-
ไม่ว่าจะชาติใดภาษาใดความเชื่อเรื่องผีก็มีไม่แตกต่างกัน แถมรูปลักษณ์ผียังต่างกันออกไปอีก แต่ถ้าจะให้น่ากลัวสุด ๆ ก็ต้องยอมละคะว่าผีไทยเนี่ยน่ากลัวติดอันดับเลยก็ว่าได้
การไล่ผีของพวกฝรั่ง มักจะอาศัยคัมภีร์ไบเบิล ไม้กางเขน และคำสวดมนต์เป็นหลัก หรือบางทีก็อาจมีน้ำมนต์เข้ามาช่วยด้วย ถ้าใครชอบดูหนังแนวลึกลับผี ๆ เช่นเรื่อง
The Exorcist,
Insidious
หรือ The Rite เด็ด ๆ ทั้งนั้นคะเพราะดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูหนังประเภทนี้
สารคดีลึกลับ ไม่รวมกับสารพัดหลอน
ดูด้วยกลัวด้วยแต่ก็ชอบดู
ส่วนใหญ่ดิฉันใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมากกว่าประเทศไทย
อยู่บ้านว่าง ๆ ก็รับนวดให้ญาติ ๆ หรือเพื่อน ๆ ของสามี ไม่ได้ทำเป็นอาชีพอะไรประมาณแก้เหงาพอได้ตังค์ได้เพื่อนคุยอีกต่างหาก
เวลานวดก็จะใช้ห้องรับแขกที่บ้านเป็นห้องกระจกมองเห็นวิวนอกบ้านร่มรื่นมาก
สามีออกแบบและสร้างบ้านหลังนี้เองใช้เวลานานหลายปีกว่าเขาจะสร้างเสร็จทำตามเงินคะไม่ใช่ว่าเพราะสร้างใหญ่โตมโหราฬ
ทีนี้เวลาจัดที่นอนเพื่อเตรียมนวดก็เลือกตรงพรมกลางห้องเพราะสะดวกดี
ดาดฟ้าห้องตรงกลางสามีเจาะเป็นรูปแปดเหลี่ยมแล้วก็ทำหลังคาคลุมเขารักธรรมชาติอยากให้แสงส่องผ่านเข้ามา เวลาไปนอนเล่นห้องนี้รับรองหลับยาวเลย
วันหนึ่งเพื่อนของน้องสาวสามีก็โทรมานัดว่าจะมานวด
เขาโทรมาถามว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรเพราะเขาไม่เคยนวดไทย ก็พูดคุยนัดหมายกันเสร็จ
ถึงวันเวลานัดเขาก็มาตรงเวลาเป๊ะ
ขอบอกเลยนะคะคนต่างชาติเขามีวินัยมากเรื่องการรักษาเวลา คือ เป๊ะ ถ้าไม่ตรงเขาจะรีบโทรมาบอกไม่ใช่ให้เราคอยๆๆๆๆ
ดิฉันก็จัดเตรียมที่นวดไว้คอยแล้วมาถึงก็พูดคุยนิดหน่อยยื่นเสื้อผ้าให้เขาไปเปลี่ยนใส่แบบสบาย ๆ บรรยากาศก็เหมือนเพื่อนๆกันคะคุยไปหัวเราะไป
พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็นอนลงตามที่เราจัดไว้ ดิฉันก็ไหว้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก่อนนวดทุกครั้ง ทีนี้ก็นวดไปคุยกันไป สักหน่อยลูกค้าเงียบไปก็คิดว่าลูกค้าหลับปกตินวดใครไม่นานหลับตาลอด
กำลังนวดฝ่าเท้าอยู่ก็สังเกตไปเรื่อยคะต้องคอยดูว่าเขาเจ็บหรือเปล่าก็เหลือบมองหน้าเขาเป็นครั้ง ๆ ไป คราวนี้สังเกตเห็นเขามีอาการเร็งที่เท้ามากแบบเท้าทั้งสองข้างเล็บจิกเลยก็เลยมองเขาจะบอกให้เขาผ่อนคลายปรากฏว่า ไอ้ที่เคยเห็นในหนังผีฝรั่งที่เคยดูมานะคะชิดซ้าย
ลูกค้าดิฉันตาดำหายหมดเหลือแต่ตาขาว ยิ่งกว่าตาเหลือกอีกคะ
ฝ่ามือสองข้างก็เกร็งแบบเล็บจิกทั้งสองข้าง
ดิฉันก็ตกใจคะเขาไม่มีสติแล้วหน้าตาเริ่มบิดเบี้ยวแล้วจะคิดว่าเส้นเลือดแตกหรือตีบคงไม่ใช่ละมั้ง
รีบไปเรียกสามีมาช่วยว่าเธอมาดูหน่อยสิไม่รู้เขาเป็นอะไร
สามีก็มัวแต่ชักช้าดิฉันก็วิ่งไปก่อนดันให้ผู้หญิงนั่งตัวเองก็เริ่มสวดมนต์ช่วย คือไม่รู้จะเริ่มยังงัยคะเคยสวดมนต์แบบไหนก็สวดตามนั้น พอสวดถึงบทคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
ปรากฏว่าผู้หญิงคนนั้นเสียงแบบคำรามออกมาเป็นเสียงใหญ่ ๆ มากแบบในหนังผีฝรั่งนะคะเวลาเขาไล่ผีกันคือไม่รู้จะบรรยายยังงัยดี
ก็สวดไปเรื่อยคะทีนี้ไปถึงชินบัญชร ท่านผู้อ่านคะ คราวนี้อ้วกคะ แบบเสียงก็ยังคำรามอยู่ทำท่าจะอ้วก สามีดิฉันก็มาแล้วนะคะแต่นุ่นไปดูไกล ๆ ดิฉันก็หันไปเอ้าคุณมาช่วยฉันสิ
แกก็ตะโกนมาไกล ๆ โอ้ยทำไม่เป็น ดิฉันก็......ฝรั่งบ้า.....งั้นเอากาละมาเดี๋ยวนี้เขาจะอ้วก
สามีก็วิ่งๆๆ เอากาละมังเอามายื่นให้เสร็จก็วิ่งออกจากห้องไปตั้งหลักสะไกลเลย
แถมอุ้มแมวไว้ด้วยคะ
คือ
แบบห่วงแมวมากกว่าเมีย
ดิฉันก็สวดกลับไปกลับ ๆ มา นึกได้ว่าตัวเองมีมีดหมอเล็กๆมาจากเมืองไทยอันนึง ทีนี้ก็เอามาจิ้มที่กลางหัว เท่านั้นแหละอ้วกออกมาเลยคะไม่ใช่อาหารนะคะเป็นเหมือนน้ำลายออกมาเป็นเมือกเฉย ๆ แต่เสียงอ้วกนะดังมาก แบบคำรามด้วย บางทีเสียงก็เปลี่ยนเป็นผู้หญิงกรีดร้อง
บางครั้งก็พูดภาษาอะไรฟังก็ไม่รู้เรื่องตะบี้ตะบันสวดอย่างเดียว
พอเห็นว่าผู้หญิงเริ่มเหนื่อยก็สวดแบบช้าลง สามีเห็นแต่ไกล ๆ เขาคงนึกได้วิ่งไปหยิบสร้อยพระมาให้ดิฉันก็ขอพรพระเครื่องให้ช่วยปกป้องผู้หญิงคนนี้เธอก็มีอาการสงบลง แต่ยังคงเกร็งอยู่ดิฉันก็เลยสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้ากับคาถาชินบัญชร แล้วตบเข้าไปที่หลังแรง ๆ 3 ครั้ง คราวนี้สำรอกออกมาแบบหลุดเหมือนก้อนอะไรหลุดออกมา จากนั้นก็ประคองให้เธอนอนลง สักพักลูกกะตาดำก็กลับมาเลยถามว่า คุณเป็นยังงัยบ้าง เธอก็มองงง ๆ แล้วถามว่าตัวเองทำอะไรผิดหรือเปล่า หรือมีอะไรเกิดขึ้น สรุปคือ เธอจำอะไรไม่ได้เลย
สามีดิฉันหลังจากมองอยู่ไกล ๆ ก็เริ่มขยับมาใกล้นิดนึงแมวก็ยังอยู่
เราสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรให้เธอกลัวหรือกังวลบอกแค่ว่าให้สวดมนต์หรือไปเข้าโบสถ์บ้างนะจะได้มีความสบายใจร่างกายจะได้ผ่อนคลายไม่เครียด ไม่เกร็ง
เธอก็กลับไปแบบงง
ดิฉันและสามีก็แบบเดียวกันคะ คือ งง
พอเขากลับพ่อสามีตัวดีบอกว่าเออลืมนะตอนที่ช่วยผู้หญิงอยู่เขามีคัมภีร์ไบเบิลกับไม่กางเขนอยู่น่าจะเอามาช่วย ดิฉันก็เหลือบตามองสามีแบบหางตานะคะ
แหม
คงจะช่วยอยู่หรอกวิ่งไปอุ้มแมวแล้วไป อยู่นุ้นคนละห้องเลย
สามีขี้สงสัยเลยโทรไปถามน้องสาวเขาว่าเพื่อนคนที่มานวดคนนี้มาอาการประมาณนี้ พอจะรู้ไหมว่าทำไม น้องสาวเขาคิดได้ว่า แฟนเก่าของเพื่อนที่มานวดชอบเล่นไสยศาสตร์วูดู ทีนี้อยู่บ้านเดียวกันสงสัยจะมีเหมือนบ้านเรานะคะลมเพลมพัด
เพราะเขาเลิกกันไปแล้วแต่ไอ้ที่มันตกหล่นนี่คงไม่ได้เอาไปด้วย.....สามีก็เลยแนะนำไปว่าอย่าลืมบอกเพื่อนนะให้สวดมนต์บ่อย ๆ ให้พระเจ้าคุ้มครอง...ตามหลักความเชื่อเขาคะแต่ละศาสนาที่เหมือนกันคือ เป็นที่ยึดเหนี่ยวหากเรามีศรัทธา
อ่านกันสนุก ๆ นะคะ แต่ไอ้ตอนเกิดเรื่องนี่เหงื่อแตกเลยคะ
บทสวดคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า กับคาถาชินบัญชรนั้นไม่ใช่แค่จะไว้ไล่ผีหรือปกปักรักษาตัวเรานะคะอยู่ที่การท่องด้วยคะ เช่นว่า จะไล่ผีหรือเสนียดจัญไรให้ท่องเร็ว ๆ คะแบบชัดถ้อยชัดคำเอาแบบรัว ๆ เลย
ถ้าจะสวดเพื่อเป็นมงคลชีวิตและแผ่บุญกุศลให้ดวงจิตต่าง ๆ ให้ท่องแบบช้า ๆ คะ
พระพุทธคุณนั้นแตกต่างกันตามกำลังของจิตท่านคะ ถ้าไปสวดเร็ว ๆ เร่ง ๆ สองคาถานี้วิญญาณกระเจิงกันหมดพอดี
จะให้บุญเขาท่องช้า ๆ แบบร่มเย็นจะได้สาธุ ๆ ด้วยกันคะ
ดิฉันเคยอ่านเจอบางครั้งก็ถกกันว่าคำบริกรรม หรือบทสวดต่าง ๆ เป็นไปเพื่อทำให้จิตเราสงบ จะท่องไม่ท่องก็ได้ จากประสบการณ์ตัวเองที่ผ่านมา สำหรับตัวดิฉันแล้ว ทุกอักขระในบทสวดมีความหมายและพระพุทธคุณทุกตัวคะ อยู่ที่เรามีจิตศรัทธาเพียงใด เช่น ผู้ใดระลึกคำว่า พุทโธ ถือเป็นนามพระศาสดาตถาคต จะมีแสงบุญออกเสมอคะดวงจิตดวงวิญญาณไหนอยู่ใกล้ก็จะร่มเย็นด้วยพุทธบารมี
แต่จะระบุเจาะจงเลยไม่ได้ว่าจะมีพุทธคุณอย่างไร เพราะอย่างที่ดิฉันบอกคะ คืออยู่ที่จิตเราว่า มีศรัทธาเพียงใด
ก่อนจากกัน
มีผีอย่างหนึ่งนะคะที่ไล่ยากแสนยากคะ
มึนมาก คือ ผีที่อยู่ในร่างคนเป็น ๆ นี่ต้องไล่เองนะคะใครช่วยคงไม่ได้
เช่น
ผีพนัน
ผีขี้เกียจ
ผีขี้เมา
ผีขี้ยา ฯลฯ สารพัดคะอันนี้ลำบากกับคนรอบข้างนะคะพวกผีเหล่านี้สร้างปัญหากว่าผีจริง ๆ ซะอีก.......
ไล่ผี - อ.วันทนี ดูไพ่ยิปซีบรรเทาทุกข์ : Inspired by LnwShop.com
-
- ขนาดไฟล์:
- 259.3 KB
- เปิดดู:
- 343
-
- ขนาดไฟล์:
- 315.3 KB
- เปิดดู:
- 490