระบบ เพื่อรับนโยบายการให้ความช่วยเหลือมนุษย์โลก จากผู้รับผิดชอบโครงการนี้ คือผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต โดยผ่านมาทางผู้รับผิดชอบแผนกขับเคลื่อนระบบฯ ควบคู่กันไปด้วย

    <o>
    ดังนั้น เรื่องบางเรื่อง ระบบจะปล่อยให้ผู้ทำงาน ทำงานได้โดยอิสระ จะไม่ไปแทรกแซง หรือไปสั่งการใด ๆ เป็นการให้บุคคลนั้น ๆ รับข้อมูลตรง และปฏิบัติไปตามแต่ละคนได้รับ

    <o>
    แต่บางเรื่อง หากมีการปฏิบัติที่ไม่ตรงตามนโยบายระบบ ไม่ตรงตามทฤษฎี อาจทำให้งานของระบบที่วางไว้ เกิดการผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้

    <o>
    ระบบก็จะดำเนินการส่งข้อมูลตรงลงมาจากระบบ มายังผู้รับผิดชอบแผนกนั้น ๆ ให้คัดกรอง ให้ชี้แจง เพื่อดำเนินการให้ตรงตามแนวทางที่ระบบได้วางไว้

    <o>
    คือเป็นการคัดกรองในเรื่องที่สำคัญ ๆ อีกชั้นหนึ่งนั่นเอง

    <o>
    ดังนั้น ระบบจึงต้องให้ผู้รับผิดชอบแผนกนั้น ๆ เป็นผู้ชี้แจง และเป็นผู้ดำเนินการให้ภายในหน่วยงานนั้น ๆ ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน

    เรื่องของภัยพิบัติ เป็นเรื่องใหญ่ที่มิใช่เป็นความรับผิดชอบของใครคนใดคนหนึ่ง

    การทำงานเป็นระบบ จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง
    <o></o>

    จึงขออธิบายทำความเข้าใจเพื่อให้รับทราบ ดังข้อความข้างต้นนี้</o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o></o>​
    <!-- google_ad_section_end -->
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2009
  2. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2495582 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 10:41 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#12413 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2495582", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,877
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,800
    ได้รับอนุโมทนา 43,667 ครั้ง ใน 1,786 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1117 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2495582 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->"ระบบ"


    ตอนที่ 1




    กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

    หากได้ยินชื่อ หลายคนอาจจะมีความคิดว่า ชื่อกลุ่มก็บอกแล้วว่า ประสานงานเพื่อการเตือนภัย แล้วทำไมจึงมีแต่มุมมองของธรรมะ มีแต่การปฏิบัติธรรม มีแต่การมุ่งเน้นให้ปล่อยวาง ให้เห็นความว่าง ละวางอัตตาตัวตน ให้รู้เท่าทันอุปาทานขันธ์ห้า ที่มันไม่ได้เป็นตัวเรา ของเรา

    เน้นแต่ปฏิบัติเพื่อออกจากอุปาทานขันธ์ห้ากันอย่างเข้มข้น

    แล้วยิ่งทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวด้วยแล้ว เป็นเวลานานนับ 10 ปีแล้ว ทำไมมนุษย์ต่างดาวจึงไม่เตือน ไม่มาปรากฏอย่างชัดเจน ไม่มาฟันธงวันที่จะเกิดภัยพิบัติลงไปเลยล่ะ

    แล้วเตือนภัยพิบัติ ตรงไหน?

    นี่คือคำถาม ที่หลายคนสงสัย ต้องการได้คำตอบ ต้องการทราบในโครงการของมนุษย์ต่างดาวที่ได้วางไว้

    ในวันนี้ จึงต้องแจ้งให้ท่านทราบ ในเรื่องของโครงการระบบ ในเรื่องของการเดินทางมาจากหลายดวงดาว ที่มาโลกมนุษย์เพื่ออะไร?

    โลกใบนี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้งหลายหน เกิดภัยพิบัติมาแล้วมากมาย หนักบ้าง เบาบ้าง จุดนั้นบ้าง จุดนี้บ้าง แต่หากไม่มีหลักฐานปรากฏแล้ว มนุษย์ในยุคถัดมาอาจไม่มีการทราบได้

    เราจึงได้พบแต่หลักฐานของการล่มสลาย เจอบ้านเมืองอยู่ใต้พิภพ เจออยู่ใต้ดิน ใต้น้ำ หรือเจอหลักฐานแกะสลักตามผนังถ้ำต่าง ๆ ถึงเรื่องราวของผู้ที่เดินทางมาช่วยเหลือ เป็นแสงจากฟากฟ้า เป็นบุตรจากสวรรค์ หรือเป็นมนุษย์ที่ลอยลงมากับแสง หรือจะอะไรก็ตามเท่าที่มนุษย์ในยุคนั้นจะสามารถวาดภาพ บันทึกภาพ หรือจารึกไว้ในแผ่นหินตามถ้ำเหล่านั้น

    นั่นหมายถึง บุคคลเหล่านั้น ต้องเป็นผู้ที่เหลือรอดจากเหตุการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ จากยุคนั้น ๆ มาได้

    จึงได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ไว้ด้วยการแกะสลักตามถ้ำ ตามหินต่าง ๆ เพื่อเป็นการบอกเล่าสืบต่อกันมา

    เพราะว่าในสมัยนั้น แต่ละจุด แต่ละสถานที่ ไม่สามารถเห็นกันได้ ไม่สามารถรับรู้กันได้ ที่ไหนเกิดอะไร ที่ไหนเป็นอะไร จะเห็นแต่เฉพาะหน้าของตนเท่านั้น

    เพราะการสื่อสารไม่มี แม้เกิดห่างไปไม่กี่กิโลเมตร ก็ไม่สามารถรับรู้ได้แล้ว

    ดังนั้น การที่จะรู้ล่วงหน้า เตรียมการ เพื่อเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในแต่ละครั้ง จึงไม่อาจเป็นได้

    จึงต้องมีการช่วยเหลือจากผู้ที่รู้ และเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า จึงจะวางแผนการเพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทัน

    ดวงดาวอื่น ๆ บางดวงดาวมีอายุยืนหลายหมื่นปี และมีคุณธรรมตามปกติของผู้ที่รู้ในกฏของธรรมชาติ ที่ต้องให้การช่วยเหลือในโลกใบนี้

    ย่อมมีการรู้เห็น ทั้งสิ่งที่ผ่านมาแล้ว และสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ดังนั้น การเตรียมการเพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลกยังจุดต่าง ๆ จึงต้องมีขึ้น

    จึงได้จัดเตรียมโครงการ เพื่อให้ความช่วยเหลือมนุษย์โลกหากเกิดภัยพิบัติในจุดใด ๆ ที่สามารถช่วยเหลือได้ตามกฏของธรรมชาติ

    มิใช่จะทำการช่วยได้ทุกครั้ง ทุกคน ทุกเหตุการณ์ หากสิ่งนั้นเป็นการเกิดขึ้นตามกรรม วิบากกรรมของสถานที่นั้น ๆ จุดนั้นๆ และเขาเหล่านั้น

    ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ในสมัยโบราณผู้นำกลุ่มนั้น ๆ จึงต้องได้รับข้อมูลมาจากสวรรค์ มาจากจักรวาล มาจากพระเจ้า หรือมาจากที่ใด ๆ ก็ตาม ที่ส่งมาให้ เพื่อที่จะได้รับทราบล่วงหน้า มีการเตือน มีการนำพา มีการอพยพให้ไปยังจุดต่าง ๆ ที่ปลอดภัย ซึ่งผู้ที่ได้รับข้อมูลมา ก็ได้ทำตามข้อมูลที่ได้รับ จึงยังคงมีมนุษย์ที่สืบต่อกันมานั่นเอง

    มนุษย์ต่างดาว ที่ได้วางโครงการนี้ มีอายุหลายหมื่นปี มีการเห็นการรับรู้ สิ่งที่ผ่านมาของโลกใบนี้อย่างยาวนาน นับต่อ ๆ กันมา

    มนุษย์ต่างดาว กับโลกใบนี้ จึงเป็นเรื่องที่มีคู่กันมานานแล้ว มิใช่เพิ่งมีในตอนนี้

    แต่เป็นเพียงการเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ตามธรรมดาของผู้ที่มีคุณธรรม และคอยช่วยเหลือในบางครั้ง โดยให้ความเคารพในกฏของธรรมชาติ กฏของจักรวาล

    ดังนั้น การที่จะทำอะไรตามอำเภอใจนั้น ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    จากกระทู้ http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ารเตือนภัย-เขากะลา.86674/page-621#post2495223
     
  3. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2495691 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 11:08 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12414 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2495691", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,878
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,800
    ได้รับอนุโมทนา 43,674 ครั้ง ใน 1,787 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1117 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2495691 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><STYLE>.wysiwyg { FONT: 12pt verdana, geneva, lucida, 'lucida grande', arial, helvetica, sans-serif; BACKGROUND: #f5f5ff; COLOR: #000000}P { MARGIN: 0px}.inlineimg { VERTICAL-ALIGN: middle}</STYLE>

    "ระบบ"


    ตอนที่ 2


    ข้อความจาก

    กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

    .............



    แต่ในช่วงนี้ ในระยะเวลานี้ มนุษย์ต่างดาวเคยถามในรุ่นแรกที่ยังปฏิบัติกันว่า รู้ไหม
    ทำไมมนุษย์ต่างดาวจึงต้องระดมเทคโนโลยีจากดวงดาวต่าง ๆ มาให้ความช่วยเหลือ
    ทำไมจึงต้องตั้งโครงการเฉพาะกิจขึ้นเป็นครั้งแรก โดยฝึกคนที่จะต้องมาทำงานกับมนุษย์ต่างดาวขึ้นมา
    ทำไมจึงต้องวางโครงการนี้มานับพันปี เพื่อสร้างโครงข่ายให้ครอบคลุม และให้ทันตามเวลาที่กำหนด
    และทำไม ยังคงต้องวนเวียน นำจานบินมาปรากฏให้เห็น เปิดเผยข้อมูล เปิดเผยเรื่องของมิติ เรื่องของเวลา เรื่องของกลไกขันธ์ห้าที่ทำงานตามระบบ ให้กับคนที่ต้องทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว


    ซึ่งผู้ฝึกในรุ่นแรก ๆ เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา ย่อมยังไม่เข้าใจในจุดมุ่งหมายเช่นกัน


    จึงได้รับการอธิบายให้ได้รับทราบ ว่า


    นั่นก็เพราะ ภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่จะเกิดกับโลกใบนี้ มากมายเกินกว่าที่มนุษย์โลกจะช่วยเหลือกันเองได้ และจะใช้เพียงดวงดาวจำนวนเล็กน้อยเช่นครั้งอื่น ๆ ก็ไม่ได้แล้ว


    ต้องระดมดวงดาวมากมาย ที่เป็นกลุ่มสมาชิกสากล ของสมาพันธ์แห่งดวงดาว มาให้ความช่วยเหลือ เรียกว่าเป็นการระดมสมาชิกแทบทุกดวงดาวก็ว่าได้ มาร่วมในภารกิจนี้


    และผู้ที่เข้าร่วมในภารกิจเดียวกัน ก็ต้องทำงานในระบบเดียวกัน



    จึงต้องวางโครงข่าย ต้องทำการวางกลไกไว้อย่างเป็น....ระบบ


    ไม่ว่าจะติดต่อประสานกับกลุ่มใด ๆ ประเทศใด ๆ ก็คือแผนงานจากระบบใหญ่ ที่มาวางโครงข่ายทั้งสิ้น



    ก็เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง


    ระบบ จึงเป็นกลไกการทำงานที่ประสานกันอย่างผิดพลาดไม่ได้ แม้แต่วินาทีเดียว เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้น จะถูกต้องตามระบบ แม้บางครั้งอาจมองเหมือนไม่ถูกต้องตามความคิดของมนุษย์โลกก็ตามที


    แต่เพราะการทำงานเป็นระบบ จะต้องประสานกัน ถูกต้องตรงตามเวลา ตรงตามจังหวะ ใหลลื่นไปตามกลไกที่วางไว้



    หากมีจุดหนึ่งจุดใด สะดุดหยุดลง ผู้ที่ดำเนินงานต่อไปก็จะคลาดเคลื่อนทันที


    ดังนั้น ผู้ที่ระบบวางไว้ จึงต้องใหลไปตามกลไกของระบบ มีความสำคัญเท่าเทียมกันทั้งสิ้น


    เหมือนเครื่องจักร ต้องทำงานประสานกัน หมุนไปตลอดเวลา


    เหมือนโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง

    เริ่มจากใส่วัตถุเข้าไป ก็จะเลื่อนไปยังอีกจุดหนึ่ง คือ...ใส่เครื่องปรุง แล้วเลื่อนไปอีกจุดหนึ่ง... ปิดฝา แล้วเลื่อนไปอีกจุดหนึ่ง....อบให้ร้อนปราศจากเชื้อโรค เลื่อนไปอีกจุดหนึ่ง...ติดสลาก แล้วเลื่อนไปอีกจุดหนึ่ง ... บรรจุกล่อง


    ทุกอย่าง เป็นกลไกที่ต้องเลื่อนไปตามจังหวะเวลา จึงจะสอดรับกันอย่างได้ผล เครื่องจักรทุกชิ้นมีความสำคัญเท่ากัน เพราะเป็นฟันเฟือง เป็นกลไกตัวหนึ่งที่ทำให้อาหารกระป๋องนั้น ผลิตออกมาได้ เพื่อยังประโยชน์ให้ผู้ซื้อใช้ยังชีพต่อไป



    ถ้าตัวใดตัวหนึ่งหยุดลงไป งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเกิดการสะดุดนั่นเอง



    งานของระบบ ก็เช่นกัน ต้องมีการเตรียมการ มีการวางแผน และสอดรับกันอย่างคาดไม่ถึง

    เราจึงเห็นว่า เกิดความ "บัีงเอิญ" ครั้งแล้วครั้งเล่า บังเอิญบ่อย ๆ บังเอิญมากมาย มันเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดมา

    ตั้งแต่ก่อนมาเจอกลุ่มประสานงานฯ ขณะที่มาเจอและรับทราบข้อมูลแล้ว และจะยังคงเกิดความบังเอิญอยู่ต่อไปหลังจากนี้

    นั่นเพราะว่า สิ่งที่เกิดขึ้น

    มันไม่ใช่.... ความบังเอิิญ ... นั่นเอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2495915 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead> วันนี้, 11:13 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12415 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2495915", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,879
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,801
    ได้รับอนุโมทนา 43,689 ครั้ง ใน 1,789 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1117 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2495915 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->
    "ระบบ"

    ตอนที่ 3



    ข้อความจาก


    กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)


    .............

    ดังนั้น จากการประเมินแล้วว่า มนุษย์ไม่อาจเข้าใจกลไกของระบบได้อย่างถูกต้อง ได้อย่างชัดแจ้ง ด้วยการมีกรอบความคิดที่ไม่อาจเปิดกว้างได้ หากสภาวะจิตไม่สามารถเข้าถึงกลไกของธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

    คือสภาวะที่ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นกลไกของเหตุปัจจัยตามธรรมชาติ ที่ยังมีความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ที่มันปรุงแต่งตามธรรมชาติอย่างนั้นเอง แต่ไปอุปาทานว่ามันเป็นตัวเรา เป็นของเรา มันไปยึดว่ามีตัวเราเสียแล้ว ทุกอย่างเลยแคบหมด แคบอยู่แค่ตัวเรา และของเราเท่านั้น และเห็นว่ามีตัวเขา มีของเขาทั้งหลายอยู่รอบตัว

    ดังนั้น การแก่งแย่งชิงดี จึงเกิดขึ้น แย่งจากของเขามาเป็นของเรา ด้วยความเห็นผิด คิดว่ามีตัวเรานั่นเอง

    แม้พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้ในกฏธรรมชาติ กฏของจักรวาล แล้วมาตรัสสอน ในกฏของธรรมชาติ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มันไม่มีอะไรที่เที่ยงเลย มันต้องแปรปรวน มันคือความทุกข์ที่บังคับบัญชาไม่ได้ และ เพราะมันไม่ได้เป็นตัวตนจริงๆ มันเป็นเพียงธรรมชาติ มันเป็นการปรุงแต่งไปตามเหตุปัจจัยนั้น ๆ นั่นเอง

    พระพุทธองค์ทรงเห็นแก่นแท้ของธรรมชาติ ท่านก็หลุดพ้นจากอุปาทาน หลุดพ้นจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า เข้าสู่ธรรมชาติ ไม่ต้องเวียนมาเกิด มาตายอีกแล้ว

    ท่านรู้ท่านเห็น และท่านก็ได้ตรัสสอนไว้ หากบุคคลใดทำตามที่ท่านตรัสสอน ตรงไปตรงมา ไม่เบี่ยงเบนไปทางหนึ่งทางใด

    ก็ย่อมหลุดพ้นตามท่านได้เช่นกัน

    ดังนั้น เมื่อการช่วยเหลือภัยพิบัติในครั้งนี้ เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่จะให้แต่ละบุคคลที่ยังมีความยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตนอย่างเข้มข้น มารับผิดชอบในงานระบบนั้น ย่อมยากอย่างยิ่ง
    เพราะความมีอัตตา ความมีตัวตน ย่อมเห็นว่าเราดีกว่าเขา เขาดีกว่าเรา อยู่ตลอดเวลา

    การที่จะสละด้วยความเข้าใจว่าไม่ได้มีผู้ให้ และมีผู้รับ มันเป็นธรรมชาติที่เกื้อกูลกันเท่านั้น ย่อมเข้าใจไม่ได้เลย

    จึงต้องมีการวางโครงการ คัดเลือกผู้ต้องร่วมงานกับระบบไว้ก่อน วางไว้ตามจุด แล้วมีการฝึกให้มีความเข้าใจในกลไกของธรรมชาติ ให้รู้ถึงกลไกของจักรวาล รู้ถึงที่มาที่ไปตามกลไกของธรรมชาติ

    น่าแปลก ที่เราเป็นมนุษย์ เดินยืนนั่งนอนอยู่บนโลกใบนี้ ยังไม่รู้กลไกของขันธ์ห้าของตนเอง ได้ดีเท่ากับผู้รู้ที่อยู่ในจักรวาล ต้องมาชี้ให้เห็น มาทำให้ดู มาให้เรียนรู้เพื่อปล่อยวาง ให้ละการยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่มันไม่ได้เป็นตัวตนของใคร ให้เข้าใจถึงธาตุต่างๆ สารเคมีที่มีอยู่เองตามธรรมชาติ ที่มันทำงานไปตามกลไกเกี่ยวเนื่องกับขันธ์ห้า

    คือสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ แล้วตรัสสอนไว้

    แต่เมื่อกาลเวลาที่ผ่านไป การที่จะเข้าใจและเห็นจริงตามนั้น มันจึงเริ่มพร่ามัว และไม่สามารถเข้าใจในกลไกของธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

    เรียกว่า มาเรียนรู้ขันธ์ห้า กับอุปาทานนั่นเอง

    ดังนั้น จึงมีการวางแผน วางโครงการ แล้วเริ่มดำเนินการฝึกในรูปแบบต่าง ๆ ทั่วโลก โดยพร้อม ๆ กัน

    แต่ต่างรูปแบบ ตามที่แต่ละพื้นที่ แต่ละประเทศ แต่ละสังคม จะสามารถเข้าใจได้

    ถ้านับถือสิ่งใด ๆ ศรัทธาสิ่งใด ๆ และสามารถทำให้เชื่อได้ในพื้นที่นั้น ๆ

    ก็จะมาในรูปแบบที่ประเทศนั้น ๆ กลุ่มชนนั้น ๆ สามารถเข้าใจได้

    จึงจะประสานงานไปได้ในทั่วโลก ไม่แบ่งชนชั้น ไม่แบ่งประเทศ ไม่แบ่งกลุ่ม ไม่แบ่งชาติ ไม่แบ่งศาสนา

    เพราะภัยพิบัติ เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ได้เป็นการช่วยเหลือใครคนใดคนหนึ่ง ชาติใดชาติหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

    แต่เป็นการช่วยเหลือกันตามธรรมชาติ ที่ทุกชาติ ทุกศาสนา

    ย่อมมีสิทธิ์รอดจากภัยพิบัติได้เท่าเทียมกัน

    หากท่านอยู่ในเงื่อนไขของจักรวาล

    หรือเรียกว่า กรรม วิบากกรรม ของแต่ละท่านจะจัดสรรนั่นเอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2502279 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2502279", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,863
    พลังการให้คะแนน: 1116 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2502279 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ whitenaga [​IMG]
    คืนวันที่ 11 ฝันว่า มีการแจ้งเลขมา 4 ตัว (จำไม่ได้ตัวอะไรนัก)
    แต่ในฝันเราไปบอกพี่สุดใจ กับคุณนีโม่ว่า เค้าแจ้งว่าเลข 4 (จำได้ตัวเดียว)

    แปลกดีนะค่ะ เพราะเราไม่เคยฝันเห็นพี่สุดใจกับคุณนีโม่เลย เป็นครั้งแรกที่ฝัน
    ว่าจะไม่โพสแล้วเชียว ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

    แจ้ง พี่สุดใจกับ คุณนีโม่เลยว่า " เลข 4 ค่ะ" ^^


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีค่ะ คุณ whitenaga

    ไม่ได้พบกันเสียนาน หวังว่าคงสบายดีนะคะ

    วันที่ 11 ตุลาคม 2552 เป็นวันเปิดสถานธรรมที่จังหวัดพิษณุโลก และก็เป็นวันเดียวกันกับที่ คุณ whitenaga ได้ฝันเห็น

    พร้อมตัวเลขปริศนา

    ขออนุโมทนากับสิ่งที่ได้นำมาบอกจากความฝัน

    เลข 4 ปริศนา


    หมายถึง.....สิ่งที่ระบบมุ่งเน้น 4 อย่าง

    ทั้งประโยชน์ตน และ ประโยชน์ท่าน

    ที่มีการทำงาน 2 อย่าง พร้อม ๆ กันใน 2 ส่วน คือ

    ประโยชน์ตน ...... ระบบโฟลว์ สคริปนอก สคริปใน และระบบราก(คำศัพท์ระบบ)

    คือการที่ขันธ์ห้ามาทำงานตามระบบ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรูปขันธ์ที่ต้องติดตั้งอุปกรณ์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือยามเกิดภัยพิบัติ ความคิด ความจำ อารมณ์ ความรู้สึก หรืออายตนะต่าง ๆ ที่รวมกันเป็นขันธ์ห้านั้น มันย่อมไม่ใช่ตัวตนของตน ไม่ใช่ตัวเราของเรา มันเป็นธรรมชาติที่ เป็นดินน้ำลมไฟ ที่จะยังประโยชน์ท่านทั้งหลายได้ในยามเกิดภัยพิบัติ จึงต้องเพียรละจากการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า เพื่อออกจากการมีอัตตา มีตัวตนนั่นเอง

    ซึ่งทางธรรมะ พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสสอนอยู่แล้วว่า ขันธ์ห้า มันไม่ใช่ตัวตนของตน ไม่ได้เป็นตัวใครของใคร เป็นธรรมชาติที่มันปรุงแต่งตามเหตุปัจจัย จึงต้องปฏิบัติเพื่อละจากอุปาทานขันธ์ห้าเหล่านั้น

    ดังนั้นทั้ง 4 อย่างคือ ระบบโฟลว์ สคริปนอก สคริปใน และระบบราก (คำศัพท์ระบบ) คือการเห็นการทำงานของรูปขันธ์ การทำงานของความคิดปรุงแต่ง การทำงานของความจำ การทำงานของอารมณ์ความรู้สึก(เวทนา) การเห็นการทำงานของอุปาทาน ที่จ้องจะทำการยึดติดเข้ากับขันธ์ห้าตลอดเวลานั้น

    ดังนั้น ธาตุรู้ (ธาตุธรรมชาติที่มีหน้าที่รู้) มันมีหน้าที่มารับรู้ มาดูการทำงานของขันธ์ห้า มันทำหน้าที่รู้ ตามรู้การปรุงแต่งทั้งหลายของขันธ์ห้าเท่านั้น มันจึงไม่ได้เป็นขันธ์ห้า มันไม่ได้ติดกันกับขันธ์ห้า

    แต่ที่คิดว่าติดกันนั้น ก็เพราะมีตัวอุปาทาน นำไปแปะติดกับขันธ์ห้า กับความคิด กับอารมณ์ จึงเหมือนเป็นตัวเดียวกัน

    ดังนั้น ธาตุรู้จึงสามารถหลุดพ้นจากขันธ์ห้าได้

    คือหลุดพ้นจากอุปาทานขันธ์ห้านั่นเอง

    ถ้ารู้ เข้าใจ ปล่อยวาง อุปาทานก็ไม่สามารถเอาไปเกาะรวมกันกับขันธ์ห้าได้

    แต่ถ้ารู้ แล้วไปอุปาทาน ว่าเป็นตัวเรา เรารู้ เราเห็น เราคิด เราชอบใจ ไม่ชอบใจ

    ก็จะมีตัวเรา ติดอยู่กับขันธ์ห้า โดยมีตัวอุปาทานเป็นยางเหนียวจับธาตุรู้ไปเกาะติดกัน จึงมีตัวผู้รับความสุข รับความทุกข์ ตามการปรุงแต่งของขันธ์ห้านั่นเอง

    (1)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2009
  6. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2502299 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2502299", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,864
    พลังการให้คะแนน: 1116 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2502299 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ประโยชน์ท่าน ...... งาน งาน งาน และ งาน


    คำอธิบาย ประโยชน์ท่าน งาน งาน งาน และงาน

    ตอนนี้ มีงานเข้าหลาย ๆ ด้าน หลาย ๆ จุด และหลาย ๆ สถานที่ และหลากหลายรูปแบบ

    ดังนั้น ระบบจึงได้มีการจัดวางตัวบุคคล เพื่อแยกย้ายกันไปทำงานในแต่ละส่วนให้เหมาะสมกับงานนั้น ๆ ของระบบ

    ซึ่งบางส่วนคล้ายกัน แต่บางส่วนก็แตกต่างออกไป

    ด้วยกลุ่มบุคคลผู้ที่จะเข้ามารับรู้ได้ รับฟัง มีความเข้าใจที่แตกต่างกันนั่นเอง

    จึงต้องวางตัวบุคคลให้เหมาะสมกับงานนั้น ๆ เพื่อให้การประสานงานเข้าสู่กลุ่มบุคคลที่เป็น 0 - 99 ได้มากขึ้น

    ดังนั้น ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา จึงมีหลายขั้นตอนที่ระบบได้วางไว้ในการฝึกบุคคลต่าง ๆ ที่ทำงานกับระบบ

    รุ่นแรก มีการฝึกเป็นกลุ่ม บางคนผ่านการฝึก บางคนไม่ผ่านการฝึกด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยความหนักหน่วงของการฝึกเพื่อการละวางอัตตา ก็ต้องออกไปก่อน แยกย้ายกันไปด้วยความไม่เข้าใจในระบบ

    จะด้วยความเข้าใจ หรือไม่เข้าใจ ก็จะต้องแยกย้ายกันไปยังจุดอื่น ๆ ไปยังกลุ่มอื่น ๆ ไปยังสถานที่อื่น ๆ

    นั่นคือการตีกระจาย เพื่อจะได้ออกไปทำงานตามหน้าที่ของแต่ละท่าน ตามที่ระบบมุ่งหมาย

    ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ตามที

    จะไปด้วยการด่าว่าเขากะลา หรือไปด้วยความชื่นชมยินดีเขากะลา

    ก็เสมอกัน เท่าเทียมกัน ในกลไกของระบบ

    งานของระบบ ที่ว่า อย่าตีกรอบ นั้น เป็นเรื่องที่มนุษย์โลกยากจะเข้าใจ

    เพราะการประสานงานของระบบนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของมนุษย์

    การเข้ามา การออกไป จึงเป็นกลไกที่ระบบวางไว้ทุกอย่าง

    ดังนั้น ใครจะอยู่ ใครจะไป ใครจะชม ใครจะด่า ใครจะชอบ ใครจะชัง

    เป็นเรื่องปกติ ที่ระบบได้ดำเนินการวางไว้เอง

    เพียงแต่ว่า แต่ละคนจะเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น

    ระบบ ไม่ได้มีความหวั่นไหว ยังคงมุ่งหน้าดำเนินโครงการช่วยเหลือต่อไป กับเรื่องของภัยใหญ่ที่จะเกิดขึ้น

    เพราะการช่วยเหลือภัยพิบัตินั้นเป็นเรื่องใหญ่ เกินกว่าที่จะอาศัยเพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้วช่วยเหลือกันได้


    แม้ในรุ่นอีก 10 ปีถัดมา ก็เช่นกัน

    กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
    มีการรวม มีการฝึก มีความเข้าใจ แล้วก็แยกย้ายกันไปตามงานของแต่ละคน

    ใครจะชม ใครจะชอบ ใครจะอยู่ ใครจะไป ใครจะยินดี ใครจะยินร้าย

    ย่อมเป็นไปตามกลไกที่ระบบวางไว้นั่นเอง

    (2)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2502317 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2502317", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,865
    พลังการให้คะแนน: 1116 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2502317 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เหมือนเมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา ระบบได้เคยยกตัวอย่างไว้ให้ฟังว่า

    งานของระบบ เป็นงานที่มนุษย์ยากจะเข้าใจ เพราะมนุษย์คิดได้ตามแบบที่มนุษย์เคยพบเจอมา

    ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ทางการจะมาทำการขยายถนน จากถนนเล็ก ๆ ให้เป็นถนนใหญ่ 8 เลน เพื่อการสัญจรไปมาสะดวก มีความเจริญ และสามารถใช้เชื่อมต่อไปได้ในหลาย ๆ จังหวัด

    แม้ชาวบ้านแถบนั้นไม่เห็นด้วย บอกว่าไม่สะดวกในการเดินทาง มาขุด มาเจาะ มากีดขวางทางเข้าออกบ้านฉัน ไม่พอใจ เพราะเดินทางเข้าออกไม่สะดวกในช่วงนั้น

    แต่ทางราชการ เมื่อมีโครงการจัดสร้างขยายถนน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น

    จึงต้องมีการแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบ ให้แต่ละบ้านที่ต้องผ่านทางเส้นนั้นรับทราบ ขออภัยในความไม่สะดวก แล้วก็ลงมือดำเนินการ

    แม้ระหว่างการสร้าง การจัดทำ การขยายถนน การพัฒนาตรงนั้น คนจำนวนมากจะไม่สะดวกในการเดินทาง จะไม่ถูกใจไปบ้าง แต่โครงการขยายถนนก็ยังคงดำเนินต่อไป

    เมื่อถนนเสร็จ กลายเป็นทางสายใหญ่ กว้างขวาง สะดวกสบาย รถสวนกันได้ไม่ติดขัด ความเจริญหลั่งใหลเข้ามาเพราะการเดินทางสะดวกสบาย

    ก็จะพอมองเห็นภาพ ก็จะพอเข้าใจ และยินดีที่ทางการได้จัดทำถนนเส้นนี้

    นั่นคือ ทางราชการย่อมเห็นความเจริญของส่วนรวม ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ มากกว่าจะทำตามความเห็นของคนจำนวนน้อยที่ไม่มีความเข้าใจเพียงพอนั่นเอง


    ดังนั้น สิ่งต่าง ๆ ที่ระบบมุ่งหมาย อาจจะมีทั้งคนเข้าใจ และคนไม่เข้าใจ

    จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะระบบได้เคยบอกไว้มานานแล้ว

    เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะทำงานในรูปแบบใด

    มันจึงเป็น งาน งาน งาน และงาน

    ตามระบบวางไว้ นั่นเอง



    ขออนุโมทนากับคุณ whitenaga กับปริศนาธรรม 4 ข้อ

    การนำมาบอกกล่าวกันให้ทราบนี้ ไม่ว่าฝันนั้นจะเป็นอย่างไร? ก็คงต้องปล่อยมันไป

    แต่อย่างน้อย ก็ได้มารับรู้เรื่องราวของระบบ และธรรมะเพื่อการละวางอัตตา เพิ่มมาอีก 1 ข้อ

    นี่คือประโยชน์ตน หากละอุปาทานได้ ก็ว่างได้จริงเช่นกัน

    (จบ)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2506089 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead> วันนี้, 12:02 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12510 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2506089", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,873
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,769
    ได้รับอนุโมทนา 43,421 ครั้ง ใน 1,781 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1117 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2506089 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ขออนุโมทนากับอาจารย์ ukrin ที่ได้นำ
    "ข้อความจากจักรวาล"
    มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันอีกครั้ง


    หากย้อนไปในวันที่ 31 กรกฎาคม 2551
    ระบบได้แจ้งล่วงหน้าก่อนมีการถ่ายทอดข้อความนี้หลายวัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับข้อความจากจักรวาล

    ในช่วงนั้น ยังไม่มีเขากะลารุ่น 2 เกิดขึ้น มีผู้ดำเนินการหลักอยู่เพียง 3 ท่าน คือ พี่สุดใจ อาจารย์นีโม่ และอาจารย์ ukrin

    สถานที่ก็คือ อาคารฝักข้าวโพด 1 ชั้น 11

    และวางตัวอาจารย์นีโม่ ให้เป็นผู้รับข้อความจากจักรวาล และถ่ายทอดออกมา

    พี่สุดใจ บันทึกเทป

    อาจารย์ ukrin บันทึกภาพ

    และมีผู้ร่วมเข้ารับฟังนับ 10 ท่าน

    มีการถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ท มีการอัดเทปเสียงไว้ และมีการถอดเทปออกเผยแพร่ในคืนนั้น เช่นกัน

    31 กรกฎาคม 2551 ถ่ายทอดข้อความจากจักรวาล ในวันสุดท้ายของเดือน กรกฎาคม

    พอวันที่ 1 สิงหาคม 2551
    ขึ้นวันใหม่ ระบบให้ทำการเปิดรับผู้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) อย่างเป็นทางการ

    โดยทำในรูปแบบของ การเชื่อมระบบ

    จึงแบ่งงานกันในรูปแบบที่ระบบได้วางกลไกไว้ ตามบุคลากรระบบเท่าที่มีในตอนนั้น คือ 3 คน

    อาจารย์สุดใจ ขยายระบบ ทำความเข้าใจในทฤษฎีระบบ ก่อนทำการเชื่อมระบบ
    อาจารย์นีโม่ เป็นผู้ทำหน้าที่ เชื่อมระบบ
    อาจารย์ ukrin ทำหน้าที่ประสานงาน และบันทึกภาพเพื่อเก็บเป็นข้อมูล

    เริ่มเดินสายออกเชื่อมระบบ เป็นครั้งแรก ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 1 สิงหาคม 2551

    และตลอดเดือนสิงหาคม 2551 - กันยายน 2551 ได้ปิดรูปแบบการเชื่อมระบบ และได้มีเขากะลารุ่น 2 เกิดขึ้น

    เดือนตุลาคม 2551 เป็นเดือนที่ให้การรับรองหมายเลขของเขากะลารุ่น 2 ผู้ที่จะร่วมทำงานกับระบบ ในแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต เพิ่มขึ้นอีก 38 ท่าน และเดือนพฤศจิกายน 2551 เพิ่มอีก 2 ท่าน

    และปิดรูปแบบเชื่อมระบบไปแล้ว

    ยกเว้น ระบบอนุมัติให้มีการเชื่อมระบบเป็นพิเศษในบางกรณี บางท่าน

    และมีการเชื่อมระบบ 3 ท่านล่าสุด

    ก็คือวันฉลองเปิดอาคารแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต 12 กันยายน 2552

    ซึ่งเป็นเพียงรูปแบบ ที่ระบบให้ดำเนินการในช่วงนั้น ๆ แล้วก็เปลี่ยนรูปแบบไป


    การเชื่อมระบบ จึงเป็นเพียงรูปแบบ ที่ระบบมุ่งหมายให้ผู้ที่สนใจมารวมกันเท่านั้น แล้วมารับรู้ทฤษฎีจากการขยายระบบ ที่มุ่งเน้นธรรมะเพื่อการละวางอัตตา การปล่อยวาง การว่างจากอุปาทานขันธ์ห้า เป็นหลัก

    ดังนั้น ผู้ที่เชื่อมระบบ แล้วมุ่งหวังจะมีพลัง มีอำนาจ มีฤทธิ์ ก็มักจะผิดหวังกลับไป เพราะขยายระบบทีไร ก็ให้ปล่อยวางขันธ์ห้า ปล่อยวางอัตตาทุกที


    ดังนั้น จึงเหลืออยู่ในจำนวนที่ไม่มากนัก ของผู้ที่เข้าใจกลไกของขันธ์ห้า ปล่อยวางอัตตาตัวตน จนเบาบางจากทุกข์ได้ และดำรงความเป็นผู้ที่ทุกข์กินได้ยาก อยู่ท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนอื่น ๆ ทั่วไป

    และมีความเข้าใจในทฤษฎีระบบ พร้อมทั้งใช้อุปกรณ์ระบบได้ โดยไม่มีอัตตา


    ซึ่งโดยความจริง ผู้ที่ทำงานกับระบบ ไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมระบบก็ได้ เพราะระบบเป็นผู้จัดวางไว้เองก่อนแล้ว แม้ไม่ได้เข้ามาในรูปแบบเชื่อมระบบ ก็เป็นคนระบบอยู่ก่อนแล้ว

    ดังนั้น ผู้ที่รับรู้ ผู้ที่เข้าใจในระบบ ผู้ที่ติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องแล้วปฏิบัติเพื่อการละวางอัตตา ละวางอุปาทานขันธ์ห้าได้ ผ่านทาง ข้อความของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) แห่งนี้

    ท่านนั่นแหละ คือผู้หนึ่งที่ระบบได้วางตัวไว้ และเป็นผู้ร่วมทำงานกับระบบ เมื่อถึงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ

    เพราะถ้าท่านไม่ใช่คนระบบ ท่านจะไม่สนใจ ไม่อยากอ่าน ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากที่จะชายตาแล กับข้อมูลไร้สาระ ข้อมูลเพ้อเจ้อ ของกลุ่มคนกลุ่มนี้ กลุ่มที่เรียกกันติดปากว่า กลุ่มเขากะลา กลุ่มนี้ อย่างที่คนส่วนใหญ่เขาคิดกัน

    แต่ถ้าท่านยิ่งอ่าน ยิ่งเข้าใจ ยิ่งปล่อยวางได้ หรือบางท่านอาจได้มีโอกาสพบเห็นวัตถุบิน ที่เขามาเพื่อยืนยัน เพื่อย้ำให้มีความมั่นใจด้วยแล้ว

    ท่านก็คือ ผู้ที่ทำงานร่วมกับระบบ ในส่วนของแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศไทย และทั่วโลก

    ต่อไป ท่านจะเป็นผู้ให้ข่าวสาร ของการมาติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลกเพื่ออะไร?

    ไม่มีใครตอบได้อย่างชัดเจน ถ้าไม่ได้มีความเข้าใจ ในการมาเพื่ออะไรของมนุษย์ต่างดาว ผ่านทางกระทู้ข้อความแห่งนี้

    วันนี้ ท่านอาจยังไม่เห็นงานของท่าน ที่จะต้องทำ

    แต่สักวัน ท่านจะเข้าใจ ว่าข้อมูลที่ท่านได้เก็บเกี่ยวเข้าไว้ มีประโยชน์มากมายมหาศาล

    เพราะท่าน คือหนึ่งในขุนพลของจักรวาล ที่ขันอาสามาทำงานนี้

    ดังข้อความจักรวาลที่ได้กล่าวไว้ บางตอน ว่า

    .............

    ท่านทั้งหลายเป็นนักรบแห่งเรา เป็นผู้มากอบกู้มนุษยชาติ เป็นผู้มีหน้าที่ ที่จะช่วยกันปลดปล่อยโลก ให้พ้นจากความวิบัติที่จะเกิดขึ้น

    ......


    ท่านทั้งหลายต่อไปจะได้ทำงานเป็นกลุ่ม ทำงานประสานกัน ต่อไปภายภาคหน้าท่านทั้งหลายจะเป็นเสมือนขุนพลแห่งเรา แม่ทัพแห่งเรา จะเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ออกไปยังคนที่เราวางตัวไว้ทั่วโลก


    .............


    ท่านจึงเป็นผู้ที่อาสามาทำงานร่วมกัน ในระบบเดียวกัน แม้จะไม่รู้จักกัน ไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยสนทนากันก็ตามที

    เพราะการทำงานในเรื่องของภัยพิบัติ ก็คือทำงานในเรื่องเดียวกัน

    คือยกระดับจิตของผู้ทำงาน และช่วยเหลือในเรื่องของภัยพิบัติของโลกใบนี้ไปพร้อม ๆ กันนั่นเอง.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2518218 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-10-2009, 07:32 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12463 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2518218", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,892
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,787
    ได้รับอนุโมทนา 43,682 ครั้ง ใน 1,801 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1119 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2518218 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->เมื่อปี 2543 ระบบได้เคยมีการเผยแพร่ข้อมูลออกสู่สาธารณะผ่านทางอินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรก

    คือผ่านช่องทางของเว็บไซด์ www.sanook.com ในบอร์ดหัวข้อมิติพิศวง

    เป็นการแจ้งข้อมูลให้มนุษย์โลกได้รับทราบ เป็นครั้งแรก และตอบคำถามมนุษย์โลก ที่มีความสงสัยไว้หลากหลายมุมมอง ซึ่งบางมุม หลายท่านก็ยังไม่เคยได้รับทราบมาก่อน

    ซึ่งการสื่อสารในครั้งนั้น เมื่อ 9 ปีที่ผ่านมานั้น ได้สื่อสารผ่าน คุณวาสนา ชื่นสำนวน เป็นผู้ทำหน้าที่รับข้อมูลตรงจากมนุษย์ต่างดาว และถ่ายทอดตอบคำถามแก่ผู้ที่สอบถามมา

    มีการอธิบาย และมีการแจ้งให้ทราบไว้เกือบ 10 ปีมาแล้ว

    ทั้งเรื่องการฝึกปล่อยวาง การละการยึดมั่นถือมั่น รวมถึงเรื่องของภัยพิบัติ ที่ยังคงยืนยันว่าจะต้องเกิดขึ้น จึงได้มีการมาเตรียมการให้ความช่วยเหลือนั่นเอง

    ข้อความเหล่านี้ บางส่วนได้มีการนำมารวมไว้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ออกสู่สาธารณะ ในนาม กลุ่มเขากะลา ในขณะนั้น

    ในช่วงนี้ เป็นช่วงทำความรู้จัก รับรู้เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา เพื่อทำความคุ้นเคยกันก่อน

    เลยขอนำข้อมูลการตอบคำถามมนุษย์โลก มาให้อ่านกันก่อนนะคะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2518260 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-10-2009, 07:40 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12464 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2518260", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,892
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,787
    ได้รับอนุโมทนา 43,682 ครั้ง ใน 1,801 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1119 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2518260 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="97%" align=center><TBODY><TR bgColor=#99cccc><TD>


    </TD></TR><TR bgColor=#666666><TD>



    <TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="97%" align=center><TBODY><TR bgColor=#99cccc><TD>คำถาม-ตอบที่น่าสนใจ

    (ข้อมูลนี้มาจากกลุ่มเขากะลาไม่ได้มีการแต่งเติมใดๆทั้งสิ้น)


    </TD></TR><TR bgColor=#666666><TD>

    <TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="30%" align=center><TBODY><TR><TD><< ย้อนกลับ | หน้าถัดไป >>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​

    ข่าวสารจาก “ มนุษย์ต่างดาว “……ถึง ชาวโลก วันที่ 13 เมษายน พ.ศ 2543 เป็นวันสงกรานต์ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยเรา กลุ่มเขากะลา ได้รับการสื่อสารทางโทรจิตจากมนุษย์ต่างดาว ให้นำข้อความจากมนุษย์ต่างดาว… ส่งถึงชาวโลก ในระบบเทคโนโลยีทางอินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดเผยถึงการมาเยือนโลกมนุษย์เพื่ออะไร ? กลุ่มเขากะลา ผู้มีหน้าที่รับการโทรจิตจากมนุษย์ต่างดาว จึงได้เดินทางไปในตัวเมืองนครสวรรค์ และหาร้านสำหรับให้เช่าระบบอินเตอร์เน็ตรายชั่วโมง โดยเลือกช่องทางที่จะส่งข่าวสาร ( เลือกส่งข้อมูลใน เกมส์ เกม ดูดวง ฟังเพลง เพลง หางาน ทำนายฝัน เกมส์แต่งตัว หาเพื่อน แชท กลอน ดารา : Sanook.com - มิติพิศวง (x-files) ซึ่งเห็นว่าเป็นช่องทางที่เหมาะสมในการที่จะ Post เรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังจากเตรียมพร้อมทั้งด้านผู้รับการสื่อสาร และด้านเทคโนโลยีแล้ว ข่าวสารจึงถูกส่งผ่านมาทางโทรจิต และผู้รับข้อมูลได้พิมพ์ข้อความทั้งหมดลงในอินเตอร์เน็ตโดยตรง และข้อมูลดังกล่าวได้ไปปรากฏต่อสายตาของชาวโลกเป็นครั้งแรก เมื่อเวลา 15.28.39 นาฬิกา ของวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2543



    ข่าวสารจากมนุษย์ต่างดาวถึงชาวโลก





    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">คำถาม



    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">X – FILES 101520 - เชื่อหรือไม่ ? เรามาเมืองไทยนานแล้ว ในปัจจุบัน มีผุ้พบเห็นยานบินในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมนุษย์ต่างดาวต้องการที่จะติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลก ที่สามารถจะสื่อสารด้วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีการทดลองติดต่อสื่อสาร หรือนำยานบินมาปรากฏให้บุคคลในอาชีพต่าง ๆ ต่างเพศ ต่างวัย ได้พบเห็น เพื่อประเมินภาวะทางจิต และความคิดที่เกิดขึ้นในขณะนั้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนได้มีการติดต่อสื่อสารกับบุคคลในประเทศไทยจำนวนหนึ่งมาเป็นระยะเวลานานนับปีแล้ว นับจากเวลานี้ไปไม่เกิน 1 เดือน จะมีปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ให้ผู้ที่ติดตามเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว และภัยพิบัติทางธรรมชาติปี ได้ประจักษ์อย่างชัดเจนมากขึ้น เราเป็นมิตรกับมนุษย์โลก อีกไม่นาน เวลาจะเป็นผู้เปิดเผยความจริงทั้งหมด สวัสดี.


    จากคุณ….. มนุษย์ต่างดาว ( 13 เม.ย. 2543…..15.28.39) (203.148.191.69)




    (ย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับมนุษย์โลก ที่มิอาจเชื่อถือในเรื่องหนึ่งเรื่องใดได้ โดยที่มิได้ไตร่ตรอง หรือพิสูจน์เสียก่อน ดังนั้นจึงได้มีกระบวนการต่อเนื่องเรื่อยมา ทั้งผู้ที่สนใจจริง ๆ และผู้ที่ไม่สนใจและไม่เชื่อถือ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ มีการเห็นปรากฏการณ์บนท้องฟ้าของประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และผู้ได้เห็นปรากฏการณ์เหล่านั้น ได้ post เล่าประสบการณ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก
    รวมทั้งมีคำถามมากมายจากผู้ที่ไม่เคยพบปรากฏการณ์เหล่านั้นว่า…ทำไมจึงไม่มีการบันทึกภาพได้เลย)





    </TD></TR></TBODY></TABLE>






    </TD></TR></TBODY></TABLE>




    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">คำถาม









    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">ท่านมีจุดประสงค์ใดกันแน่ ?</TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">ตอบ









    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">คำตอบแรกสำหรับผู้ที่ถามว่า วัตถุประสงค์ของกลุ่มเขากะลา ที่นำข่าวสารของกลุ่มมาบอกกล่าวเพื่ออะไร ?

    - เพื่อเปิดเผยประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2540 จนถึงปัจจุบัน พร้อมพยานและหลักฐานที่ได้มา - บันทึกไว้ในที่เก็บข้อมูลกลางของสาธารณชน เพื่อสามารถย้อนดูข้อมูลได้ในภายหลังที่สนใจ - ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า ต้องการหาสมาชิกเพิ่มเพื่อปฏิบัติในสำนักเขากะลา เพราะตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2543 ได้สิ้นสุดการฝึกตามระบบไปแล้ว ปัจจุบันไม่ได้ใช้สถานที่บนเขากะลาเพื่อการฝึกอีกแล้ว - ปัจจุบันยังมีการสื่อสารทางจิตติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวอยู่ มีข่าวสารเพิ่มเติมก็จะนำมาพิมพ์ลงที่นี่ด้วย เพิ่มเติมจากการส่งข่าวสารด้านอื่น



    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">คำถาม









    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">ถ้าติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้จริง ทำไมไม่แจ้งให้ NASA มาพิสูจน์ล่ะ?


    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">ตอบ









    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">ผู้แทนองค์การนาซ่าจากทั่วโลกประมาณ 300 คน มาจัดประชุมที่มหาวิทยาลัยสุรนารี (โคราช) วันที่ 6 สิงหาคม 2542 ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ได้รับเชิญไปบรรยายเกี่ยวกับการติดต่อจานบินในประเทศไทย มีเรื่องจานบินที่เขากะลาด้วย หวังว่าคุณคงเข้าใจเรามากขึ้นนะคะว่าเราไม่ปิดบังข้อมูลเรื่องมนุษย์ต่างดาวกับใคร แม้แต่องค์การ NASA



    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">คำถาม









    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">การติดต่อกับคนต่างดาวที่กล่าวถึงมา ที่บอกว่ามาช่วยเหลือมนุษย์ไม่ให้พบกับภัยพิบัติ …. มีแต่คนไทยรึ? ที่ติดต่อกับกลุ่มนี้ได้เพียงประเทศเดียวในโลก? และทำไมคนต่างดาวกลุ่มนี้ ต้องการและมีเป้าหมายมาช่วยพัฒนาการทางจิตของคนให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่ล้าหลังเขา และเมืองไทยถูกเลือกให้เป็นที่แรกของโลกหรือ ? ให้เป็นประเทศผู้นำในการพัฒนาการทางจิต อย่างที่กลุ่มเขากะลาบอกมา เขาจะให้เกียรติประเทศไทยเป็นประเทศแรกเชียวหรือ ? มีเหตุผลกลใดที่เลือกแบบนี้ อธิบายให้เข้าใจหน่อยได้ไหม ?( 10 มิ.ย. 43)



    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">ตอบ









    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">ที่คุณถามมานั้น เราได้เคยรับคำตอบจากมนุษย์ต่างดาวที่ติดต่อกับกลุ่มของเรามาแล้ว มนุษย์ต่างดาวได้ทำการติดต่อกับมนุษย์โลกเป็นกลุ่ม ๆ อย่างเงียบ ๆ ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรก เพราะได้มีการติดต่อแบบลับ ๆ ในประเทศเขตเย็นมาก่อนหลายปี มนุษย์ต่างดาวที่มาติดต่อกับกลุ่มเขากะลานั้น เคารพกฏสัจธรรมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ( เราอาจเรียกตามที่เราเข้าใจว่า กฏแห่งกรรม) ก่อนสิ้นศตวรรษนี้ มนุษย์โลกจะได้รับรู้การมาของเขาอย่างชัดเจนขึ้น (ก่อนสิ้นปี 2000) แนวคิดของมนุษย์จะเปลี่ยนไปหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับการดำรงชีวิตอย่างมีเป้าหมายที่ถูกต้องต่อกฏสัจธรรม ( 11 มิ.ย. 43)



    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">คำถาม









    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">ในโลกนี้มีผู้มีพลังจิตเฉพาะในเมืองไทยหรือเปล่า ?

    1 ) ในอินเดียมีฤาษี โยคี เป็นหมื่นคน บำเพ็ญภาวนามา 5 พันปีแล้ว เขาไม่เคยพูดว่ามีจานบินมาหา

    2) ในธิเบต มีพระสงฆ์หลายหมื่นรูป ไม่มีองค์ใดเคยกล่าวว่าพบเห็นจานบิน


    3) ในพม่า ลาว เขมร ศรีลังกา ก็มีพระสงฆ์ ไม่มีพระสงฆ์รูปใดกล่าวว่าเคยเห็นจานบิน

    4) พระภิกษุในประเทศไทย มีรูปใดบ้างที่กล่าวว่าเคยเห็นจานบิน










    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">ตอบ











    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">ตอบข้อ 1, 2, 3 นั้น บอกตามตรงว่าไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง เพราะเป็นเรื่องของต่างประเทศ และกลุ่มเขากะลาไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเองค่ะ
    ตอบข้อ 4. …. กลุ่มเขากะลาได้เคยเดินทางไปที่วัดสันโป่ง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เมื่อประมาณวันที่ 27 มีนาคม 2541 และทราบว่ามีพระภิกษุที่วัดนี้ ท่านเคยเห็นจานบิน และท่านสามารถสื่อสารทางจิตกับมนุษย์ต่างดาวได้ด้วย และในคืนนั้นก็ได้มีจานบินมาปรากฏด้วย เรื่องนี้ ท่าน ดร.เทพนม เมืองแมน ได้นำมาเขียนไว้ในหนังสือ “ จานบินในประเทศไทย “ ค่ะ












    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">
    คำถาม
















    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">กลุ่มเขากะลาเป็นใคร พิเศษกว่าบุคคลที่กล่าวถึงข้างต้นอย่างไร จานบินจึงเลือกที่จะปรากฏให้เห็น?

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">
    ตอบ
















    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">กลุ่มเขากะลา เป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์เรื่องจานบิน มาตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2540 (ในขณะนั้นยังไม่เรียกว่ากลุ่มเขากะลา) ด้วยการสื่อสารทางโทรจิต ของ จ.ส.อ. เชิด ชื่นสำนวน ( อ่านรายละเอียดใน X-FILES 200120 ความเป็นมาของกลุ่มเขากะลา1. และ X-FILES 200184 ความเป็นมาของกลุ่มเขากะลา 2. ค่ะ) ต่อมาได้มีการสื่อสารกันที่เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์ ส่วนมากเป็นบุคคลที่เคยเห็นจานบินที่สิงห์บุรี และติดตามข่าวคราวของ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ทราบเรื่องการสื่อจานบินที่เขากะลา มีการปฏิบัติจิตร่วมด้วย ทำให้คลื่นจิตโดยรวมมีคุณภาพดีกว่าการสื่อครั้งก่อน ๆ อีกทั้งสถานที่ห่างชุมชนพอสมควร และขึ้นไปบนเขาทำให้ต้องอยู่พักค้างคืน ไม่มีการนัดเวลาว่าต้องมาตอนไหน บุคคลต้องใช้ความอดทนของตนเอาเอง ในการที่จะได้เห็น หรือถ่ายภาพเขาได้ การติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวของกลุ่มเขากะลานั้น ความจริงในตอนแรก ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2540 มานั้น ดูเหมือนกับว่า เขามาติดต่อเราก่อน เพื่อต้องการให้เราช่วยสื่อสารอะไรบางอย่างกับคนในส่วนมาก เพราะเดิมที จ.ส.อ.เชิด และครอบครัว ก็ไม่เคยสนใจเรื่องมนุษย์ต่างดาวแบบจริงจังมาก่อน จนมาเจอด้วยตัวเอง จึงเริ่มศึกษาตั้งแต่นั้นมา และการฝึกทางจิตของกลุ่มเขากะลา ก็ฝึกจากผู้ที่เคยเห็นจานบินที่เขากะลา และมีความเชื่อมั่น อดทน ปฏิบัติตามกติกาที่ได้รับสื่อสารทางโทรจิตจากมนุษย์ต่างดาวจนครบกำหนด 1 ปีเต็ม ( 16 เมษายน พ.ศ. 2542 - 19 เมษายน พ.ศ. 2543 ที่ผ่านมา ได้จำนวน 9 บุคคล) จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้เป็นผู้มีพลังจิตมาก่อน หรือมีความพิเศษอย่างโดดเด่นกว่าใคร ๆ ก็คงไม่ใช่ แต่เราเป็นผู้ได้รับโอกาสที่หาได้ยาก และเราก็รักษามันไว้ได้จนถึงปัจจุบัน ด้วยกำลังกาย และกำลังใจของเราเอง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 2 ปี เหมือนการว่ายน้ำทวนกระแส เหนื่อยได้ แต่ถอยไม่ได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเกิดโดยมีเหตุและปัจจัย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ตามหลัก (อิทัปปัจยตา) บางเรื่องเราก็อาจพอรู้ได้ บางเรื่องต้องให้ผู้รู้บอกก่อนจึงจะพอเข้าใจได้






    </TD></TR></TBODY></TABLE>











    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2518292 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-10-2009, 07:49 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12465 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2518292", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,892
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,787
    ได้รับอนุโมทนา 43,682 ครั้ง ใน 1,801 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1119 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2518292 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top width="8%">คำถาม


    </TD><TD bgColor=#666600 width="92%">มนุษย์ต่างดาวเป็นมังสวิรัติหรือป่าวครับ (ขอคำตอบอย่างละเอียด)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="8%">ตอบ


    </TD><TD bgColor=#006666 width="92%">มนุษย์ต่างดาวได้เดินทางมาโลกมนุษย์ตั้งแต่ครั้งอดีตหลายยุค หลายสมัย และมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมาก็มีหลายเผ่าพันธุ์ หลายดวงดาว มีการจารึกหลักฐานต่างๆ ไว้มากมายตั้งแต่โบราณ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผู้ที่เดินทางถึงโลกมนุษย์ได้นั้นย่อมมีวิวัฒนาการก้าวหน้ากว่ามนุษย์ในโลกนี้มาก จึงได้มีการนำความรู้ต่างๆ มาสอนให้คนในยุคโบราณเรียนรู้สร้างสิ่งต่างๆ เพื่อการดำรงชีวิต ดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ให้อยู่รอดในแต่ละยุค แต่ละสมัย. ดังนั้น เรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่กลุ่มเขากะลานำเสนอนี้มิได้หมายความรวมถึงมนุษย์ต่างดาวทั้งหมด แต่เป็นเรื่องราวของ 2 ดวงดาวที่กลุ่มเขากะลาติดต่อสื่อสารอยู่และรับรู้ข้อมูลต่างๆ เท่าที่มีการสื่อสารบอกมาเท่านั้น ซึ่ง 2 ดวงดาวที่กล่าวคือ

    มนุษย์ต่างดาวนอกจักรวาล คือ เดินทางมาจากจักรวาลโลกุกะตาปากะดิกอง เป็นจักรวาลที่ไกลมาก เดินทางผ่านมิติเข้ามาด้วยยานใหญ่ ซึ่งภายในบรรจุยานลำเล็กจำนวนมาก มีกายเนื้อกายมองเห็นได้ เป็นมาชิกกลุ่มสากล ที่รับอาสามาช่วยเหลือมนุษย์โลกร่วมกับหลายดวงดาว โดยจะนำเทคโนโลยีที่เจริญสูงสุดมาให้กับมนุษย์โลก ซึ่งต่อไปในภายภาคหน้ามนุษย์จะมีความเจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจไปพร้อมๆ กัน ความเจริญสูงสุดทางด้านเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวที่สามารถเดินทางมาถึงโลกมนุษย์ได้นั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะระยะทางที่ไกลแสนไกล ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางนับร้อยปีพันปี จึงจะไปถึง ซึ่งการคิดเช่นนี้ โดยใช้เกณฑ์ ของมนุษย์เปรียบเทียบซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง..
    จากการสื่อสารผ่าน จ.ส.อ. เชิด ชื่นสำนวน ในเดือนธันวาคม 2540 ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ออกรายการใน VDO ม้วนที่ 1) ขณะให้สัมภาษณ์พร้อมกับ ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์ นั้นท่านสื่อสารถามมนุษย์ต่างดาวว่า ยานที่มาโลกมนุษย์นั้นทำจากวัตถุใด ซึ่งได้รับการสื่อสารตอบมาว่ามีแม่เหล็กและแร่ธาตุบางชนิดประกอบอยู่ ซึ่ง ดร. ชัยยงค์ ท่านได้กล่าวว่าถ้ามีแม่เหล็กก็ต้องเป็นแม่เหล็กบางอย่างที่เราไม่รู้ เพราะการเดินทางต้องใช้ความเร็วมาก กว่า 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งยานอวกาศไม่อาจเดินทางมาได้ด้วยพลังไฟฟ้าหรือพลังนิวเคลียร์ เพราะยังช้าอยู่มาก
    เดือนมิถุนายน 2543 ข่าวนักวิทยาศาสตร์สหรัฐอเมริกาค้นพบว่า มนุษย์สามารถพิชิตจักรวาลด้วยยานพลังแม่เหล็ก เป็นการเดินทางด้วยความเร็วประมาณ 288,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งต้องใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็ก จึงจะสามารถเดินทางด้วยความเร็วเช่นนี้ได้ ซึ่งองค์การอวกาศสหรัฐอเมริกาเห็นว่ามีความเป็นไปได้ จึงออกทุนให้ดำเนินการทดลองต่อไป คาดว่าจะได้เห็นใน อีก 10 ปีข้างหน้า
    นับว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกที่มนุษย์ต่างดาวได้บอกก่อนที่จะมีการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์สหรัฐอเมริกาถึง 2 ปี
    ขนาดมนุษย์ที่มีเทคโนโลยีด้อยกว่าเขามากมาย ยังสามารถค้นพบความเป็นไปได้ในการเดินทางด้วยความเร็วขนาดนี้ได้เลย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มนุษย์ต่างดาวจะค้นพบวิธีการต่างๆ ที่ก้าวหน้าก่อนเรา ซึ่งมนุษย์ต่างดาวได้เคยกล่าวว่า เรื่องของมิติ เรื่องของเวลา ที่มนุษย์ศึกษาอยู่นี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีอยู่แล้วในจักรวาล มิใช่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ อะไรเลย.. เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่เรามีความเจริญทั้งทางด้านจิตใจและวัตถุไปพร้อมๆกันแล้ว เราก็จะพบเองและเราก็จะสามารถเดินทางไปได้ทั่วสากลจักรวาลเช่นกัน.. ดวงดาวใดๆ ที่มีความเจริญทางด้านจิตใจในส่วนรวมแล้ว ย่อมได้รับความสะดวกสบายตามกฏของธรรมชาติ โลกของจักรวาลโลกุกะตาปากะดิกองก็เช่นกัน อยู่กันอย่างสงบ รักษาศีล แทนกฏหมาย เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันทั้งโลก ไม่มีการแบ่งแยกดินแดนใดๆ จึงไม่จำเป็นต้องค้าขายเอากำไรเข้าประเทศหรือเข้าตนเอง เพราะทุกคนเป็นคนของรัฐ จึงไม่ต้องสร้างกรรมเพื่อแก่งแย่งชิงดีกัน ไม่มีการเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ว่ากับคนหรือสัตว์ ดังนั้นจึงไม่มีการฆ่าสัตว์เพื่อบริโภค แต่สัตว์ที่ตายเองตามธรรมชาติ เช่นปลาในน้ำ นำมาบริโภคได้ไม่เป็นการผิดศีล แต่ในโลกของเขาก็มีจำนวนน้อยมาก เพราะผู้ที่สร้างบาปกรรมแล้วมาเกิดเป็นสัตว์นั้นมีน้อย ถึงจะมีนรก - สวรรค์ เป็นของจักรวาลของเขาก็ตาม แต่ผู้ที่ไปรับกรรมในภพนั้นๆ มีน้อยมาก เพราะกิเลสเบาบาง ในส่วนรวม การบริโภคจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา เป็นเพียงอาหารแคปซูลจากต้นเคริป หรือขนมปัง หรือเนื้อสัตว์ที่ตายเองเพียงเล็กน้อยต่อวันเท่านั้น
    มนุษย์ต่างดาวจากจักรวาลเดียวกัน คือมนุษย์ต่างดาวจากดาวพลูโต เป็นรูปธรรมชั้นสูงมีกายละเอียดที่เป็นกลุ่มพลังงานทรงอานุภาพสามารถ เปล่งพลังงานให้มองเห็นเป็นรูปร่างได้ หรือโปร่งแสงได้. บางครั้งมีการใช้ร่างสังเคราะห์เทียมที่ทำขึ้นแทนกายหยาบในการติดต่อสื่อสารเพื่อให้มนุษย์มองเห็น บนดาวพลูโตมีอากาศหนาวเย็นมาก ติดลบหลายร้อยองศา มีอายุยืนนับหมื่นปี มีความเจริญทางจิตสูงมาก เข้าใจลึกซึ้งในกฏของจักรวาลและปฏิบัติสมาธิตลอดเวลาอันยาวนานของชีวิตเป็นสมาชิกกลุ่มสากล รับหน้าที่เป็นผู้นำในการฝึกมนุษย์กลุ่มหนึ่งบนโลกนี้.. ให้มีความเชี่ยวชาญในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวอย่างมีประสิทธิภาพ สอนให้มนุษย์รอบรู้ในเรื่องของจักรวาล กฏจักรวาลและผลตอบแทนที่ปฏิบัติตามกฏของจักรวาล ซึ่งเป็นกฏเดียวกับ "กฏแห่งกรรม" นั่นเอง เพราะพระพุทธองค์ท่านตรัสรู้ในกฏของธรรมชาติ ในกฏของจักรวาล และนำมาสั่งสอนมนุษย์บนโลกนี้ ซึ่งผู้ทรงคุณธรรมสูงในแต่ละดวงดาวก็เคารพในกฏเดียวกันนี้เอง...
    ดังนั้น ท่านที่มาจากดาวพลูโต จึงมาสอนมนุษย์ให้เรียนรู้ 2 ระบบพร้อมกัน คือ
    - ระบบคุณธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา สอนให้มีศีลเป็นพื้นฐาน สอนสมาธิ และสอนให้ใช้ปัญญาไตร่ตรองในกฏแห่งสัจธรรม สอนให้ลด ละ เลิกอกุศลกรรม หรือกรรมชั่วต่างๆ ให้บำเพ็ญกุศลกรรมฝึกเมตตาบารมี และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกเดียวกัน และสอนไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ 5 ซึ่งเป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา คือ กฏอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา (ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์และไม่ใช่ตัวตน)
    - ระบบสัมผัสกับต่างดาว จะมีคลื่นจากเทคโนโลยีจากต่างดาวส่งมาเป็นอุปกรณ์การฝึกเฉพาะบุคคล ซึ่งจะเรียกว่า "การประมวลพลัง" ครั้งละประมาณ 1-2 ชั่วโมง เกือบทุกวันตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา การฝึกเพื่อจุดประสงค์ ให้ผู้ฝึกได้เรียนรู้ในขันธ์ 5 ของตนเอง โดยมีระบบคลื่นเป็นตัวแยกให้เห็นเด่นชัดว่า รูป - คือร่างกาย นั้นมิใช่ของเราเวทนา - คือความรู้สึกนั้นก็มิใช่ของเรา สัญญา - หรือความทรงจำนั้นก็มิใช่ของเรา สังขาร - คือความคิด และวิญญาน - เมื่อมีการสัมผัสทางอายตนะต่างๆ เช่นหู ตาจมูก ฯลฯ แล้วปรุงแต่งเป็นกิเลศ ตัณหา อุปทาน ขึ้นมา ทุกอย่างเกิดขึ้นตามเหตุ ตามปัจจัยทั้งสิ้น ดังนั้นการใช้คลื่นเป็นตัวแยกขันธ์ 5 นั้นทำให้ผู้ฝึกรู้จัก ขันธ์ 5 ตามความเป็นจริงว่ามิใช่ของเรา คือธรรมชาติล้วนๆ ที่มันแปรปรวนไปตามเหตุปัจจัยเท่านั้นเอง




    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="8%">คำถาม


    </TD><TD bgColor=#666600 width="92%">ปัจจุบันทางกลุ่มเขากะลายังติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวอยู่หรือเปล่าวครับ ? และเนื้อหาที่ติดต่อกันล่าสุดเป็นอย่างไร ?



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="8%">ตอบ


    </TD><TD bgColor=#006666 width="92%">ปัจจุบันกลุ่มเขากะลา ยังคงติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวอยู่อย่างต่อเนื่องและยานอวกาศยังคงมาปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ มนุษย์ต่างดาวยังยืนยันเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ด้วยกัน และจากภัยธรรมชาติอันรุนแรง



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="8%">คำถาม


    </TD><TD bgColor=#666600 width="92%">มื่อไหร่มนุษย์ต่างดาวจะมาพบกับมนุษย์โลกอย่างเป็นทางการครับ ?



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="8%">ตอบ


    </TD><TD bgColor=#006666 width="92%">มนุษย์ต่างดาวที่กลุ่มเขากะลาติดต่อสื่อสารอยู่นี้ เป็นสมาชิกกลุ่มสากล ปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือและฟื้นฟูดวงดาวที่ประสบภัยพิบัติร้ายแรงจากธรรมชาติ ซึ่งมีหลายดวงดาวที่เคยประสบภัยพิบัติเช่นนี้มาแล้ว และเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม มนุษย์โลกจะต้องได้พบกับมนุษย์ต่างดาวอย่างเป็นทางการแน่นอน



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="8%">คำถาม


    </TD><TD bgColor=#666600 width="92%">อยากติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ ต้องฝึกอย่างไรครับ ?



    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="8%">ตอบ


    </TD><TD bgColor=#006666 width="92%">มนุษย์ต่างดาวมีความเจริญทางด้านจิตใจสูงมาก เข้าใจในหลักของกฏธรรมชาติ ซึ่งจะมีเพียงหนึ่งเดียวทั่วสากลจักรวาล คือ หลักของการเป็นผู้ให้มีความรัก มีความเมตตา ต่อผู้เกิดมาร่วมโลกเดียวกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันและไม่เบียดเบียนผู้ที่ด้อยกว่า ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ซึ่งกฏสัจจธรรมนี้ .. จะมีอยู่ในทุกศาสนา แล้วแต่ว่าศาสนาใดจะเข้าถึงกฏสัจธรรมได้ลึกซึ้งจนถึงขั้นรู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่เป็นตัวตน เป็นเพียงธรรมชาติ ทั้งสิ้นเท่านั้น จึงจะสามารถหลุดพ้นจากวัฏสงสาร คือการเวียนว่ายตายเกิดได้.. นับว่าพุทธศาสนาที่เราได้มาพบเจอนี้ เป็นสุดยอดของการเข้าถึงกฏสัจธรรมแล้ว เพราะผู้ศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรง สั่งสอนแล้วสามารถหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารได้จริงโดยเข้าใจขันธ์ 5 ตามความเป็นจริงว่าเป็นเพียงธาตุทั้ง 4 ของธรรมชาติที่ประกอบกันขึ้นมาเท่านั้นมิได้มีตัวตนอยู่จริงเลย แล้วปล่อยวางอุปาทานที่ยึดว่าเป็นตัวของเราเสียได้แล้ว ก็จะหลุดออกไปจากการเวียนว่ายตายเกิดได้..

    การจะติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวต้องปฏิบัติอย่างไร นั้น ท่านสื่อสารมาว่าการฝึกสื่อสารเต็มรูปแบบได้ปิดไปแล้วเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2543 แต่คุณจะสามารถพบเห็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวได้ โดยมิต้องเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อรอชมยานอวกาศ เพราะยานอวกาศจะไปปรากฏได้ในทุกสถานที่ทั้งในกรุงเทพ ฯ และในต่างจังหวัด หรือแม้แต่ในภูมิลำเนาของคุณเอง. ซึ่งผู้ที่เคย เดินทาง มาเขากะลา นครสวรรค์ ได้รับชมยานอวกาศที่ปรากฏโดยรอบเขากะลาแล้ว เมื่อกลับไปยังภูมิลำเนาของท่านเหล่านั้น ก็จะพบเห็นยานอวกาศไปบินปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ แม้แต่เมื่อมิสเตอร์จอห์น วิศวกรชาวอังกฤษ ยานอวกาศ ก็ไปปรากฏที่จังหวัดฉะเชิงเทราให้ท่านบันทึกภาพได้ และยังมีอีกหลายสิบคนที่อยู่กรุงเทพฯ และได้เห็นยานอวกาศปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ..
    ถ้าคุณได้ลองศึกษา และปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังแล้ว คุณจะพบว่าสภาวะจิตของคุณเปลี่ยนแปลงไป มีคุณธรรมสูงขึ้น และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และพร้อมที่จะอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่น ซึ่งเป็นจิตใจเดียวกันกับผู้ที่เดินทางมาจากต่างดาว และกระแสความบริสุทธิ์ของจิตจะส่งไปถึงเขาได้ และเขาก็จะรับรู้สภาวะจิตของคุณเช่นกัน เมื่อนั้นคุณก็จะได้เห็นยานอวกาศที่จะมาปรากฏให้ชมถึงภูมิลำเนาของคุณ เช่นเดียวกับท่านอื่นๆ ที่เห็นมาแล้ว.......



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2518325 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-10-2009, 07:58 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#12466 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2518325", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,892
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,787
    ได้รับอนุโมทนา 43,682 ครั้ง ใน 1,801 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1119 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2518325 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="97%" align=center><TBODY><TR bgColor=#99cccc><TD>คำถาม-ตอบที่น่าสนใจ
    (ข้อมูลนี้มาจากกลุ่มเขากะลาไม่ได้มีการแต่งเติมใดๆทั้งสิ้น)

    </TD></TR><TR bgColor=#666666><TD>
    <TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="30%" align=center><TBODY><TR><TD><< ย้อนกลับ | หน้าถัดไป >>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">คำถาม

    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">ขอเรียนถามกลุ่มเขากะลาด้วยความเกรงใจนะครับ คุณบอกว่าติดต่อมนุษย์ต่างดางทางจิตได้ แล้วได้จินตนาการออกมาว่า มนุษย์ต่างดาวเป็นพวกที่เจริญทางจิต และเทคโนโลยีสูงกว่าเรามาก ๆ ผมขอความช่วยเหลือจากท่านสักนิดได้มั๊ยครับ ช่วยโทรจิตถามมนุษย์ต่างดาวให้ผมหน่อยนะครับว่า บนดาวอังคารมีน้ำหรือไม่ ? และช่วยถามว่าบนดาวอังคารมีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่ ? และช่วยถามว่าสิ่งมีชีวิตในจักรวาลนี้มีอยู่บนดาวดวงใดบ้าง ผมคิว่าหากท่านติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้จริง และเค้าบอกคุณได้จริง สิ่งต่าง ๆ ที่คุณกล่าวมาตั้งแต่ต้นคงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่หากเค้าไม่บอกก็แสดงว่าเค้าไม่จริงใจกับเรา และหากการติดต่อของคุณเป็นเรื่องที่คุณสัมผัสได้จริง แต่ขาดความถูกต้องในข้อมูลที่ได้รับ จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณกำลังติดต่อกับสิ่งที่ไม่มีจริง เช่น พวกสัมภะเวสี อะไรเทือกนั้น ผมไม่บังอาจกล่าวล่วงคุณอย่างหนักแน่น แต่ผมอยากเห็นสิ่งที่เป็นจริง อะไรก็ได้ที่เป็นจริง ผมอยากได้ทราบ อยากได้รับ อยากได้สัมผัส ( 24 มิ.ย. 43)


    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">ตอบ

    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">ทราบดีว่าคุณมีความลังเลสงสัยอยู่มาก ในเรื่องของความเป็นไปได้ในการที่มนุษย์ต่างดาวจะมาติดต่อกับคนบนโลกอย่างเงียบ ๆ และยังพูดถึงเรื่องสัจธรรม หรือธรรมะ ที่ดูแล้วไม่น่าเข้ากันได้กับเทคโนโลยีที่ต้องพัฒนาในระดับสูงแน่นอนถ้ามาเยือนโลกได้ ใต้ดินลึกลงไปมีมนุษย์ดาวอังคารอาศัยอยู่ มีอายุยืนกว่าชาวโลกมาก พัฒนาการด้านเทคโนโลยีและจิตใจอยู่ในระดับสูงกว่าชาวโลก ( หมายถึงโดยส่วนรวมของชาวโลกทั้งหมด 6,000 ล้านคนที่มีอยู่ ) พวกเขาในบางส่วนได้มาทำหน้าที่บางอย่างบนโลกใบนี้ และขณะนี้ก็ยังมีการทำหน้าที่อยู่ ( คำตอบจากการสื่อสารทางโทรจิตที่เราได้ทราบมาก่อนหน้านี้แล้ว…จึงนำมาพิมพ์ให้ทราบ อ่านคำตอบแล้วก็คงยังไม่สามารถจะบอกได้ว่าเป็นคำตอบที่จริงหรือเท็จ เนื่องจากเทคโนโลยีของเรายังไม่สามารถที่จะตรวจสอบทุกสิ่งที่เราอยากรู้ได้ แต่ ณ วินาทีนี้ คำตอบของสิ่งทั้งปวงมันมีอยู่ในตัวของมันแล้ว ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ยกตัวอย่างง่าย ๆ ใกล้ตัวที่สุด ถ้ามีคนถามคุณว่า “ สัมภเวสี “ ที่คุณพูดถึงมีจริงหรือไม่ ? ถ้ามีจริงทำไมไม่บอกอย่างเป็นทางการ หรือทำให้ทุก ๆ คนเชื่อได้ ทำไมจึงยังไม่สามารถพิสูจน์อย่างเป็นทางการได้ ทั้ง ๆ ที่มีคนยืนยันว่าเห็นสัมภเวสี หรือประเภท ภูตผี วิญญาณ แล้วแต่จะเรียก ผู้ที่เคยเห็นวิญญาณ (ขอใช้คำนี้แทน) ย่อมมีมาก ถ้าจะเทียบกับ ผู้เคยเห็นจานบิน ผู้ที่ยืนยันเรื่องวิญญาณ ก็เป็นที่นับถือของประชาชน เช่นพระภิกษุที่ปฏิบัติศีล 227 ข้อ น่าเชื่อถือมากกว่าคนธรรมดา ที่ยืนยันว่าเคยเห็นจานบิน ในประเทศไทยหลักฐานเรื่องปรากฏการณ์ของวิญญาณหาอ่านได้ง่ายตามร้านขายหนังสือ และถ้าสามารถพิสูจน์เรื่องวิญญาณให้มีการรับรองทางวิทยาศาสตร์ได้ จะมีคุณอนันต์ยิ่งกว่าพิสูจน์เรื่องจานบินมีจริงอีกหลายเท่า เพราะวิญญาณเป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน มากกว่ามนุษย์ต่างดาวที่อยู่ต่างโลก ที่กล่าวมานี้ ก็เพื่อให้คุณตระหนักในข้อจำกัดของวิทยาศาสตร์ที่ชาวโลกมีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่จะกล่าวหาวิทยาศาสตร์ แต่ต้องการบอกให้ทราบว่า คุณรู้จักวิทยาศาสตร์ดีแค่ไหน และใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ในสิ่งที่เขาพอทำได้เท่าไรในขณะนี้ ต่อไปข้างหน้าวิทยาศาสตร์อาจพัฒนาไปจนสามารถให้คำตอบเรื่องที่ยังลึกลับอยู่ในขณะนี้ได้ ( 27 มิ.ย. 43 )

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">คำถาม

    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">ตามที่กลุ่มของคุณเคยกล่าวอ้างว่ามีสมาชิก 3 คน สามารถสื่อความคิดติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ จึงอยากขอให้ช่วยถามมนุษย์ต่างดาวผู้มีพัฒนาทางจิตวิญญาณไปสูงมากแล้ว ให้ช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง “ จิตจักรวาล “ และ “ kryon “ ว่าเป็นเรื่องจริง หรือเรื่องเท็จ หากเป็นเรื่องจริงมีรายละเอียดอย่างไร ? ความรู้ที่มนุษย์ต่างดาวจะตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเป็นคุณประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติเป็นอย่างมากในการพัฒนาจิตสำนึกของตนเอง ( 24 มิ.ย. 43 )

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 height=190 vAlign=top width="7%">ตอบ

    </TD><TD bgColor=#006666 height=190 width="93%">ได้อ่านกระทู้ ที่เป็นคำถามของคุณแล้วค่ะ และได้ทำการสื่อสารคำถามของคุณแล้ว คำตอบที่ได้คือ …. จิตจักรวาล หรือ kryon ตามที่ในใจคุณคิดถึงนั้นมีจริง…. ในกรณีที่คุณต้องการทราบว่ามีการสื่อสารกับจิตจักรวาลจริงหรือไม่ ?….. ตอบว่า “ จริง “ นัยยะของคำตอบนี้ คือคุณต้องเข้าใจว่าสมมุติภาษาในการเรียกชื่อนั้นมีอยู่…. เช่น ถ้าเพื่อนของคุณขื่อว่า “ ราชา “ คุณจะเข้าใจว่าเขาชื่อราชา … แต่..เขาไม่ได้เป็นราชา…(พระราชา) จิตจักรวาลเป็นการสื่อสารของแหล่งพลังงานจากนอกโลกจริง… เป็นกลุ่มของพลังงานที่มากระทำการหนึ่ง ๆ ซึ่งจิตจักรวาลเป็นชื่อที่ใช้แทนตัวเพื่อความเข้าใจ เช่นเดียวกับ kryon ( 26 มิ.ย.43)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">
    คำถาม
    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">ผมขอทำความเข้าใจใหม่ว่า มนุษย์ต่างดาวจากโลกุกะตาฯ นั้นมิใช่มนุษย์ดาวพลูโตใช่ไหมครับ ? ในการตอบคำถามครั้งแรกที่ผมถาม รูปธรรมชั้นสูงจากดาวโลกุกะตาฯ เป็นผู้ตอบ ส่วนการตอบครั้งหลัง ๆ นี้ รูปธรรมชั้นสูงจากดาวพลูโตเป็นผู้ตอบใช่หรือไม่ครับ? ขอขอบคุณกลุ่มเขากะลา และท่านรูปธรรมชั้นสูงจากดาวทั้งสองมากครับ.

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">
    ตอบ
    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 ที่ได้เริ่มมีการนัดหมายจานบินที่เขากะลานั้น เป็นช่วงที่ดาวพลูโตรับหน้าที่สื่อสารกับมนุษย์เป็นหลักมาตลอด รวมทั้งกำหนดบทฝึกทางจิตทั้งหมดที่กลุ่มเขากะลาได้ทำการฝึกตั้งแต่ 16 เมษายน 2542 - 19 เมษายน 2543 และปัจจุบันนี้ก็ยังสื่อสารกับมนุษย์อยู่…..ไม่ว่าคำตอบในคำถามครั้งใด ก็จะได้รับการสื่อสารจากท่านดาวพลูโต ส่วนท่านดาวโลกุกะตาปากะดิกองนั้น ท่านมาจากต่างจักรวาล มีการติดต่อสื่อสารในช่วง 2 เดือนแรกเท่านั้น ( ธ.ค.40 – ม.ค. 41) หลังจากนั้นได้รับการสื่อสารจากท่านเป็นระยะ ๆ ครั้งละไม่นาน (เพื่อให้ทราบว่าท่านยังอยู่) เป็นการให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติเท่านั้น
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">
    คำถาม
    </TD><TD bgColor=#666600 width="93%">กลุ่มเขากะลาหวังแต่จะดังเหรอ….. อุตส่าห์นับถือนะ หนังสือ “จานบินในประเทศไทย” เราก็มี เราว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ใครเคยอ่านกระทู้เรา ก็คงรู้เรื่องที่เจอที่ถนนบางบัวทองนะ

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#666666 vAlign=top width="7%">
    ตอบ
    </TD><TD bgColor=#006666 width="93%">กลุ่มเขากะลา ขอทำความเข้าใจเพิ่มเติมสักหน่อยนะคะ ที่คุณคิดว่ากลุ่มเขากะลาไม่พิมพ์คำตอบของมนุษย์ต่างดาวในคำถามที่ 16 นั้นเพราะอยากดัง (คนเดียว) ขอทำความเข้าใจใหม่นะคะ ในฐานะที่คุณมีหนังสือ “ จานบินในประเทศไทย “ ซึ่งได้อ่านคำตอบนั้นแล้ว และคุณก็ไม่สงสัยเรื่องจานบิน (เพราะเคยเห็นวัตถุบินที่ถนนบางบัวทอง) คุณก็คงได้อ่านเรื่องราวบางตอนในหนังสือเกี่ยวกับการบันทึกภาพวัตถุบินที่เขากะลา และภาพยานลงจอดที่เขากะลา แต่ที่คุณอาจไม่ทราบคือ มนุษย์ต่างดาวที่สื่อสารกับ ดร.เทพนม เมืองแมน กับมนุษย์ต่างดาวที่สื่อสารกับกลุ่มเขากะลา นครสวรรค์ นั้น ถึงอยู่คนละดวงดาวแต่ก็รู้จักกัน และได้สื่อสารกับ ดร.เทพนม เมืองแมน ว่าท่านเป็นมิตรกัน แปลง่าย ๆ ก็คือเป็นเพื่อนกัน ( ดร.เทพนม ได้บอกการสื่อสารนี้ให้กลุ่มเขากะลาทราบเมื่อปี 2541) ความเจริญของดวงดาวต่าง ๆ ที่สามารถติดต่อกันได้ทั้งในจักรวาล และต่างจักรวาลนั้น โลกของเรายังห่างไกลนัก เท่านั้นยังไม่พอ ยังพัฒนาไปในทางที่ไม่ถูกต้อง (เพราะทำลายธรรมชาติ และดัดแปลงธรรมชาติ) ทำให้ได้รับผลจากการแปรปรวนของธรรมชาติ และจะยิ่งรุนแรงขึ้นอีกในช่วงปลายปีนี้ เพราะมหันตภัย “ เอล ไดอาโบล” ที่กลุ่มเขากะลาได้นำหลักฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาลงไว้ในกระทู้ 200083 ( 23 ก.ค. 43) กลุ่มเขากะลาได้รับรู้การมาของมนุษย์ต่างดาวได้ พบเห็นจานบินจำนวนมาก ได้อุทิศตนออกจากงานกันทุกคนเพื่อฝึกทางจิตตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ขอบอกตามตรงว่า ที่มาเผยแพร่ข่าวสารใน “ มิติพิศวง” นี้ เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ได้ทำเพราะอยากดังหรืออยากเด่น เพราะความรู้สึกนั้นเคยมีในช่วงต้น ๆ ที่มีการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว แต่มันผ่านไปแล้วหลังจากการฝึกทางจิต 1 ปี…… ขณะนี้คือการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากการสื่อสารเท่านั้นค่ะ คิดว่าคุณคงเข้าใจงานของเรามากขึ้นนะคะ สวัสดีค่ะ.
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    พี่สุดใจขอนำบางส่วนที่มีผู้ถามมา และการส่งข้อมูลเพื่อตอบคำถามเหล่านั้น มาลงให้ศึกษากันเพียงเท่านี้ก่อน เพราะมีเป็นจำนวนมาก เป็นแฟ้ม ๆ

    แต่หากข้อมูลเหล่านี้ มีผู้สนใจ และประสงค์จะศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติม ในส่วนที่มนุษย์ต่างดาวได้ถ่ายทอดข้อมูลไว้

    พี่สุดใจก็จะทยอยนำมาลงไว้เพื่อให้ได้รับทราบกันค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2520530 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>เมื่อวานนี้, 11:49 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#12470 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2520530", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,892
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,787
    ได้รับอนุโมทนา 43,682 ครั้ง ใน 1,801 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1119 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2520530 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างถึง ข้อความบางส่วน เกี่ยวกับข้อมูลที่ระบบได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาเมื่อ และทำการแจ้งให้ทราบเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2552




    ภารกิจใหม่นี้จะเริ่ม 1 ตุลาคม 2552 (01102009)

    จะมีการปฏิบัติภารกิจในรูปแบบใหม่ ที่ระบบได้แจ้งข้อมูลหลัก ๆลงมาแล้ว

    ......


    ดังนั้นจึงได้ทำการวางแปลนในภารกิจนี้ เมื่อได้ข้อมูลสรุปลงตัวในภารกิจ หลังวันที่ 1 ตุลาคม 2552 นี้แล้ว จะแจ้งให้เพื่อน ๆสมาชิกได้รับทราบอีกครั้งหนึ่งค่ะ

    ...........




    ตอนนี้ ภารกิจใหม่เริ่มต้น หลังจาก 1 ตุลาคม 2552


    ภาพยนต์สารคดีประสานงานเพื่อการเตือนภัย ยังคงดำเนินต่อไป


    เพื่อจุดมุ่งหมายเดิม เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือโลกใบนี้


    ตามความคุ้นเคยที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนฉากไปเรื่อย ๆ ตามงานที่ต้องดำเนินไปตลอดเวลา

    ทุกนาที ทุกวินาที มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

    ฉากเก่า ผ่านไป
    ฉากใหม่ ก็เวียนเข้ามา


    นักแสดงทั้งเก่า ทั้งใหม่ เริ่มหลากหลายมากขึ้น

    ทุกคนมีเพียงบทของตน ที่ต้องดู ต้องรู้เท่าทัน ต้องเห็นความเป็นเพียงบทละครที่มาแสดงบนโลกใบนี้เท่านั้น

    ถ้ายังอิน ยังคิดว่าบทบาทการแสดงเหล่านั้น เป็นตัวเรา เป็นเรา แล้วโลดแล่นไปตามบทบาทสมมุติที่มีไว้ให้เหล่านั้น


    ก็จะมีแต่ความทุกข์เป็นรางวัลของการแสดง.



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เพราะ.... ตามกลไกของธรรมชาติ

    โลกนี้...ก็คือละครโรงใหญ่ ในกลไกของธรรมชาติ มีกรรม วิบากกรรม เป็นผู้คัดเลือก ให้แต่ละท่านมาเล่นตามบทนั้น ๆ อย่างเหมาะสม


    ถ้าเลือกได้ ก็คงมีแต่คนอยากเกิดมาในกองเงินกองทอง เกิดมาสวย รวยทรัพย์ เกิดมาสุขสบายกันทั้งนั้น

    ไม่มีใครอยากเลือกเกิดมาลำบาก เกิดมายากจน เกิดมาพิกลพิการ

    แต่.... เพราะไม่มีใครเลือกเกิดได้....ตามอำเภอใจตนเอง ด้วยวิบากกรรมต่าง ๆ ที่ทำไปด้วยความไม่รู้ เป็นผู้จัดสรรให้มาเล่นบทนั้น ๆ

    ถ้ายังออกจากกรรม วิบากกรรมของแต่ละคนไม่ได้ ก็ยังคงต้องมาเล่นบทบาทต่าง ๆ มากมาย ทั้งบทพ่อ แม่ ลูก ผู้ชาย ผู้หญิง พี่ ป้า น้า อา คนรวย คนจน เจ้านาย ลูกน้อง สวมหัวโขนด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ และเล่นกันต่อไป หลายภพ หลายชาติ จนนับไม่ถ้วน

    ด้วยการวนเวียนมาเกิด มาแก่ มาเจ็บ มาตาย ในโรงละครนี้



    แม้วันนี้ จะเลือกเกิดไม่ได้

    แต่เลือกที่จะ...."ไม่เกิด"...ได้ ..... ถ้าเข้าถึงกลไกของธรรมชาติ
    คือ เลือกได้.... ที่จะไม่เกิดอีก เลือกที่จะไม่มาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารอีก

    พระพุทธองค์ ท่านพบหนทางของการ หลุดพ้นจากการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ท่านเข้าถึงกลไกของธรรมชาติเหล่านั้น ค้นพบทางที่ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว จึงชี้ทาง บอกทางให้กับผู้ที่มืดบอดด้วยอวิชชา ได้รับรู้ และดำเนินตามท่านเพื่อหลุดพ้นจากสังสารวัฏอันยาวนาน

    พระอรหันตสาวกทั้งหลาย ดำเนินตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอน ชี้ทาง และหลุดพ้นจากอุปาทานทั้งหลาย ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตายเช่นกัน

    แม้ผู้ที่เป็นสาวกของพระพุทธองค์ ดำเนินตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ มีการไตร่ตรองในธรรมนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบาสก อุบาสิกา หรือบุคคลใด ๆ ก็ตาม ก็สามารถเข้าถึงกฏสัจธรรมนี้ได้ หากมีปัญญาเห็นธรรม หรือเห็นจริงในธรรมชาติเหล่านั้น

    และหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้เช่นกัน


    ดังนั้น จึงต้องพุ่งเป้าไปที่ขันธ์ห้าของตนเองเป็นหลัก เพื่อเรียนรู้ให้เชี่ยวชาญในการดับทุกข์ในขันธ์ห้า หมั่นพิจารณาให้เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติ ที่มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไปเป็นธรรมดา

    มันไม่เที่ยง มันเป็นทุกข์ เพราะมันทนอยู่อย่างเดิมไม่ได้ มันต้องแปรปรวนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมันก็ไม่ได้เป็นตัวใครของใครทั้งสิ้น มันจึงบังคับบัญชาไม่ได้ เป็นธรรมชาติที่ปรุงแต่งตามเหตุปัจจัยนั่นเอง

    หากเชี่ยวชาญในการดับทุกข์ในขันธ์ห้า และออกจากอุปาทานทุกข์เหล่านั้นได้

    ถือว่าท่านเชี่ยวชาญทุกสาขา

    ทางโลก
    ผู้ที่เก่งทางเคมี ท่านก็คือผู้เชี่ยวชาญทางเคมี
    ถ้าท่านเก่งทางคอมพิวเตอร์ ท่านก็คือผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์
    ถ้าท่านเก่งทางการแพทย์ ท่านก็คือผู้เชี่ยวชาญทางแพทย์
    ถ้าท่านเก่งทางวิศวกรรมสาขาใด ๆ ท่านก็คือผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ

    แต่ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ก็ยังคงทุกข์อยู่ ยังคงดิ้นรนเพื่อให้ออกจากทุกข์อยู่ นั่นแสดงว่า ท่านเชี่ยวชาญสาขาไหนไม่สำคัญ แต่ท่านก็ยังคงทุกข์อยู่ ยังคงหาทางดับทุกข์อยู่

    แต่ถ้าท่านเชี่ยวชาญในการดับทุกข์ ในการละจากอุปาทานขันธ์ห้า ต้นตอของความทุกข์ และท่านสามารถดับทุกข์ได้ในขันธ์ห้าของท่านเอง

    นั่นหมายถึงว่า ท่านเชี่ยวชาญทุกสาขา

    เพราะผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ทั้งหลาย สุดท้ายก็ต้องมาออกตรงทางเดียวกัน

    ก็คือหาทางดับทุกข์ เพื่อออกจากทุกข์ นั่นเอง


    เพราะฉะนั้น อริยสัจ 4 ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ จึงมุ่งหมายในเรื่องของ ทุกข์ กับการดับทุกข์ เท่านั้น


    1.ทุกข์
    2.สมุทัย คือเหตุให้ทุกข์เกิด
    3.นิโรธคือความดับทุกข์
    4.มรรค คือข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์


    พระพุทธองค์ตรัสแต่เรื่องของทุกข์ กับการดับทุกข์


    ไม่ได้ตรัสเรื่องความสุขเลย ดังนั้นความสุขจริง ๆ จึงไม่มี



    มีแต่ทุกข์มาก กับทุกข์น้อย เท่านั้น



    ทุกข์น้อย มองเห็นได้ยาก จนมองไม่เห็นว่านี่คือความทุกข์ ต้องใช้ระยะเวลานานหน่อยจึงเห็น เลยไปคิดว่า...เป็นความสุข


    เหมือนไปเที่ยว ไปร้องเพลงคาราโอเกะ เหมือนไปพักผ่อน ไปสนุกสนาน ไปมีความสุข


    แต่พอเหนื่อย เดินเที่ยวเหนื่อย ร้อน อยากกลับบ้าน จากความสุขเมื่อตอนไปเที่ยว กลับเป็นความทุกข์ ด้วยความเบื่อหน่าย อยากกลับแล้วคนอื่นยังไม่กลับ จึงต้องทนรอด้วยความทุกข์นั่นเอง


    หรือร้องคาราโอเกะอย่างสนุกสนาน พอร้องไปสัก 3 ชั่วโมง แล้วเริ่มเหนื่อย อยากหยุด อยากพัก เริ่มไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อนมาแล้ว
    แต่ถ้าเขาบอกว่า ให้ร้องเพลงอยู่อย่างนั้น ห้ามหยุด ตลอดทั้งคืน ห้ามเลิก


    ก็จะเริ่มทุกข์แล้ว เพราะเหนื่อย เพราะง่วง อยากหยุด อยากเลิก แล้วเขาไม่ให้เลิก


    การร้องเพลงนั้น จะกลายเป็นร้องเพลงด้วยความทุกข์ทันที


    ร้องไปเบื่อไป เมื่อไรจะให้หยุด เมื่อไรจะให้พอ


    นั่นคือ มีความทุกข์แฝงอยู่แต่แรกแล้ว แต่มันยังไม่เห็น แต่พอเริ่มนาน ความทุกข์เริ่มปรากฏ เริ่มเห็น เริ่มทนไม่ได้


    คราวนี้ ก็ต้องเริ่มหา วิชาดับทุกข์ มาใช้


    ทานอาหารอร่อย เหมือนมีความสุข แต่พออิ่มแล้ว เขาบอกต้องทานอีก ต้องให้หมดจาน ต้องให้หมดหม้อ


    เริ่มจะมีความทุกข์แล้ว พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว ความทุกข์เริ่มปรากฏ


    ดังนั้น สิ่งที่เรียกว่าสุข มันไม่มี มีแต่ทุกข์ กับปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์


    นี่เป็นเพียงรูปขันธ์ที่เกี่ยวเนื่องส่งไปในขันธ์ห้านะ


    แล้วอื่น ๆ อีกมากมายรอบตัว จึงมีแต่ทุกข์ ทุกข์ ทุกข์ ทุกข์ ที่มองไม่เห็น ด้วยไม่มีปัญญามองเห็นนั่นเอง


    พระพุทธองค์ตรัสรู้ แล้วเห็นทุกข์ เห็นโทษภัยในวัฏฏสงสารแล้ว


    ท่านจึงตรัสสอน


    ว่ามีแต่ทุกข์ กับการดับทุกข์เท่านั้น


    และมูลเหตุแห่งทุกข์ ก็คือความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า อุปาทานว่าเป็นตัวตน ของตน นั่นแหละเป็นเหตุแห่งทุกข์


    ดังนั้น หากจะออกจากทุกข์ ก็ต้องเชี่ยวชาญในการดับทุกข์ ที่เกิดขึ้นในขันธ์ห้าของท่าน


    ถ้าท่านเชี่ยวชาญในการดับทุกข์ ถือว่า ท่านเชี่ยวชาญทุกสาขา.



    ดังบทความในหนังสือธรรมะ ฝนประปราย ที่กล่าวว่า


    เกิดมาทำไม ?


    ในโลกนี้มีวิชาความรู้หลายสาขา

    ใครรู้แจ่มแจ้งสาขาใด ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น

    แต่ผู้ใดรู้แจ่มแจ้งเรื่องความดับทุกข์

    ผู้นั้นชื่อว่า เชี่ยวชาญทุกสาขา.
    <!-- google_ad_section_end --><HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  14. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2528090 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 12:29 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#12448 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2528090", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,897
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,791
    ได้รับอนุโมทนา 43,737 ครั้ง ใน 1,806 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1119 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2528090 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sutatip_b [​IMG]
    ไม่บังเอิญ

    พี่อาวุโสท่านหนึ่งเป็นผู้แนะนำให้ไปวัดประยงค์ ตั้งแต่ยังเป็นสำนักสงฆ์ แต่ยังไม่ได้พบพระอาจารย์เพราะท่านติดกิจนอกสำนัก
    พี่ท่านนี้คือผู้ที่ต้องปฏิบัติกิจร่วมสร้างพระประธานองค์ยืนแนวชายแดนพม่าเพื่อปลดกรรม จึงได้มาพบกันในเว็ปพลังจิต
    ลูกบอกว่าคุณลุงกับแม่เคยเป็นญาติกันในปางก่อน ลูกเป็นเด็กรุ่นใหม่ ติดอุปกรณ์มากับตัว ลงมาใช้วิบากของตนเองด้วย
    จากความต้องการช่วยคุณพี่นั่นเอง ทำให้ได้พูดคุยกับอ.สถิตย์ธรรมเรื่องสร้างพระพุทธรูป อ.สถิตย์ธรรมจึงมีนิมิตนำไปสู่การสร้างพระปางเปิดโลกที่ริมทะเลสาปเชียงแสน และประกอบพิธีบวงสรวงจักรวาลเพื่อยอเชียงแสนโยนกนาคนครคืน
    ในคืนฉลองพระนั้นเว้ปกลับบ้านส่งข้อมูลเป็นเสียงเพลงภาษาต่างประเทศ คุณมีดเฉลยว่าสื่อส่งมาเป็นคลื่นภาษาหรือรูปแบบใดก็ได้ที่โดนใจ

    ...You 'll never be happy while your heart's on a roam.
    You'll never be happy until you bring it home....

    ส่วนทางศ. ดร. นพ.เทพนมเมืองแมนนั้น ส่วนตัวเรียกท่านว่าคุณอา ท่านเคยดำรงตำแหน่งบริหารสมัยพ่อเป็นผู้บริหาร
    การที่ได้มาเข้าเว็ปพลังจิตก็พราะพระเครื่องของพ่อที่แม่ให้มา ปัจจุบันบรรจุเกศพระพุทธรูปถวายเป็นพุทธบูชา

    ครั้งหนึ่งคุณพีทกับตัวเองเกือบได้เป็นญาติกัน เพราะคุณพีทไปเดินตามน้องสาว (ลูกพี่ลูกน้อง) อย่างซีเรียสยิ่ง ได้มาเป็นญาติธรรมนี่คงดีกว่า

    ถ่ายหนังจบกลับบ้านกันดีกว่า เพื่อนๆ ว่าไหม....

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ขออนุโมทนากับอาจารย์ไก่ด้วยค่ะ กับการมองเห็นการวางระบบ ที่เป็นไปตามกลไกของระบบ ที่มีการวางโครงการไว้ต่อเนื่องมานาน

    จากการเห็นว่าเป็นการบังเอิญ บังเอิญ บังเอิญ ที่เริ่มจะมองเห็นเป็นการจัดวาง มองเห็นเป็นวงรอบ จากจุดนั้น เชื่อมต่อกับจุดนี้ จากจุดนี้ โยงไปจุดนั้น จนเริ่มเห็นเป็นรูปร่าง เป็นโครงสร้าง เป็นเครือข่ายโยงใยมากขึ้น

    การที่จะไปคาดคะเน ไปจินตนาการ ไปตื่นเต้นในความบังเอิญต่าง ๆ ในความเหลือเชื่อเรื่องต่าง ๆ ก็จะเริ่มลดลง

    เพราะเริ่มเห็นโครงสร้างของระบบมากขึ้น ก็จะเริ่มรู้เท่าทันมากขึ้น จึงเริ่มปล่อยวางได้มากขึ้น<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เหมือนสมุดลากเส้นเพื่อต่อภาพของเด็ก ๆ

    มีแต่ จุด จุด จุด จุด เต็มไปหมด ไม่เห็นเป็นรูปร่างอะไรเลย


    แต่มีจุด มีแต่ตัวเลข มีแต่ลูกศร ให้ลากจากจุด 1 ไปจุด 2 ไปจุด 3 จุด 4 จุด 5 ไปเรื่อย ๆ

    โดยเด็กที่ลากเส้น ก็ลากไป ตามเส้นทางจุด ๆ ๆ ที่เขาจุดเอาไว้แล้วใส่หมายเลขกำกับ

    ณ ตอนนั้น ณ เวลานั้น เด็กคนนั้นก็ไม่อาจมองเห็นภาพรวมได้ ว่าเป็นรูปอะไร แล้วทำไมต้องลากไปตรงนั้น ต้องลากไปตรงนี้

    ได้แต่ลากเส้นไป ตามจุดมุ่งหมายของผู้จัดทำภาพนั้น แต่ไม่ได้บอกว่าภาพนั้น คือภาพอะไร มีเพียงจุด ๆ ๆ ๆ เอาไว้ ให้เด็กคนนั้น ลากตามทางที่เขาวางไว้ให้ดำเนินไปตามจุดนั้น ๆ

    เมื่อลากไปได้ในระยะหนึ่ง ก็พอจะเริ่มมองเค้าโครงออกว่า อ๋อ ... ถ้าลากตามที่ลูกศรชี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเห็นภาพ เริ่มเห็นเค้าโครงของภาพ เริ่มเห็นการประกอบกันเป็นภาพใดภาพหนึ่งขึ้นมา


    ดังนั้น ทุกจุด ก็จะโยงใยกันไปหมด จนเกิดเป็นภาพขึ้นมาได้

    งานระบบ ก็เช่นกัน ผู้ที่วางโครงการ วางเครือข่าย ย่อมรู้ทิศทาง แล้ววางกลไกให้เดินไปตามนั้น เพื่อพบจุดเชื่อมต่อ แล้วเชื่อมไปยังจุดต่อ ๆ ไป โดยที่คนที่เดินจะเข้าใจหรือไม่ ก็ไม่เป็นไร เดินไปตามทาง ไปตามลู่ของแต่ละคน ก็จะตรงไปยังจุดที่วางไว้เช่นกัน

    เหมือนทำงานกับระบบ เมื่อทำไปนาน ๆ เข้า ก็เริ่มจะเข้าใจ ว่าไม่มีการบังเอิญ ทุกอย่าง ทุกฉาก ถูกจัดวางไว้แล้วทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเราจะเข้าใจหรือไม่เท่านั้น

    ทุกคนจึงมีลู่ของตนเองไว้เดิน จึงต้องก้มหน้าก้มตาเดินในลู่ของตน และในขณะที่เดินนั้น ก็ต้องทำประโยชน์ตนควบคู่กันไปด้วย คือศึกษาขันธ์ห้าว่ามันมีกลไกอย่างไร มันสร้างอุปาทานอย่างไร แล้วทำยังไงจึงจะออกจากขันธ์ห้าได้ด้วยความเข้าใจตามความเป็นจริง

    นี่คือสิ่งเดียวที่ทำได้ คือศึกษาขันธ์ห้า รักษาประโยชน์ตน ในขณะที่กำลังไปเดินไปตามตามเส้นทางที่ระบบวางไว้ เพื่อให้ประโยชน์งาน

    เหมือนผู้ทำภาพ ผู้วางภาพนั้น เพื่อให้เด็กลากเส้นต่อภาพ ผู้เขียนภาพ ย่อมรู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าภาพนั้นคือภาพอะไร แล้วทำกลไกอย่างไรบ้าง ต้องจุด ๆ ๆ มุมไหนบ้าง เพื่อให้เด็กที่จะต้องลากเส้นนั้น เข้าใจ แล้วลากมาต่อกันได้ จนเกิดเป็นภาพขึ้นมา

    ดังนั้น ระบบ จึงมีความเข้าใจในกลไกของโครงสร้าง และเป็นผู้จัดวางโครงข่ายไว้ก่อนแล้วนั่นเอง

    <!-- google_ad_section_end -->
    ผู้ที่ทำงานกับระบบ หรือผู้มาแสดงบทนั้น ๆ เพื่อประโยชน์งาน ก็คือผู้ที่มีกรรม วิบากกรรม นั้น ๆ อยู่แล้ว และวิบากนั้น ๆ เหมาะสมกับงานของระบบ ตามบทที่ต้องมาเล่นเพื่อประโยชน์ท่าน ประโยชน์งาน เหมาะสมกับวิบากด้วย จึงได้แสดงบทนั้น ๆ และใช้วิบากไปด้วยพร้อม ๆ กัน

    ดังนั้น คนระบบ จึงต้องมีแต่เรื่อง มีแต่ทุกข์ มีแต่ปัญหา นั่นคือวิบากที่ต้องใช้ของแต่ละคนตามงานนั้น ๆ


    แต่ระบบก็ให้การเรียนรู้ประโยชน์ตน ควบคู่ไปด้วย คือการดับทุกข์ การปล่อยวาง การละอุปาทานขันธ์ห้า

    ดังนั้น ทุกข์ที่ต้องใช้ตามวิบากอยู่แล้ว ก็ใช้วิชชาดับทุกข์ควบคู่กันไป

    ทุกข์ที่เกิดมากมาย ก็กลายเป็นทุกข์น้อยไปได้ ด้วยความเข้าใจในกลไกของอุปาทานขันธ์ห้านั่นเอง

    ดังนั้น เมื่อเห็นว่าทุกอย่างมันถูกจัดวางไว้อยู่แล้ว ถึงลุ้น ถึงไม่ลุ้น ถึงทุกข์ ถึงไม่ทุกข์ มันก็จะต้องเกิดขึ้นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะระบบจะเป็นผู้ดำเนินการเอง เพื่องานของระบบจะได้ดำเนินไปได้ไม่ผิดพลาด


    บุคคลทั่วไป ที่ไม่ได้เป็นคนระบบ เขาก็ต้องเดินไปตามกรรม วิบากกรรมของแต่ละคนอยู่แล้ว ไม่ได้มีใครจะเดินนอกลู่ของวิบากของตนเองได้ คือมีเหตุปัจจัยอย่างไร ก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น

    บางคนทำงานหนัก อดทน แต่ก็ยังถูกโกง ถูกเอาเปรียบ บางคนมีเงินมากมาย แต่ก็ยังเจ็บป่วย หรือบางคนฐานะดี มีความสุข แต่บางคน ก็ฐานะดี แล้วยังมีการล้มละลาย ทุกข์หลากหลาย ในทุก ๆ บุคคล

    นั่นก็คือ ทุกคนก็ต้องเดินตามกรรม วิบากกรรม ของแต่ละคน แม้เกิดในครอบครัวเดียวกัน คนนั้นใจดี คนนี้ใจดำ คนนั้นร่ำรวย คนนี้ยิ่งทำยิ่งจน นั่นเพราะทุกคนมาตามวิบากของแต่ละคน จึงได้แต่เดินในแต่ละลู่ของตน เมื่อสร้างเหตุมาอย่างไร ผลก็ต้องได้อย่างนั้น

    แม้จะเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงไม่อาจที่จะเหมือนกันได้ในทุก ๆ ด้าน

    มันจึงมีเหตุเก่ามา เพียงแต่เหตุนั้นเราย้อนกลับไปมองไม่เห็น เพราะผ่านมาแล้ว เมื่อผลออกมาจึงไม่รู้ว่า ทำไมเราต้องเป็นอย่างนี้ ต้องถูกโกงอย่างนี้ ต้องเจ็บป่วยอย่างนี้ ต้องล้มละลายแบบนี้ ต้องทุกข์ขนาดนี้

    แต่เมื่อมีการปฏิบัติธรรม ก็จะเริ่มเข้าใจเหตุปัจจัยที่ส่งผล ทำให้เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ก็จะเข้าใจถึงกลไกของกรรม วิบากกรรม ก็เพียรเพื่อละการปรุงแต่งต่อเติมให้เกิดทุกข์มากขึ้นไปอีก ในชาติปัจจุบันนี้

    ดังนั้น จึงต้องใช้การปล่อยวาง เข้าใจในความเป็นเช่นนั้นเองตามเหตุปัจจัยที่ส่งผลมา เพียรทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่านั้น

    ผู้ปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ จึงมีความเข้าใจในกลไกของธรรมชาติ ว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง มันต้องมีเหตุเก่าส่งมา จึงมีผลเกิดขึ้นอย่างนี้

    นั่นคือเมื่อเกิดทุกข์ ก็เพียรพิจารณา เห็นการเกิดขึ้น การตั้งอยู่ การดับไป ตามเหตุปัจจัยของแต่ละเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบ

    แล้วเข้าใจ ในสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างนั้น อย่างนั้น เป็นธรรมดา

    ก็จะปล่อยวาง ไม่ตีโพยตีพาย ไปโทษเหตุปัจจัยภายนอก จะไม่ไปยึดมั่นถือมั่นว่าทุกข์นั้นจะต้องอยู่กับเราตลอดไป ทุกข์นั้นจะไม่จางหายไป เพราะทุกข์นั้นเป็นของเรา

    เพราะความทุกข์ ก็มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เช่นกัน ทุกข์นั้นไม่คงทนอยู่อย่างนั้นตลอดไปได้

    นี่คือสัจธรรม

    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

    แม้จะเรียกสิ่งนั้นว่า สุข หรือทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์

    ก็ยังคง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เหมือนเดิม<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2531011 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 09:44 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12456 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2531011", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,900
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,800
    ได้รับอนุโมทนา 43,774 ครั้ง ใน 1,809 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1120 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2531011 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->การวางกลไกของระบบ เป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดาได้ ตามความเข้าใจของมนุษย์โลก

    และไม่สามารถตีกรอบได้เลย ตามความเข้าใจของแต่ละคน

    ดังนั้นระบบจึงต้องอธิบายทฤษฎีอยู่เสมอ ๆ ว่า

    เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าตีกรอบ

    เหมือนหากเกิดอุทกภัย หรือเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วประเทศไทยส่งข้าว ส่งอาหาร ส่งยารักษาโรค ไปช่วยผู้อดอยากเหล่านั้น ตามกลไกของความช่วยเหลือระหว่างประเทศ

    หากมีคนไม่เข้าใจ เขาก็จะถามว่า ทำไมต้องส่งอาหารไปช่วยเขาเหล่านั้น ทำไมไม่ช่วยคนยากจน คนอดอยากในประเทศไทยให้หมดก่อน คนอดอยากยากจนมีมากมายเกลื่อนไปหมดตามข้างถนน ตามชนบท ช่วยคนไทยให้อิ่มหมดก่อนเถอะ ค่อยไปช่วยคนอื่น

    ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่สั่งการให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ ก็แจ้งให้ทราบว่า หน่วยงานนี้ เป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ ที่ต้องทำตามหน้าที่เท่านั้น ซึ่งผู้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือภายในประเทศก็มีหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานสงเคราะห์ผู้ยากไร้ภายในประเทศ ควรไปแจ้งยังหน่วยงานนั้น ๆ เพื่อให้ทำการช่วยเหลือผู้ยากไร้

    ซึ่งบุคคลนั้น จะเข้าใจ หรือไม่เข้าใจ หน่วยงานนั้นก็จะต้องดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้านอาหาร และยารักษาโรค แก่ผู้อดอยากในต่างประเทศอยู่ดี ตามหน้าที่ของหน่วยงานนั้น

    ทุกหน่วยงาน มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบในงานของแต่ละคน หากไม่เข้าใจ จึงดูเหมือนไร้มนุษยธรรม

    นี่คือกรอบ ที่มีเพียงมุมมองของคน ๆ นั้น เมื่อเขาคิด เขาก็ทุกข์แล้ว เพราะมันเป็นไปไม่ได้ดังใจคิด

    ดังนั้น มนุษย์ต่างดาว ที่มาวางโครงการที่ทำงานเรื่องของภัยพิบัติ เพื่อให้การช่วยเหลือโลกใบนี้ บางครั้งการทำงาน การปฏิบัติการ ทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันกับสิ่งที่มนุษย์โลกเข้าใจ

    มุมนี้พอเข้าใจ พอมีมุมใหม่....ก็ไม่เข้าใจอีก

    ดังนั้น การที่จะให้เข้าใจกลไกระบบได้โดยรอบ จึงเป็นเรื่องยากยิ่ง ต้องใช้เวลา ต้องรับทราบทฤษฎีให้ครอบคลุม และมุ่งรักษาประโยชน์ตน คือดับทุกข์ที่กำลังเกิดขึ้นในขันธ์ห้าของแต่ละท่านเท่านั้น

    ที่เหลือ ประโยชน์ท่าน ระบบจะดำเนินการเอง ประสานงานเอง และจัดเชื่อมต่อกับบุคคลต่าง ๆ ให้เข้ามาเอง ตามฉาก ตามงานของแต่ละคน

    ทุกอย่างล้วนเป็นการเตรียมการเพื่อให้ความช่วยเหลือในเรื่องของภัยพิบัติทั้งสิ้น

    เพราะระบบแจ้งแล้วว่า กลุ่มนี้ชื่อ " กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย"

    ดังนั้น จุดมุ่งหมายคือการมาเพื่อ เตรียมการเรื่องให้ความช่วยเหลือในเรื่องของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้

    การเตรียมการก็ต้องมีทั้งคนเข้าใจ และไม่เข้าใจ เพราะเหตุการณ์มันยังไม่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่มีการฝึกคนสำหรับทำงานเพื่อเตรียมการนี้มานับ 10 ปี ท่ามกลางความไม่เข้าใจของคนที่ถูกฝึกทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 1 และรุ่นต่อ ๆ มา

    ดังนั้น จึงมีทั้งคนที่เข้าใจ และไม่เข้าใจ เล่นกันไปแต่ละฉาก แต่ละตอน แต่ละการแสดง มีการอยู่ มีการจากไป มีการพัก มีการเพิ่ม เข้ามา ออกไปตลอดเวลา

    ซึ่งถูกต้องทั้งสิ้น

    หมดฉากเก่าก็พักไป เริ่มฉากใหม่ นักแสดงก็หมุนเวียนกันมาเข้าฉาก มาตามงานที่ระบบวางไว้ แล้วหมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดเวลา

    แม้มนุษย์โลกจะไม่เข้าใจ แต่งานก็ต้องดำเนินต่อไปนั่นเอง

    และที่งานยังคงดำเนินมาได้ เพราะระบบเป็นผู้จัดวางกลไกไว้นั่นเอง<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2531014 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 09:45 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #12458 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2531014", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,900
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,800
    ได้รับอนุโมทนา 43,774 ครั้ง ใน 1,809 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1120 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2531014 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ดังนั้นระบบจึงต้องอธิบายทฤษฎีอยู่เสมอ ๆ ว่า

    เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าตีกรอบ

    เพราะกรอบที่มนุษย์คิด ย่อมใช้ทำงานใหญ่ในการช่วยเหลือภัยพิบัติบนโลกใบนี้ไม่ได้

    กรอบจึงต้องถูกตีให้แตกออกไป นี่เป็นกลไกของระบบ

    หากใครยึดสิ่งใด ก็จะถูกตีด้วยสิ่งนั้น

    หากใครมีจุดอ่อนอะไร ก็จะถูกตีที่จุดอ่อนอันนั้น

    นี่คือการให้ประโยชน์ตนของระบบ การที่จะรู้ว่าจุดอ่อนเช่นนี้ เป็นตัวพาเราเดินทางมานับภพ นับชาติไม่ถ้วน มากมายเหลือเกิน

    ถ้าไม่ตีที่จุดอ่อน จะไม่รู้เลยว่าเรามีจุดที่ยึดติด จุดที่คิดว่าเป็นเรา เหมือนเรามากที่สุด แล้วก็จะเกาะมันไป หาทางออกจากอุปาทานขันธ์ห้าไม่ได้เลย

    ก็จะยึด ยึด ยึด อยู่อย่างนั้น วนเวียนเกิดตายอยู่อย่างนั้น

    จึงมีคำระบบที่ว่า

    ทุกข์จากระบบ.... มีค่ามากกว่าทอง

    ถ้าไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม


    วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2551 เมื่อปีที่ผ่านมา

    นับเป็นเดือนแห่งการประมวลพลัง คือการประมวลพลังรับคลื่นจากต่างดาว เพื่อเห็นเวฟระบบ การรับคลื่นของเรื่องเครื่องมือ หรืออุปกรณ์จากมนุษย์ต่างดาวบนเขากะลา

    เดือนพฤศจิกายน 2552 หากมีบุคคลใด กลุ่มใด ที่จะเดินทางมาเยือนเขากะลา หรือจะมีการนัดหมายกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

    ทางกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

    ยินดีต้อนรับเช่นเคย

    และก็จะพาท่านเดินทางขึ้นไปบนเขากะลาโดยตรง โดยการเดินเท้าขึ้นไปจากประตูทางเข้า ประมาณ 300 เมตร เพื่อกราบพระประธานบนเขากะลา นั่งสมาธิ ดูดาว ดูปรากฏการณ์อื่น ๆ ไปด้วย

    งานระบบ ก็ยังคงดำเนินต่อไปเพื่อประสานอย่างมีประสิทธิภาพกับกับกลุ่มบุคคลต่าง ๆ

    แม้ฉากจะเปลี่ยนไปก็ตาม<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE id=post2542744 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 09:22 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #[​IMG]
    ชีวิตมนุษย์บนดาวเคราะห์โลก
    เปรียบเสมือนตัวละครที่โลดแล่น เล่นไปตามบท
    มีโลกเป็นโรงละคร

    ผู้กำกับ ทำบทไว้แล้ว
    เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ
    ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

    ฉากละครถูกเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก
    เพื่อให้เห็นอนิจจัง ความไม่เที่ยง

    บทเรียนชีวิตแต่ละบท เป็นเพียงบทละคร
    ที่มนุษย์ต้องเล่น ไปตามจริต ตามวิบากกรรม

    และผลสุดท้าย ก็ไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่ตัวตนที่เคยยึดมั่นถือมั่น

    บทละคร ตอนอวสาน ของภาพยนต์เรื่องชีวิตมนุษย์โลก
    ทุกชีวิตรู้อยู่แก่ใจ

    สะสมกันไปทำไม
    ชีวิตดำเนินอยู่เพียงเพื่อประคองชีวิต
    แล้วใช้ชีวิต ด้วยความไม่ประมาท
    ระลึกรู้อยู่เสมอว่า
    ฉากสุดท้ายของชีวิตทุกชีวิต
    ต้องล้มตายกลายเป็นปุ๋ย

    มันเป็นสัจธรรม ที่แน่นอน ไม่มีวันตาย
    ทุกชาติศาสนา ต้องพบเจอเหมือนกันหมด

    เมื่อจิตออกจากร่าง(ธาตุสี่ ขันธ์ห้า)
    ก็ยังคงต้องไปจับร่าง อื่น
    เพื่อยึดเกาะไว้ รอวันหลุดพ้นได้จริงในที่สุด

    จิตที่บางเบา โปร่ง โล่ง สบาย
    แม้จะเกิดอีก ก็จะได้รับสภาวะจิตเช่นนี้
    เพื่อกระทำให้ถึงซึ่งความไม่เกิด
    คือไม่มีสภาวะของการยึดมั่นถือมั่นในอุปทานขันธ์ห้า

    ตรงกันข้ามกับจิต ที่ยังหนัก เพราะการยึด ไม่ยอมวาง
    ย่อมพาให้จมดิ่งลงสู่เบื้องล่าง
    ยิ่งไม่มีกุศล นำพา
    ทิศทางที่ไปก็คืออบายภูมินั่นเอง

    อบายภูมิ น่ากลัวยิ่งนัก
    ภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นเศษเสี้ยวของความน่ากลัวเท่านั้น

    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านเหมือนเช่นเคยครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ขออนุโมทนากับอาจารย์เม้าท์อย่างยิ่งค่ะ

    กับข้อความเตือนสติข้างต้นที่ได้กล่าวมานี้

    บางข้อความ หลายท่านอาจเคยได้ยินได้ฟังมาก่อนแล้ว

    แต่ปฏิบัติอย่างไร ก็ยังเบาบางจางคลายจากการยึดมั่นถือมั่นไม่ได้สักที

    เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไง เริ่มตรงไหน

    นั่นเป็นเพราะว่า เรายังหาปมที่มันล็อคไว้เจอ

    เหมือนเชือกเส้นใหญ่ แน่นหนา

    เริ่มต้นโดยการนำด้ายเส้นเล็ก ๆ หลาย ๆ เส้นมารวมกัน แล้วหมุนจนเป็นเกลียวอัดแน่นจนเป็นเส้นเชือก ยึดเกาะกันเป็นเกลียว แล้วล็อคปมไว้

    ถ้าอยากให้เชือกนั้นคลายออก หลุดออกเป็นเส้นเช่นเดิม ก็ต้องหาปมที่ล็อคให้เจอ

    เมื่อหาเจอแล้ว คลายปมออก แล้วหมุนคลายย้อนกลับไปคนละด้านกับที่ขันเกลียวให้แน่น

    เส้นด้ายเล็ก ๆ ก็จะค่อย ๆ คลาย หลุดออกจากกัน คืนเป็นเส้น เส้น เส้น ที่ไม่ใช่เชือกอีกต่อไป

    เช่นกัน การยึดก็ย่อมต้องหนัก ยิ่งยึดมาก สะสมมาก ความหนักย่อมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะอุปาทานมันไม่รู้จักหยุด ไม่รู้จักพอ มีแต่ต้องสะสมให้มากเข้าไว้ นี่คือกลไกของอุปาทาน

    การปล่อย การวาง ก็คือการละอุปาทาน ย่อมเบาบาง จางคลายจากความยึดมั่นถือมั่นไปเรื่อย ๆ เพราะสวนทางกับการยึดมั่นถือมั่น

    การปล่อยวาง มิใช่การปล่อยปละละเลย แต่เป็นการวางจากภายใน วางด้วยความเข้าใจ คือมีความเข้าใจในกลไกของธรรมชาติ ของกรรม วิบากกรรมของแต่ละคนที่รายรอบอยู่ ว่าเขาต้องถูกต้องตามกรรม วิบากกรรมของเขาเหล่านั้นเช่นกัน

    แม้แต่สิ่งของที่มีอยู่ ใช้อยู่ ก็ยังคงใช้ได้เหมือนเดิม มีอยู่เหมือนเดิม แต่อยู่กันด้วยความเข้าใจ ในสิ่งที่มันเป็นอยู่

    บางอันแตก บางอันหัก บางอันหาย ก็ไม่ได้ไปฟูมฟายด้วยความหวงแหนเช่นเคย

    อุปาทานขันธ์ห้า มันก็มีปมของมันที่ถูกซ่อนอยู่ เมื่อหาเจอ ก็ย่อมคลายจากความยึดมั่นถือมั่นได้

    หากใครหาเจอได้ไว ก็เบาบางจางคลายจากทุกข์ได้อย่างรวดเร็ว

    ก็เพราะรู้เท่าทัน...อุปาทาน...นั่นเอง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <table id="post2549057" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] เมื่อวานนี้, 10:23 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #12525 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2549057", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,915
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,865
    ได้รับอนุโมทนา 44,157 ครั้ง ใน 1,824 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1122 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2549057" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ขอ อนุโมทนากับอาจารย์ไก่ ที่ได้นำข้อมูลจากกระทู้ ภัยพิบัติและการเตรียมการ มาให้รับทราบ เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะมีความน่าตกใจไม่น้อยสำหรับบางท่านที่ได้รับข่าวสาร เหล่านี้ไป

    หลายท่านอ่านแล้ว มีความหวาดกลัว ตกใจ ห่วงใยไปสารพัด และเริ่มจินตนาการไปอีกหลายอย่าง

    บาง ท่านอ่านแล้วหดหู่ และเห็นว่าหากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมาแล้วจะทำยังไง ไม่มีใครช่วยใครได้ มันหนักหนาเกินกว่ามนุษย์จะยับยั้งมันได้

    บางคนอ่านแล้ว ขุ่นเคือง ไม่พอใจ ทำไมอะไร อะไร ต้องมาทำร้ายโลกใบนี้

    บาง คนรับรู้ เข้าใจ แต่ก็ยังพุ่งทะยานไปด้วยความหวาดหวั่น ด้วยความหวาดกลัว แม้ว่าความรู้สึกหวาดกลัว เตรียมการเหล่านี้ เคยเป็นตลอดมาในเวลาหลายปีที่ผ่านไป

    บางท่านอ่านแล้วเข้าใจ ข่าวสารมากมายมีให้รับรู้รับทราบ ก็รับรู้ เข้าใจ แล้วปล่อยวาง เพราะถึงยังไง มันก็ตัองเป็นยังงั้นอยู่ดี


    ตั้งสติ แล้วลองพิจารณาขันธ์ห้าอีกครั้ง

    มี เหตุการณ์มากมาย ที่ผ่านเข้ามาในช่วงระยะเวลานับ 10 ปี มีกระแสของการที่จะเกิดภัยพิบัติ ต่าง ๆ ตลอดเวลา ทำให้มีกระบวนการทางจิตเกิดขึ้น มีการเตรียมความพร้อม ทั้งทางโลก และทางธรรม

    ทุกกระแส ของการเตือนเรื่องภัยพิบัติ ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มไหน จากบุคคลใด จากผู้ปฏิบัติท่านใด ๆ จากสำนักไหน หรือจากประเทศใด ๆ ล้วนเป็นเรื่องของการกล่าวถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น ภัยธรรมชาติที่ใหญ่หลวง ทุกเรื่องราวล้วนน่ากลัว น่าตกใจทั้งสิ้น

    และก็ใหญ่เกินกว่าที่ มนุษย์บนโลกใบนี้จะทำอะไรได้

    แต่.... ต้องมีความเข้าใจในกลไกของธรรมชาติ
    และเห็นว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง ในทุกเรื่อง

    ทุกเรื่อง ทุกข้อความ ทุกการเตือน ทุกการบอกกล่าว
    ไม่มีผิด ไม่มีถูก

    ใครรับทราบข่าวมาอย่างไร ก็บอกไปอย่างนั้น
    ใครสื่อสารกับสิ่งใด ก็บอกไปอย่างนั้น
    ใครเห็นภาพอย่างไร ก็บอกไปอย่างนั้น

    จึงมีหลายกลุ่ม หลายคณะ หลายบุคคล ที่มารวมกัน มีการเตรียมพร้อม มีการกระทำ มีการดำเนินการ ตามข้อมูลที่ได้รับมาของแต่ละกลุ่ม

    จึงมีการเห็นกลุ่มเตรียมการเรื่องของภัยพิบัติ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

    เพราะแต่ละกลุ่ม แต่ละบุคคล ได้รับข้อมูล แล้วก็ดำเนินการไปตามข้อมูลที่ได้รับมา

    แล้ว แต่ว่าข้อมูลนั้นจะเตือนอย่างไร เตรียมการอย่างไร แล้วผู้ที่อยู่ในจุดที่ได้รับข้อมูล จะนำพากลุ่มนั้น ๆ ไปในแนวทางใด ขณะดำเนินการนั้น มีความทุกข์ มีความร้อนรน มีความห่วงใยในการเตรียมการมากน้อยแค่ไหน

    บางกลุ่มเตรียมการแบบเงียบ ๆ
    บางกลุ่มเตรียมการแบบสงบ เข้าใจในธรรมชาติ
    บางกลุ่มยิ่ง เตรียมยิ่งร้อนรน ยิ่งรู้ ยิ่งกังวล ยิ่งเชื่อว่าจริง ยิ่งแน่ว่าเกิด ยิ่งหวาดกลัว ทุรนทุรายด้วยการห่วงใยตัวตนของตน และอาจเป็นอย่างนี้มาตลอดหลายปีด้วยความทุกข์

    จึงต้องตั้งสติ มาลองพิจารณากันดูอีกครั้ง เพราะมนุษย์ย่อมห่วงใยในความปลอดภัยของตนเองและครอบครัวเป็นหลักอยู่แล้ว
    </td></tr></tbody></table>
     
  19. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <table id="post2549078" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">เมื่อวานนี้, 10:27 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #12526 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2549078", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,915
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,865
    ได้รับอนุโมทนา 44,157 ครั้ง ใน 1,824 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1122 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2549078" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ดังนั้น

    จะคัดกรองได้อย่างไร ว่าเรื่องไหน ควรเชื่อ เรื่องไหน ไม่ควรเชื่อ
    จะรู้ได้อย่างไร ว่าเรื่องไหนควรเกิด เรื่องไหนไม่ควรเกิด
    จะรู้ได้อย่างไร ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนไม่จริง
    จะรู้ได้อย่างไร ว่าจะเกิดตอนไหน เกิดอย่างไร

    เมื่อยังไม่รู้ ยังไม่แน่ใจ ยังไม่มีอะไรให้เตรียมการได้อย่างชัดเจน

    ถึงทุกข์ไป ก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยู่ดี


    การ รับรู้ แล้วไม่เข้าใจในการปล่อยวาง ก็มีแต่จะไปเพิ่มความทุกข์ให้เกิดขึ้น ทั้งความคิด ที่ปรุงแต่งตามจินตนาการ และเกิดความหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา ทำตัวเองให้เป็นทุกข์ตลอดเวลา

    แม้ผ่านมาหลายปี ความทุกข์ก็ยังกัดกินอยู่ ปีนี้ไม่เกิด ปีหน้าคงเกิด ปีหน้าไม่เกิด ปีโน้นคงเกิด ปีโน้นไม่เกิด ปีถัดไปคงเกิด

    ภัยพิบัติยังไม่เกิด แต่สิ่งที่เกิดทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที
    ที่เกิดมาแล้ว ผ่านมาแล้ว นับเดือน นับปี นับหลาย ๆ ปี นั้น
    .... เคยเห็นหรือไม่ ?

    มันเกิดอยู่ในขันธ์ห้า ทุกข์ฟรีตลอดเวลาที่ห่วงใยตัวตน ของตน

    นี่ต่างหาก ที่มองข้ามกันไป
    </td></tr></tbody></table>
     
  20. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <table id="post2549090" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> เมื่อวานนี้, 10:30 AM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #12527 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สุดใจเขากะลา<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2549090", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2007
    อายุ: 51
    ข้อความ: 1,915
    Groans: 1
    Groaned at 4 Times in 4 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 4,865
    ได้รับอนุโมทนา 44,157 ครั้ง ใน 1,824 โพส
    พลังการให้คะแนน: 1122 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2549090" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->แม้ภาพรวมใหญ่ เราอาจปฏิเสธไม่ได้ว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่ทวีความรุนแรงในทุก ๆ ด้านนั้น คงมีการเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

    กลุ่ม ประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับข้อมูลและการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือเรื่องภัย พิบัติ ด้วยเช่นกัน แต่อาจแตกต่างไปในรูปแบบของกลุ่มอื่น ๆ

    เพราะ บางกลุ่มอาจทำด้วยความกังวล อาจเตรียมการด้วยความรู้ว่าต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ แล้วเร่งดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ อย่างต่อเนื่อง

    แต่ กลุ่มนี้ ยิ่งเตรียมยิ่งว่าง ยิ่งทำยิ่งไม่กังวล งานยิ่งมากยิ่งไม่ต้องทำอะไร ความเบาสบายจึงเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่เตรียมการช่วยเหลือบุคคลอื่น

    เพราะ มนุษย์ต่างดาวบอกไว้เสมอว่า ภัยพิบัติครั้งใหญ่ มนุษย์ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มนุษย์ต่างดาวจึงต้องมาให้ความช่วยเหลือด้วยเทคโนโลยีจึงจะสามารถเหลือรอด ได้ในบางส่วน

    ดังนั้น หากบอกไปมนุษย์ก็จะมีแต่ความกังวล ไม่สบายใจ แล้วผลก็คือยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างเดิม

    แล้วมนุษย์ยิ่งบอกยิ่งคิด ยิ่งจินตนาการ ยิ่งเกิดความกลัว แล้วก็ถูกความทุกข์กัดกินตลอดเวลา

    ดังนั้น สิ่งทั้งหลายที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ มนุษย์ต่างดาวจะดำเนินการเอง ให้ความช่วยเหลือเอง

    มนุษย์ที่จะทำงานกับเขา ก็ต้องปฏิบัติเพียงประโยชน์ตนเท่านั้น ยิ่งทำยิ่งเบาบาง ยิ่งว่างจากการยึดมั่นถือมั่น ในอัตตาตัวตน

    นั่นคือฝึกธรรมะ เพื่อออกจากวัฏฏะสงสารอันยาวนาน นี่คืองานของท่าน

    ส่วนที่เหลือ เป็นงานระบบ ที่ระบบต้องทำเอง

    หรือ งานระบบบางส่วน ก็เพียงให้บางคนหัดทดลองใช้อุปกรณ์ไปพลาง ๆ ฝึกฝนการรักษา ฝึกฝนการเห็นภาพ ฝึกฝนการรับคลื่นพลังงาน ฝึกฝนการสัมผัส ได้ยิน ได้เห็น ในตอนนี้แต่ละคนไม่รู้ว่าเอาไว้ใช้ทำอะไร แต่ข้างหน้าต้องได้ใช้เป็นพื้นฐานเพื่อติดอุปกรณ์ไฮเทคข้างหน้าแน่นอน


    กลุ่ม ประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เป็นกลุ่มหนึ่งที่ได้รับข้อมูลว่า เป็นกลุ่มที่มาทำงานเพื่อช่วยเหลือในเรื่องของภัยพิบัติบนโลกใบนี้

    การช่วยเหลือ การเตรียมอุปกรณ์ในการให้ความช่วยเหลือ เป็นการเตรียมการของมนุษย์ต่างดาว ที่ต้องเตรียมมาเอง

    มนุษย์เป็นผู้ทำหน้าที่ ประสานงานกับมนุษย์โลกเพื่อรองรับการช่วยเหลือนั้น

    และหน้าที่ของมนุษย์ก็คือ เพียรละอุปาทานขันธ์ห้าของแต่ละคน เพื่อจะได้ไม่ยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน

    เพราะไม่อย่างนั้น จะไปยึดว่าอุปกรณ์นั้น ความพิเศษจากอุปกรณ์นั้น การรู้เห็นล่วงหน้า การมีพลังพิเศษ เป็นของเรา เป็นตัวเรา

    ก็จะเสียเวลามานั่งแกะ...ความมีตัวตน ของตน...ออกอีกรอบ ซึ่งเป็นการเสียเวลานั่นเอง
    </td></tr></tbody></table>
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...