<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
พระสายปฏิบัติ หรือสายพระป่าส่วนใหญ่เป็นศิษย์ " หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" แทบทั้งสิ้น ล่าสุดศิษย์ของท่านก็ละสังขารไปอีกรูป นั่นก็คือ "พระธรรมวิสุทธิมงคล" หรือ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
หากย้อนหลังกลับไป เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2526 ครั้งนั้นก็ถือเป็นวาระแห่งความสูญเสียของชาวพุทธศาสนิกเมืองสุรินทร์และชาวไทยทั่วประเทศ
เนื่องจาก "พระราชวุฒาจารย์" หรือ "หลวงปู่ดูลย์ อตุโล" วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ พระวิปัสสนาจารย์สายอีสาน ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา จากสาธุชนเป็นอย่างมาก ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ สิริอายุ 96 พรรษา 64
ยังความอาลัยให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างยิ่ง
อัตโนประวัติ หลวงปู่ดูลย์ มีนามเดิมว่า ดุลย์ ดีมาก เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2430 ตรงกับวันแรม 2 ค่ำ เดือน 11 ที่บ้านปราสาท อ.เมือง จ.สุรินทร์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายแดงและนางเงิน ดีมาก มีพี่น้องรวม 5 คน ท่านเป็นคนที่ 2
ในวัยเด็ก การศึกษาเล่าเรียนของท่านอาศัยวัดเป็นสถานศึกษา มีพระในวัดเป็นผู้อบรมสั่งสอน ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับการศึกษาในสมัยนั้น
วิชาที่เล่าเรียนประกอบไปด้วยการเรียนการสอนทาง โลกที่พอให้อ่านออกเขียนได้และศีลธรรมจรรยามารยาทอันควรประพฤติปฏิบัติ
ครั้นเมื่ออายุ 22 ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดจุมพลสุทธาวาส ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มี พระครูวิมลสีลพรต (ทอง) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูบึก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูฤทธิ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาว่า "อตุโล" อันหมายถึง ผู้ไม่มีใครเทียบได้
พ.ศ.2461 พระอาจารย์ดูลย์ มีอายุ 30 ปี ได้ญัตติมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุในคณะธรรมยุต ณ พัทธสีมา วัด สุทัศนาราม จ.อุบลราชธานี มีพระมหารัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) เจ้าคณะมณฑลอุดร เป็นพระกรรมวาจาจารย์
เมื่อแรกบวช ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานกับหลวงปู่แอก วัดคอโค ซึ่งอยู่ชานเมืองสุรินทร์ ท่านก็พากเพียรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จนครบไตรมาสโดยไม่ลดละ แต่ก็ไม่ปรากฏเห็นผลอันใดแม้เล็กน้อย นอกจากนี้ ยังใช้เวลาที่เหลือท่องบ่นเจ็ดตำนานบ้าง สิบสองตำนานบ้าง แต่ไม่ได้ศึกษาพระวินัยแต่อย่างใด
ท่านไปจังหวัดอุบลฯ พยายามมุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมอย่างเต็มสติกำลัง จนกระทั่งประสบผลสำเร็จ คือ สามารถสอบไล่ได้ประกาศ นียบัตรนักธรรมชั้นตรี นวกภูมิ เป็นรุ่นแรกของจังหวัดอุบลราชธานี และยังได้เรียนบาลีไวยากรณ์ (มูลกัจจายน์) จนสามารถแปลพระธรรมบทได้
เมื่อครั้งที่หลวงปู่มั่น ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบูรพา จ.อุบลราชธานี ท่านกับพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พากันไปฟังธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่นกันเป็นประจำ ทำให้เกิดความซาบซึ้งถึงใจคำพูดแต่ละคำมีวินัยแปลกดี ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน จึงเพิ่มความสนใจใคร่ประพฤติปฏิบัติทางธุดงค์กัมมัฏฐานมากยิ่งขึ้นทุกที
ครั้นออกพรรษาแล้ว พระอาจารย์มั่นได้ออกธุดงค์จึงตัดสินใจออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์มั่นไป
ท่านปฏิบัติตามปรารภความเพียรอย่างอุกฤษฎ์แรงกล้า ปฏิบัติตามคำอบรมสั่งสอนของท่านปรมาจารย์อย่างสุดขีด จนแสงแห่งพระธรรมก็บังเกิดขึ้น ปรากฏแก่จิตของท่านรู้ชัดว่าอะไรคือจิต อะไรคือกิเลส จิตปรุงกิเลสหรือกิเลสปรุงจิต และเข้าใจสภาพเดิมของจิตที่แท้จริงได้ จนรู้กิเลสส่วนไหนละได้ แล้วส่วนไหนยังละไม่ได้
ดังนี้ ท่านเป็นผู้มีอุปนิสัยเยือกเย็น พูดน้อย สงบ อยู่เป็นนิตย์ มีวรรณะผ่องใส ท่านรักความสงบจิตใจใฝ่ในความวิเวกมาก ท่านประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีงามของชาวพุทธตลอดเวลา เป็นเนื้อนาบุญของโลกอย่างแท้จริงได้บำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างสมบูรณ์บริบูรณ์
ธรรมโอวาทของหลวงปู่ดูลย์ "...หลักธรรมที่แท้จริงก็คือ จิต นั่นเอง ซึ่งถ้านอกไปจากนั้นแล้วก็ไม่มีหลักธรรมใดๆ จิตนั่นแหละคือหลักธรรม ซึ่งถ้านอกไปจากนั้นแล้วมันก็ไม่ใช่จิต จิตนั้น โดยตัวมันเองก็ไม่ใช่จิต แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่ใช่ มิใช่จิต การที่จะกล่าวว่าจิตนั้นมิใช่จิต ดังนี้นั่นแหละ ย่อมหมายถึง สิ่งบางสิ่งซึ่งมีอยู่จริง สิ่งนี้มันอยู่เหนือคำพูด ขอจงเลิกละการคิดและการอธิบายเสียให้หมดสิ้น เมื่อนั้น เราอาจกล่าวได้ว่า คลองแห่งคำพูดก็ได้ถูกตัดขาดไปแล้ว และพฤติกรรมของจิต ก็ถูกเพิกถอนขึ้นสิ้นเชิงแล้ว"
[FONT=Tahoma,]หน้า 31[/FONT]
http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1TMHdNaTB4TXc9PQ
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม สุรินทร์
ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 13 กุมภาพันธ์ 2011.