อยากเรียนถามว่า มีวิธีควบคุมพลังของตัวเองไหมครับ พลังด้านสร้าง กับพลังด้านทำลาย โดยเฉพาะพลังด้านทำลาย ทำไมถึงพลังนี้อำนาจมากจังครับ และรวดเร็ว และ น่ายั้วยวนมาก ๆ และ มีแต่อยากจะให้มีเพิ่มขึ้น ๆ ทำลายทุกอย่างจนกว่าจะไม่มีอะไรเหลือ แม้แต่ตัวของผู้มีพลังเอง
ตกลงทำให้สงสัยว่าใครควบคุมใคร พลังทำลายควบคุมเจ้าของพลัง หรือ เจ้าของพลังควบคุมพลังทำลาย
แล้วเจ้าของพลังจะบาปไหมครับ
ร่องรอยอภิญญาใหญ่ โรดแมปสู่อภิญญาสาธารณะ
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 15 พฤศจิกายน 2007.
หน้า 4 ของ 13
-
-
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าตอนนี้กำลังด้านมืดมีกำลังมากและดึงพลังงานไปใช้ในการทำลายล้าง ในการเกิดภัยพิบัติครั้งนี้
ในขณะเดียวกันก็เป็น การทดสอบ การสอบ การสกรีน คนที่มีหน้าที่ว่าตังมั่นในสัมมาทิษฐิแค่ไหน หลายคนที่ผมรู้จักที่มีหน้าที่เรื่องภัยพิบัติ ก็หลุดออกไปมากมายหลายคน พบเห็นมาก็มาก เราก็ยังระลึกถึงเขาเหล่านั้นเสมอ
ความเชื่อมั่นในจิตใจที่ดีงามว่าจะคงอยู่ตลอดไปของเรา
ไตรสรณะคมม์ มั่นคงในพระรัตนไตร
ระลึกรู้ว่า หน้าที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด -
พรหมวิหาร 4
หากท่านใดทรงซึ่ง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาแล้ว ก็เสมือนมีเกราะทิพย์ เกราะแก้ว จากพระธรรมขององค์บรมพระศาสดา คอยคุ้มภัยในวัฏสงสารทั้งปวง จนถึงที่สุด คือ ความตายครั้งสุดท้าย
เมตตา อันหมายถึง ความรักในเพื่อนมนุษย์แบบบริสุทธิ์ใจ ให้ไปไม่หวังผลตอบแทน แม้กระทั่งคำชมจากผู้รับ ไม่มีข้อกำหนด ไม่มีกฎเกณฑ์ เพียงแต่มีปัญญาพิจารณาคำว่าเมตตา ของตัวเอง จึงเรียกว่า เมตตาบริสุทธิ์
หมายเหตุ : ระวัง เมตตาพาลงเหว โดนมาเต็มๆ
ข้ออื่นขอให้ท่านอื่นๆ มาแนะนำบ้างจ้า -
แสดงความคิดเห็น
เคยอ่านในที่ไหนก็จำไม่ได้แล้ว ว่าหลวงปู่เทพโลกอุดร จะเน้นเรื่องฝึกมหาสติปัฏฐาน 4 เป็นหลักคือให้มีสติรู้กายใจ ตามรู้ให้ทันอารมณ์ที่เข้ามาปรุงแต่งจิตอยู่ตลอดเวลา อันจะทำให้จิตบริสุทธิ์เป็นพื้นฐานให้ฝึกกำลังอภิญญาต่อไปได้ครับ ท่านคงไม่ได้ต้องการให้เรามาคร่ำเคร่งทรงฌาณ 4 แบบฤาษีชีไพร เพราะพวกเรายังต้องมีภาระเรื่องครอบครัว และการทำมาหากินกันอยู่ จะผิดหรือถูกอย่างไรต้องขออภัยไว้ ณ. ที่นี้ด้วยครับ
(good) ผมก็มีความคิดเห็นโดยพิจารณาตามเหตุและผล
แล้ว เห็นด้วยกับท่านน่ะแต่ไม่ทั้งหมดคือเข้าใจตัวเรานี่ยังเป็น ฆรวาส อุบาสุก อุบาสิกา โดยทั่วไปยังไม่ใช่พระภิกษุหรือฤาษีชีไพร ที่จะต้องปฏิบัติถือพรหมจรรย์ให้หมดจด ตัดจากทางโลก หลุดพ้นจากสังคมโลกียวิสัย แต่เรายังถือปฏิบัติยึดหลักปฏิบัติในศีล5 โดยเฉพาะ ศิลข้อ 3 กาเมฯห้ามผิดลูกเมียท่านอื่นเป็นต้น โดยถือปฏิบัติโดยทั่วไปอยู่แล้ว หรือศีล 8 โดยเฉพาะศิลข้อ 3 อพรัหมะฯ เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ ซึ่งถือว่าเราปฏิบัติกันในวันพระ ถือ เป็นหลักแนวทางในชีวิต แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นประพฤติพรหมจรรย์ให้หมดจดโดยไม่มีครอบครัว และการคร่ำเคร่งในฌาน ได้ขนาดนั้น ฉะนั้นคิดว่า ความจำเป็นของฆรวาส ตอนนี้ควรจะเน้นปฏิบัติมหาสติปัฏฐาน 4 มีสติกำหนดรู้กายและใจ ให้รู้ ให้มันเข้าใจตัวเอง รู้ตัวเองตลอดเวลาจะเหมาะกับเรามากกว่า
การที่เราเคร่งปฏิบัติในฌาน เรียกว่าได้ว่าประเสริฐอย่างยิ่ง เป็นหนทาง โลกุตตระเป็นทางเจริญไม่มีเสื่อมแน่นอน แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมคือการประพฤติพรหมจรรย์นั้นจะต้องหมดจดบริสุจน์ เพราะถ้าการประพฤติพรหมจรรย์ไม่บริสุจน์หมดจดแล้ว ความเสื่อมจากฌานย่อมมีแน่นอนน่ะท่าน
สุดท้ายนี้ ถ้าท่านใหนปฏิบัติได้แบบใหนก็ดี ผมขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยทั้งนั้นและครับ ถ้าท่านตั้งใจปฏิบัติได้อย่างนั้นมีแต่เจริญทั้งนั้น
-
จากคุณlittlelucky<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827679", true); </SCRIPT>
อยากเรียนถามว่า มีวิธีควบคุมพลังของตัวเองไหมครับ พลังด้านสร้าง กับพลังด้านทำลาย โดยเฉพาะพลังด้านทำลาย ทำไมถึงพลังนี้อำนาจมากจังครับ และรวดเร็ว และ น่ายั้วยวนมาก ๆ และ มีแต่อยากจะให้มีเพิ่มขึ้น ๆ ทำลายทุกอย่างจนกว่าจะไม่มีอะไรเหลือ แม้แต่ตัวของผู้มีพลังเอง
ตกลงทำให้สงสัยว่าใครควบคุมใคร พลังทำลายควบคุมเจ้าของพลัง หรือ เจ้าของพลังควบคุมพลังทำลาย
แล้วเจ้าของพลังจะบาปไหมครับ
ขอแสดงความเห็นครับ
การควบคุมพลัง(อภิญญา) ต้องมีสติรู้เท่าทันทุกขณะว่าเราจะใช้พลังนี้ในการสร้างประโยชน์สุขต่อผู้คนที่เขาลำบากจากภัยพิบัติหรือง่ายๆคือใช้พลังนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นที่ตั้งครับ หากเราพบว่าตัวเรากำลังใช้พลังนี้เพื่อประโยชน์สุขส่วนตัวพึงรีบระงับการใช้โดยทันทีไม่เช่นนั้นเราจะโดนจิตมารเข้ามาหลอกมาแทรกในจิตเราจนเราเผลอใช้ไปในทางที่ผิดได้ หากเจอภาวะเช่นนี้ให้รีบอธิษฐานขอส่งคืนอภิญญากลับคืนโดยเร็วมิเช่นนั้นเราอาจจะหมดโอกาสที่จะพบและเดินบนเส้นทางธรรมของพระพุทธองค์โดยสิ้นเชิง
ขอเตือนพลังด้านการทำลายไม่มีวิธีควบคุมครับไม่ใช่แบบในภาพยนต์จีนกำลังภายในครับมันคนละเรื่องกันเพราะพลังแห่งการทำลายเกิดจากจิตมารเข้ามาควบคุมจิตเราแล้วใช้พลังออกไปครับ ถ้าไม่อยากโดนจิตมารเข้าควบคุมก็ต้องปฏิบัติตามที่คุณคณานันท์สอนไว้ครับถูกต้องตรงจุดแล้วครับ
<!-- / message --><!-- sig --> -
อภิญญา แปลว่ารุ้ยิ่ง
เมื่อไหร่ที่เรารุ้ว่าอะไรคือดำ คือขาวเมื่อนั้นเราจึงเหมาะที่จะได้ชื่อว่ารุ้ยิ่ง
พลังอันยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมกับหน้าและความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง
การได้มาซึ่งอภิญญาอาจจะเป็น นิมิตรทั้งในทางดีและทางร้าย
เราทั้งหลายควรวางใจให้เฉย -
มีคนมาสอนในสมาธิว่า
"ปาฏิหาริย์ เริ่มต้นจากจิตใจที่บริสุทธิ์ "
ลองไปคิดพิจารณากันดูครับ ว่าทำอย่างไร หมายถึงอะไร เริ่มที่ไหนก่อน -
เพื่อมิให้นำพลังที่ยิ่งใหญ่นั้นมาทำร้ายตัวเองและผู้อื่น......
เป็นจริงและเห็นด้วยเช่นนั้นอย่างยิ่ง.....
เปล่าการประโยชน์กับการได้มาแห่งพลัง หากผู้ใช้ยังใช้พลังนั้นไม่เป็น ดังเด็กที่เล่นไฟ ไฟอาจไหมเผาทำลายตัวเอง.....
เร่งเพียรทำความดีทั้งปวงให้ถึงพร้อมกันเป็นอันดับแรกเถิดครับ...สาธุ......
ทรัพย์หรืออิทธิฤทธิ์เป็นเพียงปัจจัยที่จะทำให้คล่องในการสร้างความดี แต่หาใช้ปัจจัยหลัก หรือปัจจัยทั้งหมดไม่.....
ผมเห็นคนหมู่มากทีเดียวที่สร้างสรรค์อะไรดีๆมากมาย โดยมิต้องอาศัยเงินทองล้นฟ้า อำนาจอิทธิฤทธ์ล้นโลก....สาธุครับ ขอเป็นกำลังใจให้แก่คนธรรมดา และผู้มีวาระพิเศษทั้งหลาย....สาธ... สาธุ สาธุ....
แต่ในขณะเดียวกันผมก็เห็นคนจำนวนไม่น้อย ที่เป๋ไปก็เพราะยึดติดในเงินทอง และอิทธิฤทธิ์กัน..... -
-
ปีนี้ รู้สึกว่าถูกทดสอบเกือบตลอดปีเลยค่ะ แต่ก้อคิดดำรงสติให้มั่น ไม่ให้นึกมี ความโกรธ เกลียดในใจ หากมีแวบๆ บ้าง ก็ให้ระลึกรู้สึกตัวว่าเราคิดอะไรอยู่ และค่อยสลัดสิ่งที่คิดไม่ดีในใจออกไป ให้มากที่สุด และให้มาอยู่กับความตั้งมั่นนิ่งๆ ในใจลึกๆ จนตอนนี้ไม่ว่าเจออะไร เริ่มชินเสียแล้ว
เคยปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงพ่อท่านหนึ่ง ท่านบอกว่า เคล็ดลับการฝึกสติ นั้น ให้อยู่กับอารมณ์ เฉยๆ นิ่งๆ ไม่ปรุง ว่า พอใจ หรือไม่พอใจ ทำใจซื่อ ๆ และให้มีความอิ่ม เอิบ เบิกบานในขณะเดียวกันค่ะ ไม่ตามไปกับความคิด แต่ขณะเดียวกันก็ให้รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ค่ะ -
หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี
*** TARDUEG ****
Truth....... "สัจจะ"... Faithful
Agreement.......สัญญาใจ...(คือ สัจจะ) ตกลง เห็นพ้อง ยินยอม ปรองดอง ไพเราะ เป็นที่พอใจ
Rescue.......กอบกู้
Disaster.......ภัยพิบัติ... (หมายถึง สรรพภัยทั้งปวงหลังกึ่งพุทธกาล)
Ultimate.......สุดท้าย ในที่สุด ถึงที่สุด...(คือ นิพพาน)
Earth.......โลก
Group.......กลุ่มปฏิบัติการ
- " หนุมาน ผู้นำสาร " -
หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี
*** ขจัดนิสัยด้วย สัจจะ ****
สัจจะ...ไม่โกรธ ไม่โมโห วัละ ๑ ชั่วโมง
ทำเป็นประจำ
ใจเรา จะสอนตัวเราเอง
- " หนุมาน ผู้นำสาร " -
ร่องรอยทำไมไปอยู่ซะเมืองนอกแดนปลาดิบโน่นนะ เมืองไทย ก็อาจจะมีนะแต่ว่า ยังไม่มีใครเอามาเป็นสาธารณะ
มีแต่คำบอกเล่า แบบเทปบันทึกยังไม่มี
แต่จะเอาที่ว่าใครได้บ้างนั้นน่าจะเยอะกว่าเมืองนอกมั้ง พระที่ท่านได้ไม่ได้แสดงให้ใครเห็นเท่านั้นเอง -
แล้วเมื่อไหร่จะมีผู้มี"อภิญญา"แสดงตัวออกมาบอกเตือนถึงภัยพิบัติ
ถ้ามีผู้มี"อิทธิฤทธิ์"สำแดงปาฏิหาริย์ออกมาเตือนให้มุ่งปฏิบัติธรรม
ชาวพุทธจะได้ตื่นตัวและหันมาสนใจธรรมมากขึ้น
ถ้ามีตัวอย่างให้เห็นว่ามิใช่สิ่งที่มีแต่คำบอกเล่า
และถ้าภัยพิบัติมาถึงจริงๆชาวพุทธคงมีโอกาสรอดเยอะขึ้น -
ท่านคงแสดงอภิญญากันเพื่อใช้ช่วยคน เมื่อยามเกิดภัยพิบัติขึ้นมาครับ
ตอนนี้มาเหาะเล่นก็เป็นมานะเปล่าๆ -
ถ้ามัวแต่รอและคิดอย่างนี้ สงสัยว่าจะตายเปล่าเสียก่อนที่จะได้เห็นผู้มี "อภิญญา" ซะละมั้ง
ทำดีไม่ต้องรอครับ ลงมือทำเลย ปฏิบัติเลย อย่างน้อยๆ ก็เพื่อตนเอง เผื่อถึงวาระที่ต้องไป
จะได้มีภพภูมิสุขคติเป็นที่ไป...
. -
ทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง จะมีมุมมองอย่างน้อยสองด้านเสมอ
คนที่ชอบก็ว่าดี คนไม่ชอบก็ว่าไม่ดี
หากนำมาแสดง ถึงแม้พิสูจน์ได้ ก็จะต้องมีคนต่อว่า ไม่ใช่หนทางดับทุกข์ ... ยิ่งเป็นสงฆ์ จะยิ่งโดนตำหนิรุนแรงจากสังคม
อีกอย่างคือ หลายๆท่านมุ่งเน้นบุญฤทธิ์โปรดสัตว์ จึงไม่ต้องการแสดงอิทธิฤทธิ์ใดๆ
...................................
...................................
...................................
...................................
...................................
อภิญญาจึงเป็นสิ่งที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน ไม่เคยขาดหายไป เพียงแต่ไม่มีการแสดงต่อสาธารณะ ...ของจริงมักนิ่งเงียบ
การเตือนภัยไม่จำเป็นต้องใช้อภิญญา
แต่ต้องการจิตใจที่มั่นคงและแข็งแกร่ง
บุคคลที่มีบุญกุศลมูลเดิมมาดีจะเชื่อเอง
บุคคลที่ไม่เชื่อ ต้องปล่อยไปตามกรรมตามวาระ
จิตใจที่ดีงาม มั่นคงและแข็งแกร่ง จะสร้างปาฎิหารย์ให้ปรากฎ โดยไม่ต้องใช้อภิญญา -
การเตือนภัยไม่จำเป็นต้องใช้อภิญญา
แต่ต้องการจิตใจที่มั่นคงและแข็งแกร่ง
บุคคลที่มีบุญกุศลมูลเดิมมาดีจะเชื่อเอง
บุคคลที่ไม่เชื่อ ต้องปล่อยไปตามกรรมตามวาระ
ดีแล้วใช่ใหมครับเราควรปล่อยให้ผู้ที่ไม่สนใจธรรมให้ไปตามกรรม
การแผ่เมตตาของท่านๆก็คงกำหนดไว้เฉพาะชาวพุทธสิท่าน
สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย
สงสัยจะมีใครเข้าใจผิด ถ้าคิดกันอย่างนี้
ฟันธง ไม่มีใครสำเร็จแน่ อภิญญา ยังแบ่งเขาแบ่งเรา แบ่งรู้แบ่งไม่รู้
อ้างเวรอ้างกรรมเก่า กับองคุลีมารพุทธองค์ก็ยังแสดงบางสิ่งเพื่อให้หยุดคิด การเสียสละเพื่อส่วนรวมเพื่อคนส่วนมากไม่ได้อยู่ในธรรมชั้นสูงแล้วกระมัง เพราะต่างต้องการหลุดพ้น(คนเดียว)ต่างตั้งจิตจะพบนิพานในชาตินี้ทั้งนั้นนี่นา ใครตั้งจิตว่าชาตินี้จะนำพาพ่อแม่ญาติพี่น้องให้พ้นอเวจี แล้วถ้าต้องแลกด้วยการ ...มานะ อะไรอย่างที่บอก
ทำเพื่อผู้อื่นถือเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด........สาธุ -
หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี
*** ช่วยตนเอง แล้วช่วยผู้อื่น ****
เมื่อ ตนเองมี "สัจจะ"
ทำได้จริง
นำตนเองได้จริง...คือ พึ่งตนเองได้
จึงค่อยบอกสอนให้ ผู้อื่นมี "สัจจะ"
ให้เขาพึ่งตัวเขาเองได้
เมื่อนั้น...คือ ตัวเราสามารถเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้
ทำต่อๆ กันไป
เป็นการสานต่อพุทธศาสนา ด้วย "สัจจะ" โลกุตตระธรรม
- " หนุมาน ผู้นำสาร " -
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อย่าลืมนะครับ
หน้า 4 ของ 13