ในห้วงจักรวาลที่มืดสนิท ปรากฏดาวฤกของความคิดผุดขึ้นแล้วดับลง แสงของดาวฤกอันนั้นบ่งบอกถึงเจตจำนงที่เจือปนไปตามภาวะ เกิดขึ้นมาแล้ว ภายในมีภาพของความคิดปรากฏ เพียงครู่ที่มองเห็นก็พลันดับลงที่ตรงนั้น
น่าเสียดายที่ผู้เฝ้ามองยังคงมองเห็นไม่ไกล ดวงดาวแห่งความคิดที่เกิดขึ้นย่อมมีบางอย่างซุกซ่อนภายใน อะไรกันที่ซ่อนอยู่ ทว่าตอนนี้ไม่รู้ สักวันจักต้องรู้ได้แน่ หากยังฝึกฝนอยู่
สักพักเวทนาเกิดขึ้นเป็นกระแสที่บอกถึงความร้อน ดุจดวงอาทิตย์ที่แผดเผา ครั้งนี้มองเห็น กระแสร้อนที่เกิดดับผลักดันกันไปมา เหมือนกำลังเผาผลาญพลังงานบางอย่าง
เรื่องโม้ๆ ของผู้โง่เขลา
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ธรรม-กาล, 3 พฤศจิกายน 2018.
หน้า 1 ของ 3
-
กระแสความร้อนและแสงสีที่ปรากฏยังลุกไหม้ ครั้งนี้เราแค่มองไม่ต้องไปแทรกอยู่ให้ทุรนทุราย กลับเห็นบางอย่างที่เกี่ยวเนื่องอยู่ ก่อนจะค่อยๆมอดดับเหมือนขาดเชื้อเพลิง มันมอดดับลงตรงนั้นแล้วเวทนาก็หายไปพร้อมๆกัน มองมองดาวดาวเล็กที่ไม่ชัดกระจัดกระจายในห้วงจักรวาล ไม่ทราบว่ามีมากเพียงใด แต่เหมือนมีเสียงกระซิบ บอกว่า มีเพียงผู้รู้ที่ยิ่งใหญ่ถึงมองชัดเจนและรู้ได้ เรายังคงโง่เขลาสินะ งั้นช่างมัน เรารอดูมันไปก่อน
-
มองดูไม่นานมีเสียงบางอย่างดังขึ้นพร้อมการกระเพื่อมในบรรยากาศ เสียงอันนี้คือเสียงความคิดที่เหมือนจะชัดเจนแต่ไม่ชัดเจน พอรับรู้การกระเพื่อมก็ค่อยๆหายไปคล้ายหมดพลังงาน การเกิดขึ้นของสิ่งที่มองเห็น คืออะไรกันนะ ไม่มีอะไรบอกได้ แต่มีกระแสของความสุขและเย็นปรากฏ
-
มีเสียงกระซิบคอยอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ไม่ขาดสาย เสียงกระซิบหรือเราบอกตัวเอง หรือใครบอกไม่อาจรู้ได้ หากมันยังคงบอกไปเรื่อย ฟังไปเรื่อยๆและมองตามคำแนะนำ อา...เหมือนครบกำหนดแล้ว ได้เวลาออกจากการฝึกแล้วสินะ เอาน่าแล้วค่อยมาดูใหม่ ว่าจักรวาลอันนี้จะยังปรากฏอยู่อีกหรือไม่ แล้วจะได้รู้ว่าสักวันคำถามทั้งมวล จะปรากฏคำตอบแก่เรา
-
:cool::cool::cool::cool::cool::cool:
-
โม้บ้างครับ
-
เชิญครับ กระทู้นี้โม้ๆ ใครอยากพูดอยากโม้ก็เชิญครับ ยินดีมาอ่านเสมอ ฮาๆ
-
:oops::oops::oops::oops::oops:
ตัวเองรู้ทัน เค้าอายนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ เมียตามมาอ่าน เดี๋ยวโดนให้แบนครับ
:confused:น่ากลัวกว่าแอดมินอีก -
ปล่อยผมโม้คนเดียวก็ได้ครับ นานๆที มีอะไรโม้
-
ขอตามอ่านด้วยคนนะคะ :D
-
SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"
ตามอ่านล่ะกัน จะยาวมั้ยหนิ
-
ไม่รู้ครับ ถ้าเจออะไรดีๆจะเอามาเล่า ถือว่าเป็นสภาวะธรรมที่ผมเจอ อ่านพอสนุกครับ อย่ายึดอย่าถือ อย่าต่อว่า กันก็พอครับ
-
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=72889&page_no=1
แวะมาอ่านที่ผมโม้บ้างนะ ยาวนิดนึง <555> -
ความฝัน…เป็นความสุขที่ประหยัดที่สุด
ความสุขจากการมีสิ่งต่าง ๆ ยังต้องแลกเปลี่ยนด้วยเงินตรา แต่ความสุขที่เกิดจากความฝัน ไม่ต้องซื้อหา ก็เกิดขึ้นได้
ความฝัน เป็นเสมือนเข็มทิศของผู้หลงทาง ที่มีความหวังว่า จะต้องมีผู้มานำทางให้ออกจากป่าได้
ความฝัน เป็นความหวังของผู้ที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์… อาจมีใครสักคนที่มาช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ฝันยามหลับ…แม้จะให้ความสุข แต่ไม่อาจเป็นจริงขึ้นได้เมื่อยามตื่น
แต่ฝันยามตื่น..อาจทำให้เกิดความจริงมาได้ ถ้าคนฝันนั้นมาเริ่มต้นสานฝัน และทอฝันนั้นให้เป็นจริง
ฝนที่ตกลงมาท่ามกลางความร้อนระอุของเปลวแดดย่อมนำความชุ่มฉ่ำมาให้ ฉันใด …ความฝัน ย่อมนำความสุขมาให้กับผู้ที่ทอฝันให้เป็นจริงได้ ฉันนั้น
ความฝันก่อความสุขให้อย่างแท้จริง -
อยากมีกะมู้และมี FC มั่งฮับ
-
ในวันที่ได้ไปปฏิบัติธรรม
อาจมีหลายคนบอกว่าตัวเองนั่งแล้วมองไม่เห็นอะไรเลย ภาพอะไรก็ไม่เห็น บางทีผมว่าการไม่เห็นอะไรเลยนี่เป็นเรื่องดีนะครับ ขอแค่มองเห็นลมหายใจเราชัดเจน มองเห็นตอนที่ลมเริ่มกระทบตรงที่กำหนด ดูตอนที่ลมกำลังสัมผัสอยู่ และมองให้เห็นชัดตอนที่ลมหายใจสิ้นสุดก่อนจะเปลี่ยนเป็นลมหายใจออกและลักษณะเดียวกันกับลมเข้า แค่แบบนี้ ผมอยากเห็นสิ่งนี้ที่ชัดเจน มีสติรับรู้ มีสัมปชัญญะบอกได้ว่าตอนนี้เราหายใจยาวหรือสั้นกว่าก่อนหน้านี้ และระลึกรู้ได้ทั้งวัน แบบนี้ของการฝึกอานาปานผมอยากบิกว่ามาถูกทางตามที่พระพุทธองค์สอนแล้ว
เรื่องนิมิต เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเอง ขอโม้ๆหน่อย นิมิตของอานาปาน ในแบบที่ผมอ่านและตรงตามที่อ่าน จนคาดเดาแบบวิทยาศาสตร์ได้ หากใครอ่านบทความที่ผมเล่าอยู่อยากให้ลองเอามาทดสอบและพิจารณาดูครับว่าจริงหรือไม่ สัจจะธรรมของการฝึกอานาปานจนเกิดนิมิต และเอาไปใช้งานได้นั้น คืออะไร ถ้าใครอ่านวิสุทธิมรรคจะเข้าใจเอง
ท่านกล่าวว่า ก่อนนั่งให้ทดสอบลมหายใจเข้าออกแรงๆสามครั้ง พุทโธ ธัมโม สังโฆ โดยสามครั้งเราต้องเห็นจุดสัมผัสลมที่ชัดเจนหนึ่งจุดและเราชอบใจ ตรงปลายจมูกก็ได้ หรืออื่นๆก็ได้ เดี๋ยวมาต่อ -
ผมขอเอาจุดที่ผมชอบเป็นตัวอย่างละกัน จุดที่ผมชอบคือผิวสัมผัสรอบของรูจมูก แรกเริ่มก็จะชัดบ้างไม่ชัดบ้างตามสติที่เราติดตาม สิ่งที่ต้องทำคือ เราควรฝึกทุกช่วงเวลาที่ว่าง หรืกระทั่งตอนที่เราทำงานแบบไม่ได้ใช้ความคิดก็ทำได้ มองดูความชัดเจนของลมหายใจ และจุดเกิดของการสัมผัสรวมถึงจุดดับของลมสัมผัส ถ้าเห็นชัดเจน ผมขออนุโมทนาบุญด้วย คุณเห็นการเกิดดับแล้ว เอาให้จิตเห็นชัดนะ มองเฉยๆไม่ต้องคิดอะไร มองเรื่อยๆ แล้วจิตจะเริ่มสร้างรูปจากสัญญา
ในวิสุทธิมรรค จะบรรยายว่า บางคนจะมองเห็นนิมิตเป็นดวงอาทิตย์ บางคนเห็นดวงจันทร์ บางคนก็เห็นแสงกลมๆ เพราะอะไร เพราะจิตเราสร้างรูปจากความจำ
ทีนี่บางคนอาจเห็นแสงเล็กๆ เพราะจุดสัมผัสเป็นจุดเล็กๆ บางคนเห็นเป็นเม็ดข้าว ก็เพราะจุดสัมผัสเป็นจุดเล็กๆเช่นกัน เอามาเทียบใหอ่านกัน
การจะเห็นแบบนี้มันจะแบบจากๆแวบๆ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ มันจะเห็นเอง แต่ถ้าไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ขอให้เห็นจุดเกิดดับได้จนชินนี่ก็มากมายแล้ว
ทีนี้ขั้นต่อไปคืออะไร ถ้าเห็นนิมิตที่กล่าว จะแจ่มใสหรือไม่ก็ตามที ท่านบอกไม่ต้องไปสนใจรูปทรง ให้สนใจที่สี เวลาฝึกก็เห็นสีที่เราเห็นในนิมิตตรงจุดที่เราฝึกสตินี่แหละ เรื่อยๆ -
ถ้ามาวิเคราะห์ นิมิตนี่ไม่ใช่เกิดจากปาฏิหาริ์อะไรเลยนะครับ เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นจากความจำของจิต จิตไม่มีรูป แต่พยายามสร้สงรูปสมมุติให้เราเข้าใจ เหมือนตัวอักษรในหนังสือนั่นแหละ สร้างออกมาให้เราอ่านให้เข้าใจ พอเข้าใจแล้ว เราก็วางเองไม่มีใครถือหนังสือตลอดเวลาหรอกเนอะ
นี่คือทฤษฏีครับ ไม่ต้องเชื่อผมนะ ใครอ่านก็อย่าเชื่อ ฮา ถ้าเชื่อแสดงว่างมงาย เอาไปทำเลย แล้วทดสอบ ว่าจริงไหม จุดเกิดดับมันอยู่ที่ลมหายใจไหม ถ้ามันเกิดที่นั้นแล้วไปดับที่อื่น ผมก็บอกว่า ผมไม่รู้ ไม่รู้ว่าคุณมีสติแน่หรือเปล่า
พระพุทธเจ้า สอนเรkให้มองเห็นสัจจะ สัจจะคือสิ่งที่ใครเถียงไม่ได้เลย แล้วให้เราเข้าใจจากจิตจริงๆ ไม่ใช่แค่ความจำได้ว่าเป็นแบบนั้นๆ ลองถามตัวเองดูสิ ว่าเราเข้าใจสัจจะที่ท่านสอนมาแบบไหนกัน ธรรมรักษาครับ -
นอนต่างสถานที่ นอนไม่ค่อยหลับ เลย ภาวนาว่า เทวานังปิยะตัง สุตตะวา ภาวนาไปเรื่อยจนหลับ
ฝันไปว่า ไปโรงเรียนสมัยยังเยาว์วัย รร.เลิกเรียน เลยเดินข้ามถนนมารอรับตุ้กๆเพื่อกลับบ้าน -
พอรถตุ้กๆมา ปรากฏว่า มีป้อหญิง ห้าคนใส่ชุดสีเขียวมาขึ้นรถด้วย รวมตนเอง และคนขับเป็นเจ็ดคน
พอรถตุ้กๆออกจากหน้า รร.กลับพาไปอ้อมอีกทาง เลยถามคนขับว่า ทำไมไปคนละทาง คนขับบอกว่า ไปส่งป้อหญิงก่อน
พอไปถึงที่พักของป้อหญิง เป็นลักษณะห้องแถวเล็กๆ ยาวแค่สองเมตร กว้างสักเมตรเดียว
ดูแค่ๆใช้นอนพอได้
ป้อหญิงทั้งห้าก็ลงจากรถตุ้กๆไป
หน้า 1 ของ 3