//// เจริญอานาปานสติแล้วจะมีผลอย่างไร ////
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย xeforce, 13 พฤษภาคม 2014.
หน้า 2 ของ 3
-
-
ฟัง หลวงพ่อ สงบ ก็ดีเหมือนกัน..
นานๆ มีมาที แต่ ทุกครั้งที่มา เทศน์ถึงใจ ดีแท้.. -
อานาปานสติ เป็นยอดแห่งกรรมฐาน..
จะเดินมาสายไหน สุดท้ายปลายทาง ก่อนที่จะข้ามฝั่ง..
ต้องมาพบกันที่ อานาปานสติ.. -
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อรากยังมั่นคง
แม้ต้นไม้จะถูกตัดแล้วมันก็สามารถขึ้นได้อีก ฉันเดียวกัน
เมื่อบุคคลยังไม่ถอนตัณหานุสัยขึ้นเสียจากดวงจิต
ความทุกข์ก็เกิดขึ้นอีกแน่ๆ
ภิกษุทั้งหลาย ! น้ำตาของสัตว์ที่ต้องร้องไห้
เพราะความทุกข์โทมนัสทับถม
ในขณะที่ท่องเที่ยวอยู่ในวัฏฏสงสารนี้
มีจำนวนมากเหลือคณา
สุดที่จะกล่าวได้ว่ามีประมาณเท่านั้นเท่านี้
กระดูกที่เขาทอดทิ้งลงทับถมปฐพีเล่า
ถ้านำมากองรวมกันไม่ให้กระจัดกระจาย
คงจะสูงเท่าภูเขา
บนพื้นแผ่นดินนี้จะไม่มีช่องว่างเลยแม้แต่นิดเดียวที่สัตว์ไม่เคยตาย
ปฐพีนี้เกลื่อนกล่นไปด้วยสัตว์ที่ตายแล้วตายเล่า
เป็นที่น่าสังเวชสลดจิตยิ่งนัก
ทุกย่างก้าวของมนุษย์และสัตว์เหยียบย่ำ
บนกองกระดูก
นอนอยู่บนกองกระดูก นั่งอยู่บนกองกระดูก
สนุกสนานเพลิดเพลินอยู่บนกองกระดูกทั้งสิ้น"
...............................
พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน โดย อ.วศิน อินทสระ
-
ทุกคนเห็นเกิด และตาย แต่ก็ไม่ได้ตระหนักอะไรเลย
-
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
สังสารวัฏฏ์นี้เต็มไปด้วยเพลิงทุกข์นานาประการ
โหมให้ร้อนอยู่โดยทั่ว
สัตว์ทั้งหลายยังวิ่งอยู่ในกองทุกข์แห่งสังสารวัฏฏ์
ใครเล่าจะเป็นผู้ดับ
ถ้าทุกคนไม่ช่วยกันดับทุกข์แห่งตน
อุปมาเหมือนบุรุษสตรีผู้รวมกันอยู่ในบริเวณกว้างแห่งหนึ่ง
และต่างคนต่างถือดุ้นไฟใหญ่อันไฟลุกโพลงอยู่ทั่วแล้ว
ต่างคนต่างก็วิ่งวนกันอยู่ในบริเวณนั้น
และร้องกันว่า ร้อน ร้อน !!!!
ภิกษุทั้งหลาย !
ครานั้นมีบุรุษผู้หนึ่งเป็นผู้ฉลาดร้องบอกให้ทุกๆ คน
ทิ้งดุ้นไฟในมือของตนเสีย
ผู้ที่ยอมเชื่อทิ้งดุ้นไฟก็ได้ประสบความเย็น
ส่วนผู้ไม่เชื่อ
ก็ยังคงวิ่งถือดุ้นไฟพร้อมด้วยร้องตะโกนว่า ร้อน ร้อน อยู่นั่นเอง
ภิกษุทั้งหลาย !
เราตถาคตได้ทิ้งดุ้นไฟแล้ว
และร้องบอกให้เธอทั้งหลายทิ้งเสียด้วย
ดุ้นไฟที่กล่าวถึงนี้
คือกิเลสทั้งมวล อัน เป็นสิ่งที่เผาลนสัตว์ให้เร่าร้อนกระวนกระวาย"
-
#สร้างเอง ทุกข์เอง นักเลงพอ
งานนี้เจ้ามือกินเรียบครับ -
อาตมาได้รับความชุ่มเย็นแล้ว..
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี.. -
"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"
-
อาตมาได้รับความชุ่มเย็นแล้ว..
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี.. -
"จงสงบเถิดนี่แหละเรา"
-
ในคำว่า "เรา" ชี้ไปที่ทุกดวงจิตดวงวิญญาณ ล้วนเสมอกันด้วยธรรม..
ล้วนมีอมตะเป็นที่หยั่งลง มีนิพพานเป็นที่สุด.. -
-
หลวงตา เทศน์ได้ถึงใจ โดยแท้.. -
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
เครื่องจองจำที่ทำด้วยเชือก เหล็กหรือโซ่ตรวนใดๆ
เราไม่กล่าวว่าเป็นเครื่องจองจำที่แข็งแรงทนทานเลย
แต่เครื่องจองจำคือ บุตร ภรรยา และทรัพย์สมบัตินี่แล
ตรึงรัดมัดผูกสัตว์ทั้งหลายให้ติดอยู่ในภพอันไม่มีที่สิ้นสุด
เครื่องผูกที่ผูกหย่อนๆ แต่แก้ได้ยากคือบุตร ภรรยา และทรัพย์สมบัตินี่เอง
รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะนั้นเป็นเหยื่อของโลก
เมื่อบุคคลยังติดอยู่ในรูปเป็นต้นนั้น
เขาจะพ้นจากโลกมิได้เลย
ไม่มีรูปใดที่จะรัดตรึงใจของบุรุษได้มากเท่ารูปแห่งสตรี"
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย !
ผู้ยังตัดอาลัยในสตรีไม่ได้ ย่อมจะต้องเวียนเกิด เวียนตายอยู่ร่ำไป
แม้สตรีก็เช่นเดียวกัน ถ้ายังตัดอาลัยในบุรุษไม่ได้ย่อมประสบทุกข์บ่อยๆ
กิเลสนั้นมีอำนาจควบคุมอยู่โดยทั่ว ไม่เลือกว่าวัยใด และเพศใด
................................
-
ฝากพระคุณเจ้าฐานธมโม พระสูตรนี้ไว้นะครับ เมื่อหลุดจากการถูกจองจำด้วยโซ่ตรวน ซึ่งหลายๆคนทำได้ยากแล้ว ฝากพระสูตรนี้ให้ครับ ถือโอกาสที่ดีในจะทำให้พ้นจากการเกิดตายในชาตินี้ อนุโมทนาด้วยครับ
-
พอแก้ได้แล้วนั้นละ ถึงจะเข้าใจแจ่มแจ้งกับคำว่า.. "เบาใจ สบายใจ" อย่างแท้จริง..
พอแก้ได้แล้วนั้นละ จิตใจจะเกิดปีติอย่างแรงกล้า และ เมตตาจะกลายเป็น เมตตาอัปมัญญา.. -
อาตมา สร้างบารมี มาทาง ฯลฯ..
ไม่ใช่ ฯ..
อาตมา ยังต้องทำตามปณิธาน ที่ตั้งไว้ นะ โยม นะ..
อาตมา ปรารถนา โพธิญาณ..
อาตมาปฏิบัติเพื่อให้รู้แจ้งในวิถีจิตของเหล่าสัตว์..
อาตมาไม่ได้ปฏิบัติเพื่อเป็นอะไร หรือ ให้ได้อะไร..
นะ โยม นะ.. -
หากอาตมาชี้ให้ว่า.. "นิพพานอยู่แค่ปลายจมูก" โยมจะเชื่อมั๊ย?
หากอาตมาชี้ให้ว่า.. "นิพพานอยู่แค่ปลายจมูก" โยมจะกล้าปฏิบัติเพื่อพิสูจน์มั๊ย?
หากอาตมาชี้ให้ว่า.. "นิพพานอยู่แค่ปลายจมูก" โยมจะหาเจอมั๊ย? -
หน้า 2 ของ 3