สัตว์โลก ต้องแคร์โลกแบบไหนครับ??

ไม่แรงใดเสมอด้วยแรงกรรม

 

ข้อสอบนะ

ตอบได้ จะได้ชื่อเป็น อดีต ปธน.หญิงฟิลิปปินส์ เลยหละ

เมื่อ ใช้ บัญญัติ รับมาแต่ ศาสดา

" โลก โลก คือ ....... "

กิจอื่นเพื่อการเป็น นาบุญต่อโลก
และ หมุนโลกให้เป็นไป มีอย่างอื่นอีกหรือ !?

ก. ไม่มี จิ ภาวนาแบบนี้แหละ มีงานทำตลอด ไม่มีตก
ข. มีสิ หากไม่ทำมาหากิน จะชื่อว่า สัมมาาชีวะ แต่ไหน ! จงอย่าว่างงาน

จ. อื่นๆ ........ราบุ....

 

กระแสธรรมมันไหลกลับได้เหรอ
สงสัยกันแปลกๆ

 

เดี๋ยว เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป
อยู่ตีกันบนโลกนีาแหล่ะหนุกดีคับ

 

* อินทรีย์22 (แก้) เป็นปธน.แก่มากๆแกร์ ไม่ตอบเนอะ กลัวของรางวัล 55

 

ปธน อาโรยะเจ้า ไม่เอา งั้น ลดมาเป็น ผู้ว่าการรัฐ <----- (ไม่แก่)
ละกัน รับไปในฐานะที่ ไม่ตอบ

 

กุปธรรม อกุปธรรม ยังไงก็เป็น ปัจจัตตัง

ไม่จำเป็นต้อง ควักออกมา ทำเฮีย

 

ที่ผมเคยเห็นนะ โลกมันไม่ได้ครอบเราอะ ขันธ์ตะหากที่มันครอบเรา ขันธ์คน ขันเทวาขันนก ขันหมา ขันปลา ขันโควิด โดนอันไหนครอบโลกของเราก็เป็นอย่างนั้นแหละ
ขันมันครอบซะมิด

 

+++ อือ... ฟังดูเข้าที แบบ "ไม่มี สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา"

+++ อ้อ... ฟังดูเข้าที แบบ "มีแต่ สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา"

+++ อ้อ... ฟังดูอีกที แบบ "เกินกว่า สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา"
+++ อือ... ฟังดูคล้าย ๆ "โตไปไม่แถ... เพราะว่ามัน แถก่อนจะโต... หรือป่าวอ่ะ..."
+++ ลุงแมว ช่วยดูหน่อยนะ...

 

"รูป" ไม่เที่ยง เป็นทุกข์..

 

"โลก"

คำว่าโลกมี..

สระโอ(โ)

ล.ลิง

ก.ไก่

สระโอ(โ) ความสืบต่อเนื่อง..

ล.ลิง ซุกซน ,สงบไม่เป็น..

ก.ไก่ ไม่มองหาสิ่งอื่นนอกจากการหาอาหาร, ก้มหน้าก้มตาอย่างเดียว..

เป็นไงเห็น "โลก" นี้มีแต่ความวุ่นวายไม่สิ้นสุดหรือยัง..

 

แค่เห็นยูสลุงกะสโลแกน "จงสงบเถิดนี่แหล่ะเรา"
เหมือนออโต้ไปหาด้านตรงข้ามทันที "ความไม่สงบ" 55

 

/ โลกเรามีอะไรให้กอบโกย.. หรือแคร์อะไร อีกหรือ...?

/ ยังอยากได้อยากแคร์อะไรโลกอีกล่ะ..?

/ ที่ผ่านมาหลายภพหลายชาติ ยังไม่พอใจ งั้น รึ...?

/ ถ้าอยากกอบโกยอยากแคร์อะไรก็เร่ง ๆ รีบ ๆ เอานะ

/ เพราะคนเรามีอายุเฉลี่ยราว ๆ อยู่ที่ 70 ปี

/ ให้นึกนับย้อนดูเอาเองนะ ว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่..?

/ นี่ยังไม่นับความไม่แน่นอนในชีวิตต่อจากวินาทีนี้เป็นต้นไปนะ

/ ฉะนั้น ให้คิดเอาเองว่า..เราควรแคร์ตัวเราเองในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ไม่ดีกว่ารึ..?

เรื่องบางเรื่องรู้ไป..ใช่ว่าจะนำพาให้หลุดพ้นได้
ส่วนอันไหนที่ไม่ได้ช่วยนำพาไปสู่ทางแห่งความหลุดพ้น ก็ไม่ต้องไปรู้หรือสนใจให้มันมากนะ เพราะอันนี้ถือว่าเป็นความรู้ที่อยู่นอกแนวทาง มิใช่ความรู้หลักนะ /ครับ

พิจารณาเอาเอง (อย่าเชื่อนะครับ)

 

เปงงาย ฮับ

เมื่อวาน ติวป๋มมาว่า ให้ สมาแทน โลก เป็น ลูก กับ แนม

ได้ สมาแทน เจ้มจ้น มาหนึ่งราตรี สโมคี มาบ้างเป่า

ถ้า สมาแทนได้ แค่ กระดิกหู

สมาธิพุทธ จะเกิด ลูก กับ แนม กระจัดกระจาย จิกจะเปลี่ยน

แล้วเห็นได้เลยว่า แจร๋นแปร๋น กับ ถนนเลียบเจ้าพระยาด้าน
ฝั่งธนบุรี นั้น คนละเรื่อง

นิมิก กระดูกๆ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับ มรรคผล

นิมิก กระดูกๆ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับ มรรคผล

นิมิก กระดูกๆ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับ มรรคผล

 

อยู่กับโลกแต่ไม่รู้จักโลกจะ
โดนโลกลากให้เป็นทุกข์บ้าง สุขบ้าง
แต่เป็นทุกข์ เป็นสุขที่สังขารไม่เคยเที่ยง
เป็นอนิจจัง อนัตตา
บังคับบัญชาไม่ได้

ถ้าอยู่กับผู้รู้( คือรู้กาย รู้จิต)ไม่แทรกแซง
สังขาร ปล่อยไปตามธรรมชาติ
จะไม่ทุกข์ไม่สุข ได้แต่รู้เรื่อยไป

 

กรรมฐาน5 ฉันฝึกในโหมดวิปัสสนา ฉันไม่ได้เพ่งใส่ แต่มียึดไว้นิดหน่อย ไม่ได้ฝึกอสุภกองอิ่น (ไม่ใช่เพ่งแบบพุทโธ)

กรรมฐาน5คือพิจารณาเข้ามาในร่างกายเรา อยุ่ในขันธุ์5(ไม่ใช่เพ่งออกจากร่างกาย) กรรมฐานกองนี้พระพุทธเจ้าบรรจุในพระไตร มันละสักกายทิฐิจริง ช่วยให้ถึงนิพพานได้ (หมายถึงตัวช่วยนะ เหมือนทางด่วน ทำให้เร็วขึ้น) สังเกตุเลยคนที่ถึงนิพพาน(รวมพระดังๆ) มีฝึกกรรมฐาน5 ทั้งนั้น

 

กราบเท้า ขออนุญาต

ไม่ใช่ "รู้เรื่อยๆไป"

การจะปล่อย หรือ ไม่ปล่อย มันมีเงื่อน
ของความเป็นไปเอง ด้วย

เงื่อนที่สำคัญ สาวกชอบใช้ คือคำว่า "เห็นกิเลส"
ถ้าไม่เห็นกิเลส เป็นปัจจัยให้เกิด การปล่อยอัตโนมัติ
แบบอนัตตาให้เห็น ก็ใช้ไม่ได้

เงื่อนที่สำคัญ ตถาคตใช้ พระองค์ทรงเลือก
ให้ใช้คำว่า "อุปาทาน" เพราะจะครอบคลุม
กว่า คำสาวก ที่สามารถคลุมทั้ง ดี และ ชั่ว
และอีกทั้งที่เป็น กลางๆ ซื่อๆ ว่างๆ(อทุกขมสุข)

 

ตอบแบบนี้ แปลว่าละคำ ตถาคต โลก คือ รูป นาม ไปแล้ว

ถ้า ยังไม่ละ "โยคะ" จะเป็นสิ่งร้อยรัด ให้เข้าใจว่า ได้ประโยชน์

พระป่า จะใช้คำว่า "มรรคหยาบ ฆ่า มรรคละเอียด"

เพื่อให้เอะใจ กรรมฐาน40ห้อง ห้อง นั้นโดย ทำโคสาจาน
หลอกเอาจังหนับ

 

ฉันไม่ได้ละรุปนาม ฉันฝึกกรรมฐาน5 บวกวิปัสสนา ..วิปัสสนาย้ายอารมณ์80% ...กรรมฐาน5 20%
มันไม่ใช่แบบที่แกร์เข้าใจหรอก กรรมฐาน5 มันแค่เปนตัวช่วยให้เร็ว ..

สมถะจิตมันจะยึดไว้ แต่ถ้าฝึกควบวิปัสสนา วิปัสสนามันจะคลายอำนาจสมถะออก เหมือนคำว่า"ผุ้ยึดนั่นแหล่ะผุ้ละ " ฉันฝึกเป็นขณะๆ จิต

 

ขอโทษนะ

" วจีกรรม มัน ตราหน้าอยู่ " อันนี้สำนวนโบราณ อโยธยา

ส่วนสำนวนใหม่ ก็จะประมาณ

คำพูดมันฟ้องว่า ยึดอยู่ เป็นชุดเลย

ไม่ กระจายราบลงเป็นหน้ากลอง เหลือแค่ รูป กับ นาม

ถ้า อะไรๆยังไม่ ยุบราบลงเหลือแค่ รูป กับ นาม

ยัญกิญจิ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นอันไม่ต้องกล่าวถึงว่าเคยเห็น

เมื่อ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นอันเห็นชัด ตามคำพูดที่ตราหน้า
เป็น วจีกรรม ฟ้องอยู่ ไม่เคยสัมผัส

จะมาบอกว่า รู้ วิปัสสนาคืออะไร เป็น อฐานะ