เชื่อซี่อาหลง ลองดู หาก เห็นจิตงอกลับ นะ ไอ้ที่อาหลงพูดๆ มา
จะเห็นเลยว่า จืดสนิท คนละเรื่องเลย
แล้วถ้าเห็นตรงนี้บ่อยๆ เข้า จิตจะจดจำสภาวะได้ ก็น้อมเข้ามาพิจารณา
ความไม่เที่ยงกับสภาวะนี้ได้เลย จึงเรียกว่า การเจริญ(ภาวนา)แบบ นิโรธสัญญา
เจตสิกธรรมไม่มี หรือ?
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐาณัฏฐ์, 26 ธันวาคม 2011.
หน้า 10 ของ 18
-
พระวจนะ"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สัญญาเกิดก่อน ญานเกิด ทีหลัง หรือว่าญานเกิดก่อน สัญญาเกิดทีหลัง หรือว่า สัญญและญานเกิดไม่ก่อนไม่หลังกัน..........."โปฎฐปาทะ สัญญาแล เกิดก่อนญานเกิดทีหลัง เพราะมีการเกิดแห่งสัญญา จึงมีการเกิดแห่งญาน ดังที่เขานั้น รู้สึกได้อย่างนี้ว่า เพราะ นี้เป็นปัจจัย ญานจึงเกิดขึ้นแก่เรา ดังนี้ โปฎปาทะ เธอพึงทราบข้อนี้ โดยยัยนี้ ว่า สัญญาเกิดก่อน ญานเกิดทีหลัง อย่างไร เพราะมีการเกิดขึ้นแห่งสัญญา จึงมีการเกิดขึ้นแห่งญานอย่างนั้น ดังนี้---สี.ที.9/230/288.:cool:
-
เวลาเข้าไปรู้เห็นธรรม นั่นแล สัญญามันเกิด มันจำได้ มันทำกิจจำอยู่
เมื่อเจอสภาพธรรมเดิม สติเกิด ย่อมระลึกได้ ในสภาวะที่ปรากฏในปัจจุบัน
กิจของสัญญาเกิดตรงนี้
ต่างกับ มีสัญญาโดย ขาดการระลึกปัจจุบัน ไม่ตรงตามธรรมที่ปรากฏ
ไม่ได้บอกว่าทางนั้นแคบ ได้ชี้ถึงเหตุ ความรู้ทั่วไปแล้ว
ว่ามันรู้ทั่ว ไปถึงขันธ์ ธาตุ อายตนะ อินทรีย์ ว่ามันไม่เที่ยงอย่างไร
สภาพไม่เที่ยงเป็นอย่างไร
แต่หรือแค่ขันธ์ อย่างเดียวก็ไม่ผิด นั่นก็ทำให้วิมุตติได้
เข้าหรอ -
รู้จักรูปนาม ย่อมเห็นปัจจัย การเกิด การเสื่อม
ก็การเกิด การเสื่อม มันเป็นสภาพ อนิจัง คือไม่เที่ยง
นี่ก็ชี้ไปเลย เพราะความบีบคั้น ความตั้งอยู่ได้ไม่นาน มันก็อยู่ในธรรมเดียวกัน
อนัตตาก็อยู่ในธรรมเดียวกันในเวลานั้น ก็พิจารณาเอาสิ -
ไม่ใช่เรื่องตีกบาลอะไร น้าเอกพิจารณาเอาสิ
บทนี้ พุทธองค์ตรัสส่วงกลาง แล้วส่วนปลาย สังเกตุไหม
ไม่งั้นไม่ลงที่ อมตะ -
ธรรมในธรรม ของ สติปัฎฐานสี่ ตามเห็นความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ...พี่หลงว่า สำคัญแค่ใหน ในการตามเห็นความไม่เที่ยงอยู่เป็นประจำ(อย่าซีเรียส)ตรงนี้ อาจจะเป็นสัญญาก็ได้ ใช่ใหมครับ?:cool:
-
........
เห็นทีต้อง กราบเรียนเชิญแพทริก ไปหาคู่สนทนาอื่นดูก่อน แล้ว
ค่อยวกกลับมาเสวนาคนนี้ เผื่อว่า ประโยชน์จะเกิดได้มากกว่านี้ -
อะไรเลย
พระพุทธองค์ตรัสชี้ ย้ำ ให้สะเทือนกันเลยทีเดียว
ถ้าป่านนี้ยังไม่เห็น จิตงอกลับ ก็เป็นอันว่า ที่ปราวนาตนว่ารู้ ...โกหกทั้งเพ -
แพททริกพยายามจะชี้ตรงนี้ ให้พิจารณาความไม่เที่ยงสิ ถูกไหม
แล้วไม่พิจารณาต่อไปล่ะ ความสภาวะธรรมที่รู้อยู่ว่าไม่เที่ยงนั้น
ใช่เราไหมความยึดมั่นเป็นเรา ของเรามั๊ย
เห็นตรงนี้ก็เป็นสัญญาได้ ถ้าจะคุยกันตรงส่วนนี้นะ :cool:
แต่ทีนี้ นายหลงไม่สนับสนุนให้ไปพิจารณาว่ามันไม่เที่ยง
โดยไม่เข้าใจรูปนาม และความเกิด ความเป็นปัจจัย แต่ละนามรูป แตกต่างกันอย่างไร
เมื่อข้ามตรงนี้ มันก็ไม่แทงตลอด ถึงสภาพธรรมแต่ละอย่างว่าเป็นไตรลักษณ์อย่างไร
มันเป็นเรื่องรู้ทั่ว
แต่ถ้าผ่านแล้วเข้าใจแล้ว ตอนนี้ภูมิอยู่ที่อนิจจังเป็นอารมณ์ ก็ไม่ค้านอะไร
อนุโมทนาด้วย ^^ -
ทีนี้ สมมติว่า อาหลง อยากจะรู้แล้วหละว่า จิจงอกลับ เป็นยังไงกันแน่
ที่เขารู้ๆ ว่า จิตงอกลับเป็นอย่างไร
ผมก็พอบอกได้ว่า จะให้อาหลงดูอย่างไร
ก็ง่ายๆ
อะไรที่อาหลงบอกว่าใช่ ผมก็จะบอกว่าใช่
แต่ผมจะพูดเพิ่มว่า ให้อาหลง สำเนียกเห็นสิ่งที่ใช่นั้นคือ"ทุกขสัจจ"อย่างหนึ่ง
พอจะไปทำอย่างที่ใช่ ก็สำเนียกตามไปด้วยว่า ทุกขสัจจอย่างหนึ่ง ทำให้มากๆ
แล้วค่อยๆสังเกตดู หากจิตเกิดพยาบาทวิตกมันจะสบัดหน้า หากจิตเกิดวิหิงสา
วิตกมันจะอยากอะไรมาทิ้มลูกตา ถ้าไม่มี วิตก2(ใน3) นี้ ก็อาจจะพอเอํอะอะ
กับเขาได้บ้าง นี่ จิตงอกลับ รึเปล่านี่
ก็ลองดูเนาะ -
อ้อ อีกอย่างนะอาหลง ไตรลักษณ์ญาณ ชื่อว่า ญาณ ก็จริง แต่ ตัวนี้ไม่ใช่ ความรู้
หรือ ตัวปัญญา นะ
อาหลงจะเน้นๆ ตัวนี้ในเชิงว่า เห็นไม่ได้บ้าง ต้องอย่างนี้ถึงจะเห็นบ้าง เนี่ยะ ถ้าพูด
แบบนี้แปลว่า ยังโง่ ยังไปเห็น ไตรลักษณ์ญาณเป็นตัวปัญญา
มันแค่ เครืองมือเล็กๆ แต่ว่า ไม่เลิกใช้ เท่านั้นแหละ
ดังนั้น เวลาจะพูด ภูมิอนิจจัง ภูมิอนัตตา อะไรแบบ อรชุน อาหลง
เงียบไปดีกว่า ขายขี้หน้า ! มันคนละศาสนาแล้ว !!! -
นายหลงอาจใช้คำไม่ตรงที่จะสื่อ
น้าเองสังเกตุเอาก็แล้วกัน
สติที่ระลึกได้ และเรื่องราวในธรรมที่จำได้ ปรากฏอยู่ชั่วขณะจิต เมือ่สภาพธรรมนั้นปรากฏ
อันนี้เรียก เกิดในปัจจุบัน
ไม่เข้าใจว่า สัญญาของน้าเอกเป็นเรื่อง เกิดก่อนธรรมปรากฏรึเปล่า -
คุยไรกันไหมฟังไม่รุเรื่อง
-
หมายถึง เธอจงพิจารณาอย่างนี้......
ไม่ใช่ไปหาคำว่าเบื้องต้น แล้วบอกนี่ไง เขียนอยู่ชัดๆ ^^
งั้นคงต้องขอความรู้น้าเอกแล้ว
ช่วงแสดง เหตุ ไปถึง ผล ของจิตงอกลับตามที่เข้าใจหน่อยสิ
พิจารณาอย่างไร เอาตั้งแต่หายใจเลย -
สูญตาสมาธิ อนิมิตอะไรทำนองนี้ถูกไหม
คุยจบไปแล้วนี่ ช่วนนั้น นายหลงก็มีอารมณ์พิจารณาอนัตตาอยู่ ถูกไหม
ที่นี้เรื่องที่โจทย์ว่าโง่ ไม่เห็นไตรลักษณ์เป็นปัญญา นี้คิดเอาเองรึเปล่า
สาธยายลำดับญาณ ก็เหน็บว่าพูดไรซ้ำๆ
ปัญญามันเกิด ตั้งแต่ รูปนามปริเฉท มันก็เป็นลำดับขึ้นไป
คำว่าภูมิ หมายถึงขณะนั้นมีอะไรที่พิจารณาเป็นอารมณ์
เช่น น้าเอกอาจจะได้ไตรลักษณ์ญาณ มองอะไร พิจารณาอะไรมันก็เป็นอารมณ์ไตรลักษณ์
คำว่า นอกศาสนา เป็นคำพูดพล่อย ถูกไหม
ส่วนมากปราฏฏอยู่ต้นประโยค แล้วกลางประโยค ก้จะแสดงภูมิตนที่รู้
จบด้วยสำทับ คำที่แสดงว่าเขาต่ำกว่าตน เป็นการปิดรูปประโยค
วัฒนธรรมแบบนี้ วางไปเถอะ ขอธรรมเนื้อๆ ^^ -
ให้ไปแล้วไง มาเขียนขอะไรอีกหละ
แปลกคน -
-
งอกลับ ถอยกลับ.. เขาใช้ตั้งสองคำ
เมื่อเช้าไปหาต้นมณฑาทิพย์มาปลูก ยังไม่มีดอก
หาภาพในเน็ตมาฝาก
บางคนว่า ดอกเล็กเป็นมณฑาทอง ดอกใหญ่เป็นมณฑาทิพย์
บางคนว่า ดอกเล็กเป็นมณฑาทิพย์ ดอกใหญ่เป็นมณฑาทอง
-
คำ พอมีอธิบาย เทียบปฏิบัติที่ไม่ก้ำเกินกัน มันตรง ไม่ติดอะไร. ความจริงตรงไหนก็จริง
-
สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU
ความเห็น...
อนิจจสัญญาเป็นเหตุให้รู้จัก อนัตตา ถ้าไม่ผ่านอนิจจสัญญาก็พิจารณาอนัตตสัญญาไม่ได้
*******************************
ขยาย..
อนิจจสัญญาเป็นเหตุให้รู้จัก อนัตตา
ให้รู้จักหมายถึง รู้ถึงจิต จิตรู้จักอนัตตาจริงๆ ไม่ใช่รู้จักแบบ ตรึกนึกคะเนถึง อนัตตา
ถ้าไม่ผ่านอนิจจสัญญาก็พิจารณาอนัตตสัญญาไม่ได้
ที่จริงจะว่าพิจารณาได้ก็ได้ แต่เป็นอนัตตาแบบ วิปัสนึกตรึกเอา จิิตไม่รู้จักอนัตตาจริง ไม่ถึงจิต ไม่มีอนัตตสัญญาจริงให้ระรึก
หน้า 10 ของ 18