เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    คุณมุกมิกคะ
    คือพอดีของดิฉันเป็นลูกลิงค่ะ
    ขาต้องวิ่งตลอดเวลา เดินไม่เป็น
    ที่สำคัญ ยังเป็นเจ้าหนูจำไมค่ะ...ถ้าไม่กินขนมก็ถามตลอด
    ดิฉันเองวันเสาร์-อาทิตย์ทีไร หูดับเลยค่ะ
     
  2. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    คุณคะรุทาคะ สวัสดีค่ะ

    ดิฉันเองนั้นตอนนี้ยินดีปรีดาสุด..สุดเลยค่ะ
    แต่รบกวนตามฟังเรื่องท่านเจ้าที่ของดิฉันต่อไปอีกหน่อยนะคะ
    ได้โปรด...อย่าเพิ่งเบื่อกันไปตอนนี้
     
  3. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    คุณTPCคะ ดิฉันรบกวนถามเรื่องท่านเจ้าที่ด้วยค่ะ
    คืออย่างนี้ค่ะ ท่านขุนพันวินิจนี่ดิฉันเคยพบท่านในสองรูปร่างคะ
    เมื่อก่อนเป็นอย่างนี้ เป็นชายวัยกลางคนตัวดำมาก รูปร่างสูงร่างกายกำยำใหญ่โต หน้าตาออกเหลี่ยมๆแบบคนโบราณ หนวดเครารุงรัง ผมยาวยุ่งเยิง(เหมือนทาร์ซานเลย)แต่ตัวหอมค่ะไม่ใส่เสื้อ แต่นุ่งผ้าไหมเนื้อดีสีออกเข้มๆเป็นลาย ตาโตเห็นตาขาวเยอะๆ ริมฝีปากหนา ฟันขาวเต็มปาก ที่สำคัญและประหลาดใจมากคือ มีเขี้ยวค่ะ ทำไมเป็นงั้น ชายคนนี้(ในฝัน)ชอบมายืนจ้องด้วยดวงตาแดงวาวเหมือนโกรธเคืองอะไรมากและชอบถอนหายใจเหมือนกับหักห้ามอะไรสักอย่างเวลานอนหลับค่ะ พอดิฉันหันมาเจอก็มักจะเบี่ยงตัวหลบ หันหลังให้บ้าง หันข้างให้บ้าง แล้วตอนที่ท่านยอมคุยด้วยก็ยังทำอย่างนี้อยู่ค่ะ ดิฉันถามท่านค่ะว่าทำไมต้องเหมือนไม่อยากให้เห็น ท่านบอกว่าเกรงว่าเจ้าจะกลัวข้าหนักเข้าไปอีก บางครั้งก็เห็นรูปร่างแบบนี้ค่ะ แต่ไม่มีขากลายเป็นหางยาวๆเหมือนอนาคอนดา(อันนี้กลัวค่ะ)
    และเดี๋ยวนี้เห็น หน้าตายังคงเดิมค่ะแต่ไม่มีหนวดหน้าตาดีมากเลยค่ะ ผมยังยาวอยู่(มัดคล้ายๆมวยผมแต่ไม่ใช่มวย)ไว้ที่ตรงกลางหัว ใส่เสื้อบ้างไม่ใส่บ้าง ผ้านุ่งยังคงเป็นผ้าเนื้อดีเช่นเคย แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนคือกลิ่นตัวของท่าน เวลามากลิ่นจะมาแต่ไกลเชียวค่ะ(หอมเหมือนพวกดอกไม้กลางคืน)
    และก็เคยมีท่านแต่งชุดจะไปรบและบอกว่าห่วงเจ้าก็เลยรีบกลับมาพาไปซ่อนเกรงพม่าจะจับตัวไป มือขวาถือดาบไม่ยาวมากค่ะมือซ้ายฉุดดิฉันให้วิ่งตาม
    เออ...เรื่องสำคัญคือ เมื่อวันพระใหญ่ที่ผ่านมา มีเพื่อนบ้านที่ดิฉันไม่รู้จัก กลับไปนครสวรรค์ ไปหาร่างทรงกุมารตามความเชื่อ กลับมาก็มาเล่าและมีคนที่ดิฉันรู้จักมาให้หาทางแก้ไขคือ ที่หมู่บ้านของเรามีเจ้าที่เป็นพญางูใหญ่น่ากลัวมากกำลังโกรธและบอกมาว่าไม่มีที่จะอยู่พวกเรามาสร้างบ้านทับที่อยู่ของเค้า และมีจอมปลวกหลายที่ แต่จอมปลวกตัวใหญ่อยู่ที่บ้านของเธอ(คือดิฉัน) เพราะฉะนั้นตอนนี้งูใหญ่ก็อยู่กับเธอแหละ(ดิฉันอีก)ให้ดิฉันมองถึงส่วนรวมแล้วหาทางติดต่อท่านเจ้าที่ใหญ่ซะ ไม่งั้นไฟจะไหม้หมู่บ้าน อืม....มันจะเกินความสามารถเราไปหรือเปล่า...
    และก็อีก3บ้านค่ะ กลับไปบ้านมาแล้วฝากมาบอกตรงกันหมดบ้างก็ว่าแม่ชีเตือนมามั้ง ร่างทรงทักมามั่ง คำถามค่ะ
    ท่านขุนพันวินิจของดิฉันเป็นงูใช่มั้ยค่ะ อันนี้สงสัยเองอยู่แล้วก่อนเพื่อนบ้านจะมาคุย เพราะนางไม้น้ำตาลเคยมาหาในฝัน3ครั้ง แล้วเดินจูงมือดังนี้
    ครั้งที่ 1. บริเวณใต้พื้นครัวเก่า(ตอนนี้รื้อทิ้ง แล้วทำเป็นบันไดขึ้นชั้นดาดฟ้าไว้ชมวิวท้องนาค่ะ)เธอบอกตรงใต้ดินนี้มีข้าวของเครื่องใช้ของดิฉันฝังอยู่ แต่ต้องขุดเองนะ ขุดไปเรื่อยๆจะเจอเอง เอ้อ...ดิฉันไม่ขุดหรอกค่ะ
    2.บริเวณริมถนนหน้าบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นบ้านของดิฉันเองที่ซื้อให้พ่อ
    น่ะค่ะ เธอว่าให้ขุดปลูกต้นตะเคียนทองตรงนี้(พอดีพี่ที่สนิทกันเอามาฝากจากปราจีนบุรีค่ะ)
    ขุดไปให้ลึกสักหน่อยจะเจอไหที่มีผ้าขาว(ผ้ายันต์)ปิดอยู่ให้เปิดผ้านั้นออก จะเจอเถ้าและกระดูกของตัวเธอเองแล้วให้ขุดลึกลงไปอีกเท่าตัวจะเจอไหอีก2ใบ ในนั้นจะเป็นเพชรพลอยและเครื่องเงินของแต่งตัวของเธอ เธอพูดว่าฉันให้เธอ ดิฉันไม่เอาค่ะ บอกเธอไปว่าไม่รู้จะเอาไปทำไม เอามาใช้ก็ไม่ได้มันเชยไปแล้วล่ะ เธอว่าให้เอาไปขายจะได้เงินตามต้องการ อยากได้เท่าไหร่ก็นึกเอาเองก็แล้วกัน เสร็จแล้วให้กลบหลุมไว้อย่างเดิม เอากระดูกของเธอเก็บไว้ที่เดิมด้วย ดิฉันถามเธอว่าแล้วมาฝังไว้อย่างนี้ไม่กลัวใครมาเจอเหรอ เธอว่าไม่มีใครเห็นหรอก ทุกอย่างเป็นของเธอ(ดิฉัน) วันนี้เธอไม่เอา มันก็จะไหลตามตัวเธอไปได้เองทุกที่
    3.ดิฉันกำลังซ่อมแซมบ้าน(หลังจากถูกน้ำท่วม)คนงานก็โวยวายใหญ่ว่ามีงูเห่าตัวใหญ่กว่าแขนเค้ามาเลื่อยวนอยู่นอกกำแพงบ้าน(ในทุ่งนา)แล้วหนีไปทางนั้นแล้ว ดิฉันรีบปีนตามไปดู ก็ไม่เห็นแล้ว คือดิฉันสั่งคนงานทุกคนที่นี่ ห้ามตีงูถ้าเจอให้ไล่เค้าไปซะ อย่าทำเค้า ที่บ้านหลังนี้มีงูเห่ามากเข้ามา30กว่าตัวแล้ว มีแต่งูเห่าอย่างเดียวเลย คืนนั้นก็ฝันว่างูมาหาดิฉันมาเรียกบอกให้มานี่หน่อยจะให้ดูอะไร ดิฉันปีนลงไปในนาข้างบ้าน แล้วเดินตามเธอไปบนคันนาจู่ๆเธอก็หยุดแล้วทรุดตัวลงกับพื้น ดิฉันตกใจคิดว่าเธอจะเป็นลมรีบเข้าประคอง เปล่าค่ะเธอกลายเป็นงูเห่าตัวใหญ่ แล้วเลื้อยเข้าไปใต้บ้านดิฉันบริเวณใต้ลานซักล้าง เธอว่าขุดตรงนี้นะจะมีไหอยู่3ใบ ในนั้นมีทองเป็นก้อนๆเธอเอาพวกเครื่องประดับทองทั้งหลายมาเผาไฟแล้วบีบรวมกันไว้ตรงนี้ เธอว่ามันเป็นของดิฉันแต่เดิม
    ตอนนี้ดิฉันเข้าใจเอาเองค่ะว่านางไม้น้ำตาลก็เป็นบิวารของท่านขุนเช่นกัน
    งูใหญ่ที่ว่านั้นคือนาคหรือเปล่าคะ งูใหญ่กับนาคคือชนิดเดียวกันหรือเปล่า(คือไม่รู้เรื่องเลยค่ะ)
    ...หมดคำถามเรื่องท่านเจ้าที่ และนางไม้น้ำตาลแล้วค่ะ...
    แต่มีเรื่องเล่าอีกนิดเดียวค่ะ คือเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ดิฉันไปวัดตะเคียน(อยู่ไม่ไกลจากบ้าน)ก็ได้พบคนรู้จักคุยกันหน่อยนึงเรื่องสัพเพเหระ สุดท้ายเช่าพระท้าวเวสสุวรรณของวัดจุฬามณีมา เป็นเนื้อผง ก็รุ่นธรรมดามากๆ(ดอกจำปาหรือจำปีนี่แหละค่ะ) เอามานอนด้วยไว้หัวนอน หลับสบายไม่ฝันเรื่องซ้ำๆมากนัก มีเห็นชายในฝันบ้างไกลๆ(ยังไม่รู้ว่าเป็นท่านขุน อดีตสามีในชาติก่อน) แต่เมื่อเช้ามืดนี่เองออกมาส่งสามีหน้าบ้าน(ไปทำงาน) ก็เหมือนเบลอๆยังไงไม่ทราบ แต่ตื่นอยู่นะคะ ก็เหมือนได้ยินเสียงท่านขุนแบบโกรธๆ ว่าเจ้าเอาพระนี่มาวางไว้อย่างนี้ ทำให้ข้ามาหาเจ้าลำบากรู้มั้ย แต่ความจริง ในห้องนี้ก็มีพระที่พ่อชอบใช้ประจำอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว งั้นเดี๋ยวจะย้ายไปเก็บที่อื่นก็แล้วกันเนอะ เราก็จะได้พบกันอีกครั้งให้สมใจท่านขุน

    เพิ่มเติมหน่อยนึงค่ะ
    คือเวลาที่งูพิษเข้าบ้านดิฉันก็จะโทรไปสถานีตำรวจ ให้ช่วยแจ้งกู้ภัยมาจับไปรีดพิษทำเซรุ่ม โทรบ่อย(ก็30กว่าครั้ง)จนเค้ารู้กันทั้งนั้นว่าบ้านนี้งูเยอะ
    ก็มีตำรวจท่านนึงโทรมาหาบอกว่าที่บ้านมีศาลพระภูมิมั้ย ดิฉันบอกว่าไม่มี เค้าถามว่าคุณเชื่อเรื่องแบบนี้มั้ย ดิฉันตอบว่าไม่เชื่อค่ะ เค้าบอกว่าไม่เป็นไรแต่ขอให้ฟังไว้แล้วไม่ต้องถามชื่อเค้า เค้าบอกว่าเค้าเป็นคนท้องถิ่นอยู่ตรงนี้มานานตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า ที่ตรงนั้นน่ะเป็นดงงูเห่าคุณต้องระวังตัวผู้หญิงกับเด็กอยู่กันตามลำพัง กว่าสามีจะกลับก็ดึกดื่น เช้ามืดก็ทิ้งลูกทิ้งเมียไปทำงาน เค้าว่าผมเห็นจริงๆนะว่าใต้บ้านคุณมีถ้ำงูอยู่ และมีงูใหญ่อาศัยอยู่มีบริวารมากมาย ถ้าตั้งศาลงูจะมีโชคมีลาภไม่ขาด ดิฉันบอกว่าไม่เอาล่ะค่ะ ไม่ตั้งหรอกเดี๋ยวพวกงูดีใจจะแห่กันมาอยู่มากไปกว่าเดิม ส่วนโชคลาภก็คงเป็นไปไม่ได้เพราะดิฉันไม่เอาอะไรเลยไม่ซื้อหวย ไม่เล่นไพ่คงไม่มีวันมีโชคลาภอะไรทางด้านนี้(คือปากเสียน่ะคะ) เค้าบอกว่าวันทำบุญบ้านให้พระช่วยดูให้นะ แล้วก็ไม่เคย
    คุยกันอีก แต่ตอนนี้ก็นึกถึงคำของเค้าอยู่ค่ะ
     
  4. mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    เรื่องราวของคุณพรรณพฤกษา น่าสนใจมากเลยค่ะ
     
  5. aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    แวะมาอ่านด้วยคนครับ ^^ สวัสดีคุณพรรณพฤกษา คุณmukmik คุณTPC คุณคะรุทา คุณCHAYA-MARUTY และเพื่อนๆ
     
  6. mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    สวัสดีค่ะ คุณ aries :cool:
     
  7. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    ดิฉันมีกรรมเยอะค่ะ มีคนตามมาทวงสัญญาใจ
    ก็อยากชดใช้ให้เค้าค่ะ...ก็คิดว่าตอนนี้จะทำให้ดีที่สุดก่อน
    และถ้าตายแล้ว...ก็จะไปอยู่กับเค้า... จะภักดีกับเค้าเพียงผู้เดียว...
    (ไปใช้กรรมที่ทำไว้กับเค้า)
     
  8. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    สวัสดีด้วยค่ะคุณaries
    ได้อ่านนิยายรัก300ปีของดิฉันแล้วหรือยังคะ
    ....สนุกมั้ย..............
     
  9. mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ...

    สิ่งไหนที่เราสามารถทำอะไรให้คนอื่นได้...ตามกำลังตนนั้น ล้วนเป็นสิ่งดีค่ะ
    "และถ้าจะต้องตาย...ก็จะไปอยู่กับเค้า... จะภักดีกับเค้าเพียงผู้เดียว" อันนี้
    ขอให้คิดและพิจารณดูอีกทีนะคะ เดี่ยวจะกลายเป็นการให้สัจจะไปซะเปล่าๆ
    กลายเป็นการผูกกรรมต่อกันโดยไม่ตั้งใจอีก (ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตาม
    แรงบุญแรงกรรมดีกว่ามั้ยคะ...หากมีวาสนาต่อกันแล้วไซร้ก็คงได้พบกันอีก)

    หากภพหน้า...เป็นดั่งเช่นภพนี้..สำหรับ "ผู้รอคอย" แล้วคงทรมานใจน่าดู
    ยิ่งต้องมาเห็นคนรักครองคู่อยู่กับคนอื่น...คงยากจะทำใจค่ะ (อาจก่อให้เกิด
    พิษรักกำซาบทรวงอีก...ทุกอย่างก็ไม่จบสิ้นสักที)
     
  10. aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ผมก็คิดคล้ายกับคุณ mukmik ครับ การผูกสัญญาใจนั้น หากบุญกรรมไม่เสมอกันจะมีความทุกข์ไม่รู้จบครับ และแต่ละฝ่ายก็มีคู่ครองไม่ได้ หากอยู่คนละภพภูมิกัน ผมรู้จักน้องคนหนึ่งในอดีตเธอเป็นธิดาพญานาคสีเขียว และมีคนรักที่เป็นนาคสีดำ แต่ต่อมามีเหตุให้เกิดสงครามระหว่างกัน ทั้งสองจึงมิอาจครองคู่กันได้ จนน้องคนนี้มาเกิดเป็นมนุษย์ผู้หญิง แต่ก็ไม่สามารถลงเอยมีคู่แต่งงานกับใครได้ แม้จะมีคนมารักมาชอบก็ตาม ในขณะที่อีกฝ่ายก็ยังอยู่อีกภพภูมิหนึ่ง ก็ยังเป็นห่วงและผูกใจรักอยู่แต่ก็มิอาจสมหวัง เพราะอยู่คนละภพภูมิกัน ถ้าปล่อยวางไม่ได้ก็จะมีความทุกข์ข้ามภพข้ามชาติไป

    ให้ตั้งใจทำตวามดีช่วยเหลือกันไปตามสมควร หากมีวาสนาต่อกันเมื่อใดก็จะได้พบกันเองครับ

    ผมเอาบทสวดพระบรมมหาจักรพรรดิมาฝากคุณพรรณพฤกษาครับ จะช่วยเรื่องอุทิศบุญได้ดีมาก
    บทสวดพระบรมมหาจักรพรรดิ(แบบ แทรกคำอธิษฐาน)
     
  11. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    ขอบคุณมากเลยค่ะคุณมุกมิก

    ดิฉันรู้สึกผิดอย่างมากที่ไปทำให้หนึ่งดวงจิตต้องเฝ้ารอ..แถมรอนาน...น้านนานถึง300ปี
    ก็อยากไถ่โทษ(คือในการคุยตรงนี้ก็ไม่ได้พรรณนาถึงความรู้สึกที่ได้รับรู้จากอดีตสามีในชาติก่อนมากน่ะค่ะ เกรงคนอื่นๆจะรับไม่ไหว) รู้ค่ะว่าในสายตาคู่นั้นของชายคนนี้ที่มองมาบ่งบอกแสดงความเจ็บปวดตรงที่หัวใจของเค้าเองขนาดไหน ...เวลาน่าจะช่วยได้ค่ะ...เมื่อความรู้สึกสำนึกเริ่มผ่อนคลายลง... ดิฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะฝึกสมาธิมาก่อน เพราะรู้สึกว่าการเข้าสมาธิทำให้ต้องพบกับความจริงที่ต้องยอมรับ(คือเป็นคนกลัวความจริง) ดิฉันเสียพ่อไปนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมรับ...ยังรอที่จะได้พบกันอยู่ทุกวัน...จึงกลัวการทำสมาธิ ..แต่ด้วยความรู้สึกผิดทำให้พยายามจะทำในสิ่งที่เค้าขอ(รู้ค่ะว่าไม่ถูก ความจริงควรจะทำจากการเข้าใจ ยอมรับ และพร้อมที่จะเริ่มลงมือปฏิบัติจึงจะสำเร็จผล) ก็อย่างที่บอกค่ะเมื่อไม่มีพ่อ ลูกคนนี้ก็ขาดผู้นำความคิด จึงทำอะไรตามใจตนเอง ข้ามขั้นข้ามตอน ในตอนนี้ก็ได้หลายๆคนจากที่แห่งนี้แนะนำ เนี่ยวรั้งความคิด ซึ่งดิฉันเริ่มมีความรุ้สึกว่า ไม่ได้มีแต่พ่อเท่านั้นที่คอยรัก คอยห่วง คนอื่นที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา ไม่เคยรู้จักตัวตนก็ยังมีใจต่อกัน พ่อของดิฉันเป็นคนนึงที่ประสพความสำเร็จในการทำสมาธิค่ะ
    ก็เคยไปหาหมอมาแล้วค่ะ ...เออ...ถูกส่งตัวไปคุยกับจิตแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนความคิดในการยอมรับกฎของธรรมชาติ ก็สรุปเป็นโรคนี้ค่ะ โรคภาวะหัวใจแตกสลาย โรคนี้ยังไม่มีชื่อเฉพาะค่ะ ใช้เรียกตามอาการไปก่อน หัวใจแตกสลายเพราะสูญเสียคนที่เรารักมากที่สุดไป
     
  12. mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    ข้อเสียของการรับรู้อดีต ก็คือ เมื่อรู้แล้วก็ทำใจไม่ได้ ไม่รู้จักการปล่อยวาง
    จึงเกิดเป็นทุกข์ (เหตุนี้กระมัง...ก่อนที่มนุษย์จะมาเกิดใหม่ จึงจำต้องให้
    "ลืมอดีต" เสียก่อน)

    แต่ข้อดีของการรับรู้อดีต ก็คือ การรู้ต้นสายปลายเหตุของปัญหา แล้วหาวิธี
    แก้ไขเท่าที่จะกระทำได้ อย่างน้อยก็ผ่อนหนักเป็นเบา แล้วระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์
    ซ้ำเหมือนในอดีตอีก

    กรณีเจ้ากรรมนายเวร...หากสิ่งที่เราทำให้เขาในชาตินี้ แล้วอโหสิต่อกันได้ กรรม
    นั้นก็อาจโมฆะไป (เผลอๆ หากเขาซึ้งในหลักธรรม ก็อาจได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี)

    ส่วนกรรมไหนที่แก้ไม่ได้ อย่างน้อยเราก็จะได้ "พยายาม" ทำใจให้ยอมรับสภาพ
    ก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรมต่อไป

    คนทำได้บุญ คนอโหสิกรรมได้บุญ ได้หลายเด้ง หลายต่อ อิอิ

    (มิกก็พล่ามไปเรื่อยค่ะ ตามประสาคนไม่เก่งธรรมะ)
     
  13. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    ขอบคุณ คุณaries เช่นกันค่ะ

    สำหรับบทสวดนี้จะนำไปใช้ในทันทีเลยค่ะ(จะสวดก่อนนอนทุกวันนะคะ)
    หลังจากเสียพ่อไปสักพักใหญ่ ดิฉันก็ต้องฝืนยอมรับความจริงว่ายังไงเราก็ต้องอยู่ต่อไป
    เพื่อลูก เพื่อสามี เพื่อตัวเอง แต่ก็ยังทำไม่ได้ค่ะ ยังไม่กลับมาเป็นคนเดิม ก็สงสารสามีค่ะ
    เราซึม เราหงอย เค้าก็พยายามชวนมีกิจกรรมในด้านต่างๆ ก็...ยังหงอย...
    สุดท้ายเธอก็เริ่มซึมตาม อีกหน่อยคงเซ็ง แล้วที่สุด...ถ้าเธอหมดรักเมื่อไหร่...คงจากไป(อีกคน)
    แต่คราวนี้เป็นการจากเป็น มันไม่ทรมานหัวใจมากเท่าไหร่ ยังมีโอกาสได้พบ ได้เจอกันบ้าง
    ...ตอนนี้ก็เริ่มเห็นปัญหาต่างๆจากตัวเองแล้ว และคิดว่าธรรมะน่าจะช่วยเราได้มาก
    อันนี้แม้แพทย์แผนปัจจุบันก็ยังแนะนำเจือหว่านล้อมให้ดิฉันพึ่งธรรมะเลยค่ะ
     
  14. pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    กรรมนั้นเปรียบเสมือนเชือก ยิ่งผูก ยิ่งมัด ยิ่งแก้ยาก หลุดยาก

    เงื่อนใด ปมใดที่ ผ่านมาแล้ว ก็ปล่อยวาง อย่าไป สร้างเงื่อนใหม่ ปมใหม่

    ยิ่งมี เงื่อนมาก ปมมาก ก็ยิ่งทุกข์

    ปมเก่าให้วาง ปมใหม่อย่าสร้าง คือทางพ้นทุกข์
     
  15. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    คุณมิกคะ
    ดิฉันเป็นคนใช้ใจในการดำเนินชวิตค่ะ ไม่ว่าอะไรก็ใช้ความรู้สึกตัดสิน
    ทำตัวเป็นพวกศิลปินน่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ ...พวกมีความเมตตากรุณาเกินกว่าเหตุ
    พวกรักไม่เป็นค่ะ เลยรักเป็นพิษ...อย่างว่า..ลูกแหง่ ...
    นี่ดีนะคะว่าเป็นพิษเพราะรักพ่อ
     
  16. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    เห็นด้วยเป็นที่สุดค่ะ
     
  17. TPC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ======

    การใช้ใจหรือจิต หรือใช้สัญญา หรืออารมณ์ ของจิตเป็นตัวตัดสิน อันนี้อันตรายครับ ผมอยากให้พยายามนำปัญญา เหตุ ผล เข้ามาใช้คิดตัดสินให้มากขึ้น นะครับ คือปัญหามีอยู่ว่า
    ชีวิตเราทุกคน หาก เรามีความเชื่อหรือศรัทธาในความเชื่อที่ดี ที่ถูกต้อง ก็ย่อมทำให้เรา เดินทางถูก มีโอกาศประสบความสุขความสำเร็จได้
    แต่ถ้าเราเชื่อในสิ่งที่ผิด ๆคือการเริ่มจากการมีความคิดที่ผิดๆ นี่อันตรายมาก เราก็จะเดินทางผิดและผิดไปตลอด ไม่สามารถเดินไปสู่จุดหมาย ยากนักที่จะประสบความสุข หรือความสำเร็จได้

    ดังนั้น ควรพิจารณาสิ่งนี้ก่อน และถัดมาเราควรพิสูจน์ หรือสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่า ความเชื่อหรือเรื่องที่เราศรัทธาแนวคิดต่างๆเหล่านั้นว่าดีจริงถูกต้องจริงหรือไม่ อย่างไร ต้องรู้จักเทียบเคียงและพิสูจน์ ทดสอบปฏิบัติด้วยตนเอง จนพบคำตอบ

    สุดท้ายเราจะได้ไม่หลงทาง หรือสับสนกับสิ่งที่เราก้าวไปข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้เราผิดพลาดเสียเวลา และพลาดโอกาสดีๆของเราได้ครับ

    ด้วยความปราถนาดีครับ ส่วนเรื่องที่ถามมาขอนำไปทำกรรมฐานตอบให้พรุ่งนี้ครับ
     
  18. aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,403
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    ผมเอาทริกวิธีการทำบุญให้ได้บุญมากของอาจารย์สุวิมาฝากครับ เพราะบุญเป็นสิ่งจำเป็นมากในการทำให้เรา ครอบครัว ญาติมิตรและบุคคลในภพภพภูมิอื่น มีความสุขได้ครับ การทำบุญกุศลให้ได้บุญใหญ่ๆเพื่อช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นให้พ้นทุกข์ ถ้าทราบเทคนิคนี้แล้วจะช่วยได้มากเลยครับ นั่นคือการนำบุญกุศลที่เราทำมาบูชาพระพุทธเจ้า บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้า บูชาพระอรหันต์ นั่นเอง

    ภรรยาผมเคยเข้ามโนมยิทธิแล้วนำบุญที่ทำสมาธิไปบูชาสมเด็จองค์ปฐม(พระพุทธเจ้าพระองค์แรก) เธอบอกว่าพอบูชาแล้วเกิดปิติมากมายแทบจะร้องไห้ออกมาดังๆ โดยระหว่างที่มีอารมณ์ปิตินี้เธอก็ขอนำบุญนี้มาหล่อเลี้ยงตัวเอง(อุทิศให้ตัวเอง) แล้วจากนั้นจึงอุทิศให้ผู้อื่น อาจารย์สุวิบอกว่าพอเรามีบุญแล้วจากการอุทิศให้ตัวเอง เราจะสามารถอุทิศบุญนี้ให้ผู้อื่นได้(ในลักษณะของการก็อปปี้บุญออกไปในช่วงเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน)

    ช่วงนั้นคุณพ่อผมเพิ่งเสียไปได้ไม่นาน ภรรยาผมชวนคุณพ่อผมไปกราบสมเด็จองค์ปฐมด้วยกัน (ในมโนมยิทธิ) แล้วพอได้อารมณ์ปิติเต็มที่แล้วจึงอุทิศบุญให้คุณพ่อผม กายของคุณพ่อเปลี่ยนจากชุดขาวเป็นเครื่องทรงเทวดาทันทีเลย

    การอุทิศผลบุญถ้ากล่าวอุทิศเจาะจงคนเดียวจะได้บุญเต็มที่ แต่ถ้าเฉลี่ยหลายคนจะเป็นการแบ่งบุญเฉลี่ยออกไป แต่ถ้าเรารู้เทคนิคการอุทิศแบบก็อปปี้บุญ จะส่งได้หลายครั้งโดยได้เต็มที่ทุกคนได้(ถ้าสมาธิทรงตัวดี) สมมุติว่าเราอุทิศบุญให้ตัวเรามีบุญแล้ว เราก็อุทิศบุญว่า ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้จงสำเร็จแก่(ชื่อ นามสกุล คนที่หนึ่ง) ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้จงสำเร็จแก่(คนที่สอง) ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้จงสำเร็จแก่(คนที่สาม).... ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้จงสำเร็จแก่(คนสุดท้าย)
    ถ้าเป็นแบบนี้ทุกคนจะได้ผลบุญเต็มที่เท่าๆกันหมดครับ

    แต่ถ้าอุทิศแบบนี้ ด้วยอำนาจแห่งบุญนี้จงสำเร็จแก่คนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สาม ... คนสุดท้าย
    ผลบุญจะถูกเฉลี่ยไปตามจำนวนคนที่อุทิศ ซึ่งจะได้บุญไม่เต็มที่

    และการอุทิศบุญแบบก็อปปี้นี้สามารถทำได้ในช่วงเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้น
    คุณพรรณพฤกษาน่าจะมีของเก่าอยู่มาก จึงสามารถรับรู้อะไรที่คนทั่วไปไม่รู้ได้
    ฝึกสมาธิให้ดีๆนะครับ จะได้บุญมากมายทีเดียว

    รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ที่นี่ครับ
    http://palungjit.org/threads/ปรึกษา...ใช้พลัง-ปราณยาม-ในการรักษาโรค.110817/page-133
     
  19. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    แนวทางของคุณTPCเป็นทิศทางเดียวกันกับพ่อของดิฉันค่ะ เมื่อไม่มีพ่อก็เขว...
    แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีหลายๆคนในที่แห่งนี้ช่วยคิด และแนะนำ สัมผัสได้ค่ะว่าทุกๆท่านนั้น
    ล้วนมีความปราถนาดีต่อดิฉัน เพราะทุกท่านมีความเมตตาเป็นที่ตั้ง...
    .....ขอบคุณจากใจจริงค่ะ......
     
  20. พรรณพฤกษา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +100
    ฝากคำถามถึงคุณชยาด้วยค่ะ...(ถ้าท่านอื่นๆรู้ก็ตอบมาได้นะคะ)

    คือตั้งใจจะถวายผ้าสบง ผ้าไตร จีวร แก่พระสงฆ์ เพื่ออุทิศกุศลผลบุญให้กับเจ้าที่ ที่บ้านน่ะค่ะ
    แต่เคยได้อ่านข้อความของ คุณตาที่สาม ที่บอกในทำนองว่า เมื่อตัวเรานั้นได้เคยสร้างกรรมไว้กับสถานที่ใดในชาติปางก่อนของเรา
    เราไม่ควรจะไปที่นั่น หรือทำบุญไม่ขึ้นในที่แห่งนั้น แต่ดิฉันยังจำเป็นต้องอาศัยอยู่ตรงนี้ จึงเกิดความสงสัยว่า
    ดิฉันควรจะไปทำบุญเข้าวัดในจังหวัดข้างเคียงแทน แล้วอุทิศส่วนกุศลให้กับท่านเจ้าที่ใช่มั้ยคะ
    อ้อ...หรือว่าแค่ข้ามอำเภอก็พอ ดิฉันอยู่ที่นนทบุรี อำเภอบางใหญ่ค่ะ
     

แชร์หน้านี้