โมทนาบุญ+ทานบารมีน้องน้อต
ให้พลังบุญส่งผลความคล่องตัว
ทั้งการงาน การเงินตลอดทุกเมื่อ
เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน
ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.
หน้า 3391 ของ 3979
-
-
หลวงพ่อเงิน วัดทุ่งน้อย
พิมพ์ขี้ตารุ่นแรกอจ.นง
===============
คัดองค์งามเด็ดที่เก็บงำ นำมาให้ร่วมบุญเป็นศิริมงคลสำหรับสมาชิก...
รูปหล่อโบราณ พิมพ์ขี้ตา หลวงพ่อเงิน วัดทุ่งน้อย สร้างโดย พระอาจารย์นง ปี 39 เป็นพิมพ์ขี้ตารุ่นแรกของท่าน เรียกว่า "พิมพ์แข้งตุ่ม เข่ายุบ" เป็นเอักษณ์ เพื่อหาทุนสร้างมหาเจดีย์ หลังจากสร้างอุโบสถและศาสนสถานของวัดสำเร็จทุกอย่างด้วยบารมีหลวงพ่อเงินและดำเนินการสร้าง "องค์มหาธาตุเจดีย์"ที่ยิ่งใหญ่ในเวลานี้สืบทอดพระศาสนาเจริญรุ่งเรืองไม่หยุดยั้ง
วัดทุ่งน้อยเป็นวัดเก่า กำเนิดมาตั้งแต่ปี 2401 ท่านอาจารย์นงนับเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 17 และสามารถสร้างความเจริญให้วัดมากที่สุดด้วยบารมีหลวงพ่อเงิน ซึ่งครั้งหนึ่งท่านก็เคยเมตตาเดินทางมาบูรณะวัดทุ่งน้อยในยุคสมัยที่ยังมีชีวิต วัดทุ่งน้อยจึงเป็นหนึ่งวัดโบราณที่ "หลวงพ่อเงินอุปถัมภ์" โดยแท้จริง ไม่ใช่อุปโหลก เกาะความดังหรืออาศัย"แสง"ของท่าน
ปัจจุบันท่านอาจารย์นงอายุกว่า 70 ปี เป็นผู้เรืองวิชามากที่สุดท่านหนึ่งสมกับเป็นศิษย์สืบทอดวิทยาคม "หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน"!
มอบพร้อมตลับ'เลสลงยันต์ เชือกร่มกะลาครบสูตร...
=======1,500=======
รูปหล่อแสนงามถอดพิมพ์จากพิมพ์ขี้ตาองค์จริง หล่อด้วยชนวนโลหะเก่าใกล้เคียงของเดิมมาก คราบขี้เบ้าตามซอกสุดแสนคลาสสิค แข้งตุ่มด้านล่าง ตำหนิติดชัดรวมทั้งรอยเนื้อหลุดที่สังฆาฏิ องค์จริงงามกว่าภาพถ่ายมาก
ด้านหลังคราบเบ้ารอยตะไบที่เห็นชัดเจนว่าไม่ผ่านการใช้หรือมือใคร
เอกลักษณ์ใต้ฐาน
ขนาดมาตรฐาน
ตลับเก่าเดิม
เชือกกะลา
ยันต์ที่ตลับ
ขลังตั้งแต่
นอก-ใน! -
ทำบุญกับโมทนาบุญกันพอท้วมๆครึ้มใจวันหยุด ก็ควรแก่เวลาคว้าเป้ แบกปืนเดินป่า"ตะนาวศรี" ความข้นคลั่กทุกอณูรออยู่ทุกตัวอักษร
รอ ร้อ รอ สักพักเด้อ -
(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'!!!
==============
คืนฟ้างามท่ามขุนเขาเงาไพรสณฑ์มนตราธรรมชาติประทาน เป็นราตรีที่รื่นรมย์ห่มนิทราสนิทฝันดี ไม่ควรมีใครต้องเผชิญกับฝันร้ายที่สุดของชีวิต...!
"โอ๊ยยยย...โอ๊ยยยย....อ๊ากกกก...ช่วยด้วยย"!!!
บางอย่างโหยหวนแว่วตามลม ผมยืดตัวเงี่ยหูฟัง มันแผ่วเบาเหมือนนกกลางคืนกรีดปากกรีดปีกคร่ำครวญสะท้อนโตรกผา สัตว์บางตัวกำลังเจ็บปวด หาใช่การหวีดแหลมวี้ด...วี้ด...โวยวายของบ่างราตรีเสียงปิศาจ...
"ได้ยินมั้ยคะ ?"...
สาวงามผละตัวจากอ้อมแขน นั่งตัวตรงแต่มือยังเกาะกุมแขนผมแน่น
"กำลังฟังอยู่ครับ"
ว่าแล้วลุกขึ้นยืนถือไอ้ห้านัดเตรียมพร้อม เธอยืนตามเปลี่ยนลีลาจากสาวสวยเป็นแม่เสือสาว ดึง .38 ถือแนบต้นขายืนเคียงผม เราเป็นหนุ่มห้าว สาวหาญ จับตามองทางขึ้นภู
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย...ใครก็ได้ช่วยที"
หนนี้เสียงตะโกนโหวกเหวกใกล้เข้ามายินชัด อีกไม่กี่อึดใจก็ปรากฏร่างตะเกียกตะกายล้มลุกคลุกคลาน ทั้งวิ่งทั้งคลานหายใจกระหืบกระหอบขึ้นมา
เจ้าหนุ่มลูกหาบคนเดียวของทีมพรานโฉด มันตาลีตาลานสุดชีวิตมาคนเดียว ถลาเข้ามาหาผมที่ยืนหน้ากองไฟใหญ่คู่กับคุณนง พร่ำเพ้อฟังแทบไม่ได้ศัพท์
"ช่วยด้วยพี่...ช่วยด้วยนาย...ตายแล้ว...พวกเราตายหมดแล้ว ฮือ..ฮือ..ช่วยที..."
สภาพคนสติแตกขวัญกระเจิงสุดชีวิตชัด ๆ มันพุ่งตัวฟุบหมอบข้างหน้าผมที่ถือปืนมองอย่างใจเย็น ไม่วางใจพวกข้างล่างจะมาไม้ไหน ?
บักสมกับลุงพราน และเจ้ามะกับดวงดาว ลุกขึ้นมายืนเรียงรายปิดด้านหลังอาคันตุกะผู้มาเยือนโดยไม่ได้เชิญ แถมมาผิดเวลาอย่างมหันต์ แค่ผมพยักหน้าออกคำสั่งชั่วร้าย ไอ้หนุ่มดวงแตกมีสิทธิ์โดนอุ้มโยนลงเขาทันที!
"หยุดร้อง...มีอะไรว่ามา"!
ผมตะคอกเสียงเข้มขึงขัง หนุ่มลูกหาบนิรนามเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา แววตาประหวั่นพรั่นพรึงมองผม...หนนี้ความน่าเวทนาในดวงตากับอากัปกิริยาคนจนมุมจนตรอกจริง ๆ ทำผมใจอ่อน ปรับเปลี่ยนโทนเสียงอ่อนลง...
"เอาละ...เอาละ...ค่อย ๆ เล่าเกิดอะไรขึ้น ?"
"พวกนายผม ไม่รู้เป็นอะไร จู่ ๆ ล้มลงนอนกลิ้งร้องโอดโอย พรานนำทางก็ชักตาตั้ง พุงพองใหญ่เหมือนลูกโป่งจวนแตก"
รวบรวมสติสัมปชัญญะกลับมาได้ เจ้าหนุ่มเริ่มพูดรู้เรื่อง แต่ตัวยังสั่นเทาด้วยความหวาดหวั่นกับอาเพศเหตุพิสดารที่ชีวิตตัวเองไม่เคยพบเคยเห็น
ทั้ง 3 คนโดนของย้อนเข้าตัวเรียบร้อย...อาการที่เล่ามา ผมไม่แปลกใจ แต่ไม่คิดว่ามันจะสำแดงไวเพียงนี้...
ไอ้หมอพรานเขมรเรียนเดรัจฉานวิชาต่ำช้าเก่งกาจพอตัว แต่...เรียนผูกอย่างเดียว ไม่ได้เรียนแก้!!!
"แล้วทำไมเอ็งไม่เป็นไรอยู่คนเดียว ?"
เป็นใครก็ต้องอดกังขาไม่ได้ที่ปลาทั้งข้องเน่าเหม็นตาย จะหลุดรอดเหลือมาหนึ่งตัว เจ้าหนุ่มลูกหาบดวงดีแต่เจอฝันสยองเกินต้านทาน ตอบปากคอสั่น...
"ผมนอนหลับไม่รู้เรื่องตั้งแต่หัวค่ำครับนาย...ตกใจตื่นกับเสียงเอะอะโวยวาย พอตื่นก็เจอะอย่างที่เล่า"
มันเล่าเสร็จก็คร่ำครวญ ยกมือไหว้ผมกับคุณนงปะหลก...
"ลงไปช่วยพวกผมด้วย ผมไม่รู้จะทำไงดี กรุณาเถอะครับ"
หากทุกอย่างที่มันเล่าเป็นเรื่องจริง ไอ้หนุ่มคนนี้ก็บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่รู้เรื่องรู้ราวความชั่วร้ายที่เหล่านาย ๆ ไร้สมองสุมหัวกันทำ แต่จะให้ลงเขากลางดึกไปดูหรือช่วยพวกมัน ผมยากจะตัดสินใจลำพัง...
"อย่าลงไปนะคะ...ไว้ใจพวกนี้ไม่ได้"!
(((ยังมีต่อ))) -
(ต่อ)...เหล็กไหลฯ
=============
สาวงามที่ชิงชังพฤติกรรมโหดพรานโฉดข้างล่างเป็นทุนตั้งแต่มาถึง โพล่งห้ามเสียงดังหน้าตาเฉย ยกปืนสั้นลำกล้อง 4 นิ้วในมือชี้หน้าเจ้าหนุ่ม ทำมันกลัวลนลานเกือบสติแตกรอบสอง...ยกสองแขนขึ้นไขว้ปิดหน้าร้องลั่นภู...
"อย่าทำผม ผมกลัวแล้ว ไม่ลงไปก็ได้...ขอผมนอนบนนี้ด้วยเถอะครับ"
"ไม่ได้...แกลงไปนอนตระพักล่าง จุดกองไฟให้สว่างก็อยู่ได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยลงไปดูกัน"!
ผมตัดสินใจเฉียบขาด ความเป็นความตายพรานใจโฉดหาใช่กงการหรือธุระของเรา ทุกข์สุขของมัน พวกเราไม่ข้องเกี่ยว ในป่าดิบแดนเถื่อนแม้ไม่ถึงกับไร้อารยธรรม แต่มนุษยธรรมพร่ำเพรื่อ อาจทำเราเดือดร้อนถึงตายได้!
ในวงล้อมหน้าหลังทั้งปืนสั้นปืนยาวที่พวกเราถือคุมเชิง มาดดุดันยิ่งกว่าผู้คุมคุกใจเหี้ยม ไอ้หนุ่มนิรนามสิ้นทางเลือก ต้องยอมคลานถอยหลังไปตามทางที่พวกเราเปิดให้ ลุกขึ้นแล้วเดินต้วมเตี้ยมลงภูอย่างเซื่องซึมเงื่องหงอย
ผมกับคุณนงและทุกคนเดินตามเป็นหน้ากระดาน ฉายไฟส่องตามเจตนาจะดูว่า มันลงไปแค่ตระพักล่างหรือเตลิดหนีลงภูหายไปอย่างน่าสงสัย
กลางลำแสงไฟฉายกระทบวัตถุบางอย่างบนพื้น ผมเข้าไปส่องดูใกล้ ๆ ต้องขยี้ตาดูชัด ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ กวักมือเรียกทุกคนเข้ามาช่วยดู...
"ตะขาบไฟ"...!
ดวงดาวร้องเสียงหลง เจ้าเณรน้อยเคยเผชิญหน้าเต็มตัวกับร่างที่ยาวเป็นฟุตเป็นศอกพร้อมคุณเทพ แต่ตรงหน้าเรามันย่อส่วนเหลือตัวเขื่องขนาดเบ้งกว่าตะขาบใหญ่ธรรมดาทั่วไปเล็กน้อย หากความยาวบนร่างสีแดงเพลิงของมันก็สร้างความสยดสยอง ขนลุกเกรียว!
มันมี 4 - 5 ตัวนอนตายเกลื่อนหน้าเส้นมนต์ "มงกุฏพระพุทธเจ้า"!
เจ้าพรานโฉดใช้เดรัจฉานวิชา ปล่อยอาวุธปล่อยของทีเดียวหมดก๊อกดังอาจารย์เลิศว่าไว้ ตะขาบไฟหายากพวกนี้หลุดเข้ามากัดถึงตัว พิษของมันถึงตาย!!!
"เฮ้ย...ไอ้หนุ่ม"...ผมเรียก มันสะดุ้งโหยงตกใจหวิดหัวทิ่มลงทางลาดภู....
"มานี่"....ชี้ให้มันดูซากตะขาบไฟ อยากทดลองความจริงบางอย่าง...
"เคยเห็นมั้ยวะ ?"
ไอ้หนุ่มนิรนาม ก้มดูซากตัวเลื้อยคลานร้อยตีนที่สิ้นฤทธิ์ แต่ยังน่าขยะแขยงสำหรับคนที่เกลียดกลัว พอเห็นชัดคาตาก็แหกปาก
"คะ...เคยครับ ไอ้ตัวพวกนี้พรานนำทางเลี้ยงในโหล...ตะ...แต่มันไม่ใหญ่อย่างนี้ นี่มันใหญ่เกิน เกิดอะไรขึ้นนี่...โอ๊ย ไม่เอาด้วยแล้ว !!?"
มันร้องลั่น หันหลังกระโจนโครมครามลงภูไม่กลัวลื่นตกหกคะมำคอหัก พรวด ๆ ลงถึงตระพักล่าง รีบพัดวีไฟที่ใกล้มอดกองใหญ่ สุมฟืนใส่พักเดียวพวกเราที่ยืนสังเกตการณ์ด้านบนก็เห็นเปลวเพลิงลุกฮือสาดแสงสว่างทั่วตระพัก มันเดินไปที่ซอกหินหยิบข้าวของออกมา เป็นผ้าปูนอนห่มผ้าขาวม้าปิดหน้านอนนิ่งข้างกองไฟไม่ไหวติง
ทุกท่วงท่าอยู่ในสายตาพวกเรา เจ้าหนุ่มนิรนามเป็นคนบริสุทธิ์ที่เคราะห์หามยามซวยมารับจ้างทีมพรานโฉด เรื่องที่มันเล่าล้วนเป็นของจริงทั้งหมด
ป่านนี้พรานหมอผีกับอีก 2 ชีวิตน่าเป็นอย่างที่อาจารย์เลิศเอ่ยปากเหี้ยมเกรียม...
"ส่งของกลับหนนี้ ยากจะยับยั้งหรือหยุดยั้ง"!!!
จอมขมังเวทย์แค่ขยักคำว่า...ถึงตาย!...ไม่เอ่ยออกมาเท่านั้น!
กลางดึกสายลมเย็นกรูเกรียว บนเขาพรานกลับคืนสู่ความสงัดเงียบวังเวง...ผมขนลุก หูยังแว่วเสียงโอดโอยที่ลอยตามลมเหมือนจิตหลอน มองทุกคนไม่มีใครเกิดอาการอย่างผม
"นอนนะคุณนง เดี๋ยวสมอยู่เวรต่อเลย พรุ่งนี้น่าจะวุ่นอีกวัน"!
------------------------
***เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด *** -
-
วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่านครับ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
ขอให้อาจารย์วันวิ พี่น้องและครอบครัวทุกท่าน
มีความสุข สมหวัง ร่ำรวย สุขภาพแข็งแรง สำเร็จในกิจการ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เฮงๆรวยๆ ทุกท่าน สาธุ -
สวัสดีครับคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน
-
-
ร่วมอนุโมทนายามบ่าย
แต่สายแค่ไหนก็รับบุญได้ -
วันจันทร์เปิดทำงานให้
เบิกบานดวงใจ ทุกพรจง
ส่งมอบกลับให้น้องน้อตด้วย -
ตอบให้ในเวลาใกล้เคียงกัน -
เลขจัดส่งวันนี้
--ED 3146 7764 2 TH บางบัวทอง
--ED 3146 7765 6 TH จรเข้บัว
--ED 3146 7766 0 TH สองพี่น้อง -
แด่...เศรษฐา ศิระฉายา
@@"ศิลปินแห่งชาติ"@@
===============
**ดาวหนึ่งดวง..ล่วงลาลับ
เคยประดับ....จับฟากฟ้า
มาตามนัด....พลัดพรากพา
เอ่ยอำลา...ด้วยอาลัย
--เพลงทรงพลัง..ยังแว่วหวาน
--ย้อนวันวาน.....กาลสมัย
--ให้ความสุข....ทุกเพศวัย
--'เป็นไปได้'.....ไร้เทียมทาน!
"ดิอิมพอสซิเบิ้ล" หมายถึง 'เป็นไปไม่ได้' แต่วงดนตรีชื่อนี้ ได้ทำสิ่งเป็นไปไม่ได้ ให้"เป็นไปได้" กับการครองแชมป์ถ้วยดนตรีพระราชทาน 3 ปีซ้อน วงแรกและวงเดียวของประเทศไทย
รำลึกถึง เศรษฐา ศิระฉายา เพื่อนเสมือนพี่ดีที่สุดท่านหนึ่งที่จากไป ขอดวงวิญญาณ"พระเชษฐา"(คำล้อเล่นที่พวกเราชอบเรียก หมายถึง"พี่") เดินทางสู่สุคติเทอญ. -
วันนี้ผมเตรียมเอาเหรียญโบราณกับวัตถุมงคลไปเก็บในตู้เซฟเล็กๆของครอบครัวเพื่อเป็นขวัญ
สำหรับตู้เก็บทรัพย์สินของครอบครัวครับ
เหรียญแรกเป็นเหรียญในตำนาน "เงินถุงแดงกู้ชาติ" ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 ได้ทรงรวบรวมจาก
กำไรจากการค้าสำเภากับต่างประเทศนั่นคือ "เหรียญนกเม็กซิกัน" ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ทรงได้
นำไปไถ่บ้านไถ่เมืองจากเหตุการณ์วิกฤต ร.ศ.122 ผมได้เอาเหรียญนกเม็กซิกัน 1 เหรียญใส่ใน
ถุงแดงไว้ เพื่อเป็นเสมือนเงินถุงแดงที่จะได้ช่วยกู้บ้านเวลาเกิดวิกฤตครับ
เหรียญชุดถัดมาผมใส่ถุงเขียวตามเคล็ดของคุณแม่บุญเรือน "ถุงเขียวเหนี่ยวทรัพย์" เพื่อให้
ทรัพย์สินงอกเงย ประกอบด้วย 1) เหรียญสุริยัน-จันทรา อาณาจักรฟูนัน อายุ 1,000 กว่าปี
2) เหรียญบาทตราแผ่นดินรัชกาลที่ 5 อายุ 100 กว่าปี 3) เหรียญบาทไอราพต รัชกาลที่ 6
อายุ 100 กว่าปี 4) เหรียญคุ้มเกล้ารัชกาลที่ 9 พ.ศ. 2522 หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก 5) เหรียญ
พระบิดาแห่งการค้าไทยรัชกาลที่ 3 ที่ระลึก 6) เงิดพดด้วงรัชกาลที่ 3 หนัก 1 บาท 7) เหรียญ
นางกวักขวัญถุง (ได้จากกระทู้นักขุดฯ) 8) เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อรวย วัดตะโก (ได้จากกระทู้
นักขุดฯ) 9) เหรียญหลวงพ่อรวย วัดตะโก หลังพระสิวลี (ได้จากกระทู้นักขุดฯ) 10) เบี้ยแก้
หลวงพ่อตัด วัดชายนา
เหรียญและวัตถุมงคลนี่ผมเตรียมไว้นี้จะเป็นเครื่องระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์
ที่ได้ทรงปกปักรักษาบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขจนผู้คนสามารถมีทรัพย์สินเงินทองเพิ่มพูนได้
และครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่แม้ท่านจะละทางโลกียทรัพย์เพื่อมุ่งหมายโลกุตรทรัพย์
แล้วก็ตาม แต่ด้วยความเมตตาต่อสัตว์โลกที่ยังคงต้องแสวงหาโลกียทรัพย์ ท่านทั้งหลายได้แปร
โลกุตรทรัพย์ของท่านเป็นกระแสบุญเพื่อเหนี่ยวนำให้สัตว์โลกที่มีใจเป็นกุศลได้มีโลกียทรัพย์
และสามารถพิทักษ์รักษาทรัพย์นั้นเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เพื่อนร่วมโลกและพระพุทธศาสนา
ได้ครับ -
ทำบุญวันละเล็ก วันละน้อย แต่ทำบ่อยๆ
ทำกระจายไปทั่วประเทศ
ส่วนแก้วเล็กๆ เป็นสังฆทาน กับ วิหารทาน
เมื่อมีโอกาสได้ไปวัดก็เอาไปหยอดให้ตรงกับประเภทของทาน
..
เหมือนได้ทำบุญเกือบทุกวัน
^__^
ทำบุญวัดละ 10 บาท กล้าโพสไม่เขินค่ะ.. 555555
ทำความดี ไม่ได้ทำผิดนี่เนาะ -
หนึ่งในเคล็ดวิธีที่ทำผมทึ่ง ก็คือ "เหรียญเงินถุงแดงกู้ชาติ"จาก รัชสมัยล้นเกล้าร.3 นำมาสู่การกู้ชาติในยุคล้นเกล้าร.5 และถูกน้องเสฯใช้เป็น"ขวัญถุง"อย่างเหมาะเหม็ง
คิดได้ไงเนี่ย?...ตีมือให้ 20 แปะครับ! -
"ทำดีได้ดี มีที่ไหน ทำชั่วได้ดี มีถมไป"...!
เป็นงั้นจริงๆ เพราะน้อยใจที่เห็นพวกเปรตอัปรีย์หน้าชูคอได้ดีมั่งมีอยู่ได้ แม้กระทั่งไอ้พวกหอยเน่านัำเน่าขายพระเก๊ พระผียัดกรุ ยัดเกจิที่มีเกลื่อน ก็ยังหากินอยู่ดีมีสุข นั่นเป็นเพราะ "กรรม"ยังไม่ถึงเวลาทำงาน
ดังนั้นน้องจิ้งทำถูกแล้วที่โชว์ อย่าให้เหมือนที่พูดกันว่า...เพราะคนดีมัวนิ่งเฉย ไอ้พวกคนเลวจึงได้ใจ
โชว์เข้าไปครับ 10บาท 20 บาทก็เงินของเราจากน้ำพักน้ำแรง ไม่ได้ปล้นหรือต้มตุ๋นใครมา -
ก็ลำบากใจ-ไม่สบายกระเป๋าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ 10 บาท นี่แหล่ะ สมัยนี้โอนกี่บาทก็ไม่เสียค่าธรรมเนียม
โอนไปทำนุบำรุงวัดต่างๆ โอนไปตั้งจิตถวายครูบาอาจารย์ไกลๆได้ 10 บาทจากความตั้งใจเรา
บางที ก็อาจจะดังแกร๊ง......ลงไปที่บาตรพระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ ใครจะรู้ ^__^
วันนี้พระรามเดินทางมาถึงออฟฟิตแล้วค่ะ แต่พอดีมาช่วงบ่าย
ช่วงเช้าวันนี้เข้าไปแค่เที่ยงก็มีคำสั่ง WFH เพราะมีคนในแผนก ATK=2ขีด
เลยกลับบ้านกัน ฝากน้องโอเปอร์เรเตอร์เก็บไว้ให้ก่อน เดี๋ยวเข้าไปวันไหนก็จะไปรับ...
แค่เพียงตั้งจิตตั้งใจ รับเหรียญพระรามแผลงศรมา
พระราม..ก็จะตามมาอีกไม่นานนี้
เมื่อสองปีก่อน ได้เคยร่วมเป็นต้นบุญ รวบรวมเงินบุญหล่อพระจักรพรรดิ์อยู่โครงการหนึ่ง
ผ่านมาสองปี ประธานโครงการจะทำล็อกเก็ตพระรามปราบทศกัณฑ์ส่งมาให้เป็นที่ระลึก
ดีจังหนอ
หน้า 3391 ของ 3979