เนื่องจากที่ได้ไปรับดอกไม้สวรรค์จากวัดไลย์มา เลยกลับมานั่งคิดจะหามาปลูกบ้าง
ก็เลยไปหาข้อมูลของต้นไม้มาปรากฏว่ามีหลายตัวเลือกซิทีนี้เลยจะนำมาให้ทุกคนทดลอง
พลังจิตดูว่าต้นไหนน่าจะดีที่สุดครับตอบกันมาผิดบ้างถูกบ้างเดี๋ยวให้อาจารย์มาเฉลยครับ
ต้นแรกครับ
1
ต้นที่สองครับ
2.
ต้นที่สามครับ
3.
ครับเลือกตามความรู้สึกครับ เป็นพันธ์เดียวกันหมดครับ
เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์
ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.
หน้า 69 ของ 299
-
ต้น 2 นะคะ
-
ร่วมทายด้วยครับ ต้นที่ 2 ต้นที่ 1 ต้นที่ 3
มากไปน้อยครับ -
ต้นที่ 2 ครับ
-
ขอร่วมทายว่าต้นที่ 2 เช่นกันครับ
-
ต้นที่ 2 ค่ะ
-
...วันนี้ยกพล ..ไปบูธ อ.สามตา..
7 คนถ้วนๆ...แห่กันไปดูโดยตรง..
จากการแนะนำของ "หมูต้ม" Mhutom
แค่ไปเกริ่นๆ...เพราะ หนึ่งจัง บอกว่าจะพา ไปหา อ.สามตา ..
พี่ๆเค้าสนใจก็เลยตามกันไป อ. คงจำนู๋ได้ .. เพราะนู๋ใส่เสื้อแดง
เดินไปเดินมา...ให้เค้าเวียนหัวกันเล่น...
ที่เดินเพราะ...นั่งอยู่ตรงนั้นนานไม่ได้ หายใจไม่ออก..
เลยเดินเล่นซะ....แต่ทำไมคนอื่นอยู่ได้??? มะเข้าใจ??
ก้อได้ลองวัดพลัง โน่น นี่ นั่น..หลากหลาย...
ทำให้รู้ว่า..พลังของแต่ละอย่างเราสามารถวัดได้ด้วยตัวเอง
และ อ.สามตา .. สอนให้จับพลังของยา
อ่อ...พึ่งเข้าใจว่า จับพลังกันแบบนี้
เดี๋ยวจะไปหัดจับยาตัวอื่นๆบ้าง ..
เรื่องกิน.. อาจารย์ขีด อาหารทะเล ออกหมดเลย T_T
เรื่องอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรมาก ..แต่ที่แน่ๆ ชาตินี้คงไม่ได้ใส่ทองเป็นแน่แท้ .. เอิ้กๆๆๆ!!!~
-
ร่วมทายดูครับ ดอกที่ 3 ครับ
ดอกที่ 3 / 2 และ 1 ตามลำดับ -
ต้น 1 กับ 2 ครับ (ตอบหว่าน 2 ต้นเลย เพิ่มโอกาสถูก)
-
ผมเอาภาพแรกครับ
-
ต้นแรก ค่ะ
-
ผมเอาต้น 2 ด้วยครับ ภาพสวยสุด ชัดสุด และดอกสีสวยสุด (เกี่ยวกันป่าว)
-
ชอบดอกที่3 แต่ก็เสียดายดอกที่ 1..
-
ต้นที่3ครับ เหตุผลเพราะ...............
-
ขอร่วมทดลองดูครับ
ดอกแรกกับดอกสาม ใกล้เคียงกันมากถึงขั้นแยกแยะไม่ออก ประเภทหายใจรดต้นคอ เฉือนกันแค่ปลายจมูก
ถ้ามองกันด้านพลังงาน โดยส่วนตัวคิดว่าดอกไม้ดอกแรกมีพลังงานก๊อกสองให้สามารถเดินทางต่อไปอีกเล็กน้อย
ขณะที่ดอกสาม หมดแรงไปซะก่อน
ส่วนดอกสอง...รูปหายครับ บททดสอบเลยขาดไป.....ฮิฮิฮิ มั่วครับ -
คนตั้งคำถามดอกไม้ไว้ ไม่ได้ บอกใบ้ไว้เลย..จึงยากหน่อย
เพราะ ดอกที่เอาขึ้นมา มีอยู่ สามสายพันธ์
วิธี ดู..คือเพ่ง แลว จับสัมผัสให้ได้ ว่า ดอกไหน..ซ่าๆๆ..คือ ดอก นั้น..
ลอง..น่าจะถูกนะทายมาใหม่ -
ชอบดอกที่ 1 ครับ
-
เรื่องเล่าก่อนนอน คืนนี้ ตอน วัดไลย์ (ต่อ)
......................................................
พอโผล่ออกมาในวัด ก็เจอ ต้นไม้เรียงเดี่ยว
ขนานกับทางเดิน รอบอุโบสถ..ก็แน่ใจว่า ใช่ "ต้นดอกไม้สวรรค์"
แต่โผล่ออกมาทางด้านหลัง ของ อุโบสถ..
จึงต้องค่อยๆๆ เดิน วนไป ทางซ้าย
คนอื่นๆๆ เดินไป ข้างหน้า อย่างค่อนข้างเร็ว
...............................................................
แต่เราเดินช้า เพราะใจไป จ่อ อยู่กับต้นไม้
เดินมา 15 ก้าว ก็เข้าชิด ต้นดอกไม้สวรรค์ ต้นแรก
ยืนมองอย่างใกล้ชิด แทบว่า หน้าจะชนกับใบและต้น
เวลายืนเทียบกัน..ต้นจะสูงกว่า เรานิดหน่อย
ลำต้นขนาด ประมาณ กว่า นิ้วหัวแม่มือ เล็ก น้อย
มีใบเขียวสด ประมาณ ต้นละ15-20 ใบ
แสดงว่า ยังไม่โต นัก..อายุคงไม่น่า เกิน 3 ปี
.......................................................
ดูใบแล้ว คล้ายใบมะม่วง..คือเรียวยาว
การมีตาทิพย์ นี่ ดูอะไร ก็ได้ สารพัด...ที่เกี่ยวกับ คน
แต่ดูต้นไม้ไม่ได้..เช่นเห็นใบ แล้ว ถามว่า ต้นแบบไหน สูง หรือ ใหญ่
มีดอกไหม...หรือในทางกลับกัน ถ้าดูต้นแล้วถามว่า..
จะมีดอกไหม..มีลูกใหม..กินได้ ไหม...ทำไม่ได้
ทำได้ อย่างเดียวูว่า..เขากำลัง เศร้า /ดีใจ/ เสียใจ/ หิวน้ำ /หิวปุ๋ย อะไร
นั่นคือ การคุยกับต้นไม้
และดูได้ ว่า ในต้น นั้นมี นางไม้ /มีเทพารักษ์ อยู่หรือไม่
.......................................................................
ในอดีต..ตามภูมิประเทศ จะมีต้นไม้มาก..นางไม้ /เทพารักษ์/
รุกขเทวดา..มีโอกาสเลือก ต้นไม้ได้ ตามสะบายใจชอบ
แต่ตอนหลัง..ผู้คน พากันตัด ต้นไม้..ทำเป็น ไร่ ..เป็นนาเกษตร
เหลือ แต่โคกสูงเป็นหย่อมๆๆ..เพื่อ ไว้หนีน้ำ ตอนน้ำ ท่วม
และไว้พัก กินข้าวเที่ยง หลบแดด
ต้นไม้ จึงเหลือน้อยมาก..พวก นางไม้/เทพารักษ์/รุกขเทวดา
จึงไม่มีโอกาสเลือก ต้นไม้..จึงไปแออัดอยู่ที่ โคก นั้น อย่าง หนาแน่น
บางที ถ้าไม่มีเทวดา อยู่..ก็อาจจะมีผี/วิญญาณ ร้ายมาอยู่แทน
....................................................................
ดังนั้นใครก็ตาม ที่ ชอบหลบไป ยืนยิงกระต่าย
หรือ เด็ดดอกไม้ ตามโคก ริมทาง..สมควรที่ จะเว้น
อย่าเสี่ยงดี กว่า..บางที่ก็ ปลอดภัย
เพราะ จะมีคนเอาผ้าสีไป พันรอบ ต้น
แสดงว่า มีเจ้าที่เจ้าทางเทวดา อยู่
....................................................
ที่ ว่าปลอดภัย ไม่ได้ แปลว่า..ยิงกระต่าย/เก็บดอกไม้ได้นะ
.............................................................. -
พอจบสำรวจต้นแรก..ก็ค่อยๆๆ ไล่ไปทีละต้น ด้วยความสนใจ
พอไปได้ สามต้น ..พบว่า มีใบแห้งหล่น ลงมา 1 ใบ..แห้ง อย่าง ซิงๆๆ
ก็รีบเก็บ อย่างเร็ว..เร็วรถขยะกว่า พนัดงานกวาดถนน
และรถขยะ กทม กทม
.........................................................................
พอาถึงคำถามเกี่ยวกับ อาชีพ..เคยมีคนถาม ว่า อาชีพที่สุจริต ถือว่า ต่ำสุด
คือ อะไร..ปรากฏ ว่า มีคำตอบที่ต่างกัน ระหว่างตะวันออก กับ ตะวันตก
...........................................................................
ในอดีตที่ผ่านมา..คนไทยถือว่า อาชีพ ขอทาน ต่ำสุด และ
รองมา คือ การกวาดถนน กับการเป็นกุลี แบก เสา
จึงพูดเปรียบเทียบเวลาสอนลูกหลานว่า.."ถ้าโง่..ไม่เรียนหนังสือ..
ก็จะมาเป็น ขอทาน หรือ เป็น กุลี แบกเสา..จนมีคำนิยาม ว่า
" รักดี หามจั่ว..รัก ชั่วหามเสา.."
.................................................................
แต่ในปัจจุบัน..คนงานแบกของ ถือว่า มีรายได้ ดี
พนักงานกวาดถนน กทม..แย่งกันฝากเข้างาน
มีเกียรติดี..ทำงานตั้งแต่ ตีห้า..แต่งตัวมีฟอร์ม สีแสด กันรถชน
ถ้าไม่มีพวกเขา..บ้านเมือง จะ เป็น ยังไง
อาชีพ ที่ คนไทยถือ ว่า ต่ำสุดๆๆ คือ เป็น แมงดา คุมโสเภณี
ส่วนการค้า ยาบ้า..เป็นอาชีพ ที่ สังคมรังเกียจ
............................................................
ทางตะวันตก หรือ ฝรั่ง ถือว่า อาชีพขี่ม้าแข่ง เป็นจ็อกกี้ขี่ม้า..
เป็น อาชีพที่ ต่ำสุด..เพราะ วันๆๆไม่ต้องทำอะไร
กินแต่น้อย..ห้ามอ้วน..ต้องผอมๆๆ กระหร่องๆๆ ยิ่งดี
เพราะ ไม่หนักตัวม้า เวลาวิ่ง..จะได้ เปรียบ คนอื่น
.............................................................
ฝรั่ง ไม่ถือ ว่า ขอทาน เป็น อาชีพที่ ต่ำ สุด
เขาถือ ว่า เป็น ศิลปิน แบบหนึ่ง..หรือ เป็น วณิพก
เวลาจะไป หาเงิน ก็ ไป ตามชุมชน ตลาด เล่นดนตรี ที่ ถนัด /
วาดรูป บนพื้น..เต้นรำ.-บางคนแต่งตัว เป็น ตัว ตลก /
เป็น หุ่นยนต์ก็ได้ สตางค์ดี..เราจะพบ พวกเขาทั่วไป ในยุโรป
โดยเฉพาะ กลุ่ม ยิปซี..ที่ ร้องรำทำเพลง..ดูหมอ ลูกแก้ว ฯลฯ
................................................................. -
จากต้นที่ สาม..เราได้ แล้ว 1 ใบแห้ง ของ ต้น ดอกไม้สวรรค์
ก็ลองเอามือ สัมผัส..ก็พบว่า มีพลัง ที่แปลก และค่อนข้างแรง
แต่ไม่มีเวลามาวินิจฉัย..เพราะกำลังเดิน..แต่รู้ว่า ดีแน่ๆๆ
เดินมาอีก 8-9 ต้น..เก็บใบหล่นได้ อีก รวม กัน สาม ใบ
ก็รีบ ถือในอุ้งมือ อย่างดีที่ สุด...ก็พอดี เลี้ยวขวา มาหยุดที่หน้าอุโบสถ
..........................................................................
เราก็เลี้ยวขวา..เข้าไป ที่ทางขึ้น ด้านซ้าย..เพื่อที่จะเข้าประตูซ้าย
กฏสากลมีว่า เมื่อไปวนรอบ สิ่งศักดิ์ สิทธิ์..จะต้องวนซ้าย
ให้ ไหล่ขวาอยู่ด้านใน..เสมอ..จะเป็นกรรมชนิด หนึ่งได้
ตามกระทู้ที่เคยเล่า ว่า " กรรมของ คน"..
เราจึงเข้าอุโบสถ ด้วยประตู ซ้าย..ที่ วัด ไลย์ นี้ เช่นกัน
...............................................................
ก่อนถึงบันได ที่ มีอยู่ ประมาณ 5 ขั้น..มีรองเท้า วางอยู่แล้ว 5-6 คู่
แสดงว่า มีคนนอก มาอยู่ด้วย..ไม่ได้ มีเฉพาะกลุ่มเรากลุ่มเดียว
เราก็ แอบเอาใบไม้ดอกไม้สวรรค์ ที่ได้ มาก่อน สาม ใบ..
วางแอบข้างบันได..คิดว่า คงไม่มีใครมาหยิบเอาไป ทิ้ง ต่อ ด้วยความไม่รู้
.............................................................................
การเข้าวัดแบบไทยๆ..นับว่า อลุ่มอะหล่วย มาก
คือ ถอด รองเท้า เฉพาะเวลาเข้าอุโบสถ
แต่ประเทศ ที่เคร่ง อย่าง พม่า และศรีลังกา
จะต้องถอดรองเท้า ตั้งแต่เข้าเขตประตูวัด ชั้นนอก สุด ก่อน
จะเดินลอยชายแบบไทยไม่ได้
...............................................................
เราจึงได้เห็น คนพม่า และคนศรีลังกา ถอดรองเท้า
และเดินถือรองเท้าไว้ในมือ ตั้งแต่ ปากทางเข้าวัด
พอจะเข้าอุโบสถ ก็ วางลงที่หน้า ประตูได้
เท่า ที่ สังเกตุ..คนศรีลังกา และ พม่า กว่า ครึ่งไม่ใส่รอง เท้า
เดินเท้าเปล่า จนชิน..ทนร้อนจาก พื้นดิน พื้นวัด ที่ปูด้วยหิน /หินอ่อนได้
...........................................................................
พวก ชนชาติอื่น อย่างฝรั่ง /ไทย..มักจะตีนบาง..เดินไม่ทน
พอไป พม่า ศรีลังกา เจอ ทางยาวๆๆ เป็น พื้นหินอ่อน..ตากแดด
ก็ต้องทนเดินจนตีนพอง..ด้วยความศรัทรา..ที่ ต้องบินมาไกล
.......................................................................
คนไทย ตีนบาง..แต่หน้า ทน..คนเขาด่า เขาแช่ง เรื่อง โกงกินเมือง
ก็ไม่สะเทือนหน้า..อย่างนี้ ต้องให้เอาหน้าไปเดิน ที วัด พม่า /ศรีลังกา
จึงจะสะใจ
..........................................................................
หน้า 69 ของ 299