เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

วันที่ 22 มีนาคม 2554 01:00
กาแฟดำ
บันทึกจากธรรมศาลา... เมื่อท่านทะไล ลามะ ประกาศสละอำนาจการเมืองทิเบตพลัดถิ่น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผมไปสัมภาษณ์พิเศษท่านทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณชาวทิเบต และชาวพุทธทั่วโลกที่เมืองธรรมศาลา (Dharamsala)
<SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110317/show_ads_impl.js"></SCRIPT> ทางเหนือของอินเดีย อันเป็นที่ตั้งของ "รัฐบาลและสภาพลัดถิ่น" ของชาวทิเบตมาครับ
เป็นครั้งที่ 2 ใน 12 ปี ที่ผมได้มีโอกาสนั่งลงซักถามปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่เรียกตัวเองว่า "พระธรรมดารูปหนึ่ง" (A simple monk) ในจังหวะที่ต้องถือว่าเป็นประวัติศาสตร์แห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญยิ่ง ของขบวนการทิเบตพลัดถิ่น
เพราะท่านทะไล ลามะ ในวัย 76 ปี ประกาศสละตำแหน่งทางการเมืองอย่างจริงจัง เพื่อจะทำหน้าที่ของผู้นำทางจิตวิญญาณแต่เพียงด้านเดียว
เพราะท่านบอกผมว่า "ผมจะได้มีเวลาเตรียมตัวสำหรับชีวิตหน้า" ...(พร้อมเสียงหัวเราะก้องกังวานอย่างอารมณ์ดียิ่ง)
การจาริกแสวงบุญ ณ เทือกเขาหิมาลัยครั้งนี้ ผมเดินทางพร้อมกับคณะคนไทย 105 ท่าน ที่ประสานโดย "เสมสิกขาลัย" (แห่งมูลนิธิเสถียรโกเศศ-นาคะประทีป) เพื่อขอเข้าเฝ้า ท่านทะไล ลามะ เพื่อร่วมฟังธรรมพร้อมๆ กับผู้ศรัทธาจากอีกหลายประเทศหลายพันคน
เป็นครั้งแรกที่คนไทยรวมตัวกันเป็น "เจ้าภาพ" เพื่อนมัสการท่านทะไล ลามะ เทศนาธรรมที่วัดของท่านเองที่ธรรมศาลา ถือเป็นโอกาสที่สำคัญยิ่ง สำหรับพุทธศาสนิกชนและผู้สนใจกระบวนการต่อสู้ของชาวทิเบตที่ยาวนานมากว่า 60 ปี ในอันที่จะเรียกร้องเสรีภาพแห่งการนับถือศาสนาพุทธ และปกปักรักษาอัตลักษณ์แห่งความเป็นทิเบตกับรัฐบาลกลางของจีนที่ปักกิ่ง
วันที่ผมสัมภาษณ์ ท่านทะไล ลามะ (15 มี.ค.) มีความหมายมากมายหลายด้าน เพราะเป็นหนึ่งวันหลังจากที่ท่านส่งคำประกาศไปยังรัฐสภา (พลัดถิ่น) ทิเบต เพื่อยืนยันว่าท่านขอสละอำนาจทางการเมืองทั้งหมด ให้กับนายกรัฐมนตรีและผู้แทนประชาชนที่จะมาจากการเลือกตั้งวันที่ 20 มีนาคม (เมื่อวานนี้) อย่างถาวร
เพราะท่านต้องการจะให้เกิดการ "เปลี่ยนผ่าน" อย่างถูกต้องและเป็นระบบ และกระบวนการเรียกร้องของชาวทิเบตที่ได้ดำรงอยู่มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 (ครบ 52 ปี ปีนี้) จะได้ไม่ต้องพึ่งพา "ลัทธิบุคคล" อีกต่อไป
เป็นก้าวย่างที่แม้คนทิเบตเอง ซึ่งแม้จะได้ยินได้ฟัง ท่านทะไล ลามะ เกริ่นถึงการสละอำนาจทางการเมืองมาหลายปีแล้ว ก็ยังอดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ว่าหากขาดท่านแล้ว อนาคตของชาวทิเบตจะเป็นเช่นไร
"ผมได้ปูทางเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว ได้เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ตระเตรียมผู้นำรุ่นใหม่ของชาวทิเบตพลัดถิ่น เพื่อสืบสานการต่อสู้ของเราให้แข็งแกร่งต่อไป เพราะผมต้องการเห็นกระบวนการประชาธิปไตยที่โปร่งใสชัดเจน เพื่อให้เป็นการสานต่อการต่อสู้อย่างยิ่งยืน..." ท่านทะไล ลามะ บอกกับผมระหว่างการสัมภาษณ์ที่ทำงานเรียบง่าย และใกล้ธรรมชาติแห่งป่าสนของท่าน
ท่านพูดจาชัดเจน ตรงไปตรงมา มุ่งมั่นและอุดมไปด้วยอารมณ์ขันที่เป็นเสน่ห์และบุคลิกส่วนตัว ที่หาใครมาเทียบเทียมด้วยยากยิ่ง
ผมถามย้ำว่าท่านมั่นใจได้อย่างไรว่าเมื่อท่านทิ้งความเป็นผู้นำทางการเมืองแล้ว กระบวนการทิเบตพลัดถิ่นจะยังดำรงไว้ ซึ่งความแกร่งกล้าในการต่อสู้ต่อไปได้ ท่านทะไล ลามะ บอกว่า "ผมมั่นใจ...ผมเชื่อในความสามารถของผู้นำทิเบตรุ่นใหม่...และผมรู้ว่าวันหนึ่งผมจะกลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอนของผม…"
พร้อมกับบอกผมว่า ท่านจะมีชีวิตอยู่ถึง 113 ปี...เพราะท่านรู้สึกสุขภาพของท่านแข็งแรงเต็มที่ อีกทั้งเคยมีตำราเก่าแก่ 200 ปี ของทิเบตที่มีผู้อาวุโสเคยทำนายไว้ว่าคนที่มีลักษณะอย่างท่าน จะเกิดมาในโลก และจะมีอายุถึง 113 ปี เป็นอย่างน้อย
"ในความฝันของผมบางครั้ง ผมก็เห็นตัวเองอยู่ถึง 113 ปี..." ท่านทะไล ลามะ บอกผมพร้อมเสียงหัวเราะที่คล้ายๆ กับจะสื่อว่าจะเห็นเป็นเรื่องพูดเล่นหรือพูดจริง ก็แล้วแต่ว่าใครจะตีความ
หรือจะเป็นการส่งสารไปยังผู้นำจีน ว่า อย่าได้คิดว่าท่านจะจากไปง่ายๆ เป็นอันขาดก็มิอาจจะทราบได้
"บันทึกจากธรรมศาลา" ของผมยังมีให้อ่านต่อเนื่องในคอลัมน์นี้...โปรดติดตาม

 

วันที่ 21 มีนาคม 2554 08:58
ภาคต่อม็อบเสื้อแดงที่แมดิสัน...“ผ่าทางตัน”ด้วยวิถีประชาธิปไตย

โดย : ปกรณ์ พึ่งเนตร




ห้วงเวลานี้ในเมืองไทยคงกำลังจดจ่ออยู่กับการฟังลีลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลผสมภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
<SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110317/show_ads_impl.js"></SCRIPT>โดยพรรคฝ่ายค้านเดี่ยวอย่างพรรคเพื่อไทย

การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีถือเป็น “ยาขนานแรงที่สุด” ในกระบวนการตรวจสอบรัฐบาลเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา

ขณะเดียวกันในอีกซีกโลกหนึ่ง...ที่สหรัฐอเมริกา ณ เมืองแมดิสัน แห่งรัฐวิสคอนซิน ที่นั่นก็กำลังมีการใช้กระบวนการประชาธิปไตยที่เรียกกันว่า “Recall” หรือ “การถอดถอนผู้ได้รับเลือกตั้ง” ในการต่อสู้ของประชาชนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเช่นกัน

เป้าหมายของการ “Recall” คือผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน และสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคริพับริกันอีก 8 คน หลังจากที่พวกเขาผลักดันร่างกฎหมายตัดสิทธิการร่วมเจรจาต่อรองของสหภาพแรงงานที่เป็นลูกจ้างของรัฐ ทั้งยังลดสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนเคยได้รับจากหลักประกันสุขภาพและบำนาญหลังเกษียณ

สโลแกน “Recall Them All” จึงกลายเป็นถ้อยคำสุดฮิตบนป้ายประท้วงและโปสเตอร์เชิญชวนให้ผู้คนร่วมกันลงชื่อถอดถอนผู้ว่าการรัฐกับพวกในยามนี้ พบเห็นได้อย่างดาษดื่นตามท้องถนนและร้านรวงต่างๆ ทั่วเมืองแมดิสัน นครหลวงของรัฐวิสคอนซิน

อหังการ์ “สก๊อต วอล์คเกอร์”

การชุมนุมใหญ่โดยกลุ่มลูกจ้างของรัฐ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และสหภาพแรงงานในรัฐวิสคอนซินจำนวนหลายหมื่นคนบริเวณศาลาว่าการรัฐใจกลางเมืองแมดิสันตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลวาเลนไทน์จนถึงปัจจุบัน ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือนแล้ว

แต่สถานการณ์กลับตึงเครียดมากขึ้นเมื่อทั้งสภาสูงและสภาล่างของรัฐวิสคอนซินพร้อมใจกันผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณที่เสนอโดย นายสก๊อต วอล์คเกอร์ ผู้ว่าการรัฐสังกัดพรรคริพับริกัน เมื่อวันพุธและวันพฤหัสบดีที่ 9 และ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา

แม้สมาชิกจากพรรคเดโมแครตบางส่วนจะไม่ยอมเข้าร่วมประชุม และหนีไปพำนักในรัฐอื่นชั่วคราวด้วยหวังไม่ให้องค์ประชุมครบ แต่ก็มิอาจต้านทานการเดินเกมอย่างแข็งขันในสภาบนและสภาล่างที่มีสมาชิกจากริพับริกันเป็นเสียงข้างมากได้

สุดท้ายร่างกฎหมายจึงผ่านสภาด้วยคะแนนเสียง 53:42

นับเป็นความอหังการ์ของ นายสก๊อต วอล์คเกอร์ และกลุ่มผู้สนับสนุนจากพรรคริพับริกันที่กล้าผ่านกฎหมายฉบับนี้ทั้งๆ ที่การชุมนุมประท้วงเพื่อ “Kill the bill” กำลังขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหาของร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณที่มีความยาวหลายร้อยหน้าถูกตีแผ่ และพบว่ากฎหมายฉบับนี้จะก่อผลกระทบกับประชาชนแทบทุกกลุ่มในรัฐเล็กๆ และเงียบสงบทางตอนเหนือของอเมริกาแห่งนี้

นอกจากสาระที่รับรู้กันในเบื้องต้นคือการตัดสิทธิขั้นพื้นฐานว่าด้วยการร่วมต่อรองของสหภาพ (Collective bargaining rights) เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของแรงงานที่เป็นลูกจ้างของรัฐ ซึ่งรวมไปถึงครูและอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของรัฐแล้ว ร่างกฎหมายยังบังคับให้ลูกจ้างของรัฐจ่ายเงินสมทบเพิ่มขึ้นสำหรับหลักประกันสุขภาพและบำนาญ แต่ฝ่ายรัฐกลับจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนลดลง ขณะเดียวกันก็ตัดงบประมาณอุดหนุนเกี่ยวกับหลักประกันสุขภาพขั้นพื้นฐาน และแม้กระทั่งประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม คืองบประมาณสำหรับการทำ “รีไซเคิล” ก็ถูกตัดด้วยเช่นกัน

ร่างกฎหมายฉบับนี้จึงกระทบกับสิทธิประโยชน์ของผู้คนในวงกว้าง ไม่เว้นแม้กระทั่งเกษตรกร เพราะพวกเขากำลังถูกตัดสิทธิประโยชน์จากหลักประกันสุขภาพขั้นพื้นฐานซึ่งคล้ายๆ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคในบ้านเราด้วย

Total Recall!!!

การชุมนุมยืดเยื้อของพลเมืองรัฐวิสคอนซินมีทั้งแบบ “กิน-นอน” และ “ไป-กลับ” ผู้ชุมนุมแบบ “ฮาร์ดคอร์” จะหอบเสื้อผ้าและเครื่องนอนไปปักหลักอยู่บริเวณศาลาว่าการรัฐ เข้าทำนอง “ไม่ชนะไม่เลิก”
ส่วนอาหารก็หารับประทานได้ไม่ยาก เพราะมีกลุ่มผู้สนับสนุนนำพิซซ่า แซนด์วิช และน้ำอัดลม ซึ่งเป็นเมนูสไตล์อเมริกันไปแจกจ่ายแบบไม่อั้น (เห็นแล้วนึกถึงอาหารอร่อยๆ ในม็อบทั้งเหลืองและแดงที่บ้านเรา)

ขณะที่อีกพวกหนึ่งเป็นกลุ่มที่ยังต้องทำงานหรือเรียนหนังสือ จึงไม่สามารถไปชุมนุมแบบยืดเยื้อได้ กลุ่มนี้ก็จะไปแสดงพลังกันช่วงเย็นวันศุกร์ และตลอดทั้งวันของวันเสาร์กับอาทิตย์

เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-13 มี.ค.) บรรยากาศการประท้วงคึกคักและตึงเครียดมากเป็นพิเศษ เนื่องจากทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าร่างกฎหมายผ่านสภาไปเรียบร้อย เหลืออีกเพียงขั้นตอนเดียวเท่านั้นคือผู้ว่าการรัฐลงนาม กฎหมายก็จะมีผลบังคับใช้ทันที

มวลชนที่ไปรวมตัวกันมีมากกว่าครึ่งแสน ในจำนวนนั้นมีกลุ่มเกษตรกรผู้ทำฟาร์มนำรถแทร็กเตอร์คันโตน้องๆ รถหกล้อไปร่วมขบวนประท้วงรอบๆ ศาลาว่าการรัฐให้เป็นที่ฮือฮาด้วย

แม้หัวข้อของการต่อต้านจะเคร่งเครียดขึ้น แต่การชุมนุมที่นี่ยังเต็มไปด้วยสีสันและปราศจากความรุนแรง ถึงจะมีการใช้ “วิชามาร” อยู่บ้าง เช่น จู่ๆ ก็มีคนพบปืนไรเฟิลไร้เจ้าของวางอยู่หน้าศาลาว่าการรัฐ หรือสื่อโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกาที่ยืนข้างพรรคริพับริกันพยายามเสนอภาพข่าวกล่าวหาว่าเกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นระหว่างผู้ชุมนุมด้วยกันเอง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับเป็นภาพข่าวเก่าที่ถ่ายจากรัฐอื่น เป็นต้น

การใช้ “วิชามาร” จึงถูกประณามไปตามระเบียบ และไม่สามารถบิดเบือนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนได้

ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ที่นี่ปฏิเสธความรุนแรง แต่จะใช้วิธีเขียนป้ายหรือโปสเตอร์แสดงจุดยืนและความคิดเห็นของตนในฐานะ “ปัจเจกชน” เพื่อสนับสนุนกลุ่มมวลชน ขณะเดียวกันก็ชักชวนให้คนอื่นๆ เห็นด้วยกับท่าทีของตน โดยสีที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ใช้เป็นสัญลักษณ์คือ “สีแดง”

จุดที่น่าสนใจก็คือ เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ชุมนุมหลายคน หลายกลุ่ม หลากสถานะ แทบทุกคนไปร่วมแสดงพลังโดยรับรู้ข้อมูลในระดับดีถึงดีมากว่าพวกเขาไปทำไมและต้องการอะไร

หลายครอบครัวพาพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยายที่เป็น “คนชรา” และบางคนก็ “พิการ” นั่งรถเข็นไปร่วมประท้วงด้วย เพื่อยืนยันว่าร่างกฎหมายฉบับนี้กระทบกับสิทธิประโยชน์ของคนทุกกลุ่มจริงๆ

คุณป้าคนหนึ่งเดินทางมาด้วยตนเองโดยรถเข็นที่กดปุ่มเดินหน้า-ถอยหลังได้แบบอัตโนมัติ เธอหายใจหอบตลอดเวลา แต่ก็ยังแจกแจงได้อย่างชัดเจนว่าร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณส่งผลกระทบกับตัวเธอและลูกสาวซึ่งเป็นครูสอนหนังสืออยู่ในโรงเรียนของรัฐอย่างไร

ขณะที่ผู้ประท้วงอีกกลุ่มใหญ่ใส่หน้ากากเลียนแบบภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นปนลึกลับ “V for Vendetta” หรือชื่อไทยว่า “เพชฌฆาตหน้ากากพญายม” ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ “ชายสวมหน้ากาก” ปฏิบัติการปลดปล่อยประชาชนที่ถูกปกครองด้วยระบอบเผด็จการและนักการเมืองโกงกิน

นับเป็นรูปแบบการประท้วงที่ได้ทั้งสาระเชิงประชดประชันและเรียกความสนใจจนทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องกดชัตเตอร์บันทึกภาพไว้เป็นประวัติศาสตร์

ส่วนถ้อยคำประท้วงที่ได้รับความนิยมสุดๆ ในจังหวะนี้ เห็นจะหนีไม่พ้น “Recall” ถึงขนาดที่โรงภาพยนตร์เก่าแก่นาม “Orpheum” ซึ่งยืนเด่นอยู่ริม “สเตท สตรีท” ถนนเชื่อมระหว่างศาลาว่าการรัฐกับมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน นำชื่อหนังอเมริกันไซไฟเรื่อง “Total Recall” ที่ออกฉายจริงเมื่อปี ค.ศ.1990 มาขึ้นบนป้ายด้านข้างของโรงภาพยนตร์ที่ใช้ประกาศชื่อหนังที่กำลังลงโรงฉาย โดยเปลี่ยนชื่อดารานำจาก อาร์โนลด์ ชวาร์สเนคเกอร์ เป็น นายสก๊อต วอล์คเกอร์ ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน

ถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ชวนให้ทุกคนที่เดินผ่านต้องแหงนหน้าขึ้นมองพร้อมกับอมยิ้ม บางคนถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่

หนำซ้ำยังมีเรื่องขำๆ ที่เกี่ยวกับหนังเรื่อง “Total Recall” ซึ่งเป็นตลกร้ายในหมู่ผู้ชุมนุม แต่เป็นข้อมูลที่ไม่ยืนยันว่าถูกต้องหรือไม่ ก็คือ อาร์โนลด์ ชวาร์สเนคเกอร์ นั้น เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้หันเหเส้นทางชีวิตไปลงเล่นการเมือง โดยได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย และเขาก็เป็นผู้ว่าการรัฐที่ถูก “Recall” เช่นกัน แต่ไม่ทราบว่าผลของการ “Recall” เป็นเช่นไร

ทว่าปัจจุบัน “อาร์โนลด์ กล้ามใหญ่” ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแล้วทั้งๆ ที่ยังไม่หมดวาระการทำงาน

วิถี ปชต.ผ่าทางตัน

ดังที่เกริ่นเอาไว้ในตอนต้นว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณของ นายสก๊อต วอล์คเกอร์ ซึ่งเพิ่งชนะเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรัฐได้เพียงแค่ 4 เดือนเศษ ผ่านทั้งสภาสูงและสภาล่างไปเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นจนถึงขณะนี้กลุ่มประชาชนผู้คัดค้านจึงไม่อาจพึ่งพากลไกสภาได้อีก

แต่การต่อสู้บนวิถีทางประชาธิปไตยในอเมริกาก็ยังไม่ถึงทางตัน เพราะยังมีกระบวนการ “Recall” ตามกฎหมายที่พวกเขากำลังรณรงค์ล่าชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อให้จัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่กันอยู่ ซึ่งโดยนัยก็หมายถึงการ “ถอดถอน” สมาชิกวุฒิสภาจากริพับริกัน 8 คน และนายสก๊อต วอล์คเกอร์ ออกจากตำแหน่งนั่นเอง หากฝ่ายประชาชนผู้ประท้วงสามารถล่าชื่อได้ครบตามจำนวนกระทั่งจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ และผู้ดำรงตำแหน่งอยู่เดิมพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งใหม่

การถอดถอนผู้ได้รับเลือกตั้ง หรือ “Recall” เป็นหนึ่งในกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของผู้แทนราษฎรตามระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐ ซึ่งยังไม่มีใช้ในประเทศไทย แม้จะมีความพยายามผลักดันในการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับหลังสุดก็ตาม แต่ก็ถูกตีตกไปทั้ง 2 ครั้ง

แม้การ “Recall” จะเป็นกระบวนการถอดถอนรูปแบบหนึ่ง แต่ก็เป็นคนละเรื่องกับการ “ถอดถอนจากตำแหน่ง” หรือ “Impeachment” ที่คนไทยรู้จักกันดี เพราะสมัย นายบิล คลินตัน เป็นประธานาธิบดี ก็เคยถูกยื่นถอดถอนจากประเด็นจริยธรรมจนตกเป็นข่าวเกรียวกราว และในเมืองไทยปัจจุบันก็มีช่องทางตามรัฐธรรมนูญให้ยื่นถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ด้วย แต่การถอดถอนลักษณะนั้นดำเนินการโดยสภา

ส่วนการ “Recall” ตัดสินกันด้วยเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ดี การ “Recall” ของสหรัฐจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ได้รับเลือกตั้งผู้นั้นอยู่ในตำแหน่งครบ 1 ปีแล้ว ซี่งในส่วนของผู้ว่าการรัฐ นายสก๊อต วอล์คเกอร์ จะเริ่มต้นได้ในต้นปีหน้า ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาสามารถเริ่มกระบวนการได้ทันที

ขณะนี้กลุ่มผู้ประท้วงคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณจึงรณรงค์ให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมกันลงชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกวุฒิสภาจากริพับริกันจำนวน 8 คนที่ยืนเคียงข้างนายวอล์คเกอร์ผลักดันร่างกฎหมายจนผ่านสภาได้สำเร็จไปพลางก่อน

กระบวนการถอดถอนเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ต้องใช้เสียงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 25% ของผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในเขตหรือรัฐนั้นๆ ซึ่งในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา สัดส่วนของจำนวนจะแตกต่างกันไปตามเขตเลือกตั้งและจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14,000-15,000 เสียงต่อสมาชิกวุฒิสภาหนึ่งคน

ขณะที่การถอดถอนผู้ว่าการรัฐต้องการเสียงสนับสนุนมากถึง 540,000 เสียง ซึ่งแม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ถือว่ายังมีเวลาอีกยาวนานสำหรับการรณรงค์และเผยแพร่ข้อมูล

ผู้ร่วมลงชื่อหลายคนคาดหวังว่า กระบวนการถอดถอนจะทำให้พวกเขาได้รัฐวิสคอนซินอันเงียบสงบและเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนกลับคืนมา หลังจากที่ผู้ว่าการรัฐจากริพับริกันทำลายมันอย่างย่อยยับจากร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณ

แต่ความยากของกระบวนการ “Recall” ก็คือจะทำอย่างไรให้คนส่วนใหญ่ในรัฐเห็นด้วยกับตน เพราะก็มีสมาชิกในสังคมเดียวกันอีกจำนวนไม่น้อยเหมือนกันที่สนับสนุนผู้ว่าการรัฐ

อย่าง แรนดี้ แอล. มาร์ติน หัวหน้าตำรวจที่ไรโอ ในเขตปกครองโคลัมเบีย ห่างจากแมดินสัน 35 ไมล์ บอกว่า เขาและครอบครัวสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณอย่างเต็มที่ เพราะงบประมาณของรัฐวิสคอนซินติดลบอยู่ถึง 6 พันล้านเหรียญ

“แม้ผมจะเป็นตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในสามอาชีพที่ไม่ได้รับผลกระทบจากร่างกฎหมายฉบับใหม่ (อีกสองอาชีพคือ พนักงานผจญเพลิง และคนงานปิโตรเลียม) แต่ภรรยาของผมก็เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เธอก็ยินดีจ่ายภาษีมากขึ้นเช่นกัน เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่รัฐของเรามีหนี้สินเยอะถึง 6 พันล้านเหรียญแล้วจะเอาแต่จ่ายๆๆๆ เหมือนเดิม” แรนดี้ บอก

นี่คือความสวยงามบนหนทางที่ไม่ตีบตันของประชาธิปไตย ซึ่งทุกอย่างไม่ได้จบแค่ในสภาหรือเสียงข้างมากลากไป...

จึงไม่จำเป็นต้องใช้ “อำนาจพิเศษ” หรือ “ความรุนแรง” เพื่อผ่าทางตันทางการเมือง!

************************************
หมายเหตุ : งานเขียนชิ้นนี้เป็นตอนที่ 4 ในชุด "เรื่องเล่า (เบาๆ) ของนักข่าวไทยในอเมริกาฯ" สามารถติดตามอ่านตอนที่ 1-3 ได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้
- อุ่นวัดไทยในพายุหิมะ
http://www.oknation.net/blog/kobkab/2011/02/04/entry-2
- "แย็บๆ"...อเมริกันอันตราย!
http://www.oknation.net/blog/kobkab/2011/02/13/entry-1
- ม็อบเสื้อแดงที่แมดิสัน...เมื่อประชาชนของ "กระชับพื้นที่"
http://www.oknation.net/blog/kobkab/2011/02/20/entry-1

 

วันที่ 22 มีนาคม 2554 06:25
ฝ่ายต่อต้านปัดหวังสังหารกัดดาฟี

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


อาลี ไซดาน (ซ้าย) ทูตสภาเปลี่ยนถ่ายแห่งชาติลิเบีย

ผู้แทนฝ่ายต่อต้านลิเบียในยุโรป เผย ไม่อยากให้กัดดาฟีโดนสังหาร แต่ต้องการนำตัวขึ้นพิจารณาคดี ย้ำไม่ต้องการให้ทหารต่างชาติรุกเข้าประเทศ
<SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110317/show_ads_impl.js"></SCRIPT>นายอาลี ไซดาน ทูตของสภาเปลี่ยนถ่ายแห่งชาติลิเบีย ในยุโรป เผยวานนี้ (21 มี.ค.)ว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของลิเบีย ต้องการที่ผลักดันให้พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ลงจากตำแหน่ง และวางมือจากอำนาจ ไม่ได้ต้องการให้เขาโดนสังหารแต่อย่างใด
นายไซดาน กล่าวด้วยว่า การโจมตีทางอากาศของชาติตะวันตก นำโดยฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐ ช่วยเหลือกลุ่มต่อต้านได้มาก แต่ระบุว่า ฝ่ายต่อต้านต้องการอาวุธมากกว่านี้
ท่าทีของนายไซดาน บ่งชี้ว่า ฝ่ายต่อต้านในลิเบียหวังที่จะหาทางออกโดยสันติให้กับพันเอกกัดดาฟี ผู้ปกครองประเทศมานาน 42 ปี
"เราอยากให้กัดดาฟียังมีชีวิตอยู่ เพื่อขึ้นศาลระหว่างประเทศ หรือศาลในลิเบีย จากอาชญากรรมที่เขาก่อไว้ เราไม่ต้องการสังหารใคร แม้กระทั่งกัดดาฟีเอง" ทูตฝ่ายต่อต้านลิเบีย กล่าว
นายไซดาน ยังย้ำว่า ฝ่ายต่อต้านไม่ต้องการให้กองกำลังจากชาติใดรุกเข้ามาในประเทศ และเชื่อว่า สามารถจัดการกับกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลได้ด้วยตัวเอง ตราบเท่าที่การต่อสู้เป็นไปอย่างยุติธรรม
พร้อมกันนี้ ยังแสดงความหวังว่า กองกำลังนานาชาติจะปิดฉากการโจมตีเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่กลุ่มผู้ประท้วงจะได้ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนอย่างปลอดภัย ในความพยายามเรียกร้องอย่างสันติ ให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในรัฐบาล

 

OPERATION ODYSSEY DAWN – ปฏิบัติการทางทหารบนข้อจำกัด
โดย พ.อ. ดร.ธีรนันท์ นันทขว้าง
จากเมื่อคืนวันที่ 19 มี.ค. 54 ที่ผ่านมา ได้มีขีปนาวุธร่อนโทมาฮอร์ค หรือ Cruise Missile Tomahawk จำนวนกว่า 110 ลูกถูกปล่อย โดยมีเป้าหมายคือเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของประเทศลิเบีย พร้อมทั้งมีการใช้เครื่องบินเข้าปฏิบัติทางอากาศโจมตีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในลิเบียไปพร้อมๆ กัน
ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 48 คน และ บาดเจ็บกว่า 150 คนนั้น ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติการทางทหารหลังจากที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้อนุมัติให้ใช้ “ทุกมาตรการที่จำเป็น” เพื่อปกป้องประชาชนลิเบียจากการโจมตีของรัฐบาลกัดดาฟี ด้วยมติ 10-0 โดยมีชาติที่งดออกเสียง 5 ชาติ ได้แก่ รัสเซีย จีน บราซิล เยอรมนี อินเดีย เมื่อวันที่ 17 มี.ค.54 ที่ผ่านมา
ปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้มีชื่อว่า Operation Odyssey Dawn สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการปฏิบัติการทางทหารอย่างจำกัด ทั้งตามคำแถลงการณ์ของประธานาธิบดี โอบามา ของสหรัฐฯ เอง และ รูปแบบของการปฏิบัติการเองทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การปฏิบัติการครั้งนี้คงเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งรีบและบนความไม่พร้อม ของสหรัฐฯ เอง ส่วนประเทศอื่นๆ นั้นเป็นผู้ร่วมในการให้การสนับสนุน
มาถึงตรงนี้หลายๆ ท่านอาจจะมองว่าทำไมผมถึงให้น้ำหนักสหรัฐฯ ในการกำหนดทิศทางของการปฏิบัติการทางทหาร ที่ผมให้น้ำหนักไปที่สหรัฐฯ เพราะปัจจุบัน สหรัฐฯ มีปัจจัยที่เอื้อต่อการส่งทหารออกไปทั่วโลก ด้วยปัจจัยดังนี้คือ ในระดับนโยบาย สหรัฐฯ เป็นประเทศทีมีความชัดเจนในการกำหนดยุทธศาสตร์ที่รักษาผลประโยชน์นอกประเทศ
อีกทั้งกฏหมายได้ให้อำนาจประธานาธิบดี ในการรักษาผลประโยชน์นอกประเทศ นอกจากนี้ สหรัฐฯ เอง ยังมีกองทัพที่มีกำลังพล 5 เหล่าทัพ (กองทัพบก เรือ อากาศ นาวิกโยธิน และ รักษาฝั่ง) พร้อมกองกำลัง National Guard และ กำลังสำรอง ประมาณ 2 ล้านนาย


ไม่เพียงแต่ความพร้อมในระดับนโยบาย และ ทางกองทัพมีกำลังพลจำนวนมากแล้ว สหรัฐฯ ยังมีประสบการณ์ในการนำกำลังทหารออกปฏิบัติการหลายพื้นที่ในโลก จวบมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งสหรัฐฯ ยังมีเหล่าทัพที่มีความสามารถออกไปปฏิบัติการได้ทั่วโลกที่มีความสามารถดูแลตัวเองได้ 60 วันโดยไม่มีการสนับสนุนจากภายนอก จำนวน 3 หน่วย นั่นคือ
กองกำลังนาวิกโยธินปฏิบัติการนอกประเทศ (Marine Expeditionary Force) โดย กองกำลังนาวิกโยธินปฏิบัติการนอกประเทศ จะมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางทหารทางบก และทางอากาศ และมีหน่วยงานส่งกำลังของตนเอง ซึ่งเมื่อประกอบกำลังกับกำลังทางเรือ เช่น เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือลำเลียงพล และ รวมถึงเรือยกพลขึ้นบก จะทำให้ กองกำลังนาวิกโยธินปฏิบัติการนอกประเทศ เป็นหน่วยที่มีความพร้อมทั้ง ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ในตัวเอง ซึ่งเป็นขีดความสามารถที่ไม่มีประเทศไหนมีได้เท่า
อย่างไรก็ตามการที่สหรัฐฯ เป็นประเทศเดียวในโลกแต่สภาพความเป็นจริงในปัจจุบันของสหรัฐฯ กับไม่เอื้ออำนวยให้ส่งกำลังเข้าปฏิบัติการทางทหารในลิเบีย เนื่องจาก ปัจจุบัน สหรัฐฯมีกำลังทหารอยู่ในอิรักประมาณ 90,000 นายเมื่อปีที่แล้ว และปีนี้กำลังทหารลดลง อีกทั้งยังมีกำลังทหารอยู่ในอัฟกานิสถานประมาณ 90,000 นาย โดยในอิรัก สหรัฐฯ เป็นผู้จัดกำลังรับผิดชอบหลัก
ส่วนในอัฟกานิสถาน จะเป็นการจัดกำลังภายใต้กรอบของ องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization : NATO) ภายใต้ชื่อ International Security Assistance Force : ISAF การที่สหรัฐฯ คงกำลังทหารไว้ในอิรัก และอัฟกานิสถาน
ทำให้สหัฐฯ ถูกตั้งคำถามว่า สหรัฐฯ สูญเสียชีวิตคนสหรัฐฯไป 4,430 คนในอิรัก บาดเจ็บ 36,395 คนและสูญเสียชีวิตคนสหรัฐฯไป 1,412 คนในอัฟกานิสถาน บาดเจ็บ 10,468 คน เพื่ออะไร ทำให้แรงผลักดันในประเทศให้ถอนกำลังออกจากทั้ง 2 ประเทศ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองก็ไม่ได้ดีและแข็งแกร่งอย่างที่เคยเป็นมาในอดีต
ไม่เพียงแต่ข้อจำกัดเรื่องกำลังที่คงไว้ใน อิรักและอัฟกานิสถานแล้ว สหรัฐฯ เองยังมีแนวคิดในการทำสงครามที่ว่า Two-Major Theater War หรือความสามารถที่จะเปิดสนามรบพร้อมกันได้ 2 สนามรบ แต่ด้วยข้อจำกัดทางงบประมาณ สหรัฐฯ จึงได้กำหนดสนามรบออกเป็น 3 ประเภทคือ
* พื้นที่ที่มีความขัดแย้งขนาดใหญ่ (Large Theater War: LTW)
* พื้นที่ทีมีความขัดแย้งขนาดเล็กที่มีข้าศึกมีขีดความสามารถทางเทคโนโลยีสูง (STW High-Technology)
* พื้นที่ที่มีความขัดแย้งขนาดเล็กในพื้นที่ปิด พื้นที่สิ่งปลูกสร้าง หรือป่าภูเขา (STW Low Intensity)
โดยยามปกติ สหรัฐฯ จะบรรจุกำลังพล ที่กองบัญชาการภาคพื้นยุโรป (Command: EUCOM) 100,000 นาย ที่กองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิก (Pacific Command: PACOM) 100,000 นาย และที่กองบัญชาการภาคพื้นกลาง (Central Command: CENTCOM) 40,000 นาย ถ้ามีความขัดแย้งในแต่ละภูมิภาคการประกอบกำลังดังต่อไปนี้
- พื้นที่ที่มีความขัดแย้งขนาดใหญ่ (LTW): 9 กองพลทหารราบ/นาวิกโยธิน 12 กองบินต่อสู้/ขับไล่ 6 กองเรือบรรทุกเครื่องบิน
- พื้นที่ทีมีความขัดแย้งขนาดเล็กที่มีข้าศึกมีขีดความสามารถทางเทคโนโลยีสูง (STW High-Tech): 1 กองพลทหารราบ/นาวิกโยธิน 5 กองบินต่อสู้/ขับไล่ 3 กองเรือบรรทุกเครื่องบิน
- พื้นที่ที่มีความขัดแย้งขนาดเล็กในพื้นที่ปิด พื้นที่สิ่งปลูกสร้าง หรือป่าภูเขา (STW Low-Intensity): 3 กองพลทหารราบ/นาวิกโยธิน 3 กองบินต่อสู้/ขับไล่ 1 กองเรือบรรทุกเครื่องบิน
โดยที่ทั้งหมดจะมีกองหนุน 9 กองพลทหารราบ/นาวิกโยธิน และ 2 กองเรือบรรทุกเครื่องบิน
แนวความคิดใหม่นี้ได้ปรับเปลี่ยนสมมุติฐาน จากโอกาสที่จะเกิด พื้นที่ความขัดแย้งขนาดใหญ่ สองพื้นที่ มาเป็นความขัดแย้ง มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากว่า หนึ่งพื้นที่ ณ เวลาหนึ่ง แต่กรอบของความขัดแย้งต่างกัน บางพื้นที่ อาจจะมีความขัดแย้งในลักษณะ LTW, STW High-Tech หรือ STW Low-Intensity เพราะฉะนั้นการเตรียมกำลัง และ ประกอบกำลังขึ้น ตามสมมุติฐานใหม่นี้จะมีความอ่อนตัวมากขึ้น และอาจทำให้ กองทัพสหรัฐฯ มีขีดความสามารถที่จะทำการรบในพื้นที่ความขัดแย้งมากกว่า 1 พื้นที่ในเวลาเดียวกัน
จากที่กล่าวมาในข้างต้นจะเห็นได้ว่า สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีความสามารถในการส่งกำลังออกนอกประเทศ แต่ด้วยข้อจำกัดที่มีคือ การมีกองกำลังคงอยู่ในอิรัก และ อัฟกานิสถาน ทำให้การเปิดสนามรบที่ 3 นั้นเป็นไปได้แต่สนามรบที่ไม่ต้องใช้กำลังพลมาก ทำให้ส่งผลสะท้อนไปยังการปฏิบัติการ Operation Odyssey Dawn ว่าสหรัฐฯ จะไม่ส่งกำลังทหารเข้าไป และจะปฏิบัติการทางทหารอย่างจำกัด ส่วนประเทศอื่นๆ นั้น มีข้อจำกัดนานาประการ เช่น ประเทศในสหภาพยุโรป ต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจ และมีกองกำลังของตนเองอยู่ใน อัฟกานิสถาน ทำให้ไม่ง่ายที่จะเป็นผู้นำในการนำกองกำลังทางบกเข้าสู่ลิเบีย
ดังนั้นการปฏิบัติ Operation Odyssey Dawn ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้ 3 แนวทางหลังจากการทิ้งโจมตีทางอากาศและ การโจมตีโดยขีปนาวุธร่อน ดังปรากฏในภาพที่ 1 และ มีรายละเอียดดังนี้


1. แนวทางที่ 1 : นำกำลังจากสหรัฐฯ หรือ นานาชาติ เข้าสู่ลิเบีย ซึ่งหากแนวทางนี้เกิดขึ้น กำลังหลัก ที่นำเข้าจะมีโอกาสน้อยมากที่เป็น สหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯ ใช้ทหารไปในอิรัก และอัฟกานิสถาน เกือบ 200,000 นาย แต่ก็อาจะมีความเป็นไปได้ นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังไม่มีความพร้อมในการเปิด สนามรบ แห่งที่ 3 ด้วยเงื่อนไขหลาย ประการ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการถอนกำลังในตะวันออกกลาง อีกทั้งยังมีความยุ่งยากในเชิงปฏิบัติ เพราะต้องเตรียมการโดยใช้เวลานาน
2. แนวทางที่ 2 : การใช้สงครามนอกแบบ โดยจัดตั้งกองโจร แนวทางนี้เป็นแนวทางที่มีโอกาสมาก แนวทางหนึ่ง เพราะ สหรัฐฯ อาจจะสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ สะดวก ข้อจำกัดที่จะเกิดขึ้นคือหน่วยที่รับผิดชอบในเรื่อง ของสงครามนอกแบบของสหรัฐฯ ในพื้นที่ของลิเบีย ปัจจุบันมีภารกิจ บางส่วนหรือ เพิ่งจบภารกิจจาก อัฟกานิสถาน เมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้ต้องใช้เวลา ฟื้นฟู และ ปรับกำลังใหม่ แต่ก็ใช้เวลานานในการดำเนินการกว่าจะประสบความสำเร็จ
3. แนวทางที่ 3 : การใช้กำลังจับตัวผู้นำ แนวทางนี้เป็นเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่มี โอกาสมากอีกแนวทางหนึ่ง เพราะ สหรัฐฯ สามารถใช้หน่วยปฏิบัติการ พิเศษ เข้าดำเนินเนินการจับกุมผู้นำได้ โดยใช้เวลาในการปฏิบัติไม่นานมากนัก การปฏิบัติตามแนวทางนี้ต้อง ได้รับการสนับสนุนและยินยอมจาก นานาประเทศ ที่สำคัญหลังจากการจับคุมแล้ว ต้องหาแนวทางดำเนินการต่อ เพราะอาจทำให้ ความสมดุลย์ทาง การเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาตอนบนมีการเปลี่ยนแปลง
ด้วยข้อจำกัดที่จากที่กล่าวมาในข้างต้น ทำให้เกิดประเด็นที่น่าสนใจว่า หลายประเทศที่เข้าร่วมเล่นในสถานการณ์นี้จะมีแนวทางอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะอย่างไร ราคาน้ำมันก็คงขึ้นต่อไป และ ความสงบสุขในกลุ่มประเทศอาหรับก็ยังคงต้องติดตามต่อไปว่าจะไปสู่จุดยุติอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะยุติอย่างไร สถานการณ์เหล่านี้คงได้ยุติชีวิตคนไปอีกหลายชีวิต นี่แหละอำนาจและผลประโยชน์ …………..เอวัง ครับ

**หมายเหตุ** เผยแพร่ครั้งแรกใน website tortaharn.net วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554
OPERATION ODYSSEY DAWN – ปฏิบัติการทางทหารบนข้อจำกัด | Siam Intelligence

 

เปิดเผยเครื่องบินรบอาหรับร่วมกินโต๊ะลิเบีย
มุสลิมไทยดอทคอม : 21 มีค. 54 13:00:38
สำนักข่าวมุสลิมไทย เปิดเผยเครื่องบินรบอาหรับร่วมกินโต๊ะลิเบีย
ข่าวเอเจนซี่ – รัฐมนตรีป้องกันประเทศฝรั่งเศสระบุ มีเครื่องบินรบของกาต้าร์ 4 ลำ ร่วมในปฏิบัติการณ์ถล่มลิเบียเมื่อวันอาทิตย์ (20/03) ในขณะที่เครื่องบินรบของประเทศอาหรับอื่นๆ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ลิเบียแล้ว เพื่อร่วมกับชาติตะวันตก ในปฏิบัติการณ์ต่อเนื่องเพื่อให้มาตรการห้ามบินบรรลุผล



พลเรือเอกไมค์ มูลเลน ประธานกองกำลังร่วม ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว ซีเบเอส. ว่านอกจากกาต้าร์แล้ว ยังมีเครื่องจากประเทศอาหรับอื่นๆ ที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวส่งเครื่องบินร่วมในปฏิบัติการณ์นี้

เครื่องบินรบจากเอมิเรตส์มีกำหนดเดินทางถึงฐานทัพ Decimomannu บนเกาะซาร์ดิเนียของอิตาลี เมื่อวันอาทิตย์ ฐานทัพแห่งนี้มีเครื่อง เอฟ-18 ของสเปนจอดรออยู่แล้ว 4 ลำ

โฆษกของกองทัพฝรั่งเศสแถลงว่า เครื่องของฝรั่งเศส 15 ลำ ร่วมบินตระเวนในปฏิบัติการณ์เป็นวันที่ 2 แต่ไม่ได้ยิงใส่ฐานทัพของลิเบีย เนื่องจากยังไม่มีการตอบโต้จากภาคพื้นดิน เมื่อวันอาทิตย์เช่นกัน ฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้นำในปฏิบัติการณ์ถล่มลิเบียวันแรก ส่งเรื่อบรรทุกเครื่องบินชาล์ส เดอ โกล เข้าร่วมปฏิบัติการณ์นี้ด้วย โดยจะใช้เวลาเดินทาง 48 ชั่วโมงเพื่อมาถึงชายฝั่งประเทศลิเบีย

ส่วนอิตาลีเปิดสนามบินในฐานทัพอากาศ 7 แห่ง เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการณ์ร่วมครั้งนี้

เอมิเรตส์ จอร์แดน โมร๊อกโก และกาต้าร์ เป็นชาติอาหรับที่ร่วมในการประชุมสุดยอดที่ปารีส เพื่อเริ่มปฏิบัติการณ์ถล่มลิเบียเมื่อวันเสาร์

เครื่องเอฟ-16 ของเดนมาร์ค 4 ลำๆได้เข้าร่วมปฏิบัติการณ์รอบ 2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ โดยเครื่องบินเอฟ -16 รวมเครื่องสำรอง 6 ลำ และเครื่องบินลำเลียงเดินทางถึงฐานทัพ Sigonella เมื่อวันเสาร์

แหล่งข่าวในกระทรวงป้องกันฝรั่งเศสกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ไม่มีการตั้งกองบัญชาการส่วนกลางขึ้น เพื่อบังคับบัญชากองกำลังผสมนานาชาติครั้งนี้ โดยทุกประเทศรับคำสั่งตรงจากศูนย์บัญชาการของตนเองในลักษณะปฏิบัติการณ์ร่วมกัน อาทิ ฝรั่งเศสสั่งการจากฐานทัพ Mont Verdun ใกล้เมืองลีออง ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมการป้องกันทางอากาศของประเทศ ส่วนอังกฤษรับคำสั่งตรงจากกองบัญชาการนอร์ธวู้ด ชานกรุงลอนดอน ส่วนของสหรัฐผู้บัญชาการอยู่ที่ Ramstein ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมัน

เบลเยี่ยมกล่าวว่าจะส่งเครื่องบินเอฟ-16 จำนวน 6 ลำมาร่วมปฏิบัติการณ์ที่อาจจะมีขึ้นอีกในวันจันทร์

สเปนประกาศเมื่อวันศุกร์อนุญาตให้กองกำลังนาโต้ใช้ฐานทัพ 2 แห่ง ที่ โรต้า และ ที่ Moron dela Frontera ทางตอนใต้ของประเทศ

ส่วนแคนาดาส่งเครื่อง ซีเอฟ-18 จำนวน 6 ลำ พร้อมลูกเรือ 150 คน พนักงานภาคพื้นดิน และการสนับสนุนอื่นๆ อีกจำนวนมาก

ในขณะเดียวกัน กัดดาฟียังแสดงการท้าทายเมื่อวันอาทิตย์ ว่าเมดิเตอเรเนี่ยนจะเป็นสนามรบในสงครามที่ยาวนาน - www.muslimthai.com

 

โลกอาหรับลุกฮือ ต้านยูเอ็น จี้เลิกถล่มลิเบีย
โลกอาหรับลุกฮือ ต้านยูเอ็น จี้เลิกถล่มลิเบีย

ฉะสหรัฐบอมบ์ พลเรือนตายอื้อ ถล่มศูนย์รบราบ มุ่งเด็ดหัวกัดดาฟี 86ไทยปลอดภัย


ไว้อาลัย - กลุ่มผู้สนับสนุนกัดดาฟี รวมตัวยืนไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของชาติพันธมิตร ที่กรุงตริโปลี ขณะที่ผู้นำลิเบีย ประกาศกร้าวพร้อมรบยืดเยื้อ ด้านที่ประชุมสันนิบาตอาหรับแถลงจี้ให้หยุดทิ้งบอมบ์ถล่มลิเบียทันที เพราะเป็นปฏิบัติการเกินเลยมติยูเอ็น ทั้งยังมีพลเรือนเสียชีวิตด้วย เมื่อ 21 มี.ค.
ทัพพันธมิตรระดมยิง"โทมาฮอว์ก"ระลอก 2 ถล่มเป้าหมายต่างๆ ในลิเบียกองบัญชาการพ.อ.กัดดาฟีในกรุงตริโปลีโดนระเบิดพังยับ เจ้าตัวโผล่โวยตกเป็นเป้าสังหารโหด ด่ากราดสหรัฐกับพวกคือจักรวรรดินิยมนาซีใหม่ "กาตาร์"เป็นอาหรับชาติแรกส่งบินรบร่วมบอมบ์กัดดาฟี "อียู"ลงดาบคว่ำบาตรทางศก.ซ้ำ ด้าน "อินเดีย-สันนิบาตอาหรับ" ประสานเสียงเรียกร้องให้หยุดโจมตีลิเบียทันทีเพราะมีผู้บริสุทธิ์ต้องตายไปด้วย "ปูติน"จวกมติยูเอ็นเท่ากับปลุกผีสงครามครูเสดขึ้นมาอีกครั้ง "บัวแก้ว"ระบุแรงงานไทยที่ยังเหลืออยู่ในลิเบียปลอดภัยดีและพร้อมพาอพยพ นักวิชาการดังชี้สงครามครั้งนี้ส่อเค้ายืดเยื้อ ไม่จบง่ายเหมือนสมัยสหรัฐบุกอิรัก คาดน้ำมันแพงขึ้นแน่ๆ

จากกรณีรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พร้อมชาติพันธมิตรในทวีปยุโรป อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี รวมถึงแคนาดา ฯลฯ เปิดฉากปฏิบัติการทางทหาร "โอเปอเรชั่น โอดิสซีย์ ดอว์น" เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ทำสงครามโจมตีทางอากาศยิงจรวดโทมาฮอว์กนับร้อยลูกและทิ้งบอมบ์ถล่มประเทศลิเบีย ชาติมุสลิมในแอฟริกาเหนือ เพื่อบังคับใช้คำสั่งเขตห้ามบินตามมติคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ซึ่งมติดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ป้องกันไม่ให้พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการลิเบีย ส่งเครื่องบินรบและใช้กำลังทหารสังหารประชาชนฝ่ายต่อต้านและกลุ่มกบฏ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนและรัสเซีย 2 มหาอำนาจในคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารโค่นล้มกัดดาฟี ขณะที่กัดดาฟีประกาศสู้ตาย พร้อมรบยืดเยื้อและติดอาวุธให้ประชาชน

คนไทยในลิเบียปลอดภัย

เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 21 มี.ค. ที่กระ ทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประ เทศ จัดแถลงข่าวพร้อมกับนายสุพจน์ บุญเจริญ ผอ.กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ถึงความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบในลิเบีย ว่า ได้ประสานให้ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงตริโปลี เมืองหลวงลิเบีย ติดต่อไปยังคนไทย 86 คน แบ่งเป็น 35 คนในกรุงตริโปลี, 15 คนในเมืองเบงกาซี ส่วนที่เหลือกระจัดกระจายอยู่ ในจำนวนดังกล่าวเป็นแรงงาน 40 คน ซึ่งก่อนหน้าการอพยพนั้นไม่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่ โดยหากต้องการเดินทางกลับไทยทางกระทรวงยังมีเจ้าหน้าที่อยู่ที่เมืองซาลูม ประเทศอียิปต์

"สำหรับแผนการอพยพอาจอพยพออกมาทางบกเข้าสู่ประเทศตูนิเซียและอียิปต์ แต่ในชั้นนี้ยังไม่มีผู้ใดแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับไทย และยังไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากเป้าหมายที่ถูกโจมตีเป็นเป้าหมายทางทหารเท่านั้น" นายธานีกล่าว

ต้องปฏิบัติตาม"มติยูเอ็น"

นายสุพจน์กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้ามีญาติของแรงงานไทยที่อยู่ในลิเบียติดต่อมายังศูนย์ติดต่อแรงงานไทยที่ญี่ปุ่น กระทรวงแรงงาน โทรศัพท์ 1694 ว่าต้องการให้แรงงานดังกล่าว 14 คน เดินทางกลับไทย จึงประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ติดต่อผ่านไปยังสถานทูตไทยเพื่อสอบถามความประสงค์ของแรงงานไทยใน ลิเบียแล้ว

เมื่อถามถึงท่าที่ของรัฐบาลไทยต่อมติดังกล่าว ของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ซึ่งใช้ความรุนแรงระงับความรุนแรงในลิเบียนั้น นายธานีกล่าวว่า ในฐานะสมาชิกยูเอ็นไทยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม แต่หวังว่าเหตุการณ์รุนแรงจะคลี่คลายโดยเร็ว และทุกฝ่ายจะให้ความดูแลพลเรือนโดยเฉพาะชาวต่างชาติตามหลักมนุษย ธรรม ส่วนการที่ทางการไทยจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการทางทหาร นายธานีระบุว่า การดำเนินการนั้นเป็นในส่วนของประเทศที่พร้อมเท่านั้น

นายธานีแถลงว่า มติคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นครั้งนี้ไม่ใช่ฉบับแรกเกี่ยวกับเรื่องลิเบีย โดยก่อนหน้านี้เคยมีมาแล้ว 1 ฉบับเกี่ยวกับเรื่องการอายัดทรัพย์สินของบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องของลิเบีย รวมทั้งมาตรการคว่ำบาตรการขายอาวุธ แม้จะไม่เกี่ยวกับไทยโดยตรง แต่ก็จำ เป็นต้องปฏิบัติตามในฐานะสมาชิกยูเอ็น

จับตาปฏิกิริยาโลกอาหรับ

นายสุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีสหรัฐนำชาติพันธมิตรเปิดฉากโจมตีทำสงครามกับลิเบีย ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สหรัฐอ้างว่าทำตามมติยูเอ็น ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา เช่น ทำให้โลกอาหรับมองว่าสามารถใช้อำนาจของยูเอ็นเข้ามาแทรกแซงได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าความชอบธรรมของรัฐบาลกัดดาฟีมีอยู่แค่ไหน ทั้งนี้ การที่ยูเอ็นออกมติเปิดช่องให้ชาติตะวันตกใช้อาวุธ ใช้กำลังทหารเข้าไปจัดการ อาจทำให้ปัญหายุ่งยากไปอีกแบบหนึ่ง จะไม่ใช่แค่การต่อสู้ระหว่างกลุ่มต่อต้านกับรัฐบาล แต่จะโยงไปถึงมหาอำนาจ หรือรัฐบาลภายนอกด้วย

นายสุรชาติวิเคราะห์ว่า ส่วนการที่จีนและรัสเซียออกมาต่อต้านปฏิบัติการนี้จะทำให้เกิดการแบ่งแยกในเวทีโลกอีก เพราะถ้าสหรัฐใช้อำนาจอย่างที่อ้างก็จะยิ่งไปเพิ่มอำนาจให้สหรัฐมีบทบาทในด้านอื่นๆ ไปเรื่อย สิ่งที่น่าติดตามคือโลกอาหรับจะยอมรับข้ออ้างของสหรัฐได้เพียงใด และผลสืบเนื่องต่อจากนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยน แปลงการปกครองในลิเบียได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็เท่ากับการแทรกแซงของยูเอ็นไม่ได้เกิดผล และอาจจะทำให้เกิดปัญหาอย่างอื่นตามมา ตนมองว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อ เพราะสหรัฐใช้กำลังขนาดใหญ่เข้าไปล้มรัฐบาลกัดกาฟีไม่ได้เหมือนที่ทำกับซัดดัม ฮุสเซน (อดีตผู้นำอิรัก) ทำได้เพียงควบคุมเขตต่างๆ หรือเขตห้ามบินบางส่วน

ชี้โค่น"กัดดาฟี"ได้ก็ไม่จบ

นายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ศาสตราจารย์สาขา การเมืองการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรม ศาสตร์ ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการแทรกแซงลิเบียอย่างแน่นอน แต่ข้อถกเถียงของสหรัฐ และชาติพันธมิตร คือ นี่เป็นการเข้าไปคุ้มครองผู้ที่ต่อต้านกัดดาฟีในลิเบีย แต่คำถามคือวิธีการนี้สุดท้ายแล้วจะส่งผลอย่างไรทั้งต่อลิเบียเอง ต่อโลกอาหรับ และความสัมพันธ์ระหว่างโลกมุสลิมกับประเทศตะวันตก หากเปรียบเทียบลิเบีย กับอียิปต์ บาห์เรน ประเทศเหล่านี้อยู่ในเครือข่าย อยู่ใต้อิทธิพลของประเทศตะวันตก เพราะสหรัฐเคยให้ความช่วยเหลือมาก่อน แต่ลิเบียเป็นประเทศที่อยู่นอกอำนาจควบคุมของฝรั่ง เมื่อเป็นเช่นนี้อิทธิพลที่จะมีต่อการเปลี่ยนแปลงภายในลิเบียจึงต่างกัน เมื่อมีการใช้กำลังทหารจึงน่าเป็นห่วง



1-รังกัดดาฟี - ชาวเมืองตริโปลี มุงดูอาคารที่เชื่อว่าเป็นทั้งที่พักและศูนย์บัญชา การของกัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ซึ่งถูกสหรัฐและพันธมิตรยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กถล่มจนพังยับ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.

2-ฮือไล่ - นายบัน คีมุน เลขาฯ ยูเอ็น ถูกกลุ่มสนับสนุนนายกัดดาฟี โห่ไล่พร้อมฮือเข้ามาจะทำร้าย ที่จัตุรัสทาฮ์รีร์ กรุงไคโร ระหว่างเยือนอียิปต์ เพื่อตอบโต้กรณียูเอ็นอนุมัติการโจมตีลิเบีย

3-โต้กลับ - ฝ่าย ต่อต้านรัฐบาลลิเบียที่เมืองเบงกาซีโต้กลับ โดยเคลื่อนกำลังหวังยึดเมืองอัจดาบิยาห์คืน หลังได้รับการสนับ สนุนทางอากาศจากชาติพันธมิตรตะวันตก แต่ยังยึดไม่สำเร็จ

"กรณีลิเบียอาจเหมือนกับอิรัก ที่แม้สงครามจะจบแล้ว แต่ก็ยังไม่เกิดเสถียรภาพในประเทศ นอกจากนี้ การที่ลิเบียมีทรัพยากรน้ำมันเต็มไปหมด อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้สหรัฐและประเทศตะวันตกทั้งหลายรู้สึกว่ายอมให้ลิเบียดำเนินการตามที่ต้องการไม่ได้ ส่วนจีนและรัสเซียที่ออกมาคัดค้านก็คงมีน้ำหนักอยู่บ้าง แต่คงทำอะไรไม่ได้ เพราะการโจมตีเกิดเริ่มขึ้นแล้ว ปัญหาไม่ใช่แค่การโจมตีจะจบลงเร็วหรือช้า แต่ผมมองว่าการใช้ความรุนแรงมีต้นทุนสูง ถึงแม้จะขับไล่กัดดาฟีออกไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะจบ เพราะผลของความรุนแรงจะยังมีต่อไปอีกยาวนาน" นายชัยวัฒน์กล่าว

แรงงานวอนรัฐช่วยเหลือ

สำหรับตัวอย่างผลกระทบที่เกิดขึ้นกับแรง งานไทยในลิเบีย นายทองแดง ชราแสง หนึ่งในแรงงานไทยที่ต้องอพยพหนีการสู้รบออกจากลิเบียกลับมาอยู่ที่บ้านใน ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ดูจากข่าวโทรทัศน์พบว่าที่ลิเบียเกิดความรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งตนเห็นแล้วนึกภาพเมื่อครั้งก่อนได้ เพราะตอนนั้นความรุนแรงเกือบทำให้เอาชีวิตไม่รอดกลับมาเมืองไทย เงินทั้งหมดถูกปล้นรวมถึงทรัพย์สินต่างๆ สถานการณ์ไม่แตกต่างกับบ้านป่าเมืองเถื่อน น่ากลัวมาก พอกลับมาได้สิ่งที่คิดได้คือไม่เอาอีกแล้ว ไม่อยากไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่อื่นถ้าจะตายยังไงขออยู่บ้านตัวเองดีกว่า

"สิ่งที่จะวอนขอคือต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ เพราะกลับมาจากต่างประเทศไม่มีงานทำเหมือนคนว่างงานตกงาน อยากให้เข้ามาดูแลเรื่องอาชีพ ส่งเสริมอาชีพหาอาชีพให้ นอกจากนี้ยังต้องการเรื่องของเงินทุนเพราะเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตอนกลับมาจากลิเบียหมดตัว เงินลิเบียที่มีมันก็ไร้ค่าไปแล้ว" นายทองแดงเผย

ทั้งนี้ เฉพาะใน จ.กาฬสินธุ์ มีแรงงานเดินทางไปขายแรงงานที่ลิเบียกว่า 250 คน ใน 18 อำเภอ

ตร.คุ้มกันสถานทูตตามปกติ

พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุสหรัฐและชาติพันธมิตรเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ต่อต้านรัฐบาลในประเทศลิเบียนั้น เบื้องต้นมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่น่าห่วง และไม่น่าจะมีผลกระทบกับประเทศไทย

ในทางการข่าวยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุภายในสถานทูตสหรัฐ หรือประเทศในเครือพันธมิตร ทำให้ขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความปลอดภัยตามปกติ เนื่องจากทางสถานทูตยังไม่ได้ร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมแต่อย่างใด"

อาหรับค้านใช้กำลังทหาร

ดร.ศราวุฒิ อารีย์ รองผู้อำนวยการศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบในลิเบียว่า ชาติตะวันตกมีมติให้ประกาศเขตห้ามบินทั่วน่านฟ้าลิเบีย โดยยูเอ็นกำหนดให้สมาชิกยูเอ็นใช้ทุกวิธีการยับยั้งปัญหาสิทธิมนุษยธรรมในลิเบีย เนื่องจากมีสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านกัดดาฟี เพราะกัดดาฟีใช้กำลังปราบปรามประชาชนรุนแรง ตนเห็นว่าข้อกำหนดเขตห้ามบินมีความเหมาะสม แต่มองว่าคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นไม่มีความเป็น กลาง เพราะไม่ได้อยู่บนพื้นฐานแนวคิดประชา ธิปไตย โดยสมาชิกถาวรที่มีสิทธิวีโต้มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้น ทำให้เกิดปัญหาตามมาว่าชาวอาหรับจะเข้าใจไหม

"ในตอนแรก ชาวอาหรับเห็นดีกับมาตรการดังกล่าว แต่หลังจากชาติตะวันตกโจมตีกองกำลังลิเบียได้ 1 วัน มีคนตาย 64 ราย และบาดเจ็บมากมาย ชาวอาหรับจึงไม่เห็นด้วยกับการแทรกแซงทางทหาร" ดร.ศราวุฒิ ระบุ

ฝรั่งเศสอยากโชว์อิทธิพล

ดร.ศราวุฒิกล่าวด้วยว่า ชาติตะวันตกที่โจมตีลิเบียในปัจจุบัน ก่อนหน้านี้มีการติดต่อกับลิเบียทั้งค้าขาย มีความร่วมมือทางทหารส่งอาวุธให้ เจรจาสัมปทานน้ำมัน โดยเฉพาะสหรัฐที่มีความร่วมมือปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย แต่เมื่อเกิดความวุ่นวายในลิเบีย ชาติตะวันตกเหล่านี้ต่างหันกระบอกปืนไปที่กัดดาฟี ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวทำไปเพื่อมนุษย ธรรม หรือผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจ

"จีนและรัสเซีย สมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น รวมทั้งอินเดียกับบราซิล ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหาร เพราะกลัวว่าประเทศตนอาจจะโดนมาตรการอย่างนี้ในอนาคต อีกทั้งจีนและรัสเซียมีผลประโยชน์ในลิเบียจากการทำสัมปทานน้ำมันค่อนข้างมาก ส่วนอินเดียมีนโยบายค่อนข้างเป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกับมาตรการแทรกแซงทางทหารเพราะอาจจะนำไปสู่สงครามเต็มรูปแบบ เพราะมติเขตห้ามบินมีนัยหนึ่งคือ การประกาศสงคราม" รอง ผอ.ศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาฯ ระบุ

หนทางยุติความตึงเครียด ดร.ศราวุฒิชี้ว่า ต้อง ให้กลุ่มประเทศมุสลิม หรือองค์กรในภูมิภาคจัดการกันเอง เช่น องค์กรการประชุมอิสลามโลก (โอไอซี) หรือองค์การสันนิบาตอาหรับ นำมาตรการเขตห้ามบินไปใช้เสียเอง เพราะมีความเข้าใจวัฒนธรรม จิตวิทยามวลชน และรู้ว่าเส้นไหนข้ามได้หรือไม่ได้ ไม่ควรข้ามขั้นตอนไปที่ยูเอ็นเอสซี และที่ผ่านมาสันนิบาตอาหรับมีท่าทีสนับสนุนเขตห้ามบินอยู่แล้ว

"ส่วนเหตุที่ฝรั่งเศสเป็นชาติแรกและเป็นแกนนำนำฝูงบินถล่มลิเบียทางอากาศ เพราะก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสเป็นชาติแรกที่รับรองสภาปฏิวัติแห่งชาติ ที่ตั้งขึ้นในเมืองเบงกาซีโดยกลุ่มต่อต้านกัดดาฟี ซึ่งจะเป็นสิ่งพิสูจน์ได้ว่าหากกัดดาฟีล้มล้างกลุ่มต่อต้านในเมืองนี้และเข้าครอบครองได้ทั้งประเทศ ฝรั่งเศสก็จะเสียหน้าเอง อีกทั้งฝรั่งเศสเคยเป็นเจ้าอาณานิคมในโลกอาหรับแอฟริกาเหนือ จึงพยายามแสดงให้เห็นอิทธิพลในภูมิภาคนี้" ดร.ศราวุฒิ กล่าว

วิเคราะห์ 3 จุดจบ"กัดดาฟี"

รองผอ.ศูนย์มุสลิมศึกษา จุฬาฯ ยังวิเคราะห์จุดจบของลิเบียว่าจะมี 3 รูปแบบ หรือ 3 โมเดล นั่นคือ โมเดลที่ 1 ซ้ำรอยเมื่อครั้งสหรัฐและพันธมิตรล้มล้างระบอบการปกครองกลุ่มตาลิบันในอัฟกานิสถาน แต่มีข้อสังเกตว่ากองทัพสหรัฐติดหล่มในอัฟกานิสถานอยู่นานทำให้สูญเสียทรัพยากรมากมาย จึงคิดว่าโมเดลนี้ไม่น่าเกิดขึ้น

โมเดลที่ 2 เหมือนกับอิรักหลังสงครามอ่าวเปอร์เซีย ที่สหรัฐโดยมติของยูเอ็นนำกำลังโจมตีอิรักเอาคูเวตกลับคืนมาได้ โดยมีการกำหนดเขตห้ามบินทางตอนเหนือและใต้ของอิรัก สหรัฐจึงใช้ยูเอ็นในการออกมาตรการต่างๆ จากเบาไปหาหนัก ในที่สุดซัดดัม ฮุสเซน ประ ธานาธิบดีอิรักต้องลงจากตำแหน่ง ส่วนในลิเบีย ตะวันตกก็อาจจะกำหนดเป็นเขตห้ามบินและใช้มาตรการต่างๆ บั่นทอนกำลังของกัดดาฟี และโมเดลที่ 3 กัดดาฟีเลือกสู้จนเลือดหยดสุดท้าย ทำสงครามกองโจรกับมหาอำนาจและจะเป็นสงครามยืดเยื้อ

คาดน้ำมันแพงขึ้นช่วงสั้นๆ

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ผลกระทบเรื่องราคาน้ำมันจากสงครามลิเบีย ว่าน่าจะกระทบต่อราคาน้ำมันตลาดโลกช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ปรับขึ้นอีกอย่างน้อย 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังจากราคาปิดตลาดเมื่อวันที่ 18 มี.ค. น้ำมันตลาดเอเชียปรับสูงขึ้นแล้ว 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มี.ค. การซื้อขายในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ปรับขึ้นไปแล้ว 2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

อย่างไรก็ตาม เหตุสู้รบในลิเบียคงไม่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเหมือนช่วงปี 2551 ที่น้ำมันดิบสูงถึง 140 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และคาดว่าเหตุการณ์ในลิเบียคงไม่เลวร้ายเท่ากับช่วงสงครามอิรัก เพราะลิเบียมีกำลังการผลิตน้ำมันไม่มากเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล/วัน เหตุรุนแรงในลิเบียก่อนหน้านี้ทำให้การส่งออกน้ำมันของลิเบียลดลง 4-5 แสนบาร์เรล/วัน ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันมาก เพราะซาอุดีอาระเบีย ผลิตน้ำมันขึ้นมาชดเชยในส่วนของลิเบียที่หายไป

นายอนุสรณ์กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลิเบียคงทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นช่วงสั้นๆ คาดว่าจะทำให้ราคาน้ำมันตลาดดิบขึ้นไปอยู่ที่ 120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากขณะนี้อยู่ในระดับ 110 เหรียญสหรัฐ หากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับขึ้นเท่ากับระดับที่ประเมินไว้คงจะทำให้ราคาขายปลีกในไทยปรับขึ้น โดยมีโอกาสที่จะได้เห็นเบนซิน 95 อยู่ที่ระดับ 2 ลิตร 100 บาท จากขณะนี้เบนซิน 95 มีราคาที่ 47 บาท/ลิตร ส่วนแก๊สโซฮอล์คิดว่าคงปรับขึ้นอย่างน้อยอีกอย่างน้อย 1-2 บาท/ลิตร คงจะไม่ถึง 40 บาท/ลิตร จากขณะนี้อยู่ในระดับ 37.44 บาท/ลิตร

ถล่ม"โทมาฮอว์ก"ระลอก 2

ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพพันธมิตรกับลิเบีย บีบีซีรายงานว่าเรือดำน้ำอังกฤษที่ประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าร่วมโจมตีลิเบียรอบสองเมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค. โดยระดมยิงขีปนาวุธโทมาฮอว์กทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของลิเบียรอบกรุงตริโปลีและเมืองมิสราตา ซึ่งกระทรวงกลาโหมอังกฤษยืนยันรายงานการโจมตีครั้งนี้ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากลิเบียประกาศหยุดยิงครั้งที่สอง ภายหลังถูกกองกำลังทหารพันธมิตรตะวันตกร่วมกันโจมตีกองทหารลิเบียของกัดดาฟี

ปฏิบัติการถล่มระบบป้องกันภัยทางอากาศรอบสองนี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุด้วยว่า เครื่องบินรบทอร์นาโดของฝ่ายพันธมิตรต้องยกเลิกปฏิบัติการ เพราะตรวจพบพลเรือนในพื้นที่เป้าหมาย ทำให้ต้องใช้แต่จรวดโทมาฮอว์ก เพราะควบคุมทิศทางได้ นายวิลเลียม เฮก เลขาฯ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษกล่าวถึงการยกเลิกปฏิบัติการงบินทอร์นาโด ว่ากองทัพพันธมิตรเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตของพลเรือน ไม่เหมือนนายกัดดาฟีที่ประกาศสงครามกับประชาชนของตัวเอง

บอมบ์กองบัญชาการกัดดาฟี

บีบีซีกับรอยเตอร์รายงานว่า การถล่มด้วยจรวดโทมาฮอว์กเมื่อคืนที่ผ่านมา นอกจากมุ่งเป้าถล่มระบบต่อต้านอากาศยานของกองทัพลิเบียแล้ว ยังพบว่ามีอาคารหลายแห่งในตริโปลี เมืองหลวงลิเบียถูกจรวดถล่มราบ ซึ่งกัดดาฟีออกมาประกาศผ่านสื่อของรัฐว่าเป็นการมุ่งสังหารตนเอง

ในกลุ่มอาคารที่ถูกจรวดพันธมิตรถล่มล่าสุด หนึ่งในนั้นเป็นอาคารคอมเพล็กซ์สูง 3-4 ชั้น ซึ่งกัดดาฟีเคยใช้อยู่อาศัย ใช้ทำงาน และใช้เป็นศูนย์บัญชาการในช่วงก่อนเกิดความวุ่นวายทางการเมืองก็ถูกถล่มด้วย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ด้านกัดดาฟีหลบไปอยู่ในสถานที่ปิดลับสักระยะแล้ว

นายมุสซา อิบราฮิม โฆษกรัฐบาลลิเบียประณามว่าเป็นการทิ้งระเบิดอย่างป่าเถื่อน มุ่งทำลายชีวิตประชาชน ไม่สนใจความเสียหายของพลเมืองลิเบีย อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐออกมาปฏิเสธข่าวการถล่มอาคารที่พักดังกล่าวของกัดดาฟี โดยบิล กอร์ตนีย์ ผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐยืนยันว่า กัดดาฟีไม่ใช่เป้าหมายของปฏิบัติการสหรัฐ เพราะสหรัฐต้องการบังคับใช้ข้อกำหนดเขตห้ามบินเท่านั้น

นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เสริมว่าการสังหารนายกัดดาฟีไม่ใช่การแก้ปัญหาในภูมิภาคที่ถูกต้อง

ปล่อย"นาโต้"จัดการต่อ

นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ แถลงว่า สหรัฐอาจโอนการควบคุมปฏิบัติการทางทหารไปให้กองกำลังขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติคเหนือ หรือ "นาโต้" ในเร็วๆ นี้ ส่วนสหรัฐจะช่วยเหลือด้านกำลังสนับสนุนอย่างเดียว เนื่องจากนโยบายทางการเมืองของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ไม่เน้นก่อสงคราม และยืนยันคำเดิมว่าสหรัฐต้องการบังคับใช้มติห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบีย เพื่อรักษาชีวิตชาวเมืองเบงกาซีผู้บริสุทธิ์เท่านั้น

นอกจากนี้ เกตส์ยังแสดงความเห็นว่า ปฏิบัติการของนาโต้ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนครั้งนี้จะเพิ่มความรุนแรงขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการพุ่งเป้าโจมตีไปที่ตัวของกัดดาฟีโดยตรงก็เป็นได้

"ผู้ดี"หวังเด็ดหัวกัดดาฟี

เว็บไซต์ข่าวการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า นายเลียม ฟ็อกซ์ รมว.กลาโหมอังกฤษ เผยว่าอังกฤษมีแผนโจมตีเพื่อเด็ดชีพกัดดาฟี และสนับสนุนการโจมตีด้วยระเบิดหนักรุ่นบังเกอร์ บัสเตอร์ ที่มีอำนาจเจาะทะลุทะลวงลงไปถึงใต้ดินเพื่อใช้ถล่มที่หลบภัยใต้ดินโดยเฉพาะ ซึ่งคาดว่านายกัดดาฟีหลบซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในตริโปลี

"ในแง่มุมของการรักษาชีวิตชาวลิเบียส่วนใหญ่ การล้มล้างระบอบกัดดาฟีอย่างเด็ดขาดเป็นสิ่งจำเป็น และปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงย่อมหมายถึง เสรีภาพของประชาชนในการก่อตั้งระบอบการปกครองและบริหารประเทศของตนเอง ดังนั้นอังกฤษจึงต้องการกำจัดระบอบกัดดาฟี" นายฟ็อกซ์กล่าว

ด้านรัฐมนตรี 3 คนในรัฐบาลอังกฤษ ได้แก่ เลียม ฟ็อกซ์ รมว.กลาโหม, วิลเลียม เฮก รมว. ต่างประเทศ และจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลัง ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่อาจส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในลิเบีย แต่ระบุว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา

"อาหรับ"ประณามถล่มลิเบีย

เว็บไซต์ข่าววอชิงตัน โพสต์ รายงานความเคลื่อนไหวในกลุ่มประเทศ "สันนิบาตอาหรับ" ซึ่งออกมาประณามการโจมตีของกลุ่มประเทศพันธมิตรตะวันตกในครั้งนี้ว่า เป็นปฏิบัติการรุนแรงเกินไป และเริ่มส่อเค้าว่ามีจุดประสงค์ แอบแฝงนอกเหนือจากการบังคับใช้ข้อกำหนดห้ามบินตามที่เคยตกลงกัน โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มอาหรับเคยสนับสนุนให้มีการแทรกแซงลิเบีย เพื่อบังคับใช้เขตห้ามบินดังกล่าวมาก่อน

นายอามีร์ มุสซา เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ ระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในลิเบียแตกต่างจากจุดประ สงค์หลักในการประกาศเขตห้ามบิน ความต้อง การที่แท้จริงคือความปลอดภัยในชีวิตพลเรือน และขอให้ยกเลิกการโจมตีประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องทันที

รบเดือดนอก"เบงกาซี"

ซีเอ็นเอ็นรายงานสถานการณ์รอบเมืองเบงกาซี ฐานที่มั่นฝ่ายต่อต้านกัดดาฟี ว่ามีเสียงระเบิดและยิงปะทะดุเดือดดังขึ้นเป็นระยะๆ ตามท้องถนน เพราะกองกำลังของกัดดาฟียังติดอยู่ตามแนวชานเมือง หลังจากถูกเครื่องบินฝรั่งเศสทิ้งระเบิดอย่างหนัก ชาวเมืองเกรงว่ากองกำลังกัดดาฟีซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารรับจ้างแอฟริกา จะลอบเข้ามาในเมืองแล้วอาศัยพลเรือนเป็นโล่กำบังการโจมตีทางอากาศ ส่วนด้านนอกเมืองพบซากรถถังและยานหุ้มเกราะไหม้เกรียมกระจัดกระจาย มีศพทหารลิเบียและทหารรับจ้างตายเกลื่อน

เจ้าหน้าที่ลิเบียอ้างว่ามีผู้เสียชีวิต 64 ราย จากการทิ้งระเบิดของชาติตะวันตกตั้งแต่วันเสาร์จนถึงวันอาทิตย์ และเป็นพลเรือนที่มีทั้งผู้หญิงและเด็ก 48 ราย

กัดดาฟีด่าสหรัฐ"นาซีใหม่"

ซีเอ็นเอ็นรายงานความเคลื่อนไหวของกัดดาฟี ว่าผู้นำลิเบียออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ในวันที่ 21 มี.ค. ประณามชาติพันธมิตรตะวันตกว่าทำตัวไม่ต่างจากเผด็จการขยายจักรวรรดิ โดยตราหน้าสหรัฐและพันธมิตรว่าเป็นพวก "นิว นาซี" (นาซีใหม่) พร้อมทั่งสัญญาต่อชาวลิเบียว่าสงครามจะยืดเยื้อแน่นอน

"พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ใช่อารย ประเทศ แต่เป็นผู้ก่อการร้ายที่จู่โจมประเทศที่ไม่ได้ไปรุกรานประเทศอื่นใด" กัดดาฟีแถลง

บินรบ"กาตาร์"ร่วมถล่มลิเบีย

บีบีซีรายงานว่า กาตาร์เป็นชาติแรกในกลุ่มประเทศอาหรับ ที่ส่งกำลังทางทหารเข้าร่วมในปฏิบัติการโอเปอเรชั่น โอดิสซีย์ ดอว์น ในครั้งนี้ โดยส่งเครื่องบินรบทั้งหมด 4 ลำ ขึ้นบินสนับสนุนกองทัพอากาศจากชาติพันธมิตร ตะวันตกอื่นๆ

"อียู"คว่ำบาตรศก.ลิเบีย

เวลา 19.08 น. วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานข่าวด่วนจากที่ประชุมสหภาพยุโรป (อียู) ในกรุง บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า แม้ชาติในกลุ่มอียูจะมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องการใช้กำลังทหารโจมตีลิเบีย แต่ที่ประชุมอียูได้มีมติเห็นชอบออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจใหม่ล่าสุดต่อรัฐบาลลิเบีย ภายใต้การนำของ พ.อ.กัดดาฟีแล้ว

"อินเดีย"ให้หยุดรบทันที

รายงานเอเอฟพีแจ้งอีกว่า ขณะนี้ประชาคมโลกประเทศต่างๆ เริ่มแสดงความเห็นที่แตกต่างกันต่อปฏิบัติการของชาติพันธมิตรในลิเบีย โดยก่อนหน้านี้เมื่อครั้งมีการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น จีนกับรัสเซียไม่เห็นด้วย ล่าสุด รัฐบาลอินเดีย มหาอำนาจเอเชียใต้ เป็นอีกประเทศที่แถลงว่าต้องการให้หยุดการโจมตีทางอากาศโดยทันที เพราะหวั่นเกรงความปลอดภัยของพลเมืองลิเบีย

นายเอส.เอ็ม. กฤษณะ รมว.ต่างประเทศอินเดีย กล่าวว่า อินเดียรู้สึกเสียใจที่มีการทิ้งระเบิดเข้าไปในเขตที่อยู่อาศัยของพลเรือน และเรียกร้องให้ประชาคมโลกกดดันกลุ่มพันธมิตรและกองกำลังนาโต้ พร้อมให้เหตุผลว่าห้วงเวลาแห่งการใช้กำลังทหารนั้นเพียงพอแล้ว

"ปูติน"จวก-ก่อศึกครูเสด

สื่อมวลชนในตุรกี รวมทั้งสื่อมุสลิมในยุโรป พร้อมใจรายงานข่าวแสดงความเป็นห่วงสถาน การณ์ในลิเบียว่าอาจเกิดภาวะ "อิรัก 2" ขึ้นในลิเบีย โดยหนังสือพิมพ์อิสลามิสต์ เดลี่ ชี้ว่า ลิเบียกำลังจะคล้ายอิรัก เพราะเมื่อสงครามเกิดขึ้นผู้เดือดร้อนแท้จริงคือประชาชน

สำหรับรัสเซีย ประเทศที่ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ต้น นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ออกโรงวิจารณ์ปฏิบัติการของสหรัฐและพันธมิตรว่า มติคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นที่ให้ใช้กำลังทหารกับลิเบียนั้นไม่ต่างอะไรกับการเปิดช่องให้เกิดสงครามครูเสด หรือสงครามศาสนาระหว่างชาวคริสต์จากยุโรป และชาวมุสลิม ในยุคกลางไม่มีผิด
ที่มา นสพ.ข่าวสด

 

พฤติกรรมสัตว์ สัญญาณเตือนภัยพิบัติที่ไม่ควรมองข้าม
มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 9:10:56



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก blogspot.com, cellar.org, uncoverage.net


ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แม้ว่ามนุษย์จะสามารถสร้างสรรค์เทคโนโลยีขึ้นมาใช้อำนวยความสะดวกและป้องกันตัวเองจากภัยรอบตัวมาแล้วมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าเทคโนโลยีใด ๆ ก็ไม่อาจจะรับมือได้เลย นั่นคือ ภัยพิบัติจากธรรมชาติ เพราะทุกครั้งที่ภัยพิบัติต่าง ๆ ได้เกิดขึ้น มันมักจะมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จนทำให้หลายหมื่นหลายแสนชีวิต ต้องสังเวยให้กับภัยธรรมชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากเหตุการณ์ภัยพิบัติร้ายแรงที่เคยเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

แต่ถึงแม้ว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนมนุษย์ไม่ทันได้เตรียมตัวแทบทุกครั้ง ก็ไม่ได้หมายความว่าธรรมชาติจะไม่มีการส่งสัญญาณใด ๆ ให้รับรู้ก่อนเลย เพราะหากสังเกตให้ลึก ๆ แล้ว จะพบว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัติหรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศบนโลก ธรรมชาติได้ส่งสัญญาณเตือนให้มนุษย์เตรียมรับมือแล้วแทบทุกครั้ง เพียงแต่มันมักจะมาในรูปแบบของสัญญาณปริศนาที่ยากต่อการตีความ และมนุษย์ก็มักจะละเลยมันไปในที่สุดเท่านั้นเอง

และสัญญาณภัยธรรมชาติที่ว่านี้ก็คือ พฤติกรรมสัตว์หลายชนิด ที่แสดงออกอย่างแปลกประหลาด ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติตามมาในทุก ๆ ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการอพยพของนก การเห่าหอนของสุนัข การร้องของแมวอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่การตายของสัตว์ต่าง ๆ ที่มนุษย์มักจะคิดว่ามันคือการตายปริศนา แต่แท้จริงแล้วมันมีสาเหตุที่มนุษย์หาคำตอบไม่ได้ และมันก็เชื่อมโยงกับความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติอย่างแยกไม่ออก เพราะสัตว์เหล่านี้ ล้วนมีประสาทสัมผัสที่ไวและละเอียดอ่อนมากกว่ามนุษย์หลายเท่านัก พวกมันสามารถรับรู้ถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ได้ อย่างที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ และยิ่งไปกว่านั้น สัตว์หลายชนิดยังอ่อนไหวต่อความเปลี่ยนแปลงในช่วงก่อนเกิดภัยพิบัติ ซึ่งทำให้มันถึงกับตายหมู่มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน



หากจะมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในอดีตหลายครั้ง จะพบว่า สัตว์หลายชนิดมักจะมีพฤติกรรมแปลก ๆ และมีการตายหมู่ของสัตว์เกิดขึ้นแทบทุกครั้ง เช่น

เมื่อปี พ.ศ.2519 หมีแพนด้าในสวนสัตว์เมืองตังฉาน แสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ให้ผู้คนฉงนงงงวย เมื่อมันเอามือกุมหัวแล้วส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมง และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 240,000 คน

ส่วนเมื่อปี พ.ศ.2538 ผู้คนในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ต้องเอามืออุดหูไปตาม ๆ กัน เมื่อสุนัขต่างส่งเสียงเห่าหอนดังไปทั่วเมืองตลอดทั้งวันทั้งคืน ต่อมาเพียง 1 วันเท่านั้น ก็เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.2 ริกเตอร์ขึ้น คร่าชีวิตชาวเมืองโกเบไปกว่า 6,400 คน

และเมื่อปี พ.ศ.2542 ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้ขึ้นอีก เมื่อสุนัขในเมืองอิซมิท ประเทศตุรกี ต่างพากันเห่าหอนทั้งวันทั้งคืน ขณะที่แมว นก และสัตว์ต่าง ๆ ในเมืองก็มีพฤติกรรมหวาดระแวง รวมทั้งหนูก็ขึ้นมาเพ่นพ่านวิ่งไปวิ่งมาอยู่บนพื้นดิน เป็นเวลากว่า 5 วัน และในที่สุดก็เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ริกเตอร์ขึ้น คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 45,000 คนในขณะนั้น

หรือแม้แต่สึนามิที่เคยเกิดขึ้นในบ้านเรา เมื่อปี พ.ศ.2547 ก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดคลื่นยักษ์พัดถล่มภาคใต้นั้น ชาวประมงหลายคนพบว่า มีปลิงทะเลซึ่งเป็นสัตว์น้ำลึก และปลาทะเลหลายชนิด ว่ายเข้ามาอยู่บริเวณชายฝั่ง จนทำให้ชาวประมงพากันยิ้มร่า ดีใจที่จับปลาได้จำนวนมากขึ้น แต่แล้วในเดือนต่อมา ก็เกิดภัยพิบัติสึนามิขึ้น คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว



นกตายเกลื่อนถนนในหลุยเซียนา เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
จากพฤติกรรมแปลกประหลาดของสัตว์ที่เกิดขึ้นก่อนเกิดภัยพิบัติทุกครั้ง ทำให้มีนักวิทยาศาสตร์หลายท่านออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า สัตว์ต่าง ๆ รับรู้สัญญาณภัยพิบัติที่มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้ อย่างเช่น แรงสั่นสะเทือน เสียงคลื่นต่าง ๆ สัตว์หลายชนิดจะสามารถจับสัญญาณความถี่ต่ำที่มนุษย์ไม่ได้ยินได้ และพวกมันก็สามารถรับรู้ได้ก่อนภัยพิบัติจะมาถึงหลายวันเลยทีเดียว พวกมันจึงแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ออกมา เพื่อบอกให้รู้ว่าภัยพิบัติกำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า ดังนั้น พฤติกรรมแปลก ๆ ของสัตว์จึงเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์รับรู้ได้ว่า ต้องมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับโลกอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงก็ตาม

ทั้งนี้ หากจะนำพฤติกรรมสัตว์มาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นในปีนี้หลายเหตุการณ์ จะพบว่า ความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างได้เกิดขึ้นจริงหลังจากที่มีสัญญาณปริศนาจากสัตว์ต่าง ๆ เริ่มจากในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทั่วโลกต่างตกตะลึงกับปรากฎการณ์สัตว์ตายปริศนา ที่ไม่อาจหาสาเหตุได้ โดยเฉพาะในแถบยุโรป นกหลายหมื่นตัวได้ตกลงมาตาย และฝูงปลา รวมถึงสัตว์น้ำต่าง ๆ ก็ลอยมาตายปริศนา สร้างความฮือฮามากในขณะนั้น แต่แล้วหลังจากนั้นไม่ถึงเดือน หลายพื้นที่บนโลกก็ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ พายุหิมะ รุนแรงกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา จนคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ส่วนในออสเตรเลีย ในช่วงต้นปีก็เคยมีเหตุการณ์ปลาน้อยใหญ่นับพันตายบริเวณชายฝั่ง ก่อนจะมีพายุไซโคลนพัดถล่มออสเตรเลีย และต่อมาในนิวซีแลนด์ ก็มีฝูงปลาและวาฬนับร้อยขึ้นมาตายเกยตื้น ก่อนจะแผ่นดินไหวในไครซท์เชิร์ทเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา



ส่วนภัยพิบัติครั้งร้ายแรงที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาด ๆ ในประเทศญี่ปุ่นนั้น หากใครลองติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสัตว์ตายก่อนหน้านั้น จะพบว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดแผ่นดินไหวเพียง 2 วัน ได้มีปลานับล้านตายเกลื่อนบริเวณท่าเรือเรดอนโด ในแคลิฟอร์เนีย ชายฝั่งที่อยู่ด้านตรงกันข้ามกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลังจากมีการตายของปลาเหล่านี้ ก็ได้มีการออกมาเปิดเผยเมื่อวันที่ 10 มีนาคมว่า ปลานับล้านตายจากการขาดออกซิเจน เนื่องจากมันหนีกระแสน้ำที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เกิดสึนามิพัดเข้าชายฝั่งญี่ปุ่นในวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา

จากพฤติกรรมแปลกประหลาดของสัตว์ที่เกิดขึ้น ก่อนเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ตามมาทุกครั้ง ก็คงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า พฤติกรรมของสัตว์นั้นเชื่อมโยงกับความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง และมันเป็นสัญญาณภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเทคโนโลยีใด ๆ ในขณะนี้ ดังนั้น คงถึงเวลาแล้วที่มนุษย์บนโลกควรให้ความสำคัญกับสัญญาณภัยพิบัติจากสัตว์หลายชนิดกันมากขึ้น เพื่อที่มนุษย์จะได้รู้ตัวและเตรียมรับมือกันได้ทันก่อนที่ภัยพิบัติจะมาถึง

อย่างไรก็ดี จากความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์และภัยพิบัติข้างต้น ได้ทำให้เกิดการตั้งข้อสันนิษฐานและเตรียมรับมือภัยพิบัติกันอีกครั้งในขณะนี้ เมื่อล่าสุด ได้มีรายงานว่าหลังจากที่สึนามิพัดถล่มชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่ชายฝั่งแคลิฟอร์เนียซึ่งอยู่ตรงกันข้าม ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อไส้เดือนจำนวนมากต่างโผล่ขึ้นมาบนดินในวอชิงตันสเตทช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งนั่นอาจเป็นผลจากแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หรืออาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยพิบัติร้ายแรงครั้งใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงสักอย่างกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าก็เป็นได้ งานนี้คนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวก็ต้องระมัดระวังกันมากขึ้นและคอยติดตามกันต่อไปแล้วล่ะ

 

“เมดเวเดฟ-ปูติน” ขัดคอกันเองเรื่อง “ลิเบีย” ขณะรมว.กลาโหม US เยือนรัสเซีย
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 มีนาคม 2554 13:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

วานนี้ (21) วลาดิเมียร์ ปูติน ประณามการโจมตีลิเบียของกองทัพพันธมิตรชาติตะวันตก

เอเอฟพี - รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ โรเบิร์ต เกตส์ หวังจะสานสัมพันธ์ทางทหารกับกรุงมอสโก ระหว่างการเข้าพบรัฐมนตรีกลาโหม และประธานาธิบดีรัสเซีย วันนี้ (22) ทว่าวัตถุประสงค์ดังกล่าวดูจะเป็นรองประเด็นร้อน กรณีการถล่มลิเบียของกองทัพพันธมิตรชาติตะวันตก เมื่อ นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน ออกโรงประณามการความชอบธรรมในการโจมตีดังกล่าว

สงครามลิเบียได้ทำให้โลกเห็นความขัดแย้งทางความคิดระหว่าง ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ และ นายกรัฐมนตรีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย โดยทั้งสองได้ตอบโต้ความคิดเห็นผ่านสื่อท้องถิ่น วานนี้ (21) กรณีความชอบธรรมของกองกำลังนานาชาติ ต่อปฏิบัติการทางทหารล้มล้างระบอบ มูอัมมาร์ กัดดาฟี

แม้โรเบิร์ต เกตส์ จะเอ่ยปากชื่มชมรัสเซียที่งดออกเสียง ระหว่างการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อปูทางสู่การกำหนดเขตห้ามบินในลิเบีย แต่วลาดิเมียร์ ปูติน กลับประณามมติดังกล่าวของยูเอ็นว่าเป็นเสมือน “การเรียกรวมพลในยุคกลาง เพื่อทำสงครามครูเสด”

ประธานาธิบดีเมดเวเดฟ ซึ่งมีนัดหมายหารือกับ โรเบิร์ต เกตส์ วันนี้ ออกมากล่าวบริภาษนายกรัฐมนตรีปูตินทันที ถึงความไม่เหมาะสมในการแสดงความเห็นดังกล่าว ผู้นำรัสเซียยังออกโรงปกป้องมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องการปกป้องชีวิตพลเรือนจากการกระทำของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี

โรเบิร์ต เกตส์ ใช้เวลาช่วงแรกระหว่างเยือนรัสเซีย 2 วัน อยู่ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้สรรเสริญความสัมพันธ์อันก้าวหน้าระหว่าง รัสเซีย-สหรัฐฯ และยังกล่าวอ้างถึงความช่วยเหลือของกรุงมอสโกในอดีต ครั้งเคยอนุญาตให้กองกำลังนาโตเคลื่อนพล และขนส่งเสบียงผ่านดินแดน เข้าไปยังอัฟกานิสถาน

เจ้ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังมีกำหนดหารือร่วมกับ อนาโตลี เซิร์ดยูคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ณ กรุงมอสโก ก่อนจะเข้าพบ ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ อย่างไรก็ตาม หมายกำหนดการของโรเบิร์ต เกตส์ ไม่มีส่วนใดระบุถึงการพบปะกับ วลาดิเมียร์ ปูติน เลย

วานนี้ ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์แก่เจ้าหน้าที่ทหารเรือรัสเซีย ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เกตส์ พยายามโน้มน้าวให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างสหรัฐฯ กับกองทัพรัสเซีย แต่ก็ยอมรับถึงความขัดแย้ง กรณีแผนการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธบนแผ่นดินยุโรป ของสหรัฐฯ

เขาได้ยังเสนอข้อมูลใหม่ถึงวิธีที่ทั้งสองชาติอาจร่วมมือกันป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งรวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลการปล่อยขีปนาวุธ การตั้งศูนย์ประสานงาน และ “การยินยอมให้เข้าถึงข้อมูล เกี่ยวกับแผนป้องกัน และการทดสอบขีปนาวุธมากยิ่งขึ้น”

หมายกำหนดการเยือนรัสซียของโรเบิร์ต เกตส์ ต้องล่าช้าออกไปหนึ่งวัน เนื่องจากเขาต้องคอยติดตามสถานการณ์การยิงจรวด และทิ้งระเบิดโจมตีกองทัพกัดดาฟี ทั้งนี้เกตส์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวก่อนถึงรัสเซีย โดยเขาได้ชื่นชมกรุงมอสโกที่สนับสนุนจุดยืนทางการทูตของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน และเกาหลีเหนือ รวมทั้งการตัดสินใจของรัสเซียที่ไม่ขัดขวางการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กรณีลิเบีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว



วันนี้ (21) ดมิทรี เมดเวเดฟ ประธานาธิบดีรัสเซีย ตำหนิการแสดงความเห็นของปูติน ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
Around the World - Manager Online -

 

ซิมบับเวยิ้มร่า จีนทุ่ม$585 ล้าน ช่วยฟื้นฟูประเทศ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2554 17:53 น.






โรเบิร์ต มูกาเบ ประธานาธิบดีซิมบับเว กำลังพูดคุยกับ หวัง ฉีซาน รองนายกรัฐมนตรีจีน ณ กรุงฮาราเร ประเทศซิมบับเว เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2554 (ภาพเอเอฟพี)


เอเอฟพี - จีนเซ็นสัญญาชุดข้อตกลง มูลค่าราว 3,800 ล้านหยวน(585 ล้านดอลาร์สหรัฐ) พัฒนาและฟื้นฟูด้านสาธารณสุข อุตสาหกรรมเหมือง และเกษตรกรรม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศซิมบับเว

หวัง ฉีซาน รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้เข้าร่วมพิธีลงนามสัญญาชุดข้อตกลงดังกล่าว(21 มี.ค.) ณ กรุงฮาราเร ประเทศซิมบับเว โดยชุดข้อตกลงประกอบด้วย การพัฒนาโครงสร้างระบบเกษตรกรรม มูลค่า 342 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พัฒนาระบบการแพทย์ 99.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และฟื้นฟูระบบท่อระบายน้ำในกรุงฮาราเร อีก 144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ซิมบับเว ยังหารือกับจีน เพื่อกู้เงินอีกจำนวน 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากธนาคารเพื่อการนำเข้า-ส่งออกของจีน

จ๊อยซ์ มูจูรู รองประธานาธิบดีซิมบับเว กล่าวว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งที่ธนาคารคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศจีน ได้เข้าร่วมสนับสนุนและช่วยเหลือรัฐบาลของเรา ในการพัฒนาด้านต่างๆ อาทิ พลังงาน อุตสาหกรรมเหมือง การคมนาคมขนส่ง เกษตรกรรม ภาคการผลิต และการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของเราขยายตัว”

หวัง ซึ่งเยือนซิมบับเวอย่างเป็นทางการ และมีกำหนดพบปะหารือกับโรเบิร์ต มูกาเบ ประธานาธิบดีซิมบับเว และมอร์แกน สแวงกิไร นายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้าน โดยหวังเผยว่า “จีนจะสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจของซิมบับเว และผมสัญญาว่าจะล็อบบี้ชาติตะวันตกไม่ให้เข้ามาแทรกแซงการเมืองภายในของซิมบับเว”

พร้อมกล่าวว่า “จีนสนับสนุนกฎหมายการถือครองกรรมสิทธิ์ของประเทศซิมบับเว ซึ่งให้ท้องถิ่นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทต่างชาติ อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องการให้มีการคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายบริษัทจีน”

ทั้งนี้ ซิมบับเวและจีนมีสัมพันธ์ทางการเมืองตั้งแต่ก่อนที่ซิมบับเวจะได้รับเอกราช เมื่อปี 2523 โดยจีนได้แจกจ่ายอาวุธและฝึกกองโจรให้ซิมบับเวเพื่อต่อสู้กับจักรวรรดินิยมอังกฤษ และในปัจจุบันจีนยังคงมีบทบาทหลักในการปกป้องซิมบับเวในเวทีสหประชาชาติ ซึ่งเมื่อปี 2551 จีนได้คัดค้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อไม่ให้ลงโทษซิมบับเว



หวัง ฉีซาน รองนายกรัฐมนตรีจีน กำลังสนทนากับ มอร์แกน สแวงกิไร นายกรัฐมนตรีซิมบับเว (ภาพเอเอฟพี)

China - Manager Online -

 

นายกเวินเชื่อ “โลกจะมั่นใจแผน 5 ปีฯ ของจีน”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2554 15:48 น.



นายกรัฐมนตรีจีน เวิน จยาเป่า ตอบคำถามผู้ประกอบการธุรกิจต่างชาติ ในการประชุมหัวข้อ “การเดินหน้าปฎิรูปแบบแผนการขยายตัวของจีน” ณ มหาศาลาประชาคมจีน 19-21 มี.ค. (ภาพเอเอฟพี)

เอเยนซี - เวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีนแถลงเมื่อวันจันทร์ (21 มี.ค.) ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมจีน ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 12 จะสร้างความหวังและความมั่นใจให้แก่จีนและประเทศทั้งหลายด้วย

นายกเวินฯ แถลงให้คณะผู้แทนต่างชาติ 70 คนฟัง ในการประชุมเรื่องการพัฒนาของจีนประจำปี 2554 ณ มหาศาลาประชาคมจีนว่า “นโยบายเปิดประเทศของจีนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แถมจีนยังทำให้เข้มแข็งมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนจากต่างประเทศ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ฯ

สภาฯ จีนอนุมัติผ่านร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯ ฉบับที่ 12 เมื่อต้นเดือนมี.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนประจำปี 2554 โดยมีเป้าหมายให้จีน ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองของโลก ให้ดำเนินเศรษฐกิจไปในแนวทางที่เป็นธรรมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นในอีก 5 ปีนับจากนี้

สืบเนื่องจากแผนดังกล่าวฯ จีนมีเป้าหมายในการลดการบริโภคพลังงานลง 16 เปอร์เซ็นต์ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 17 เปอร์เซ็นต์

“การพัฒนาของจีนแยกจากโลกไม่ได้ และการพัฒนาของโลกก็ปราศจากจีนไม่ได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งจีนพัฒนาเท่าไร โลกก็ยิ่งพัฒนาไปเท่านั้น” เวินกล่าว

ขณะที่เศรษฐกิจของโลกกำลังผันผวน นายกเวินฯ เรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจของโลกเกิดสมดุลและพัฒนาอย่างยั่งยืน

การประชุมที่เวินแถลงนี้จัดขึ้นในระหว่างวันเสาร์ ถึงจันทร์ (19-21 มี.ค.) ในหัวข้อ “การเดินหน้าปฎิรูปแบบแผนการขยายตัวเศรษฐกิจจีน”



บรรดาผู้ประกอบการชาวต่างชาติ นั่งฟังนายกเวิน จยาเป่าของจีน ในการประชุมหัวข้อ “การเดินหน้าปฎิรูปแบบแผนการขยายตัวของจีน” ณ มหาศาลาประชาคมจีน 19-21 มี.ค. (ภาพเอเอฟพี)

เวินตะลึง! ราคาน้ำมันโลกพุ่ง

นอกจากนั้นนายกเวินยังมีทัศนะต่อประเด็นราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูง พร้อมชี้ปัญหานโยบายการเงินของบางประเทศ และประเทศที่ประสบปัญหาทางการเมือง เช่นตะวันออกกลาง ที่เป็นต้นเหตุให้ราคาน้ำมันกระฉูด

“ผมตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นราคาน้ำมันโลกเกิน 100 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล” เวินกล่าวพร้อมให้คำมั่นว่า “จีนต้องพัฒนาระบบราคาน้ำมันให้ดีขึ้นโดยทำให้ราคาน้ำมันโลกเสถียรกว่านี้”

ความไม่สงบในตะวันออกกลางและการสูญเสียการควบคุมนโยบายการเงินของบางประเทศ ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูง

โดยนายกเวินยกตัวอย่าง สหรัฐฯ ที่สูญเสียการควบคุมนโยบายการเงินแล้วส่งผลให้ราคาสินค้าโลกเพิ่มสูงขึ้น และได้กระตุ้นเงินเฟ้อในจีนให้สูงถึง 4.9 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

ผู้กำหนดนโยบายของจีนก็พยายามควบคุมราคาที่สูงลิบลิ่ว พร้อมให้คำมั่นว่าความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะไม่ส่งผลต่อจีน

ราคาน้ำมันโลกเมื่อวันจันทร์ (21 มี.ค.) หลังจากตะวันตกโจมตีลิเบียทางอากาศ ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นถึง 102.82 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล

เวินปิดท้ายว่า “คงไม่เวลาไม่นานสำหรับสหรัฐฯ ที่จะหันหลังกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างจริงจังเสียที”

China - Manager Online -

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=eY4O-liA25g]YouTube - อนุบาลเต้น ชิมิชิมิ[/ame]

 

น้ำมัน-อาหารพุ่งดันเงินเฟ้อทะลุ3% ยันการปรับขึ้น ดบ. ไม่ใช่ปัจจัยหลักดึงทุน ตปท.

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 มีนาคม 2554 22:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ผู้ว่าแบงก์ชาติเผยเหตุราคาน้ำมันและอาหารที่พุ่งสูง ส่งผลอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 4 หลุดกรอบประมาณการทะลุ 3% แถมผสมโรงปัจจัยจิตวิทยารับรู้ล่วงหน้าของผู้ประกอบการ-ผู้บริโภค ยันการปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่ใช่ปัจจัยหลักดึงทุนต่างประเทศ แนะรัฐบาลลดภาษีนิติบุคคลยกระดับการแข่งขันของไทย

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ของธปท. ล่าสุด พบว่า อัตราเงินเฟ้อกำลังก่อตัวจากหลายสาเหตุ ทำให้มีความเป็นไปสูงที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะมากกว่า 3% หรือหลุดกรอบนโยบายการเงิน ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และกว่าจะส่งผ่านนโยบายอัตราดอกเบี้ยสู่ระบบเศรษฐกิจให้เต็มที่จะต้องใช้เวลาประมาณ 6-8 ไตรมาส ทำให้การดำเนินนโยบายการเงินจำเป็นต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาด้านต่างๆ ที่จะตามมา

“นโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยเหมือนกับการโยนก่อนอิฐลงไปในน้ำให้เกิดแรงกระเพื่อม จำเป็นต้องค่อยๆ ทำทีละนิด ซึ่ง ธปท.เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่กลางปีก่อนและมองว่าหากไม่รีบดำเนินการอาจเกิดเรื่องเลวร้ายมากกว่าหากไม่รีบทำอะไรเลย” ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวและว่า แม้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้มองว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะสูงกว่า 3% แต่การพิจารณากรอบนโยบายการเงินใหม่ในปี 55 ซึ่งจะพิจารณาในช่วงเดือนธ.ค.นี้ก็ไม่ควรขยับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานให้สูงกว่า 0.5-3% ถือเป็นกรอบนโยบายการเงินที่ใช้ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธปท.ได้พิจารณาหลายแนวทางทั้งการใช้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเช่นกัน เพื่อเป็นการพิจารณาให้รอบด้านมากขึ้น

ปัดขึ้นดอกเบี้ยดึงเงินทุนไหลเข้า

ทั้งนี้ ธปท.มองว่าไม่ควรใช้อัตราดอกเบี้ยมาดูแลเงินทุนไหลเข้าออก เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือเดียวและเครื่องมือที่สำคัญในการดูแลอัตราเงินเฟ้อ และในทางกลับกันหากนำเครื่องมือหนึ่งมาใช้หลายวัตถุประสงค์อาจทำให้ผลที่ได้รับไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร พร้อมทั้งอาจสร้างความสับสนต่อไปด้วย ขณะเดียวกันปัจจุบันมีการใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนยืดหยุ่น ถือเป็นนโยบายที่สำคัญ

นอกจากนี้ ธปท.ยังสามารถใช้เครื่องมืออื่นๆ อาทิ การผ่อนคลายเกณฑ์ให้เงินทุนไหลออกได้สะดวกขึ้น การเข้าไปซื้อขายในตลาดเงินบาท กฎระเบียบในการดูแลสถาบันการเงิน เป็นต้น

“เราจะใช้อัตราดอกเบี้ยในการดูแลเสถียรภาพด้านราคา และเราไม่ได้ตั้งใจให้ดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย และมองว่าขณะนี้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของไทยก็ไม่ได้สูงมาก โดยล่าสุดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทย 2.50%ต่อปี ถือว่าต่ำเป็นอันดับ 2 ของประเทศในภูมิภาคเอเชีย รองจากประเทศไต้หวันเท่านั้น จึงไม่ได้มีผลต่อเงินทุนไหลเข้า และจากการศึกษา พบว่าเงินทุนไหลเข้ามามากเกิดจากศักยภาพการเติบโตเศรษฐกิจและความต้องการของผู้ลงทุนต่างประเทศมากกว่า ซึ่งขณะนี้นักลงทุนกล้าที่จะลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงที่มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น”

ญี่ปุ่นยังไม่เป็นอุปสรรค ศก.ไทย

ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า ระดับราคาน้ำมันในขณะนี้ยังไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย และแม้ว่าจะเกิดปัญหาภัยพิบัติญี่ปุ่นและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในระดับ 3-5% เพราะธปท.ได้ประเมินตัวเลขช่วงค่อนข้างกว้าง เพื่อรองรับผลกระทบต่างๆ ไว้แล้ว

โดยแม้ขณะนี้เกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางจนมีผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น แต่อยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงวิกฤตก่อนและราคาค่อยๆ ปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันตลาดได้มีการเตรียมตัวไว้บ้างแล้ว รวมถึงยังมีแหล่งผลิตน้ำมันจากส่วนอื่นด้วย และโครงสร้างการผลิตหรือการพึ่งพาราคาน้ำมันต่างกับในอดีต คือ โลกและประเทศไทยมีการพึ่งพาน้ำมันลดลงทำให้แรงกดดันส่วนนี้ไม่ได้มีผลมากนัก

อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันดิบดูไบสูงกว่า 130 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งอาจมีผลต่อมูลค่าการนำเข้าสูงขึ้นและอาจมีโอกาสเกิดการขาดดุลการชำระเงินได้ จากเดิมที่คาดการณ์ปีนี้ดุลการค้าและดุลการชำระเงินจะเกินดุล และจากการประเมินอัตราเงินเฟ้อมาจาก 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ภาวะด้านอุปทานจากราคาน้ำมันและอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น 2.ภาวะอุปสงค์ที่มาจากการฟื้นตัวอุปโภคบริโภคทั้งที่เกิดจากภายในและภายนอกประเทศ 3.สภาพคล่องตลาดการเงินทั้งในส่วนของไทยและโลกที่มีค่อนข้างสูงที่จะเพิ่มแรงกดดันได้ในระดับหนึ่ง และ4.คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นของผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับและเป็นปัจจัยสำคัญที่หากปล่อยไว้อาจมีผลย้อนกลับจนอาจแก้ไขได้ยาก

แนะรัฐบาลลดภาษีนิติบุคคล

สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีมีแผนจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและลดภาษีนิติบุคคลในอนาคตนั้น ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า หากมีการปรับขึ้นค่าแรงมองว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะช่วยส่งเสริมประสิทธิการผลิต (Productivity) ด้วย ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ดีของประเทศ ส่วนการจัดเก็บภาษีนิติบุคคล ซึ่งปัจจุบันไทยมีอัตราการเก็บสูงกว่าในหลายประเทศภูมิภาคเอเชียทำให้ไทยอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน จึงมองว่าควรขยายฐานและลดอัตราการจัดเก็บ แต่ก็ไม่ควรหย่อนการจัดเก็บรายได้ให้ต่ำกว่าในอดีตที่ผ่านมา


Stock Markets - Manager Online - ����ѹ-����þ�觴ѹ��Թ���ͷ���3% �ѹ��û�Ѻ���� ��. �������Ѩ�����ѡ�֧�ع ���.

 

แย่ลงๆ แต่ก็ยังมีคนอีกหลายกลุ่มไม่สนใจบ้าง , หลอกตัวเองบ้าง กรรมแท้ๆ

 

>>>>> เหตุผลที่อวตาร เพราะหนี PM (อิอิ)

หวัดดีอาจารย์โช ซำบายดีปะคะ

จาก...นู๋ลาโง่


<!-- google_ad_section_end -->

 

ลำดับเหตุการณ์ก่อนวันสิ้นยุค​

​

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1996 บาทหลวงแอนดรู ผู้มีฌานญาณ (Mystic) แห่งสหรัฐ ได้เห็นเซนต์ไมเคิลในนิมิต เซนต์ไมเคิลได้เผยเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าสนใจก่อนวันสิ้นยุค

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดต่างๆ ซึ่งผู้จัดทำเอกสารได้เรียบเรียง โดยตั้งเป็น คำถาม แล้วใช้ คำตอบ จากเนื้อหาสาระที่ท่านบาทหลวงแอนดรูได้รับการเผยแสดงจากอัครเทวดาไมเคิล ดังต่อไปนี้

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่า เหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทุกวันนี้ เป็นเหตุการณ์ของวันสิ้นยุค?

เพราะโป๊ปเป็นผู้กล่าวเช่นนั้น พระองค์ทรงเป็นพระสันตะปาปาแต่พระองค์เดียว ในประวัติศาสตร์แห่งมนุษยชาต (โป๊ป จอห์น พอล ที่ 2) ที่ทรงกล่าวว่า "เรากำลังมีชีวิตในช่วงเวลาแห่งพระวิวรณ์" (Apocalypse คือ การทำนายถึงมหาภัยพิบัติตอนสิ้นยุค)

มีการกำหนดวันเวลาของวันสิ้นยุคไว้หรือเปล่า?

ไม่มีการกำหนดว่าจะเกิดปีใด แต่ทุกอย่างจะถูกกำหนดด้วยเหตุการณ์ต่างๆ สวรรค์ไม่เคยกำหนดวันเวลา มหาวิปโยค (Tribulation) คือช่วงเวลา 3 ปีครึ่ง แห่งการครองอำนาจของแอนตี้ไครสต์ จะเกิดขึ้นทันทีหลัง ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่

เมื่อเร็วๆ นี้ (คือก่อนปี 1996 เล็กน้อย) แม่พระได้บอกบาทหลวงสเตฟาโน กอบบีว่า ระยะเวลาแห่ง มหาวิปโยค จะถูกทำให้สั้นลง ดังนั้น แทนที่จะกินเวลา 3 ปีครึ่ง อาจจะเป็นแค่เดือนไม่ใช่ปี ขอให้เป็นดังนั้นเถิด อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลา มหาวิปโยค เราจะหลงและลืมวันเดือนปี จะไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร เดือนอะไร และปีอะไร เพราะเวลาจะสับสนอลหม่าน จับต้นชนปลายไม่ถูก ต่างจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วราวติดปีก และดูเหมือนว่ามันไม่ใช่เวลาของเราเสียแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะสาละวนเพื่อความอยู่รอดของตนเพียงอย่างเดียว จนไม่รู้ว่าเป็นเวลากี่โมงกี่ยาม หรือเป็นวันเสาร์หรือวันอาทิตย์

ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ จะมีอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปแล้ว ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ จะนำเราไปสู่เหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ใด ว่าจะลงเอยไปแบบใด ไม่ใช่เหตุการณ์นั้นๆ ในตัวของมันเอง แต่ผม (บาทหลวงแอนดรู) ผมต้องการให้พวกเธอเตรียมตัวเตรียมใจ และให้ศึกษาเหตุการณ์ต่างๆ เอาไว้ ตัวอย่างเช่น พวกเธอต้องเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลต่างๆ การเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินตราสกุลสำคัญๆ พวกเธอต้องเฝ้าดูปฏิติการต่างๆ ทางการทูต ภัยพิบัติทางธรรมชาติบางอย่าง

เหตุการณ์ที่จะต้องเฝ้ามอง สำหรับชาวอเมริกันก็คือ เมื่อเรารู้ว่าเมื่อไรจะเกิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภาคกลางของสหรัฐอเมริกา แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำลายเมืองหนึ่ง เพราะเกิดไฟไหม้ น่าจะเป็นเมือง Kansas ทว่าเบื้องบนไม่เคยบอกว่าจะเป็นเมืองใด ดังนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องกำหนดตายตัว แต่เมืองนั้นจะถูกทำลายในคราวเกิดแผ่นดินไหวครั้งนั้น ซึ่งคะเนว่าแผ่นดินไหวเป็นเวลา 1 วัน หรือราวๆ นั้น ซึ่งจะทำให้ระฆังของโบสถ์แถวริมฝั่งของอ่าว และเข้าไปในบริเวณเมืองฟลอริดา ดังเหง่งหง่าง อันเนื่องมาจากคลื่นสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนั้นจะก่อให้ เกิดรอยแยกในบริเวณบ่อน้ำมัน ในบริเวณอ่าว และบริเวณตรงกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งอยู่บนฝั่งตะวันออก ขณะที่เกิดรอยแยกในบริเวณดังกล่าว ไม่ก่อนก็หลังประเทศคิวบาจะได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา ให้มีสัมพันธ์ทางการทูตแบบเต็มขั้น ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองจะมี การอับปางครั้งมโหฬาร ของเรือรบในมหาสมุทรแอตแลนติก ภาคเหนือของสหรัฐ อาจจะเป็นเครื่องบินโดยสารหรือเรือสำราญท่องสมุทรแบบหรูหรา เพราะว่าเบื้องบนได้บอกว่า จะมีผู้เสียชีวิตนับพันคน จะต้องเป็นเรือโดยสารที่บรรจุคนจำนวนมากอย่างแน่นอน

เมื่อการอับปางของเรือขนาดใหญ่เพิ่งผ่านไป ก็จะเกิดอีกเหตุการณ์หนึ่งขึ้นมาในทันที คือการปฏิวัติ สงครามกลางเมืองในอิตาลี สงครามกลางเมืองนี้จะตามหลังสงครามที่ได้เริ่มแล้วในตุรกี กรีซ ยูโกสลาเวีย สโลวีเนีย ออสเตรีย และประเทศต่างๆ ในแถบบอลติก กระทั่งในจอร์เจีย รวมทั้งเลบานอน อิสราเอล ซีเรียและประเทศอื่นๆ ในแถบนั้น จะมีเพียงประเทศเดียวที่ไม่มีสงคราม คือ โรมาเนีย เมื่อสงครามได้ระเบิดขึ้นในประเทศต่างๆ เหล่านี้ อิตาลีจะถูกโจมตีภายในเวลาราว 2-3 วัน

ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสจะถูกสังหาร และหลังจากนั้นแค่ 2 วัน ผู้นำของเยอรมนีก็จะถูกสังหารเช่นกัน เมื่อสงครามต่างๆ ปะทุขึ้น และเมื่อประเทศอิตาลีถูกโจมตีจากกองทัพแดง จะเป็นเวลาที่ สมเด็จพระสันตะปาปาทรงหลบหนี เพราะสำนักวาติกันก็จะถูกโจมตีด้วยเช่นกัน เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาทรงหนี พวกเราก็จะได้รับข่าวสารว่า พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ ดังนั้น จะไม่มีการประกาศว่าพระองค์ได้ทรงหลบหนี ข่าวที่ประกาศออกมาจะไม่ตรงต่อความเป็นจริง

เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาทรงหนี พระองค์จะเสด็จสู่ประเทศเนเธอร์แลนด์ จากเนเธอร์แลนด์จะเสด็จสู่ประเทศเบลเยียม ฝรั่งเศส และที่สุด ณ ประเทศแคนาดา พระองค์จะประทับสองสถานที่ในเวลาเดียวกัน (Bi-locate) แต่ส่วนใหญ่พระองค์จะประทับในถิ่นเนรเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งที่ไกลโพ้นในประเทศแคนาดา การประทับของพระองค์ในแคนาดานั้น จะเป็นส่วนที่จะไม่ถูกกระทบกระเทือน ระหว่างที่แคนาดาและสหรัฐจะถูกโจมตี

สหรัฐจะถูกโจมตีเป็นเวลาประมาณ 9 สัปดาห์ หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาได้รับการประกาศถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ สหรัฐจะถูกโจมตี และ ถูกยึดเป็นเวลา 6 เดือน ไม่เกิน 7 เดือน เมื่อสิ้นช่วงเวลาการยึดครอง 6 เดือนนี้แล้ว ก็จะมี สัญญาณเตือนครั้งใหญ่ ปรากฏมา (พระเจ้าทรงใช้สัญญาณเตือนนี้เพื่อระงับสงครามโลกครั้งที่ 3) สหรัฐจะถูกยึดพื้นที่จากกองกำลังต่างชาติเกินกว่าหนึ่งในสาม

กำลังจากต่างชาติที่แท้จริงก็คือ นาโต (NATO) จะเป็นทั้งนาโต และ U.N. สหประชาชาติ จะโจมตีสหรัฐ... ทหารองค์การนาโตและทหารองค์การสหประชาชาติจะโจมตีพวกเรา เหมือนกับที่พวกเราได้เคยไปโจมตีมาหลายประเทศรวมทั้งยูโกสลาเวียด้วย พวกเราได้เคยไปประเทศของพวกเขา เป็นกองกำลังรักษาความสงบเพื่อยุติการสู้รบในประเทศของพวกเขานี้เอง พวกทหารนาโตและสหประชาชาติได้ไปในสมรภูมิ โดยสวมหมวกเหล็กสีน้ำเงิน หรือหมวกเบเรต์สีน้ำเงิน และทุกคนก็ต้องล่าถอย พวกทหารเหล่านั้นได้มาเพื่อจะปลดปล่อยประเทศนั้น (ยูโกสลาเวีย) จากการยึดครองของพวกเขาเอง (พวกเซิร์บ) และครั้งนี้พวกเขาก็จะโจมตีสหรัฐด้วยรูปแบบเดียวกันนั่นเอง

ณ เวลาที่มีการบุกโจมตีนั้น สหรัฐกำลังมีสงครามเชื้อชาติอยู่พอดีจึงเป็นโอกาสดี ที่จะมีกองกำลังต่างชาติบุกเข้ามาผสมโรงด้วย สหประชาชาติจะผนึกกำลังกองทัพคอมมิวนิสต์ พวกเขาจะกล่าวว่า พวกเขาเข้ามาในสหรัฐเพื่อปลดปล่อยชาวอเมริกันจากกองกำลังที่เข้ามายึด นี่คือแผนการทั้งหมดของพวกเขา

พร้อมๆ กับที่สหรัฐถูกโจมตี ทุกๆ ประเทศก็อยู่ในภาวะสงคราม สหรัฐจะต้องเข้าไปพัวพันในสงครามต่างชาติถึง 3 ครั้ง 3 หน เมื่อพวกเขา (ชาวอเมริกัน) ถูกโจมตี นั่นคือ ปัญหาที่มีเงื่อนไข พวกเราเข้าไปพัวพันในสงครามโลกถึง 2 ครั้งแล้ว ในยูโกสลาเวียและในอิหร่าน อิรัก สงครามทั้ง 2 แห่งนี้ พวกเรายังพัวพันอยู่ในปัจจุบันนี้ ขณะนี้ เราจะต้องเข้าไปพัวพันอีกเป็นสงครามที่ 3 แล้วเราก็จะรู้ว่าเหตุการณ์จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์

เมื่อสัญญาณเตือนปรากฏมา จะทำให้สงครามต่างๆ ยุติ (ผมจะกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสัญญาณเตือนในภายหลัง-บาทหลวงแอนดรู) แต่สำหรับขณะนี้ ทุกสิ่งจะยุติ พระคัมภีร์ระบุไว้ว่า "บรรดาดาบที่ใช้ประหัตประหารกัน จะแปลเปลี่ยนไปเป็นผาลไถนา มนุษย์ทุกคนจะวางปืน และเริ่มปฏิรูปในทันที คนเป็นล้านๆ จะละทิ้งเมือง และไปสู่ชนบท แล้วสร้างหมู่บ้านเล็กๆ มีอยู่สิ่งเดียวเท่านั้น คือ พวกเขาจะไม่เข้าใจอย่างเต็มเปี่ยมและจะไม่เห็นความจำเป็นของชุมชน ที่อุทิศตนในกิจกรรมทางศาสนาจนกว่าพวกเขาจะมีความรู้แจ้ง ซึ่งจะได้รับช่วงเวลาแห่ง ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ และ การส่องสว่างจากพระจิตครั้งที่ 2 (การส่องสว่างจากพระจิต หลังจากที่พระเยซูเสด็จสู่สวรรค์แล้ว ก็ได้รับการส่องสว่างจากพระจิต เป็นรูปเปลวไฟลอยอยู่เหนือศีรษะ แล้วต่างก็กระตือรือร้นที่จะออกเทศนา)

พวกเขาจะไม่เข้าใจสิ่งนี้จนกว่าจะเกิด ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ และ การส่องสว่างจากพระจิตครั้งที่ 2 (Second Pentecost) เนื่องจากว่าเป็นการสายเกินไปเสียแล้ว ที่จะสร้างกลุ่มเพื่อกิจกรรมทางศาสนา เหตุว่าทันทีที่เกิด ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ และ การส่องสว่างจากพระจิตครั้งที่ 2 หลังจากนั้นเพียง 2-3 สัปดาห์ แอนตี้ไครสต์ จะถีบตัวขึ้นมาเป็นผู้นำของมนุษยชาติ

แอนตี้ไครสต์ จะประกาศก้องไปทั่วทั้งโลกว่า มันเองเป็นผู้ได้นำ ปาฏิหาริย์ครั้งใหญ่ และการส่องสว่าง มายังโลก เพื่อจะได้นำโลกมามอบให้มัน มันจะแนะนำบรรดาผู้นำของโลก ให้มาประชุมกันที่สหประชาชาติ เมื่อผู้นำโลกมาประชุมกันที่สหประชาชาติ แอนตี้ไครสต์ กลับไม่มาปรากฏตัวและผู้นำต่างๆ ของแอนตี้ไครสต์ก็ไม่มาปรากฏตัวเช่นกัน แหละนี่ก็เป็นสัญญาณเตือนของเบื้องบนว่า อาคารสหประชาชาติ และบางส่วนของนครนิวยอร์กกำลังจะถูกทลายลง

คำคม Nullum magnum ingenium sine mixtura dimentiae fuit
นุลลุม มาญุม อินเจนิอุม ซีเน มิกซฺตูรา ดิเมนสิเอ ฟูอิต
ไม่มีใครที่ฉลาดมากๆ จนไม่มีความบ๊องผสมไปด้วย

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ทรงภาวนาเป็นเวลานาน ณ หลุมฝังศพของพระเยซู ที่กรุงเยรูซาเลม เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2009

หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 22 พฤษภาคม 2553

ที่มา http://www.ryt9.com/s/tpd/904447
เครดิต คุณเกษม http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-1195<!-- google_ad_section_end -->

 

USA (Magnitude 1+)

March 23, 2011 02:20:16 UTC
<MAP name=us_index_map minmax_bound="true"><AREA shape=RECT alt="California Nevada Map" coords=23,58,77,116 href="/earthquakes/recenteqscanv/" minmax_bound="true"><AREA shape=RECT alt="U.S. Map" coords=0,0,304,176 href="/earthquakes/recenteqsus/" minmax_bound="true"><AREA shape=RECT alt="Alaska Map" coords=41,190,100,244 href="/earthquakes/recenteqsus/Maps/special/Alaska.php" minmax_bound="true"><AREA shape=RECT alt="Hawaii Map" coords=123,189,174,244 href="/earthquakes/recenteqsus/Maps/special/Hawaii.php" minmax_bound="true"><AREA shape=RECT alt="Puerto Rico Map" coords=201,189,253,244 href="/earthquakes/recenteqsus/Maps/PR10/13.23.-71.-61.php" minmax_bound="true"></MAP>

• <LI minmax_bound="true">M1+ USA earthquake list
• M3+ USA earthquake list

World (Magnitude 4.5+)

March 23, 2011 02:03:32 UTC

• <LI minmax_bound="true">M2.5/4.5+ worldwide earthquake list
• M5+ worldwide earthquake list

Earthquakes






__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->วันอังคาร ที่ 22 มี.ค. 2554

อุตุฯ ญี่ปุ่นเตือนประชาชนระวังอาฟเตอร์ช็อกรุนแรง


​

โตเกียว 22 มี.ค. - บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานวันนี้ว่า สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นยังคงออกคำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีขนาดถึง 9 ริกเตอร์ นับว่าสูงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในญี่ปุ่น

สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ตรวจจับอาฟเตอร์ช็อกในพื้นที่ภาคตะวันออกที่มีขนาดตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ขึ้นไปได้กว่า 60 ครั้ง จนถึงเมื่อเย็นวานนี้ ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดอาฟเตอร์ช็อกกว่า 5 ริกเตอร์ ในจังหวัดอิบารากิ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยากล่าวเตือนว่า โอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ 7 ริกเตอร์ขึ้นไปยังคงมีอยู่ และว่าการเกิดอาฟเตอร์ช็อกหลาย ๆ ครั้ง อาจส่งผลให้อาคารที่เสียหายอยู่ก่อนแล้วพังถล่มลงมา นอกจากนี้ยังคาดว่าจะเกิดฝนและหิมะตกในพื้นที่ประสบภัยบางแห่ง และอุณหภูมิในช่วงเวลากลางคืนอาจลดลงอีก เจ้าหน้าที่ได้เตือนให้ประชาชนระมัดระวังสุขภาพ. - สำนักข่าวไทย<!-- google_ad_section_end -->

 

Latest Earthquakes M3.0+ in the USA - Past 7 days


Magnitude 3 and greater earthquakes catalogued in the last week (168 hours) for the ANSS US map area. (Some early events may be obscured by later ones on the maps.) M4.5+ earthquakes are in red.
The most recent earthquakes are at the top of the list. Times are in Coordinated Universal Time (UTC). Click on the word "map" to see a two-degree tall map displaying the earthquake. Click on an event's "DATE" to get a detailed report.


Update time = Wed Mar 23 3:20:14 UTC 2011
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TH minmax_bound="true"> </TH><TH align=middle minmax_bound="true">MAG </TH><TH align=middle minmax_bound="true">UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LAT
deg </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LON
deg </TH><TH align=middle minmax_bound="true">DEPTH
km </TH><TH minmax_bound="true">LOCATION</TH></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"><HR minmax_bound="true"></TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 21:24:20</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">32.658</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-115.720</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">5.0</TD><TD minmax_bound="true"> 15 km ( 9 mi) S of Seeley, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 19:56:05</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">35.244</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-92.394</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">5.2</TD><TD minmax_bound="true"> 2 km ( 1 mi) NNW of Greenbrier, AR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 13:11:23</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.215</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-152.610</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">106.8</TD><TD minmax_bound="true"> 58 km ( 36 mi) WNW of Happy Valley, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 09:43:58</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.463</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-65.693</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">44.0</TD><TD minmax_bound="true"> 10 km ( 6 mi) NNE of Luquillo, PR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 06:26:10</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">33.985</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-118.813</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">1.8</TD><TD minmax_bound="true"> 6 km ( 4 mi) SSW of Malibu, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.7 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 02:09:28</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.978</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-68.360</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">157.6</TD><TD minmax_bound="true"> 54 km ( 34 mi) NE of Hig?ominican Republic</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"><HR minmax_bound="true"></TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 23:34:22</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.858</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-66.858</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">33.0</TD><TD minmax_bound="true"> 42 km ( 26 mi) N of Camuy, PR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 23:23:08</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.445</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-67.347</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">6.0</TD><TD minmax_bound="true"> 15 km ( 10 mi) NW of RincPR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 21:58:40</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.442</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-68.765</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">101.2</TD><TD minmax_bound="true"> 21 km ( 13 mi) SSW of Hig?ominican Republic</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 21:49:35</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.127</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-64.412</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">77.0</TD><TD minmax_bound="true"> 45 km ( 28 mi) NNW of Settlement, British Virgin Islands</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 20:42:26</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">39.122</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-123.418</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">5.2</TD><TD minmax_bound="true"> 18 km ( 11 mi) W of Ukiah, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 19:49:01</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.446</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-67.364</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">12.0</TD><TD minmax_bound="true"> 17 km ( 10 mi) NW of RincPR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"><HR minmax_bound="true"></TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 22:08:33</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">38.836</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-122.756</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">1.2</TD><TD minmax_bound="true"> 3 km ( 2 mi) W of Cobb, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 21:18:06</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">53.407</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-163.633</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">13.0</TD><TD minmax_bound="true"> 159 km ( 99 mi) S of False Pass, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 20:32:17</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">60.167</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-152.799</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">125.4</TD><TD minmax_bound="true"> 65 km ( 40 mi) WNW of Happy Valley, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.7 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 09:42:32</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">51.460</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-174.711</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">27.8</TD><TD minmax_bound="true"> 89 km ( 55 mi) SSW of Atka, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 08:17:01</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">38.787</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-122.772</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">0.7</TD><TD minmax_bound="true"> 3 km ( 2 mi) ESE of The Geysers, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 04:20:39</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">49.910</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-128.216</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">9.9</TD><TD minmax_bound="true"> 214 km (133 mi) W of Campbell River, Canada</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"><HR minmax_bound="true"></TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.9 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 23:54:09</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">27.782</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-111.836</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD minmax_bound="true"> 67 km ( 42 mi) NE of Santa Rosal Mexico</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 20:50:12</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.901</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-64.662</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">4.0</TD><TD minmax_bound="true"> 41 km ( 25 mi) WNW of Settlement, British Virgin Islands</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 15:43:26</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.395</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-146.674</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">27.6</TD><TD minmax_bound="true"> 36 km ( 22 mi) NNW of Valdez, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 02:49:46</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">68.849</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-146.036</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">0.0</TD><TD minmax_bound="true"> 84 km ( 52 mi) NNW of Arctic Village, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 01:31:14</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">32.107</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-115.233</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD minmax_bound="true"> 23 km ( 15 mi) SSW of Guadalupe Victoria, Mexico</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"><HR minmax_bound="true"></TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 22:10:39</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.526</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-66.186</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">71.0</TD><TD minmax_bound="true"> 118 km ( 74 mi) N of Dorado, PR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.7 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 19:54:45</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">34.859</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-112.072</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">4.9</TD><TD minmax_bound="true"> 11 km ( 7 mi) N of Clarkdale, AZ</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 15:48:25</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.727</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-156.166</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">43.1</TD><TD minmax_bound="true"> 17 km ( 11 mi) W of Kalaoa, HI</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 09:54:11</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">51.296</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-178.042</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">33.0</TD><TD minmax_bound="true"> 117 km ( 72 mi) SW of Adak, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 03:17:43</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">32.215</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-115.212</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD minmax_bound="true"> 13 km ( 8 mi) SW of Guadalupe Victoria, Mexico</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.5 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 01:44:12</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">25.416</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-109.711</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD minmax_bound="true"> 77 km ( 48 mi) SW of Ahome, Mexico</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"><HR minmax_bound="true"></TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 17:59:47</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">35.241</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-92.392</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">5.0</TD><TD minmax_bound="true"> 1 km ( 1 mi) N of Greenbrier, AR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 17:30:47</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">36.621</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-121.229</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">5.8</TD><TD minmax_bound="true"> 13 km ( 8 mi) NW of Pinnacles, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 17:18:30</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">36.622</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-121.229</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">6.0</TD><TD minmax_bound="true"> 13 km ( 8 mi) NW of Pinnacles, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 17:05:16</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">58.271</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-137.783</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">29.3</TD><TD minmax_bound="true"> 84 km ( 52 mi) W of Elfin Cove, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 16:48:36</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">52.302</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-169.844</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">3.5</TD><TD minmax_bound="true"> 97 km ( 60 mi) SW of Nikolski, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.1 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 15:29:27</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">38.809</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-122.788</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">4.1</TD><TD minmax_bound="true"> 2 km ( 1 mi) NE of The Geysers, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 12:28:58</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">53.575</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-165.061</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">25.8</TD><TD minmax_bound="true"> 80 km ( 50 mi) SE of Akutan, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.2 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 10:52:42</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">25.324</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-109.696</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.0</TD><TD minmax_bound="true"> 84 km ( 52 mi) SW of Ahome, Mexico</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 09:34:21</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">53.442</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-165.642</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">13.8</TD><TD minmax_bound="true"> 77 km ( 48 mi) SE of Unalaska, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 07:47:03</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.368</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-67.888</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">34.0</TD><TD minmax_bound="true"> 120 km ( 75 mi) NE of Hig?ominican Republic</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 05:55:34</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">35.687</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-121.117</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">4.7</TD><TD minmax_bound="true"> 8 km ( 5 mi) NE of San Simeon, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 02:13:56</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">40.628</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-124.706</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">9.5</TD><TD minmax_bound="true"> 38 km ( 23 mi) W of Ferndale, CA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD colSpan=7 minmax_bound="true"><HR minmax_bound="true"></TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.6 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 23:37:43</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.349</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-67.923</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">12.1</TD><TD minmax_bound="true"> 116 km ( 72 mi) NE of Hig?ominican Republic</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.8 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 23:04:09</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.483</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-65.335</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">56.1</TD><TD minmax_bound="true"> 129 km ( 80 mi) NNE of Vieques, PR</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 19:09:36</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">44.613</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-112.082</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">10.8</TD><TD minmax_bound="true"> 29 km ( 18 mi) NNE of Spencer, ID</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">4.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 17:36:55</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">45.570</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-74.550</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">18.0</TD><TD minmax_bound="true"> 46 km ( 28 mi) WSW of Mirabel, Canada</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.3 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 14:56:37</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">61.553</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-149.781</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">35.4</TD><TD minmax_bound="true"> 6 km ( 4 mi) ENE of Big Lake, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">5.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 13:42:33</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.033</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-67.918</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">56.0</TD><TD minmax_bound="true"> 95 km ( 59 mi) ENE of Hig?ominican Republic</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.4 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 12:56:20</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">39.032</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-118.809</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">6.5</TD><TD minmax_bound="true"> 8 km ( 5 mi) NNE of Schurz, NV</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.7 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 11:23:41</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">53.434</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-165.609</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">12.6</TD><TD minmax_bound="true"> 79 km ( 49 mi) SE of Unalaska, AK</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">3.0 </TD><TD noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 05:20:00</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">19.082</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">-66.482</TD><TD noWrap align=right minmax_bound="true">12.5</TD><TD minmax_bound="true"> 69 km ( 43 mi) N of Tierras Nuevas Poniente, PR</TD></TR></TBODY></TABLE>
Latest Earthquakes M3.0+ in the USA - Past 7 days

 

Latest Earthquakes M5.0+ in the World - Past 7 days


Latest Earthquakes Magnitude 5.0 and Greater in the World - Last 7 days

Versión en Español
Magnitude 5 and greater earthquakes located by the USGS and contributing networks in the last week (168 hours). Magnitudes 6 and above are in red. (Some early events may be obscured by later ones on the maps.)
The most recent earthquakes are at the top of the list. Times are in Coordinated Universal Time (UTC). Click on the word "map" to see a ten-degree tall map displaying the earthquake. Click on an event's "DATE" to get a detailed report.
DISCLAIMER


Update time = Wed Mar 23 3:16:56 UTC 2011

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TH minmax_bound="true"> </TH><TH align=middle minmax_bound="true">MAG </TH><TH align=middle minmax_bound="true">UTC DATE-TIME
y/m/d h:m:s </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LAT
deg </TH><TH align=middle minmax_bound="true">LON
deg </TH><TH align=middle minmax_bound="true">DEPTH
km </TH><TH minmax_bound="true"> Region</TH></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/23 00:06:43 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.276 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.315 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">35.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE><HR minmax_bound="true"><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 22:53:31 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.062 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.620 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">27.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> EASTERN HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 22:51:38 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.924 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.333 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">30.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 22:36:33 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.078 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.561 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">15.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> EASTERN HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 22:12:29 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.109 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.673 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">1.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> EASTERN HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 19:40:43 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -7.625 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 127.576 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">137.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> KEPULAUAN BARAT DAYA, INDONESIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 16:12:09 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.672 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.638 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">33.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 16:05:51 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.757 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.591 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">41.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 15:49:26 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.171 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.301 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">21.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 15:03:46 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.786 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.572 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">16.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 14:45:19 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -33.146 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -15.920 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">10.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> SOUTHERN MID-ATLANTIC RIDGE</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 13:50:51 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.791 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.534 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">15.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 13:31:29 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -33.085 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -15.979 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">11.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> SOUTHERN MID-ATLANTIC RIDGE</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 12:56:27 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.050 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.992 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">35.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 12:04:08 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.256 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.408 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">33.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 12:01:21 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.947 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.203 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">1.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 11:21:39 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.789 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.139 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 10:19:01 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 40.344 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.531 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">20.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 09:44:30 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.863 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.436 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">15.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 09:19:06 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.334 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.861 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">27.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 07:18:48 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.249 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.956 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">26.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 06:28:32 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.703 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.389 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">40.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 05:59:35 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.678 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.684 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">20.6 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 05:44:32 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -57.444 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -25.831 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">84.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> SOUTH SANDWICH ISLANDS REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 03:38:35 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.228 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.053 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">11.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/22 01:13:48 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.085 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.837 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">35.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR minmax_bound="true"><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 19:01:21 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.688 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.238 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">46.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 16:46:57 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.727 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.257 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">19.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 12:37:37 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.457 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.369 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">27.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 10:43:13 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.057 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 144.576 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">23.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 10:36:49 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 13.932 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 120.560 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">92.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> MINDORO, PHILIPPINES</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 09:49:02 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.519 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 70.920 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">196.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> HINDU KUSH REGION, AFGHANISTAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 05:54:13 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.205 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.098 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">37.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/21 05:08:04 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.182 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.613 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">17.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR minmax_bound="true"><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 20:17:58 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.007 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.908 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">34.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 19:46:57 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -25.092 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 179.542 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">513.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> SOUTH OF THE FIJI ISLANDS</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 17:12:25 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -24.892 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -70.030 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">47.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> ANTOFAGASTA, CHILE</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 17:08:58 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.152 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.845 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">34.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 15:20:27 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -31.086 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -179.876 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">305.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> KERMADEC ISLANDS REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 15:13:53 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.338 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.348 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">22.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 14:48:54 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.346 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.945 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">38.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 12:03:48 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.409 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.958 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">45.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> EASTERN HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 11:47:44 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -18.800 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -174.927 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">138.6 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> TONGA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 10:35:53 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.184 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.200 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">19.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 08:26:10 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 19.035 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 121.250 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">31.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> BABUYAN ISLANDS REGION, PHILIPPINES</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 08:00:51 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 22.396 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 121.421 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">17.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> TAIWAN REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 07:56:30 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.213 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.760 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">28.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 05:58:05 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.281 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.973 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">27.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 05:55:31 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.725 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.378 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">51.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 01:30:46 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.945 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.182 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">22.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 01:24:44 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.411 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.761 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">31.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/20 01:09:45 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.173 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.411 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">36.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR minmax_bound="true"><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 20:08:11 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 6.680 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.499 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">14.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> ETHIOPIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 18:43:03 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -10.206 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -13.205 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">10.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> ASCENSION ISLAND REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 16:11:59 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -6.092 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 149.423 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">58.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEW BRITAIN REGION, PAPUA NEW GUINEA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 12:11:17 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -19.475 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 167.955 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">42.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> VANUATU REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 09:56:51 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.810 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.375 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 08:35:00 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -22.075 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -68.441 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">101.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> ANTOFAGASTA, CHILE</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 02:33:47 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 0.812 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 97.439 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">31.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NIAS REGION, INDONESIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 01:27:16 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.578 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.446 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/19 01:22:44 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.659 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.177 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">9.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR minmax_bound="true"><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 23:49:07 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.804 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.845 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">34.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 23:34:31 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 24.243 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 125.279 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">34.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> SOUTHWESTERN RYUKYU ISLANDS, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 23:33:00 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.145 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.486 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">27.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 21:18:55 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.154 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.174 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">48.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 21:09:35 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.485 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 145.051 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">15.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 19:53:07 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.596 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.479 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">63.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 18:32:50 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.158 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.299 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">46.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 17:28:53 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.125 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.484 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 13:38:42 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.707 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.323 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 12:17:02 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.930 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.447 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">31.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 08:01:34 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.775 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.869 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.5 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 03:23:56 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.771 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.502 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">19.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 02:47:49 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.270 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.833 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">45.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/18 00:41:22 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.863 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.697 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">45.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR minmax_bound="true"><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 19:05:44 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.191 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.750 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">36.5 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 18:55:38 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.175 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.291 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">29.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 18:01:20 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.701 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 144.409 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">23.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 17:31:56 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.713 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.434 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">30.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 15:34:33 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 40.512 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 79.057 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">18.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> SOUTHERN XINJIANG, CHINA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.9 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 12:54:52 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.766 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.307 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.6 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 12:32:03 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.523 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.744 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">21.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 11:14:24 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -32.518 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -71.537 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">19.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFFSHORE VALPARAISO, CHILE</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 09:05:58 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 40.240 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.333 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 08:28:28 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 53.244 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 159.364 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">74.6 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF KAMCHATKA, RUSSIA</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 08:25:26 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.698 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.762 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">29.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 08:03:04 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -17.283 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 167.899 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">27.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> VANUATU</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 06:42:46 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.709 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.911 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">36.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 06:24:32 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.249 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.293 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 06:12:43 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.755 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.451 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 05:07:01 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.027 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.543 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.4 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 04:13:56 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 40.198 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.204 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 03:50:54 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.312 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.820 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">20.6 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 02:48:00 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -17.339 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 167.743 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">15.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> VANUATU</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 01:08:01 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.387 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.891 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">20.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 01:00:08 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -57.913 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -25.685 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">85.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> SOUTH SANDWICH ISLANDS REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 00:55:03 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -32.465 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -71.531 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">23.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFFSHORE VALPARAISO, CHILE</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/17 00:42:50 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.379 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.704 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR minmax_bound="true"><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 border=0 minmax_bound="true"><TBODY minmax_bound="true"><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.7 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 23:38:19 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.165 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.661 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 22:36:17 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -32.469 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -71.424 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> VALPARAISO, CHILE</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 22:14:52 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.831 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 144.205 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">26.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 22:07:53 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.797 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 144.192 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 22:03:21 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.609 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.482 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">39.8 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 20:44:43 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.358 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.610 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">20.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 19:35:03 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.641 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.987 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 18:23:09 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 29.412 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.806 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">23.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> IZU ISLANDS, JAPAN REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 18:13:00 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.161 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.134 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">35.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.2 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 14:46:09 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 38.529 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.656 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">39.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 13:42:34 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 19.033 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> -67.918 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">56.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> DOMINICAN REPUBLIC REGION</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.4 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 13:39:06 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.822 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.285 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">88.2 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 13:38:52 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.876 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.226 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">35.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 13:38:40 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.631 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.699 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">29.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 12:02:49 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.723 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.800 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.6 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 11:44:56 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.595 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.383 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 11:20:07 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 36.278 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.106 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.1 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 10:16:13 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.764 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.434 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">29.9 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 08:17:10 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.310 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 143.584 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">29.3 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> OFF THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.8 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 06:29:03 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 39.944 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 142.076 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">31.1 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 5.3 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 04:14:32 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 37.561 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 141.413 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">24.7 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR><TR minmax_bound="true"><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">MAP</TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true"> 6.0 </TD><TD vAlign=top noWrap align=middle minmax_bound="true">2011/03/16 03:52:06 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 35.795 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true"> 140.804 </TD><TD vAlign=top noWrap align=right minmax_bound="true">25.0 </TD><TD vAlign=top minmax_bound="true"> NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เอารอยต่อเพลทที่ผ่านกลางประเทศไทยมาให้ดูกันอีกที<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->





<!-- google_ad_section_end -->
__________________
เครดิต คุณ Falkman http://palungjit.org/threads/ประกาศข่าวแผ่นดินไหว-และการคาดการณ์.51734/page-168

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->

 

ไทยมีสถานีเตือนแผ่นดินไหว 40 แห่ง พร้อมส่งข่าว 5-25 นาทีที่เกิดเหตุ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 มีนาคม 2554 12:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
กรมทรัพย์ฯ เผยไทยไม่ได้อยู่บนรอยเลื่อนขนาดใหญ่ แค่แนวบริเวณรอยเลื่อนแขนง ชี้โอกาสเกิดแผ่นดินไหวราว 5-6 ริกเตอร์เท่านั้น แต่ไม่ทำให้เกิดสึนามิ ทางกรมอุตุฯ แจงไทยมีสถานีเตือนแผ่นดินไหวอยู่ 40 แห่ง พร้อมกระจายข่าวภายใน 5-25 นาที และเฝ้าระวัง 24 ชม.

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสัมมนาหัวข้อ “เราพร้อมรับภัยแผ่นดินไหวและสึนามิอย่างไร” ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเจริญวิศวกรรม (ตึก 4) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ วันที่ 21 มี.ค.54 จากผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวและสึนามิ

โอกาสเกิดแผ่นดินไหวในไทยแค่ 5-6 ริกเตอร์

นายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนวิจัยรอยเลื่อนมีพลัง กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อธิบายว่ารอยเลื่อนมีพลัง คือรอยเลื่อนที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้

สำหรับประเทศไทยนั้นเป็นรอยเลื่อนแขนง ไม่ใช่รอยเลื่อนขนาดใหญ่ ดังนั้นโอกาสเกิดแผ่นดินไหวจึงเป็นขนาดกลาง และมีโอกาสเกิดแค่ 5-6 ริกเตอร์เท่านั้น ไม่เหมือนประเทศญี่ปุ่นที่อยู่บริเวณรอยเลื่อนขนาดใหญ่ จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8-9 ริกเตอร์ได้

ทั้งนี้ นายสุวิทย์ ยังบอกอีกว่า ระดับแรงสั่นสะเทือนขนาด 5-6 ริกเตอร์ นั้นหากเกิดตามบริเวณเมืองหรือ ชุมชน ก็จะทำให้บ้านเมืองเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่หากเกิดบริเวณป่าเขาจะมีผลกระทบน้อย ซึ่งตำแหน่งที่เกิดในประเทศไทย โดยมากจะอยู่บริเวณป่าเขาทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ มีทั้งหมด 13 กลุ่มรอยเลื่อน

ทางกรมทัพยากรธรณีนั้น ได้ศึกษาย้อนหลังไป 50 ปี พบว่าวันที่ 22 เม.ย.2526 มีการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดขนาด 5.9 ริกเตอร์ บริเวณ จ.กาญจนบุรี และรองลงมามีขนาด 5.6 ริกเตอร์ ในวันที่ 17 ก.พ. 2518 ที่ จ.ตาก

รอยเลื่อนในไทยไม่ทำให้เกิดสึนามิ

สำหรับรอยเลื่อนในประเทศไทยนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า ไม่สามารถทำให้เกิดสึนามิได้ เพราะรอยเลื่อนของไทยนั้นอยู่บนพื้นดิน แต่รอยเลื่อนที่จะทำให้เกิดสึนามิได้นั้นจะต้องอยู่ในน้ำเท่านั้น และรอยเลื่อนที่อยู่ในน้ำจะเลื่อนขึ้นมาแทนที่น้ำประกบพื้นทะเล จึงทำให้เกิดสึนามิขึ้น และเกิดบ่อยมาก ตรงตะเข็บรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก อาทิ รอยต่อของอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ หรือชิลี

ผอ.ส่วนวิจัยรอยเลื่อนมีพลัง บอกอีกว่า หากเกิดรอยเลื่อนตรงแถบเกาะสุมาตรา หรือหมู่เกาะนิโคบาร์ ทางมหาสมุทรอินเดีย จะส่งผลให้เกิดคลื่นสึนามิมาถึงไทยได้ และจังหวัดที่น่าจะได้รับผลกระทบอยู่บริเวณภาคใต้ติดชายฝั่งอันดามัน

ไทยมีสถานีเตือนแผ่นดินไหวอยู่ 40 แห่ง

นายบุรินทร์ เวชบันเทิง ผู้อำนวยการส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ประเทศไทยมีสถานีเตือนภัยแผ่นดินไหวอยู่ 40 สถานี

สำหรับวิธีการวิเคราะห์หาศูนย์กลางแผ่นดินไหวนั้น จะต้องมีสถานีไม่ต่ำกว่า 4 สถานี ที่รับการสั่นสะเทือนได้ และลักษณะการสั่นสะเทือนนั้น จะมีซอฟต์แวร์ที่จะเลือกลักษณะชนิดของความสั่นสะเทือนนั้นๆ มาคำนวณว่าตำแหน่งนั้นอยู่ตรงไหน และด้วยความแรงของมัน ก็จะดูจากค่าความกว้าง (amplitude) ของการสั่นสะเทือน หากแผ่นดินไหวมีแรงสั่นสะเทือนสูง ค่าความกว้างของการสั่นสะเทือนก็มีความสูงตามไปด้วย

“เครื่องมือจะมีการบันทึกอยู่ตลอดเวลา การสั่นสะเทือนที่มาถึงสถานีมีทุกวินาที ฉะนั้นเราจะทราบว่า มีการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อไหร่ รู้ว่าอยู่ลึกเท่าไหร่ ตำแหน่งที่อยู่บนระนาบของผิวโลกอยู่ตรงส่วนไหน” ผอ.ส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ อธิบาย

นายบุรินทร์ ยังเล่าอีกว่า เครื่องตรวจวัดการสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวประเทศไทยนั้น มีมาตรฐานเทียบเท่าต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายเยอรมนี สหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย หรือญี่ปุ่น และจากเหตุการณ์สึนามิที่เมืองไทยในปี พ.ศ. 2547 นั้นยังมีสถานีเตือนภัยน้อยมาก แต่ปัจจุบันพัฒนามาเป็น 40 สถานี และได้ร่วมมือกับต่างประเทศ ในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และเตือนภัยอีกด้วย

“สำหรับความพร้อมในเรื่องของการตรวจวัดแผ่นดินไหว ทั้งภายในและภายนอกประเทศนั้น สามารถแจ้งและทราบข่าวสารได้ภายใน 5- 25 นาที ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและทำงานตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย” นายบุรินทร์ กล่าว

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายสุวิทย์ โคสุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนวิจัยรอยเลื่อนมีพลัง กรมทรัพยากรธรณี กำลังอธิบายถึงการเกิดรอยเลื่อนมีพลังที่ จ.อุตรดิตถ์</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พบแผ่นดินไหวรอยเลื่อนมีพลังในไทย ตารางจากกรมทรัพยากรธรณี </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายบุรินทร์ เวชบันเทิง ผู้อำนวยการส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่าประเทศไทยมีสถานีเตือนแผ่นดินไหวอยู่ 40 สถานี </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>บรรยากาศในการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “เราพร้อมรับภัยแผ่นดินไหวและสึนามิอย่างไร” ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเจริญวิศวกรรม (ตึก 4) คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ วันที่ 21 มี.ค. 54 </TD></TR></TBODY></TABLE>