เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เอ! ตอนนี้ที่จักกระ 1 ฝีเย็บ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น มันจะเอางัยกะผมหว่า อิอิ

    นอกเรื่องไปนิด ขออภับครับอาจารย์
     
  2. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องแรก..ผีเฝ้าบ้าน
    มีคนเชิญผมไปตรวจ บ้านใหญ่ ที่ ร้าง แถว ซอย ใกล้ๆๆ สามเหลี่ยมดินแดง
    ช่วยดูว่า..ทำไม..ค้าขายไม่ขึ้น..และ เจ๊ง เลิกไปแล้ว..
    บอกขายต่อ ราคาถูกๆๆ มาหลายเดือน แล้ว...แต่ไม่มีคนมาซื้อ.
    .อยากให้ช่วย..ทำให้ ขายได้

    ผมก็ไป..มองจาก ข้างนอก..เป็นบ้านขนาด ใหญ่.
    .ก่อสร้าง บ้านสไตล์ กรีก โรมัน..เสากลม มีเกลียว ..เรียงกันไป
    เหมือน โรมัน ฟอรัม ในกรุงโรม..หรือ ตำหนัก อธินา..ในกรีก

    ถามได้ ความว่า..เดิม ดัดแปลงเป็น โรงงานเย็บ ผ้า ( จักร)
    มีห้อง ประมาณ 15 ห้อง ใหญ่...ตั้งจักร ได้ มากกว่า 30 ตัว
    มีคนงาน ประมาณ40 คน ทำงาน ในนั้น ..นอนในนั้น..เบ็ดเสรีจ

    พอจะเข้าบ้าน..ยืนคาที่ประตู..ก็เห็นแล้ว..
    ว่าที่ บ้านนี้..มีพลัง แรง ของ วิญญาณ ที่เฝ้า อยู่
    เขาอยู่ บนต้นไม้ใหญ่ ที่ ขึ้นอยู่ หน้า บ้าน
    ตันสูง ประมาณ ตีก สาม ชั้น..นับว่า สูงเอาการ

    เราก็เริ่ม เข้าตรวจ..โดยมีเจ้า ของ เดินตามมาติดๆๆ
    พอ ยืนที่ ธรณี ประตูเข้า...สัมผัสได้ เลยว่า..เขาลงจาก ต้นไม้
    ลอยมาเกาะ ที่ กรอบประตู..แบบ ว่า ต้อง ตามติดๆๆ..
    พลังแรงจริงๆๆ..จนเจ้า ของ ก็ สัมผัสได้..

    ผมก็อยากรู้ว่า เขาจะทำอะไร..และตามมาดู ทำไม
    เราเดินผ่านกลาง ห้อง แรก..ดูว่า เขาจะตามมาไหม..ตามอย่างไร
    เห็นได้ ชัดเจน..เพราะ เรา จ้อง..อยู่
    เขาวิ่งตาม ขอบผนัง..คล้ายๆๆ จิ้ง จก ไต่ ฝา.
    .แต่ลอยออกจาก ฝาประมาณ 1 นิ้ว..
    ไต่เร็วมาก..ความเร็ว คงที่..ไม่สะดุด

    เราตรวจไปตามห้อง ต่างๆๆ..เข้าห้องโน้น ออกห้อง นี้.....เขาก็ไต่
    ตาม ผนัง ด้านข้างตลอด....จะสัมผัส ได้ แรง..เมื่อ เขา..มาลอยเกาะ
    ที่ ขอบกรอบประตูของ แต่ละห้อง

    ลองดู สี ของ วิญญาณ ที่ ติดตามมา..พบว่า มีสีออกทางเหลือง
    สีเหลือง เป้น วิญญาณ กลางๆๆ ปกติ..ไม่ร้ายเท่า วิญญาณ สีแดง
    ที่ ถ้า เจอ..จะโจมตี เรา ทันที...ผมเจอ วิญญาณ สีแดง มาหลาย ที่
    ซัดกันุทุก ครั้ง ที่เจอ...แต่ทำอะไร เราซึ่งเป็น มนุษย์ไม่ได้

    เพราะ เรา มีธาตุ ครบ สี่ ธาตุ.คือ ดิน...น้ำ..ลม..และไฟ
    ส่วนผี และวิญญาณ..มีแค่ธาตุลม.
    .ออกฤทธิ์ ได้เพียง เป่า ลม พัด... ดับ เทียน..เปิด ประตู ปัง ปัง
    ปิด หน้า ต่างโครมคราม..เหมือนบ้านผีหลอก
     
  3. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ผีทำอะไร..มนุษย์เราไม่ได้ จริงๆๆๆ
    แต่ที่ ทำได้..เพราะ บางคนจิตตก..เจอผี พัด ประตู หน้า ต่าง ใส่.
    .มีเงาดำ วูบวาบ...ก็ผวา เหมือน โจร เจอ ตำรวจ
    จิตก็เลย คุมไม่อยู่..ระบบประสาท ป่วน..หัวเลยโกร่น..บางคน เอ๋อ ไปเลย
    อย่า กลัว ครับ..อย่า หนี ผี...
    ต่อไป ถ้า เจอ ผี..เอาพระ อมไว้ใต้ลิ้น..ท่องนะโม..วิ่ง เข้าใส่ผี เลย
    ตรงเข้าไปเลยที่ เห็นว่า ตัวผี ยืนอยู่.
    .รับรอง ผี กระเจิง..ผีหมดฤทธิ์ เพราะ คนไม่กล้ว
    ป.ล...อย่า ตาฝาด เห็นสาวๆๆ ยืนอยู่..คิดว่า ผี..วิ่งเข้าใส่ นา
    เดี๋ยว สาว จะว่า...." ไอ้ คนผีทะเล.."..เรานะ จะกลายเป็นผีไป
    .........................................................................
    ครวจครบ..ก็มายืน ที่ ต้นไม้ใหญ่ หน้า บ้าน ที่ วิญญาณ เขาอยู่
    เชิญ เขาลงมา..เขาก็ลงมายืน ตรงหน้า เรา
    ปรากกว่า เป็น ตาแป๊ะ..วัยกลางคน
    ถามได้ ความว่า..เดิม มีพี่ น้อง สาม คน..ตัวเขาเป้น คนโต..อยู่ด้วยกัน
    ทำเฟอรฺ นิเจอร์ ที่ บ้านนี้...น้องชายมันโกง..ก็เลยเจ๊ง..หมด ตัว ต้องขายบ้านนี้
    เขาก็เลย ตรอม ใจตาย..คาบ้าน.เสียใจที่ น้องๆๆโกง
    .................................................................................
    แกเล่า ว่า..คนที่ ซื้อ ต่อ เป็น ตำรวจ..เอาบ้านทำบ่อน
    แกเป็น คนถึอ ศีล ไม่ชอบ..ก็เลย แกล้ง หลอก ทุกวัน..
    จนบ่อนพัง..เพราะ ไม่มีใครมาบ่อที่ มีผีหลอก
    จนตำรวจ ต้อง ขายต่อ..มาจนถึง คนปัจจุบัน
    ..................................................................
    ถามต่อ ว่า ทำไม..ทำให้ คนปัจจุบัน
    ที่ ทำเป็น โรงงาน ทอผ้า เจ๊ง ด้วยล่ะ..เขาหากินไม่ผิดศีล
    แก ตอบ..งานดี..แต่คนงานมีมากมาย 40 คน
    พอเย็น ก็ สุม หัว กัน กินเหล้า ในห้อง...เล่น การพนัน ไพ่
    บางคนก็ สมสู่กันเป้น คู่ๆๆ ระหว่าง คนงานหญิง กับ ชาย
    สลับคู่ แลกกัน ก็ มี..ผิด ศีล ทั้ง นั้น
    แกจึง ทำให้ โรงงานเจีง...จะได้ไปๆๆๆ
    ..................................................................
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ในที่สุด ก็บอก ตาแป๊ะ ว่า..โรงงานเขาก็ เจีง ไปแล้ว
    เขาก็ บอกขายให้ เจ้าใหม่ไปแล้ว..ยังไม่มีคนมาซื้อ..
    ช่วยเขาหน่อย เถอะ..จะเอาอะไร ก็เอา
    .......................................................
    ช่วยเขาหน่อย นะ...คนไหนมา..สัมผัสว่า ดูดี..ก็ ให้ เขาซื้อไป เถอะ
    เจ้าของ เขาจะ ทำบุญ แผ่กุศล ไปให้..จะเอาอะไร บอก
    แก ก็ ตกลง..จดรายการไว้เพียบ..
    ก็สงสัย..เพราะ แต่ละ รายการ แก จะมีฟันเคี้ยว เรอะ
    คอ ห่านมีใส้ถั่ว หยั่งงี้ / ถั่ว ตัด / ถั่ว ตุ๊บ ตํบ /
    ก็บอก เจ้า ของ เขาไป ว่า..แก ยอม ให้ บ้านขายได้..
    แต่ต้องซื้อของ ให้ แกให้ ครบนา..รวมทั้ง เชี่ยงชุนกะปุกใหญ่ ด้วย
    .................................................................
    หลังจาก นั้น อีก สอง สัปดาห์..เจ้าของ ที่ จะขาย..
    บอกว่า ขายได้ แล้ว...คนซื้อ จะทำเป็น ออฟฟิศ สินค้า ส่ง ออก
    ก็เป็นอันจบเรื่อง..
    ........................................................................
    .เรื่องนี้ คิดว่า จะสั้นๆๆ ว่า ผีเดิน เคลื่อนที่ อย่างไร
    กลับยาว..แบบปากกา พาเพลิน...คงจะเป็น เรื่อง ยาว อีก หลายตอน ว่า
    เทวดา / เทพ / ตัวร้าย พลัง แสงแดง..พญานาค..เคลื่อนที่ อย่างไร
    ความที่ยาวมากๆๆหลายตอน
    จึง มีคนมาแทรก คั่น..เรื่อง เลย ขาดเป็น ตอนๆๆๆ
    หวังว่า คนที่มาอ่าน..คงจะอ่านแบบ..
    เอาตอน ที่ ถูกคั่น..มาอ่าน ต่อ จนจบเรื่อง นะ
    สวัสดี..ครับ..สำหรับ คืนนี้
     
  5. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +10,787
    พบผีนางไม้ และ นางตานี

    หลังจากที่เล่นที่โรงแรมวิวัฒน์ได้ 9 เดือน ผมได้ย้ายมาเล่นที่โรงแรม อาเขตอินน์ จ. เชียงใหม่ ตอนนั้นน่ะ กำลังเพิ่งเปิดใหม่ เค้ามาหาวงดนตรีไปเล่นที่ค๊อฟฟี่ช็อบ (ราว ๆ ปลาย เดือน มกราคม 2534 ครับ )

    ........................................ก็ปรากฎว่า เจ้าของโรงแรม มาชอบวงผม ก็เลยได้โอกาศไปเล่นเชียงใหม่ ซึ่งในสมัยนั้น วงดนตรีวงใดได้เข้าไปเล่นในเมืองเชียงใหม่ ถือว่า เจ๋งมากครับ ซึ่งก็มีกัน 2 วง ก็คือวงผม และวงของพี่ เชวง พระเอกเรื่องที่แล้วของผมนั้นล่ะครับ

    ...........................................................ที่พักของผมก็ คือ อพาทร์เมนต์ แถว ๆ สถานี ขนส่งอาเขตนั้นล่ะครับ เจ้าของใจดีมากชื่อ เจ๊อ้วนครับ ชั้นล่างเจ๊แกก็ขายอาหาร ชั้นบน ก็เป้นที่อยู่ของผม แต่ด้านหลัง บ้านนี่ค่อนข้างรกนิดหน่อย เป็นป่ากล้วยครับ

    ......................ซึ่งตอนกลางคืนเวลาผมจะออกไปทำงานเล่นดนตรี ราว ๆ 2ทุ่ม ร้านด้านหน้าปิดแล้ว ผมก็ต้องออกทางด้านหลัง ตรงป่ากล้วย แล้วเดินอ้อมตึกไปออกถนน เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ผมก็เริ่มนั่งสมาธิหลังเลิกงานเหมือนที่เคยทำมาเป็นปกติ

    ..........................................และคืนนี้ก็เช่นกันครับ เล่นดนตรีเสร็จราวตี 2 ก็เดินอ้อมตึก จะมาเข้าประตูด้านหลัง แต่ เอ รู้สึกปวดปัสสาวะ ขึ้นมากระทันหัน ด้วยนิสัย บ้านนอก บ้านนอกแบบผม ก็เลยตัดสินใจปล่อยมันตรงดงกล้วย นั้นล่ะครับ

    ................................................. เสร็จแล้วก็ไขกุณแจเข้าอพาทร์เมนต์ เข้าห้องอาบน้ำ นั่งสมาธิ คืนนี้รู้สึกว่า นั่งได้ไม่ค่อยได้นานเท่าไร เพราะเหนื่อยจากการเล่น ก็เลย เปลี่ยนการนั่ง มาเป็นการนอนสมาธิ ซึ่งก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว จับลมหายใจ เข้าออก พร้อมภาวนา พุทโธ ๆๆๆๆๆๆ ไปเรื่อย ๆ พักเดียวก็หลับ .

    ......................................จับลมหายใจ และหลับไปได้ไม่นานเท่าไร จิตมันก็ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว ..........จิตตื่นลักษณะนี้ทีไร ได้เรื่องทุกทีครับพี่น้อง ....................พอจิตตื่น ตาก็เห็นครับ สภาพห้องผมที่เห็นก็เหมือนจริงทุกประการ แต่ที่ประตูนี่ซิครับ มีผู้หญิงยืนอยู่ 2 คนครับ .

    ......................................แน่นอนครับ มาแบบนี้เวลานี้ รู้เลยว่าไม่ใช่คนแน่นอนครับ ดูอายุของเธอทั้ง 2 ราว 16- 20 ปี ไม่เกินนี้แน่นอน คน ซ้าย นุ่งโจงกระเบนสีเข้ม ๆ จำไม่ได้แล้วล่ะครับว่า เป็นสีอะไร แต่ใส่สไบ สีเขียวนี่จำได้ติดตา ผมยาว ผิวขาว สวยมากๆ สวยจริง ๆ ครับ

    ................คนธรรมดานี่สุ้ไม่ได้เลย ...............................คนขวานี่นุ่งโจงกระเบนเหมือนกัน แต่ใส่สไบสีชมภู สวยไม่แพ้กันครับ......................ผมเห็นเธอยืนอยู่ครู่หนึ่ง คนซ้ายก็กระซิบกระซาบ กะคนขวา ไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน

    ..............................................เธอกระซิบกันเสร็จ คนซ้ายที่ใส่สไบสีเขียวก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผม.......................................................พอ มาใกล้ตัวผมเธอก็โน้มตัวลงมา พร้อมยืนมือหมายจะมาบีบคอผม .......................................................ผมตลึงอยู่ชั่ว ครู่ แต่ไม่ได้ตกใจอะไรน่ะครับ

    .....................อีกซัก 3-4 นิ้วเห็นจะได้ มือเธอก็จะถึงคอผม ผมจึงได้พูดออกไปด้วยเสียงอันดังว่า .เออ จริง ๆ จะว่าพูดก็ไม่ใช่ ต้องบอกว่าคิดด้วยเสียงอันดังมากกว่า เพราะปากของกายเนื้อไม่ได้ขยับ เป็นการพูดทางจิต ซึ่งก็คือการคิดนั้นเอง ....ว่า....................มาทำอะไรกันในห้องนี้ ไม่รู้จัเกรงใจพระ เกรงใจเจ้า............แล้วผมก็ชี้มือขึ้นไปบนฝาผนังห้อง ซึ่งมีรูป หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงพ่อสด .

    ............................................... แต่พอผมมองมือผมที่ชี้ขึ้นไป .......กลับไม่ใช่มือและแขนที่เป็นกายเนื้อครับ มือและแขนของผมโปร่งใส่ .....จะว่าใสเหมือนแก้ว ก็ไม่ขนาดนั้น จะคล้ายหลอดนีออน ก็ใส่กว่านั้นมาก เป็นใส ๆ ขุ่น ๆ นิด ๆ น่ะครับ ...........................................เห็นเช่นนี้ก็รู้เลยว่า อ๋อ นี่กายทิพย์ของตัวเองน่ะ เป็นแบบนี้ แต่ว่าเห็นแต่แขนครับ......

    ......................................ผู้หญิง สองคน ได้ยินผมพูดออกไปเช่นนั้น ก็ ชงัก มองตามมือผมขึ้นไปข้างบน พอเธอเห็นรูปพระ เธอทั้ง 2 ก็ถอยไปยืนที่ประตูที่เก่า แล้วก็คุยอะไรกันเล็กน้อย แล้วก็เดินหันหลังกลับ ทะลุประตูหายไป


    ..................................................แล้วผมก็ หลับต่อ.............พอตื่นมา ก็มาพิจรณาว่า มันเรื่องอะไรกัน จู่ ๆ ก็มี นางไม้จะมาบีบคอกันขนาดนี้ .

    ..................................................คิดไปคิดมาก็รู้ว่า เอาอีกแล้ว เยี่ยวไมู่ดูตาม้าตาเรืออีกแล้ว ไปเยี่ยวใส่บ้านนางตานีเค้าซะแล้ว ..........เค้าก็จะมาตักเตือนน่ะซิ ดีน่ะที่บารมี หลวงปู่ หลวงพ่อ ที่เราเคารพนับถือ ช่วยเราเอาไว้ได้.............ก็ต้องขอขมาเค้าตามระเบียบล่ะครับที่นี่ เฮ้อ ชยา เอ๋ย ........เมื่อไรจะเลิกมีเรื่องกะผีซะทีหน๊ออออออออออออออ;aa36
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2010
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เห็น คุณ Visnu แวบเข้ามา..บอกว่า ตอนนี้ อยู่ เชียงใหม่
    เตือน เขา ก่อนไปแล้ว..อย่า ไปเลย เชียงใหม่
    เมื่อ หลายร้อยปี มาแล้ว..มีอยู่ ช่วงหนึ่ง
    ที่ เชียงใหม่ ตกเป็น ของ พม่า นานกว่า 212 ปี
    และ วิษณุ ในยุคนั้น ตีเมือง เชียงใหม่..ฆ่า พม่ามากมาย
    วิญญาณ พม่า หลายร้อย ยัง คงอยู่..มันจำได้..ว่า เคยทำกับ มันไว้
    ไปคราวนี้..คงจะงอม พระรามแน่ๆๆๆ
    ฟังเขามาเล่า ดี กว่า ในกระทู้
    เล่า เรื่อง คืนนี้ ก่อน นอน...ที่ นี่
     
  7. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    แล้วบางคนที่เคยฆ่าพม่ามามากๆ เหมือนกัน แต่เกิดในเชียงใหม่ปัจจุบันนี้

    ถ้าไม่มีวิชาติดตัวบ้าง จะเป็นไงบ้างครับอาจารย์

    ท่านอาจารย์รบกวนตอบคำถามนี้ด้วย จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นจริงๆ
     
  8. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    จากการตรวจสอบ ทางกรรม...พบปัจจัยสำคัญ ดังนี้
    กาลที่ จะมีผู้คนล้มตาย ด้วยการฆ่าฟัน คือ การสงคราม
    สงตรามใหญ่ๆ ที่เกิดในประเทศ สยาม ในอดีตส่วนใหญ่ รบ กับ เพื่อน บ้าน
    กับพม่า หรือ ตะเลง เป็นหลัก ต่อมา ก็ มุสลิม ทางใต้ ปีตตานี
    ลาวเวียงจันทร์ ยุค เจ้าอนุวงศ์...เขมร หลายครั้ง
    การฆ่าฟัน ตัดชีวิต ..ถือว่า ทำ บาป ตามศีล ข้อ แรก..ปาณาติปาตา
    ........................................................................
    สงครามใหญ่ๆๆ ยุค กรุงแตก ทั้งสอง ครั้ง
    ยุค สมเด็จพระนเรศวร มหาราช กู้ ชาติ ..หลัง กรุงศรีอยุธยา เสีย ครั้งที่ 1
    ยุค สมเด็จ พระเจ้า ตาก กู้ ชาติ..หลังกรุงแตก ครั้งที่ สอง
    ผู้คนล้มตาย เรือน หมื่น..เรือนแสน
    ...........................................................................
    ผลกรรม ที่ ถูก บล๊อคไว้
    ใครในยุคนั้น ที่เกิด มาใหม่ ในชาติ นี้..จะไป เมืองที่ ตนเตยฆ่าคนไว้มากไม่ได้
    เพราะ เหล่า วิญญาณ ที่ ยัง..ไม่ได้ เกิด..จะจำได้ ทันที ที่เหยียบ เข้าๆไป
    เขา จะพากันรุมยำ เป็น การ แก้ แค้น...ถ้า ผู้ นั้น มีพลัง ไม่พอ..ก็จะ อานไป
    ถ้า มีพลัง จิต มากพอ..ก็ ลำบาก น้อยลง
    ...............................................................................
    ในอดีตฆ่าคนในเขตใด..ก็จะ ทำบุญ ที่ วัด ในเขตนั้น..ไม่ขึ้น
    พวก เคยเป็น ทหารสยาม ยุค กรุงศรีอยุธยา..จะทำบุญ ในวัด เขต อยุธยาไม่ได้
    ....................................................................................
    กลุ่มที่เคยเป็น ทหารกู้ชาติ พระเจ้าตาก สิน มหาราช..ก็ จะทำบุญ ในวัดไม่ขึ้น
    ตามแนว ที่ กองทัพ เดิน ไป ฆ่า ฟันกันไป..
    ตั้งแต่ จันทบุร๊ / ระยอง / ธนบุรี / ราฃบุรี / สมุทร สงคราม
    / สมุทรสาคร/กาญจนบุรี / สุพรรณ บุรี..ฯลฯ
    .....................................................................................
    วิธีแก้ไข คือ อย่า ไป ที่ ที่ เราเคย ทำกรรม ไว้.
    ทำบุญ ในวัด ใหม่.ๆๆ.ที่ สร้าง หลัง สงคราม..จะได้ ไม่มีกรรม กับ สถานที่ นั้น
    ....................................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2008
  9. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    อาจารย์คะ แล้วเมื่อทราบว่าทำกรรมไว้กับสถานที่นั้นๆ เรามีวิธีขอขมาจะช่วยได้ไหมคะ
     
  10. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    เป็นอาจารย์อาชวิน ท่าจะปวดหัวน่าดูนะค่ะ เจอสารพัด แต่ก็ได้ประสบการณ์ดี
    มีวิธีอยู่อย่างมีความสุขกับพวกวิญญาณรอบๆตัวไหมค่ะ บอกเป็นวิทยาทานหน่อยค่ะ

    คือ ชีวิตแบบนี้มันไม่ใช่ของเราซะงั้น เราเหมือนถูกเบียดเบียนทางอ้อม
    ไม่เป็นธรรมชาติของเรา 24 ชั่วโมง เราไม่เคยได้อยู่คนเดียว บ้างก็รำคาญค่ะ
    ขัดกันตลอด ยอมรับว่า อัตตาสูงพอควร เพราะ ชอบความเป็นส่วนตัว แต่มันหายไป

    แต่ทำเป็น ไม่รู้ไม่ชี้ก็ดีอยู่ แต่นิ้วมันกระดิกตลอด ไร้สาระมากด้วย
     
  11. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    ขอบพระคุณที่เมตตา สมควรแล้วจริงๆกับชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา แต่ต้องไม่ประมาท

    บุญอะไรเค้าก็ไม่เอา แค้นทมหาแค้น ฝังลึกมาก ถ้าฟ้าดินไม่ช่วย ก็ตายไปนานแล้ว

    แต่ใช่ว่าจะพ้น หมดซะทีเดียว


    ย้อนดูดีๆ ที่จริงหลายท่าน เคยร่วมรบกันมา ...กลับถูกปั่นหัวให้มาฟัดกันเองในเวปซะแล้ว

    หากมีท่านอื่นๆที่อยู่ในเคสนี้เหมือนกัน ขอให้พบทางพ้นทุกข์โดยไวนะครับ


    โมทนาสาธุ กับธรรมทานของอาจารย์ครับ


    ( ใช้วิชาก็แค่เลี่ยงได้บางกรณี เศษกรรมเพียงนิด ผมก็ต้องชดใช้ รอดมาทุกวันนี้ก็บุญแล้ว

    ขอให้ทุกท่านหมั่นทานศีลภาวนา เข้ามรรคผลนิพพาน ก่อนเค้าจะตามทัน สาธุ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤศจิกายน 2008
  12. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    การที่ไปเชียงใหม่ในครั้งนี้ได้ประสพการดีๆ เยอะครับ
    ได้รู้ว่าการที่เราฝึกสมาธินั้นมีประโยชน์อย่างไร
    ในตอนแรกก็คิดเหมือนคนทั่วไป คือแค่อยากรู้อยากเห็น
    อยากเจอสิ่งใหม่ๆ ที่คนอื่นมองไม่เห็น
    แต่การฝึกสมาธินั้นปรากฏว่าได้อะไรขึ้นเยอะทำให้เป็นบ่อเกิด
    แห่งสมาธิบ่อเกิดแห่งปัญญา
    และจิตที่ละเอียดขึ้นการยับยั้งชั่งใจ เอาละครับกล่าวมายืดยาวเลย
    เริ่มต้นเลยคือก่อนที่จะไปเชียงใหม่ผมได้ตรวจ
    ทราบกรรมของตนมาบ้างแล้วและได้มีการไปคุยกับ
    อาจารย์บ้างแล้วว่าไปแล้วจะเจออะไร แต่การที่เจอผี
    เจออะไรเหล่านี้ผมก็เจอมาเยอะแล้ว
    และเป็นคนที่ไม่กลัวเพราะคิดว่าการที่เราปฏิบัติ
    และการเจริญสมาธิเป็นเกราะชั้นดี
    ให้กับเราอยู่แล้วจึงไม่ค่อยกลัวอะไร แต่การนึกอย่างนั้น
    กลับเป็นการเข้าใจที่ผิด
    เมื่อมีเรื่องผลกรรมเข้ามาเป็นตัวแปลครับ
    เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤศจิกายน 2008
  13. เต๊ะจุ๊ย

    เต๊ะจุ๊ย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +695
    ขนาดพี่บาส ยังน่วมเลยแฮะ..
    ... เอ..
    หวังว่าเราคงไม่เคยฆ่าใครไว้ที่ไหนนะนี่นะ..
     
  14. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    ว่าแล้วมาต่อแล้วกันครับ คือผมมัปัญหาตั้งแต่คิดจะไปแล้ว
    คือมีอุปสรรค์ให้ไม่ได้ไปหลายอย่างทั้ง จองเทียวบินไม่ได้
    ไม่ได้รอบที่จะไป ดีเลไปหลายชั่วโมง ทำให้ไม่อยากไปและ
    ที่สำคัญมีคนมาบอกตลอดเวลา ว่าอย่าไปเลยทั้งที่เป็นคนและ
    อื่นๆ แต่ยิ้งห้ามเหมือนยิ้งยุยิ้งอยากไป เพราะในชิวิตไปมาหลาย
    จังหวัดแล้วไปเหล่าให้ใครฟังว่าไม่เคยไปเชียงใหม่ เนี่ยเสียเลย
    ก็เลยเอาวะ ไปรถทัวร์ก็ไปก็เลยไปรถทัวร์ซะเลย ก็นั่งมาเรื่อยๆ
    นึกถึงตอนเด็กๆที่ ครอบครัวเวลาพาไปต่างจังหวัดก็เพลินดี
    ก็ไม่คิดอะไรมาก นั่งไปหลับไปพอซักพักเห็นมือใครก็ไม่รู้มาบีบคอ
    แล้วผมก็เกิดอาการอยากจะอาเจียรอย่างแรง วิงไปห้องน้ำแทบไม่ทัน
    แล้วนั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งการพจนกรรมของตัวผมเองครับ
    คือตั่งแต่ตอนที่ผมวิ้งไปอ้วกก็ไม่ได้กลับมานั่งที่นั่งอีกเลยเพราะอ้วก
    ตลอดเส้นทาง แล้วตลอดเส้นทางมองออกไปหน้าต่างเจอผีเป็นกลุ่มๆ
    ชี้หน้าตลอกเหมือนเราไปทำอะไรให้เจ็บแค่ใจก็ไม่รู้ พอถรมาถึงที่ขนส่ง
    ผมก็ลงมากะจะหายาดมซะหน่อยเลยให้คนที่ไปด้วยไปซื้อให้แต่เปล่าหลอก
    คือกะจะให้เค้าไปไกลๆเราจะสร้างเกราะคุ้มกายไม่งั้นตายแน่ จากนั้นก็รวบรวม
    สมาธิขออำนาจสิ่งศักสิทธ์ที่เราเคารพที่สุกมาสร้างเป็นกำแพง(ต้องบอกก่อน
    ว่าผมนับถึอฮินดู)พอเริ่มทำก็ดีขึ้น ตอนนี้กลับกันจากที่จะมีผีแต่งตัวเป็นนักรบ
    มาชี้หน้าด่าเรา กลับเป็นผีที่ชั้นดีกว่าหรือเป็นเทวาดาก็ว่าได้มาต้อนรับมานำเที่ยว
    และตลอดที่อยู่เชียงใหม่ผมก็ยังอ้วกอยู่เป็นระยะๆ การที่จะคุยกับเทวดานั้น
    ต้องแอบคุยเพราะคนที่ผมไปด้วยเราก็ไม่กล้าบอกเค้าเดียวเค้าจะหาว่าเราบ้า
    พอถึงเชียงใหม่ก็ดึกแล้ว ก็ต้องหาที่นอนเพราะผมต้องไปที่ปายในตอนเช้าอีกวัน
    พอดีเพื่อนที่มาก่อน นอนอยู่ที่YWCAก็เลยให้มันจองให้เดียวพรุ้นี้เช้าก้จะได้ไป
    ปายด้วยกัน ขณะอยู่ที่พักผมเหมือนคนดังยังไงไม่รู้ รู้สึกเหมือนดาราเลย เพราะดารา
    มีคนมาห้อมล้อมเยอะ แต่ผมมีผีเป็นร้อยมาห้อมล้อม เป็นผีพม่าพูดจากันไม่รู้เรื่องอีก
    ที่บอกพูดไม่รู้เรื่องต้องอธิบายนิดนึงคือผีเวลาเราคุยกับเค้านะเราคุยทางจิตไม่ว่า
    ภาษาอะไรพอใช้จิตคุยรู้เรื่องหมด แต่พวกนี้ไม่รู้ว่าตัวเองตาย ยังยึดติดสถานะที่ตนมี
    ชีวิตอยู่ เลยคุยไม่รู้เรื่องคืนนั้นเลยต้องทำกำแพงมนต์ตรากันไว้ไม่ให้มากวน ผมก็เริ่ม
    อย่ากรู้ว่าเป็นเพราะอะไรเลยนั่งสมาธิถอดจิตไปดูว่ามีใครพอจะตอบผมได้บ้างไปเจอ
    พระอยู่รูปนึกซึ่งผมไม่รู้จัก ก็เลยสอบถามท่านดูว่าเพราะอะไรคนพวกนี้จึงแค้นผมมาก
    ท่านตอนเรกก็ไม่อยากบอกผมเลยอธิฐานต่องเบื่องบนขอบุญของตัวผมเองให้ท่านจะได้
    เป็นทานให้ท่านเกื่อหนุนกับเราถึอเป็นการผูกพันกัน ท่านจึงยอมบอกว่าในชาติที่แล้ว
    ผมเป็นผู้นำทางทหารคุมทหารหลายร้อยเข้าตีพม่า ที่มาตั่งค่ายทั่งฆ่าเองและสั่งให้ฆ่า
    จึงทำให้เขาเหล่านั้นแค้นใจมากแต่ทำอะไรเราไม่ได้และตั่งสัจจะไว้จะแก้แค้นเราให้ได้
    และพระท่านก็สอนวิธีเจริญภวานาอีกแบบไว้ให้เรานั่ง สามารถย้อนดูอดีตของเราได้จะได้
    เห็นเอง ว่าแล้วก็เลยนั่งดูตัวเองซะเลยเพราะคงไม่ได้นอนแล้ว ผมจึงได้รู้ว่าตัวผมนะชาติ
    ที่แล้วมียศเป็นหมื่นนำกองกำลังมา สามกองร้อยมีหน้าที่มาสุ้มดูกองกำลังพม่าก่อนทัพ
    หลวงจะมาปราบแต่ ตัวผมกลับเห็นว่าเข้าตีเลยแล้วชิงหัวเมืองมาได้ก่อนจะเป็นวิธีที่ดีเลย
    ชิงลงมีก่อน จึงรู้ว่าเวลารบกันต้องตีในด้านกำลังใจก่อนเพื่อจะได้เปรียบในด้านกำลังใจ
    จากที่ทราบผม(ในชาติที่แล้ว)จึงสั่งลูกน้องให้ไปเผาวัดพม่าในเขตนั้นแล้วจึงเข้าตี จึงทำให้
    ตีได้สำเร็จ จึงทำให้เขาเหล่านั้นเคียดแค้นอยากจะฆ่าผมให้ได้ แต่ผมก็ได้รู้ว่ากรรมเหล่านั้น
    ผมได้ชดใช้ไปแล้วจึงคิดว่าไอ้พวกผีพม่าเดียวเจอกันรอกลับจากปายก่อน
    คืออาจารญ์ได้บอกให้ผมไปที่ปายไปไหว้สมเด็จพระนเรศรที่วัดน้ำฮู้แล้วจะดีขึ้นนะครับ
    จากนั้นผมก็ได้รวบรวมสมาธิแผ่บุญไปให้กลับสะท้อนกลับคืนผมเลยทรายว่าเนี่ยก็เป็นกรรม
    ของเค้าที่มีคนเอาบุญไปให้แต่รับไม่ได้ก็เพราะความเคียดแค้นชิงชังที่เค้ามีอยู่
    จบเรื่องของคืนวันแรก เดี๋ยวมาเล่าใหม่ครับ
    ลืมเล่าไปครับ ด้วยเหตุแห่งกรรมของตัวผมเองจึงทำให้กำลังตังผมเอง
    ตกลงอย่างมากถ้าคนที่เคยไปที่งานมินิจะรู้ว่าพลังจิตผมแรงขนาดไหน
    แต่ด้วยผลกรรมจึงทำให้มันตกลงมา เหมือนที่อาจารย์บอกไว้เป๋ปเลย
    ว่าใครบางคนที่ทำบุญวัดนั้นวัดนี้ไม่ได้ เพราะกระแสบุญจะโดนกรรมมาบังไว้
    นะครับตอนแรกผมก็คิดค้าเหมือนกันคิดว่าทำที่ไหนก็คนเหมือนกัน
    แต่พอมาเจอเลยรู้ว่าต่อให้ท่านเก่งเทียมฟ้ามีวิชาที่ลึกลำไม่สามารถ
    พ้นจากบ่วงของเวรกรรมได้ครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ
     
  15. surapar

    surapar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,408
    คงเหมือนดังที่พระท่านว่า ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม
     
  16. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    เหนืออิทธิฤทธิ์คือกรรม เหนือกรรมคืออธิษฐาน เพราะจิตจำนงจะตั้งมั่นแน่วแน่

    กรรม...เป็นเครื่องกำหนด

    กรรม...ชักนำให้เป็นไป

    กรรม...เป็นที่สิ้นสุด
     
  17. pppiak

    pppiak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +152
    ขนาดน้องบาสยังขนาดนี้ ..........พี่เปี๊ยกคงต้องเชื่อ อ. แล้วหล่ะ
    อ. ห้ามพี่ไป พม่า (เพราะคิดอยู่ว่าอยากไปเที่ยวชเวดากอง)
    อ. บอกว่าพี่เหยียบไปถึง มีสิทธิ์เป็นลมไปเลย............ชาตินี้ไม่ได้ไปเหยียบแผ่นดินพม่าแน่แท้
     
  18. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    เมื่อก่อนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเกิดที่นี่เชียงใหม่-ลำพูน
    ทั้งที่เค้าขู่สารพัด จะทำให้เราเป็นบ้า แก้ผ้ารอบเมืองบ้าง
    กูจะตามติดข้างหลังมึงไปตลอดบ้าง กูจะทรมานมึงบ้าง

    วันที่หลวงพ่อฤาษีท่านละสังขาร
    เค้าแสดงตัวใหญ่คับฟ้า บอกว่า พ่อพวกมึงตายแล้ว ไม่มีใครช่วยพวกมึงได้แล้ว
    กูไม่กลัวใคร


    การเกิดมาอยู่ในดงศัตรูเก่า ชีวิตเหมือนแขวนบนเส้นด้าย

    ก็ดีที่ทำให้ไม่ประมาทในชีวิต
    วันนี้ทราบแล้ว ถึงการมีชีวิตอยู่ เพื่ออะไร
    และทำไมต้องมาอยู่ที่นี่




    ที่จริงแล้ว ทุกชีวิต ล้วนน่าสงสาร
    ก่อกรรมวนเวียนไม่จบสิ้น
    เราฆ่าเค้า เค้าฆ่าเรา
    เป็นคน เป็นผี ก็ไม่จบสักที
    ........ใช้กันให้หมดไป......แล้วท่านจงคลายออกจากความมืด

    ก่อนที่สวรรค์จะเอื้อมมือลงมา แล้วจะหมดโอกาสทำกรรมดีไปนาน





    พุทธัง สรณังคัจฉามิ
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    คุณบิดามารดา วันทานัง
    คุณคุรุอาจาริยัง วันทานัง

    ขอสรรพชีวิต จงเป็นสุข พ้นจากกองทุกข์
    อย่าอาฆาต พยาบาทซึ่งกันและกันเลย
    อย่ามีเวรแก่กันเลย
    รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย(ในวัฏฏะสงสาร)ทั้งสิ้นเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ธันวาคม 2008
  19. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ความจริงพม่า หรือ ไทย ก็มีทั้งคนดี คนเลว

    ชาติไหน ก็ไม่ต่างกัน

    ถ้ายึดมั่นสัญญาเดิม ก็ไม่พ้นบ่วงกรรมที่วนเวียน


    ถ้ารู้ว่ามีกรรมต่อกัน ก็ไม่เกี่ยวกับชาติเชื้อแล้ว

    พระสงฆ์ครูอาจารย์ที่เป็นชาวพม่าก็มี อย่าลืมท่านเป็นแม้ครูอาจารย์บูรพมหากษัตริย์ไทย
    พระองค์ใด

    คงเพราะพร้อมที่จะตายมานานแล้วมั้ง ไม่เอาชีวิตเราไปสักที ( ถ้ากำลังตก
    ความเบื่อโลกมันมาก เหม็น วนกับกิน กาม เกียรติ ทั้งละเอียดและหยาบ
    ไม่อยากอยู่ ถ้ากำลังดี เมตตามันเยอะขึ้น ก็อยู่ปลงกรรมต่อไป )

    วนเจอแต่เรื่องเดิมๆ เพื่อให้ปลงกรรมต่อกันให้ลง

    ยอมให้เค้าฆ่า แต่ ธรรมและสิ่งอันเป็นประโยชน์ที่ทิ้งไว้ ก็ยังมีคนสืบต่อไป
    จะห่วงอะไร

    ปัจจุบันนี้ แม้ไม่อาฆาต โกรธ แต่จำเป็นต้องครองแผ่นดินส่วนใหญ่ไว้ก่อน
    เพื่อให้ธรรมมั่นคงสืบต่อไป ไม่ใช่เพื่อความรู้สึกส่วนตัว

    ดั่งพระบรมราโชวาทองค์มหาธรรมราชาที่ว่า
    " เราไม่อาจทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ แต่เรา สามารถส่งเสริมคนดี ให้ปกครอง
    เพื่อควบคุมคนไม่ดีไว้ ไม่ให้ทำความเดือดร้อน "


    หมายเหตุ คนไม่ดี ในที่นี้ อาจเป็นได้ทั้งที่เป็นคนและไม่ใช่คน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤศจิกายน 2008
  20. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265
    พี่โอมอยู่เชียงใหม่ลำ-พูนเหรอค่ะ

    ปู่ปลาก้อยู่ที่โน้นแงะ บ้านเกิดพ่อ ไกล้ๆลำพูน
     

แชร์หน้านี้

Loading...