วิปัสสนาภาวนา คืออะไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Kungpow, 13 พฤษภาคม 2008.

  1. Kungpow

    Kungpow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +448
    [​IMG]
    วิปัสสนาภาวนา


    วิปัสสนา แปลว่า เห็นประจักษ์แจ้งพระไตรลักษณ์ในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยิน อาการที่เคลื่อน ไหว ใจที่คิด เป็นต้น เป็นวิธีการปฏิบัติที่จะนำกายและใจของผู้ปฏิบัติให้เข้าถึงสภาวดับ สงบ เย็น( นิพพาน)ได้ ถ้าต้องการสุขแท้ สุขถาวรที่ไม่กลับมาทุกข์อีกก็ต้องดำเนินไปตามหนทางนี้เท่านั้น ไม่มีทางอื่น

    ความรู้สึกของผู้ปฏิบัติหลายท่าน คิดว่า
     
  2. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อนุโมทนาสาธุกับ จขกทเป็นกระทู้ที่ดีมากครับ แต่ความคิดของผมในสองย่อหน้าแรกยังคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอยู่นะครับ
    <O:p
    จะสมถกรรมฐานก็ดี จะวิปัสสนากรรมฐานก็ดีการที่จะได้คุณได้ประโยชน์ขึ้นอยู่กับระดับของฌาน ถ้าทำสมาธิจนได้ฌาน 4 ย่อมจะได้คุณวิเศษ (อภิญญาบางอย่าง) แต่ใช่ว่าผู้ทำวิปัสสนาจะไม่ได้อภิญญานะเพราะอะไร?<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เพราะการที่จะวิปัสสนาได้แจ่มแจ้งก็ต้องใช้ฐานกำลังของฌาน 4 เช่นกันซึ่งที่เรารู้จักกันในนามของ สัมมาสมาธินั่นเอง (สัมมาสมาธิในข้อที่ 8 ของมรรค 8 คือ สมาธิระดับฌาน 4) ระดับฌานที่ต่ำกว่านี้กำลังยังไม่มากพอสำหรับการวิปัสสนาดังนั้น ถ้าใครวิปัสสนึกก่อนที่จะถึงฌาน 4 มันจะเป็นความคิดเอา จำเอามันไม่กระจ่างชัด ยังไม่ใช่ของแท้ ถ้าได้ณาน 4 แล้วผู้ทำจะรู้ว่าลมหายใจละเอียดเกือบดับสนิท จากนั้นน้อมจิตไปพิจารณา อะไรก็ตาม เช่นอวัยวะส่วนใดก็ตาม จะกระจ่างแจ้งถึงอณู หรือพิจารณาอะไรต่าง ๆ ทั้งรูปและนามให้ถ้วนทั่ว สักวันหนึ่งคงจะครบถ้วน

    ฌาน 4 นอกจากเป็นฐานกำลังของวิปัสสนาแล้วยังเป็นอาศรมพักผ่อนสำหรับการเติมกำลังเพื่อการวิปัสสนาในระลอกต่อ ๆ ไป
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    วิปัสสนาไม่ใช่ให้ผลแค่พระโสดาบัน มรรคและผลของการปฏิบัติของพระอะริยะทุกระดับ จนกระทั่งพระอรหันต์ ก็ต้องเกิดจากการวิปัสสนาทั้งสิ้น
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ดังนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าผู้ที่วิปัสสนาด้วยกำลังของสัมมาสมาธิระดับฌาน 4 จะไม่ได้อภิญญาอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย <O:p</O:p

    ส่วนปัญญาญาณ 16 ญาณ นั้นเป็นผลของการวิปัสสนาครับ

    ถ้าเป็นวิปัสสนาของแท้ การได้ปัญญาญานทั้ง 16 ครบ 1 รอบ ผลก็คือพระโสดาบัน 2 รอบ พระสกิทาคามี 3 รอบ พระอนาคามี 4 รอบ พระอรหันต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2008
  3. โพธิ์แก้ว

    โพธิ์แก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    แต่จากที่ผมรู้มา....การทำวิปัสนาใช้แค่อุปจารสมาธิ....แม้ว่าจะได้ฌาณสูงกว่านี้ก็ต้องถอยมาสู่อุปจารสมาธิ....เพราะอุปจารสมาธิเป็นภาวะจิตที่มีกำลังสติสูงสุดที่ไม่มีอารมณ์ของฌาณเข้ามาแทรกครับ

    และก็เป็นไปได้ที่ผุ้ฝึกวิปัสสนาได้แต่ไม่ได้ฤทธิ์อะไรเลย....ซึ่งในสมัยพุทธกาลก็พบอยู่หลายท่าน....ซึ่งขึ้นอยู่กับบารมีเดิมว่าสะสมมาทางใดมากกว่าครับ
     
  4. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    วิปัสสนา คือ การดูตามจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ต้องใช้กำลังมาก ไม่ต้องทำสมาธิให้ถึงญานครับ เอาแค่พอแนบ ๆ แต่ไม่ต้องแน่น แช่ สงบ เย็นในญาน มิเช่นนั้น ญานกด ไม่เห็นการเกิดดับ ครับ

    จะให้ง่ายก็นั่งปิดทวารดูที่ การเกิดดับภายใน ครับ ส่วน ญาณเทียบของวิปัสสนา อย่าไปอ่านและตีความก็จะดี เดี๋ยวปรุงแต่งนิพพานแห้ง ดูและพิจารณาตามที่เห็นจะดีที่สุด เน้น ปัจจุบัน เน้น ที่ขันธ์ 5 และการปรุงแต่งของโมหะ โทสะ โลภะ ครับ
     
  5. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2008
  6. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    [quote 1=โพธิ์แก้ว;1196713]แต่จากที่ผมรู้มา....การทำวิปัสนาใช้แค่อุปจารสมาธิ....แม้ว่าจะได้ฌาณสูงกว่านี้ก็ต้องถอยมาสู่อุปจารสมาธิ....เพราะอุปจารสมาธิเป็นภาวะจิตที่มีกำลังสติสูงสุดที่ไม่มีอารมณ์ของฌาณเข้ามาแทรกครับ

    และก็เป็นไปได้ที่ผุ้ฝึกวิปัสสนาได้แต่ไม่ได้ฤทธิ์อะไรเลย....ซึ่งในสมัยพุทธกาลก็พบอยู่หลายท่าน....ซึ่งขึ้นอยู่กับบารมีเดิมว่าสะสมมาทางใดมากกว่าครับ[/quote] 2

    qoute 1
    ถูกต้องครับ แต่เสมือนเข้าไปล้างธุลีหรือไล่ฝุ่นนออกจากจิตก่อนหรือเหมือนไปเติมพลังงานก่อน พอจิตว่างจริงปราศจากความคิดใด ๆ เลย คือ มีแต่อุเบกขากะเอกคตา ขยับจิตปั๊บมันถอยลงมาอุปจาระฯแล้วก็พิจารณา(วิปัสนา) แต่ถ้าเราคิดว่าวิปัสนาที่อุปจาระฯแต่ต้น หรือแม้แต่อัปนาสมาธิ(ฌาน123)ก่อนแล้วถอยลงมาที่อุปจาระฯ ก็ตาม จิตยังไม่ว่างจริงนะ สิ่งที่พิจารณามันจึงเป็นสิ่งที่คิดเอาเองนะครับไม่ใช่วิปัสสนาจริง ๆ (เป็นวิปัสสนึก) ดังนั้นความชัดเจนไม่
    เหมือนกัน แต่ก้ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์เลยนะ วิปัสสนึกก็มีประโยชน์อยู่มาก ถึงแม้จะนึกคิดจากตำราหรือคำเล่าก็ตาม แต่ความชัดเจนน้อย

    qoute ที่ 2 ใช่ ครับ แต่เราพูดถึงส่วนใหญ่นะครับ
     
  7. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    เห็นด้วยอยู่ครับ แต่ความชัดแจ้งต่างกัน ถ้าเราทำกันมานานเราจะรู้ว่า พอจิตสงบแล้วพิจารณาการเกิดดับเลย ได้ แต่ไม่เกิดผล เพราะมันเป็นการจำปรุงแต่ เห็นก็ไม่ชัด

    คำว่าสัมมาสมาธิในมรรคมีองค์ 8 หมายถึงระดับฌาน 4 ดังนั้นต้องถึงนี่จึงได้ผล แต่ไม่ได้วิปัสสนาในฌาน แต่เขาไปเพื่อให้จิตเป็นอุเบกขาว่างจริง ๆ แล้วถอยลงมาวิปัสนาในระดับอุปจาระ แม้แต่ฌาน3ยังมีสุขแล้วถอยลงมาก็ยังไม่ชัดเท่า

    ที่ว่าชัดไม่เท่ากันหมายถึงอย่างไร เช่นเวลาเราพิจารณากายที่ระดับสมาธิต้น ๆ คือไม่ใช้ฐานของฌานระดับสัมมาสมาธิเป็นตัวทำให้จิตว่างจริงก่อน พอดูแขนพิจารณาไปมันก็แขน แต่ถ้าให้ถึงระดับฌาน 4 ก่อนแล้วถอยลงมาอุปจาระแล้วพิจารณาแขน ผลก้คือเครื่อง x-rays ยังเทียบไม่ได้ มันทะลุปุโปร่งเทียบได้ว่าทุกอณู พอขยับไปที่จมูกมันก็ทะลุกปุโปร่งเหมือนกัน ทะลุปุโป่งอย่างไรเหมือนเอาของใส่แก้วใส ๆ แล้วก็มองทะลุแล้วไปแบบนั้น กระดูกเส้นเอ็นอะไรเห็นหมด

    ส่วนเรื่องการเกิดดับที่เป็นผลของการเห็นต่อจากนี้ ขอคำแนะนำด้วยครับ


    เมื่อวิปัสสนาที่เป็นของแท้(ไม่ใช่วิปัสนึก) ญาณก็จะแท้ตามด้วย
    ถ้าวิปัสนึก แล้วนึกไล่เทียบญาณ ๆ ก็ญาณเทียมด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤษภาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...