สิ่งใดเกิดเอง สิ่งนั้นย่อมดับเอง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 14 พฤศจิกายน 2021.

  1. Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แล้วคุณรู้ได้ไงว่าชาติสมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ท่านเหล่านั้นจะไม่เคยบำเพ็ญภาวนาเจริญสติมาก่อน ท่านเหล่านั้นผ่านการสะสมบารมีมาตั้งเท่าไหร่ ไม่ได้เพิ่งมาสะสมสมัยของพระโคดมซะที่ไหน ด้วยจิตที่พร้อม เพียงสติเกิดไปเห็นเกิดดับในจิตแค่แว๊บเดียวมันสามารถแทงทะลุได้ทันที

    ดังนั้นอย่าเอาแค่เรื่องเล่าสั้นๆที่รู้มาไปตัดสินบารมีท่านเหล่านั้น

    ครั้งนี้แนนตอบคุณรอบที่เท่าไหร่แล้วว่าแนนไม่เคยบอกว่าเพ่งไม่ดี แนนย้ำเสมอว่าทุกองค์กรรมฐานเสมอกันหมดด้วยการกำหนดรู้ ไม่ว่าจะมาจากเส้นทางไหนต้องมาลงที่จุดเดียวกันนี้

    ต้องการอะไรต้องมาพูดซ้ำๆว่าเขาแอนตี้เพ่ง ใจคุณต่างหากที่แอนตี้บุคคล เน้นโจมตีแต่เรื่องเดิม ไม่ฟัง ยืนกรานจะให้เขาเป็นคนแอนตี้ให้ได้

    ทั้งที่บอกตลอดว่าแนนก็ยังอาศัยเพ่งอยู่ไม่ได้ทิ้งเลย

    ยังมาปรักปรำอีก ขอเลิกคุยด้วยแล้วค่ะ เบื่อต้องมาอธิบายซ้ำ เล่นมุขนัยเดิมๆ วนในอ่าง

    ถ้าคุณไปถึงจุดพ้นเจตนา ถ้าจิตยังละวิตกวิจารเบื้องต้นไม่ได้ มันก็ไม่ข้ามไปไหนได้หรอกค่ะ ติดสมมุติอยู่อย่างนั้นแล้วมันจะไปเห็นของเหนือสมมุติได้ไง

    ใครเป็นคนยัดเยียดคะว่าแนนไม่มีวิหารธรรม เขาบอกมาตลอดว่าแม้การดูจิตเขาก็มีวิหารธรรม คุณต่างหากไปแย้งไปตีแต่คนอื่นว่าดูจิตมันเป็นวิหารไม่ได้ ทั้งที่นั่นคือ 1 ในวิหาร กาย เวทนา จิต ธรรม

    แล้วก็มาปรักปรำว่าแนนว่าห้ามมีวิหารธรรม
    ทั้งที่แนนบอกมาตลอด ว่าจะกำหนดดูตรงไหนก็ทำไป ไม่มีผิด ทำไปจนถึงจุดที่เป็นธรรมเอกผุดขึ้นมาเอง ตอนนั้นต้องรู้จังหวะปล่อย ปล่อยเพื่อให้จิตเข้าไปค้น เข้าไปพิจารณาธรรมด้วยตนเอง
     
  2. Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    มิจฉา มันเกี่ยวอะไรกับไปหลอกคนอื่นล่ะลุง
    คำว่ามิจฉา มันคือใช้ผิดเป้าประสงค์ โดยคิดว่าการเพ่งนั้นคือทางสู่นิพพาน หรือใช้การเพ่งนั้นเพื่อเอาฤทธิ์เดช หลงคิดว่าทางที่ตนทำนั้นถูกต้อง

    ฌาน 1-8 ถ้าทำได้ก็ย่อมดีแก่ผู้ฝึก ส่วนตัวนับถือคนที่เพียรจนทำได้ฌานสูงๆด้วยซ้ำไปว่า เพียรดีมาก ไม่งั้นทำไม่ได้

    แต่ก็ควรทำความเข้าใจว่านั่นไม่ใช่สมาธิที่พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำให้เราเพียรไปถึง
     
  3. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    แต่ไม่ใช่แมวไหม้และสองสหาย ที่คงยังไม่ได้ตกลงกันว่าอันไหนแท้อันไหนเทียม หรือ แท้หมดไม่มีเทียม หรือเทียมหมดไม่มีแท้ ขี้เกียจเลาะมาทีละบรรทัด เบื่อจะอธิบายความหลงแล้วไม่รู้ว่าหลง ยิ่งหลงว่าบรรลัยเอ้ยบรรลุ อันนี้พึงระมัดระวังเลย เพราะทั่งสามข้อความที่ยกมา มีความต่างกันทั้งในรายละเอียดและความเป็นจริง ส่วนใครจะตั้งให้เป็นศาสดา เลิกเพ้อเจ้อให้ได้ก่อนเถอะ ใครเขาไปตั้ง มีแต่เขาคอยห้าม ห้ามการเทอะทะเอาว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ละเมอแบบนี้ มาแนว พวกระบบนำร่องเสีย ไม่รู้จะไปตกที่ไหนกันแน่ในความเป็นจริง 555 มันน่าขำจริง ที่แม้กระทั่งกำลังอวยตัวเองและอวยมานานแล้ว ก็ยังไม่รู้ตัว 555 น่าหัวเราะจริงๆ 555
     
  4. ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    สถาบันวิจัยออรัลบี คิงคอลเกตดาร์ลี่ โดยทันตแพทย์จากคลีนิคซอยสี่ ยังยืนยันผลวิจัยว่าเด็กนั่งสมาธิก่อนอ่านหนังสือสอบ จะจำและเข้าใจได้ดีกว่าไม่ทำสมาธิ
    ทางธรรมมันก็แนวๆนั้นแหละ อุปมากันง่ายๆแบบนี้แหละ

    ก็แปลว่าเข้าใจคำว่ามิจฉา ตรงกัน คือไม่ใช่มิจฉาสมาธิ คือต้องทำท่านี้ใช่ อย่างอื่นเปล่า เดี๋ยวไม่บรรลุ ต้องประนมมือสามจบ ประนมสี่จบคือมิจฉา เป็นต้น อันนี้ไม่มีอะไรจะแย้ง(แต่ผลออกมาต้องไม่ผิดไปจากเครื่องวัดสอบ องค์ฌาน)

    ฌาน 1-8ก็ใช่ครับ ใครก็รู้ว่าถ้าจะฟันธงต้องเข้าขั้น 8 เท่านั้นถึงบรรลุ มันคือก่อนบ่ายคลายเครียด
    ได้เท่าไหนคือเท่านั้น ทำได้ 4 และว่างๆอยู่ ไม่รู้จะทำอะไร จะทำไป 5 ก็ไม่มีใครห้าม เพราะนั่งเฉยๆไม่ทำไร มันก็ไม่บรรลุอยู่ดี เขาเรียกใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แต่ถ้าจะเป็นก่อนบ่ายคลายเครียดคือ ห้ามไป 5 นะ เพราะมันน่ากลัวกว่า 1 2 3 4 แบบนี้เป็นต้น

    ถ้าเข้าใจตรงกันแบบนี้ ก็ไม่มีความแย้ง

    มีแก้ไขข้อความนิดหน่อยครับ
     
  5. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    เอามาเทียบโชว์แบบวินๆเลย ว่าไผเป็นไผ

    ถ้าโยนิโสได้ ใจก็เป็นธรรม(ไม่พึ่งการปรุงแต่ง)
    โต้ยังงัยของก็ไม่ขึ้น
    จิตเห็นเกิด เพื่อดับ ไม่ใข่เพื่อเรา ไม่ใช่เราเห็น
    จิตได้ยินเกิด เพื่อดับ ไม่ใช่เพื่อเราไม่ใช่เราได้ยิน
    จิตได้กลิ่นเกิด....
    จิตรู้รสเกิด.....
    จิตรู้เย็นร้อนอ่อนแข็งเกิด....
    ทุกจิตจะเกิดเองเมื่อมีผัสสะ(เหตุมี) และทุกจิตจะดับเองเมื่อเจตสิก หมด
    เมื่อทุกจิตเกิดดับไม่ใช่เราเลย แต่อวิชชา
    ทำให้ทุกจิตเกิดจิตดับ เป็นของเรา
    เราเสวยทุกข์ และจะทุกข์เรื่อยไป
    เพราะบังคับจิต
    ควบคุมจิตไม่ได้ คับ
    จิตจึงเป็นนาย กายคอยเป็นบ่าว
    Click to expand...

    การฟังธรรมแล้วบรรลุในสมัยพุทธกาล ก่อนเจอพระพุทธเจ้าครั้งแรก มีใครเจริญสติ จนจิตตั้งมั่นมาก่อนไหม?

    ท่านเหล่านั้นบางคนก็อาศัยบำเพ็ญฌานด้วยการจดจ่อมาทั้งนั้น ... จิตที่ตั้งมั่นเป็นปกตินั้น เมื่อได้ฟังธรรมต่อหน้าพระพุทธองค์ ... จึงเกิดการเห็นแจ้งทันที.... ไหนสมาธิพุทธ ไหนสมาธิฤาษี ที่บอกว่าต้องของฉันเท่านั้นจึงเป็นสมาธิพุทธ ปัญญาแบบพุทธ...

    หลงไปแยก ... เพื่อเสริมอุปทาน ว่าคิดตนเดินปัญญาแล้ว ฉันไม่ต้องเพ่งแล้ว...ทั้งที่พระพุทธเจ้าไม่เคยบอกเลยว่าห้ามเพ่ง

    และคุณยังเข้าใจผิดว่าการมีวิหารธรรมเป็นแค่ขั้นต้น แค่การวอร์มร่างกาย ... ทั้งทีความจริงแล้ว การอาศัยวิหารนี้ไปได้ถึงการถอนตัณหาออกเลย ...

    มันจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าคุณทำเงียบๆคนเดียว... ผิดพลาดคนเดียว... ถ้ามีคนหลงมาเชื่อว่า การมีวิหารธรรมไม่จำเป็น เกิดหลงไปกลัวสมถะ จนไม่กล้าจดจ่ออยู่กับธรรมแบบคุณ ... จนทำให้คนๆนึงจิต ไม่เกิดการเห็นแจ้ง... ทั้งที่จุดนี้ เป็นจุดสำคัญ ในการเห็นธรรมของคนๆหนึ่งเลย มันไม่ใช่แค่คุณคนเดียวนะ
    Click to expand...

    ปัจจัตตังครับ ไม่มีใครรับรองผม เเละผมก็ไม่รับรองใคร
    เพียงเเต่เอาทางที่ตัวเองเคยผ่านมา มาบอกเล่าให้คนอื่นได้รู้
    มันมีประโยชน์เเน่นอน อยู่ที่คนฟังจะเอาไปใช้ปรับใช้เเบบไหน

    อีกอย่างไม่ขอให้ใครมาเชื่อครับ อย่าเชื่อผม เเละอย่าเชื่อใครในนี้ทั้งนั้น
    ไปปฏิบัติด้วยตัวเอง ให้เเจ้งด้วยตัวเอง จะได้สิ้นสงสัยครับ ว่าใครเเท้ใครเทียม
     
  6. Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    จริงๆเรื่องสมถะต้องให้คุณปราบมาตอบนะคะ
    รายนั้นสายถึก นั่งทน มอบโล่ห์ให้เลย

    แต่ไม่ว่าจะนั่งไปไกลแค่ไหนก็ตาม ทุกฌานทุกสภาวะต้องมาเจอกันที่การกำหนดรู้ค่ะ
     
  7. ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ทั้ง 3 รูปคือ มีความต่างกัน
    ในภูมิธรรม ที่มีโอกาสลงตัว
    แต่เพราะภายใน คือใจหรือจิตเดิมแท้ไม่ต่างกัน
    จึงมีเวลาในการลงตัวเพื่อทะลุ
    ไม่เท่ากัน แต่พ้นทุกข์ได้เหมือนกัน
     
  8. ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ฌาน สมาธิ คือระดับดีกรี
    ของการควบคุมจิตสังขาร(ปรุงแต่ง)ให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน
    ไม่ชักจูงสมองให้ไปทำงานหลาย
    หน้าที่คับ
     
  9. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    ท่านที่หนึ่งทำการแล้วฮับ ทุกท่านฮับ ผมเถียง เพราะท่านที่สามป่าวพูดเรื่องจิต เอะ หรือเขาพูด ในโพสต์ไม่เห็นนะ เอะหรือว่า แมวไหม้รู้วาระจิต อัดสะวินด้วย 555 แต่ไม่บอกนะเรื่องร้อยกรองใครเก่งกว่ากัน เพราะสรุปเอาเองเหอะว่า ตกลงกันรึยัง หรือพูดเหมารวมอีก ไปตกลงกันก่อนไป แมวไหม้ 555
     
  10. ภารดาทิวาโจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2021
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +26
    มันไม่ควรจะเถียงกันเรื่อง ต้องทำฌานไหม หรือต้องกลัวฌาน มันเลยจุดนั้นไปนานแล้ว การเถียงแบบนี้มันคือนักภาวนา เจน Z พึ่งมาศึกษาธรรม

    แต่ถ้าจะคุย ควรคุยไปว่า นาย A ฌาน 3 ส่วนนาย B ก็ฌาน 3 ทำไมนาย A จบกิจไปแล้ว นาย B ไม่ฉลาดตรงไหน แบบนี้มากกว่า
     
  11. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    โพสต์ที่เทียบคือโพสต์ที่เทียบนะ ไม่ต้องไปลากมาเป็นกุดลุดอีก เอาแค่สามโพสต์ที่เทียบ
     
  12. ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    จิต(ปรุงแต่ง)คือวิญญาณขันธ์ มีคุณหรือมีโทษมากกว่ากัน
    จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว หลอกกันไปหลอกกันมา จนทุกข์เกิดไม่หยุด
    แต่ไม่มีผู้กินทุกข์ เข้าใจมั้ยเนี่ย
     
  13. Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    เอาจริง กรรมฐาน ต่างๆมันยังไม่ถึงจุดเริ่มที่แท้จริงเลยค่ะ
    แต่ฌานนั้นฝึกไว้ให้จิตนิ่งเป็นพื้นย่อมดีกว่าคนไม่ได้ฌาน
    แต่คนที่ทำฌานไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำสมาธิแบบพุทธองค์ไม่ได้

    สมรภูมิของจริงยังไม่เริ่ม มันจะเริ่มเมื่อจิตมันพ้นบ่วงคล้องคอของเราไปค้นหาความจริงได้เอง…หรือเริ่มแยกรูปแยกนามนั่นแหล่ะค่ะ
     
  14. ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    พวกเค้าไม่กินทุกข์
    เพราะเค้าไม่ใช่จิต
    และจิตก็ไม่ใช่เค้า เข้าใจมั้ย
     
  15. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    ทบทวนที่พิมพ์มาก่อนดีไหมว่า มันคืออะไร ให้แก้ไขหนึ่งครั้งก่อนบอก แต่ว่า น่าจะตกลงกันก่อนนะ แล้วจิตแบบไหนๆไม่มีโทษละ ทำไงถึงจะเห็นจิตแบบนั้น จิตที่ไม่ได้เป็นนาย หรือจิตที่ไม่ได่เป็นบ่าว (แต่ไม่มีผู้กินทุกข์ เข้าใจไหมเนี่ย) ตอบเลย ไม่เข้าใจ กินทุกข์ไม่กินทุกข์แล้วยังไง ไม่กินทุกข์แล้วกินอะไร กินสุข หรือ กินความว่างไปวันๆ แต่… ไม่เข้าใจ สรุปว่า กินก็กิน ไปตกลงกันก่อนไหมกับอีก สองสหาย ยังมีเวลาอยู่
     
  16. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    แล้วอะไรเป็นเขาละถ้างั้น เค้าไม่ใช่จิต แสดงว่า เขาเป็น… มนุษย์ล่องหน หลบแต่ตัวเองนะ คนอื่นไม่ได้หลบด้วย มันแย่ตรงที่ พวกเขาหรือทั้งสามคนไม่กินทุกข์แล้วละ บอกว่าไปตกลงกันก่อน อันที่สองคือ เพราะเค้า รวมทั้งแมวไหม้ ไม่ใช่จิตและจิตไม่ใช่เค้า อันนี้คือตกลงกันมาแล้วใช่ไหม ไม่ต้องถามว่าเข้าใจไหมนะ…. ตอบอีกทีคือ ไม่เข้าใจ
     
  17. ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    กินทุกข์คือเสวยทุกขเวทนา
    ส่วนกินสุขจะมีเฉพาะตอนกินน้ำเมา 55
     
  18. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    อัดสะวิน จะแก้ต่างอะไรไหม หรือเขาพูดถูกแล้ว เพราะอัดสะวินไม่กินทุกข์ เพราะอัดสะวินไม่ใช่จิต เพราะจิตไม่ใช่อัดสะวิน เขาว่ามาแบบนี้นะ อัดสะวินว่าไง
     
  19. ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เมา 55
     
  20. ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,070
    ค่าพลัง:
    +372
    555 ขำด้วยคน กินก็กิน เสวยก็เสวย เหมือนเคยพูดไปแล้วเลยเมื่อนานมาแล้ว แล้วคือ ก็เสวยหรือก็กิน คืออะไร ใครกิน 555 เอาที่สบายใจเถอะแมวไหม้
     

แชร์หน้านี้