อยากบูชาพระเครื่องครูบาคำเป็งครับ

เมื่อวานหลวงปู่เมตตา เพิ่มพลังให้ผม
จากเดิม อยู่ที่ระดับ 12
หลังจากเพิ่มแล้ว อยู่ระดับ 30
ท่านบอกว่า ถ้าจะให้มากกว่านี้ ต้องพบตัว
แล้วหลวงปู่จะเพิ่มให้เต็มครับ

ตอนที่หลวงปู่กำลังเพิ่มพลังให้ผมนั้น
ตัวผมจะชา และขนลุกอยู่ตลอดเวลา
มือขวาที่หงายขึ้น มีอาการสั่นเล็กน้อยถึงปานกลาง(รายงานแบบกรมอุตุฯ)

หลวงปู่ยังบอกอีกว่า พระเกจิอาจารย์ดังๆ ในปัจจุบัน
ระดับพลังอยู่ที่ 20 กว่าๆ ครับ

เป็นปลื้มจริงๆ
กราบขอบพระคุณหลวงปู่ที่เมตตาผมครั้งนี้ เป็นอย่างยิ่งครับ

 

เดี๋ยวจะตามไปบุกบ้านอากาหลิบ
หนอยแน่..ตัดหน้าใครไม่ตัด มาตัดหน้า MOUNTAIN
ไม่ล้มทับเอาบ้าง ก็ให้รู้ปายยยย ฮิฮิ
(b-evil2) (b-no)

 

พี่ อยากฟังมากครับ ช่วยเล่าหน่อยครับ จะได้ปริ้นไว้อ่าน
เป็นวิทยาทานแก่น้องนุ่งด้วยครับ

พี่โคมฉายครับ ผมขอบูชาพระทำบุญเพิ่มครับ
พอเล่าเรื่องพระหลวงปู่ให้พ่อฟัง พ่อบอกอยากได้ไว้บูชาทันที
ขอบูชา

1. ยอดขุนพลชากังราวเนื้อว่าน 700

2. แม่ย่าโชคเศรษฐี ปู่กดพิมพ์เองผสมเกสา เสก 10 ปี 300

3. ขุนคำป้อรุ่นแรก 300 บาท

4. เทพกามา 150

5. แม่อุมายิม 300

Total 1,750 บาทครับ

แวะกลับบ้านจะไปโอนทันทีครับ พรุ่งนี้ผมมาแจ้งรายละเอียดครับ


ขอบุญกุศลเกื้อหนุนพระนิพพานทุกท่านเทอญ

 

ต้องรีบตอบ
ขุนคำป้อรุ่นแรกไม่มีแล้วนะครับ
ขอบคุณและอนุโมทนา
(deejai)

 

คึกคักจริงๆ เห็นแล้วเป็นปลื้ม
ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ (deejai)(deejai)

 

หลวงปู่สุดยอดอยู่แล้วครับ ถ้าได้รับแบบเต็มๆถึงระดับ 111 ระวังจะเดี้ยงเอานะครับ ต้องให้ผู้สัมผัสพลังได้ ผมถึงกล้าถามครับ บางท่านถึงแม้หลวงปู่อัดพลังให้เต็ม แต่ใช้ไม่เป็น ก็จะถูกเก็บอยู่ภายในกายเราครับ มีโอกาศเสื่อมถอยได้ครับ ถ้ารู้จักใช้รู้จักดึงพลังเข้าตัวและเก็บพลังได้ ก็สามารถนำมาใช้ประโยชน์ ได้อย่างเต็มที่ ครับ ขอให้ทุกท่านที่ได้พลังจากหลวงปู่แล้ว ใช้ช่วยเหลือผู้อื่นเท่าที่จะทำได้ครับ มีประโยชน์จริงๆครับ

 

เรียนทุกๆท่านครับ......ผมกดอนุโมทนา ไม่ทันแล้วครับ........

กระทู้ขึ้นไวมากๆๆๆจริงๆ ครับ...ฮือ ฮือ...กดไม่ทัน


เรียนสอบถามคุณพี่ๆ อีกที (หลังจากที่ได้ถามพี่ สามเหลี่ยม มาแล้ว)

หลวงปู่ ท่านบอกว่า ได้ใส่พลังให้ผมเต็มแล้ว นี่หมายความว่าอย่างไรคับ
( เดิม หลวงปู่ บอก ผมไม่มีพลังเลย )

พี่สามเหลี่ยมบอกว่า ได้รับ อินฟินิตี้แล้ว ที่เหลือ คือนำมาใช้ให้เป็น..ประมาณนี้

ผมเองเป้นประเภท ความรู้สึกช้าหรือเกือบจะไร้ความรู้สึกเลยนะครับ(เฉพาะเรื่องพวกนี้นะครับ......)(สมาชิกชมรมไร้ความรู้สึก......... ยืมคำเขามาใช้)

ถ้ามีโอกาสได้พบหลวงปู่ อีก ควรจะให้หลวงปู่ ท่านเพิ่มให้อีกมั้ยครับ

1 อาทิตย์ ผ่านมา ผมก็ยังรู้สึกว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง (จะมึนก็ไม่ ถ่ายท้องก็ไม่มี มีตึงๆหัวนิดนึง ตอนขากลับจากวัด )แต่ก็น้อมนำ พระเครื่องท่าน มานั่งสมาธิด้วยทุกวันครับ มาไว้ใต้หมอนทุกคืน (ไม่ได้ขึ้นคอเพราะยังไม่ได้อัดพลาสติก)

ผมจะพยายามต่อไปไม่มีเลิกครับ


ขอบพระคุณครับ

 

โอ้....ท่านพี่ สามเหลี่ยมครับ พี่ท่าน เหมือนจะอ่านใจ ผมได้เลย........

พี่มาพิมพ์ ในช่วง ที่ผมเองก้กำลังพิมพ์อยู่ พอดี..........

เนื้อหาใจความ ตรงตาม ที่ผมพิมพ์ ไว้ อย่างน่า ตกใจ........

ยังไงซะแล้วสิ พี่เรา..ไม่ธรรมดา อ๊ะ อ่า ไม่ธรรมดา......

ขอแสดงความนับถือครับ+ แอบกลัว

ขอบพระคุณครับ

 

มาเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนๆพี่ๆลุงๆได้ฟังกันบ้างครับ
เมื่อสองเดือนทที่เเล้วผม ได้ไปหาเลื่อยฉลุตามร้านขายเครื่องมือช่าง
ผมก้อบอกเค้าว่าอยากได้อย่างนี้ๆ เค้าก็บอกว่ารอแป็บต้องหาเพราะร้านรู้สึกว่าจะรกๆ ระหว่างที่ลูกน้องในร้านได้หาของ เจ้าของร้านก็มาชวนผมคุย
ชมผมต่างๆนานา ว่าเหมือนนักร้องบ้าง ว่าโหงวเฮ้งดีบ้าง ว่าเป็นลูกคนมีตังค์บ้าง แต่ผมก็บอกว่าไม่ทุกอย่าง พอดีเจ้าของร้านได้สังเกตุเห็นเเหนบที่เหน็บพระอยู่ที่คอผมก็ขอผมดู ผมก็ให้ดู ผมเหน็บ พระแกะจากเครือเถาว์หลงองค์เดียว พี่เค้าก็เอากล้องส่องพระส่อง ก็บอกว่าเนื้อว่านเก่านะเนี่ย ผมก็บอกว่าไม่เก่าหรอกเพิ่งเช่ามา
แล้วก็ว่า เอานี้ไม๊แลกกับพระของเค้าไม๊ก็หยิบพระเลี่ยมทองออกมา สององค์
บอกให้ผมเลือกเอาพอดีลูกชายเค้าอยู่ใกล้ๆด้วยผมบอกไม่เอาหรอกครับ
พระของผมไม่มีราคาอะไรเช่ามาไม่กี่บาท เค้าบอกไม่เป็นไรเค้าเป็นเจ้าของร้านทองอยู่หน้าตลาด ผมก็บอกไม่เอาๆคือใจนึกก็อยากแลก แต่ใจนึงมันก็มีคุณธรรมไม่อยากให้เค้าเสียทรัพย์กลัวเค้าเสียดายภายหลังก็ยื้อกันอยู่นาน
ลูกน้องเค้าก็บอกว่าหาของให้ผมไม่เจอ ผมก็ขอพระคืนแล้วก็บอกว่า
ถ้าอยากได้วันหลังถ้ามาที่ร้านอีกจะเช่าเผื่อมาให้ แล้วผมก็สวัสดีพี่เค้าแล้วก็ชิ่งมาเลยครับ ก็เป็นเรื่องแปลกๆมาเล่าสู่กันฟังครับ
ทุกวันนี้ผมก็ยังติดตัวไว้ตลอดเลยครับ +แม่อุมายิมทำพวกกุญแจ

 

มารายงานตัวครับพร้อมกับความรู้ ครั้งที่แล้วเขียนค้างไว้เรื่องการโยกย้ายถ่ายเทพลังงาน เห็นคุณน้าสามเหลี่ยมเขียนตรงรี้เห็นว่าดีเยี่ยมครับเป็นการอธิบายเรื่องพลังงานในกายได้อย่างดี เรื่องพลังงานนั้นนับเป็นเรื่องลึกลับสำหรับ หลวงปู่คำเป็งท่านสำเร็จวิชาเกี่ยวกับพลังงาน ทั้งเรื่องการดึงดูดพลังงานเข้าไว้ในกายหรือถ่ายเทสู่วัตถุต่างๆ พลังงานนี้หลวงปู่ขยายความว่าหมายถึงพลังงานจากพระอาทิตย์ พระจันทร์ พลังงานจากทุกสรรพสิ่ง ต้นไม้ใบหญ้าใช่หมด แต่ที่สำคัญหลวงปู่คำเป็งเล่าว่า ในโลกของเรามีพลังงานจากปราณจากอำนาจกระแสจิตของเหล่าโยคีฤาษีหรือพระเกจิ ครูบาอาจารย์ที่สำเร็จทางจิตจำนวนมาก พลังงานฌานสมาบัติของท่านทั้งหลายไม่ได้ตายตามตัวแต่ยังคงทิ้งไว้ในโลกของเรานี่เอง พลังงานของผู้สำเร็จทั้งหลายยังคงอยู่ แม้ว่าดวงจิตนั้นอาจบรรลุนิพพานไปแล้ว อันนี้เป็นคนละเรื่องกัน พลังงานดังกล่าวคือพลังงานที่มีอุณหภูมิ มีความร้อน มีแรงดึงดูด มีศักยภาพคล้ายแม่เหล็กไฟฟ้า เมื่อดึงพลังงานนี้เข้าสู่ฝ่ามือจะรู้สึกได้ว่าฝ่ามือเราร้อนขึ้นหนักขึ้นอาจมีอาการสั่น อาการเย็นจัดก็ใช่ หรือเหมือนมีกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่บนฝ่ามือเรา พลังงานโลกธาตุหรือพลังงานจักรวาลหรือหลวงปู่ท่านจะเรียกบ่อยที่สุดว่าพลังจากพระเป็นเจ้า พลังงานเป็นสิ่งที่ถ่ายเทหลื่นไหลเคลื่อนย้ายไปตามแรงดึงดูดได้เสมอ คนที่มีจิตเป็นสมาธิอย่างดีสามารถเชิญพลังหรือดูดพลังานเหล่านี้เข้าสู่ตัวเองได้เข้าสู่วัตถุต่างๆได้ด้วย

 

พลังงานจากพระเป็นเจ้านี้หากดึงลงสู่วัตถุแล้วก็ทำให้วัตถุนั้นๆเป็นเครื่องรางของขลังที่ทรงอานุภาพ อย่างไรก็ตามหากคนที่เขามีวิชาก็สามารถสูบพลังงานนี้ออกไปได้ ดังนั้นการที่เราดูดพลังงานได้แล้วจำเป็นต้องรู้ถึงการรักษาพลังงานนั้นให้คงอยู่และสามารถพัฒนาพลังงานนั้นไปตามลำดับ ด้วยการรู้จักนำพลังงานไปใช้ให้เกิดประโยชน์

การถ่ายเทพลังงานนับเป็นเรื่องสำคัญ ธรรมดามนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายต่างมีการถ่ายเทพลังงานในตัวเองแลกเปลี่ยนกับพลังงานรอบกายอยู่แล้ว เช่นมนุษย์เราหายใจเข้าแล้วหายใจออก หรือ การทานอาหารเข้าไปแล้วถ่ายออกมา การคายความร้อนของร่างกาย ทุกกิจกรรมนั้นต่างเป็นการถ่ายเทพลังงานทั้งสิ้น การถ่ายเทพลังงานจักรวาล เป็นสิ่งสำคัญเพราะพลังงานเหมือนกับน้ำหากนิ่งอยู่กับที่ไม่มีการถ่ายเทย่อมไม่เกิดประโยชน์และเสื่อมคุณภาพลงได้ การถ่ายเทพลังงานของหลวงปู่ท่าน เป็นเรื่องอจินไตยเพราะท่านสามารถถ่ายเทพลังงานในตัวของท่านกับเทพพรหมที่มีวาสนาต่อกันมาแต่อดีตชาติครับ สำหรับเราๆท่านสามารถหัดถ่ายเทหพลังงานจักรวาลกับต้นไม้ได้ หรือกับพระเครื่องก็ได้ แต่ต้องระวังไม่เอาพระเครื่องที่มีเศษซากศพนะครับเพราะอาจโดนพลังแฝง ใช้พระเครื่องของหลวงปู่คำเป็งนี่แหละครับดีที่สุด ตามปกติการที่เราแขวนพระที่คอก็มีการถ่ายเทพลังงานจากพระมาสู่ตัวเราอยู่แล้ว และมีการถ่ายเทพลังงานจากตัวเราไปสู่พระด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามการนำพระมากำหนดจิตถ่ายเทพลังงานโดยตรงก็เป็นอีกแบบฝึกหัดหนึ่งที่มีประโยชน์ เพราะทำให้ผู้หัดถ่ายเทสามารถพัฒนาเป็นเกจิอาจารย์ไปโดยปริยาย หลังจากที่เราถ่ายเทพลังงานจากกายเราไปสู่พระก็ต้องหัดกำหนดจิตดูดพลังงานจากพระเข้าสู่ตัวอีกครั้ง การทำแบบนี้เรียกว่าเป็นการฟอกพลังงานด้วยเหมือนการฟอกเลือดหรือเหมือนกับการทำระบบน้ำหมุนวน ผลคือรัศมีกายเราจะสว่างมากขึ้น มีศักยภาพมากขึ้น ศักยภาพที่มากขึ้นหมายถึงแรงดึดงดูดของกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าในกายเราจะสูงขึ้นไงครับ มีศักยภาพทำให้เกิดความต้านทานโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้น ดึงดูดสิ่งดีๆ โอกาสดีๆ คนดีๆ เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วย

 

555 ที่คุณ ทิพยจักร กล่าวมาทั้งหมดคือวิชาพลังจักรวาลที่ผมเรียนครับ เมื่อได้พลังและวิชาของหลวงปู่มาผนวกกันแล้ว เหมือนเป็นวิชาที่อยู่ในสายเดียวกันครับ ขึ้นอยู่ที่ความสามารถของผู้ที่นำมาใช้ครับ ถ้าใช้ด้วยความเมตตาและเกิดประโยชน์แล้วจะสามารถพัฒนา จนสุดจะบรรยายได้ครับ แต่ถ้านำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง พลังที่มีอยู่จะเสื่อมสลายไปในที่สุด หรือไม่สามารถที่จะใช้ได้อีกต่อไปครับ

 

สงสัยคงจะฟลุ๊กละมั้งครับ ค่อยๆฝึกครับขึ้นอยู่กับความพยายามของคุณเองครับ เอาไว้พบกันเดี๋ยวจะชาร์จพลังให้อีกครับ ขอให้พยายามครับ ของดีแบบนี้ทิ้งไปเสียดายนะครับ(deejai)

 

หวัดดีครับทุกท่านกระผมเข้ามาอ่านนานแล้ว แต่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร
กระผมเป็นผู้ร่วมงานได้รับการเปิดจักระ100 แต่แต่ก็ไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนเพื่อนที่ไปด้วยเค้ารู้สึกอะไรกันผมก็ไม่ค่อยรู้สึกวันแรกกลับไปก็นอนยาวเลยครับ หลังจากนั้นก็ฝึกสมาธิแบบพลังจักรวาลเกือบทุกวันครับเอาพระครุบาหนุนนอนด้วยทุกคืน
ตัวผมอยากจับพลังพระได้แต่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเลย เพื่อนบอกเย็นเจี๊ยบบบบ ผมไม่รู้สึก จนเมื่อวานเพื่อนผมปวดไหล่เลยลองรักษาดูครับ(เพื่อนคนนี้ไม่รู้จักพลังจักรวาลครับ)
เนื่องจากไม่มันใจเลยกำพระครูบาไว้ในมือ ขอบารมีท่านช่วย ผมบอกว่านั่งนิ่งๆสักแป๊บนะ ก็ลองดูตามที่เรียนอ่ะครับ พอเสร็จผมถามว่าเป็นไงมั่ง มันบอกก็หายว่ะ ผมถามอีกรู้สึกยังไงเหมือนมีอะไรวิ่งๆมั้ย มันบอกร้อนๆ ผมล่ะดีใจที่มีผลงานครั้งแรกครับ
มาถึงประเด็นสำคัญ คืนนั้นผมก็สวดมนต์ก่อนนอนแล้วก็นอนกำพระครูบาจะฝึกนอนสมาธิครับ สักพักรู้สึกหนักตรงหน้าผากเหมือนมีอะไรวางอยู่เผลอเอามือปัดออกนึกว่าวางพระไว้ที่หน้าผากแต่มันไม่มีอะไรครับ ผมก็เอะใจหรือเราเริ่มรู้สึกถึงจักรตรงนี้มากขึ้น ก็ทำสมาธิอธิฐาน ขอบารมีแม่อุมา ครูบาคำเป็งช่วยเพิ่มพลังช่วยให้ก้าวหน้าขึ้น ทีนี้รู้สึกว่าพลังถูกดูดเข้ามาที่หน้าผากแรงมากๆครับ สรุปคืนนั้นผมหมุนจักรเล่นจนนอนไม่หลับกว่าจะหลับรู้สึกจะตี2-3นี่เหละครับ เล่าสู่กันฟังนะครับ ใครที่ยังไม่รู้สึกอะไรชัดเจนพยามไปเรื่อยๆอย่าท้อครับ ^ ^

 

คุณโคมฉายครับ มีรุ่นไหนบ้างที่โดดเด่นเรื่องกันคุณไสย กันเส่นห์ยาแฝดโดยเฉพาะที่มากับของกิน พอดีมีคนรุ้จักที่เป็นผู้หญิงโดนมา 2 ครั้งแล้วครับ

 

เก่งมากครับที่รู้จักดัดแปลงเอาพระของครูบามาช่วยในการฝึก เหมือนอย่างที่คุณ ทิพยจักรทำมาแล้ว พระของหลวงปู่ทุกองค์มีพลังแรงมากครับ ถ้าคิดแล้วอยู่ในสายเดียวกับพลังจักรวาลเลยครับ ครั้งแรกผมพบหลวงปู่ก็อยากลองครับ แต่พอเข้าไปลึกวิชาที่หลวงปู่สอนให้เข้ากลายเป็นเหมือนกับที่ผมเรียนมาครับ แปลกมากจริงๆครับ

 

ใช้พระแม่อุมารุ่นยิมครับ แรงสุดๆครับ วิธีใช้ก็อธิษฐานบอกท่าน ให้ท่านช่วยกำจัดคุณไสยที่ไม่ดี ที่อยู่ในร่างกายของผู้ที่ถูกกระทำครับ ขณะที่อธิษฐานให้นำองค์พระเคาะ จนกว่าจะอธิษฐานเรียบร้อยแล้วครับ ลองดูก่อนครับ

 

ยินดีกับคุณเมาท์ครับ การเพิ่มพลังแบบนี้ พลังจะคงอยู่กับเราไปตลอด หรือจะค่อยๆ ลดลงตามเวลาที่ผ่านไปครับ (คือจะรักษาพลังที่เพิ่มขึ้นนี้อย่างไรครับ)
แล้วระดับ (10,20,30 ....) นี้ มีเกณฑ์ที่ใช้วัด และวิธีวัดอย่างไร ช่วยชี้แจงความรู้เป็นทานหน่อยครับ

 

วิชาเกี่ยวกับพลังงานนี่ที่สุดแล้วย่อมไปสู่เนื้อเดียวกันเหมือนสายน้ำทุกสายย่อมรวมลงในทะเล สำหรับพระของหลวงปู่นั้นท่านว่า การประจุพลังลงในองค์พระเมื่อเรารู้จักพลังของพระเป็นเจ้าอันเป็นพลังงานในธรรมชาติแล้ว ต่อมาเราต้องรู้จักอัญเชิญดวงจิตดวงวิญญาณจฃของครูบาอาจารย์มาประสิทธิ ขั้นนี้เรียกว่าวิญญาณศาสตร์ เมื่อทำการเสกพระท่านก็อัญเชิญครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือได้แก่พระอมิตภะ พระกวนอิม พระมหาสถาปราบ หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ศุข หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเดิมฯลฯ ต้นสายวิชาแต่ละท่านมาประสิทธิ เป็นการทำให้พลังงานในพระเครื่องแกร่งยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว สุดท้ายคือ การใช้ฌานสมาบัติ วิชาคาถาอาคม อำนาจแห่งการบำเพ็ญเพียรของท่านลงประจุซ้ำอีกครั้งหนึ่งเป็นอันจบ สรุปแล้วสามขั้นตอนที่ท่านทำคือ 1 หลักพลังงานจักรวาล หรือพลังงานจากพระเป็นเจ้า 2 พลังจากครูบาอาจารย์ 3 พลังจิตภายในของท่าน

ว่าด้วยเรื่องการเสกประจุที่ท่านสอน ท่านกล่าวไว้ดังนี้ครับว่า การเสกของประจุนั้นมีหลัก 4 อย่างอีกคือ 1 การสาธยาย ภาวนาพระคาถาในใจหรือท่องเบาๆ ประจุลงในวัตถุมงคล 2 การภาวนาในใจแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกจากนั้นเป่าปราณออกทางปากยาวๆใส่ลงในตัววัตถุมงคล 3 การกลั้นหายใจภาวนา เรื่องนี้ท่านว่าเป็นเคล็ดลับ ทำไมต้องกลั่นหายใจ ท่านว่าเพราะการกลั้นหายใจนั้นเป็นเคล็ด ที่ว่า คนที่เขาทำฌานสี่เต็มกำลังลมหายใจจะขาดหาย ดังนั้นการกลั้นหายในภาวนาจึงได้กำลังเทียบเคียงกับผู้ที่ทำฌานสี่เหมือนเป็นวิธีลัด แม้ไม่ได้ตรงกันแป๊ะก็ยังใกล้เคียงครับ 4 คือการเพ่งด้วยสายตาแล้วเพ่งให้อักขระคาถาเข้าไปสู่วัตถุมงคล วิธีนี้คล้ายกสิณจะบอกว่าเป็นหลักกสิณก้ได้ครับ วิธีทั้งหมดนี้หากลองนำไปปฏิบัติก็นับว่าเป็นอุบายในการทำสมาธิได้อย่างดี จะได้ไม่เบื่อในการทำสมาธิกัน แต่หากใครจะจับหลักการณ์ไหนตามจริตก็เชิยเลยครับ นำมาเผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทาน (เก็บความรู้จาก ครูบาคำเป็ง)

 

ถ้าไม่รู้จักวิธีเก็บพลัง ดูดพลังและใช้พลังก็จะค่อยๆหายไปเรื่อยๆครับ เพราะคุณจะใช้เป็นอย่างเดียว เพียงแค่คุณคิด พลังก็ออกไปโดยที่คุณยังไม่รู้ตัวว่าคุณได้ใช้พลังไปแล้วครับ วิธีเดียวคือคุณต้องสัมผัสและรู้ถึงพลังให้ได้ก่อนครับ และหาวิธีดึงพลังเข้ามาสู่ร่างกายครับ และเรียนรู้ถึงวิธีเก็บพลังไว้กับตัวเราและต้องถ่ายพลังออกเป็นด้วยครับ ไม่เช่นนั้น เดี่ยวหัวคุณจะระเบิดครับ เพราะพลังจะอัดแน่นอยู่เต็มไปหมดครับ