ก็ธรรมดาครับ คนมันมีดีแค่นี้ พูดให้ดูดีเชียว พูดง่ายๆ ก็ ดีแต่พูด
หรือ ถ้าคำไม่สุภาพหน่อยก็ คน......ชอบติ
ไม่งั้นจะได้ฉายา ลูบๆคลำๆ หรอครับ เศ้รา
เทวดานางฟ้าหน้าตาเป็นยังไง แต่งตัวยังไง หน้าออกแนวยุโรปหรือเอเชีย ??
ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 13 มกราคม 2014.
หน้า 6 ของ 6
-
... มันคือ " บททดสอบด้านจิตใจ ที่อาจดูโหดร้าย แต่ถ้าผ่านได้เขาจะกลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธคนหนึ่ง " .. ที่ช่วงหนึ่ง กาลีนะ หายไปก้เจอสภาวะ เครียด กดดัน ต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่พอสมควรในช่วงที่หาย ๆ ไปนั้นแหละคะ ดีแต่ว่าควบคุมได้ดีขึ้น แล้วยังมีภาระทางครอบครัวด้วย ..
-
คนนครพนมที่พบหลายๆท่านมีความสามารถทางด้านภาษาเป็นพิเศษค่ะ
อีกไม่กี่วันก็ถึงเทศกาลนมัสการพระธาตุพนมแล้วนะคะ:cool::cool: -
-
เพี้ยนครับ ดัสเชส เนี่ย เข้ามาก็ด่าคนไทย ผมทะเลาะกับแม่นางนี่ก็เพราะ นางด่าชายไทยนี่ล่ะครับ ไม่เข้าใจเกลียดคนไทยแล้วเจ๊แกจะเข้ามาเล่น เว็บไทยทำไม ทำไมไมไปเล่นเว็บ อาลีอับดุลจาเราะ ณ จะแงะ คราวที่แล้วนางทะเลาะกับผม 1 กระทู้ ผมกด "ไม่เห็นด้วย" แค่กระทู้เดียว นางล่อไปกดทุกกระทู้ทุกข้อความของผม แล้วยังไปฟ้อง mo ว่าผมรังแก ผมโดนแบนไป1เดือน (แอบเคืองโมหน่อยๆ) นี่ไม่ได้ตั้งกระทู้หรือตอบมานานละ เพราะเดี๋ยว mo เค้าจะแบนผมอีก เพราะคุณ ดัสเชส เค้าบอกว่าเค้ากระทู้ อนุโมทนาเยอะ เค้าเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชายไทยมารยาททราม เห็นเจ๊แกทะเลาะกับใครทีไรต้องบอกว่า ผู้ชายไทยมารยาททรามทุกครั้ง ต้องจับไปอยู่ตึกบุษราคัม รพ.ธัญญารักษ์
-
ตอนนี้เค้าคงใส่เสื้อสีขาว จุดเทียน อยู่ที่ไหนสักแห่ง 555+
-
แต่ ที่ เห็นมา ผู้หญิงไทย ตาม ตจวที่ ทำงานกรมาชีพจำนวนมาก มีแต่ ลูก ติดสามี แต่ไม่มีสามี และเลี้ยงลูกคนเดียว เยอะมาก..... เพราะถูกผู้ชายมามีอะไรด้วยแล้วทิ้ง ก็มันเยอะจริงๆคนละเมิดศีล คนทำแท้งก็เยอะด้วย ให้ยกข้อมูล มาอ้างอิงก็ เดี๋ยวโดนด่าอีก
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=661480 -
-
ผมไม่เคยรู้จัก คุณ ดัชเชส เป็นการส่วนตัว...แต่เท่าที่อ่านเรื่องราวแล้ว ก็ได้ความรู้ในแง่มุมต่างๆ ของวิถีชีวิตชาวยุโรป ได้ดี...
เรื่องราวที่ถกเถียงกันนั้น ผมก็อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง ด้วยไม่น่าสนใจสักเท่าไร...
คณะที่ผมเรียนจบมา...ค่อนข้างถือสาเรื่องการวางตัวกับผู้หญิง เราเชื่อว่า ลูกผู้ชาย จะไม่ต่อปากต่อคำกับผู้หญิง...ถึงพวกเราจะอยู่รวมกลุ่มกันที่สามแยกปากหมา แต่เราจะไม่พูดจากระแนะ กระแหน เหน็บแนมผู้หญิง เนื่องเพราะเราเชื่อว่า นั่นไม่ใช่วิธีการของลูกผู้ชาย แน่นอนว่าพวกเรารังเกียจตุ๊ด แต่ไม่กล้าพูดออกไป อาจด้วยกลัวว่าลูกเกิดมาจะเป็นตุ๊ดเสียเองก็เป็นได้...เมื่อเพื่อนผู้หญิงต้องกลับดึก พวกเราหลายๆคนจะเดินทางไปส่งถึงหน้าบ้าน เราไม่ไปส่งสองต่อสองเพื่อป้องกันคำครหาที่จะทำความเสื่อมเสียให้ผู้หญิง ถ้าไม่มีรถยนต์ขับไปส่ง ก็จะแห่ขึ้นรถเมล์ไปส่งถึงหน้าบ้าน ที่เรามั่นใจว่าจะปลอดภัยสำหรับเพื่อนผู้หญิงของพวกเรา...มันเป็นวัฒนธรรม
ด้วยประสบการณ์ของแต่ละคนที่ผ่านมาในชีวิตแตกต่างกัน การมีแง่คิดมุมมองที่แตกต่างกันย่อมเป็นเรื่องธรรมดา อะไรที่จะทำให้ขัดแย้งกัน อ่านแล้วก็ผ่านไป ไม่ต้องโดดเข้าเอาตัวไปคลุกกับสิ่งนั้น มันก็ไม่แสบร้อนแต่อย่างใด...
ถ้าผมจะด่าบ้างว่า ผู้ชายไทย งี่เง่า เอาแต่ใจ เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้...ผู้ชายยุโรป สปอร์ตกว่าเยอะ... ผู้ชายคนไหนไม่ได้เป็นเช่นนี้ จะไปเดือดร้อนทำไม...
แล้วถ้าผมจะบ่นให้ฟังว่า ผมมาอยู่เมืองไทยเพียง 2 อาทิตย์ กลับไป ผมโดนแขกรุมกันด่า หาว่าลูกน้องผมไปเป็นชู้กับเมียเขา ... นี่ลูกน้องอยู่กับผมมาตั้งแต่ยุคแรกๆ มองหน้าก็รู้ว่ามันทำจริง แต่อายุปูนนี้แล้ว แก่กว่าผม จะทำอะไรลงไปโดยไม่คิดคงเป็นไปไม่ได้แล้ว นี่คือคิดแล้ว และตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง ซึ่งเมียแขกคนนี้ก็เป็นผู้หญิงไทย พากะเทยไทยไปเปิดร้านนวดบังหน้า ซึ่งเดิมผมก็เข้าใจว่านวดจริงๆ มารู้ทีหลังว่า เอากะเทยไทยไปค้ากาม คนพวกนี้อาศัยชื่อผมไปขอเช่าอพาร์ทเมนต์เปิดร้านนวด แล้วทำเช่นนี้ สุดท้ายผมต้องย้ายหนี...ผมถูกด่าทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนทำ...ผมก็ไม่ว่าอะไรนะ...
ผู้หญิงอีกคนนึง ก็ออกตระเวณไปกับแขก เปลี่ยนผู้ชายคืนละ 3 คน...มันก็เรื่องของเขา แต่ว่าอย่ามายุ่งหรือมาเข้าใกล้ที่พักผม อันนี้ผมไม่อนุญาต มันก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น จนในท้ายที่สุดผมก็บอกว่าผมเป็นคนจีนไปซะ ไม่ใช่คนไทย ก็หมดเรื่อง ไม่ต้องไปทนฟังเสียงด่า...
ตอนหลังนี่ผมไม่คบคนไทยในต่างประเทศเลย แม้แต่คุณดัชเชสถามว่าผมอยู่ประเทศอะไรผมยังไม่กล้าบอกเลยนะ...ผมรู้จักคนไทยมากขึ้นก็เมื่อได้มาอยู่ต่างประเทศนี่เอง...
แม้แต่หญิงไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ ทั้งอังกฤษ สวีเดน เยอรมัน ถ้าไปดูว่าอาชีพก่อนหน้านั้นทำอะไรมา...ส่วนใหญ่เราเห็นกริยาก็บอกได้...เพียงแต่ว่าจะพูดไปทำไม? พูดเพื่ออะไร? แล้วมันได้อะไรขึ้นมา?
อีกเรื่องนึงที่อยากขอไว้ คือ การอ้างเอาธรรมะของพระผู้มีภาคเจ้า มาเพื่อใช้ยกตนข่มท่าน หรือด่าคนอื่น คำสอนหลวงพ่อดีๆ แต่ถูกเอามาใช้เพื่อเป็นอาวุธทิ่มแทงผู้อื่น อาการอย่างนี้ขออย่าได้ประพฤติเลยครับ เพราะมันไม่ต่างอะไรกับ พวกปีศาจคาบคัมภีร์ หรอกครับ -
คือเราไม่ค่อยสนใจชีอ่ะนะ ไม่ว่าชีจะพูดเรื่อง ผี กสิณ ฤทธิ์เดชอะไรๆ
แต่ชีตามกดไม่เห็นด้วยโดยไม่บอกเหตุผลในกระทู้ของเราทั้งเรื่องธรรมะ การเมือง มานานเป็นปีๆ โดยเราไม่ค่อยสนใจ
แต่หนักเข้ามาก ก็เลยเกิดความสนใจชีขึ้นมา ตามกดไม่เห็นด้วยกับเม้นท์ของชีบ้าง แต่เราให้เหตุผลนะ คือคงไม่กดไม่เห็นด้วยเล่นๆแต่ต้องเม้นท์ด้วย คนเขาจะได้พิจารณา..ด้วย
..ทำไมชีโดนกระทู้เดียว? (ซึ่งอาจเป็นเรื่องวิบากกรรมโดนคืนบ้างก็ได้..?) ถึงไปอาฆาตพยาบาทผู้อื่นเสียได้ ตามกดเขาเข้าไปซิ แต่จะว่าไป อาจเป็นเรื่องปกติของชีก็ได้ ก็ขนาดคนไม่ยุ่งกับชี ชีก็ยังสร้างวีรกรรมตามกดไม่เห็นด้วยกับเขาไปทั่ว เลยเรียกแขกให้มาสนใจชีกันยกใหญ่..
...ลองค้นเม้นท์ของดัชเชทดู(ชอบใช้อดีตร่วมพิจารณาด้วยคงไม่เอาแค่ที่เห็นปัจจุบัน) ..เลยได้เห็นว่าชีสร้างวีรกรรมกับคนไม่น้อยเกือบทุกห้อง แช่งแชักหักกระดูกเขาไปเมื่อเขาโต้ตอบรุนแรงบ้าง ทั้งๆ ชีมักว่า ว่าชีเป็นผู้มีศีลห้า เป็นผู้มีความสุข ผู้คนเอ็นดูรักใคร่.. -
เพิ่งเข้ามา ก็เห็นเธอโดนแบนรอบ 3 แว้ว สงสัยไปด่าผู้ดูแลเว็บป่าวเนี่ย
-
เรื่องมันเป็นอย่างไรก็ไม่รู้หรอกนะ เพราะนานๆเข้ามาทีและดูไม่กี่กระทู้ก็พอจะรู้ว่าทะเลาะอะไรกัน แต่เห็นกระทู้นี้มาลงหลุมดำก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกัน ท่าจะหนัก..
แต่ที่คุณปุณฑ์ กล่าวมานั่นชี้ให้เห็นต้นเหตุของปัญหาได้อย่างดีทีเดียวถ้าวางอารมณ์แล้วพิจารณาดูดีๆ ส่วนที่เหลือเป็นปัญหาของแต่ละคนในบอร์ดซึ่งปากไม่ค่อยดีและทิฏฐิมานะมากกันเยอะจริงๆ และก็โยงเข้าหากันจึงมีการลงสหบาทากันอยู่บ่อยๆ ซึ่งมีทุกบอร์ดและทุกประเทศ ไม่ใช่แค่ที่นี่ที่เดียว โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์สงคราม ที่มีคนทุกชาติเข้าไปอ่านและแสดงความคิดเห็น
ส่วนตัวกับคุณดัชเชสนี่ ครั้งแรกผมไปเม้นกระทู้เขาเรื่องอารยะธรรมของอาณาจักรอะไรสักอย่างที่มีการโยงมาหาศาสนาพุทธ ซึ่งพูดขัดไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่ฝรั่งเขาแสดงความคิดเห็น แต่ไม่ได้กดไม่เห็นด้วยอะไร แล้วเขาก็ตามไม่เห็นด้วยกับผมในกระทู้หนึ่งในห้องพุทธภูมิ ซึ่งตอนนั้นก็ยังงงๆอยู่ ก็เข้าใจว่ามันคงมีปัญหาอะไรกันในบอร์ดนี้กันมาก่อนแล้ว ตอนหลังรู้สึกไม่อยากยุ่งด้วยเท่าไหร่ เพราะรู้สึกเหนื่อยใจและน้อยใจที่เขาไม่เข้าใจความที่เราสื่อกลับไปคิดว่าไปหัวเราะเยาะเขาข่มเขาไปเสีย แต่ก็ไม่รู้ทำไม ถึงอดคิดถึงคุณคนนี้ไม่ได้ ช่วงต้นปีที่แล้ว ผมยังสวดมนต์ขอบารมีหลวงปู่ดู่แผ่ครอบวิมานให้อยู่เลย เพราะผมรู้ว่าคุณคนนี้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างจะเลวร้าย เรื่องที่เขาคิดลบก็มาจากผลของสถาพแวดล้อมของเขานั่นแหละ จริงๆอุปนิสัยและจริยาของคุณดัชเชสหลายอย่างเหมือนของผมชนิดเป๊ะๆ โดยเฉพาะในเรื่องรสนิยมความชอบ ผมเห็นที่เขาพูดคุยในบอร์ดหลายอย่างยังรู้สึกอย่างกับเห็นตัวเองในอดีต ซึ่งหลายอย่างแก้ไขไปแล้วและหลายอย่างกำลังแก้อยู่ ก็เข้าใจอยู่
เอาเป็นว่าคนทุกคนนั้นย่อมมีภาระต้องปรับคติและอารมณ์ของตนเองกันทุกคน ไม่ต้องไปว่าให้ใคร หรือไปลงสหบาทาใครในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ เพราะหลายๆคนที่ต่อว่าให้คุณดัชเชสก็ทำไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนที่จะเข้าบอร์ดขอให้ไหว้รูปสมเด็จองค์ปฐมกันก่อนทุกครั้งและตั้งความสำรวมไว้ในใจด้วย ให้เกรงใจท่านบ้าง
แต่เรื่องกสิณนี่ ถ้าคุณดัชเชสได้เข้ามาก็ฝากไว้ว่า ตามคำสอนของหลวงปู่ดู่พรหมปัญโญที่ฝากผ่านหลวงตาม้า ในสมัยก่อนหลวงตาม้าท่านกล่าวว่า อยากจะมีฤทธิ์ จึงเข้าไปหาหลวงปู่ดู่หลวงปู่ก็ไม่สอนให้ ท่านว่า "การฝึกกสิณนั้นเอ็งจะต้องไปฝึกกับครูบาอาจารย์ที่เขาได้จริงๆ(ที่เขาช่ำชองจริงๆ) เอ็งจะเรียนกับข้าข้าก็ไม่สอนให้หรอก ข้าจะให้เอ็งสวดมนต์ภาวนาเท่านั้น สร้างกำลังของตัวเองไปจะมีประโยชน์กว่า..." ผมจำคำพูดสดๆของหลวงตาได้เท่านี้ แต่จริงๆหลวงปู่ดู่ท่านเปรียบถึงอิทฤทธิ์และบุญฤทธิ์ ชี้ให้เห็นว่าต้องทำอะไรก่อนเป็นหลัก คืออิทธิฤทธิ์ในยุคอย่างนี้ไม่จำเป็น ที่จำเป็นคือบุญญฤทธิ์ แต่จะฝึกก็ได้เพียงแต่ว่า ตามที่คนที่เขาฝึกกันและได้ผลดี เจนจัดกัน เท่าที่ผมได้ฟังมาจากพระหลายรูปท่านว่า จะฝึกกสิณนี่จะต้องทำอารมณ์ให้ผ่องใส จะคิดเล็กคิดน้อย คุยนั่นคุยนี่กับใครก็ไม่ได้ ฝึกกันเป็นปีก็ต้องทรงอารมณ์เก็บอารมณ์กันทั้งปี ไม่งั้นมันจะเป็นโทษ และการใช้ฤทธิ์ไปสร้างโทษให้ใคร ผมกรรมจะทวีคูณหลายเท่าแม้กับสัตว์เดรัจฉาน สุดท้ายนี้ก็ขอกล่าวว่าให้ลืมความคับแค้นใจเสีย มุ่งหน้าปฏิบัติดีเพื่อความรุ่งโรจน์ข้างหน้าดีกว่า สิ่งที่ปรารถนาจะสำเร็จได้ด้วยดีและได้ไวอีกด้วย
ผมก็บ่นๆระบายไปงั้นแหละ ถ้าใครขัดเคืองก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย -
... แต่มันก็จะมีพวกหวังรวยทางลัด .. รักสบาย .. เบื่อหน่ายความจำเจของชีวิตคู่ที่เป็นอยู่ .. เบื่อความลำบาก .. เลยตัดสินใจ " เอากายแลกเงิน " จนเกิดเป็นค่านิยมขึ้นมาเป็นความโก้เก๋ มีหน้ามีตาในสังคม อะไรที่เคยทำไม่ดีไว้ก็จะไม่มีใครกล้าเอามาพูดนินทา
.... เหตุทุกสิ่งก็เกิดจาก " ความอยากของคน " และ " อำนาจของเงิน " ที่ทำให้เป็นไปนั้นเอง มันเป็นธรรมดาไปเสียแล้วด้วยคะกับเหตุการณ์ตอนนี้
.... ครั้นจะนำเรื่องแบบนี้ออกมาพูดในห้องธรรมมะ มันก็ดูไม่สมควรควรมีขอบเขตที่เหมาะสม อย่าใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล อาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นคะ
.... แต่จากสถานการณ์ในกระทู้ที่เกิดขึ้นในตอนนี้คงยาวคะ ... ตราบใดที่ทุกฝ่ายยังไม่รู้จักคำว่า " ให้อภัย " และ " ยอม " อาจมีเสียหน้าบ้างนิดหน่อย ...
..... แต่ด้านคุณดัชเชสถ้ายอมลด " ทิฐิของตนเอง " ลงให้มากจะดีต่อคุณเอง และ เส้นทางสายธรรมที่คุณเลือกเดินนะคะ กาลีนะ เคยบอกคุณไปเมื่อนานว่า " สิ่งที่คุณสะสม " มันเป็นของมีอาถรรพ์ มีวิญญาณในด้านลบ และ คำสาป อยู่มาก มันจะมีผลต่อสภาวะจิตใจของคุณเองในภายหน้า และ เป็นอุปสรรคต่อคุณ .... หวังว่าจะลองนำคำแนะนำนี้ไปคิดพิจารณาให้ดีนะคะ ส่วนทางออกของตอนนี้นั้นอยู่ที่ตัวคุณแล้วละคะ คุณเป็นคนที่มีความพิเศษอยู่ในตัวหลายอย่าง อยากให้คุณเปลี่ยน " ไฟ ที่กำลังลุกไหม้เผาใจคุณ ให้กลายเป็น น้ำเย็นใสสะอาด " แล้วความสุขจะบังเกิดที่ใจของคุณคะ อย่าทำให้คนที่คุณรักแลรักคุณต้องเป็นห่วง และ ทุกข์กับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เลยคะ.
หน้า 6 ของ 6