เมื่อคืนค่ะ....(สอบถามอารมณ์กรรมฐาน)

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย เด็กหัวโต, 26 ตุลาคม 2013.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณจงอ่านโดยใช้วิจารญาณ อย่าพึ่งเชื่อตามคำบอกเล่าของข้าพเจ้า อย่าคิดว่าข้าพเจ้าขัดหรือคัดค้านในสิ่งที่คุณปฏิบัติอยู่
    การปฏิบัติของคุณ จะเรียกว่าเป็น กสิณ อย่างหนึ่งก็ได้ แต่มันเป็นกสิณที่ทำให้ร่างกาย ทำงานมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะผ่อนคลาย แลควบคุมความคิด อารมณ์ ความรู้สึก
    อาการที่คุณเล่ามาทั้งหมด เกิดจากการปฏิบัติแบบ กำหนดคำว่า "หยุบหนอ พองหนอ"นั่นแหละ ทำให้เกิด อาการซึ่งในทาง "ฌาน"(ชาน) เรียกว่า "วิตก วิจารณ์" เพราะคุณ ยกจิตเข้าสู่อารมณ์ คือ นำจิตให้ไหลตามความต้องการในสมองของคุณ โดยที่คุณไม่รู้ตัว
    การปฏิบัติ แบบกำหนด หยุบหนอ พองหนอ ใช้ระบบประสาทมาก คือ ต้องกำหนดสองอย่างในเวลาเดียวกัน หรือต้องแบ่งแยกสมาธิ เป็นสองอย่าง คืออย่างหนึ่ง อยู่ที่ท้อง อีกอย่างหนึ่ง อยู่ที่ความคิด ทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้น แทนที่จะผ่อนคลาย และควบคุมความคิด กลับกลายเป็นกระตุ้นความคิด ถ้าหากยังปฏิบัตินานๆไป ระบบร่างกายจะหลั่งสาร ทำให้เกิดอาการเครียด นอนไม่หลับ แม้จะไม่คิดสิ่งใดเลย ก็จะนอนไม่หลับ หลับแต่ตา อย่างเดียวเท่านั้น อย่างนี้เป็นต้น
    เมื่ออ่านแล้ว ก็ใช้สมองสติปัญญาคิดพิจารณาด้วยตัวเองเถอะขอรับ เพราะการปฏิบัติสมาธิ มีหลักการอยู่หลายรูปแบบ แต่ละแบบก็ขึ้นอยู่กับการใช้และสถานะการณ์สิ่งแวดล้อม
    ถ้าหากข้าพเจ้าจะบอกว่า "การปฏิบัติ แบบหยุบหนอ พองหนอ" ไม่ถูกวิธี ผู้ศรัทธาในการปฏิบัติ รูปแบบ หยุบหนอ พองหนอ ก็อาจจะออกมาคัดค้านคำกล่าวของข้าพเจ้า ด้งนั้น คุณพิจารณาตามคำบอกของข้าพเจ้า ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการ ปฏิบัติสมาธิ ว่า "สมาธิ คือ อะไร" แล้วคุณก็จะหาวิธีหรือหลักการปฏิบัติซึ่งมีอยู่แล้วได้ด้วยตัวเองขอรับ
     
  2. เด็กหัวโต

    เด็กหัวโต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +18
    ยินดีเป็นอย่างมากค่ะ ที่จะได้รับความรู้ต่างๆที่หลากหลาย อาจจะไม่เหมือนกับความคิดของหนูตอนนี้ หนูเข้าใจค่ะ และอยากให้อธิบายมาอีกด้วยซ้ำค่ะ อยากจะทำความเข้าใจให้กระจ่างชัด เพราะในการปฏิบัติก็เกิดความไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่างเช้นกัน ถ้าไม่เป็นการรบกวน อยากทราบเหตุผลอีกหลายๆข้อเกี่ยวกับ ยุบหนอพองหนอ ได้ไหมค่ะ (อนุโมทนา สาธุค่ะ) คุณ telwada

    ขอบคุณค่ะ
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ตอบให้สั้นๆ

    สักแต่ว่ารู้ อยู่กับ ผู้รู้ ไม่ต้องส่งจิตออกนอก ไปตามดูอาการต่างๆครับ

    อาการต่างๆนาๆ ที่ ใจ รู้สึก ไม่ต้องไปสนใจ ใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

    ถ้าผ่านตรงนี้ไปได้ จิตสงบ สงบจน จิตเข้าสมาธิ จิต จะเข้าสมาธิได้ครับ




    จิตรวม ลงสมาธิ จิตเข้าสมาธิ ครับ อยู่ได้ไม่นาน ขึ้นอยู่กับ กำลังของจิต ครับ ถ้าจิตมีกำลังมาก ก็อยู่ได้นาน

    ละอีกส่วนนึงคือ ช่วงที่ จิตเข้าสมาธิอยู่ ถ้าเกิด นิวรณ์ เข้ามาแทรก เช่น วิจิกิจฉา สงสัย หรืออื่นๆ แทรกเข้ามา ก็จะหลุดออกจาก สมาธิ ครับ

    จะให้ทรงไว้ได้นานๆ

    1.จิตต้องมีกำลัง หรือก็คือ ปฏิบัติ ทุกๆวัน ทุกลมหายใจเข้าออกทั้งวัน ไปเรื่อยๆ ไม่ส่งจิตออกนอก ไม่เอา กำลังจิต ไปใช้เรื่องอื่นๆ ต่างๆนาๆ

    2.อย่าให้ นิวรณ์ 5 เข้ามาแทรก


    เรา ปฏิบัติ สมาธิ จริง แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่า

    การนั่งหลับตา นั่งทน นั่งนาน ถึงจะหลับตา แต่ ใจไม่สงบ ต่างๆนาๆ

    กับการที่นั่งสมาธิ จนจิตสงบ จิตรวมลงเข้าสมาธิ


    ทำสมาธิเหมือนกัน แต่ผลไม่เหมือนกันครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2013
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ความจริงแล้ว ข้าพเจ้าเคยสอนไว้หรืออธิบายไว้เกี่ยวกับฝึกสมาธิแนวต่างๆ ส่วนใหญ่ ผู้ดูแลมักจะลบทิ้งไป เพราะพวกเขาไม่รู้ คิดว่าข้าพเจ้าสติเฟื่องหรืออย่างไรนี้แหละขอรับ ข้าพเจ้าอธิบายให้เกิดความรู้ความเข้าใจได้ เพราะข้าพเจ้าเคยฝึกสมาธิมาทุกรูปแบบ ทุกสำนัก เท่าที่ประเทศไทยมีการสอนสมาธิอยู่

    การที่ผู้สอนสมาธิ ให้ใช้คำว่า "ยุบหนอ พองหนอ" โดยการกำหนดลม แต่ยึดเอาการพอง และยุบของท้องเป็นเครื่องยึดเหนียว และในการฝึกแบบ ยุบหนอ พองหนอ นี้ยังมีสอนต่ออีกว่า ถ้าได้ยินเสียง ได้สัมผัสใดใด ก็ให้นึกตามเช่น ได้ยินหนอ ปวดหนอ ฯลฯ อย่างนี้เป็นต้น แต่ในทางที่เป็นจริง การบังคับระบบประสาทในขณะนั่งสมาธิ จะทำให้ระบบประสาทผิดปกติ ตัวข้าพเจ้าเอง ยังเคยมีอาการคล้ายกับโรคพาร์กินสัน เพราะใช้สมองบังคับในการนั่งสมาธิ ดีแต่ว่าข้าพเจ้ารู้ และแก้ไข จึงไม่เป็นอะไร ที่กล่าวไปนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าประมาณเมื่อ ๒๐ - ๒๕ ปี ที่ผ่านมาแล้ว

    บางสำนัก ให้เดินจงกรม แล้วกำหนดว่า "ย่างซ้ายหนอ ย่างขวาหนอ" ซึ่งมันเป็นการใส่ข้อมูลให้กับสมองในทางที่ไม่ถูกต้อง เพราะการเดิน หรือการก้าวเท้าเดินไปแต่ละข้าง ส่วนใหญ่จะเป็นระบบประสาทอัตโนมัติ ถ้าหากจะเดินจงกรม ก็ไม่ควรกำหนดอย่างนั้น เพียง กำหนดสมาธิไว้ที่ลมหายใจเข้าออกก็เพียงพอ และไม่เป็นอันตรายต่อระบบประสาทอีกด้วย สมองก็ทำงานไม่มากนัก สมองทำงานเพียงจุดเดียวคือ ทำงานตรงลมหายใจเข้าออกเท่านั้น

    อนึ่ง คุณต้องทำความเข้าใจเอาไว้ว่า สมาธิ หมายถึง การที่มีจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน คือ ไม่คิด ไม่ระลึกนึกถึง ไม่เห็นภาพอเไรทั้งนั้น เมื่อได้รับการสัมผัส ต้องไม่คิด ไม่ไหลตาม นั่นแหละคือ สมาธิ
    ยังมีการฝึกสมาธิ รูปแบบอื่นๆอีก เช่นฝึกกำหนดให้เล็กได้ใหญ่ได้ อันตรายนะขอรับ ข้าพเจ้าถึงกับประสาทหลอนเลยขอรับ

    ฟังหูไว้หูนะขอรับ แต่ขอเตือนว่า ให้ฝึกปฏิบัติ ตามหลักการทางพุทธศาสนาที่แท้จริง หรือจะเรียกว่า ตามตำรานั่นแหละ อย่าออกนอกตำรา อย่าคิดเอาเอง จงอ่านตามตำราให้ดี ยอมสามารถสำเร็จได้ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ตุลาคม 2013
  5. ธรรมภูมิ

    ธรรมภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +142
    ความรู้สึกเปรียบดั่งปรมัตถธรรมอันน้อมนำสู่ลำดับในธรรมของพระพุทธองค์

    ในกาลก่อนยุคพระสมณโคตมพุทธเจ้าจนเข้ายุคสมัยของพระองค์ ธรรมะที่ปรากฏขึ้นในจิตปัจจุบันของพระพุทธองค์ขณะเจริญธรรมในสมาธิจิตนั้น มีอยู่ว่า พระองค์ทรงใช้การเฝ้าดูอารมณ์จิตของตนเองที่เกิดขึ้น,ตั้งอยู่แลดับไป ถึงแม้ในเบื้องต้นครานั้นพระองค์ทรงยังแยกแยะไม่แจ้งในเหตุปัจจัยที่มีอยู่ทั้งปวง แต่ด้วยพระบารมีแห่งจิตพุทธะที่เคยสั่งสมมาในกาลก่อน จึงมีญาณพระปัญญานำทางในสมาธิจิตตลอดสาย อานิสงค์ยังให้พระองค์ทรงรู้สึกว่า พระองค์ควรเป็นผู้เฝ้าดูอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น,ตั้งอยู่แลดับไปของจิตอยู่ห่างๆ รวมถึงนิมิตแลอาการต่างๆ ที่บังเกิดขึ้นกับกายสังขารนี้ของพระองค์ มิใช่เข้าไปร่วมปรุงแต่งใดๆ พระองค์ทรงตระหนักถึงสภาวะภูมิธรรมปัจจุบันของจิตตนว่ายังไม่แก่กล้าพอแลยังมองไม่เห็นหนทางเจริญธรรมที่มั่นคงแจ้งชัดในเบื้องต้น แลนิวรณ์อุปทานต่างๆ ยังมีอยู่มาก แต่ยามจิตพระองค์ทรงสงบนิ่งอยู่ในสมาธิจิตแลเป็นผู้เฝ้าดูสภาวะต่างๆ ไปสักวาระหนึ่ง จิตพระองค์จึงมองเห็นแลรู้สึกผ่านญาณวิปัสสนาเกิดเป็นญาณพระปัญญา ทรงเห็นแจ้งแลเข้าใจในสัจธรรมความจริงของจิตข้อหนึ่งว่า “จิตเอ๋ย เจ้าจงเป็นเพียงผู้เฝ้าดูอย่างสงบนิ่งในเบื้องต้นเถิด ยามแสงแห่งญาณปัญญาผุดแจ้งแล้วในจิต จิตจึงจักเห็นสัจธรรมอยู่เบื้องหน้าปรากฎมีอยู่แท้จริง” กล่าวคือ จิตจักเห็นสัจธรรมความจริงเพียงเบื้องหน้าเป็นปัจจุบัน แลเห็นสัจธรรมที่เคยแจ้งแล้วในจิตเพียงนั้น ธรรมในลำดับใดๆ ต่อไป หมายรวม ธรรมในเบื้องกลางในเบื้องปลายอันละเอียดกว่า อันจิตนั้นก็มิอาจถึงแจ้งได้ด้วยตัวจิตเอง เนื่องเพราะวาระจิตยังมิถึงพร้อมในเหตุปัจจัยแห่งธรรมอันเป็นพื้นฐานมั่นคงเพียงพอ ครั้นฝืนจิตพิจารณาธรรมอันละเอียดในลำดับต่อไป ก็มีเพียงอุปทานความคิดนิวรณ์กำเริบปรากฏเพียงถ่ายเดียว ไม่ตลอดสายดั่งแจ้งด้วยญาณปัญญา

    ครั้นในกาลก่อนที่พระสมณโคตมพุทธเจ้าจักตรัสรู้นั้น ก็ยังมิมีหลักธรรมหรือสัจธรรมคำสอนใดๆ บนแนวพื้นฐานแห่งญาณปัญญาประกาศเผยแผ่เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นแนวทางในการเจริญธรรมของจิตโดยแท้ ในยามนั้น พระพุทธเจ้าทุกพระองค์,พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์แลพระอรหันต์เจ้าทุกพระองค์ ก็ทรงเจริญธรรมเห็นสัจธรรมความจริงของจิตในสมาธิจิตเฉกเช่นเดียวกันในทุกพระองค์ เพราะเป็นวิถีแห่งธรรม เป็นสัจธรรมของจิต เป็นย่างก้าวที่มั่นคงแลแจ้งด้วยญาณพระปัญญาโดยแท้ สาธุ !

    พุทธะสู่ธรรมะ ธรรมะจิตสู่จิต
    ธรรมภูมิ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2013
  6. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    เข้ามา่อ่านพอดี เหนว่ากท.นี้น่าสนใจดี ก้เพราะน้องเขาถามได้ดี ดูแล้วน้องจขกท.ก้ทำได้โอเคระดับหนึ่ง... เผื่อว่าน้องเขามีอะไรดีๆมาถามอีก จะได้มาอ่านต่อครับ....
    ความคิด ความฟุ็้้็งซ่าน และความลัังเลว่าจะทำอะไร ชอบเข้ามาเวลาที่จิตคนเรากำลังจะเปนสมาธิอย่เรื่อยๆ

    เวลาเวทนาปวดเกิดขึ้น ก็ให้กำหนดดู กำหนดแปปๆไม่ยอมหาย ก็ให้กำหนดต่อไปอีก จะเหนอาการของมันเกิดดับ... ว่าปวดจริงๆแล้วนี่มันปวดแค่ไหนกัน... กายเราปวด พลอยทำให้จิตเราปวดตามกาย
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ขณะนั้นๆเป็นยังไง รู้สึกยังไง พึงกำหนดจิตยังงั้นๆ ตามที่เป็น ตามที่รู้สึกนั้นๆทุกๆขณะ ไม่ปล่อยให้ล่วงไปเฉยๆ

    ก็ธรรมดาสังขารมันเป็นยังงั้น มันก็เป็นยังงั้น หน้าที่เราคือต้องรู้จักมัน เราจะให้มันเป็นตามที่เราต้องการไม่ได้ ฝืนสภาพธรรมดา
     
  8. joolong

    joolong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +283
    เป็น อาการ ของ ปิติครับ ไม่ต้องไปสนใจ ภาวนา รักษาสติไปเรื่อยๆ
     
  9. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +3,243
    ความสงบคือความคิดชนิดหนึ่ง
    เหมือนอิชิตันเย็นเย็น

    สงบแรกอยู่บนพื้นโลกเกิดแก่เจ็ยตาย
    สงบที่สองขึ้นจรวดความเร็วแสง พุ่งแตะขอบจักรวาล
     
  10. Jsus Christ

    Jsus Christ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +82
    <Font style="background:yellow">
    ใน แต่ละ ระดับ ของความสงบ ขณะที่จิตเปลี่ยนสภาวะความสงบหนึ่ง เข้าสู่ความละเอียดมากขึ้น จะมีนิวรณ์ 5 เข้ามาปะทะ เสมอ

    บางครั้งมาในรูปของเวทนา เจ็บปวดซ้ำอีก
    บางครั้งมาในรูปของธรรมารมภ์ แน่นอึดอัดใจ

    เราเพียงรู้ว่า ความละเอียดกำลังจะเปลี่ยนระดับ และนิวรณ์5 กำลังจะเข้าแทรก
    เมื่อรู้จัก ธรรมก็จะยุติ เพียงเท่านี้
    </font>
     

แชร์หน้านี้

Loading...