ก็เพิ่งกลับจากไปทำศาสน์ศิลป์ที่ภาคใต้ เริ่มต้นที่ในทะเลสาปสงขลา จากนั้นไปสักการะหลวงปู่ทวดที่วัดพะโค๊ะ กราบสังขารพ่อท่านเนียรที่สำนักสงฆ์ต้นเลียบ(ที่ฝังรกหลวงปู่ทวด-ร่างกายไม่เน่าเปื่อย) กราบสังขารหลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า(ร่างกายไม่เน่าเปื่อย) อ.ระโนด จ.สงชลา สักการะพระธาตุนครศรีธรรมราช สักการะสังขารพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ (ร่างกายไม่เน่าเปื่อย) ณ วัดธาตุน้อย พร้อมทั้งสักการะปู่ฤษีตาไฟภายในวัด สักการะเทพเจ้าที่วัดเขานิพันธ์ สักการะญาณธรรมปู่ฤษีตาไฟ ณ วัดถ้ำสิงขร สักการะพ่อตาขุน ณ วัดตาขุน จ.กระบี่ และก็สักการะศีลธรรมตามที่ต่างๆ อีกหลายที่ ณ เขตป่าเขา จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี จ. พังงา จ.กระบี่ จ. ภูเก็ต จ.ชุมพร จ. ประจวบคีรีขันธ์
และก็ยังมีอีกหลายสถานที่ ที่สถิตย์ของญาณศีลธรรมสำคัญๆ ในเขตภาคใต้ แต่ยังไม่มีเวลาเข้าไปแผ่บุญกุศลในสถานที่เหล่านั้น เพราะเวลาจำกัด ประกอบกับต้องขับรถไปคนเดียว ตระเวนไปภาวนาแผ่บุญกุศลปลดปล่อยจิตวิญญาณในภพภูมิต่างๆ รวมทั้งรับญาณศีลธรรมจากครูบาอาจารย์ที่ท่านบำเพ็ญบารมีอยู่ในที่ลี้ลับ ก็เหน็ดเหนื่อยพอสมควร
ในเขตภาคใต้นั้นยังมีญาณศีลธรรมที่สำคัญอีกมาก และบางสถานที่ญาณศีลธรรมเข้มข้นกว่าหลายๆที่ในภาคอื่นๆที่เคยไปทำศาสน์ศิลป์มา โดยเฉพาะในเขตพระธาตุนครศรีธณรมราช สำนักสงฆ์ต้นเลียบ เขตวัดธาตุน้อย(เขาเหมน) เขตเขานิพันธ์ จ. นครศรีฯ เขต อ.นาสาร เขตเขาสก-เขื่อนเชี่ยวหลาน จ. สุราษฎร์ เขตเขาทะลุ เขตเขาวง เขตบ้านตาขุน จ. กระบี่ เขตเขาสามร้อยยอด จ. ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ ล้วนแต่มีญาณศีลธรรมที่เข้มข้นมากมาย แต่ท่านอยู่กันอย่างลี้ลับ
การไปรับญาณศีลธรรมจากสถานที่ต่างๆนั้นก็เหมือนกับการไปเชื่อมสัมพันธ์กับระบบภพภูมิต่างๆ บางที่ก็เคยเป็นญาติ เป็นครูบาอาจารย์ และล้วนแต่เคยมีบารมีสัมพันธ์กันมาทั้งสิ้น เท่าที่สังเกตในป่าเขานั้น หากมีรูปปั้นพุทธรูป เทวรูปหรือปู่ฤษี ก็จะมีญาณศีลธรรมสถิตย์อยู่ทั้งสิ้น หากเราทำศาสน์ศิลป์ถูกต้องก็จะได้เรียนรู้ศีลธรรมต่างๆจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น
การเดินทางคนเดียวนั้นทำให้สามารถแสดงหรือกระทำบางสิ่งบางอย่างได้คล่องตัว เพราะเรื่องบางอย่างต้องทำในที่ลับตาคนเนื่องจากคนไม่เข้าใจเขาจะหาว่าเราเพี้ยนหรือเป็นบ้า เช่น การพูดคุยกับพุทธรูป เทวรูป หรือ ปู่ฤษีมุนี ที่เป็นรูปปั้นเป็นต้น หรือการพูดคุยกับสิ่งไม่เห็นตัวที่ส่งกระแสมาจากป่าเขาเป็นเวลานานๆ หากมีบุคคลที่ 2-3 อยู่ด้วยก็จะทำให้ไม่สะดวก การเดินทางคนเดียวจึงทำให้ได้รู้เห็นอะไรแปลกๆโดยง่าย
ช่วงต่อไปก็ต้องขึ้นภาคอีสาน เสาร์ที่ 4 มี.ค. ไปทอดผ้าป่าที่วัดป่าสีดาฯ แล้วไปคารวะหลวงพ่อทองแดง คารวะหลวงปู่เณรคำ
10-12 มี.ค. ก็ไปเมืองศรีเทพฯ จ. เพชรบูรณ์ แล้วก็ไปสักการะพระธาตุศรีสองรัก จ. เลย
อังคารที่ 14 มี.ค.( 15 ค่ำเดือน 4) ก็เป็นงานบุญประจำปี วัดป่าสีดาฯ ก็จะจัดงานบวงสรวงเทวดา ถวายหอพระจักรพรรดิ์เป็นสมบัติพระศาสนา รวมทั้งถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ประมาณ 200 รูป
จากนั้นปลายเดือนมี.ค.ก็จะไปแผ่ซ้ำที่ภาคใต้อีกครั้งนึง เสร็จจากภาคใต้ ก็จะไปปราสาทปรางกู่ และเขาพระวิหาร แล้วก็จะเลยไป นครวัด-นครธม ประเทศกัมพูชา
จากนั้นก็จะไปทำศาสน์ศิลป์ให้พระนางจามเทวี เสร็จแล้วก็จะไปสักการะครูบาอาจารย์ และพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว
เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้
ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 26 สิงหาคม 2005.
หน้า 11 ของ 111
-
วัดถ้าสิงขร จ. สุราษฎร์ เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา
-
ขอถามอีกข้อนะครับ คุณ Aunyasit รู้จักกับคุณ weerapong หรือเปล่าครับ ? แนวๆ เดียวกันเลยครับ
-
คุณ nondanun
ผมรู้จัก คุณ weerapong ก็อยู่ในสายธรรมครูบาอาจารย์เดียวกัน ต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเอง ถึงกาลบุญกุศลสำคัญๆก็มารวมตัวกัน ครับ
บุคคลที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เท่าที่ผมพบเจอมีอีกมาก แต่ทำหน้าที่เฉพาะตัวตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ของแต่ละคนท่านวางไว้ให้ เมื่อถึงเวลาระบบศีลธรรมก็จะเชื่อมเข้าด้วยกัน -
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีเพื่อนโทรศัพท์มาจาก อ.โกสัมพี จ.กำแพงเพชร บอกว่าเขาได้สั่งให้ชาวบ้านไปปรับพื้นที่ทำตลาดชุมชน ซึ่งเป็นเขตใกล้ๆกับวัดแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าเมื่อชาวบ้านไปปรับพื้นที่ ก็มีสิ่งมาแฝง มาสิง บอกว่าทำไม่ถูก เจ้าที่เขาไม่ให้ทำ เขาก็เลยโทรมาปรึกษาว่าจะให้ทำยังไง ให้ช่วยสื่อกับภพภูมิให้ด้วย เพื่อนเขาไปถามผู้รู้แถวนั้นแล้ว เขาบอกว่าเป็นพญานาค ที่เฝ้าอยู่แถวนั้นบอกว่าเขาไม่ยอม
เมื่อตรวจสอบดู พบว่าสถานที่แห่งนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับบารมีของเจ้าราม ซึ่งเป็นพระสวามีของพระนางจามเทวี จ. ลำพูน สถานที่นั้นเคยเป็นที่พักชั่วคราวของคณะนางจามเทวี และเคยเป็นที่ประทับของเจ้ารามด้วย
เมื่อคืนวันพุธ ก็ได้ใช้ทางในตรวจสอบดูอีกครั้ง พบว่ามีภพภูมิแถวนั้นรอการปลดปล่อยอยู่เป็นจำนวนมาก ก็ได้แผ่บุญบารมีไปให้และก็ขออนุญาตให้ชาวบ้านเขาได้ทำตลาดชุมชนได้ แล้วผมจะไปทำการบวงสรวงแผ่บุญกุศลไปให้ พร้อมทั้งจะทำบุญถวายสังฆทานแก่พระภิกษุ อุทิศไปให้ด้วย ก็ได้ให้เพื่อนที่นั่นเตรียมทำการบวงสรวง และนิมนต์พระสงฆ์ไว้ แล้วผมจะไปทำศาสน์ศิลป์ให้ ในวันอังคาร ขึ้น 8 ค่ำ คือ 7 มี.ค.นี้
ก็เป็นอันว่า หลังจากไปทอดผ้าป่าที่วัดป่าสีดาฯ ในวันเสาร์ ที่ 4 มี.ค. กลับมา กทม. ตอนดึกของวันอาทิตย์ วันจันทร์ตอนบ่าย ก็ต้องขับรถไป จ.กำแพงเพชร เพื่อไปทำศาสน์ศิลป์ในตอนเช้ามืดของวันอังคาร ต่อไป
ที่เขียนมาบอกเล่าที่นี่ส่วนนึงก็เพื่อให้คณะที่ทำบารมีอยู่ด้วยกัน หลายท่านได้รับรู้ว่า มีกิจกรรมที่จะไปทำที่ไหนกันบ้าง -
คุณ Aunyasit ผมขอรบกวนถามเกี่ยวกับ "เจ้าราม" หน่อยครับว่า ท่านผู้นี้หลังจากตายไปแล้วไปเกิดที่ไหนอย่างไร หรือเกิดเป็นใครบ้าง และในชาตินี้ท่านมาเกิดหรือไม่ หากเกิด เกิดเป็นผู้ใด และยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และในท้ายที่สุดท่านผู้นี้จะมีวิถีชีวิตเป็นประการใด
-
คุณ Aunyasit ผมขอรบกวนถามเกี่ยวกับ "เจ้าราม" หน่อยครับว่า ท่านผู้นี้หลังจากตายไปแล้วไปเกิดที่ไหนอย่างไร หรือเกิดเป็นใครบ้าง และในชาตินี้ท่านมาเกิดหรือไม่ หากเกิด เกิดเป็นผู้ใด และยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และในท้ายที่สุดท่านผู้นี้จะมีวิถีชีวิตเป็นประการใด
ผมก็อยากรู้ครับว่า "ท่านเจ้าราม" ตอนนี้ท่านอยู่ที่ใหนผมคิดถึงท่านมากครับ -
สำหรับเรื่องของ "เจ้าราม" นั้น ผมจะถามครูบาอาจารย์ให้นะครับ วันที่ 4 มี.ค. หลังจากทอดผ้าป่าที่วัดป่าสีดาฯเสร็จแล้ว จะพาคณะแวะไปกราบ หลวงปู่เณรคำ กับหลวงพ่อทองแดง แล้วจะถามท่านให้ครับ
ลำพังสิ่งที่ผมรู้มาด้วยวิธีการของตนเองนั้น ผมมักจะยืนยันก็ต่อเมื่อได้สอบถามครูบาอาจารย์เพื่อยืนยันก่อนว่าสิ่งที่ผมรู้มานั้น ตรงกับที่ครูบาอาจารย์ท่านรู้มาหรือไม่ เนื่องจากอำนาจศีล และบารมีของครูบาอาจารย์ ที่ท่านอยู่ในครองของสงฆ์นั้นย่อมรู้เห็น ชัดเจน แจ่มใสกว่า คนถือศีล 5 ครับ
ที่จริงมีผู้ที่มีบารมีสัมพันธ์กับยุคพระนางจามเทวีมาเกิดในสมัยนี้ก็มาก แต่ก็ปฏิบัติย้อนไปรู้เรื่องราวของตนเองไม่ได้ จึงไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมในการเกื้อกูลระบบภพภูมิที่เกี่ยวข้องกับการทำบารมีของพระนางจามเทวี ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้สึกของความผูกพันธ์อยู่ลึกๆ แต่ไม่สามารถเข้าใจในรายละเอียดได้
คิดว่าหากไปทำศาสน์ศิลป์ให้ที่ อ.โกสัมพีแล้ว กระแสญาณของพระนางจามเทวี ต้องมาทวงตามไปทำศาสน์ศิลป์ให้ท่านตามที่เราเคยให้สัจจะไว้แน่ๆ เพราะเขตนั้นเป็นเส้นทางการทำบารมีของพระนางจามเทวีมาก่อน เมื่อไปทำศาสน์ศิลป์ศีลธรรมก็จะเชื่อมเข้าหากัน คาดว่าคงจะถึงเวลาไปรับญาณศีลธรรมจากปู่ฤษีในเขต จ.ลำพูนแล้วล่ะ และคงจะไปทำหลังจากไปที่เมืองศรีเทพฯ (จะเข้าไปในกลางดึกของคืนวันศุกร์10 มี.ค.นี้เพราะเป็นทางผ่านไป จ.เลย ได้) รวมทั้งจะไปที่พระธาตุศรีสองรักด้วย ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไปถึง จ. เลยแล้ว จะมีระบบศีลธรรมแบบไหนเข้ามาเชื่อมอีก เพราะเขต จ. เลย ก็มีญาณศีลธรรมที่ท่านปฏิบัติอยู่ในที่ลี้ลับมากมายเช่นกัน มีอยู่ที่นึงเป็นศาลโบราณ มีคนเฝ้ารักษาอยู่ แต่ต้องได้รับอนุญาตจากภพภูมิภายในก่อนจึงจะเข้าไปกราบได้ -
ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ หากทราบความเป็นมาอย่างไร ช่วยนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ -
อยากให้เล่าเรื่อง หลวงปู่เณรคำกลาง และ เณรคำใหญ่ ที่เคยพูดถึงน่ะครับ หรือ จะมี หลวงปู่เณรคำเล็กด้วยหรือเปล่าครับ ถ้ามี เมตตาเล่าให้ฟังหน่อยครับ
-
ทำไมพี่เดินทางบ่อยจัง
-
ทำไมพี่เดินทางบ่อยจัง หรือเป็นอาชีพของพี่ฮะ
-
คุณนะอุปกิเลสกินใจแล้ว หลายๆเรื่องที่คุณบอกผิด เช่น เรื่องหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านนิพพานแล้ว
-
moddang
เรื่องหลวงปู่เณรคำรูปต่างๆนั้น เอาไว้ให้มีเวลาว่างๆ แล้วจะเล่าให้ฟังนะ
ที่พี่ต้องเดินทางบ่อย เพราะเป็นหน้าที่ทางศีลธรรม ที่ต้องไปทำน่ะ ถ้าพี่ไม่ทำก็จะไม่มีใครทำตรงนี้ เป็นหน้าที่เฉพาะตัวที่ต้องใช้บุญบารมีชาติต่างๆไปทำหน้าที่เชื่อมญาณศีลธรรมและปลดปล่อยภพภูมิจิตวิญญาณ
ที่ จ. กาญจนบุรี มีพระรูปหนึ่งที่สามารถปลดปล่อยภพภูมิจิตวิญญาณได้เช่นกัน ชื่อว่า หลวงพ่อบุญคุ้ม พี่ยังไม่เคยเจอท่านหรอกนะ ส่วนท่านอื่นๆ ที่ จ. กาญจนบุรีนั้นไม่มีหน้าที่ทางด้านนี้
อาชีพพี่นั้นน่ะต้องนั่งโต๊ะครับ ช่วงนี้ฝุ่นจับแล้วล่ะ
คุณ อานาปานสติ
รู้เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อฤษีลิงดำดีแค่ไหนล่ะ หากรู้เรื่องดีละก็ลองบอกหน่อยสิว่ามีของวิเศษ 4 อย่าง ที่หลวงพ่อฤษีลิงดำยืมมาจากภูเขาควาย เพื่อมาช่วยทำบารมีที่วัดท่าซุง ที่ลูกศิษย์ท่านโบกปูนทับไว้ตอนที่ท่านใกล้มรณภาพน่ะ มีอะไรบ้าง หากศึกษายังไม่ถึงตรงนี้ ก็ควรจะปฏิบัติให้มากกว่านี้นะ
รู้ไหมว่าหลวงพ่อทองฤทธิ์นั้น ตอนที่ท่านบวชนั้น หลวงพ่อฤษีลิงดำกับหลวงพ่อฤษีลิงขาว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านอยู่กันมาตั้งแต่ยุคต้นๆน่ะ แล้วก็มีหลวงพ่อฤษีลิงลมด้วยตอนนี้ท่านอยู่ที่ภูลังกา ว่างๆก็ลองไปสนทนาธรรมกับท่านผู้รู้เหล่านี้บ้าง จะได้รู้เรื่องราวอะไรดีๆกว่าที่เป็นอยู่
คืนวันศุกร์ที่ 3 มี.ค. ผมสนทนากับหลวงพ่อทองฤทธิ์ตั้งแต่ 4 ทุ่ม จนถึง 6 โมงเช้าน่ะ ท่านก็ยืนยันให้หลายอย่าง ก็บอกท่านเรื่องที่ไปรับญาณศีลธรรมของหลวงพ่อฤษีลิงดำ กับญาณศีลธรรมที่วิหารสมเด็จองค์ปฐม ไปวัดป่าสีดาฯ ท่านก็บอกว่า "ดีแล้วลูก และ ต้องไปทำอย่างนี้ให้เขาจนครบ 108 เกจิอาจารย์แหละ ถึงจะดี" ส่วนหลวงพ่อทองแดงท่านก็บอกว่า "ดีมากๆ ไปรับญาณศีลธรรมจากภาคใต้มาเยอะ มีหลายสิ่งหลายอย่างในตัว เมื่อไปทำศาสน์ศิลป์ให้ที่ อ. โกสัมพี ซึ่งเกี่ยวข้องกับพระนางจามเทวีแล้ว ก็จะต้องไปทำที่อื่นอีกนะ เชื่อมต่อจากตรงนั้น ไปถึงนั่นแล้วจะรู้เอง ว่าต้องไปที่ไหนต่อ"
คุณ อานาปานสติ ก็พิจารณาเอาเองนะว่าอะไร เป็นอะไร ถ้าคุณปฏิบัติได้ก้าวไกลกว่าครูบาอาจารย์เหล่านั้น ผมก็จะนับถือคุณเป็นอาจารย์ด้วยคนนึงล่ะ
คุณ tamsak
เรื่องเจ้าราม กับพระนางจามเทวีน่ะ ครูบาอาจารย์ทั้งสองรูปท่านหลีกเลี่ยงที่จะเล่าโดยตรง ผมก็เลียบๆ เคียงๆ ถามมาได้เฉพาะส่วนที่ผมไปเกี่ยวข้องกับพระนางจามเทวีน่ะ พระนางจามเทวีท่านสัจจะกับผมไว้ว่า ถ้าผมไปทำศาสน์ศิลป์ให้ท่านและบริวาร ท่านจะเปิดคลังสมบัติให้นำไปสร้างวัดวาศาสนานะ ผมก็จะรอพิสูจน์สัจจะของเทพเทวดา อยู่เช่นกัน
หลวงพ่อทองฤทธิ์ ท่านบอกว่า "ไม่อยากเล่าเพราะจะฝืนมติสวรรค์ เดี๋ยวเขาเล่นงานเอา ตายลูกเดียว"
ส่วนหลวงพ่อทองแดง ท่านบอกว่า "เกี่ยวข้องมากๆ รีบไปทำให้เขาซะ เขารออยู่" -
ความคืบหน้าการก่อสร้างหอพระจักรพรรดิ์ ก็ใกล้แล้วเสร็จ เหลือตกแต่งกับทาสี เสร็จเมื่อไหร่ จักรแก้วของพระจักรพรรดิ์ก็จะเริ่มหมุนทำงาน ตอนนี้ก็ตั้งใจรอว่าเมื่อจักรแก้วที่อยู่ในทะเลเริ่มหมุน สิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยบอกไว้จะปรากฏผลอย่างไร โดยเฉพาะระบบที่เกี่ยวข้องกับ ดิน น้ำ ลม ไฟ อุบัติเหตุ/ภัยสงครามและโรคระบาด
-
สิ่งก่อสร้างเหล่านี้ มีความจำเป็นเพื่อสื่อถึงระบบของสามโลก สร้างได้หรือทำได้เฉพาะผู้ที่ทำบารมีเฉพาะ ที่มีหน้าที่มาทำเท่านั้นครับ
หน้า 11 ของ 111