หมูแผ่น
ส่วนผสม:
<CENTER><TABLE width="82%" border=0><TBODY><TR><TD width="50%">วิธีทำ:เนื้อหมูติดมันเล็กน้อย 1 กก.
น้ำตาลทราย 150 กรัม
พริกไทยป่น 1 กรัม
ซีอิ้วขาวหรือน้ำปลาอย่างดี 130 กรัม
ผงพะโล้ 1 กรัม</TD><TD width="50%"></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
1.เนื้อหมูหั่นบาง ๆ ชิ้นขนาด 4 นิ้วฟุต (แช่เนื้อหมูในช่องแช่แข็ง พอแข็งตัวจะหั่นได้ง่ายขึ้น)
2.คลุกหมูด้วยพริกไทย ผงพะโล้ น้ำตาลทรายและน้ำปลาหรือซีอิ้ว หมักไว้ 30 นาที
3.นำหมูไปตากบนตะแกรง หรืออบในตู้อบอุณหภูมิ 50-60 องศาเซลเซียส จนแห้งพอควร
วิธีการถนอมอาหาร
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย winny, 16 มกราคม 2007.
หน้า 2 ของ 7
-
-
-
แฮมสุก (cooked ham)ส่วนผสม:
เนื้อสะโพกหมู 3 กก.
น้ำเกลือร้อยละ 8 ประกอบด้วย
วิธีทำ:-น้ำ 1 ลิตร
-เกลือไนไตรท์ 80 กรัม (99.4 % NaCl +0.6 % NaNO<SUB>2</SUB>)
-น้ำตาลทราย 4 กรัม
-ผงรีกัลเบส 4 กรัม
***ทั้งนี้ให้เตรียมประมาณ 3 ลิตร***
1.เลาะเอาไขมันและพังผืดออกจากเนื้อหมูให้หมด ไม่เช่นนั้น น้ำเกลือจะซึมเข้าไปในเนื้อได้ยาก
2. ฉีดน้ำเกลือเข้าเนื้อสะโพก โดยใช้เครื่องฉีด จนให้เนื้อสะโพกมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ของน้ำหนักเดิม ก่อนจะฉีดน้ำเกลือเข้าไป
3. นำเนื้อใส่ถุงพลาสติก เทน้ำเกลือที่เหลือใส่ลงไป แล้วมัดปากถุงให้สนิท
4. เก็บไว้ในตู้เย็น อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3-5 วัน
5. เมื่อครบเวลาก็นำเนื้อออกมาจากตู้เย็น ล้างคราบน้ำเกลือที่บริเวณผิว แล้วนำไปอัดในบล็อกแฮมแล้วต้มในน้ำเดือด 1 ชั่วโมง/เนื้อหมู 1 ก.ก.
6. ทิ้งไว้ให้เย็น
7. แกะใส่ถุง ปิดปากถุงให้สนิท เก็บไว้ในตู้เย็น 2 วัน
8. นำเนื้อมาสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ ตามต้องการ โดยใช้เครื่องหั่นเนื้อ (meat slicer)
9. บรรจุในถุงพลาสติกโดยใช้เครื่องบรรจุสุญญากาศ
-
ส่วนผสม:แคนาเดียนเบคอน (Canadian style bacon)
<TABLE width=500 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เนื้อสันส่วนนอก (Loin) 2 กก.
น้ำเกลือ ประกอบด้วย
-น้ำ 2 ลิตร
-เกลือไนไตรต์ 80 กรัม (99.4 % NaCl + 0.6% NaNO<SUB>2</SUB>)
-น้ำตาลทราย 4 กรัม
-รีกัลเบส 4 กรัม
-ควันผง 5 กรัม
</TD></TR></TBODY></TABLE>
วิธีทำ:
1.นำน้ำเกลือมาฉีดเข้าในเนื้อหมู โดยใช้เครื่องฉีด ฉีดเข้าไปจนเนื้อหมูมีน้ำหนักร้อยละ 110 ของน้ำหนักเดิม
2. นำเนื้อหมูที่ได้ แช่ในน้ำที่เหลือ แล้วเก็บในตู้เย็น 3-5 วัน
3. นำออกมาอบจนแห้ง
4. นำมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ด้วยเครื่องหั่นเนื้อ (meat slicer)
5. บรรจุในถุงพลาสติก
-
สงสัยคุณRattanapornเป็นกุ๊กระดับ5ดาวมั๊งถึงรู้เรื่องอาหารดีจัง แฮะๆ..
-
ที่จริงแล้วที่บ้านมีตำราอาหารเยอะเท่านั้นแหล่ะค่ะ บางอย่างเราก็ไม่เคยทำ แต่มันมีสูตรค่ะ ก็เลยงัดเอาจำเพาะพวกที่สำคัญจำเป็นกับพวกเรามาให้ลองทำกันดูค่ะ ส่วนความยาก ง่าย ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละบุคคล แต่ลองทำกันดูเถอะคะ จะเห็นว่าไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถของพวกเราหรอกคะ...
งานนี้สงสัยฟ้าคงลิขิตมั้งคะ ถึงได้มีสามีที่ชอบทานอาหารหลากหลายเชื้อชาติ เลยได้ความรู้แปลก ๆ ใหม่ ๆ มาเพียบเลยค่ะ กรรมวิธีของเค้าก็จะแตกต่างจากบ้านเราเล็กน้อย เพราะเครื่องอำนวยความสะดวกเยอะหน่อย...
ที่สำคัญต้องใช้พวกเครื่องเทศเยอะแยะไปหมด (มีเต็มบ้านไปหมดเหมือนกันค่ะ....) .... -
อ่านไปหิวไปครับ
ขอบพระคุณ คุณรัตนาพรอย่างยิ่งครับสำหรับสูตรอาหาร
ที่ขอสูตรพวกนี้ เพราะถ้าการแปรรูปอาหารแล้ว เป็นการเพิ่มมูลค่าของอาหารด้วยจะทำให้ชุมชน มีรายได้ในการเลี้ยงตัวเองเพิ่มขึ้นด้วยครับ -
วันนี้มีวิธีการหมัก-บ่มปลาน้ำเค็มมาฝากค่ะ......
หมักปลา
(เก็บไว้ได้ประมาณ 2 ปี)
ส่วนผสม: (สำหรับปลา 1 ก.ก)
- ปลา (เฉพาะเนื้อหรือทั้งตัว) จะใช้นาดต่าง ๆ กันก็ได้ (ขนาดเดียวกัน - ชนิดเดียวกัน - ไว้ในขวดเดียวกัน) 1 ก.ก / 1 ขวด
- เกลือป่น 2 ถ้วย
- เกลือหยาบ (เม็ดไม่ใหญ่มาก) 1 - 1 1/2 ก.ก
- ใบ bay leaf 3-4 ใบ (ซื้อหาได้ตามร้านขายเครื่องเทศ หาไม่ยากค่ะ)
- พริกไืทยดำ (เม็ด) 1 ช้อนชา
วิธีทำ:
- ล้างปลาให้สะอาด ควักไส้ออกให้หมด
- นำเกลือป่น มาโรยให้ทั่วตัวปลา และใส่เกลือเข้าไปข้างในท้องปลาด้วย นวดให้ทั่ว
- นำปลาที่นวดเกลือแล้ว มาจัดเรียงไว้บนถาด ที่มีเกลือหยาบโรยอยู่ก่อนแล้ว (ให้เรียง โดยวางเป็นแถว ทีละตัว)
- เรียงปลาทับกันเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นให้โรยเกลือป่นด้วยก่อนเสมอ
- ปิดหุ้มถาดด้วยพลาสติก หรือถ้าใช้กล่ิองใส่อาหารก็ให้ปิดฝากล่อง
- นำไปเก็บไว้ในตู้เย็น ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- นำปลาออกมาจากตู้เย็น โดยวางเรียง ๆ ซับไว้บนกระดาษทิชชู (paper towel) ให้แห้ง (กระดาษทิชชู แผ่นใหญ่ หยาบ มีขายตาม Supermaket)
- โรยเกลือลงไปในภาชนะที่จะใช้บรรจุพอประมาณ หลังจากนั้นให้นำปลาลงไปเรียงใส่ในภาชนะ ตามด้วย เกลือหยาบพอประมาณ และ ใบ bay leaf ระหว่างนี้ก็ให้โรยพริกไทยดำลงไปด้วย พอประมาณ เช่นกัน
- ทำสลับกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเต็มขวด (อย่าลืมว่าชั้นบนและชั้นล่างสุด ต้องเป็นเกลือหยาบโรยเคลือบไว้อยู่เสมอ)
- เก็บไว้ในที่มืด และ เย็นมาก ๆ (ุ6-8 องศา) ได้ประมาณ 2 ปี
****ก่อนนำมารับประทานให้นำมาแช่ในน้ำก่อน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง -
พวกเราอย่าลืมพิมพ์เอกสารเหล่านี้ออกมาเป็นกระดาษนะครับเพราะถ้าเกิดเหตุจริงๆแล้วระบบต่างล่มหมดก็คงไม่มีข้อมูลอะไรเหลือให้ดูกัน
วันนี้ผมไปเดินดูหนังสือ แล้วซื้อมาเล่มหนึ่งเป็นหนังสือผัก 333 ชนิด ราคาก็595 บาท ผมต้องศึกษาผักให้มากๆครับเพราะว่าผมกินเจด้วยส่วนหนึ่งอีอย่างในยามที่ผักหายากอะไรที่กินได้ก็ต้องเอามากินครับ เพราะในเวลานั้นเราต้องหาจากที่มีอยู่ครับ อย่างเอกสารต่างๆที่เป้นข้อมูลเกรงว่าเราจะเก็บกันไว้แต่ในคอมครับ ถ้าโลกถูกโจมตีด้วยคลื่นแม่เหล็กก็คงจบกัน ข้อมูลในคอมทั้งหมดก็เจ้งไปด้วยแม้จะมีไฟฟ้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร -
ดิฉันเห็นด้วยกับคุณ piakgear24 ค่ะ เอาอย่างงี้ดีมั้ยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะลองทำเป็นเอกสารเย็บเล่ม แล้วเราก็นำไปแจกจ่ายกันในกลุ่ม เก็บไว้เป็นคู่มือยามฉุกเฉิน เผื่อพวกเราจำกันไม่ได้ เพราะเราจะพึ่งผู้อื่นจำแล้วทำให้เราไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องทำเป็นด้วย ในภาวะขับขันแล้ว เราอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้กับคนที่เค้าทำเป็น แล้วเรียนรู้เอาจากเค้าีทีหลังหรอกนะคะ (ตนเป็นที่พี่งแห่งตนค่ะ...)
ขอให้เพื่อน ๆ ลองลงมือทำกันด้วยนะคะ ถ้าเจอปัญหาอะไร ก็อย่าลังเลที่จะถามนะคะ ถ้าดิฉันพอจะมีความรู้ตอบได้ จะพยายามช่วยค่ะ ถ้า่ตอบไม่ได้ก็จะไปค้นคว้าตำรับ ตำรามาตอบทุกท่านค่ะ...
ปล. อย่าฝากความหวังไว้กับผู้อื่นนะคะ ตัวเราต้องเตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นค่ะ ไม่ใช่คอยให้ผู้อื่นมาช่วยเหลือเรา ฝากข้อคิดนี้ไว้ด้วยนะคะ.... -
วันนี้มีวิธีการรมควันมาฝากนะคะ
---เตรียมเนื้อสัตว์ หรือปลา
****เกลือและน้ำตาล สำหรับน้ำ 4.55 ลิตร ของน้ำที่จะให้ทำน้ำเกลือ
---เกลือไอไอไดน์ 2 ถ้วย
---น้ำตาลทรายแดง (ละเอียด) (Brown sugar) 1 ถ้วย
วิธีทำ:
1. หาวัสดุ เช่น กะละมังสแตนเลส หรือ อ่างแก้ว มาผสมน้ำเกลือตามสัดส่วนที่ให้ไว้ค่ะ
2. นำเนื้อสัตว์ลงไปแช่ในน้ำเกลือ แล้วก็เอาไปเก็บไว้ในถังน้ำแข็ง ทิ้งไว้ค้างคืน หรือถ้าไม่มีน้ำแข็ง ก็ให้แช่ไว้ในอุณหภูมิปกติ มั่นกลับด้านทุก ๆ 1 ชั่วโมง ประมาณ 4 ชั่วโมง
3. หลังจากนั้น นำเนื้อสัตว์ที่แช่ในน้ำเกลือออก
4. ล้างด้วยน้ำเย็น (ให้ล้างไว ๆ )
5. ซับให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู (paper towel) มีขายตาม Supermaket ค่ะ
6. ผึ่งลมให้แห้ง
*****ในกรณีที่เราไม่ใช้เครื่องทำ smoke (รมควัน) นะคะ แต่เราจะใช้ campfire (ก่อกองไฟ) ในการรมควันนะคะ ....สมมุติว่้าเราอยู่ในป่าค่ะ...*****
7. ก่อกองไฟขึ้นมา รอจนกระทั่งควันดำหายไป เหลือแค่ควันสีฟ้าจาง ๆ
8. ให้แขวนเนื้อสัตว์ที่ต้องการ smoke (รมควัน) โดยเสียบเนื้อสัตว์ด้วย ลวด string หรือไม้เสียบ หรือหาอะไรก็ได้ที่เสียบได้มาเสียบค่ะ แต่พยายามอย่าเสียบให้ชิดกันจนเกินไป เว้นช่วงว่างไว้ด้วย
9. แขวนไว้เหนือกองไฟ ใช้ควันไฟอ่อน ๆ ในการ ทำรมควัน (smoke) รอจนกระทั่งเนื้อสัตว์แห้งจนทั่งถึงกัน แล้วจึงนำไปแขวนผึ่งไว้ที่ใดที่หนึ่ง ประมาณ 1 วัน (การที่เราทำให้เนื้อสัตว์แห้งแบบนี้ ก็เพื่ิอป้องกันแมลงวันมาออกไข่ แล้วกลายเป็นหนอนค่ะ...และเราก็ำไม่ควรเก็บโดยการห่อด้วยกระดาษแก้วนะคะ เพราะจะทำให้เนื้อสัตว์ชื้นขึ้นมาอีก แล้วเน่า...
10. ควรคมควันเนื้อปลา ประมาณ 4-6 ชั่วโมง และ สัตว์ปีก ประมาณ 6-10 ชั่วโมง
11. ถ้า่ต้องการแห้งมาก ๆ รมควันนาน ๆ สำหรับรสชาติเพื่อให้ดีขึ้น ก็ รมควันประมาณ 12-15 ชั่วโมงค่ะ
*****วันนี้ พูดวิธีการ รมควันโดยรวมนะคะ วันหลังมีวิธีการ รมควัน อาหารแต่ละชนิดมาฝากค่ะ***** -
ขอบคุณ
คุณ Rattanaporn ที่ช่วยหาข้อมูลเพิ่มในกระทู้ค่ะ -
<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>ลุงคนเชียงใหม่<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก
เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:53 PM
วันที่สมัคร: Nov 2004
ข้อความ: 49 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 29 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 675 ครั้ง ใน 43 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0
</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ขอฝากข้อมูลถึงสมาชิกด้วย
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เรียนคุณคนานันท์
คุณลุงกลับออกมาได้ 3 วันแล้วกำลังเตรียมตัวจะขึ้นไปในพื้นที่เตรียมการจริงๆ
ตอนนี้กลับมาคิดเรื่องระบบอาหารใหม่เกือบทั้งหมด
แบ่งออกเป็น2 ส่วนคือ
1.ส่วนที่จำเป็นต้องติดตัวหรือต้องเดินทาง
อาหารแห้งและอุปกรณ์ทำครัว
มีดอาวุธสำคัญมาก....................
และอาวุธสำหรับปอ้งกันตัว
(สำหรับคนที่มีระดับจิตไม่สามารถสื่อเมตตาจิตกับสัตว์เดรัจฉานได้)
2.ส่วนที่เตรียมไว้ในพื้นที่อาหาร
ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ อาหารตามธรรมชาติมีน้อยทำให้อาหารที่ลุงได้ปลูกเตรียมไว้นั้น กลายเป็นอาหารของฝูงหนูป่าที่ขนกันมา
ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในพื้นที่เลย ดังนั้นระบบการปลูกฝากไว้ในธรรมชาติอาจจะต้องคิดกันใหม่หมดเลย เพราะแม้ปัจจุบันยังไม่มีผล
กระทบรุนแรงยังได้รับการผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงนี้
นอกจากคนที่ทานหนูได้คงจะยิ้มกันได้
แต่ลุงไม่ทานเนื้อ
ดังนั้นลุงคิดว่าระบบตุนอาหารแบบที่ลุงคิดไว้แต่แรกคือ
ใช้ถึงพลาสติกขนาดใหญ่มาบรรจุอาหารแห้งลงไปแล้ว
เก็บไว้เป็นจุดๆกระจายในพื้นที่ของเรา
โดยบางส่วนต้องฝังไว้(Save การปล้นชิงอาหาร)
น่าจะมีประโยชน์มากกว่า
ฝากบอกสมาชิกด้วย จะได้เตรียมตัวถูก
3.ที่สำคัญ ขอเตรียมการเรื่องความรู้เรื่องงูด้วย
เพราะแม้ในขณะนี้ การเคลื่อนของผืนดินไม่มาก(ตามความรู้สึกของเรา)แต่กระทบต่อฝูงอสรพิษที่หลบอยู่ตามหุบตามถ้ำอย่างมาก
เคลื่อนตัวกัน ไปยังแหล่งที่ปลอดภัย
(ลุงพบว่าแหล่งที่ปลอดภัยที่ลุงได้รับทราบด้วยจิต
ในขณะนี้เต็มไปด้วยงู จากพื้นที่ที่ไม่เคยมี กลับมีจำนวนมาก
หมายความแสดงถึงการทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาของสัตว์
ประเภทงูที่เกี่ยวข้องกับนาคเหล่านี้ )
ฝากเตือนท่านที่ฝึกจิตได้เร่งปฏิบัติมาช่วยกันด้วย
เพื่อเตรียมช่วยคนที่ไม่มีภูมิทางจิตเลย
********************************
เตรียมการเรื่องการฝึกซ้อมและอพยพด้วย
รวมทั้งฝึกการทำสิ่งที่เตรียมการกัน
อย่าให้มันเป็นเพียงแต่ในหนังสือ
เพราะมันทำไม่ได้จริง หรือยากมากในทางปฏิบัติ
</TD></TR></TBODY></TABLE> -
ได้ โทรศัพท์คุยกับน้อง numnim เมื่อวันก่อน เกี่ยวกับการเตรียมเสบียง และหาคนช่วยลงมือทำ พูดสายยังไม่ทันจบดีเลยค่ะ สายตัด อาจจะเป็นเพราะคุยนอกเรื่องนานไปหน่อย มือถือน้องเค้าก็เลย แบตหมดมั่ง...ฮิ
แต่ก็พอจะได้ใจความว่า น้อง numnim จะพยายามหาคนที่อยู่แถว ๆ นั้นหรือใกล้ ๆ้ บ้าน ก็ไม่รู้นะคะ ชวนกันมาทดลองทำอาหารแปรรูปเก็บไว้ ( น้องเค้าอาจจะหาคนในทีมที่เชียงใหม่ก็ได้ค่ะ.... )
ถ้าน้อง numnim หาคนได้แล้ว กรุณาติดต่อกลับ มาด่วนนะคะ เราจะได้ ลงมือทำกันเลย
น้องลอง ติดต่อคุณลุงเชียงใหม่ด้วยนะคะ เผื่อว่าจะได้รับคำแนะนำเพิ่้มเติมจากคุณลุง
ถ้าเราได้คนที่จะลงมือทำอาหารแปรรูปเก็บไว้แล้ว เราก็ต้องหาที่เก็บอาหารด้วยนะค่ะ ถ้าน้องจัดการประชุมครั้งหน้า ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ -
วันนี้เรามาทำ ปลาเผาเกลือกันนะคะ
ปลาเผาเกลือ
ส่วนผสม:
ปลานิล หรือปลาช่อน 1 ตัว
เกลือ 1 ถ้วยตวง
ตะไคร้ 2 ต้น
ใบมะกรูด 3 ใบ
ใบเตย 2 ใบ
วิธีทำ:
1. ล้างปลาผ่าท้องควักไส้ออกล้างให้สะอาดโดยไม่ต้องขอดเกล็ดออก
2. นำตะไคร้ทุบพอแตก ใบมะกรูด ใบเตย ใส่ในท้องปลา
3. นำปลามาคลุกเกลือให้ทั่วตัว ย่างบนไฟอ่อนๆไฟสุกทั่วทั้งตัว รับประทานกับน้ำจิ้มแจ่วและผักสดตามชอบ
***ส่วนผสมน้ำจิ้ม***
หอมแดง(เผา) 2 หัว
กระเทียม(เผา) 1 หัว
มะเขือเทศลูกใหญ่(เผา) 1 ลูก
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 1 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
ผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ:
1. นำหอมแดงเผา กระเทียมเผามาโขลกให้ละเอียดใส่มะเขือเทศโขลกให้เข้ากัน
2. นำมาปรุงรสด้วยน้ำมะนาว พริกป่น เกลือ -
เดี๋ยวมาต่อด้วย ปลาดุกรมควัน และ ปลาแดดเดียวค่ะ อดใจรอสักครู่ค่ะ .... ฮิ ฮิ
-
ปลาดุกรมควัน
วัตถุดิบ:
1. ปลาดุก
2. น้ำเกลือเข้มข้น 15 %
วิธีทำ:
1. ล้างเมือกที่ตัวปลา ตัดหัว ผ่าท้องเอาไส้ออก ล้างให้สะอาด
2. ชำแหละปลาเป็นแผ่นตามยาวตัวปลาหรือแบบผีเสี้อโดยติดกันตรงท้องหรือชำแหละเป็นท่อนๆ
3. แช่ปลาในน้ำเกลือที่เตรียมไว้โดยให้น้ำเกลือท่วมปลา แช่ไว้นานประมาณ 7 นาที
4. ยกปลาขึ้นจากน้ำเกลือ นำไปผึ่งแดดโดยแขวนไว้กับราวไม้ประมาณ 45 นาที เพื่อให้น้ำบนตัวปลาแห้งพอหมาดๆ
5. เมื่อได้ปลาหมาดตามต้องการแล้ว นำไปอบความร้อนโดยใช้เตาถ่านที่มีสังกะสีปิดบนเตานานประมาณ 1 ชั่วโมง
6. แล้วนำไปรมควันที่อุณหภูมิ 50-70 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 ชั่วโมง
7. นำออกจากตู้รมควัน ผึ่งไว้ให้เย็นแล้วบรรจุในถุงพลาสติก
***การเก็บรักษา***
เก็บไว้ในที่อากาศเย็นและแช่ในตู้แช่แข็งจะเก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้น
***การปรุงเพื่อบริโภค***
--นำไปทอดน้ำมันให้เหลืองแล้วใช้รับประทานได้เลย
--หั่นชิ้นเล็กๆ แล้วผสมไข่เพื่อทำไข่เจียว
--ทอดน้ำมันแล้วนำไปยำ -
ปลาช่อนแดดเดียว<O:p</O:p
ปลาช่อนแดดเดียวเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายกับปลาเค็มแต่รสชาติแตกต่างจากปลาเค็ม คือ ไม่เค็มจัดแต่มีกลิ่นหอมหวานและเนื้อนุ่มกว่าปลาเค็ม
ส่วนผสม:
เนื้อปลาช่อน 2 กิโลกรัม
น้ำปลาอย่างดี (ท่วมตัวปลา) 1 ขวด
วิธีทำ:
1. นำปลามาขอดเกล็ด ตัดหัว และผ่าหลัง ล้างน้ำให้สะอาดพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. น้ำเนื้อปลามาเคล้ากับน้ำปลา หมักทั้งไว้ 20 นาที
3. นำมาเรียงบนตะแกรง และตากแดด 1 แดดนำไปทอด
***วิธีรับประทาน***
--ทอดน้ำมันก่อนรับประทาน
***การเก็บรักษา***
เก็บในตู้เย็นเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความชื้นสูง<O:p</O:p -
การทำกิมจิ
ส่วนผสม:
---ผักกาดขาว หรือ กระหล่ำปลี 1 หัว
---แครอท 1-2 หัว
---เกลือป่น (ไม่มีไอโอไดน์) 1 ช้อนโต๊ะ และ 1 1/2 ช้อนชา
---พริกแห้งป่น (อย่างหยาบ) 1-2 ช้อนชา
---ต้นหอม (หั่นยาว 1" ) 3-4 ต้น
---กระืเทียม(กลีบใหญ่) ซอยละเอียด 8 กลีบ
---น้ำตาล 1-2 ช้อนชา
---ขิงซอย 1 ช้อนชา
วิธีทำ:
1. หั่นผักขนาดตามต้องการ หรือขนาด 1-2"
2. ใส่ผักที่หั่นเตรียมไว้ลงหม้อ หรืออ่าง และนวดผักด้วยเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (แบบขยำๆ)
3. ปล่อยทิ้งไว้ ประมาณ 3 ชั่วโมง มั่นคนกลับไปมา
4. เสร็จแล้วรินน้ำ แล้วล้างออก ซัก 2 น้ำ
5. เมื่อล้างเสร็จแล้วให้ใส่เกลือลงไป 1 1/2 ช้อนชาที่เหลือ และส่วนผสมอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันจนทั่ว
6. หลังจากนั้น นำไปใส่ใน ไห ตุ่ม หรือขวด ที่มีฝาปิด เทน้ำลงไปให้ท่วมผัก ขึ้นมาประมาณ 1"
7. ปิดฝาหลวม ๆ และหาที่เก็บไว้ในห้องอุณหภูมิปกติ ประมาณ 6-8 วัน
8. เมื่อผักเปรี้ยวและเค็มได้รสชาดตามที่ต้องการแล้ว ให้ปิดฝาให้สนิท และเก็บไว้ในที่เย็น -
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=5>
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ข้าวหลาม[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD colSpan=5></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]</TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD width="3%"> </TD><TD width="58%">[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ส่วนผสม[/FONT]</TD><TD width="6%"></TD><TD width="21%"></TD><TD width="12%"></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ข้าวเหนียว [/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]5[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ถ้วย[/FONT]</TD><TD></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]กะทิ[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]2[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ถ้วย[/FONT]</TD><TD></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]เกลือป่น [/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]1/2[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ช้อนโต๊ะ[/FONT]</TD><TD></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]น้ำตาลทราย [/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]1/2[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ถ้วย[/FONT]</TD><TD></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ถั่วดำ[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]1/2[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ถ้วย[/FONT]</TD><TD></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ไม่ไผ่ชนิดไม่อ่อนไม่แก่เกินไปตัดเอาข้อไว้ด้านหนึ่ง อีกด้านไม่มีข้อ[/FONT]</TD><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ใบตองแห้ง[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]</TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]กาบมะพร้าวอ่อน ฉีกเป็นชิ้นเล็ก แล้วเอาใบตองแห้งห่อให้เป็นก้อนเล็ก ให้พอดีกับรูกระบอกไม้ไผ่สำหรับอุดกระบอกเวลาเผา[/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]</TD><TD>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]</TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR><TD> </TD><TD colSpan=4>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]วิธีทำ [/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD colSpan=4>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]1.แช่ข้าวเหนียวไว้ 1 คืนแล้วสงน้ำมาเคล้ากับถั่วดำ[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD colSpan=4>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]2.ผสมกะทิ เกลือ และน้ำตาลคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD colSpan=4>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]3.กรอกข้าวเหนียวผสมถั่วดำลงในกระบอกไม้ไผ่ประมาณ 3/4 ของกระบอก ตักน้ำกะทิใส่ลงไปเกือบเต็ม แล้วใช้จุกอุดปากกระบอกให้แน่น[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD colSpan=4>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]4.ทำที่เผาข้าวหลามโดยให้ปักห่างกันประมาณ 1 เมตรตามยาว เว้นที่ตรงกลางเพื่อก่อไฟสุม วางกระบอกข้าวหลามในแนวตั้งเพื่อไม่ให้หก หมั่นหมุนกระบอกเพื่อให้ได้ความร้อนทั่วทุกด้านจนข้าวเหนียวสุกดี นำออกมาผึ่งไว้ให้เย็น นำมาปอกเปลือกออกรับประทาน[/FONT]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD colSpan=4>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif] [/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]***น้องนิ่ม เรามาหารายได้ด้วยการทำข้าวหลามขายกันมั้ย...(หาเงินทุนค่ะ...) คิดว่าไงเอ่ย...****[/FONT]
หน้า 2 ของ 7