หยุด ทำร้ายพระพุทธศาสนา
ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย surasaksuebsan, 1 กุมภาพันธ์ 2012.
-
surasaksuebsan เป็นที่รู้จักกันดี
-
ความคิดผมเองนะครับ
ในสมัยปัจจุบัน การถวายปัจจัย(เงิน)เป็นสิ่งที่น่าจะทำได้ สำหรับปุถุชน
ผู้มีความรู้เรื่องสิ่งของถวายน้อยนิด เงินถวายท่านผ่านตัวเเทนท่าน
ตัวเเทนท่านจัดปัจจัยถวายตามความเหมาะสมเเก่สมณะ น่าจะได้ครับ
วัด กุฏิ โบสถ์ ศาลา ต้องใช้สิ่งของ อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็ก ค่าน้ำ ค่าไฟ เทียน ธูป
ถ้าไม่ใช้เงินซื้อมา เเล้วต้องทำอย่างไร
ความคิดเห็นส่วนบุคคล โปรดให้อภัยด้วยครับ ถ้าทำให้ไม่พอใจ -
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะครับ
และพระพุทธเจ้าทรงเคยตรัสกับพระอานนท์ว่า พระบัญญัติบางข้อสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตามยุค ตามกาล(ตามสมัย)เวลา
ท่าน จขกท. ลองใช้ปัญญานิดหนึ่งนะครับ นึกถึงหลวงพี่ที่อยู่(จำวัด)ในกันดารมากๆๆ ท่านเหล่านั้นจะอยู่ยังงัย
ทำไมพระพุทธเจ้า จึงห้ามอวดอุตริมนุษยธรรม
เหตุและผลของการอวดอุตริมนุษยธรรม
บทบัญญัติซึ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ที่มุ่งเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ให้ความสำคัญแก่สงฆ์ ได้แก่ พุทธบัญญติไม่ให้ภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม
คือ คุณวิเศษหรือการบรรลุธรรมอย่างสูงที่เกินปกติของมนุษย์สามัญ เช่น สมาธิ ฌาน สมาบัติ มรรคผล ถ้าอวดโดยที่ตนไม่มีคุณวิเศษนั้นจริง คือ หลอกเค้าย่อมต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นภิกษุ
แต่ถึงแม้ว่าจะ ได้ บรรลุคุณวิเศษนั้นจริง ถ้าพูดอวดหรือบอกเล่าแก่ชาวบ้าน หรือผู้อื่นใดที่มิใช่ภิกษุ หรือภิกษุนี ก็ไม่พ้นเป็นความผิดเพียงแต่เบาลงมา เป็นอาบัติชาจิตตีต์
อาบัติปาราชิกมี ๔ ประการ ได้แก่ การเสพเมถุน การลักทรัพย์ การฆ่ามนุษย์ และการอวดอัตริมนุสธรรม
๑. การเสพเมถุน คือ การร่วมประกอบกิจกรรมทางเพศ ไม่ว่าจะกระทำกับผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือกระทำกับสัตว์ก็ตาม ปาราชิกข้อการเสพเมถุน บางทีก็เรียกกันว่า ปฐมปาราชิก แปลว่า “ปาราชิกข้อแรก”
๒. การลักทรัพย์ คือ การนำทรัพย์ของผู้อื่นไปเป็นของตนโดยเจตนา ในเมืองไทยกำหนดว่า การลักทรัพย์มีมูลค่าตั้งแต่ ๑ บาทขึ้นไป เป็นการผิดหรือเป็นอาบัติขั้นปาราชิก การเจตนาแอบอ้างความคิดหรือผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน หรือการเบียดบังเอาเงินในกองทุนที่มีผู้ศรัทธาถวายเป็นทานเพื่อใช้ในกิจของ สงฆ์ หรือกิจของศาสนามาใช้ส่วนตัว ก็ถือว่าเป็นอาบัติปาราชิกเช่นกัน
๓. การฆ่ามนุษย์ คือ การเจตนาทำให้มนุษย์ถึงแก่ความตาย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ไม่ว่าจะลงมือฆ่าเองหรือใช้ให้คนอื่นฆ่าให้ก็ตาม ถือเป็นความผิดปาราชิกข้อที่ ๓ ทั้งสิ้น
๔. การอวดอุตริมนุสธรรม คือ การพูดอวดผู้อื่นว่าตนได้บรรลุธรรมะระดับสูง เช่น บรรลุโสดาบัน บรรลุอรหันต์ เป็นต้น
อุ ตริมนุสธรรม (/อุดตะหริมะนุดสะทำ/) หรือ อุตริมนุษยธรรม (/อุดตะหริมะนุดสะยะทำ/) แปลว่า ธรรมอันยวดยิ่งของมนุษย์ หรือ ธรรมของมนุษย์ผู้ยวดยิ่ง ได้แก่ คุณวิเศษซึ่งมนุษย์ธรรมดาไม่สมารถมีหรือเป็นได้ มิใช่วิสัยของมนุษย์ทั่วไป แต่เป็นวิสัยของผู้บรรลุธรรมขั้นสูงแล้ว
อุตริมนุสธรรมหมายถึงฌาน วิโมกข์ สมาธิ สมาบัติ มรรค และผล
การ ที่ภิกษุแสดงตนหรือพูดให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนได้ฌานชั้นนั้นชั้นนี้ ตนได้บรรลุวิโมกข์ ได้สมาธิ สมารถเข้าสมาบัติได้ หรือสำเร็จมรรคสำเร็จผลอย่างนั้นอย่างนี้ เรียกว่า อวดอุตริมนุสธรรม
ปัจจุบัน คำนี้ถูกนำมาใช้เรียกผู้ที่ชอบอวดอ้างตนเหนือกว่าคนอื่นหรือทำอะไรที่แผลง ๆ ที่คนทั่วไปเขาไม่ทำกันว่า "อวดอุตริ" หรือ "อุตริ" เฉย ๆ
อาบัติปาราชิก หากผิดแม้แต่เพียงข้อเดียวก็ถือว่าภิกษุผู้อาบัติสิ้นสภาพการเป็นภิกษุแล้ว แม้จะไม่มีใครล่วงรู้หรือจับได้ก็ตาม การกราบไหว้บูชาภิกษุที่อาบัติปาราชิก นอกจากจะไม่เป็นบุญเป็นกุศลแล้ว ยังผิดมงคลที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนาไว้ที่ว่า บูชาบุคคลที่ควรบูชาอีกด้วย
ปล.ท่าน จขกท. พอจะอ่านเข้าใจนะครับ
-
-
อยู่ที่เจตนาการให้ทานครับ เราถวายเงินเป็นปัจจัยเพื่อบำรุงพุทธศาสนา มิได้ถวายเพื่อองค์ใดองค์หนึ่งครับ แต่ถ้า่ท่านใช้ผิดไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้ให้นั้นย่อมมีความผิดแน่นอน แถมท่านยังติดหนี้สงฆ์โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
-
โดยส่วนตัวผม เวลาจะบริจาคเงิน ผมจะไม่ถวายพระ แต่จะใส่กล่องบริจาค เช่น ค่ำน้ำไฟวัด.
ค่า บูรณะต่างๆ สร้างโบสถ์ ปัจจัยค่าเดินทาง อะไรก็แล้วแต่คนในวัดจะนำไปจัดสรร ครับ
.
ส่วนพระสงฆ์ ก็ สามารถถวาย ปัจจัยสี่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ได้
.
ไม่ผิดครับ.. เวลาถวายก็ตั้งจิต ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์โดยรวม ไม่เจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง
.
ก็จัดเป็นสังฆทานครับ -
Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ
ฝันว่า พระพุทธเจ้าพระนามว่า สมเด็จพระสมณโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ผู้ซึ่งพระองค์บำเพ็ญบารมี มานาน 4 อสงไขยซึ่งศาสนาของพระองค์ นั้นมีกำหนดอายุพระศาสนาของพระองค์ 5,000 ปี และเมื่อสิ้นศาสนาของพระองค์แล้วพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ก็คือสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย ผู้ซึ่งพระองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมานาน 8 อสงไขย บำเพ็ญบารมีมามากกว่า 2 เท่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าในลำดับต่อไป แต่ในความฝันฝันไปว่า สมเด็จพระสมณโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ได้ทรงสละเวลาที่เหลือในศาสนาของพระองค์ ให้กับศาสนาของสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย และได้ส่งมอบศาสนาเปลี่ยนพระพุทธเจ้าเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันจึงถือได้ว่าเป็นต้นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย จากนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมา เข้าห้องพระ พบหนังสือธรรมมะ แจกฟรีเล่มหนึ่งชื่อว่าหนังสืออินตก เปิดเข้าในข้างในแทบผงะ พบข้อความหน้าที่ 14 พูดถึงคำทำนายของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี ) ดังนี้
รัชกาลที่ 1 มหากาฬ รัชกาลที่ 2ฌานยักษ์ รัชกาลที่ 3 รักมิตร รัชกาลที่ 4 สนิทธรรม รัชกาลที่ 5 จำแขนขาด รัชกาลที่ 6 ราชโจร รัชกาลที่ 7 ชนร้อนทุกข์ รัชกาลที่ 8 ยุคทมิฬ รัชกาลที่ 9 ถิ่นกาขาว รัชกาลที่ 10 ชาววิไล (จะเหลือเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้นที่รอด เป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตรย ) [www.marateebook.com]