ดาวซิริอุส หรือดาวสุนัขใหญ่
ดาวซิริอุส (อังกฤษ: Sirius) มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งในภาษาไทยว่า ดาวโจร<SUP class=reference id=cite_ref-14>[15]</SUP> เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในตอนกลางคืนและสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีค่าระดับความสว่างอยู่ที่ -1.47 ซึ่งสว่างเกือบเป็นสองเท่าของดาวคาโนปัส ดาวฤกษ์ที่สว่างเป็นอันดับสอง ชื่อ ซิริอุส มาจากภาษากรีกโบราณว่า Σείριος มีชื่อตามระบบเบเยอร์ว่า อัลฟา คานิส เมเจอริส (α Canis Majoris หรือ α CMa) ความจริงดาวที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่าว่าเป็นดาวดวงเดียวนั้นเป็นระบบดาวคู่ ประกอบด้วยดาวสีขาวในลำดับหลัก (Main Sequence) ประเภท A1V ชื่อว่า ซิริอุสเอ (Sirius A) กับดาวแคระขาวสีจาง ๆ ในประเภท DA2 ชื่อว่า ซิริอุสบี (Sirius B)
การที่ดาวซิริอุสเป็นดาวที่สว่างที่สุด นอกจากความสามารถในการส่องสว่างของมันเองแล้ว มันยังอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ของเรามาก คือห่างไปเพียง 206 พาร์เซก (ประมาณ 8.6 ปีแสง) ระบบดาวซิริอุสถือว่าเป็นระบบดาวเพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุดกลุ่มหนึ่ง ดาวซิริอุสเอมีมวลประมาณ 2 เท่าของดวงอาทิตย์ และมีค่าความสว่างสัมบูรณ์ เท่ากับ 1.42 หรือคิดเป็น 25 เท่าของความสว่างของดวงอาทิตย์<SUP class=reference id=cite_ref-age_15-0>[16]</SUP> แต่มันก็ยังมีความสว่างต่ำกว่าดาวฤกษ์สว่างดวงอื่น เช่น คาโนปัส หรือ ไรเจล ระบบดาวซิริอุสมีอายุเก่าแก่ราว 200-300 ล้านปี<SUP class=reference id=cite_ref-age_15-1>[16]</SUP> แต่เดิมประกอบด้วยดาวสีน้ำเงินสว่างสองดวง ดวงที่มีมวลมากกว่าคือ ซิริอุสบี เผาผลาญเชื้อเพลิงจนหมดและกลายเป็นดาวแดงยักษ์ ก่อนจะหดตัวลงและกลายเป็นดาวแคระขาวเช่นในปัจจุบันตั้งแต่เมื่อ 120 ล้านปีที่แล้ว<SUP class=reference id=cite_ref-age_15-2>[16]</SUP>
ดาวซิริอุสเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในอีกชื่อหนึ่งว่า ดาวสุนัขใหญ่ สื่อถึงชื่อกลุ่มดาวที่มันสังกัดอยู่ คือ Canis Major (ภาษาละติน แปลว่า สุนัขใหญ่)<SUP class=reference id=cite_ref-16>[17]</SUP> เป็นดาวที่มีเรื่องเล่าตำนานและนิทานพื้นบ้านเกี่ยวข้องมากมายยิ่งกว่าดาวฤกษ์อื่นๆ นอกเหนือจากดวงอาทิตย์ การปรากฏของดาวซิริอุสที่ขอบฟ้ายามรุ่งสาง เป็นสัญลักษณ์บอกฤดูน้ำหลากของแม่น้ำไนล์ในอียิปต์โบราณ และเป็นวันสำคัญคือ "วันสุนัข" ในฤดูร้อนของกรีซโบราณ ส่วนชาวอาหรับเผ่าคุซาอะหฺก่อนอิสลามกาลก็ได้สักการะบูชาดาวดวงนี้ โดยเรียกว่า อัชชิอฺรอ ส่วนชาวโพลินีเชียนใช้ในการระบุการเข้าสู่ฤดูหนาว ทั้งยังเป็นดาวสำคัญที่ใช้นำทางสำหรับการเดินทางในมหาสมุทรแปซิฟิก
หมายเหตุ เจ๊เติมให้นะคะ จากความรู้ทางภาษาละติน งูๆ ปลาๆ บอกว่า Canis แปลว่า สุนัข สังเกตจากศัพท์อังกฤษที่นำละตินมาใช้คือ Canine แปลว่า สุนัข (ส่วน Feline = แมวเหมียว)
เปิดบ้านแวมไพร์
ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DevaIsis, 29 ธันวาคม 2010.
หน้า 6 ของ 9
-
ใครอยากรู้จักกับแวมไพร์ตัวจริงเข้ามาที่นี่เลยครับมีข้อมูลครับครัน
Click Here -
ฉะนั้น จึงโยงกลับมาที่ แวร์วูฟ อีกครั้ง
จากข้อมูลที่เจ๊เอามาโพสต์ พระบัญญัติ 10 ประการ อยุ่ใน หีบพันธสัญญา อันตั้งอยู่ที่ พระราชวังชีบา ที่เอธิโอเปีย
ซึ่งพระราชวัง ออกแบบให้สอดคล้องกับ ดาวซิริอุส หรือ ดาวหมาใหญ่ (คล้ายกับพระราชวังของพระสุริยวรมัน ปราสาทหินพนมรุ้ง ที่สอดคล้องกับ จุด Equinox ทั้งสองช่วงของปีคือ Winter Soltice & Summer Soltice..เจ๊สอบได้แอสโตร เกรด เอ หุ หุ ---ขี้คุย ชิ๊กกก)
ดังนั้น พวกแวร์วูฟ จะต้องเกี่ยวกับ หีบพันธสัญญา แน่ แน่ เลย (จับโน่น นี่ มาผสมกัน ตามแบบฉบับ คนขี้สงสัย)
-
ขอถามหน่อยนะคับแวมไพร์ เป็นอมตะจริงหรอคับ
;aa34 -
ข่าวลือบอกว่า แวมไพร์เป็นอมตะ แต่ช้าก่อนนะคะ ความอมตะ ไม่มีในพระพุทธศาสนา
ที่เป็นเช่นนี้ เจ๊จะขอท้าวความ เรื่องของท้าวผกาพรหมฯ ผู้ที่พวกเรา เชื่อกันว่า ท่านเป็นอมตะ
จนกระทั่ง ลืมไปเลยว่า ต้นกำเนิดของตนเองนั้น คืออะไร
ต่อเมื่อได้ฟังพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ท้าวผกาพรหมฯ จึงเข้าใจว่า อมตะนั้นไม่มี
มีแต่การ เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
ทางออกทางเดียวของการ จบวัฏจักร ก็คือ การบรรลุมรรคผลนิพพาน
นี่แหละคือเรื่องเล่า เกี่ยวกับ หัวข้อ อมตะ
อมตะที่สุดนั้น คือ อมตะธรรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นเองค่ะ -
เฮ้อ...เจ๊อ่ะ มานั่งโทษตัวเอง ฉลองปีใหม่เลยล่ะ เนื่องจาก ความใจร้อน วู่วาม ด่วนตัดสินคนอื่น และพฤติกรรมเดิมๆ อีกมากมาย ในกมลสันดานของเจ๊
ปีใหม่แล้ว อยาก โล๊ะทิ้ง ให้หมด ก็ไม่ทราบว่า จะมีบุญวาสนา สาปส่งนิสัยชั่วร้ายต่างๆ ทิ้งไปทันปีใหม่หรือไม่ นี่ก็วันที่ 4 แล้ว เจ๊ก็เริ่มแก่ลงทุกวัน ทุกวัน สันดานชั่วๆเกาะเต็มไปหมด
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อให้เพื่อนๆ ในเว็บ ลองอ่านอีกมุมมองของความรู้อันน้อยนิดของเจ๊ ไม่มีเจตนาอวดรู้ อวดฉลาดอะไร
จึงขอให้เข้าใจทั่วกัน หากเรื่องใดตอบไม่ได้ เกินความสามารถ ก็ขอให้ท่านที่มีความรู้ มาช่วย เสริมโน่นนิด นี่หน่อย แล้วกันนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณจากใจจริงๆ
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=VascyLfpNrI"]YouTube - Buckcherry-Sorry Lyrics[/ame] -
memories
just memories gathering and scattering all around
when i knock the forbidden door
bang bang
not dare to keep it all opened
not dare to close it all as well
between the gate, i found myself stunned
and petrified
kept standing all alone in the darkness
until you come
and show me the way
I dare to step forward
again...
so thank you thank you thank you
-
เค้าไม่เก่งภาษาอังกฤษ หาภาษาไทยมาหน่อยสิ หุหุ
-
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับ
-
ชอบ ชอบ ขอดัน นิด
-
เจ๊ลองเข้าไปอ่านแล้ว ไม่เหมือนสังคมแวมไพร์ที่เจ๊รับรู้เลย
-
สายใยความทรงจำ ที่เชื่อมกับ วิชั่น/เดจาวู สำหรับคนที่ใช่
หัวข้อนี้ จัดว่าเป็นเรื่อง ผี ผี เช่นกัน เหตุเพราะ แฟนต่างมิติของเจ๊ ถูกเรียกว่า ผี บ้างก็เรียกว่า แวร์วูฟ หรือ เอเลี่ยน ขึ้นกับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล
เพื่อนๆ เคยสงสัยมั้ยว่า เอ...ทำไมคู่ครอง หรือ เพื่อนสนิทของเรานั้น บางคนเหมือนกับว่า คลับคล้าย คลับคลา ว่าเคยเจอกันมาแต่ชาติปางก่อน คนบางคน เช่น คู่อริของพวกเรา ทำไมพวกเราเหม็นขี้หน้ามันอย่างกระทันหัน ตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักกันเลย วันนี้ เจ๊มีคำตอบค่ะ
ความทรงจำนั้น จะมีสายใยเชื่อมโยงสีขาวๆ คล้ายกับในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ดัมเบิ้ลดอร์ เก็บข้อมูลความทรงจำไว้ ในรูปแบบของเส้นใยแมงมุมสีขาว แล้วเก็บไว้ในหลอดแก้ว พอจะดึงออกมาใช้ ก็หยิบออกมา อันนี้เรียกว่า การเก็บข้อมูลที่ไม่ใช้แล้ว โล๊ะทิ้งออกจากสมอง สำหรับพวกที่มีอายุยืนยาว หลายร้อย หลายพันปี แต่สำหรับมนุษย์อย่างเรา คงไม่มีความจำเป็น เพราะช่วงชีวิตสั้น
ทีนี้ เรื่องราวมีอยู่ว่า แฟนของเจ๊นั้น เวลาที่มา รวมญาณด้วยกันแล้ว เจ๊พบว่า เส้นใยสีขาวๆ นี้ ที่เคยมีบางช่วงที่ขาดหายไปนั้น เขามาเติมให้เส้นใยสีขาวเต็ม ครบถ้วนสมบูรณ์
อาทิเช่น เจ๊ระลึกชาติได้ขาดตอนเป็นบางช่วง พอเจ๊มาเชื่อมญาณกับแฟน เจ๊พบว่า ช่วงเวลาที่ขาดหายไปนั้น เขามาต่อจิ๊กซอว์ มาเติมภาพ ให้ครบถ้วน เพอร์เฟค เจ๊เห็นตัวเองในสภาพใส่ชุดอียิปต์โบราณเลยล่ะ
แบบนี้ ภาษาไทยเราจะเรียกว่า เนื้อคู่ลำดับต้นๆ ส่วนในกรณีของเนื้อคู่เทียมนั้น ส่วนใหญ่จะไม่สามารถต่อจิ๊กซอว์ได้ หนำซำยังทำให้ วิชั่น หรือ เดจาวู นั้นหดหายไป บางคนเป็นคู่เวรคู่กรรมกัน ก็ทำให้อีกฝ่าย วิปลาสบ้าบอ ชดใช้เวรกรรมกันไปเลย (เห็นมาเยอะแล้ว พวกที่เป็นคู่เวร คู่กรรม คบกันไป ตบตีกันไป เชือดคอตาย ยิงตาย กระโดดตึกตาย ไปเยอะแยะ) -
ต่อ...
ฉะนั้น การเลือกคู่ครอง ให้เจอเนื้อคู่อันดับต้นๆ นั้น ควรจะลองตรวจสอบการเชื่อมญาณ/รวมญาณกันก่อน รวมทั้งตรวจเช็คพลัง+ออร่า จึงจะเป็น การใช้สมอง มากกว่า การปล่อยให้ ฮอร์โมนขับเคลื่อนแต่เพียงอย่างเดียว
ยกตัวอย่างเช่น แฟนเจ๊สามารถเชื่อมญาณได้ แต่พลังและออร่าของเขานั้น ยังอ่อนไป ยังไม่ แข็งแรงเท่าที่ควร
ผลเสียของการที่พลัง+ออร่า ไม่เท่ากันระหว่างคู่ครองนั้น อาจทำให้
1.ฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด ป่วย โดยไม่ทราบสาเหตุตลอด
2.ฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด มีอารมณ์หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน โดยไม่ทราบสาเหตุ
3.ฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด เกิดอาการ จิตตก จมอยู่กับความเศร้าหมอง เก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร ทั้งที่แต่ละวัน ก็ไม่มีเรื่องใด รบกวนจิตใจ
บางราย ก็เกิด ฆ่าตัวตาย โดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กน้อย
ฉะนั้น พวกเราที่มีสมองและไม่ปกติเหมือนเจ๊ (เจ๊เดินไปไหน คนก็ว่า ติงต๊อง) ควรจะทำการเช็คออร่า และพลังจิตของคู่ครองเสียก่อนที่จะตัดสินใจร่วมชีวิตด้วย
พลังจิตที่ไม่สูงมากไป หรือต่ำไปของคู่ครอง(ของคนไม่ปกติอย่างพวกเรานั้น)ควรจะมีการ ปรับจูน แต่งเครื่อง เพื่อให้สอดคล้องหรือ Harmonize กัน ให้สมดุลกัน จนไม่เกิดอาการทั้ง 3 ข้างต้น
สรุปว่า คนที่พิสดาร (เช่น เจ๊ เป็นต้น) การหาคู่ครองนั้น เหมือน งมเข็มในมหาสมุทร เพราะ หนึ่งในร้อย หนึ่งในล้านเท่านั้น ที่จะไม่รบกวนการปฏิบัติ ไม่ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย และไม่ทำให้ จิตตก สับสน
หากเพื่อนๆ ท่านใดเหมือนเจ๊ ลองใช้หลักการที่เขียนข้างต้น ก่อนจะตัดสินใจเลือกคู่ครองตามแรงขับเคลื่อนของฮอร์โมนและสัญชาติญาณ เปลี่ยนมาใช้สมองสักนิด ก็จะ โป๊ะเช๊ะ เจอเนื้อคู่อันดับต้นๆ มิใช่คู่เวรคู่กรรม นะค๊า
-
มอบให้ นราสภา
แรกทะเลาะโลดโผนโจนทะยาน บู๊ล้างผลาญค่อนแคะเจ็บแสบทรวง
สับกะโหลกโป๊ะเช๊ะเจ้าพุ่มพวง ไฟโชติช่วงร้อนแรงทิ่มแทงใจ
ช้าก่อน...นราสภา...น้องน้อย มาเกี่ยวก้อยถ้อยแถลงเถิดแขไข
อ่านดูก่อนค่อยวิจารณ์เร่งไปใย ทางแสนไกลภายภาคหน้าค่อยก้าวเดิน
หากพี่ผิดพี่จะยอมให้โขกสับ พี่จะรับโทษทัณฑ์ไม่ขัดขืน
แม้ต้องกลั้นน้ำตาฝืนตายืน จะไม่ฝืนบ่ายเบี่ยงเลี่ยงโจษจัณฑ์
แต่หากน้องลองพินิจถ้อยแถลง พี่พลิกแพลงแจงเจ้าแสนแสบสันต์
กระเทาะปอกลอกเนื้อในทีละอัน น้องยาพลันฉุกคิดได้ใยเปลืองตัว
ด้วยถ้อยคำร้อนรนที่พ่นพิษ นั้นรอนริดปัญญาส่องสลัว
ไม่ต้องเอาตัวเองไปเกลือกกลั้ว คนอ่านทั่วชั่วหรือดีขจรไกล
จึงอยากชวนน้องน้อยมาฟูมฟัก สานสมัครร้อยรักเรียงเคียงคู่ใจ
ต่อจากนี้จงเบิกบานจิตแจ่มใส ก้าวต่อไปไกลแสนไกลพี่น้องกัลป์ฯ
มอบให้จากใจพี่ไอเองค่ะ
5 มกราคม 2554 -
สงสัยผมกับแฟนจะเป็นคู่เวรคู่กรรม ทะเลาะกันแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็อยู่กันมา 10 ปีแหละ 555+ ตกลงคู่แท้ หรือคู่เวรคู่กรรม :cool: -
พวกฝรั่งน่ะ เป็นพวกไม่ค่อยหยุมหยิม พอมาเจอน้ำจิ้มแจ่วบ้านเรา โอ้โห...แฟนคนไทยรสแซ่บ ลองสังเกตฝรั่งที่ชอบส้มตำซิคะ ของคุณคงออกแนวนี้ ;)
-
การฝึกสมาธิด้วย เพนดูลัม Pendulum
เอามาฝาก มันก็คือ ลูกตุ้มบ้านเรานั่นเองค่ะ
หัวข้อนี้ ไอเอามาให้เพื่อนๆ ฝึกการควบคุมระดับสมาธิ และโฟกัสไปที่วัตถุ ที่ไวต่อการเคลื่อนไหวทางกลไก Mechanism
เริ่มจากการหาซื้อลูกตุ้ม (สงสัยเพื่อนผู้ชายไม่ต้องหาซื้อกระมัง...555) แล้วเอามาล้างด้วยน้ำสะอาด ทั้งน้ำร้อน และน้ำเย็น แล้วเก็บไว้ใกล้ๆ ตัว เพื่อให้ลูกตุ้มน้อย น้อย ซึมซับพลังงาน และคุ้นเคยต่อพลังงานของผู้ครอบครอง
จากนั้น หาสมดุลของลูกตุ้ม ซึ่งจะมีความไวต่อการเคลื่อนไหว หรือ movement ของพวกเรามาก ฉะนั้น การควบคุมให้ไม่ไหวติง จึงเป็นเรื่องที่ใช้สมาธิสูง คล้ายการถือเบ็ดตกปลา ต้องนิ่ง โดยพยายามหาจุดศูนย์กลางมวลสาร CM,Center of Mass หรือจุดศูนย์ถ่วง Center of Gravity (CG) เทคนิคนี้ ต้องพยายามรวมมวลสารของลูกตุ้มเข้ากับร่างกายของเรา ผสานให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เรียกได้ว่า เป็นการรวมสมาธิผสานเข้าด้วยกันค่ะ
หากไม่สามารถทำให้นิ่งได้ ก็พยายามถือให้นิ่ง แม้ลูกตุ้มจะเคลื่อนไหว ก็ปล่อยมันไป ในเว็บที่ไอเข้าไปสอดแนมนี้ มีการตั้งคำถามให้ลูกตุ้มด้วย เช่น ใช่/ไม่ใช่ คำตอบจะออกมาเองค่ะ
ประการสำคัญของบทเรียน ลูกตุ้มนี้ ไออยากนำเสนอในด้านที่แตกต่างจากคลิปนี้ คือต้องการเน้นไปที่ การรวมสมาธิเข้ากับลูกตุ้ม เพื่อให้เพื่อนๆ ฝึกความนิ่ง แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลง การขยับทิศทางของลูกตุ้ม เลียนแบบการเพ่งเปลวเทียน ที่เคลื่อนไหวตามทิศทางลม
จึงขอตั้งชื่อว่า กสิณเพนดูลัม หรือกสิณลูกตุ้มค่ะ
อ้าว...ใครมีลูกตุ้มแล้ว ยกมือขึ้น
ตามมาเลยค่ะ Lesson 4 – How to develop Your Intuition With The Pendulum
เป้าหมายของการฝึก คือ เพื่อปลดล๊อคกายใน ให้สามารถสื่อสารกับผู้เป็นเจ้าของได้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า unlock your inner psychic self ค่ะ
การถือ ลูกตุ้ม มี 2 วิธี
1. การแกว่งลูกตุ้ม เพื่อสร้างพลังงานเชื่อมโยงระหว่าง ร่างกายของเราและลูกตุ้ม
2. การถือลูกตุ้มให้นิ่ง นิ่ง เป็นการฝึกควบคุมการผสานร่างกายและวัตถุ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ประโยชน์จากการฝึก ดังที่กล่าวแล้ว เป็นการปลดล๊อค และสื่อสารกับการใน และปลุกเร้าการสื่อสารกับพลังงาน
หมายเหตุ วิธีการสร้างลูกตุ้มด้วยตนเอง คือการนำเชือกที่มีความยาว 10นิ้ว-25ซม. มาร้อยกับตัวน๊อตโต โต ก็จะได้ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหนค่ะ ประหยัดอีกด้วย
ใครชอบยกมือขึ้น พรุ่งนี้ ไอจะมาต่อนะคะ -
ฝึกประสาท หู กับเสียง 3 มิติ
มิใช่ภาพ 3 มิตินะคะ แต่เป็น เสียง 3 มิติ หรือที่เรียกกันว่า binaural sound
เป็นการเปิดประสาทหู ให้รับต่อคลื่นเสียง รอบทิศทาง
เจ๊เอาตัวอย่างมาให้ หาหูฟังดี ดี แล้วเปิดเสียงให้ดังที่สุดนะคะ
นี่คือ ตัวอย่าง การกระตุ้น การได้ยิน ของโสตประสาท นั่นเองค่ะ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=QbOmya3X4kw]YouTube - true 3d sound [ holoacoustic ] demonstration[/ame]
หากชอบ พรุ่งนี้จะหามาให้ใหม่นะคะ
-
และรับรู้ถึงความรู้สึกของเสียงได้พอสมควร บางครั้งนึกว่ามีใครมาทำอะไรข้าง ๆ หู
ประมาณนี้หรือเปล่า
หน้า 6 ของ 9