อธิษฐานจิต สัจจะบารมี หลวงพ่อวิชัย เขมิโย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jinny95, 18 สิงหาคม 2013.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    อธิษฐานจิต สัจจะบารมี


    หลวงพ่อวิชัย เขมิโย


    วัดถ้ำผาจม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

    ณ ศาลากาญจนาภิเษก ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๓



    ฟังเทศน์ คือ ฟังเก็บ ห้ามฟังกลับ คือกายฟังแต่ใจกลับไปบ้านก็ไม่ได้อะไรนัก

    ช่วงเทศกาลเข้าพรรษา พระคุณเจ้าทั้งหลายอธิษฐานเข้าพรรษา๓ เดือน ไม่ไปพักแรมที่อื่นเกิน ๗ วัน ต้องมีกิจนิมนต์จึงจะไปได้เป็นฤดูกาลที่พระพุทธองค์ให้พระภิกษุทั้งหลายได้มีเวลาบำเพ็ญบุญบารมีให้ยิ่งขึ้น

    เราทุกคนก็แก่ไปอีก ๑ ปีแล้วจากวันเข้าพรรษาปีที่แล้ว ต้องขอบคุณมัจจุมาร (มารคือความตาย - deedi) ยังเปิดเวลาให้เราได้บำเพ็ญบุญบารมีต่อ ความดีก็ควรเข้มข้นขึ้นทุกเวลา เพราะความแก่ชรากินเราอยู่ทุกเวลา เนื้อหนัง หูตา ผมเผ้า

    จึงควรเร่งอธิษฐานจิต สร้างอธิษฐานบารมี สัจจะบารมีให้ยิ่งๆอธิษฐานสร้างความดี เช่น อธิษฐานตอนตื่นว่า วันนี้จะขอทำดีคิดดี พูดดี ให้มีความดี ๓ อย่างอยู่ในใจ ก่อนนอก็อธิษฐานว่าจะนอนไปกับความดี นอนกับสติ นอนกับศีลธรรม จรรยา ไม่นอนกับกิเลสตัณหา นอนกับพุทโธ หลับกับบุญ ความดีของเรา หลับกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    การที่ กลางคืนฝัน กลางวันคิด นั้น เป็นเจตสิกตัวเดียวกัน เป็นเหตุแห่งความเกิดในพระพุทธศาสนา

    ดังนั้น ให้เอาปัจจุบันเป็นเครื่องดู หลับก็หลับกับความดี ตื่นมาก็สร้างอธิษฐานบารมี ใส่บาตรทุกวัน ใส่แล้วอย่าไปห่วงว่าพระจริงหรือพระปลอม ให้แล้วก็คือการให้ = ทำแล้วก็ให้สบายใจ ถ้าไม่สบายใจ ก็ยังไม่ใช่ความดี ไม่นั่งเพ่งคนนั้นคนนี้ ควบคุมกาย วาจา ใจ ของเราให้อยู่ นั่นคือผู้ปฏิบัติธรรม

    พุทโธ คือ ผู้มีสติอย่างสมบูรณ์ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน สวดมนต์เหมือนยาทา ภาวนาเหมือนยากิน ให้จิตติดธรรมไว้ก่อน ประเภทถ้าไม่ได้ทำแล้วจะนอนไม่หลับ อยู่ในรถ ขายของอยู่ ก็สวดมนต์ได้ทั้งสิ้น บางคนก็อาจอธิษฐานใจรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ตลอด ๓ เดือนเข้าพรรษา

    ครูทั้ง ๖ อยู่กับเราตลอดเวลา คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ สุขทุกข์จริงๆ ก็อยู่ตรงอาจารย์ทั้งหกนี้เอง และที่สุดก็อยู่ที่ใจ

    ถ้าจิตอยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็เป็น จิตสูงถ้าจิตอยู่กับกิเลส ก็เป็น จิตต่ำ

    ถ้าอยู่สูง ไฟอะไรมาเผาก็ไม่ได้ ใครจะมาจองกรรมจองเวรอะไรก็ไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรให้เผา เช่นฟืนคิดจะเผาท้องฟ้า ฟืนนั้นก็ย่อมเผาตัวเองแทน ในทางตรงกันข้าม เราไมทำใครที่จิตนิ่งจิตสูง ทั้งหมดนั้นก็มาโดนเราเอาหมดเหมือนกัน

    ดังนั้น ใครอยากจะรักษาความดี หากใครมาว่าอะไร ก็เงียบโปร่งๆ ว่างๆ เฉยๆ เสีย

    ทุกอย่างเป็นครูเรา คนรอบตัวก็ครูเรา และขันธ์ห้า คือครูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา

    ความแก่เป็นทุกข์ ไม่มีใครอยากแก่ ถ้าเป็นของเราจริง(กายนี้ - deedi) จะไม่มีใครอยากแก่ แก่ๆ นี่แม้นั่งเฉยๆ ก็เจ็บ

    ดังนั้น อธิษฐานให้จิตอยู่กับกายตลอดพรรษา ตั้งอธิษฐานบารมีสัจจะบารมี ว่าสิ่งใดที่เราละไม่ได้ เราจะละให้ได้ ใครที่วิ่งตามโลกคนนั้นจะมีแต่ความทุกข์ ให้ดูจริตของเราเอง เราจริตแบบไหนก็พยายามละแบบนั้น

    ความชั่วคนชั่วทำง่าย ความดีคนชั่วทำยากความดีคนดีทำง่าย ความชั่วคนดีทำยาก

    โมหะ เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะความหลงในตัวของเราเอง ที่แท้ทุกอย่างคือสมบัติของโลก ที่จะไปกับเราจริงๆ นั้นก็มีแต่ความดีความชั่วเท่านั้น ชีวิตไม่ใช่ของเล่น จึงจำเป็นต้องพยายามประคับประคองให้ไปได้ดี

    ตั้งใจที่จะเกิดมาเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เวลาปัจจุบันสำคัญที่สุด สร้างพระในใจ พระทางกายไม่สำคัญเท่าไหร่ เราทั้งหลายเป็นพระได้ ใจไม่มีหญิงชาย

    คนมีบุญใจเย็น พระใจเย็น คนมีบาปใจร้อน

    ถ้าเราไปศรีธัญญา เราจะเป็นอย่างเค้ามั้ย ก็ไม่เป็น ดังนั้น เราดูเฉยๆ ทำใจให้อยู่เหนือโลก เหนือทุกอย่าง เรียกว่าดูอย่างผู้มีปัญญา ไม่ต้องไปเป็นขี้ข้าอีกแล้ว ยกจิตยกใจให้เหนือซะ สงสารตัวเองบ้าง อย่ามัวแต่ไปสงสารคนอื่น

    ทุกข์อยู่ที่อุปาทาน นั่นเอง เพราะจิตไปยึดมั่นถือมั่นจึงเป็นทุกข์

    พระคุณเจ้าขอบิณฑบาต ขอจงปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่นอย่าถือเขาถือเรา ลดมานะ ลดทิฏฐิ

    อย่ายึด อธิษฐานจิตว่า ปล่อยวางๆๆๆๆๆ…

    เจริญในธรรม


    คัดลอกจาก ประตูธรรม
    http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/misc/lp-vichai_1.htm
     

แชร์หน้านี้

Loading...