นั่นคือการ
เปรียบเทียบ
ให้เข้าใจว่า
สุขอย่างนิพพาน
คือสุขอย่างไร
นะขอรับ
หากละ
โลภโกรธหลงได้
ในชั่วขณะจิตนั้น
จิตที่สุขสงบ
มันเป็นเช่นไร
หากปรารถนา
อยากจะสุข
อย่างนี้นานๆ
ให้ละซึ่งความ
โลภโกรธหลง
นั้นเสีย
ละได้100%
และหมดกรรม
เมื่อไหร่เมื่อนั้น
ก็จักถึงนิพพาน
ละได้ชั่วครั้ง
ชั่วคราว
เป็นการขัดเกลา
จิตใจขอรับ
ซึ่งเป็นสิ่งที่ควร
กระทำเป็นอย่างยิ่ง
เจอของจริงวิ่งหนีป่าราบ
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Angel_Of_Dream, 27 กรกฎาคม 2008.
หน้า 10 ของ 33
-
-
แล้วมันต่างกันตรงไหน ดูที่ธรรม อย่าสนใจกับรูป เหอๆๆ อย่าติดสมมติครับท่าน -
-
ได้ อรหันต์เมื่อไหร่ อย่าลืมมาโปรดผมด้วยล่ะ
แต่ตอนนี้ นั่งหันซ้ายหันขวาไปก่อนแล้วครับ ท่าทางยังอีกนานโขอยู่
ก่อนอื่นต้องปรับให้ได้สัมมาทิฏฐิก่อนนะ
ไม่เริ่มที่สัมมาทิฏฐิ มันก็เสียไปทั้งขบวน หุๆๆๆ -
5555 งอนอีกและ คนแก่ขี้งอน มีด้วยรักและคิดถึงด้วย โอ้จอร์ช
;aa21 ;aa50 ;40 -
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 16 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิมุตติ, เพียงนาม+, แพน้อย, jinny95, nong_music, to2504, ขออภัยในบางลีลา, คีตเสวี+, ฐาณัฏฐ์+, ต้นสักใหญ่, พายุทะเลทราย </TD></TR></TBODY></TABLE>เย็นๆ นี่คึกคักจัง ไอ้ผมรึก็ต้องรีบกลับ
วัยรุ่นเซ็ง เหอๆๆ หุๆๆๆๆ อิๆๆๆ แง้วๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ -
คุณกำหนดคุณวิมุตติคนแรก แล้วคุณก็กำหนดผมเป็นเวรที่สองละกัน
จะได้อนุโมทนา ตอนนี้ไม่ใช่ ก็ขอสงวนนะ
เอ..แต่ของผมนี่ เอาธรรมาสอนนะครับ อย่ามาล้างกัน -
-
555
-
ในนี้มีจอมยุทย์หญิงบ้างไหมครับ หุหุ
-
-
1. สรุปว่า คุณบุคคลทั่วไป ฯ หรือ คนอื่นๆ จะทำอย่างไร
2. lisy ว่าการที่เราทำตามความถูกต้อง เป็นสัมมาทิฐิ ( สะกดถูกไหม ) มันน่าจะชอบด้วยธรรม หรือว่ามีใครเห็นแตกต่าง lisy ว่าสังคมในปัจจุบันแยกไม่ออกแล้วระหว่างถูก-ผิด จะเป็นชอบ - เกลียด หรือพวกเธอหรือพวกฉัน
lisy ว่ามันน่าจะนำธรรมมาประยุทธ์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ lisy ถึงอยากรู้ว่าพี่ๆคิดอย่างไร ไม่ตอบก็ได้นะคะ ถ้าคิดว่า lisy บีบให้ต้องตอบ
แต่... lisy ยังอยากรู้อ่ะ
dencee -
น่า การเมืองมันยุ่งเหมือนยุงตีกันนั้นแหละ
แก้ด้วยอะไรรู้ไหม ก็ด้วยการ ภาวนาเจริญสติ นั่นแหละ
ลองพิจารณาดูนะ คนอื่นเขาสัยสน แต่เราสงบ ทำงานได้ต่อ
แบบนี้ดีไหม
คนอื่นเขาชะงักงันหมด ธุจกิจไม่เดิน แต่เราเป็นเฟืองเล็กๆ ที่ยังหมุน
ภาคธุรกิจต่อเนื่องไม่หยุดลง แบบนี้ดีไหม
และคำตอบนี้ ก็ใช้ได้กับองค์กรทุติยภูมิ(บริษัท) ด้วย -
ถ้าจะไปกับผมนี้ ชาตินี้มีสิทธิตายฟรีนะเอ้า -
-
เอาอย่างงี้ คุณ lisy ผมขอแนะนำหนังสือสองเล่ม
สองเล่มเท่านั้นนะ อย่ามากกว่านี้ อันนี้เป็นการขยายคำสอนของผม
ถ้าคุณคิดว่า แนวทางของผมพอใช้ได้ ก็ต้องไปอ่านแบบขยายดูก่อน
เล่มแรก คู่มือมนุษย์ ของท่านพุทธทาส เล่มละ 20 บาท
ถ้าไม่ใช่ราคานี้ไม่ให้ซื้อ จะเป็นเรื่องการอยู่กับปัจจุบันขั้นปริยัติ
เล่มที่สอง เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน เล่ม 2 ของคุณดังตฤณ เล่มสอง
เท่านั้นนะไม่ต้องอ่านเล่มแรก จะเป็นเรื่องดูจิตล้วนๆ(อยู่กับปัจจุบันขั้นปฏิบัติ)
ลองดูนะ
อ้อ ขั้นปฏิเวธ นี่ คุณต้องน้อมดูสิ่งที่คุณพอมีอยู่แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจ -
ครับเราควารู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา ตามความสามารถที่เรามีอยู่น่ะครับ เอาเท่าที่ได้ ไม่ถึงกับต้องบังคับว่าต้องตลอด มันจะรู้บ้างเผลอบ้างตามสติที่มีนะครับ ให้เป็นแบบธรรมชาติ ไม่งั้นถ้ากำหนดมากไปแต่สติเรายังน้อยมันจะไม่เบาและกลายเป็นกังวลไป แทนที่จะเบาจากการปฏิบัติธรรมจะกลายเป็นยึดธรรมแล้วทำให้ตัวเองหนักโดยธรรมไปครับ ^^
การเถียงเจ้านายนั้นเถียงได้นะครับ แต่ควรให้ถูกต้องตามหลัก สัปปุริสะธรรม ๗ เอ่อ เป็นอย่างไรน่ะหรือ จดไว้แล้วเอาไปกูเก้ลนะครับ ผมมอบให้เป็นการบ้านครับ ^^
คร่าว ๆ ก็ได้ คือคุณควรดูตามเหตุตามผลนะครับ อันนี้ใช้ปัญญาทางโลกมาคิดประกอบได้ คนที่เราจะเถียงนั้นเถียงได้ไหมสถานะเราควรวางตัวอย่างไร ถูกต้องตามกาละเทศะ กล่าววาจาชอบด้วยเมตตาเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในทางสร้างสรรค์มิใช่ทำลาย
การงานทุกอย่างจะเห็นได้ว่าถ้ามีสติเข้ามาประกอบแล้วจะไม่ค่อยก่อให้เกิดผลเสียตามมาน่ะครับ ^^ -
-
วันนี้ดี พรุ่งนี้ แงว แงว
แล้วธรรมจะเสถียรได้อย่างไร.. -
ครับ ผมตัวโน้มต่ำ เพราะยอมให้คนอื่นแขยงสูง
ส่วนตัวจริงเป็นเช่นไร อันนี้ต้องถามคุณสันโดษนะ หุหุ
หน้า 10 ของ 33