ความหมายของสงฆ์ตามบทสวดอิติปิโสสามห้อง บทสุปฏิปันโนฯลฯ
ผู้ทำตามนั้นและเข้าถึง และเป็นสภาวะนั้น นั่นคือสงฆ์สาวก ผู้เป็นอนุพุทธะ
ที่ได้พิสูจน์ยืนยันผลได้ตามคำสอนพระพุทธเจ้า ไม่จำเป็นต้องโกนหัว ห่มผ้าไตรจีวร ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องแบบภายนอกใดๆ
ความทุกข์และปัญหาในชีวิต ทุกชีวิตต้องเจอ
เมื่อใครก็ตามคิดว่า ตนคืนผู้ศรัทธาและปฏิบัติตามคำสอนพระศาสดา
ก็ต้องประยุกต์ใช้ธรรมที่พระพุทธองค์และสงฆ์สาวกได้สอนไว้ มาเป็นเครื่องดับทุกข์ เป็นเรื่องปกติ
ทุกข์มีอยู่จริง ผู้ชี้ทางดับทุกข์มีอยู่จริง ทางพ้นจากทุกข์มีอยู่จริง ผู้พ้นจากทุกข์มีอยู่จริง แต่......ใครจะเชื่อและจะอดทนเดินตามทางพ้นทุกข์ได้ เท่านั้น
เมื่อเจอเรื่องแย่ๆในชีวิต นักปฏิบัติ เอาตัวรอดจากทุกข์กันยังไง?
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย xef0rce, 27 พฤศจิกายน 2020.
หน้า 5 ของ 6
-
NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
-
-
NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
เมื่อเป็นผู้ปกติดำรงสติ-สัมปชัญญะ ไว้ ยามที่กระทบเรื่องราวต่างๆภายนอก
ทั้งที่เป็นเรื่องปกติที่ต้องจัดการในชีวิตประจำวัน
ทั้งที่เป็นเรื่องที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความทุกข์มากกว่าปกติขึ้นในใจ
ทั้งที่เป็นเรื่องที่สามารถทำให้ลุ่มหลงสร้างกรรมผูกมัดตนเองไว้ในวังวน
ฯลฯ
จะเกิดสติ-ปัญญา ที่จะจัดการกับชีวิตตนเองได้ ว่าจะดำรงสภาวะจิตใจ
ของตนอย่างไร จะสรรหาทางมาจัดการกับปัญญาต่างๆอย่างไร
อันเป็นเรื่องเฉพาะตนว่า ใครถนัดวิธีไหนตามลำดับ หลังจากดำรงสติสัมปชัญญะไว้ได้ -
แต่ทุกข์กะไม่เพิ่มขึ้น55 -
NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
-
NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด
ผู้มีสติ-สัมปชัญญะ ฝึกอบรมมาดีแล้ว มีปกติที่จะปล่อยวางเหตุของทุกข์ และความน่ายินดี เพลิดเพลิน ได้ในชีวิตประจำวัน พลาดบ้าง หลงเพลิน หลงยึดไปบ้าง เห็นความจริงและปล่อยวางได้บ้าง แต่อาศํยที่กระทำบำเพ็ญจนเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ความชำนาญก็มีมากขึ้น
ยามที่มีทุกข์เกิดที่ใจ จะสาวไปถึงเหตุของทุกข์และปล่อยวางเหตุได้เร็วขึ้น
บางคน มีปัญญาเห็นชัดว่า เพราะเหตุคือหลงยึดขันธ์ห้านี้เป็นตัวเรา มีกำลังใจตัดอุปาทานได้ ก็ดับทุกข์ที่เข้าถึงใจได้เร็ว แม้เรื่องที่มากระทบจากภายนอกแม้ยังมีอยู่ตามวิบากกรรม ตามเหตุปัจจัย
บางคน เบนความแรงของกระแสเรื่องราวที่มากระทบ โดยไปรับกระแสอื่นชั่วคราว
เช่น ไปเที่ยว ไปกินดื่ม ไปดูหนังฟังเพลง พอผ่อนคลายและตั้งสติฯได้บ้างก็ค่อยคิดหาวิธีแก้ไข ตามรูปแบบต่างๆ
บางชีวิต เก็บกด ปรุงแต่งภายในทางลบมากขึ้นๆ จนสติปัญญามืดบอด แล้วทำในสิ่งที่ทำลายชีวิตตนเอง
**********ขอสรรพชีวิตที่ได้โอกาสดี เกิดมาพบพระพุทธศาสนา จงพบหนทางที่ถูกต้อง แล้วดำเนินไปจนกว่าจะเข้าถึงกระแสแห่งการพ้นทุกข์************** -
แรกๆ เราก็จะต้องรู้เสียก่อนว่า
ทุกข์คืออะไร และเกิดจากอะไร
เมื่อเกิดทุกข์ขึ้นมา ก็ให้เรา พิจารณาอยู่เนืองๆว่า
ทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะ กฏแห่งกรรม
ที่เราไปทำคนอื่นเอาไว้ก่อน
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเองเฉยๆ -
ฝึกเจริญปัญญากันหน่อยนะโยม..
เมื่อปัญญาเจริญแล้ว ปัญญารู้รอบ รอบรู้แล้ว ทุกข์ก็ไม่มี:) -
"นตฺถิ ปญฺญา สมา อาภา" -
ตื่นมาทุกข์ยังอยู่อ้าวทำงัยต่อดีละที่นี้55
-
ในแง่ชีวิตจริง ยังเบื่อสลับกับอยาก มีความกลับกลอกในตนเองอยู่
ผมก็อาศัยการรู้เห็นตามความเป็นจริงนี้หละว่าเบื่อนี้ยังไม่จริง
หากเบื่อจริงจนคลายกำหนัด บลาๆๆ ต้องไม่กลับมาอยาก
แล้วก่อตัณหา อุปาทาน ได้อีกครับ -
ผมไม่เคยสงสัยนะ
เพราะลองมาหมดแล้ว
แต่ที่ไม่กำจัดกิเลสเป็นสมุทเฉท
เพราะคนเรามีเหตุผลเป็นของตัวเอง -
เพราะ จขกท ป่านนี้ รวยจากนำเข้าเครือง cnc
ในเขต eec ไปแล้ว มั้ง(หายไปหลายปีแล้ว)
ไม่ใช่ให้ไปทำ เบื่อให้จริง
เบื่อ เปน อาการประจำ ของจิต
เหน เบื่อ ด้วยความเปน สภาวะอย่างหนึ่ง
มีประจำ จิต
ทำสม่ธิ ได้ ฌาณ เดี๋ยว ก้เสื่อม
เพราะจิต มันต้องเบื่อ อิ่มอารมณ์ที่เสพ
เหน เบื่อ เกิด ดับ
เท่ากับ สังเกต อาการจิตเกิดดับ
จิตมันเบื่ออารมณ์ เอาเข้าจริง
ก้เพราะ เวทนา มีปรกติดับ ภพอันเลิศ
ยาวนานอย่างฌาณก้มีวันลาโรง
( ส่วนมาก ตกจากชั้นพรหม ก้ลง
นาหญ้าขึ้นรก ที่เปนเทวดา มะนุด
ต่อ มีน้อย )
ฉันท จึงดับ
ถ้า เพียรเพ่ง การดับ ก้จะ แจ้ง ว่าจิตนั่นเองเกิดดับ
พอเหนตามจริงแบบนี้ จะไม้ต้องไปเน้น เบื่อจริง
เบื่อไม่จริงอีก เพราะ แจ้งทุกขสัจจ จิตเกิดดับ
เปนธรรมดา
พอเขียนอีกที ด้วยบัญญัติ เบื่อ เพราะ
ว่า สาวไปเหนเหตุได้ จึง ไม่มีกลับกลอก
ไปเน้นเรื่อง เบื่อจริง ไม่จริงอีก จึงเรียก คลายกำหนัด
ตามเหนการสลัดคืนจิต เปลื้องจิต หนึ่งครั้ง
ได้แค่ หนึ่งรอบการภาวนา อานาปานสติ
ภาวนาต่อให้มากๆ
ก้จะ พยากรณ์ตนได้ ตามหลักไมลที่
ศาสดาทรงอนุเคราะห์ให้เปน ป้ายบอกทาง
จนไปเจอ รอยเท้าลูกไก่ตัวพี่ ในอากาศ -
รีบๆ ภาวนา นะฮับ
ก่อน มหา ยุทธยา ครองเนื้อเวป -
เกิดดับ เกิดๆดับๆ 55คงใกล้จะบ้าล่ะ ทำตัวให้มีความสุขดีกว่ามั้ง
-
ถ้ามีศีลครอบไว้กะไม่มีปัญหาอะไรครับ55
เราจะเห็นจิตพยายามเข้าไปเกาะส่วนสุดแต่ละด้าน
หมายเหตุขี้พิมพ์ฟังเพลงง่ายดี55 -
มะใช่ คนเคยๆ สมัย 59 โน้น....( สับสน โลโก้ อะฮับ forceๆ เหมือนกัน )
คุงโรบิงก็ ต้มมาม่ารอ จขกท มาตอบละกัน
แหะ แหะ -
เกิด ดับ แล้ว ทั้งๆที่เห็นอยู่ ว่า สุขนั้นมักสั้น
ก็ยังคง สำคัญว่า มันจะยาว เลยจม ภาพฝัน
ความสุขสั้นๆแบบ นกกระจิบ สำเภาโล้
การระลึก ภาพฝันความสุข แล้ว คาพก เอาไว้
ทางธรรมเรียกว่า สร้างภพ เพื่ออยู่ เพื่อเป็น
หาก ใส่ใจ เพ่ง ความสุขนั้นให้ดีๆ
จะพบว่า ต่อให้ สุขมาก สุขมาก แบบ ฌาณ
ซึ่งเกิดสั้นแค่ ขณะจิตเดียว แต่ จะมีผลให้
ติดภาพฝัน ไปเกิดเป็น พรหม นานนนแสนนาน
พระศาสดา จะตรัสทันทีว่า ควรเห็นว่า สุขสั้นๆ
แบบนั้น เป็น ภัยยิ่ง ...ควรเห็น สุข ใน ฌาณที่
ทำให้เกิดภาพฝัน สุขมากๆ แบบ ถุยน้ำลายทิ้ง
ของบุรุษมีกำลัง
พอ เอ้อ สุข แบบฌาณ แม้นสั้นๆ แต่ ภพนั้นยาว
หากไม่ถุยทิ้งให้ดีๆ ก็จะ คลาด เมืองนิพพาน อมตะแท้ทรู ไป
ปล ลิง : การเอา ปิติ สุข อุเบกขา มาเพ่ง เพื่อ
เป็นอุบายเห็น สิ่งไรๆไม่เที่ยง ผู้ฝึกจะได้ ฌาณ1-9
เป็นของแถม หากสามารถ ชำนาญ -
จอยใหม่เอาเมื่อตอน วันสุก
ขอ ถาม เช็ค นิดหน่อย ฮับ
ใช่คนที่อยู่ ชนบุรี เป่า? -
สไตล์การบรรยายธรรมแบบนี้
คงเป็นคุณนิวรณ์ไม่ผิดแน่
ในตอนนั้นไฝว้กันน่าดู
แต่ในความรู้สึกเหมือนสหายธรรมกัน
เราลูกศิษย์พระพุทธองค์เหมือนกัน
ตามเข้ามาอ่านโพสธรรมคุณนิวรณ์ อยู่เรื่อยๆครับ
สมาชิกเก่าที่คุ้นๆหายกันไปเยอะ
หรืออาจจะแค่แวะเวียนเข้ามาอ่านเฉยๆเเบบผมก็อาจเป็นได้
หน้า 5 ของ 6