วันหลังว่างๆต้องเอาลูกชายมาโชว์ในกระทู้ป๋าโจ๊ะบ้างครับ
เรื่องจริงของตุ๊กตาทองวัดสามง่าม ที่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้ (รู้ไม่จริง)
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย กำธร นครปฐม, 24 ตุลาคม 2010.
หน้า 3 ของ 8
-
-
องค์นี้ชัวร์ครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
แล้วพระเนื้อผงหลวงพ่อแย้ม ดีไหมครับ
-
ที่บ้านก็มีตุ๊กตาทองของหลวงพ่อแย้มอยู่องค์หนึงครับ ส่วนตัวไม่เคยเห็น แต่มีลูกค้าเขาเห็น หลายครั้งที่ลูกค้าโทรมาจะัรับสายให้แทน แต่คุยไม่รู้เรื่อง
-
-
ครับตามที่บอกครับ ประวัติหลวงพ่อเสือ วัดสามง่ามครับ
ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2515 จนถึงหลวงพ่อเต๋ สิ้น ในปี พ.ศ. 2524 ศิษย์เอกหลวงพ่อเต๋ที่ท่านไว้วางใจให้ทำธุรกรรมต่างๆทางด้านพุทธาคมแทนท่าน ในช่วงที่ท่านติดกิจนิมนต์หรือในช่วงปลายชีวิตท่านที่ท่านต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ก็คือ อาจารย์เสือ <O:p</O:p
เหรียญรุ่นแรก อาจารย์เสือ สร้างในปี พ.ศ. 2518 ( ปีเดียวกับที่หลวงพ่อแย้มออกเหรียญรุ่นแรกของท่าน ) โดยผู้ที่สร้างถวายท่าน เป็นสตรีชาวสิงคโปร์ที่ให้ความเคารพนับถือในตัวของ อาจารย์เสือ อย่างมาก โดยอาจารย์เสือ ได้ถอดพิมพ์เหรียญห่มคลุมหลวงพ่อเต๋ ที่สร้างในปีเดียวกัน เหรียญรุ่นแรกของอาจารย์เสือนี้ท่านได้ลงเหล็กจารด้วยตัวของท่านเอง ทุกองค์ ที่สำคัญ อาจารย์เสือได้ ดำน้ำลงไปจารด้วยตัวของท่านเองทุกเหรียญ เรื่องอาจารย์เสือดดำน้ำลงเหล็กจารนี้ลูกศิษย์ในยุคนั้นต่างก็ เห็นด้วยตาของตนเอง หลายคนสามารถเชื่อถือได้
อาจารย์เสือ ท่านเป็นพระที่ ร้อนวิชา องค์นึงพุทธาคมของท่านจะหนักไปในด้านของ คงกระพันชาตรีจนเป็นที่เชื่อถือของบรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋ ในช่วงที่ อาจารย์เสือจำวัดอยู่ที่วัดสามง่าม กุฏิของท่านจะอยู่ด้านหน้าวัดก่อนกุฏิหลวงพ่อเต๋อาจารย์วัดสามง่ามที่เป็นผู้หญิงหลายคนได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่ อาจารย์เสืออยู่ที่วัดสามง่าม ผู้หญิง ไม่ค่อยกล้าเข้าวัดสามง่ามเพราะว่าลูกศิษย์ของอาจารย์เสือแต่ละคนที่มาให้ท่านสัก หรือขอของดีจากท่านล้วนแล้วแต่ น่ากลัวทั้งสิ้น หน้าตาดุเหมือนเสือจนยุคนั้นผู้หญิงไม่กล้าเข้าวัดสามง่าม ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ
อาจารย์เสือท่านเป็นคนพื้นเพอยู่ที่วัดสามง่าม ท่านจะมีอายุ น้อยกว่า หลวงพ่อแย้ม ประมาณ 10 - 12 ปี เรียกได้ว่า เมื่อตอนที่หลวงพ่อแย้มบวช อาจารย์เสือ ยังเป็นเด็กวิ่งซนอยู่ในวัดสามง่ามนั่นเอง อาจารย์เสือ ท่านได้บวชเมื่ออายุครบบวช ตามปกติแรกทีเดียวท่านคิดจะบวชแค่พรรษาเดียว เมื่อครบพรรษาท่านได้ไปขอสึกกับหลวงพ่อเต๋ชะรอยว่าหลวงพ่อเต๋ท่านคงทราบด้วญญาณของท่านว่าอาจารย์เสือจะเป็นเสาหลักของวัดสามง่ามได้ในอนาคตท่านจึงขอให้อาจารย์เสือบวชไปก่อน อาจารย์เสือจึงต้องบวชต่อไปและได้ทำการศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อเต๋จนท่านไม่ได้สึกและมรณภาพในผ้าเหลือง
น่าเสียดายที่ อาจารย์เสือ ท่านอายุสั้นท่านเสียหลังจากหลวงพ่อเต๋เสียได้แค่ 2 ปี อาจารย์เสือท่านเสียในปี พ.ศ. 2526 ในขณะที่ท่านมีอายุได้ประมาณ 56 - 58 ปี เท่านั้น ดังที่คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่าหลวงพ่อที่พุทธคุณหนักทางด้านคงกระพันชาตรี ถ้าไม่มีบุญมากพอ อายุจะสั้น แต่ก่อนที่อาจารย์เสือจะมรณภาพ ประมาณ ่2 -3 ปี ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าอาวาสวัดหัวถนน แต่ท่านไม่สามารถไปครองวัดหัวถนนได้ เนื่องจากในช่วงนั้นท่านป่วยหนักต้องทำการรักษาตัว จนท่านมรณภาพ ในปี พ.ศ. 2526 ในช่วงประมาณ ปี พ.ศ. 2530 เศษการประกวดพระในส่วนกลาง มักจะมี รายการพระของอาจารย์เสือ บรรจุอยู่ในรายการ 2-3 รายการ เป็นอย่างต่ำเสมอ จนเวลาผ่านมา 20 ปี เศษ ในปีประมาณ พ.ศ. 2538 หลวงพ่อแย้มจึงได้ขึ้นมา มีชื่อเสียงแทนท่าน ชื่อเสียงของ อาจารย์เสือก็ได้เลือนหายไปจากความทรงจำ ของบรรดาลูกศิษย์ และเซียนพระรุ่นเก่ายิ่งถ้าเป็นเซียนพระรุ่นใหม่ๆ นี่ไม่มีใครรู้จักอาจารย์เสือเลยซักคน
เป็นความจริง ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2518 ที่ทั้งอาจารย์เสือ และหลวงพ่อแ้ย้ม ได้ออกเหรียญรุ่นแรกพร้อมกัน แต่เพราะว่าพระของอาจารย์เสือ ได้ไปอยู่ที่สิงคโปร เป็นจำนวนมาก ทำให้เหรียญของอาจารย์เสือมีคนเสาะหากันมาก เนื่องจากมีคนแขวนเหรียญร่นแรกของท่านไปโดนยิงมาแล้ว ไม่เข้าทำให้ มีการให้ราคากันหลายร้อยทีเดียว แต่ในขณะที่ เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อแย้มไม่มีใครต้องการ จนถึงปี ประมาณ พ.ศ. 2545 เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแย้ม เริ่มมีราคาในสนามพระนครปฐม ซื้อขายกันอยู่ที่หลักร้อยต้นๆ เท่านั้นเองแต่ก็ไม่มีใครสนใจเท่าไหร่ เนื่องจากขายไม่ได้นั่นเอง จนเมือปี พ.ศ. 2548 เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแย้มจึงมีคนต้องการกันมากขึ้นเนื่องจากท่านมีชื่อเสียงมากขึ้นเรียกว่าอยู่ในระดับประเทศนั่นเองเหรียญรุ่นแรกของท่านสภาพสวยอยู่ในราคา 3,000 บาท แต่ในปัจจุบันราคาอยู่ที่ 10,000 บาท ครับ
เหรียญห่มคลุม หลวงพ่อเต๋นี้ ในปี พ.ศ. 2518 ถือเป็นเหรียญที่ออกแบบได้สวยงามมากเหรียญหนึ่ง โดยถอดแบบมาจากรูปโปสการ์ดหลวงพ่อเต๋ เป็นเหรียญรุ่นนิยม อีกรุ่นหนึงของหลวงพ่อเต๋ที่สำคัญเหรียญนี้เคยมีคนไปโดนยิงมาแล้วไม่เข้าเลยเป็นที่เสาะหากันมากในยุคนั้น
ขอขอบคุณ
http://www.pantown.com/board.php?id=34549&area=4&name=board4&topic=437&action=view<O:p></O:p>ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
และนี่ครับ กุมารทองของหลวงพ่อเสือ วัดสามง่าม หายากจริง ๆ ครับ ต้องขอขอบคุณภาพจาก ชมรมพระเครื่องกำแพงแสน ครับ ไม่ได้ขออนุญาตก่อน ต้องขออภัยด้วยครับ หวังให้เป็นวิทยาทานกับคนที่ชื่นชอบกุมารทอง ของวัดสามง่ามครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สวยครับ ดูเข้มขลัง
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ -
joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต
-
สวัสดีครับพี่กำธร นครปฐม ได้ความรู้เยอะเลยครับผม ขอบคุณมากครับ
-
และนี่ก็เป็นความจริงอีกแง่มุมหนึ่งครับ นำมาให้ได้รับชมกัน เขียนโดยคุณคนสามง่าม ครับ
หลวงพ่อแย้มท่านบวชเมื่อ วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2481 ในช่วงแรกนั้นท่านตั้งใจบวชแค่พรรษาเดียว แต่ไม่ทราบด้วยสาเหตุอันใด ทำให้ท่านตัดสินใจบวชไม่สึก แต่เพราะว่าท่าน ไม่ได้เรียนหนังสือ ทำให้ท่านอ่านและเขียนหนังสือไทยไม่ได้ หลังจากที่ท่านตัดสินใจบวชไม่สึก ท่านจึงต้องเริ่มมา เรียนหนังสือไทย ใหม่ ชนิดที่เรียกได้ว่าเริ่มต้นเรียน ก.ไก่ กันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ ทำให้ท่านเริ่มต้นเรียนพุทธาคมได้ช้ากว่าลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋องค์อื่นๆ ที่สำคัญในช่วงปี พ.ศ. 2490 เศษ ชื่อเสียงหลวงพ่อเต๋ โด่งดังมาก ชนิดที่เรียกได้ว่า ในนครปฐม ท่านเป็นพระที่ดังที่สุดและดังทั่วประเทศไทยเลยทีเดียว ท่านดังมาก่อนหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อน้อยหลายปีทีเดียว ท่านน่าจะเป็นพระสงฆ์องค์แรกๆ ทีเดียวที่รับกิจนิมนต์ ไปต่างประเทศ วัดสามง่ามในช่วงนั้น มีพระสงฆ์จำพรรษา 70 -80 องค์ เลยทีเดียว การปกครองสงฆ์ต้องแบ่งเป็นคณะ หลายคณะทีเดียว พระสงฆ์ที่มาเรียนพุทธาคมกับหลวงพ่อเต๋ต้องช่วยตัวเองอย่างมาก เพราะท่านไม่มีเวลามาเอาใจใส่ได้อย่างทั่วถึง เรียกได้ว่าถ้าพระองค์ใดสนใจก็จะได้ ถ้าไม่สนใจก็ไม่ได้ ที่สำคัญหลวงพ่อแย้ม ท่านไม่ค่อยให้ความสนใจในเรื่องการสร้างพระเครื่อง และกุมารทอง เรียกได้ว่าค่อนข้างจะ แอนตี้ ด้วยซ้ำ ทำให้พุทธาคมของท่าน ก้าวหน้าสู้ลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋องค์อื่นๆไม่ได้ ยิ่งในช่วงบั้นปลายชีวิตหลวงพ่อเต๋ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส ทำให้หลวงพ่อแย้มต้องติดตาม หลวงพ่อเต๋ ตลอด ไม่ว่า หลวงพ่อเต๋จะรับกิจนิมนต์ไปที่ใด หรือไม่ก็ต้องคอยดูแลความเรียบร้อยภายในวัด ทำให้ อาจารย์เสือ ที่บวชหลังท่านเป็นสิบปี ก้าวหน้าไปกว่าท่าน จนเป็นที่ยอมรับของ หลวงพ่อเต๋ และบรรดาลูกศิษย์ จนเมื่อหลวงพ่อเต๋มรณภาพ หลวงพ่อแย้มได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส แต่ในช่วงนั้นท่านก็ไม่ได้รับการยอมรับของบรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋ แต่อาจารย์เสือกลับมีชื่อเสียงโด่งดังมาก จนถึงปี พ.ศ. 2538 ท่านได้สร้างพระเครื่อง ออกแจกแก่ลูกศิษย์ เนื่องในวาระอายุครบ 80 ปี และหนังสือมหาโพธิ์ เอาชีวประวัติ ของท่านไปเผยแพร่พร้อมกับพระเครื่องของท่าน ทำให้ลูกศิษย์หลวงพ่อเต่ทั่วประเทศ ได้รู้ว่า มีศิษย์ของท่าน สืบทอด การสร้างกุมารทอง นางกวัก และตะกรุด อยู่ที่วัดสามง่าม ลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋ก็เริ่มมาหาท่านที่วัด และมาร่วมงานไหว้ครูที่วัดสามง่ามกันมากขึ้น และได้สัมผัสกับพุทธาคมของหลวงพ่อแย้ม จนเป็นที่ยอมรับกัน แต่ก็เป็นที่ยอมรับกันในหมู่ลูกศิษย์ เก่าๆ ของหลวงพ่อเต๋ ว่า ศิษย์เอกของหลวงพ่อเต๋ที่เป็นที่ยอมรับกันในช่วงนั้น ก็คือ อาจารย์เสือ วัดสามง่าม ถัดจากอาจารย์เสือ ก็คือ อาจารย์แกละ วัดลำลูกบัว ซึ่งในช่วงปี 2520 - 2538 อาจารย์เสือ และอาจารย์แกละ ท่านโด่งดังมากในเขตอำเภอดอนตูม และใกล้เคียง พอสิ้นทั้งสององค์ หลวงพ่อแย้ม จึงขึ้นมาแทน และเป็นที่ยอมรับในหมู่ลูกศิษย์สายวัดสามง่ามในเวลาต่อมา เรียกได้ว่า ปัจจุบันท่านถือว่าเป็นเกจิติดอันดับหนึ่งของประเทศก็ว่าได้ หลวงพ่อแย้มเคยพูดให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังเสมอๆ ว่า พระของท่านปลุกเสกมากกว่าของเกจิองค์อื่น ถึงแม้จะไม่มีพิธีพุทธาภิเษกก็ตาม เพราะท่านปลุกเสกของท่าน ทุกคืน ๆ นึงประมาณ 30 นาที ครับ
ขอขอบคุณ
http://www.pantown.com/board.php?id=34549&area=4&name=board4&topic=437&action=view -
สุดยอดเยี่ยมเลยครับ ป๋าโจ๊ะ
-
และนี่ก็คือเจดีย์บรรจุอัฐิของหลวงพ่อเสือ วัดสามง่าม ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกศิษย์เอก องค์สำคัญของหลวงพ่อเต๋ ครับ ไม่น่าเลย ทำกันไปได้
และนี่ก็คือบทความของคุณคนสามง่าม ครับ ต้องขอขอบคุณ มา ณ ที่นี้
นี่คือเจดีย์หลวงพ่อเสือ ศิษย์อีกรูปของหลวงพ่อเต๋ ที่หลายคนทราบแต่หลายคนคงยังไม่ทราบว่าเจดีย์บรรจุอัฐิท่านก็อยู่ในวัดสามง่ามเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากท่านมรณะภาพเป็นเวลานาน ตั้งแต่ปี 2526 หลังจากหลวงพ่อเต๋มรณะภาพเพียง 2 ปี น้อยคนนักจะรู้ว่าเจดีย์ท่านก็อยู่ในวัดสามง่ามเช่นกัน และนี่ก็คือเจดีย์ของท่านครับ
ขอขอบคุณ http://www.pantown.com/board.php?id=34549&area=4&name=board4&topic=1145&action=viewไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จากรูปข้างบนจะเห็นได้ว่ารูปถ่ายของท่านถูกทำลาย (รูปใหม่) ส่วนรูปเก่าก็ถูกทำลายไปเช่นกัน บริเวณหน้าเจดีย์จะเห็นได้ว่าไม่มีคนไปสักการะท่านนานแล้ว
ขอขอบคุณ คุณคนสามง่ามและที่มา
http://www.pantown.com/board.php?id=34549&area=4&name=board4&topic=1145&action=viewไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ไม่แนะนำให้ท่านที่ไม่คิดจะรัผิดชอบระยะยาวรับกุมารทองไปเลี้ยง การเห็นกุมารทองไม่ได้เห็นกันได้ทุกคน บางคนพอไม่เห็นก็ทิ้งๆขว้างๆเขา กุมารทองหลวงพ่อแย้มมีตัวตนจริงๆค่ะ ไม่อยากเล่ามากเพราะเดี๋ยวจะแห่กันไปเช่า ถ้าได้เขามาแล้วไม่ดูแลจะเป็นโทษกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว
-
-
ลูกชายผมเองครับติดตัวตลอดเวลา(คล้องคอ)"เจ้าตุ๊กตาทอง"เนื้อตะกั่ว ก้นอุดผง พร้อมจารครับ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ข้อความเดิมของคุณ กำธร
.....ชื่อ เสียงหลวงพ่อเต๋ โด่งดังมาก ชนิดที่เรียกได้ว่า ในนครปฐม ท่านเป็นพระที่ดังที่สุดและดังทั่วประเทศไทยเลยทีเดียว ท่านดังมาก่อนหลวงพ่อเงิน และหลวงพ่อน้อยหลายปีทีเดียว............................
....................................................................
.....ผมยืนยัน..ว่าท่านดังจริงๆ...ผมรู้จัก..เหรียญท่าน..และ..ชื่อเสียงท่าน..ตั้งแต่ปี ๒๕๐๕ เกือบ ๕๐ ปีมาแล้ว(ตอนนั้น..อยู่ ป.๓)..เป็นของ..เพื่อนผม..เหรียญทองคำซะด้วย..มันยังเล่าให้ฟังว่า..พ่อมันนับถือมาก(บ้านอยู่..เยาวราช)
-
-
...พี่ไม่มีบุญ..ได้ไปกราบท่าน..เพราะ..ตอนเรียนก็..เรียนหนัก..พอจบแล้ว..ทำงานก็หนักอีก..และก็ไปต่างจังหวัดไกลๆทั้งนั้น..จะได้มีโอกาศไปกราบ..หลวงพ่อ..ทั้งหลาย..ก็ต้องอาศัยไปทำงาน..ละแวก..นั้น..เคยคิดเหมือนกัน..แต่ตอนนั้น..ท่า่นก็แก่มาก..แล้วก็รู้ว่ากิจนิมนต์..ท่านก็เยอะ..อยู่วัดก็แขกเยอะ..คิดไปคิดมาก็เลยไม่เอา..ไปไหว้อาจารย์ไม่ดังดีกว่า...
...แต่ชอบ..ชื่อท่านนะ..เพราะสมัยก่อนโน้น(กว่า ๔๐ ปี)..เวลาใครพูดถึงท่าน..ก็ไม่เรียกว่า "หลวงพ่อ เต๋"..เฉยๆ...ต้องเรียกกันว่า.."หลวงพ่อเต๋ คงทอง"..หรือไม่ก็.."หลวงพ่อคงทอง เต๋"..กันทั้งนั้น..เพราะชื่อเต็มท่าน..เป็นมงคลดี.....
หน้า 3 ของ 8