วิธีแก้กรรมตามเคราะห์กรรมที่ได้รับ
คัดลอกจากหนังสือ แก้กรรม ทำเองได้ เรียบเรียงโดย จิตศรัทธา พุทธานุภาพ
1. กรรมปวดศีรษะ
เกิดจาก : ได้เคยทำบาปไว้แต่ภพปางก่อน เช่น ทำร้ายสัตว์อื่นด้วยการตีหัว หรือทุบหัวปลาไว้ เพราะสัตว์ ก็มีอายุขัยวิญญาณมาสิงอยู่บริเวณศีรษะแบบเดียวกับที่เราได้ทำไว้ ถ้าเป็นไมเกรนก็เพราะวิญญาณตามมาพบ โกรธที่เคยเป็นหนี้ชาติไหนไม่รู้ 10 ตำลึง จะตีบริเวณศีรษะไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่ง เรียกว่าไมเกรน
วิธีแก้กรรม : ทำบุญใส่บาตรด้วยอาหาร 1 ชุด พระสะดุ้งมาร 3 นิ้ว หรือ 5 นิ้ว ดอกไม้ธูปเทียน ส่งวิญญาณไปเกิดบนศาลา ถ้าแก้ที่ทำกับปลาช่อน หลังจากใส่บาตรกรวดน้ำแล้วให้ปล่อยปลาช่อน 1 ตัวด้วย (ทำให้เสร็จในวันเดียวกัน) หาหมอเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ เห็นผลช้า ถ้านั่งสมาธิกรรมฐาน สติปัฏฐาน 4 จะแก้ได้เร็วและหายขาด ที่ยังไม่หายขาดเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรชุดใหม่เข้ามาแทนที่
ก่อนใส่บาตร : ให้จุดธูป 3 ดอก ขอขมากรรมกลางแจ้ง แล้วกล่าวคำขอขมาตามที่เขียนไว้ในวิธีแก้กรรมด้วยการใส่บาตร (หน้า 10**)
วิธีแก้กรรมตามเคราะห์กรรมที่ได้รับ
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย @^น้ำใส^@, 3 มกราคม 2011.
-
**วิธีแก้กรรมด้วยการใส่บาตรให้เกิดผล
ก่อนใส่บาตรต้องจุดธูปขอขมากรรมก่อน โดยปฏิบัติดังนี้
การลดกรรมด้วยวิธีการใส่บาติให้ได้ผล รวมทั้งสร้างกุศลผลบุญครั้งใดๆก็ตาม มิใช่ใส่บาตรเฉยๆแล้วจะได้ผล ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยจำนวนมาก บอกว่าได้ทำบุญใส่บาตรพระแล้ว โรคร้ายแรงต่างๆไม่หาย ไม่บรรเทา อาการป่วยจะหายได้อย่างไร เพราะทำไม่ถูกต้อง ใส่บาตรพระ 100 รูป ก็หาประโยชน์ในการลดกรรมเท่าใส่บาตรเพียงรูปเดียวไม่ เพราะ ไม่ถึงเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นเจ้าหนี้กรรมอยู่จริงๆ เหมือนกับเป็นหนี้เจ้ากรรมนายเวร ชุด ก. แต่ไปใช้หนี้ ชุด ข. เจ้าหนี้ชุด ก. ก็ย่อมไม่พอใจ ไม่อโหสิกรรมให้แน่นอน กรรมเก่าไม่ดีก็ย่อมไม่ลด
วิธีแก้กรรม/ลดกรรมด้วยการใส่บาตรให้ถูกวิธีนั้น ท่านพระธรรมสิงหบุราจารย์(หลวงพ่อจรัญ) ท่านแนะนำว่า ก่อนใส่บาตร...
ให้จุดธูป 3 ดอกกลางแจ้งขอขมากรรมโดย "ตั้งนะโม 3 จบ" แล้วกล่าวว่า "ข้าพเจ้าขอขมากรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร ศัตร หมู่มาร หมู่พาลทุกภพทุกชาติ ขอให้อโหสิกรรมให้ขาดจากกัน"
และหลังใส่บาตรเสร็จทุกครั้งให้ "ตั้งนะโม 3 จบ" แล้วกล่าวว่า
"กุศลที่ลูกได้ทำแล้วขอถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ ขอให้ทุกพระองค์นำส่งบุญให้ข้าพเจ้ามีเดช ปัญญา โภคะ ขอให้สมหวังสมปรารถนาทุกเรื่อง ขอให้มีบุญบารมีเต็มขั้น เกิดสภาวะธรรมตามบุญวาสนาที่ได้ทำมาจากทุกภพทุกชาติโดยเร็วเทอญ และขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ(วิญญาณ) ศัตรูหมู่มาร หมู่พาล (เช่นมนุษย์, หุ้นส่วน, เพื่อน, ในครอบครัว) ทุกภพทุกชาติ (เอ่ยชื่อได้ยิ่งดี) ขอให้อโหสิกรรม ขอให้ขาดจากกัน ณ เดี๋ยวนี้เทอญ ขอให้อุปถัมภ์ค้ำจุนข้าพเจ้า"
ถ้าทำบุญด้วยข้าวสารเป็นกระสอบ หรือถมทราย ดิน ก็ตั้งจิต อธิษฐานว่า "ผลบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าร่ำรวยเหมือนเมล็ดข้าวสาร เม็ดทรายดิน เจ้ากรรมนายเวรตามเมล็ดข้าวสาร ตามเม็ดทรายดิน ขอให้ได้รับ และขอให้อโหสิกรรมหลุดขาดจากกัน ณ บัดนี้เดี๋ยวนี้เทอญ ขอให้ข้าพเจ้ามีแต่ความเจริญรุ่งเรืองพบแต่ผู้อุปถัมภ์ค้ำชู"
กรณีดวงตกมาก
ขอให้แผ่บุญให้ตนเองให้มากๆบางท่านก็แผ่ให้ผู้อื่นจนลืมให้ตัวเอง ตัวเราเองต้องมีบุญบารมีแก่กล้าจริงๆจึงจะช่วยและให้ผู้อื่นได้ ควรสวด อิติปิโสฯ เลยอายุ 1 จบ มีเวลาขอให้ไปปฏิบัติธรรม/ฝึกวิปัสสนาด้วย จะเกิดผลเร็ว โทสะจะน้อยลง ควรแผ่เมตตาให้มากๆวันละ 10-30 ครั้ง การแผ่เมตตาที่ได้ผลนั้น ท่านพระธรรมสิงหบุราจารย์แนะนำว่า ถ้าจะกรวดน้ำต้องกรวดน้ำลงดินทุกครั้ง วันละ 100 ครั้ง เจ้ากรรมนายเวรจะหาย 100 เท่า 100 วิญญาณ หรือใช้สมาธิกำหนดอธิษฐานจิตด้วยความตั้งใจ ประกอบด้วยความมีสติและสัมปชัญญะ แผ่เมตตาออกจากลิ้นปี่ แล้วอุทิศส่วนกุศลจากจักระ 6 หรือบริเวณตาที่สาม ที่กลางหน้าผากต่ำลงเล็กน้อยจะได้ผลมากขึ้น
(คำว่าอุทิศบุญใช้กับผู้ตาย นำส่งบุญใช้กับผู้ยังมีชีวิตอยู่ ถวายบุญกุศลใช้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) -
ปวดหัวก็ต้องหาหมอซิครับ^^ทานยา
บุญคือจิตผ่องแผ้ว ใสสะอาด บาปคือจิตเศร้าหมอง
เราเรียกว่าการเติมแต่บุญจนไม่ไปทำบาปอีกเป็นการสร้างคุณธรรมให้เจริญยิ่งขึ้น
เป็นการสร้างอำนาจสุจริตให้เหนือกว่าอำนาจทุจริตภายในจิตใจ
สิ่งนี้มีกล่าวในพระสูตร
การตั้งกฎแก้กรรมกันเอง การสอนในความเชื่อว่า แก้ได้ ทำให้เบาบางได้ บาปล้างได้ด้วยบุญ จึงเท่ากับสอนให้คนอ่อนแอ อ้อนวอร้องขอ หยิบยืมวัตถุ หยิบยืมชีวิตเพื่อมาทำให้จิตใจตนเองสบายใจ สิ่งนี้ไม่มีในคำสอนและทำให้คนมักง่าย เห็นแก่ตัวและทำให้เกิดการกระทำผิดซ้ำๆซากๆ
การที่จิตใจเราอ่อนแอเพราะใจเรามีอำนาจสุจริตน้อยกว่ากิเลสทุจริตภายใน เหมือนคนดี คนชั่วในร่างเดียวกัน อำนาจใดมีมากกว่า ก็ย่อมแพ้อำนาจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
พระพุทธศาสนาจึงสอนให้สร้างอำนาจสุจริตให้รู้จัก ในทาน ศีล ภาวนา คุณธรรม เพื่อให้กาย วาจา ใจ มีอำนาจแห่งความสุจริต ท่านจึงสอนให้ละอาย เกรงกลัว โดยจุดประสงค์คือสติทั้งสิ้น
เมื่อสติปรากฏเป็นใหญ่ภายในจิตใจ ประกอบด้วย ศีล คุณธรรมที่เจริญมากยิ่งขึ้น
การที่เราจะเผลอไปทำชั่ว ไปโดยประมาท ก็น้อยลงไปโดยลำดับ นี่เป็นเหลักเหตุผลของการสร้างอำนาจให้เหนือกว่า
แต่การตั้งกฎแก้กรรมกันเองอย่างน่าละอาย ทำให้เกิดภัยภิบัติแก้กรรมได้นั้น จะก่อให้เกิด การทำบาปกรรมอย่างมากมายยิ่งขึ้น เพราะสอนให้คนอ่อนแอ มักง่าย เห็นแก่ตัว
ขอท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย พึงพิจารณาในเหตุและผล อย่าพึงเชื่อในความเชื่อ
แต่พึงพิจารณาในความจริงที่มีเหตุ มีผล อันเป็นคำสอนของพระพุทธองค์โดยแท้จริงเถิด
ด้วยความเคารพในธรรม...
ชัชวาล -
2. กรรมปวดหลัง
เกิดจาก : กรรมที่เคยตีหลังหมา หรือตีตะขาบกลางหลัง
วิธีแก้กรรม : ก่อนใส่บาตร ให้จุดธูป 3 ดอก ขอขมากรรมกลางแจ้ง "ตั้งนะโม 3 จบ" ขอขมากรรมว่า "จะใส่บาตร 1 ชุด พร้อมพระเงินพระทองอย่างละ 1 องค์ ดอกไม้ ธูป เทียน ขอให้ไปเกิดบนศาลา ขออโหสิกรรมให้ขาดจากกันเดี๋ยวนี้ ขอให้หายเจ็บป่วย" และต้องกรวดน้ำทุกครั้งหลังใส่บาตรทันที เพราะวิญญาณคอยรับอยู่ ดังนี้ "ตั้งนะโม 3 จบ" แล้วกล่าวว่า "ข้าพเจ้าได้ทำบุญใส่บาตรดวยพระเงินพระทอง ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร คือ..(หมา, ตะขาบ หรือ...) อย่างใดอย่างหนึ่ง แก้เฉพาะอย่าง ห้ามให้รวม เขาจะไม่ได้รับ จะยังคงเจ็บป่วย ให้แก้ทีละอย่าง ทีละครั้ง ถ้าจำได้ว่าเคยทำอะไรไว้ แต่ยังไม่มีอาการเจ็บป่วย ให้แก้ไว้ล่วงหน้าก็จะดี เพราะเจ้ากรรมนายเวร (วิญญาณ) จะได้ขึ้นไปบนศาลา ถ้าไม่แก้กรรมนี้อาจตามมาให้ผลเราในชาตินี้อีก 10 ปี หรือ 20 ปี ข้างหน้า หรืออาจจะเป็นภพหน้าก็ได้"
----------------
-
เข้ามาอ่านค่ะ.............
-
อนุโมทนาด้วยค่ะ สงสัยเหมือนกันค่ะว่าถ้า้เราสวดมนต์แต่ไม่ได้กรวดน้ำลงดิน คือทำแค่แผ่เมตตาอย่างเดียว เจ้ากรรมนายเวรของเราจะได้รับหรือเปล่าคะ บุญกุศลที่เราสวดมนต์จะเกิดผลหรือเปล่า เพราะสถานที่หน้าบ้านที่มีดินก็คือกระถางต้นไม้ นอกนั้นคือพื้นถนนคอนกรีต เวลาสวดมนต์เสร็จแล้วก็แผ่เมตตาเป็นอันว่าจบไม่ได้กรวดน้ำ ก็ได้แต่หวังว่าบุญที่ทำคงส่งผลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและตัวเราได้รับบ้าง และที่สงสัยอีกข้อคือ การกรวดน้ำจำเป็นต้องกรวดนอกชายคาบ้านเสมอไปหรือเปล่า ถ้าเพื่อนสมาชิกท่านใดรู้ได้โปรดบอกเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยนะคะ
-
เท่าที่เคยทราบมา ไม่จำเป็นต้องกรวดน้ำก็ได้นะคะ ถ้าไม่สะดวกน่ะค่ะ บุญสำเร็จที่ใจ ขอให้ตั้งใจที่จะแผ่เมตตาช่วยเหลือพวกเขา เขาก็น่าจะได้รับนะ
อนุโมทนาค่ะ ^^ -
อาการปวดทั้ง ๒ ที่กล่าวมานั้น เป็น กรรมวิบาก และเกิดจาก
๑.กรรมเก่าส่งผล อันนี้ไม่มีใครสามารถเลี่ยงได้เลย ตัวอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ทรงปวดหัว และทรงปวดหลัง(ทั้ง ๒ อย่าง เป็นกรรมในกรรม ๑๓ ประการของพระพุทธเจ้า)
๒.การกระทำในปัจจุบัน เราๆๆทั้งหลายบริโภคเนื้อสัตว์มากเลยนะครับ จึงทำให้เกิดโรคภัยเจ็บไข้ได้ง่าย เพราะการเลี้ยงสัตว์ทุกวันนี้ใช้สารเคมีเลี้ยงมาก ก็เลยทำให้สารเคมีมาตกที่ผู้บริโภค มาก
ส่วนเรื่องทานยา หรือหาหมอนั้น อาจช่วยได้ไม่ค่อยมากนะครับ เพราะเจอมากับตัวผมเองแล้วนะ คือถ้าโรคประจำตัวผมเกิดแล้ว จะทานยาอะไรก็ไม่หายจะต้องทนทรมานอยู่แบบนั้นอย่างน้อย ๕ ชม.ถึงจะหายนะครับ
และตัวอย่าง เรื่องหนูพิมพ์วดีที่มาช่วยพ่อด้วยนะครับ หมอและยาไม่อาจช่วยได้เลย แถมยังเพิ่มความเจ็บปวดอีกด้วยนะครับ
ลองบูรณะพระพุทธรูป(ด้วยกาวตราช้าง) ตามวัดที่ผู้คนทำแตกหักมาทิ้งตามต้นโพธิ์ดูนะครับ(ต้องใจกล้าๆๆนิดนะครับ) อันนี้อาจช่วยเรื่อง สุภาพได้มากเลยนะครับ
อานิสสงส์ผลบุญของการทำบุญด้วยการการบูรณะพระพุทธรูปใหม่ คือ
การทำบุญด้วยการบูรณะพระพุทธรูปแด่พระสงฆ์ จะได้รับอานิสงส์อันแรงกล้า มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย มีร่างกายสมบูรณ์ครบ 32 มีผิวพรรณงามเปล่งปลั่ง ไม่แก่เร็ว นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับถือแก่คนทั่วไป เกิดในชาติหน้าก็ยังคงได้เกิดเป็นผู้ที่สวยทั้งรูปกายและรูปสมบัติ
มีความเป็นอยู่สุขสบายดี ชีวิตมั่งคั่ง จะทำการค้าหรือประกอบอาชีพใดๆ ก็จะมีโชคลาภเข้ามาเสมอๆ ทำมาค้าขึ้น มักจะได้ลาภลอยอยู่บ่อยๆ
ไปไหนก็มักจะเป็นที่ต้องตาต้องใจของผู้พบเห็น ใครเห็นใครก็รัก พูดจาอะไรก็จะเป็นที่เชื่อถือ เป็นที่นับหน้าถือตาของคนรอบข้าง -
แก้กรรมด้วยการทำบุญกับพระอรหันต์ และแผ่เมตตา
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองคะ...
วันนี้แวะมาเล่าความมหัศจรรย์จากการที่ได้ทำบุญกับพระอรหันต์ให้ฟัง
เมื่อวานแนนได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่บุญฤทธิ์ และได้ทำบุญกับหลวงปู่
หลังจากนั้นก็ได้น้อมจิตทำสมาธิ พร้อมแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร
เจ้าบุญนายคุณ ครูบาอาจารย์ บิดามารดา เทพยาดา ดวงจิต ดวงวิญญาณ
ทั้งหมดทั้งหลายที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี และผู้ร่วมอนุโมทนาด้วยทุกท่าน
ให้ทุกท่านได้รับผลบุญที่แนนได้กระทำดีนี้แล้วกับหลวงปู่....
ตอนที่ทำบุญ ปิติมาก มีความสุขตลอด ตัวเบาโหวงเลยคะ
ผลจากการทำบุญเมื่อวาน จากการแผ่เมตตาด้วยมั๊งคะ
วันนี้ ทำให้แนน หายป่วยเป็นปลิดทิ้ง ทั้งๆๆ เมื่อวานยังไอแบบสาหัส
ปวดหัวมากเวลาที่ไอ ซึ่งอาการไอแบบสาหัสนี้เป็นมาประมาณ5วันแล้วคะ
และไม่มีทีท่าว่าจะหายง่ายๆๆ เมื่อวานยังบอกคุณชาเลยว่า
วันนี้คงต้องไปหาหมอแล้วละ ไม่ไหวแล้ว ไอที ไอแบบน่ากลัว เป็นชุด
แล้วก็ปวดบริเวณหน้าผากมากด้วย...
แต่วันนี้ หายไอแล้วคะ แปลกไหมละคะ สาธุจริงๆๆ
ตอนที่เเนนทำบุญ แนนไม่ได้หวังอะไร มากไปกว่าให้ได้บุญ
ไม่ได้คิดถึงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ทำบุญด้วยความปรารถนาที่อยากจะทำอย่างแรงกล้า...
สาธุจริงๆๆ<!-- google_ad_section_end -->
พูดถึงเรื่องทำบุญกับพระอรหันต์ นึกขึ้นได้อีกเรื่อง
ปีที่แล้วที่เราร่วมกันถวายพระไตรปิฎก พร้อมตู้กับหลวงปู่ (คงจำกันได้นะคะ)
ปีที่แล้วแนนก็มีปัญหา มีซีส(ก้อนเนื้อ)ที่ข้อพับเข่าข้างซ้าย
ก้อนแข็งใหญ่เท่าไข่ไก่เบอร์เล็กสุด ยังงัยๆๆ ต้องได้ผ่าตัดเอาออกแน่นอน..
ตอนนั้นกลัวมาก....
แต่ความหมัศจรรย์ได้เกิดขึ้น หลังจากที่ถวายพระไตรปิฎกเสร็จ 10 เมย.53 ...
ตอนนั่งรถกลับบ้านวันนั้น ซีส ได้หายไปเองอย่างเป็นปริศนา หายจริงๆๆ คะ ไม่ทิ้งร่องรอยเลย.............
นี่ล่ะ เหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ถึงได้เชื่ออย่างสุดใจ ว่า ทำบุญกับพระอรหันต์ อานิสงค์มากมายจริงๆๆ คะ<!-- google_ad_section_end --> ....
ที่มา http://palungjit.org/threads/บันทึกบาปและกรรมของข้าพเจ้า.89898/page-109<!-- google_ad_section_end --> -
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ deejaimark
อนุโมทนาด้วยคะคุณเปี๊ยก อนุโมทนาอย่างสูง
...................................................
รบกวนคุณเปี๊ยกอีกทีนะคะ...
1.ตาผิว กุลาศาสตร์
2.น้องเต็ม กุลาศาสตร์
3.น้องฌอน กุลาสาตร์
4.นายหนุ่ย (อดุลย์ ทิพย์ทอง)
บุคคลทั้งสี่ ไปอยู่ที่ไหนกันบ้างแล้วคะ...
ขอบคุณอย่างมากคะ ^_^
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ piakgear24
ทั้งสี่ท่านไปที่สูงๆสบายๆแล้วไม่ต้องห่วงหรอก:cool::cool:
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอขอบพระคุณ คุณเปี๊ยกเป็นอย่างสูงคะ...
อยากแจ้งให้ทราบว่า นี่เป็นผลของการแผ่เมตตาให้ทั้งสี่ท่านอย่างต่อเนื่องคะ...
ท่านทั้งสี่ได้รับจริงๆๆ และตอนนี้ก็ดีใจมาก ที่ทราบว่า ท่านทั้งสี่อยู่ในที่สูงๆสบายๆแล้ว ดีใจจริงๆๆ คะ....
สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->
ที่มา....http://palungjit.org/threads/ชมรมแผ...ยกับผี-ให้เขาไปสู่ภพภูมิที่ดี.122402/page-193