ห้องแมวยิ้ม สัพเพ เหระ อะไรก็เอามาลงกระทู้นี้ได้ครับ

จิตยิ้มมีพรหมวิหารสี่เต็มร้อยค่ะ
ถ้าใครส่อง pm ของจิตยิ้มกับท่านอริย.....ได้
จะรู้ว่าข้อความ มุฑิตาจิต ของจิตยิ้มที่มีต่อบุคคลที่ท่านเล่าปังกล่าวถีงว่าเป็นอย่างไร? วันที่ 23 มกราคม 62 ค่ะ ลองไปส่องดูนะคะ

แล้วอย่างนี้....เรื่องนี้จิตยิ้มมาพิจารณามาอย่างถ่องแท้แล้วค่ะ
บุคคลใดที่ขาดความเป็นพรหมวิหารสี่
บุคคลนั้นเป็นผู้นำยาก เพราะพรหมวิหารสี่
เป็นคุณสมบัติของผู้นำ หากเราต้องการเป็นหนึ่งในด้านใด....
พรหมวิหารสี่อย่าให้ขาดหายไปจากใจ

แล้วการที่เราไปอิจฉาใคร อยากเป็นเหมือนเขา
ก็เหมือนคางคกขึ้นวอ เขาให้ขึ้นไปแต่มันไม่ใช่ของเรา หรือคุณสมบัติของเรา สักวันก็จะตกลงมา และจะหนักกว่าเก่าด้วย....

การที่คน ๆ หนึ่งจะมีคุณสมบัติอะไรสักอย่างเป็นของตน
เขาต้องใช้ความพากเพียรบากบั่นอุตสาหะมาแค่ไหน?
กว่าเขาจะได้คุณสมบัติในสิ่งนั้น!!
แล้วมันคุ้มแล้วหรือ!! ที่เราจะไปอิจฉาเขา
มันง่ายไปหรือไม่... ที่เราอยากได้แบบเขาโดยเราไม่ได้สร้างเอง
มันไม่ยุติธรรมแน่นอน การอิจฉาเขา..เท่ากับเอาไฟเผาตนเอง

แต่การยินดีอนุโมทนาในคุณสมบัติที่เขามีซิ!!
น่ายินดีกว่า ใจเราก็เป็นสุขด้วย...
นอกจากใจจะเป็นสุขแล้ว..เพราะผลแห่งการยินดี
หากเราปราถนาจะมีคุณสมบัตินั้นบ้าง...
ธรรมชาติจะจัดสรร ให้เข้าเรียนรู้เข้าใจได้โดยง่ายค่ะ

 

ท่านคะ จิตยิ้มทราบท่านรับแรงกดดันมาเยอะ
ท่านทำดีมาแล้ว จงทำดีต่อไปค่ะ
บางทีเขาอาจทดสอบอะไรบางอย่างค่ะ
พลังงานจากตัวหนังสือของท่าน
ส่วนใหญ่แล้ว...มีความบริสุทธิ์อยู่ค่ะ

 

จิตยิ้มมีมุมมองที่ไม่เหมือนใคร..
จิตยิ้มจะไม่อคติต่อใครทั้งสิ้น
ผิดตามผิด ถูกตามถูก
เพราะอย่างนี้จึงไม่มีพรรคพวก
เพราะเขาอาจคิดว่าเราไปเข้าข้างคนอื่น
ไม่ใช่ค่ะ สัจจะที่อบรมมาให้ต้องเป็นอย่างนี้
แล้วใครท่านนั้น ๆ ...จะคิดอย่างไร
ไม่รู้จะทำอย่างไร..มันมีมุมมองอย่างนี้
เราไม่ชอบความอยุติธรรมค่ะ

 

ฟังไปพิจารณาตามไปด้วย พร้อมทั้งปฏิบัติด้วย...ปัญญาจะเกิดมีเอง


"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

ฟังธรรมะจบแล้วพักผ่อนสมองด้วยบทเพลงนี้..


"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

เดี๋ยวช่วงบ่ายเจอกันใหม่...จะเอาคลิปธรรมะมาแปะไว้เผื่อมีคนสนใจทำ..สนใจธรรม

...22...
"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

สมงสองไปหมดละ ไอที่สร้างอุปทานหมู่น่ะมันพวกผู้วิเศษที่มาแจ้งเตือนคำทนายภัยพิบัติงี่เง่าปัญญาอ่อนเนี่ยล่ะ แล้วไปด่าก็ด่าผิดคน ปวีพยายามช่วยไม่ได้โดนไอเหี้ยหงบมันคุกคามทางเพศนี่ก็อ่านด้วยอคติไม่พอแถมขาดสติด้วยไม่ยอมอ่านให้ดีๆ ไปโต้เถียงซะยืดยาวกลายเป็นอีกเรื่องนึงไปแทน

ใครไปเชื่อคำสอนไอหงบนี่คงจะต้องทบทวนใหม่ มีอย่างที่ไหนสอนให้นั่งจ้องควยตัวเองแล้วจะบรรลุธรรม แต่ก็ไม่แปลกไอหงบอาจจะบรรลุเป็นพระยาธรรมจากการชักว่าวก็ได้

 

ขอยืมโพสนี้มาอ้างอิงหน่อยก็แล้วกัน..

ฝึกไม่ยากเลย...ความดีไม่เอา..ความชั่วไม่ยึดเอา...ปล่อยใจให้ว่างทั้งดีและชั่ว..ทุกสิ่งที่ทำเพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น..ไม่ยินดีในคำสรรเสริญ..ไม่ยินร้ายในคำนินทา..ไม่มีในโลกธรรม8..ทุกสิ่งที่ทำไม่หวังกุศลใดๆ...นี้แหละเรียกว่าสติ


"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

รู้เลยว่า............................

 

มรรค8 มีแต่เรื่อง ของกุสล การทำกุสล
การยังกุสลให้ถึงพร้อม ผ่องแผ้ว

ประกอบให้มากๆ อาสัยระลึก "......" เนืองๆ

คนละเรื่องกับ เอะอะ เจตนาวางจิต ไม่ยึด
โน้นก้สมมติ นี่ก้สมมติ

เกาะ แม่กินเหมือน แม... ก้ไม่ยึด

 

นี่ถ้าไอ้หงบมันบวชแล้วต่อไปเป็นเกจิขึ้นมาคงมีสมญานาม
"พระอาจารย์หงบธรรมมิกราชระทวย ควยถอก"
มีที่มาจากการบรรลุได้ด้วยการนั่งจ้องควยตัวเอง พอเงี่ยนก็ค่อยไปชักว่าว

 

บิณฑบาตร โงบะ ก้ไม่ยึด มานเปน สมมติ

วิ่งอ้าวไปโน้น "เกาะแม่กินยังกะ แม..."

 

O รายงานแด่ทวยเท่ห์มาหาสุน
ด้วยจ้าวมาหาทุนเปิดหน้าไพ่
ความทะเยอทะยานลั่นไก
ดังตั๋งโต๊ะไอวัดใจข้าราชผ่านชัทดาว

O เมื่อพลพรรคภักดิ์พร้อมบ่แตกแถว
ถึงคราวแปรนโปเลียนเทียมศาสนา
ยอยกคอนแสตนเปนดั่งกฤษฏา
เถลิงตนวันยกโยธาข้ามแอพเพลนทาย

 

เรื่อง "การปฏิบัติ ยังพระสัทธรรมให้บริสุทธิ์"

(คติธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ธรรมของพระคถาคต เมื่อเข้าประดิษฐานในสันดานของปุถุชนแล้ว ย่อมกลายเป็นของปลอม(สัทธรรมปฏิรูป)ไป แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐานในจิตสันดานของพระอริยะเจ้าแล้วไซ้ ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริงและเป็นของไม่ลบเลือนอีกด้วย เพราะฉะนั้น เมื่อยังเพียรแต่เรียนพระปริยัติธรรมฝ่ายเดียว จึงยังใช้การไม่ได้ดี ต่อเมื่อมาฝึกหัดปฏิบัติจิตใจ กำจัดเหล่ากะปอมก่า(กิ้งกา) คืออุปกิเลสแล้ว นั้นแหละจึงจะยังประโยชน์ให้สำเร็จเต็มที่และทำให้พระสัทธรรมบริสุทธิ์ ไม่วิปลาสคลาดเคลื่อนจากหลักเดิมด้วย...



"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย กลอนทั้งหลายของเรือนยอดทั้งหมด ไปรวมที่ยอด ประชุมกันที่ยอด มียอดเป็นที่รวม สิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมรวมกันเข้าที่ยอด
แม้ฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย อกุศลธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ก็ฉันนั้นเหมือนกันแล อกุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด มีอวิชชาเป็นมูล ประชุมกันที่อวิชชา มีอวิชชาเป็นที่รวม อกุศลธรรมเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมรวมกันเข้าที่อวิชชา
เพราะเหตุดังนี้นั้น พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า พวกเราจักเป็นผู้ไม่ประมาท ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ

กูฏาคารสูตร [๖๖๒]
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘


"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

สันตุสสโกวาท "คนบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ควรเบียดเบียนกัน"

พวกเราควรจะช่วยเหลือชุมชน สังคม ประเทศชาติศาสนาอยู่ได้ ประเทศชาติอยู่ได้ถ้าเราไปเบียดเบียน จะเป็นใครก็ตามอย่างที่หลวงพ่อได้ยินข่าวมาไม่กี่วันหลวงพ่อได้ยินก็สลดใจเหมือนกันนะลูกหลานถ้าเราก็ตาม ไปทำให้คนอื่นใครก็ตามศาสนาไหนก็ตาม เดือดร้อนมันไม่ใช่ผู้มีคุณธรรม จะเป็นศาสนาไหนก็ตามไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ไม่ใช่ผู้นับถือศาสนาเหมือนกันศาสนาคือ ทำคนให้ร่มเย็นเป็นสุข ถ้วนหน้ากันสั่งสอนให้คนเป็นคนดีถ้าเราไปเหยียบย่ำคนอื่นเขามันไม่ดีทั้งนั้นหละ หน้าอับอายขายหน้าสรุปแล้วก็คือเลวนะ เราพูดได้อย่างนั้นเลยถ้าเราไปทำให้คนอื่นเขาเราก็เลวนะถ้าหลวงพ่ออินทร์ไปคิดให้คนอื่นทำอย่างนั้นหลวงพ่ออินทร์ก็เลวนะถ้าคนอื่นเหมือนกัน ไปทำอย่างนั้นขึ้นมาจะเป็นใครก็ตามทำอย่างนั้นแปลว่าเลว ไม่ดีจะหาความสงบร่มเย็นเป็นสุขในโลกไม่ได้เราอยู่ในสถานะไหน เราก็ควรจะช่วยเหลือชุมชนและสังคมให้ชุมชนและสังคมได้รับความร่มเย็นเป็นสุขจากความคิดของเรา กับสติปัญญาของเราจากทุนทรัพย์ของเราการอยู่ด้วยกัน คนในพื้นแผ่นดินไทยควรจะมีน้ำใจต่อกัน ควรจะมีเมตตาต่อกันควรจะมีคุณธรรม ศีลธรรมจริยธรรมต่อกันอย่าเบียดเบียนกัน อย่ารังแกกันอย่าเอารัดเอาเปรียบกันควรจะมีน้ำใจต่อกัน ควรเฉลี่ยเผื่อแผ่มองชุมชนและสังคมอย่างที่หลวงพ่อได้พูดได้กล่าว

โดย หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตตุสโก
จากพระธรรมเทศนา "อยู่ร่วมโลกไม่ควรเป็นเจ้าของโลก"
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๒


"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

"ผู้ปฏิบัติธรรมกับผู้ไม่ปฏิบัติธรรมนั้น ความสุขทางใจและความทุกข์ทางใจนี้ต่างกันมากทีเดียว แต่รูปร่างกลางตัวนั้นเป็นคนเหมือนกัน หากแต่ภายในใจนั้นมีความชุ่มเย็นและความเดือดร้อนต่างกันเพราะการทำบาปทำบุญ นี่แหละเป็นของสำคัญ ให้พากันพยายามรักษาใจด้วยการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของตัวเอง ให้พยายามฝ่าฝืน พี่น้องทั้งหลายอย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้พยายามฝ่าฝืน ควรที่จะไหว้พระสวดมนต์ในตอนค่ำซึ่งเป็นเวลาสิ้นสุดในหน้าที่การงานทั้งหลายแล้วก็ให้กราบ อรหํ สฺวากฺขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ จบลงแล้วให้ทำความสงบใจด้วยบทภาวนา เช่น ภาวนาพุทโธก็ได้ ธัมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ หรืออานาปานสติระลึกลมหายใจเข้าออกก็ได้..."

พระธรรมเทศนา
เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน)
วัดเกษรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด) จ.อุดรธานี
(พ.ศ. ๒๔๕๖ - ๒๕๕๔)



"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

ภูไทกะสิน...เขาวง บัวขาว กะเชื้อแนวเมืองวังฝั่งลาว


"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"

 

เล่าปัง ปังปอนเป่า เหล้าเป่าป้อง
มาเมียงมอง ย่องย่องดู อย่างกังขา
เขายำกัน พระยาตำ ทำไรเอ้ะใครมา
งงสิท่า อะไรหว่า มามุงดู...


กลอนนี้ จากจัย หั้ยรุยยย ปัง ปัง ปัง ตรึมๆๆ ค่ะ
คาราวะ ... หนึ่งจอก อั้วะเริ่มเมา ไปดีกว่า
มาเพราะ คนกด โกรธ นี้ล่ะ งง เบย

 

ทรัมป์ ... ตะลุ่มตุ้มตุ้มๆๆ. ชัทดาว บ่จ่ายเงิน government ... จะสร้าง กำแพงเมือง มะกาน